ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ลูบคมกามเทพ

    ลำดับตอนที่ #4 : ผู้ต้องใจ VS. ผู้ต้องสงสัย 1

    • อัปเดตล่าสุด 30 ก.ค. 67


    แดเนียลเดินทางมาถึงกรุงเทพฯ ตอนเกือบเที่ยงคืนตามเวลาที่กำหนดของวันที่ 27 เดือนมิถุนายน ฝนที่กำลังเทลงมาราวกับฟ้ารั่วทำให้ชายหนุ่มตัดสินใจสั่งคนขับรถแท็กซี่ให้พาไปส่งคอนโดซึ่งเป็นสมบัติที่บิดามารดามอบให้เป็นของขวัญวันเกิดเมื่อหลายปีก่อน ทุกอย่างในคอนโดแบบสองห้องนอนแห่งนั้นยังอยู่ในสภาพเดิมเพราะเขาจ้างแม่บ้านเข้ามาทำความสะอาดทุกอาทิตย์

    กระเป๋าเดินทางซึ่งเป็นเป้แบ็กแพ็คเพียงใบเดียวถูกโยนลงข้างเตียง ตามด้วยรองเท้า กางเกงยีนกับเสื้อยืดสีเทา ก่อนที่ร่างหนาจะคลานขึ้นเตียงด้วยความเหนื่อยอ่อน วันนี้เขาขอนอนเอาแรงให้ความอ่อนเปลี้ยที่สะสมมาหลายวันหายไปก่อนที่จะตะลุยงานใหญ่ซึ่งรออยู่

    ชายหนุ่มหลับเป็นตายจนกระทั่งโทรศัพท์ที่พกมาเมืองไทยสำหรับการติดต่อเรื่องงานดังขึ้นตอนเก้าโมงเช้า

    “แดเนียลพูดครับ” ริมฝีปากหนากรอกสุ้มเสียงเป็นการเป็นงานลงไป

                “สวัสดีครับคุณแดเนียล ผมร้อยตำรวจโทปรัชวินทร์ ศิวะเรืองโรจน์ เป็นคนที่ทางเมืองไทยมอบหมายให้ประสานงานกับคุณครับ” คนโทร.หาแนะนำตัวแบบเต็มยศทำเอาแดเนียลลอบยิ้ม

                “จะให้ผมเรียกคุณว่าร้อยตำรวจโทปรัชวินทร์ หรือคุณมีชื่อเล่นที่เรียกง่ายกว่านั้นครับ” เขาถามเสียงกลั้วหัวเราะ

                “เอ่อ เรียกผมว่าวินทร์ก็ได้ครับ” คนถูกล้อยิ้มแหย

                “โอเคครับคุณวินทร์ งั้นคุณเรียกผมว่าแดนก็แล้วกัน” แดเนียลสาวเท้าออกไปเปิดประตูเลื่อนที่พาออกไปสู่ระเบียง “ไม่ทราบว่าคุณวินทร์พอจะมีข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับบริษัทคิวปิดฮัทให้ผมไหมครับ เพราะข้อมูลที่ได้มาจากพอลมันยังไม่ละเอียดพอ”

                “คุณแดนสะดวกออกมาพบผมช่วงเที่ยงหรือเปล่าล่ะครับ” ปรัชวินทร์ถามกลับ

                “ตอนเที่ยงของวันนี้ ไม่มีปัญหาครับ เอาเป็นร้านอาหารแถวๆ คิวปิดฮัทได้ไหมครับ เพราะผมกะจะไปเดินสังเกตอะไรแถวนั้นสักหน่อย ถ้าเจอร้านไหนที่น่าจะใช้เป็นจุดนัดพบ ผมจะโทร.บอกคุณวินทร์ละกัน”แดเนียลหมุนตัวกลับเข้าด้านในและตรงไปเปิดเป้เพื่อหยิบของใช้ส่วนตัว

                “งั้นก็เอาตามที่คุณแดนบอกเลยครับ ผมขอตัวทำงานต่อแล้วนะครับ” นายตำรวจหนุ่มกล่าวเท่านั้นก็วางสาย ในขณะที่อีกฝ่ายจัดการอาบน้ำแต่งตัวอย่างลวกๆ แล้วคว้าเป้ใบเล็กออกจากห้องพัก มุ่งหน้าไปขึ้นรถไฟฟ้าที่ต่อไปยังสถานีศาลาแดงอันเป็นย่านที่บริษัทคิวปิดฮัทตั้งอยู่

                หลังจากลงรถไฟฟ้าและใช้เวลาเดินประมาณห้านาที แดเนียลก็มาหยุดยืนอยู่หน้าตึกสูงซึ่งด้านหน้ามีป้ายบอกว่ามีบริษัทอะไรบ้างอยู่ในนั้น

    ชายหนุ่มยังไม่คิดจะเหยียบย่างเข้าไปในเวลานี้ เขาเดินเข้าไปในร้านกาแฟที่อยู่ถัดจากตึกนั้น แล้วสั่งกาแฟร้อนหนึ่งแก้วมาจิบแก้ง่วงตามปกติวิสัย ระหว่างนั้นก็หยิบแม็กบุ๊กแอร์หน้าจอสิบเอ็ดนิ้วออกจากเป้ ใช้เวลาไม่ถึงสองนาทีก็เปิดเข้าสู่หน้าหลักของเว็บไซต์คิวปิดฮัทซึ่งได้เข้าไปสร้างโปรไฟล์และสมัครสมาชิกไว้เกือบหนึ่งอาทิตย์แล้ว

                ข้อความใหม่กว่าห้าสิบข้อความในกล่องข้อความลับทำเอาเขากลอกตาระอา เพราะที่ผ่านมามีแต่ข้อความจากสาวๆ ที่ส่งมาเพื่อหวังเจริญสัมพันธไมตรี

                “จดหมายเชิญไปร่วมงานปาร์ตี้ล่องเรือ?” นัยน์ตาสีน้ำตาลอมทองไหววาบเมื่อเห็นหัวข้อของข้อความซึ่งถูกส่งมาจากฝ่ายประชาสัมพันธ์ของบริษัทจัดหาคู่ พอคลิกเข้าไปดูก็พบกับข้อความเชิญชวนเป็นภาษาอังกฤษที่เขาจับใจความได้ว่า

     

                กามเทพเคทขอเรียนเชิญคุณ

     

             เข้าร่วมปาร์ตี้ “Let’s Meet, Eat & Dance” สุขสำราญไปกับการล่องเรือดินเนอร์แสนโรแมนติกกับสาวสวย 25 รายที่เราคัดสรรมาเพื่อให้คุณได้ทำความรู้จักโดยเฉพาะ งานนี้รับสมาชิกจำนวนจำกัดเท่านั้นนะคะ         

             สนใจคลิกตอบข้อความนี้หรือโทรเข้าติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมกับเราโดยตรงได้ที่ 02-238-xxxx ต่อ 101-2 

             หวังว่าเราจะได้มีโอกาสพบกันสักครั้งนะคะ…

             กามเทพเคท

    (หน้าทื่ของคุณคือเชื่อมั่นในตัวฉัน หน้าที่ของฉันคือทำให้ฝันของคุณเป็นจริง รักแท้อยู่ใกล้แค่เอื้อมมือ)

     

                “Your job is to trust in me. My job is to fulfill your dream. True love is within your reach”ริมฝีปากได้รูปของแดเนียลอ่านประโยคที่กำกับอยู่ใต้ชื่อของกามเทพสาว ราวกับเจ้าหล่อนประกาศว่านั่นคือสโลแกนในการปฏิบัติงาน 

    “รักแท้เป็นแค่เรื่องลวงโลกเท่านั้นแหละเคท” ประสบการณ์เจ็บปวดที่เจอมากับตัว ทำให้แดเนียลพึมพำด้วยประกายตาว่างเปล่า ก่อนจะล้วงโทรศัพท์มากดหมายเลขดังกล่าว

                “คิวปิดฮัทสวัสดีค่ะ กามเทพเกดกำลังรับสายค่ะ” การะเกดกรอกเสียงหวานลงไปทันทีที่คว้าโทรศัพท์มารับ นั่นทำให้เขารู้ว่าหล่อนชื่อเล่นว่า ‘เกด’ ไม่ใช่ ‘เคท’

                “สวัสดีครับ คุณเคทเป็นเจ้าของข้อความที่ส่งมาเชิญไปร่วมงานปาร์ตี้กับคิวปิดฮัทใช่ไหมครับ” แดเนียลกรอกเสียงทุ้มตามแบบฉบับลงไปเป็นภาษาอังกฤษ แต่เลือกที่จะเรียกเธอว่าเคทเพราะมันตรงกับชื่อของใครบางคนที่เคยรู้จัก

                “อ๋อใช่ค่ะ” เจ้าแม่อีเว้นต์คนสวยเออออพลางลุกขึ้นไปคว้าแฟ้มจากโต๊ะของผู้ช่วยสาวมากางดูว่าจำนวนของลูกค้าชายที่คอนเฟิร์มมานั้นครบหรือยัง

                “ผมชื่อแดเนียลครับ พอดีผมเพิ่งเห็นข้อความและก็สนใจจะไปร่วมงาน เลยโทรมาสอบถามเพิ่มเติมว่าต้องทำยังไงบ้าง” คราวนี้เขาอธิบายเพิ่มเติมเป็นภาษาไทยในสำเนียงแปร่งหู ทว่าก็ถูกต้องตามหลักไวยกรณ์จนคนปลายสายนึกชื่นชมในความสามารถ

                “เกดขอเล่ารายละเอียดของงานปาร์ตี้คร่าวๆ ให้ฟังก็แล้วกันนะคะคุณแดเนียล ปกติปาร์ตี้ของเราจะมีคนร่วมงานทั้งหมด 50 ท่าน ท่านสุภาพบุรุษ 25 ท่านและท่านสุภาพสตรี 25 ท่านค่ะ ตามกฎเราจะคิดค่าร่วมงานปาร์ตี้จากท่านสุภาพบุรุษท่านละสองพันบาท หรือประมาณ 65 ยูเอสดอลลาร์ค่ะเพื่อดูแลในส่วนของอาหารกับเครื่องดื่มค่ะ”

                “โอ้โห แพงขนาดนั้นเชียวเหรอครับ” เขาแกล้งอุทานเหมือนตกใจ ทว่ากลับได้ยินเสียงหัวเราะรื่นรมย์ในลำคอของคู่สนทนา

                “ถ้าจะมองว่าแพงมันก็แพงค่ะ แต่คุณแดเนียลลองคิดดูนะคะว่าเวลาออกเดตกับสาวแต่ละครั้ง คุณก็ต้องเป็นฝ่ายควักเหมือนกัน แล้วก็คงจะมากพอๆ กับงานปาร์ตี้ของเรา หรืออาจจะมากกว่าด้วยซ้ำ มันต่างกันตรงที่ว่างานนี้เราเป็นคนดูแลทุกอย่างให้คุณเสร็จสรรพ ทั้งอาหาร เครื่องดื่ม การล่องเรือและก็เอ็นเตอร์เทนคุณกับสาวๆ ที่มาร่วมงานค่ะ แถมยังดีกว่าการเดตทั่วไปตรงที่หากคุณไม่ถูกใจคนแรกที่ได้พูดคุยด้วย คุณสามารถเข้าไปคุยกับคนใหม่ได้โดยไม่ต้องกลัวว่าฝ่ายหญิงจะสาดไวน์ใส่หน้า แต่เกดรับประกันเลยค่ะว่าถ้าคุณได้ไปร่วมปาร์ตี้สักครั้ง คุณจะต้องบอกเกดตอนงานเลิกว่ามันไม่ได้แพงอย่างที่คุณคิดตอนแรกเลย” ปากตอบเขาฉะฉานแต่สายตายังไล่นับจำนวนหนุ่มๆ ที่ผู้ช่วยคัดสรรไว้ให้

    “คุณเคทเป็นคนดูแลงานปาร์ตี้นี้ตลอดเลยเหรอครับ” คนอยากได้ข้อมูลหลอกถามต่อ

                “ถ้าเป็นปาร์ตี้ดินเนอร์ล่องเรือเสาร์เว้นเสาร์ก็ใช่ค่ะ แต่ก็มีเพื่อนๆ อีกเจ็ดคนคอยช่วยดูแลความเรียบร้อย” การะเกดตอบเสร็จก็แสร้งหายใจพรืดใส่โทรศัพท์ “ความจริงปาร์ตี้มะรืนนี้มีลูกค้าบุ๊กเต็มหมดแล้วนะคะคุณแดเนียล ไม่ทราบว่าถ้าเป็นปาร์ตี้อีกสองอาทิตย์คุณสะดวกไหมคะ” หญิงสาวตอบกลับเสียงหวาน

                “ว้า เต็มจริงๆ เหรอครับ”      ชายหนุ่มถอนหายใจยาวให้อีกฝ่ายรู้ว่าเขากำลังผิดหวัง

                “ค่ะ เกดเพิ่งเช็กจำนวน มันเต็มแล้วจริงๆ ลูกค้าคนสุดท้ายเพิ่งคอนเฟิร์มเข้ามาเมื่อกี้นี้เอง”คิวปิดสาวทำทีเป็นตอบตามซื่อ ความจริงยังเหลือที่ว่างอีกถึงสองที่ซึ่งเธอคิดว่าอีกไม่ช้าจะต้องมีคนโทร.หรือส่งข้อความมาคอนเฟิร์ม

                “เพิ่มผมเข้าไปอีกสักคนไม่ได้เหรอครับ ช่วงนี้ผมบินมาเรื่องงานที่เมืองไทยและบังเอิญเห็นข้อความที่ส่งมาเชิญ ไม่รู้ว่าอีกสองอาทิตย์จะยังอยู่เมืองไทยไหมน่ะสิครับ” น้ำเสียงของแดเนียลฟังดูน่าสงสารเพราะอยากให้คนฟังปักใจคิดว่าเขาอยากไปร่วมอีเว้นต์ที่เธอจัดขึ้นใจแทบขาด

                “เอ่อ งั้นเกดขอเช็กกับผู้ช่วยก่อนนะคะว่าพอจะเพิ่มอีกสักที่ได้ไหม คุณแดเนียลสะดวกให้เกดติดต่อกลับไปบอกทางอีเมลหรือทางไหนดีคะ” ความที่ไม่อยากปฏิเสธความต้องการของลูกค้าไปแบบฉับๆ แต่ก็อยากดูรูปพรรณสัณฐานของเขาก่อนตกปากรับคำ หญิงสาวจึงตอบแบบแบ่งรับแบ่งสู้

                “งั้นเราแลกเบอร์มือถือกันได้ไหมครับ” ตำรวจหนุ่มรุกต่อ

                “เอ่อ เกดรบกวนขอแค่เบอร์ของคุณแดเนียลดีกว่าค่ะ ได้ความว่ายังไงแล้วจะโทร.ไปแจ้งให้ทราบค่ะ หรือถ้าหากคุณแดเนียลสะดวกโทร.เข้ามาเช็กช่วงประมาณบ่ายวันนี้ หรือพรุ่งนี้ก็ได้เช่นกันค่ะ”การะเกดบ่ายเบี่ยงอย่างสุภาพ เพราะไม่อยากให้เบอร์ส่วนตัวกับใครง่ายๆ

                “คุณกำลังกลัวที่จะแลกเบอร์กับผม?” แดเนียลถามกลั้วหัวเราะ อายุที่ขึ้นต้นด้วยเลขสามมาสองปีทำให้เขาไม่โง่จนตีความการกระทำของหล่อนไม่ออก

                “เปล่าค่ะ เกดไม่ได้กลัวคุณเลย เพียงแต่เกดไม่สะดวกจะให้เบอร์ส่วนตัวกับใครเท่านั้น”

                “ที่ผมขอเบอร์ของคุณ ไม่ใช่เพราะคิดจะโทรไปจีบหรืออะไรหรอกนะครับเคท แต่ขอเผื่อในกรณีที่คุณรู้คำตอบตอนนอกเวลาทำการและอยากโทร.แจ้งผมเท่านั้น แต่ถ้าคุณไม่อยากให้ ผมก็ไม่คิดจะดึงดันแล้วล่ะครับ”

                “ขอบคุณที่เข้าใจเกดค่ะ เอ่อ…ไม่ทราบว่าคุณแดเนียลใช้ยูเซอร์เนมอะไรในเว็บของเราคะ เกดจะได้ส่งรายละเอียดของงานปาร์ตี้ไปให้คุณอ่าน” หญิงสาวถามพลางเปิดหน้าเว็บและคลิกไปที่กล่องค้นหา เหตุผลก็คือเพราะเธออยากเห็นหน้าตาเขาก่อนตัดสินใจ ถ้าหากหน้าตาไม่ผ่านเกณฑ์ ก็ไม่มีวันเสียล่ะที่จะคอนเฟิร์มให้ไปร่วมงาน 

                “I AM THE ONE” แดเนียลตอบอย่างมั่นใจ โดยไม่มีโอกาสรู้ว่าคนปลายสายลอบแบะปาก ทำหน้าเบ้ใส่หูโทรศัพท์ ทว่าวินาทีที่กดปุ่มเอนเทอร์หลังจากพิมพ์ชื่อยูเซอร์เนมนั้นลงไป หัวใจของกามเทพสาวก็แทบจะหยุดเต้น

                 พระเจ้าช่วย ! He’s the ONE! เขาคือคนที่ใช่จริงๆ ด้วย

                 ผู้ชายที่ยิ้มบุ๋มตรงมุมปากในรูปมีดวงตาร้อนแรงแข็งกร้าว จ้องนิ่งมายังกล้องประหนึ่งจะมองเข้ามาถึงซอกหลืบหัวใจคนมอง 

    มันนานเหลือเกินที่การะเกดรู้สึกทำนองนี้กับเพศตรงข้าม หัวใจซึ่งปล่อยให้แห้งเหี่ยวมากว่าสามปี บัดนี้เต้นระรัว สูบฉีดเลือดไปเลี้ยงส่วนต่างๆ ของร่างกายแรงเต็มอัตราศึก

                “เจอหรือยังครับ” เสียงเบาราวกับเขากำลังกระซิบอยู่ข้างหูส่งผลให้หญิงสาวหน้าร้อนผ่าว

                “เจอแล้วค่ะ คุณแดเนียลเตรียมตัวไปร่วมงานมะรืนนี้ได้เลยค่ะ” ความคิดบางอย่างที่วาบเข้ามาในหัวทำให้กามเทพสาวหลุดปากออกไปโดยไม่ทันยั้งคิด

                “หืมห์” คิ้วหนาของคนฟังขมวดเป็นปม “ทำไมมันง่ายแบบนี้ล่ะครับ”

                “เอ่อ…อ๋อ..พอดีเกดเพิ่งได้รับอีเมลแคนเซิลจากลูกค้าคนหนึ่งเมื่อตะกี้นี่เองค่ะ งั้นเกดจะใส่ชื่อของคุณแดเนียลแทนเขาเลยนะคะ ส่วนรายละเอียดเรื่องการชำระเงิน เดรสโค้ด และแผนที่สำหรับไปร่วมงาน เกดจะส่งเข้ากล่องข้อความของคุณ ถ้าหากอ่านแล้วมีข้อสงสัยอะไรก็สามารถโทร.เข้ามาสอบถามเพิ่มเติมได้ค่ะ” หญิงสาวลนลานแก้ตัวเสียงเป็นการเป็นงานก่อนจะวางสายเมื่อเขาตอบกลับมาว่าโอเค 

    ทว่ายังไม่ทันที่หญิงสาวจะหายใจหายคอเป็นปกติ หรรษาที่เดินมาหยิบแฟ้มลิสต์รายชื่อลูกค้าคืนก็ชะโงกหน้าเข้ามาดูหน้าจอคอมพิวเตอร์ของเธอที่ยังมีโปรไฟล์ของเทพบุตรสุดหล่อด้วยท่าทางสนใจ
             “อุ๊ย...นั่นใครน่ะพี่เกด หล่อจัง” หรรษาทำตาแพรวพราว ต่างจากการะเกดซึ่งทำหน้าเซ็งกะตายที่ความลับแตกจนได้

             “ลูกค้าน่ะ พอดีเขาโทร.มาถามพี่เรื่องงานเสาร์นี้ ก็เลยดึงโปรไฟล์ขึ้นมาดูว่าหน้าตาพอจะไปวัดไปวาได้ไหม” คนพูดพยายามเก็บอาการขณะมองรูปของลูกค้าที่เพิ่งวางสาย ตอนแรกที่คุยกับเขาทางโทรศัพท์ เธอก็แอบจินตนาการว่ารูปร่างหน้าตาของเขาจะเป็นอย่างไร เพราะเสียงของแดเนียลนั้นทุ้มนุ่มหูชวนฟังเหลือเกิน พอเห็นรูปก็ยอมรับว่าไม่ผิดหวัง ส่วนสูง 185 เซนติเมตรที่ระบุในโปรไฟล์ ทำเอาคนแพ้ทางผู้ชายร่างสูงอย่างเธอถึงกับใจสั่น 

             “หน้าตาหล่อยังกับนายแบบขนาดนี้ คงเข้าทุกวัดได้สบายใจเฉิบ หนูษาว่าพี่เกดน่าจะลองจีบดูสักตั้งนะ รับรองเลยว่าถ้าได้มาเป็นแฟน ทั้งออฟฟิซจะต้องอิจฉา” สาวน้อยใช้มือทั้งสองป้องปากกระซิบกระซาบด้วยนัยน์ตาชวนฝัน

             “จะบ้าเหรอ เขาเป็นลูกค้าของเรานะ ขืนยุ่งมีหวังอีตาฮิตเลอร์เชือดคอพี่ให้คนทั้งบริษัทดูเป็นเยี่ยงอย่าง” กามเทพสาวทำทีเป็นค้านเสียงแข็ง นึกหมั่นไส้คนมีแฟนอย่างหรรษาที่ไม่ต้องเดือดเนื้อร้อนใจอย่างเธอหรือคนอื่นๆ

             “แต่นี่มันวันที่ 28 มิถุนาฯ แล้วนะ ถ้าพี่เกดไม่รีบ อาจจะโดนคนอื่นแซงได้นะ หนูษาแอบสืบรู้มาด้วยแหละว่าตอนนี้พราวด์กับหอมใกล้จะถึงฝั่งฝันกันแล้ว” ผู้ช่วยสาวเติมเชื้อไฟเข้าไปอีก

             “จริงเหรอ” การะเกดหันมาทำหน้าตื่น พอเห็นอาการยักคิ้วหลิ่วตาด้วยใบหน้ายิ้มระรื่นของผู้ช่วยจอมเปิ่นก็ทำหน้าทำตาขึงขังแล้วถามเสียงดุ“อย่ามาอำพี่ให้เล่นนะหนูษา”

             “ไม่ได้อำเล่นๆ เลยจริงจริ๊ง” หรรษาโบกไม้โบกมือให้วุ่น “ข่าวค่อนข้างกรองมาพอสมควร พี่เกดมัวแต่ยุ่งจนไม่ทันสังเกตคนอื่นล่ะสิ หนูษาว่าถ้าพี่ชักช้ามันจะไม่ได้การนะ”

             “ใช่ซี้ พี่มันไม่สวย ไม่มีเสน่ห์แบบหนูษา คนหล่อๆ อย่างคุณทิมเลยไม่ชายตาแล” หญิงสาวประชดด้วยความหมั่นไส้

             “อ้าว ไหงวกกลับมาขบหัวหนูษาแบบนี้ล่ะ” หรรษาส่ายหน้าเหมือนระอากับความช่างประชดประชันของอีกฝ่าย “พี่เกดมั่นใจในเสน่ห์ของตัวเองหน่อยสิ ใครๆ ในออฟฟิซต่างก็รู้กันทั้งนั้นว่าพี่สวยสุด แต่ถ้าพี่เกดเอาแต่ก้มหน้าก้มตาเตรียมงานปาร์ตี้เป็นบ้าเป็นหลังแบบนี้ ก็คงไม่มีหนุ่มคนไหนกล้าโฉบเข้ามาจีบถึงโต๊ะทำงานหรอกเพราะกลัวรังสีอำมหิตของอีตาฮิตเลอร์ หนูษาว่าวันเสาร์กลางวันหรือวันอาทิตย์ พี่น่าจะทำตัวให้ว่าง แต่งตัวให้สวยแล้วไปเดินโฉบแถวสยาม ไม่ก็ไปนั่งจิบไวน์ในบาร์ให้หนุ่มๆ เข้ามาขอนั่งดื่มด้วย ขี้คร้านจะมีแต่คนมาขอแลกเบอร์”

             “พอๆ พี่เหนื่อยจะฟังหนูษาติวเข้มแล้ว” การะเกดโบกไม้โบกมือให้วุ่น พักนี้เธอจุกเสียดแน่นเฟ้อเพราะคำแนะนำจากน้องสาวและผู้ช่วยมือฉมัง 

    ตาดำขลับเหลือบมองสุดหล่อในหน้าจอคอมพิวเตอร์สักพักก็ถอนหายใจ หันมามองหน้าของหรรษาแล้วเปรยเสียงเหมือนคนจวนเจียนจะหมดแรง “ถ้าพี่ลองจีบเขาดูจริงๆ หนูษาจะเอาไปเล่าให้ใครฟังไหมล่ะ”

             “ไม่แน่นอน หนูษาสัญญาว่าจะไม่พูด ถ้าหากบอสหรือใครรู้เรื่องนี้ แล้วบอกว่าหนูษาเป็นอีกาคาบข่าว หนูษายินดีให้พี่กระทืบให้แบนแต๊ดแต๋เลย” สาวรุ่นน้องทำมือสาบาน

             “แน่นะ !” การะเกดหรี่ตาในเชิงคาดคั้น

             “เรื่องนี้จะเป็นความลับระหว่างเราสองคนเท่านั้น รับรองว่าแม้แต่หอมกับพราวด์ก็จะไม่บอก เดี๋ยวหนูษาจะคอยเป็นหูเป็นตาให้พี่เกดในงานปาร์ตี้เอง สองคนนั่นจะได้ไม่สงสัย” หรรษาทั้งพยักหน้า ทั้งสัญญาเป็นมั่นเหมาะ

             “อืม แต่ถึงอย่างนั้นพี่ก็ต้องขอดูตัวเป็นๆ ของเขาก่อนว่านิสัยใจคอเป็นยังไง ถ้าหน้าตาดีแต่นิสัยไม่ผ่าน พี่ก็จะไม่ยุ่งกับเขาอีก” คนพูดวางฟอร์มเป็นคนสวยเลือกมากและเรื่องมาก ทว่าในใจกลับเริ่มสวดแผ่เมตตาให้แดเนียล

    'จงเป็นโสดเป็นโสดเถิด อย่าได้มีแฟนมีเมียมีลูกซุกอยู่เลย'

    “แต่ถ้าหน้าตาหล่อขนาดนี้ หนูษาว่าถึงเขาจะนิสัยเสียนิดๆ หน่อยๆ พี่เกดก็น่าจะอะลุ้มอล่วยให้บ้างนะ ท่องไว้ให้มั่นว่าไม่มีผู้ชายเพอร์เฟกต์ ดูอย่างคุณทิมสิ ตอนแรกไล่หนูษาออกจากหน้าบริษัทอย่างกับหมูอย่างกับหมา” แม้ปากจะกล่าวถึงแฟนหนุ่มในเชิงหมั่นไส้ แต่สายตาเจิดจ้าขึ้นมาทันทีทันใดก็ทำให้การะเกดแอบดีใจไปกับการพบรักของหรรษา 

               “พี่ก็เผื่อใจไว้เท่านั้นแหละ เพราะการที่เขาโทร.มาขอร่วมงานปาร์ตี้ มันแสดงว่าเขาอยากไปเจอสาวๆ ในงาน พี่ไม่อยากหวังสูงเพราะสุดท้ายเขาก็คือลูกค้าคนหนึ่ง ทำงานต่อได้แล้ว เดี๋ยวอีตาฮิตเลอร์ออกมาเห็นเราเม้าต์กัน” หญิงสาวกล่าวพลางปิดหน้าเพจที่มีรูปของแดเนียล บอกตัวเองว่าผู้ชายคนนี้ดูดีเกินกว่าที่เธอจะหวัง เพราะธรรมชาติของคนหล่อ เขาย่อมต้องพิถีพิถันในการเลือกคบผู้หญิงสักคน เท่าที่คุยกันทางโทรศัพท์ เธอก็พอจะรู้แล้วว่าเขาเป็นหนุ่มมนุษยสัมพันธ์ดีมากคนหนึ่ง

    หญิงสาวนั่งทำงานต่อไปอีกสักพัก หูก็แว่วเสียงของหรรษาทักทายลูกค้าวอล์กอิน เธอไม่ได้สนใจจะเงี่ยหูฟังรายละเอียดอะไรต่อ ถ้าหากว่าจะไม่ได้ยินคำตอบจากลูกค้าเสียงนุ่มคนนั้นว่า

                “สวัสดีครับ ผมชื่อแดเนียล มาขอพบกามเทพเคท เอ่อ… คุณเกดครับ พอดีผมแวะมาธุระแถวนี้ก็เลยอยากเข้ามาสอบถามรายละเอียดเรื่องงานปาร์ตี้กับเธอเพิ่มเติม” เจ้าของร่างสูงซึ่งอยู่ในชุดเสื้อยืดคอวีสีขาวกับกางเกงยีนสีซีดแจ้งจุดประสงค์ของการมาด้วยใบหน้ายิ้มพราย

                “เอ่อ… พี่เกดเหรอคะ” สาวน้อยหรรษาตีหน้าซื่อเล่นบท หนูไม่รู้ว่ายูเป็นใครได้อย่างไร้พิรุธ แม้ว่าเวลานี้หัวใจของเธอมันเต้นตึ๊กตั๊กเพราะจำหน้าหนุ่มหล่อหุ่นสูงใหญ่ตรงหน้าได้ดีว่าเพิ่งเชียร์ให้การะเกดขายขนมจีบไปไม่ถึงหนึ่งชั่วโมงนี้เอง

                ชะรอยงานนี้พี่เกดจะมีเฮแล้วเว้ยเฮ้ย! พ่อเทพบุตรสุดหล่อมาเกยตื้นถึงบริษัทเชียว

                “งั้นเชิญคุณแดเนียลตามฉันมาที่ห้องรับรองลูกค้าทางนี้เลยค่ะ เดี๋ยวฉันจะไปตามคุณเกดมาพบค่ะ” หรรษากุลีกุจอเชิญแขกหนุ่มเข้าไปในห้องรับรอง เพราะเกรงว่าหากเชิญให้ไปหาการะเกดถึงโต๊ะทำงาน จะเป็นการดึงความสนใจของกามเทพสาวนางอื่นมากเกินไป 

    หลังจากสอบถามแขกหนุ่มว่าเขาต้องการดื่มอะไร สาวน้อยก็เดินแกมวิ่งไปสั่งแม่บ้านประจำบริษัทให้นำน้ำเปล่าไปเสิร์ฟแขก ก่อนจะเร่งฝีเท้ากลับไปยังโต๊ะของการะเกด

                “พี่เกด มีลูกค้ามารอพบแน่ะ ทายซิว่าเขาคนนั้นเป็นใคร” หรรษาทำหน้าทะเล้น

                “ใครเหรอ” คนรู้อยู่ก่อนแล้วแกล้งทำเป็นไขสือ ถามหน้าตายเหมือนไม่รู้อีโหน่อีเหน่  

                “คุณแดเนียลสุดหล่อที่พวกเราดูโปรไฟล์กันก่อนหน้านี้ ไม่อยากจะบอกเลยว่าตัวจริงเขาสู้งสูง จมูกโด่ง คิ้วหนา ตาออกสีน้ำตาลทอง ขนาดสวมแค่เสื้อยืดกับกางเกงยีนยังดูเท่เล้ย” ผู้ช่วยสาวทำตาชวนฝัน ในขณะที่คนฟังทั้งแบะปากทั้งหน้าเบ้         

                “อย่าเวอร์นักได้ไหมหนูษา ถ้าเพอร์เฟ็กต์อย่างที่บรรยายมา ทำไมไม่มีปัญญาหาแฟนเองฮึ” คนพูดทำหน้าระอา หากหรรษาจะเอาหูแนบกับอกของเธอสักหน่อย ก็คงจะรู้ว่าเวลานี้ใจมันเต้นเป็นจังหวะโจ๊ะพรึมพรึมยิ่งกว่าเมื่อกี้ที่ได้ยินเสียงเขาเสียอีก หรือว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์จะเห็นใจในความอัปโชคของเธอพักนี้และประทานผู้ชายที่จะมาเป็นแฟนให้นะ

                “ไม่ได้เวอร์จริงๆ นะพี่” หรรษาชะโงกหน้าเข้ามาใกล้อีก มองซ้ายมองขวาจนกระทั่งแน่ใจว่าไม่มีใครคอยสปายก็กล่าวต่อ “หนูษาว่าถึงเวลาที่พี่เกดจะต้องเปิดใจให้ใครสักคนแล้วล่ะ อ้อยมาถึงปากช้างขนาดนี้ ถ้าพี่เกดปล่อยไปก็เหมือนโยนลอตเตอรี่รางวัลที่หนึ่งทิ้งเชียวนะ”

                “พูดเหมือนเขาไม่ใช่ลูกค้าของเราอย่างงั้นแหละ” การะเกดกล่าวถึงตรงนี้ก็ถอนหายใจอีกเฮือกใหญ่ “ถ้าเขาหล่อเลิศประเสริฐศรีอย่างที่หนูษาไล่มาเป็นหางว่าวขนาดนั้น เขาคงไม่มองผู้หญิงธรรมดาๆ อย่างพี่หรอก”

                “หูย พี่เกดอย่าเพิ่งใจฝ่อสิ จำได้ไหมเมื่อก่อนที่เราคุยกันเรื่องรอรถเมล์อยู่ที่ป้าย” แววตาของหรรษาเปลี่ยนมาพิจารณาหน้าคนฟังด้วยความจริงใจ พอการะเกดพยักหน้าก็เลื่อนมือมาวางลงบนมืออย่างให้กำลังใจ “ตอนนี้ถึงคราวที่พี่เกดจะต้องตัดสินใจแล้วนะว่าจะเดินขึ้นรถเมล์ที่เพิ่งแล่นมาจอด หรือว่าจะรอรถเมล์คันต่อไปที่ไม่รู้ว่าจะมาเมื่อไร แล้วถ้ามาแล้วมันจะดีกว่าคันที่จอดอยู่ตรงนี้ไหม”

                คนฟังคำเปรียบเปรยถึงกับนิ่งงัน ชั่วครู่หญิงสาวก็ผงกศีรษะคล้ายยอมรับ “อืม พี่เข้าใจแล้ว ขอบใจหนูษามากนะที่คอยให้กำลังใจและพูดให้พี่ได้คิด”

                “อย่ามัวแต่ซึ้งเพราะคำพูดของหนูษาเลย พี่เกดรีบไปแตะแป้งเติมปากแล้วไปพบคุณแดเนียลดีกว่านะ หนูษาจะรอฟังข่าวดี” ผู้ช่วยสาวที่พลิกบทบาทมาเป็นศิราณีหัวใจขยิบตาส่งซิกส์แล้วกลับโต๊ะทำงานของตน

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×