ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ลูบคมกามเทพ

    ลำดับตอนที่ #11 : ความจริงก็คือ…

    • อัปเดตล่าสุด 4 ส.ค. 67


    “เราจะไปไหนกันคะ” การะเกดหันมาถามเป็นครั้งที่สามเมื่อรถของเขาแล่นขึ้นมอเตอร์เวย์ นิสัยเป็นคนชอบวางแผนไว้ล่วงหน้าทำให้เริ่มหงุดหงิดที่เขาไม่ยอมเฉลยเสียที

                “ผมเบื่อกรุงเทพฯ เลยอยากไปสูดอากาศริมทะเลสักหน่อยครับ” แดเนียลเปรยเสียงเอื่อย

                “นะ นี่คุณอย่าบอกนะว่าจะพาเกดไปพัทยา เกดไม่ไปที่นั่นเด็ดขาด” หญิงสาวโวยวายเสียงแหลมผิดปกติจนคนฟังหันมามองด้วยแววตางุนงง

                “ทำไมล่ะครับ หรือว่าเคทมีความหลังฝังใจกับกับแฟนเก่าที่นั่น” ชายหนุ่มเดาไปตามเรื่อง เพราะรู้ว่าผู้หญิงส่วนใหญ่มักไม่ลืมอะไรที่เกี่ยวกับความรักง่ายๆ

                “ไม่ใช่ค่ะ แต่หลายปีก่อนเกดพาเพื่อนไปสัมภาษณ์งานที่นั่น พวกเราสองคนเดินหาป้ายบริษัทนั่นอยู่ดีๆ ไอ้ฝรั่งบ้าสองตัวก็ขับมอเตอร์ไซค์มาหยุดข้างๆ แล้วถามว่าพวกเราต้องการค่าตัวเท่าไหร่ถ้าจะไปสนุกกับพวกมันสักสองชั่วโมง” นัยน์ตาดำขลับวาววามขึ้นมาเมื่อนึกถึงคำพูดและสายตาโลมเลียของพวกหื่นกาม

                “แล้วพวกคุณแต่งตัวกันแบบไหนล่ะ พวกเขาถึงมาหยุดถาม” แดเนียลถามกลั้วหัวเราะ

                “เพื่อนของเกดไปสัมภาษณ์งาน คุณคงไม่คิดว่าเขาจะใส่สายเดี่ยวนุ่งสั้นหรอกนะคะ” กามเทพสาวแว้ดใส่ “ส่วนเกดก็แต่งตัวไม่ต่างจากวันนี้เท่าไรนักหรอกค่ะ”

                คำพูดท้ายประโยคของเธอ เรียกสายตาคมกริบของสารถีหนุ่มให้เหลือบมองเสื้อผ้าที่สวมอย่างพิจารณาอีกครั้ง วันนี้การะเกดสวมเสื้อยืดสีน้ำเงินเข้มกับกางเกงยีนขาเดฟสีขาว ไม่ได้แต่งตัวแบบเปรี้ยวจี๊ดให้สะดุดตาเพศตรงข้ามมากมาย แต่เขากลับรู้สึกว่าหล่อนเซ็กซี่เป็นบ้า

    “ผมเข้าใจว่าเคทมีความทรงจำที่ไม่ดีกับที่นั่น ต่างจากผมที่เคยไปที่นั่นกับที่บ้านปีละหลายครั้ง”

                “คุณก็เลยชอบพัทยา” หญิงสาวสรุปด้วยสีหน้าไม่สบอารมณ์นัก

                “เรียกว่ามีความทรงจำที่ดีเกี่ยวกับพัทยาจะตรงกว่าครับ คุณพ่อผมเป็นนักธุรกิจที่บินไปนั่นมานี่มาบ่อยมาก คุณแม่ของผมเคยทำงานเป็นแอร์โฮสเตส ผมกับพี่ๆ มักจะถูกปล่อยให้อยู่ที่บ้านกับแนนนี่ แต่ทุกครั้งที่พวกเราอยู่กันอย่างพร้อมหน้า คุณพ่อกับคุณแม่ก็มักจะพาไปทะเลที่พัทยาเพราะมันสะดวกที่สุด มันเป็นช่วงเวลาที่ผมกับพี่ๆ ตั้งตารอทุกเดือน” แดเนียลเล่าให้ฟังด้วยสีหน้ายิ้มๆ ทว่ามันเป็นยิ้มที่ทั้งเศร้าทั้งสุขจนคนมองลอบถอนใจ

                “เกดว่าคุณน่าจะหาเวลาไปเที่ยวทะเลที่อื่นดูบ้างนะคะ ทะเลไทยสวยๆ มีหลายแห่ง” แม้จะเข้าใจว่าทำไมเขาถึงอยากกลับไปที่นั่น แต่อคติที่ยังเกาะกินหัวใจมาหลายปีทำให้เธออดไม่ได้ที่จะแนะนำไปอย่างนั้น

                “ผมชอบทะเล แต่ไม่ชอบไปทะเลคนเดียวครับเพราะไปคนเดียวทีไร มันให้ความรู้สึกเหงาหงอยจนอยากจะเดินหายลงไปในทะเลทุกที” คนพูดเหลือบมองเสี้ยวหน้าหวานตามแบบฉบับไทยแท้ “ถ้าผมไปทะเลสวยๆ สักแห่ง เคทจะยอมไปกับผมไหมครับ”

                “มันคงไม่เหมาะที่เกดจะไปกับคุณหรอกค่ะ”

                “คุณกลัวเคมิสตรี้ระหว่างเราสองคนมันจะรุนแรงจนล้ำเส้นของความเป็นเพื่อนกระมัง” แดเนียลสุ่มเดาความรู้สึกของอีกฝ่ายด้วยใบหน้ายิ้มๆ 

                “ค่ะ เกดไม่เคยเชื่อถือคำว่าเพื่อนระหว่างผู้ชายกับผู้หญิง ยกเว้นเพื่อนที่เล่นหัวกันมาตั้งแต่เด็ก”การะเกดไม่คิดจะบ่ายเบี่ยงเหมือนสาวส่วนมากที่ปากกับใจมักไม่จะตรงกัน 

    เธอจำได้ว่าสมัยเรียนมหาวิทยาลัยมีเพื่อนชายหลายคนเพราะเธอกับเพื่อนผู้หญิงอีกสามคนเคยถูกชวนให้ไปเป็นผู้จัดการทีมฟุตบอล แต่พอเวลาผ่านไป หัว (งู) ของเพื่อนต่างเพศก็เริ่มโผล่ออกมาให้ขยาดเมื่อเพื่อนเริ่มจับมือถือแขน บางครั้งก็โอบไหล่ในโรงหนังและเคสที่เลวร้ายสุดก็คือแอบหอมแก้มของเธอในคืนลอยกระทงของมหาวิทยาลัยซึ่งผลก็คือ เธอผลักเพื่อนชายคนนั้นลงไปลอยกับกระทงและสาปส่งคำว่าเพื่อน  

                “สำหรับผม… คำว่าเพื่อนเป็นการเริ่มต้นของมิตรภาพทุกรูปแบบ ผมก็เลยชอบใช้เทอมนี้กับทุกคนครับ” สายตาของแดเนียลแสดงความในใจว่าเขาคิดกับคนฟังมากกว่าเพื่อน เพียงแต่ต้องการเริ่มต้นแบบค่อยเป็นค่อยไปมากกว่ากระโจนเข้าใส่เหมือนสิงโตในฤดูผสมพันธุ์

                หญิงสาวนั่งเงียบเพราะไม่รู้ว่าควรตอบโต้กลับไปแบบไหน บางครั้งเธอก็แอบคิดว่าแดเนียลเป็นผู้ชายที่อ่านยาก เหมือนเขาชอบและพยายามขายขนมจีบ ทว่าก็ทุกครั้งอีกเช่นกันที่เธอรู้สึกถึงม่านหมอกบางๆ ที่ขวางกั้นระหว่างสองใจ

                หรือว่าความขมขื่นในอดีตทำให้เขาหวาดกลัวกับการที่จะเริ่มต้นใหม่เหมือนกับที่เธอกำลังรู้สึกในระยะนี้นะ

    “ตกลงเคทจะเลือกคุณฟิลมาเป็นแฟนชั่วคราวหรือเปล่าครับ” แดเนียลถามหลังจากต่างฝ่ายต่างเงียบไปกว่าสิบนาที เขาได้ยินเสียงถอนใจยาวเหมือนคนคิดหนัก พอเหลือบมองคนข้างกายก็เห็นรอยยิ้มเศร้าสร้อย

                “คุณอยากให้เกดตอบแบบไหนล่ะคะ” การะเกดหันมาสบตาคมนิ่งเหมือนจะเสาะหาความจริงผ่านการมองนั้น

                “ผมอยากให้เคทตอบว่าเลิกยุ่งกับเขา และอยากให้ผมช่วยเป็นแฟนกำมะลอครับ” หัวใจของตำรวจหนุ่มสั่งให้ตอบไปอย่างนั้น แม้ว่าอีกความคิดยังคัดค้านและบอกให้ถอยห่างก่อนที่จะทำให้ทั้งตัวเองและการะเกดจะถลำลึกจนต้องเจ็บปวดในตอนจบ

                ที่นี่อาจเป็นบ้านเกิดของเขา แต่ไม่ใช่ที่ที่เขาคิดว่าจะลงหลักปักฐานเป็นการถาวร   

                “ทำไมคุณแดนถึงอยากเป็นแฟนกำมะลอของเกดคะ” เธอถามเหมือนเด็กในวัยที่อยากรู้อยากเห็นไปหมดทุกอย่าง

                “อย่าถามอะไรในสิ่งที่คุณเองก็รู้คำตอบอยู่แก่ใจได้ไหมครับ ผมรู้ว่าเคทไม่ได้โง่ เราสองคนโตพอที่จะรู้ว่าอะไรเป็นอะไรแล้ว” ชายหนุ่มเร่งความเร็วของรถเหมือนอยากให้ถึงจุดหมายปลายทางเร็วขึ้น 

                “เกดอาจจะพอใจรูปลักษณ์ภายนอกของคุณ แต่เกดไม่เคยคิดจะเป็นคู่นอนชั่วครั้งชั่วคราวให้คุณระหว่างที่อยู่เมืองไทยหรอกค่ะ ผู้ชายหน้าตาดี มีวาทศิลป์เป็นเลิศอย่างคุณคงหาคนแก้เหงาได้ไม่ยาก” มุมปากข้างหนึ่งของคนพูดกดลึกคล้ายยิ้มหยัน 

                “ถ้าผมจะบอกเคทว่าถ้าให้เลือกระหว่างนอนกับสาวสวยเซ็กซี่คนหนึ่งสักคืน กับการได้จูบเคทสักครั้ง แล้วผมตอบว่าผมเลือกอย่างหลัง มันจะทำให้เคทเข้าใจความรู้สึกนึกคิดของผมขึ้นมาบ้างไหมครับ”

                “…” หญิงสาวหน้าแดงแปร๊ด รีบเบือนหน้าหนีออกนอกรถเพราะทนสบตามีความหมายคู่นั้นไม่ไหว 

                “เคทยังไม่ตอบผมเลยนะครับ” ชายหนุ่มอดยิ้มไม่ได้

                “ถามบ้าบอคอแตกแบบนั้น เกดไม่ตอบคุณหรอกค่ะ คุณขับรถช้าเป็นเต่าอายุร้อยปีแบบนี้ มีหวังอีกห้าชั่วโมงก็ไม่ถึงพัทยา” สาวตีนผีหันมาเล่นงานเรื่องการขับรถไม่ทันใจของเขา

                “ขอโทษครับ ผมไม่รู้ว่ามากับสาวนักซิ่งเลยคิดว่าพาไปแบบช้าๆ เน้นความปลอดภัยจะดีกว่า แต่ในเมื่อเคทใจร้อน ผมก็จะพาไปแบบเร็วๆ” แดเนียลกดเท้าลงบนคันเร่งจนเข็มวิ่งไปหาเลข 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

                “คุณแดนต้องการอะไรเป็นสิ่งตอบแทนถ้าเกดจะขอให้ช่วยเป็นแฟนกำมะลอคะ” หญิงสาวถามโดยไม่หันมามองจึงไม่เห็นรอยยิ้มพอใจบนใบหน้าของคนฟัง

                “แลกกับการไปเที่ยวทะเลกับเคทสักแห่งดีไหมครับ ผมให้เคทเป็นคนตัดสินใจทุกอย่างว่าจะไปทะเลที่ไหน จะพักโรงแรมหรือรีสอร์ตชื่ออะไร ผมยินดีจะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายตลอดรายการ”

                “มันเสี่ยงต่อสวัสดิภาพของเกดเกินไปค่ะ” การะเกดตอบแบบไม่ต้องคิด

                “ผมไม่ได้บอกว่าเราต้องพักห้องเดียวกันนี่ครับ ผมอยากไปทะเล แต่ไม่อยากไปคนเดียว ก็เลยคิดว่ามันน่าจะเป็นข้อแลกเปลี่ยนที่ดีที่สุดระหว่างเราสองคน ถ้าเคทไม่ไว้ใจผม จะชวนน้องโรสไปด้วย ผมก็ไม่ขัดครับ” เขาอธิบายเพิ่มเติม

    การะเกดหุบปากที่กำลังจะขยับปฏิเสธในตอนแรกและนั่งใคร่ครวญอยู่หลายนาทีจึงได้เหลือบมองเสี้ยวหน้าเรียบเฉยของเขา

                “เพื่อนร่วมงานของเกดฉลาดและระแวงมากว่าจะมีคนเล่นตุกติกเรื่องนี้ ถ้าหากเกดบอกทุกคนว่าคุณเป็นแฟน พวกเขาจะต้องแย่งกันซักถามเพื่อจับผิดเราสองคนแน่นอนค่ะ ยิ่งถ้ามีคนจำหน้าของคุณได้ เกดก็จะยิ่งโดนซักฟอกหนักว่าคบกันได้ยังไง” แววตาของเธอฉายแววกังวล

                “ยิ่งฟังผมก็ยิ่งไม่เข้าใจผู้หญิง” แดเนียลพูดกลั้วหัวเราะ “ปัญหานั้นมันรับมือง่ายนิดเดียวครับที่รัก”

                “เกดไม่ใช่ที่รักของคุณค่ะ!” หญิงสาวดีดคำว่าที่รักกลับไปคืนเขาทันที

                “อย่าเพิ่งโวยวายสิครับ ที่ผมเรียกเคทแบบนั้นเพราะอยากฝึกให้ชินปาก เวลาไปให้เพื่อนร่วมงานสอบสวนจะได้ไม่รู้สึกกระดากปาก เคทเองก็ควรจะฝึกฟังให้ชินหู เวลาถูกเรียกว่าที่รักต่อหน้าพวกเขา จะได้ไม่ต้องทำตาขวางแบบนี้ใส่ผม” ชายหนุ่มเหมาเอาเองเสร็จสรรพว่าอีกฝ่ายตอบตกลงจะให้เขาเป็นคนรักกำมะลอแล้ว

                “แต่เกดยังไม่ตกลงเลยนะคะ”

                “ผมอุตส่าห์ยกตัวใส่พานให้ขนาดนี้ อย่าเล่นตัวเหมือนนางเอกในนิยายน้ำเน่าสิครับ แคนดิเดตรูปพรรณสัณฐานดีกว่าผมมันหาไม่ได้ง่ายๆ นะ หรือว่าเคทไม่อยากได้เงินโบนัสไปซื้อทัวร์เที่ยวยุโรปแล้ว” คนเจ้าเล่ห์เริ่มต้อนสาวเข้ามุม 

                โดนไม้นี้เข้า สาวค่อนข้างหน้าเงินอย่างเธอถึงกับคอแข็งเพราะที่เขาว่ามาทั้งหมดมันเถียงกลับยาก แม้จะแค่แฟนปลอมๆ เธอก็ไม่อยากหลับหูหลับตาคว้าคนที่เดินเข้ามาหาโดยไม่ดูหัวจรดปลายเท้าก่อนว่าหน้าตาพอจะลากเข้าวัดได้ไหม

                ยิ่งเห็นรูปร่างหน้าตาของทิม พิชยธร แฟนหนุ่มสุดหล่อของหรรษา ก็ยิ่งรู้สึกว่าการหาผู้ชายรูปร่างหน้าตามาตรฐานใกล้เคียงกัน มันเป็นเรื่องยากพอๆ กับการหาคู่ให้คอลัมนิสต์สาวเจ้าปัญหาอย่างแองจี้ 

    แดเนียลคือคนที่โผล่มาในช่วงวิกฤติ และเขาก็มีทุกอย่างที่ผู้ชายสมบูรณ์แบบคนหนึ่งพึงจะมี

                “ก็ได้ค่ะ เกดเลือกคุณ” เรียวปากอิ่มขมุบขมิบเหมือนคนหมดแรง ผิดกับริมฝีปากได้รูปของคนฟังซึ่งคลี่ยิ้มกว้าง

                “งั้นเราก็มาวางแผนกันก่อนดีกว่าครับ ว่าจะทำยังไงให้พวกเขาเชื่อว่าเราสองคนคบกันจริงๆ ผมคิดว่าเราน่าจะเริ่มต้นด้วยรายละเอียดการคบหากันว่าเริ่มรู้จักกันยังไง ถ้าหากถูกเรียกไปถามคนละรอบ เราจะได้ตอบเหมือนกัน”

                “คุณนี่ละเอียดรอบคอบดีจังเลยค่ะ โอเคค่ะ” การะเกดยิ้มอย่างนึกสนุก ทั้งที่ตอนแรกเธออิดออดคิดแล้วคิดอีกว่าควรตอบตกลงไหม แต่พอตอบรับไปแล้ว กลับรู้สึกเบาสบายเหมือนเพิ่งยกภูเขาลูกโตออกจากอก

                แดเนียลกับเธอช่วยกันต่อเติมเรื่องราวชีวิตรักปลอมๆ กันอย่างสนุกสนานจนกระทั่งรถของเขาแล่นไปจอดยังท่าเรือแหลมบาลีฮายที่พัทยาใต้และพากันขึ้นเรือเร็วข้ามฟากไปท่าเรือหาดตาแหวนบนเกาะล้าน

    “เดี๋ยวเราเช่ามอเตอร์ไซค์กันดีกว่าครับ ผมจะได้พาเคทไปดูรอบๆ เกาะ” ชายหนุ่มกล่าวหลังจากเดินคุยกันจนได้ข้อสรุปว่าผู้คนพลุกพล่านเกินไป ท่าทางกระตือรือร้นกับรอยยิ้มมีชีวิตชีวาของเขาทำให้การะเกดยอมพยักหน้าตามใจเนื่องจากไม่เคยมาเที่ยวที่นี่และอยากชมให้มากที่สุด

                “คุณแน่ใจนะคะว่าขับมอเตอร์ไซค์เป็น คือ… จะให้เกดขับก็ได้นะคะ” เสียงหวานถามขณะวางกระเป๋าถือของตนลงในตะกร้าหน้ารถ และรับเป้ที่เขาฝากถือมาสะพาย 

    ถึงจะไม่ได้ขับมอเตอร์ไซค์มาหลายปีและไม่ชินกับภูมิประเทศหรือถนนหนทางของเกาะนี้ แต่เธอคิดว่าน่าจะขับได้คล่องกว่าคนที่ไปอยู่เมืองนอกกว่ายี่สิบปีอย่างเขา 

                “ผมมีมอเตอร์ไซค์เป็นของตัวเองและเอาออกมาขับทุกซัมเมอร์ที่ลอนดอนครับ ที่นั่นขับรถเลนซ้ายเหมือนเมืองไทยครับ” เขาขยิบตาแสดงความมาดมั่น ก้าวขึ้นไปนั่งและกดสตาร์ทเครื่องเหมือนรู้ดีว่าอะไรอยู่ตรงไหน “เชิญครับที่รัก”

                การะเกดทำท่าตะบึงตะบอนกับสรรพนามแทนตัวที่เขาเรียก เธอไม่มีทางเลือกนอกจากก้าวขึ้นไปนั่งซ้อนท้าย แล้วก็ร้องวี้ดอย่างตกใจและผวากอดเอวหนาด้วยสัญชาตญาณเมื่อพ่อตัวดีกระชากยานพาหนะออกแรงจนแทบหงายหลัง

    “คนบ้า !” กำปั้นเล็กทุบเข้าที่แผ่นหลังกว้างของคนช่างแกล้งซึ่งระเบิดเสียงหัวเราะเหมือนชอบอกชอบใจ

                “ขอโทษคร้าบ ผมผิดไปแล้ว” แดเนียลกล่าวอย่างอารมณ์ดี เขาขับมอเตอร์ไซค์ต่อไปอย่างนุ่มนวลที่สุดบนถนนที่ทำด้วยอิฐตัวหนอน บ่อยครั้งที่เล่าถึงสมัยเด็กซึ่งคยมากับครอบครัวว่าเกาะล้านสมัยนั้นแตกต่างจากตอนนี้ขนาดไหน

    ความช่างพูดช่างสรรหาเรื่องมาคุยทำให้การะเกดพลอยสนุกไปกับเขา หญิงสาวลืมเรื่องรบกวนจิตใจทุกอย่างและเพลิดเพลินไปกับการนำเที่ยวของไกด์หนุ่มจนลืมแม้แต่จะโทร.กลับไปบอกน้องสาวว่าอยู่ที่ไหน 

    หลังจากชมทุกหาดและแวะรับประทานอาหารระหว่างทาง ทั้งสองก็ช่วยกันตัดสินใจว่าจะเลือกปักหลักพักผ่อนกันที่หาดไหน 

    หาดที่เขากับการะเกดเลือกคือหาดตายายเพราะเห็นว่าเงียบสงบและคนพลุกพล่านน้อยที่สุด แถมยังมีหมากับแมวนับสิบตัวซึ่งเป็นที่ชอบอกชอบใจของกามเทพสาวเพราะเป็นคนรักสัตว์ 

    ค่าเช่าเตียงผ้าใบเตียงละห้าสิบบาทกับน้ำปั่นดับกระหายราคาค่อนข้างแพงไม่ได้ทำให้ทั้งสองบ่นแต่อย่างใดเพราะบรรยากาศรอบๆ ชวนให้ผ่อนคลายจนไม่คิดจะเอาเรื่องเล็กน้อยมารบกวนจิตใจ

                   “นี่ค่ะข้อมูลที่คุณต้องการ” การะเกดส่งธัมไดรฟ์ให้เขาหลังจากนั่งรับลมทะเลกันได้สักพัก แม้จะรู้สึกแย่ที่ทำผิดกฎของบริษัทแต่เธอก็แอบหวังลึกๆ ว่าข้อมูลของผู้หญิงเคราะห์ร้ายสองคนที่เขาให้ชื่อมาซึ่งเป็นลูกค้าของคิวปิดฮัทที่เคยเข้าร่วมงานปาร์ตี้ล่องเรือจริงๆ จะช่วยให้สืบสาวไปถึงตัวการนั้นได้

                “ขอบคุณครับ” ชายหนุ่มจัดการดึงแม็กบุ๊กแอร์คู่ชีพออกมาเปิดเครื่องและดึงข้อมูลจากธัมไดร้ฟ์แล้วส่งคืน เขาล็อกอินเข้าเว็บของคิวปิดฮัทด้วยยูเซอร์เนมกับพาสเวิร์ดที่การะเกดให้มาและพุ่งตรงไปยังกล่องรับส่งข้อความลับซึ่งเป็นข้อมูลที่ปรัชวินทร์หามาให้ไม่ได้ 

                “ปีแอร์1980” ริมฝีปากได้รูปพึมพำขณะมองข้อความส่วนมากที่ถูกส่งมาจากยูเซอร์เนมนั้น

                “เขาเขียนว่าไงบ้างคะ” การะเกดชะเง้อมาใกล้จนหน้าจะซบต้นแขนแข็งแรง พอเขาขยับแล็ปท็อปมาให้อ่านด้วยก็อ่านไปทำหน้าครุ่นคิดไป “ยูเซอร์เนมคุ้นๆ ยังไงไม่รู้ค่ะ”

                “เสียดายที่ไม่มีรูป... เคทอ่านนี่ดูสิครับ..” นายตำรวจหนุ่มคลิกอีเมลลับฉบับหนึ่งซึ่งสะดุดตาเขาให้เธออ่าน หัวข้อของข้อความลับนั้นคือ 

                ปารีสด้วยรัก

                สวัสดีครับปาน

                ผมก็หยุดคิดถึงปานไม่ได้จนอยากรีบเคลียร์งานให้เสร็จและบินไปหาปานเมืองไทยครับ อากาศที่ปารีสหนาวจนผมอยากให้ปานบินมาหา แต่ในเมื่อปานบอกว่ายังไม่พร้อมเพราะเรายังรู้จักกันได้เดือนเศษ ผมก็คงต้องรอต่อไป หวังว่าปานจะใจอ่อนยอมบินมาเที่ยวปารีสตามคำเชิญของผมช่วงซัมเมอร์นี้นะครับ ผมยังยืนยันว่าจะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทุกอย่างให้ปานเหมือนเดิม

                รักนะครับ 

                 ปีแอร์

     

                “ต้องเป็นอีตาคนนี้แน่ๆ เลยค่ะ” กามเทพสาวกล่าวด้วยแววตามั่นใจเพราะข้อความลับจากหนุ่มคนเดิมยังส่งมาเป็นพรืด

                “เป็นไปได้สูงครับ ดูข้อความนี้สิ” แดเนียลคลิกข้อความที่ขึ้นหัวว่า 

     

              'แพ็คเกจทัวร์ยุโรป อังกฤษ ฝรั่งเศส สวิส อิตาลี 12 วัน 135,000 บาท'

              ปานที่รัก 

              ผมเห็นแพ็คเกจทัวร์เที่ยวยุโรปสิบสองวันของบริษัทนี้แล้ว คิดว่าปานน่าจะมากับโปรแกรมนี้นะครับ เพื่อนคนไทยของผมเคยใช้บริการนำเที่ยวกับทรูทราเวล แล้วบอกว่าประทับใจมาก คิดว่าไงครับที่รัก 

              ผมคิดว่าถ้าปานมากับโปรแกรมนี้ ผมจะลางานไปรอพบตอนปานมาถึงปารีสครับ แล้วปานค่อยแยกจากกรุ๊ปทัวร์ระหว่างนั้น เพราะผมคิดว่าจะทำหน้าที่เป็นไกด์พาปานเที่ยวปารีสได้น่าประทับใจไม่แพ้ไกด์ท้องถิ่นแน่นอนครับ ถ้าปานตอบตกลง ผมจะรีบจองโต๊ะที่ร้านอาหารบนหอไอเฟลกับร้านหรูแถวถนน ฌอม เอลิเซ่ ไว้รอ 

    รายละเอียดของรายการทัวร์ในแต่ละประเทศอยู่ในลิงก์ข้างล่างแล้วนะครับ ถ้าปานโอเค ผมจะรีบจัดการติดต่อบริษัททัวร์เพื่อซื้อแพ็คเกจให้ปาน 

              รักมากและอยากเจอนะครับเจ้าหญิง

              ปีแอร์ของคุณ

     

                “หูย หลอกล่อด้วยโปรแกรมทัวร์ราคาแพงแถมดินเนอร์บนหอไอเฟลขนาดนี้ เป็นใครก็ต้องหลงกลของพวกมันทั้งนั้นแหละ” การะเกดหน้ายุ่งเมื่อคิดถึงความจริงที่ว่า มีสาวไหนบ้างไม่ชอบพ่อบุญทุ่ม มีสาวไหนบ้างที่ไม่อยากไปเที่ยวยุโรป และก็มีสาวไหนบ้างที่ไม่อยากดินเนอร์ใต้แสงเทียนกับชายคนรักบนหอไอเฟล ขนาดเธอเองยังใฝ่ฝันมาตั้งแต่แตกเนื้อสาวเลยว่าวันหนึ่งจะต้องบินลัดฟ้าไปเหยียบดินแดนชวนฝันนั้นสักครั้ง

                “เงินแสนกว่าบาทสำหรับพวกนั้นถือว่าเป็นเงินแค่หยิบมือเดียวครับ เพราะถ้าหากมันหลอกล่อไปได้สำเร็จ ก็อาจจะขายผู้หญิงเหล่านั้นด้วยราคาเป็นแสนหรือบางรายอาจได้ถึงล้านเหรียญเลยทีเดียว” แดเนียลถอนใจยาวเมื่อเลื่อนขึ้นมากดข้อความสุดท้ายที่ผู้หญิงเคราะห์ร้ายคนนั้นส่งถึงหนุ่มที่ชื่อปีแอร์

     

                สวัสดีค่ะปีแอร์ 

                นี่จะเป็นข้อความสุดท้ายที่ปานส่งถึงคุณก่อนที่จะขึ้นเครื่องบินไปยุโรปแล้วนะคะ ปานไม่แน่ใจว่าจะมีโอกาสส่งข้อความหาคุณตอนอยู่ยุโรปหรือเปล่า แต่ยังไงปานจะโทร.หาคุณตามเบอร์โทรศัพท์ที่ได้มาตอนบินถึงปารีสแน่นอนค่ะ หรือถ้าหากปานเที่ยวเพลินจนลืมโทร.ปานคิดว่าคุณน่าจะมาดักรอได้เพราะมีรายละเอียดโปรแกรมทัวร์อย่างละเอียดแล้ว

                อย่าหลอกให้ปานไปถึงปารีสแล้วรอเก้อนะคะ

                รักและอยากเจอเหมือนกันค่ะ 

              ปาน

     

                “เบอร์โทรศัพท์ต้องอยู่ในข้อความใดข้อความหนึ่งในนี้แน่เลยค่ะ” หญิงสาวกล่าวด้วยสีหน้าตื่นเต้น เคยเห็นแต่ในหนังที่ตำรวจสืบหาผู้ร้ายด้วยสารพัดวิธี ไม่คิดว่าวันนี้เธอจะก้าวเข้ามาอยู่ในกระบวนการไล่ล่าอาชญากรกับหนุ่มนักวิจัยคนนี้

          “ผมหวังว่ามันจะไม่ใช้เพย์โฟนจนสืบหาที่มาไม่ได้” ชายหนุ่มตอบขณะกดอ่านข้อความอื่นๆ เพื่อหาเบอร์โทรศัพท์ดังกล่าว พอได้เบอร์โทรศัพท์นั้นก็นำไปเก็บไว้กับไฟล์ที่รวบรวมข้อมูลเพื่อจะส่งต่อให้ผู้บังคับบัญชา 

    แต่สิ่งที่น่ากลัวกว่านั้นเมื่อแดเนียลล็อกอินเข้าไปในบัญชีของเหยื่อเคราะห์ร้ายรายที่สอง คือสาวคนนั้นติดต่อกับหนุ่มที่ชื่อปีแอร์ในลักษณะเดียวกัน เบอร์โทรศัพท์และโปรแกรมทัวร์ที่ฝ่ายชายให้มาตรงกับที่ให้เหยื่อรายแรก แตกต่างกันก็แต่เป็นทัวร์คนละอาทิตย์

                “แสดงว่าพวกเขาโดนผู้ชายที่ชื่อปีแอร์หลอกเหมือนกันใช่ไหมคะ” แม้จะไม่ใช่ตำรวจมืออาชีพแต่การะเกดก็มั่นใจว่าข้อสันนิษฐานของเธอเป็นจริง

                “99% ครับ ผมต้องการข้อมูลเกี่ยวกับนายปีแอร์นั่น เคทพอจะหาให้ได้ไหมครับ” เขาทำหน้านิ่วคิ้วขมวดตอบแล้วหันมาสบตาด้วยประกายตาขอร้อง

                “เอ่อ...” กามเทพสาวลังเล แต่หลังจากชั่งใจอยู่เกือบนาทีว่าคุ้มไหมกับการที่ต้องเสี่ยงให้ข้อมูลของลูกค้า เธอก็พยักหน้าเป็นเชิงตกลง “เดี๋ยวพรุ่งนี้เกดจะลองแอบก็อปปี้ข้อมูลจากแบ็คอัพไฟล์ของบริษัทในช่วงนั้นมาให้คุณค่ะ บางทีอาจจะได้รูปของเขาค่ะ”

                “ถ้าได้รูปจะช่วยให้สแกนหาตัวของมันได้เร็วขึ้นครับ” สีหน้าของแดเนียลจริงจังไม่แพ้คนฟัง 

                “แล้วเพื่อนคุณแดนที่เป็นตำรวจสากลเขาทำงานอยู่ที่ไหนเหรอคะ” การะเกดเปลี่ยนมาซักถามเพราะอยากรู้ความเป็นไป

                “ลอนดอนครับ แต่เขามีเครือข่ายทั่วโลก เดี๋ยวผมจะให้เขาบอกตำรวจทางนี้เช็กบริษัททัวร์ที่ชื่อทรูทราเวลด้วย” ชายหนุ่มยังวุ่นวายกับการก็อปปี้ข้อความระหว่างผู้เคราะห์ร้ายทั้งสองกับหนุ่มฝรั่งเศสที่ชื่อปีแอร์ 

                “เดี๋ยวเกดขอล็อกอินเข้าคิวปิดฮัทได้ไหมคะ เกดอยากเช็กว่าอีตานั่นเคยไปล่องเรือกับเกดไหม ถ้าหากไปจริงเกดอาจจะมีข้อมูลเรื่องชื่อนามสกุลจริงของเขาเพราะลูกค้าบางรายแจ้งเรื่องรายละเอียดการโอนเงินไปงานปาร์ตี้กับเกดค่ะ” หญิงสาวกล่าวด้วยแววตาวาดหวัง 

                แดเนียลพยักหน้าและรีบจัดการก็อปปี้ข้อความทั้งหมดลงในไฟล์ ก่อนจะดึงเมโมรีการ์ดจากแล็ปท็อปมาเสียบกับโทรศัพท์ แล้วยื่นแล็ปท็อปเครื่องนั้นให้เธอ

                “เดี๋ยวผมขอโทรศัพท์ไปคุยกับเพื่อนก่อนนะครับ” เขาบอกขณะลุกจากเตียงผ้าใบและเดินห่างออกไปเพราะไม่อยากให้คนข้างหลังได้ยินบทสนทนาระหว่างตนกับผู้บังคับบัญชา 

                “ผมโทร.มากวนหรือเปล่าครับริก” แดเนียลถามผู้บังคับบัญชาเสียงเข้ม

                “ไม่หรอก ผมกำลังจะเข้าออฟฟิซพอดี มีอะไรด่วนหรือเปล่า หรือว่าได้เบาะแสเรื่องคดีแล้ว” ริกกี้ถามกลับมาด้วยสุ้มเสียงยินดี

                “ผมได้ข้อมูลจากแอคเคาน์ของผู้หญิงเคราะห์ร้ายสองคนนั่นแล้ว พวกเขาติดต่อกับหนุ่มฝรั่งเศสที่ชื่อปีแอร์เหมือนกันและหมอนั่นก็ซื้อทัวร์จากบริษัทนำเที่ยวเดียวกันไปเที่ยวยุโรปให้ทั้งคู่ และนัดเจอที่ปารีสเหมือนกันครับ ผมได้เบอร์โทรศัพท์ของหมอนั่นมาแล้ว เดี๋ยวจะส่งเบอร์โทรศัพท์พร้อมกับรายละเอียดที่มันติดต่อกับเหยื่อทั้งคู่ให้ทางคุณเช็ก ส่วนทางนี้ผมจะให้ตำรวจไทยช่วยเช็กข้อมูลของบริษัททัวร์ที่ผู้หญิงสองคนนั้นไปด้วยครับ”

                “ขอบใจมาก ผมจะให้พอลติดต่อกับทางฝรั่งเศสให้เร็วที่สุด” คนปลายสายกล่าวด้วยความยินดี “คุณยังทำงานได้รวดเร็วทันใจเหมือนเดิม”

                “พอดีผมมีตัวช่วยน่ะครับ” คนพูดหันกลับไปมองตัวช่วยซึ่งนั่งก้มหน้าก้มตากับหน้าจอคอมพิวเตอร์ “งั้นผมไม่กวนคุณแล้วนะริก ถ้าหากได้ข้อมูลเพิ่มเติมอีก ผมจะรีบติดต่อกลับ”

                “เท็กแคร์” ริกกี้กล่าวเพียงเท่านั้นก็ตัดสาย ในขณะที่คนโทร.หาจัดการส่งไฟล์ดังกล่าวเข้าอีเมลและกดสายหาปรัชวินทร์ต่อ

                “มีอะไรให้ผมรับใช้ครับคุณแดน” นายตำรวจหนุ่มกรอกเสียงเป็นกันเองมาตามสาย

                “ผมได้ข้อมูลมาเพิ่มเติมนิดหน่อย เลยอยากขอให้คุณวินทร์ช่วยให้คนเช็กบริษัททัวร์ที่ชื่อ ทรูทราเวลให้ด้วยครับ เพราะผู้หญิงเคราะห์ร้ายสองรายไปทัวร์ของบริษัทนั้นเหมือนกัน ผมอยากให้คุณช่วยเช็กด้วยว่า ลูกค้าที่เป็นคนจ่ายเงินค่าทัวร์ให้ผู้หญิงทั้งสองคนชื่ออะไร ผู้ชายที่เหยื่อติดต่อด้วยเป็นคนฝรั่งเศสชื่อ ปีแอร์ ดูปองต์ ซึ่งเจ้านายของผมกำลังให้ทางสำนักงานใหญ่เช็กข้อมูลอยู่ครับ ผมต้องการชื่อคนที่เป็นทัวร์ลีดเดอร์และไกด์ท้องถิ่นที่เทกแคร์ผู้หญิงทั้งสองคนนั้นระหว่างเดินทางไปยุโรปด้วยครับ แล้วถ้าหากได้ชื่อ ที่อยู่หรือเบอร์โทรศัพท์ของผู้ที่เดินทางไปทริปเดียวกันจะเป็นประโยชน์มาก” แดเนียลบอกเร็วปรื๋อ สำหรับเขา เวลาทุกนาทีมีค่าเมื่อมาถึงเรื่องการสืบคดีเพราะขณะนี้อาจจะมีผู้หญิงหลายคนที่กำลังตัดสินใจ

                “ผมจะรีบจัดการให้ด่วนที่สุดครับ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องขึ้นอยู่กับทางบริษัททัวร์ด้วย ผมหวังว่าเขาจะให้ความร่วมมือกับทางเราเป็นอย่างดี” ปรัชวินทร์ตอบเสียงเข้มกลับมาเช่นกัน

                “ผมเชื่อมือคุณครับ ถ้าหากมีอะไรคืบหน้า ติดต่อผมได้ตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมงนะครับ” คนต้นสายระบายลมร้อนๆ ผ่านริมฝีปากช้ำแดดของตน

                “ได้ครับ แค่นี้ใช่ไหมครับที่อยากแจ้งผม” คนปลายสายยิ้มน้อยๆ

                “เอ่อ” แววตาคมกริบชายตามองการะเกดแล้วก็คลี่ยิ้มเหนือริมฝีปาก “ไม่ทราบว่าคุณวินทร์พอจะแนะนำร้านอาหารที่มีไลฟ์มิวสิคให้ผมสักแห่งได้ไหมครับ”

                “ไลฟ์มิวสิค” ตำรวจไทยทวนคำพูดอย่างใช้ความคิด ชั่วครู่ก็ตอบกลับมาด้วยสุ้มเสียงรื่นรมย์ “ผมแนะนำออสเตรเลียนผับที่สุขุมวิทซอย 11 ละกันครับ ที่นั่นมีไลฟ์มิวสิคทุกคืน วันอาทิตย์แบบนี้ รู้สึกจะเริ่มแต่หัววันด้วย ที่นั่นอาหารกับเครื่องดื่มใช้ได้ วงดนตรีที่เล่นและร้องโดยคนฟิลิปปินส์ก็สนุกครับ ผมคิดว่าคุณแดนน่าจะชอบ”

                “ขอบคุณครับ” แดเนียลยิ้มกว้าง

                “ไปคนเดียวหรือไปกับสาวครับเนี่ย” ปรัชวินทร์อดถามไม่ได้

                “เพื่อนผู้หญิงน่ะครับ” ใบหน้าของคนตอบกระหยิ่มยิ้มย่อง “แค่นี้นะครับ”

                “งั้นคืนนี้ผมจะไม่โทร.ไปกวนคุณแดน ยกเว้นว่าจะมีเรื่องด่วนจริงๆ ขอให้สนุกนะครับ” คำพูดทิ้งท้าย ตามประสาผู้ชายที่รู้ใจผู้ชายด้วยกัน เรียกเสียงหัวเราะจากแดเนียล ซึ่งหลังจากวางสายก็เดินฮัมเพลงกลับไปหาการะเกดที่ยังวุ่นวายกับการหาข้อมูล

                “ได้เรื่องไหมครับ” ถามพลางชะโงกเข้าไปดูหน้าจอ

                “เกดยังหาไม่เจอเลยค่ะ” การะเกดยิ้มแหย “แต่ยูเซอร์เนมของเขามันคุ้นจริงๆ”

                “ให้ผมช่วยหาไหมครับ เคทจะได้พักสายตา หรือลงเล่นน้ำทะเล” ชายหนุ่มพึมพำด้วยสีหน้ายิ้มๆ จงใจขยับเข้าไปหาจนต้นแขนเสียดสีกับต้นแขนกลมกลึงของคนฟังให้เธอเก้อเขิน

                “เอ่อ มะ ไม่เป็นไรค่ะ เกดหาเองดีกว่า ถ้าคุณแดนอยากลงเล่นน้ำก็เชิญตามสบายเลยค่ะ ถ้าหากหาเจอ เดี๋ยวเกดเรียกคุณเอง” หญิงสาวอิดเอื้อน เพราะไม่สะดวกจะให้เขาเข้ามาดูข้อมูลในแอคเคาน์ของเธอ

                “งั้นผมว่าเราพักเรื่องนี้ไว้และลงเล่นน้ำด้วยกันดีกว่านะครับ อุตส่าห์มาถึงทะเล ถ้าไม่ถูกน้ำเลยก็คงเรียกว่ามาไม่ถึง” เขายังคะยั้นคะยอจนคนฟังหน้ายุ่ง

                “เอาไว้คราวหน้าดีกว่านะคะ คือวันนี้เกดไม่สะดวกจริงๆ ค่ะ” เธอทำหน้าปั้นยาก จะให้ลงได้ยังไงเล่า แดดร้อนเปรี้ยงขนาดนี้ ถ้าไม่ละเลงครีมกันแดดให้ดีๆ มีหวังผิวสีน้ำผึ้งของเธอกลายเป็นน้ำผึ้งไหม้แน่ ไหนจะไม่มีชุดชั้นในไว้ผลัดเปลี่ยนอีก

                “ไม่สะดวกเพราะไม่ได้เอาชุดว่ายน้ำมาหรือเปล่าครับ ถ้าเป็นอย่างนั้นเดี๋ยวผมพาเคทไปซื้อชุดเอง” คนอยากลากสาวลงน้ำยังรุกไม่เลิก

                “มะ ไม่ได้จริงๆ ค่ะ คือช่วงนี้เป็นช่วงวัน..เอ่อ…วันมามากของเกดค่ะ” หญิงสาวกัดฟันใช้ไม้ตายกับเขา

                “อ่า งั้นเอาไว้คราวหน้าก็ได้ครับ” แดเนียลยิ้มฝืด เจอไม้นี้เข้า สุภาพบุรุษอย่างเขาก็ไม่รู้จะรุกต่อยังไงเหมือนกัน

                “คุณแดนลงเล่นตามสบายเลยค่ะ เดี๋ยวเกดเฝ้าของให้” การะเกดส่งยิ้มขณะคะยั้นคะยอเขา

                “งั้นเดี๋ยวผมขอไปซื้อของสักแป๊บนะครับ” คนตัวโตบอกเพียงเท่านั้นก็ถือกุญแจกับกระเป๋าสตางค์เดินไปหารถมอเตอร์ไซค์ เปิดโอกาสให้คนรอซึ่งอยากล้วงความลับของเขามากขึ้นเปิดนั่นเปิดนี่ในแล็ปท็อป หวังจะหาข้อมูลต่างๆ เกี่ยวกับเขาแต่แล้วก็ต้องหน้างอง้ำเพราะทุกอย่างที่เธออยากคลิกเข้าไปดู ล้วนต้องใส่พาสเวิร์ดทั้งสิ้น

                “รอบคอบยังกับรู้ล่วงหน้าว่าเราจะแอบดูอะไรในคอมพ์ งั้นแหละ แม้แต่ประวัติการเข้าเน็ตเว็บไหนบ้างยังไม่มีให้เห็น” เจ้าของปากอิ่นบ่นกระปอดกระแปดพลางทำหน้าเบ้ใส่หน้าจอ เมื่อทุกอย่างไม่เป็นไปตามที่หวัง เธอไม่มีทางเลือกนอกจากนั่งไล่อ่านข้อความที่ติดต่อกับลูกค้าแต่หาจนกระทั่งแดเนียลกลับมาก็ยังไม่เจอ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×