คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : หลุมพรางเสน่หา
รถของฟิลิปป์แล่นผ่านป้อมยามเข้ามาจอดหน้าล็อบบีของคอนโดของผู้โดยสารสาวตอนสี่ทุ่มครึ่ง ชายหนุ่มลงจากรถและเดินอ้อมมาเปิดประตูบริการการะเกดตามแบบฉบับของสุภาพบุรุษ
“ขอบคุณที่อุตส่าห์มาส่งเกดค่ะ” หญิงสาวพึมพำพร้อมกับยิ้มให้เขา
“ด้วยความยินดีครับ หากสนใจจะใช้บริการอีกก็โทร. หาผมได้ตลอด” หนุ่มฝรั่งเศสยิ้มกรุ้มกริ่ม
“เกดจะจำไว้ค่ะ คุณฟิลิปป์ขับรถกลับดีๆ นะคะ”
“ว้า ผมนึกว่าคุณเกดจะพูดว่าวันหลังไปทานข้าวด้วยกันนะคะเสียอีก” ฟิลิปป์ทำหน้าทำตาเหมือนผิดหวังจนเธอหัวเราะ
“ที่เกดยังไม่พูดเพราะเห็นว่าคุณน่าจะคิวยาวเพราะแจกนามบัตรสาวๆ หลายรายต่างหากค่ะ”นัยน์ตาดำขลับฉายแววล้อเลียนกึ่งรู้ทัน
“โอเคครับ ผมเข้าใจแล้วว่าคุณเกดมองผมเป็นเพียงลูกค้าคนหนึ่ง เอาเป็นว่าผมจะพยายามตัดใจ”เขาแกล้งตีหน้าเศร้า
“มันเป็นจรรยาบรรณของคนทำงานเป็นกามเทพอย่างเกดมากกว่าค่ะ คุณฟิลิปป์เป็นคนน่ารักและช่างเอาใจ เกดเชื่อว่าต้องมีลูกค้าสาวสักคนที่ต้องตาต้องใจคุณมากกว่าเกดค่ะ” การะเกดยิ้มเยือนเมื่อในที่สุดได้คำตอบที่แน่นอน หลังจากปล่อยให้หัวใจอยู่กับความคลุมเครือมากว่าหนึ่งอาทิตย์
“ผมเข้าใจแล้วครับ งั้นผมจะเลิกส่งดอกไม้หรือโทร.มาเซ้าซี้คุณเกดอีก แต่ถ้าวันไหนคุณเกดเปลี่ยนใจ อยากนัดเจอหรือทานข้าวกัน ผมเปิดประตูหัวใจรออยู่เสมอครับ” ชายหนุ่มสรุปอย่างสุภาพบุรุษใจกว้าง
“ค่ะ ขับรถกลับดีๆ นะคะ” หญิงสาวกล่าวคำอำลาก่อนจะเดินเข้าไปในตัวตึก เธอไม่มีโอกาสรู้ว่าฟิลิปป์ไม่ได้เคลื่อนรถคันหรูไปไหน แต่เขาคว้าโทรศัพท์มากดหาโรสรินและกรอกเสียงทุ้มลงไปทันทีที่สาวน้อยกดรับ
“คิดถึงโรสจังเลยครับ”
“อุตส่าห์ไปงานปาร์ตี้ของพี่เกด คุณฟิลไม่เจอสาวถูกใจสักรายเลยเหรอคะ” ดวงหน้าจิ้มลิ้มเจือรอยยิ้มแห่งความพอใจเพราะคำหวานหูที่เขาประเคนให้
“ถ้าหากเจอก็คงไม่หาเรื่องขับรถมาส่งคุณเกดเพื่อที่จะแอบมารอเจอน้องสาวของเขาขนาดนี้หรอกครับ” หนุ่มเมืองน้ำหอมกล่าวด้วยสุ้มเสียงจริงจังท้ายประโยค
“อะไรนะคะ” โรสรินหน้าตื่นตาโต
“ตอนนี้รถของผมจอดอยู่หน้าล็อบบีข้างล่างครับ คุณเกดกำลังจะขึ้นไป แต่ผมอยากเจอโรส ผมจะไม่กลับจนกว่าโรสจะยอมลงมาเจอ ลงมาให้ผมเห็นหน้าสักครั้งเถอะนะครับ” ชายหนุ่มส่งเสียงออดอ้อน
“พี่เกดคงดุและไม่ยอมให้โรสลงไปแน่เลยค่ะ” บอกเขาเสียงขลาด แต่หัวใจกลับเต้นโครมครามที่รู้ว่าผู้ชายที่คุยกันวันละหลายชั่วโมงจะมาปรากฏตัวอยู่หน้าคอนโด
“ก็อย่าบอกคุณเกดสิครับว่าลงมาเจอผม ผมจะรอจนกว่าโรสจะมานะครับ” หนุ่มแผนสูงกล่าวเสร็จก็วางสายด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ เขาผ่านร้อนผ่านหนาวมามาก รู้ว่ากับผู้หญิงอ่อนต่อโลกอย่างโรสรินจะต้องใช้วิธีไหนเพื่อให้ใจอ่อน
สาวน้อยสะดุ้งเฮือกเมื่อประตูห้องพักถูกเคาะหนักๆ หลายครั้งติดต่อกัน
“กลับมาแล้วเหรอพี่เกด” โรสรินทักพี่สาวคนสวยด้วยรอยยิ้มจืดเจื่อน
“อืม กลับมาแล้วก็หิวมากๆ ด้วย มีอะไรให้พี่หม่ำบ้างล่ะ” การะเกดสลัดรองเท้าส้นสูงสีเงินออกอย่างไม่ไยดีและสาวเท้าเข้าไปเปิดตู้เย็น
“คืนนี้มีกระเพราหมูกับต้มจืดใบตำลึง” คนพูดเดินไปหยิบกระเป๋าสตางค์กับคีย์การ์ดของห้องพัก “เดี๋ยวโรสไปซื้อของที่เซเว่นก่อนนะ”
“อื้อ ระวังตัวด้วยล่ะ” ผู้เป็นพี่ไม่ได้ระแวงว่าการกระทำนั้นเป็นสิ่งปกติแต่อย่างใดเพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่น้องสาวคนสวยลงไปซื้อของกลางดึก
โรสรินยิ้มรับและออกจากห้องด้วยหัวใจพองโต ทั้งตื่นเต้นทั้งหวาดหวั่นว่าหนุ่มที่กำลังจะลงไปพบรูปร่างหน้าตาเป็นอย่างไร แต่คิดว่าอย่างไรเสียก็คงหาทางหนีทีไล่ได้ไม่ยาก หากว่าตัวตนของฟิลิปป์ไม่ได้เป็นอย่างที่คิดไว้ เพราะที่นี่เป็นถิ่นของเธอ
หัวใจสาวเต้นแรงเร็วยามก้าวออกจากลิฟต์ที่ล็อบบีของคอนโด เธอค่อยๆ สืบเท้าเรียวเล็กไปยังประตูทางออกเพราะอยากแอบมองฝ่ายที่รออยู่ก่อนว่าหน้าตาของเขาเป็นอย่างไร
วินาทีที่เห็นร่างสูงชะลูดของหนุ่มหล่อที่ยืนพิงประตูรถซึ่งถลกแขนเสื้อสูทขึ้นดูหน้าปัดนาฬิกาด้วยท่าทางกระวนกระวาย หัวใจดวงน้อยๆ ของโรสรินก็เต้นแรงเหมือนมันจะกระโจนออกจากทรวงอก
ฟิลิปป์หล่อเหลายิ่งกว่าที่เธอจินตนาการไว้หลายเท่า เขามีรูปร่างสูงผิดกับที่เธอเคยได้ยินว่าผู้ชายฝรั่งเศสส่วนมากจะตัวเล็ก รูปหน้าตามแบบฉบับของคนสายเลือดตะวันตกนั้นดูดีราวกับสวรรค์ปั้นแต่ง
จากที่เคยมั่นใจตนเป็นผู้หญิงสวยน่ารักมากคนหนึ่ง เวลานี้เธอชักจะไม่มั่นใจเสียแล้วว่าดูดีพอสำหรับผู้ชายสมบูรณ์แบบอย่างเขา ทว่าก่อนที่จะหมุนตัวเดินกลับไปหาลิฟต์เพื่อขึ้นไปแต่งหน้าทาปากและเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดที่ดูดีกว่าเสื้อยืดกับกางเกงขาสั้น ฟิลิปป์ก็เงยหน้าและสบตาหวาดหวั่นของเธอเข้าอย่างจัง
“บงซัวร์” ชายหนุ่มขยับปากทักทายเป็นภาษาฝรั่งเศส ยิ้มกว้างด้วยความดีใจและเร่งฝีเท้าตรงมาหาประตูหน้าล็อบบีเหมือนกับมั่นใจว่าเธอคือคนที่จะลงมาเจอ
โรสรินไม่มีทางเลือกนอกจากยิ้มแห้งและรูดคีย์การ์ดเปิดประตูกระจก แล้วก้าวออกไปยืนตัวลีบอยู่บนทางเดิน
“สวัสดีค่ะ” เธอทักทายแบบคนขาดความมั่นใจ
“ผมนึกว่าต้องยืนรอโรสถึงพรุ่งนี้เช้าเสียแล้ว” ฟิลิปป์ยิ้มกว้าง “ทำยังไงคุณเกดถึงปล่อยตัวลงมาได้ครับ”
“โรสบอกพี่เกดว่าจะลงมาซื้อของที่เซเว่นใกล้ๆ นี่คะ” บอกเขาเสียงอ่อยเพราะรู้สึกผิดที่ต้องสร้างเรื่องมาโกหกพี่สาวเพียงคนเดียว
“จะซื้อของจริงๆ หรือเปล่าล่ะครับ ถ้าซื้อผมจะได้เดินไปเป็นเพื่อน” หนุ่มเมืองน้ำหอมเสนอตัวด้วยใบหน้ายิ้มๆ หลังจากไล่สายตาคมเหมือนเหยี่ยวไปทั่วร่างเย้ายวนอย่างสำรวจตรวจตรา เขายอมรับว่าถึงจะผอมบางกว่าการะเกดไปบ้าง แต่โรสรินก็สวยสดไม่แพ้ผู้เป็นพี่ตามที่เขาเคยตั้งข้อสันนิษฐานไว้ แถมยังน่าสนใจกว่าการะเกดตรงที่อายุน้อยกว่าถึงห้าปี
“ถ้าคุณฟิลไม่รีบก็ได้ค่ะ” เจ้าของเสียงหวานงึมงำเสียงเกือบเป็นกระซิบก่อนจะเดินเคียงเขาไปยังประตูทางออก
ความเงียบงันต่างจากสมัยที่คุยโทรศัพท์เรียกรอยยิ้มขบขันจากฟิลิปป์ เขาอ่านใจเธอออกอย่างทะลุปรุโปร่งว่ากำลังประหม่าขัดเขินกับการเผชิญหน้ากันอย่างหนัก
“แน่ใจนะครับว่าโรสเป็นคนเดียวกันกับโรสที่คุยโทรศัพท์กับผมมาหลายวัน” ชายหนุ่มส่งสายตาล้อเลียนกึ่งเสน่หาให้คนฟังซึ่งหน้าแดงก่ำมากขึ้นไปอีก
“คือโรสไม่รู้จะพูดอะไรเพราะเราเจอกันกะทันหันน่ะค่ะ” แก้มสาวร้อนปานนั่งอยู่ข้างไฟกองใหญ่
“ผิดหวังหรือเปล่าครับที่ผมรูปร่างหน้าตาเป็นแบบนี้” เขาถามพร้อมกับส่งสายตาลึกซึ้ง
“มะ ไม่ค่ะ คนที่ผิดหวังน่าจะเป็นคุณฟิลมากกว่า” ตอบเสียงสั่นพลางเร่งฝีเท้าจะให้ถึงร้านสะดวกซื้อที่อยู่ห่างจากคอนโดประมาณสองร้อยเมตร
“โรสคิดผิดแล้วล่ะครับ” ฟิลิปป์เปรยเสียงเอื่อย รอจนกระทั่งสาวน้อยหน้าหวานหันมาสบตาอีกครั้งถึงได้เฉลย “นอกจากจะไม่ผิดหวังแล้ว ผมยังแอบขอบคุณตัวเองที่ตัดสินใจมาขอเจอโรสคืนนี้ด้วยครับ”
“…” ไอร้อนไล้เลียบนผิวแก้มของโรสริน เขินกับคำพูดและสายตามีความหมายคู่นั้นจนพูดอะไรไม่ออก
“โรสสวยกว่าที่ผมคิดไว้หลายเท่าเลยครับ สวยเหมือนกุหลาบหายากที่ดอกยังตูมอยู่ และก็คงจะสวยยิ่งกว่านี้หากดอกบานเต็มที่” ชายหนุ่มเปรียบเปรยเหมือนคนละเมอ
“คุณชมมากเกินไปแล้วค่ะ” โรสรินขมุบขมิบกลีบปากสีชมพูอ่อนตอบเขาด้วยหัวใจสั่นระรัว เธอยอมรับว่าแอบชื่นชมว่าเขาเป็นคนน่ารัก คุยสนุกตอนคุยกันทางโทรศัพท์ แต่พอเจอหน้ากันจังๆ แบบนี้ ความรู้สึกชื่นชมนั้นกลับเปลี่ยนเป็นความรู้สึกอื่นที่รุนแรงยิ่งกว่า
‘รักแรกพบ’
นั่นคือสิ่งที่ตะโกนก้องจากทุกซอกหัวใจของผู้หญิงชื่อโรสรินขณะนี้
“แต่ผมสาบานได้ว่าสิ่งที่เพิ่งพูดไป มาจากหัวใจที่กำลังเต้นแรงไม่หยุดตั้งแต่วินาทีที่ได้เห็นหน้าของโรสนะครับ” ฟิลิปป์เปล่งคำหวานและปิดปากเงียบเมื่อก้าวเข้าไปในร้านสะดวกซื้อ เขาแย่งตะกร้าจากมือของสาวน้อยมาถือ แล้วเดินตามต้อยๆ ขณะที่โรสรินหยิบนั่นหยิบนี่มาใส่ พอถึงเวลาจ่ายเงินก็แย่งจัดการเองทั้งหมดโดยไม่สนว่าอีกฝ่ายจะหน้างอที่ถูกขัดใจ
“พรุ่งนี้ไปทานข้าวดูหนังกันนะครับ”
“พรุ่งนี้โรสต้องอยู่กับพี่เกดค่ะ คงไม่สะดวกจะออกไปไหน แถมยังต้องเร่งงานแปลส่งสำนักพิมพ์อีก” หญิงสาวแกล้งเฉไฉ
“พรุ่งนี้ไม่ได้ งั้นมะรืนนี้ล่ะครับ มะรืนนี้เป็นวันเกิดของโรส แถมคุณเกดก็ทำงาน โรสคงไม่ขลุกอยู่บนห้อง แปลงานจนไม่มีเวลาทานข้าวหรือพักสายตาหรอกนะครับ” หนุ่มเจ้าเล่ห์ดักคอ
“มะรืนนี้คุณฟิลไม่ทำงานเหรอคะ” โรสรินยังไม่ยอมตอบรับคำชวนของเขา
“มะรืนนี้ผมตั้งใจจะเกงานเพื่อฉลองวันเกิดของโรสครับ” เขาขยิบตา “ผมตัดสินใจตอนนี้เลยดีกว่าว่ามะรืนนี้ผมจะขับรถมาหาโรสตอนสิบโมงเช้า ผมจะรออยู่ข้างล่างจนกว่าโรสจะใจอ่อนยอมลงมาเจอ”
“คุณกำลังมัดมือชกโรสอยู่นะคะ” สาวน้อยปรายตามองเขาอย่างดุ
“เปล่านะครับ ผมให้สิทธิ์การตัดสินใจเป็นของโรส ถ้าโรสไม่ลงมาเจอ ผมก็แค่หน้าเศร้า ผิดหวังและก็อกหักก่อนเวลาอันควรเท่านั้นเอง แต่ผมก็ยังยืนยันว่าจะหน้าด้านตามตื๊อต่อจนกว่าโรสจะให้ยามไล่ออกจากคอนโดเหมือนหมูเหมือนหมา” ฟิลิปป์เปิดฉากจีบแบบไม่อ้อมค้อม
“คุณฟิลทำแบบนี้กับผู้หญิงทุกคนใช่ไหมคะ” โรสรินมองเสี้ยวหน้าหล่อเหลาด้วยแววตาค้นคว้า
“ถ้าผมตอบว่านี่เป็นครั้งแรกในรอบห้าปี โรสจะหาว่าผมโกหกไหมล่ะครับ” แววตาใสซื่อมองตอบคนฟังเหมือนอยากให้เธอเห็นถึงขั้วหัวใจ เขาเคยเล่าให้โรสรินฟังว่าเคยรักผู้หญิงคนหนึ่งหัวปักหัวปำเมื่อห้าปีก่อน แต่สุดท้ายก็โดนหล่อนสลัดรักไปกับคนอื่นแบบไม่ไยดี
“ไม่รู้สิคะ” เรียวปากอิ่มขยับขึ้นลงเพียงเล็กน้อย ใจเต้นแรงยามคิดว่าไม่ใช่เธอคนเดียวที่รู้สึกถึงแรงดึงดูดที่มีต่อกัน
“ตอบอย่างนี้แสดงว่าโรสไม่เชื่อผมงั้นสินะครับ” น้ำเสียงคนพูดฟังดูเศร้าสร้อยจนคนฟังรู้สึกผิด
“ไม่ใช่อย่างนั้นหรอกค่ะ โรสแค่คิดว่าเรารู้จักกันเร็วเกินไป” โรสรินกลืนน้ำลายลงไปหล่อเลี้ยงลำคอแห้งผาก “พี่เกดเล่าให้โรสฟังว่าผู้หญิงที่ไปงานปาร์ตี้ล่องเรือมีแต่คนสวยและเพียบพร้อมกันทั้งนั้น”
“เพื่อพิสูจน์ว่าผมไม่ใช่ผู้ชายคบเผื่อเลือก ผมจะยกเลิกการเป็นสมาชิกกับคิวปิดฮัทตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไปครับ” ฟิลิปป์กล่าวด้วยสีหน้าจริงจัง แล้วไม่ยอมกล่าวอะไรอีกจนกระทั่งเดินไปถึงหน้าล็อบบีของคอนโดอีกครั้ง
“ผมดีใจนะครับที่เราได้เจอกัน” ชายหนุ่มส่งถุงชอปปิงทั้งสองใบให้เธอ
“ค่ะ ขอบคุณนะคะที่ซื้อของพวกนี้ให้โรส” สาวน้อยพึมพำพร้อมกับส่งยิ้มบางๆ ให้เขา วินาทีนี้เธอรู้สึกใจหายอย่างบอกไม่ถูกที่จะต้องกล่าวคำอำลาต่อกัน
“ไม่เป็นไรครับ งั้นพรุ่งนี้ผมจะโทร.หาโรสนะครับ” ฟิลิปป์ทำหน้าเศร้า
“ค่ะ” โรสรินพยักหน้า แล้วก็ยืนแข็งทื่อเมื่อคนฟังยิ้มตอบแล้วหมุนตัวเดินห่างออกไปอย่างช้าๆ มันเป็นภาพที่ทรมานใจคนมองอย่างอาลัยอาวรณ์จนตัดสินใจตะโกนตามหลังว่า
“คุณฟิลคะ”
คนที่เดินห่างออกไปเพียงห้าก้าวหยุดฝีเท้าและหันกลับมาทันทีเช่นกัน “มีอะไรเหรอครับ”
“เอ่อ” สาวน้อยทำเสียงตะกุกตะกักในลำคอ ทั้งเขินอายทั้งไม่แน่ใจว่าสิ่งที่หัวใจพยายามสั่งให้พูดไป มันเกิดขึ้นในเวลาและสถานการณ์ที่เหมาะสมหรือเปล่า “ถ้าหากคุณว่างวันจันทร์จริงๆ เราออกไปทานข้าวกันก็ได้ค่ะ”
ประโยคที่ดังจากเรียวปากรูปกระจับ เรียกรอยยิ้มยินดีจากคนฟังซึ่งก้าวกลับมาหยุดอยู่ตรงหน้าด้วยแววตาเหมือนคนดีใจสุดขีด “ผมจะเคลียร์ตัวเองให้ว่างทั้งวันเพื่อโรสครับ”
ฟิลิปป์กล่าวเสร็จก็ก้มลงมาฝังจูบลงบนแก้มซ้ายของโรสรินเร็วๆ ส่งยิ้มกระชากใจเมื่อเจ้าของแก้มนุ่มอุทานว่าอุ๊ยและแหงนหน้ามองเขาด้วยสีหน้าตื่นตระหนก
“ฝันดีนะครับเจ้าหญิงโรสริน”
สิ้นคำอวยพร ร่างของคนสูงก็เดินจากไป ทิ้งให้คนถูกขโมยหอมแก้มยืนตื่นตะลึงจนกระทั่งรถคันหรูของเขาแล่นออกจากหน้าคอนโด
มือสั่นเป็นเจ้าของโรสรินขยับขึ้นมาแตะผิวแก้มร้อนระอุของตัวเองอย่างเผลอไผล จำไม่ได้ว่ายืนเป็นหุ่นอยู่ตรงนั้นนานกี่นาที การะเกดจึงโทร.มาตามเพราะเห็นว่าหายลงมานานผิดปกติ
สาวน้อยไม่ได้เล่าสิ่งที่เกิดขึ้นให้พี่สาวฟังเพราะรู้ว่าคงถูกตำหนิ แล้วหากการะเกดซักไซ้จนรู้ว่าความสัมพันธ์ลับๆ ระหว่างเธอกับฟิลิปป์เริ่มต้นอย่างไร ก็คงจะห้ามให้ติดต่อกันเหมือนสมัยที่มีหนุ่มๆ มารุมจีบเธอ
การะเกดนั่งคุยกับน้องสาวประมาณห้านาทีก็รีบคว้าแก้วน้ำขึ้นดื่มและถือโทรศัพท์วิ่งหายเข้าไปในห้องนอนด้วยสีหน้ายิ้มระรื่น
“เป็นยังไงบ้างคะ ทุกอย่างเรียบร้อยดีไหม”
“ทำเสียงแบบนี้คงจะเปรมปรีดิ์ที่นายฟิลิปป์ไปส่งมากล่ะสิ” แดเนียลระเบิดความพลุ่งพล่านผ่านเสียงกระด้าง ตามหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายมาจากลอนดอนนั้น เขาไม่ควรจะรู้สึกรู้สากับคนที่ยังอยู่ในข่ายผู้ต้องสงสัย แต่ก็ไม่รู้ทำไมถึงยังหงุดหงิดกับภาพที่หล่อนยิ้มร่าให้ฟิลิปป์
“คุณเห็น?” การะเกดทวนคำกระแนะกระแหนด้วยความแปลกใจ
“ตกใจล่ะสิ” เขาโต้กลับเสียงติดประชด “พฤติกรรมของคุณมันทำให้ผมได้คิดและสงสัยว่าทำไมผู้ชายที่ต้องคอยเอาใจยายหมูตอนในงานปาร์ตี้จะต้องเป็นผม ทั้งที่ถ้าเคทขอร้องให้หมอนั่นทำ ก็น่าจะได้รับคำตอบที่น่าพอใจ แถมยังไม่ต้องฝืนใจเอาข้อมูลของลูกค้ามาให้เหมือนในกรณีของผมอีกด้วย”
“คุณแดนพูดเหมือนกำลังหึงเกดเลยนะคะ” หญิงสาวตอบเสียงกลั้วหัวเราะ
“ผมเนี่ยนะหึงเคท พูดผิดพูดใหม่ได้นะ” หน้าของคนพูดแดงก่ำเมื่อรู้สึกตัวว่าหลงระเบิดความฉุนเฉียวจนแสดงความรู้สึกแท้จริงออกไป
“ถ้าไม่หึงเกดก็อาจจะแอบหึงคุณฟิลิปป์” คราวนี้กามเทพสาวหัวเราะคิก ในขณะที่คนต้นสายหน้าตาดุดันขึ้นอีกเท่าตัว
“ต้องให้บอกกี่ครั้งว่าผมเป็นผู้ชายทั้งแท่ง” คนถูกปรามาสว่าอาจเป็นเกย์คำรามใส่โทรศัพท์ ถ้าหากแม่ตัวแสบยืนอยู่ตรงหน้า เขาจะคว้ามาจูบลงทัณฑ์จนกว่าความคิดพิเรนทร์นั้นจะถูกขับออกจากมันสมอง
“อย่าโกรธสิคะ เกดแค่ล้อเล่นนิดหน่อยเท่านั้นเอง” น้ำเสียงของการะเกดเปลี่ยนเป็นออดอ้อนออเซาะ “แล้วไปส่งยายปลวกมาเป็นไงบ้างคะ คุณแดนได้ขึ้นไปเห็นคอนโดของเขาหรือเปล่า”
“มันเป็นประสบการณ์ที่แย่ที่สุดครับ ถ้าผมไม่ได้ลุงยามช่วย ป่านนี้อาจจะโดนยายอ้วนปลุกปล้ำขืนใจแล้วก็ได้” ชายหนุ่มพ่นลมหายใจออกยาว นึกภาพที่ปากของคอลัมนิสต์สาวจูบเฉียดมุมปากเขาไปเพียงนิดเดียวด้วยความขนพองสยองเกล้า
“ฮ้า ! ขนาดนั้นเลยเหรอคะ” หญิงสาวพยายามกลั้นหัวเราะอย่างสุดความสามารถ
“ใช่ครับ ยายนั่นแกล้งเมาจนเดินไม่ไหว ผมต้องอุ้มขึ้นไปส่งถึงห้องพัก โชคดีนะที่ลุงยามขึ้นไปคอยเปิดประตูและอยู่รอ เพราะพอวางลงบนเตียงปุ๊บ ยายหื่นนั่นก็พยายามลากผมลงไปด้วยเฉยเลย” ขนอ่อนบนกายหนุ่มลุกชันยามย้อนกลับไปนึกถึงช่วงเวลาแห่งความอุตลุดระหว่างเขา แองจี้และยามรักษาการณ์ที่กระโดดขึ้นเตียงมาลากสาวหื่นออกห่างจากเขา แต่ก็โดนคนแกล้งเมาหันไปก่นด่าว่าไม่เจียมพร้อมทั้งฟ้อนเล็บใส่จนหน้าได้แผล
“คุณพระ !เกดไม่คิดเลยค่ะว่ายายปลวกจะหื่นขนาดนั้น ขอโทษนะคะที่คุณแดนต้องเจอประสบการณ์ที่เลวร้าย” การะเกดแสร้งทำเสียงเหมือนประหลาดใจขณะกลิ้งไปกลิ้งมาอยู่บนที่นอน นี่ถ้าเล่าให้หรรษาฟังวันจันทร์ คงจะฮากันจนน้ำหูน้ำตาไหลเลยทีเดียว
“ช่างเถอะครับ ยังไงมันก็ผ่านไปแล้ว ผมหวังว่าชีวิตนี้จะไม่ต้องเจอเขาอีก” เขาตอบเสียงเนือย
“ค่ะ แล้วคุณแดนถึงที่พักหรือยังคะ” หญิงสาวเปลี่ยนหัวข้อสนทนา ไม่ใช่เขาคนเดียวหรอกที่โล่ง เธอเองก็แอบโล่งที่ทุกอย่างผ่านไปด้วยดี แถมการกระทำแบบสิ้นคิดของแองจี้ก็จะถูกนำมาเป็นข้ออ้างของการเลิกให้ความสนใจของแดเนียลด้วย
“ถึงปุ๊บก็โทร.หาเคทปั๊บเลยครับ ที่ผมไม่โทร.หาก่อนหน้าเพราะกลัวว่าเคทอาจจะยังอยู่กับหมอนั่น”แววตาสีน้ำตาลอมทองฉายแววขุ่นเคืองขึ้นมาอีก “สรุปว่าเคทจริงจังเรื่องคบหากับฟิลิปป์ใช่ไหมครับ”
“ไม่รู้สิคะ” การะเกดอมยิ้ม โล่งใจอย่างบอกไม่ถูกกับการตัดสินใจบอกหนุ่มฝรั่งเศสว่าระหว่างเธอกับเขาคงเป็นได้เพียงกามเทพกับลูกค้า ถึงจะพึงพอใจในรูปลักษณ์ภายนอกของฟิลิปป์ แต่เธอก็ทำใจยอมรับผู้ชายที่ส่อแววเจ้าชู้อย่างเขาไม่ได้
“หมายความว่ายังไงครับ”
“ถึงจะหาคนมาเป็นแฟนกำมะลอ แต่เคทก็อยากได้ผู้ชายที่ทั้งดูดีและน่าจะรักเดียวใจเดียวมากกว่านี้ค่ะ”
“ผู้ชายดูดีและรักเดียวใจเดียวเหมือนผมใช่ไหมครับ” แววตาของคนถามฉายความยินดีอย่างปิดไม่มิด
“ไหงยกหางตัวเองอย่างนี้ล่ะคะ” หญิงสาวทำปากยื่นย่นจมูกใส่โทรศัพท์ ไม่อยากยอมรับง่ายๆ ว่าเขาคือผู้ชายในอุดมคติคนนั้น
“ไม่ได้ยกแค่หาง ผมยกทั้งตัวเลย เพราะผมมั่นใจว่ามีคุณสมบัติทั้งสองอย่างครับ” คนมั่นใจว่าดีพอยิ้มมีความสุข
“เวลาพ่อค้าขายของ ก็มีแต่บอกว่าของของตัวเองดีทั้งนั้นแหละค่ะ ไม่เห็นมีสักรายที่จะสะกิดบอกลูกค้าว่าของชิ้นไหนมีตำหนิ” กามเทพสาวเปรียบเปรยด้วยความหมั่นไส้
“ถ้าจะมีตำหนิก็คงตรงที่ว่าของมันเคยผ่านการใช้งานมาบ้างแล้วเท่านั้นแหละครับคุณเทพแห่งกาม” คนพูดทำท่ากระหยิ่มยิ้มย่อง
“ทะลึ่ง !” หน้าของกามเทพสาวแดงแปร๊ด
“เคทชวนผมคุยทะลึ่งก่อนทำไมล่ะครับ” แดเนียลกล่าวกลั้วหัวเราะ
“มันเป็นการอุปมาอุปไมยค่ะ ไม่ได้หมายถึง ‘ของ’ อย่างที่คุณคิด” หญิงสาวส่ายหน้าเอือมระอา
“อ้าวเหรอครับ ผมนึกว่าเคทกำลังหมายถึงเรื่องพรรค์นั้นเสียอีก” เขายังทะเล้นไม่เลิก ส่งผลให้คนฟังหน้าแดงขึ้นไปอีก
“ถ้าคุณยังไม่เลิกพูดเรื่องนี้ เกดจะวางสายเข้านอนแล้วนะคะ” การะเกดเปลี่ยนมาสวมบทสาวขี้งอน
“เลิกก็ได้ครับ” ชายหนุ่มยอมความแต่โดยดี “พรุ่งนี้ให้ผมเข้าไปรับเคทกี่โมงดีครับ”
“ไม่ต้องมารับก็ได้มั้งคะ เดี๋ยวเกดขับรถไปหาเอง คุณแดนจะได้ไม่ต้องมารับมาส่งให้ลำบากค่ะ”รอยยิ้มอ่อนหวานยังเจืออยู่บนดวงหน้ากระจ่างใส ถึงการพบกันพรุ่งนี้จะไม่ใช่การนัดเดต แต่เธอกลับตื่นเต้นอย่างบอกไม่ถูก
“ก็ไม่เห็นจะลำบากอะไรนี่ครับ เพราะที่พักของผมอยู่ห่างจากคอนโดของเคทแค่สิบห้านาทีเอง ผมอยากไปทำความรู้จักน้องสาวของเคทด้วย” แดเนียลยิ้มกริ่มเมื่อแผนการบางอย่างผุดขึ้นในสมอง
“ทำความรู้จักน้องสาวของเกดทำไมคะ” คนถามทำหน้านิ่วคิ้วขมวด
“ก็เขาจะได้รู้ว่าพี่สาวจะออกไปข้างนอกกับผู้ชายหน้าตาแบบไหน ไว้ใจได้หรือเปล่าน่ะสิครับ หรือว่าเคทมีอะไรที่จงใจปิดผม เลยไม่กล้าให้ไปเจอน้องโรสครับ” เขาแสร้งสร้างข้อสันนิษฐานขึ้นมาอีก
“ไม่มีค่ะ เกดแค่ไม่อยากฟังยายโรสแซวเรื่องคุณหลังจากนั้น” หญิงสาวยอมรับตามตรง
“เดี๋ยวผมจะบอกน้องโรสเองว่าห้ามพูดห้ามแซวให้เคทรำคาญใจ งั้นพรุ่งนี้ผมแวะเข้าไปหาตอนสิบโมงครึ่งนะครับ” แดเนียลสรุป
“ค่ะ” หญิงสาวตอบสั้นๆ แล้วก็อ้าปากหาว
“ดึกมากแล้ว เคททำงานมาเหนื่อยๆ พักผ่อนดีกว่านะครับ” หางเสียงของคนพูดแสดงความห่วงอาทร
“ค่ะ ฝันดีนะคะ”
“ฝันดีเช่นกันครับ” มุมปากคนพูดปรากฏรอยยิ้มพึงใจ ความขุ่นมัวที่มีมาหลายชั่วโมง มลายหายไปอย่างไม่น่าเชื่อเมื่อปรับคลื่นความเข้าใจกับเจ้าของเสียงหวานได้ แม้จะบอกตัวเองว่าระหว่างเขากับการะเกดเหมือนเส้นขนานที่คงไม่มีวันเดินทางมาบรรจบกัน แต่แรงดึงดูดมหาศาลก็มากเสียจนไม่รู้ว่าหลังจากได้ข้อมูลตามที่ต้องการแล้ว เขาจะสามารถตีตัวออกห่างอย่างที่ตั้งใจไว้ตั้งแต่แรกได้หรือเปล่า
ชายหนุ่มอาบน้ำเข้านอนอย่างไม่รีบร้อน และรู้สึกตัวตอนประมาณเจ็ดโมงเช้าเหมือนวันก่อนๆ แม้จะบอกตัวเองว่าการไปพบการะเกดวันนี้ไม่ใช่การออกเดต แต่กลับเป็นวันที่เขาลังเลในการเลือกเสื้อผ้าว่าตัวไหนใส่แล้วดูดีที่สุด
แดเนียลขับรถไปจอดหน้าคอนโดของหญิงสาวก่อนเวลานัดประมาณสี่สิบนาที เขาโทร.หาและฟังกามเทพคนสวยโวยวายมาก่อนเวลานัดอยู่หลายนาที ก่อนที่เจ้าหล่อนจะส่งน้องสาวลงมารับ ในขณะที่ตัวเองลนลานเข้าไปอาบน้ำ
“คุณแดนใช่ไหมคะ” โรสรินฉีกยิ้มให้หนุ่มหล่อ
“ครับ” เขาตอบรับแล้วรีบยกมือขึ้นรับไหว้สาวน้อยหน้าหวาน โรสรินสวยสมกับเป็นน้องสาวของการะเกด นอกจากจะมีรอยยิ้มที่ทำให้โลกสว่างไสวขึ้นแล้ว ดวงตาดำขลับยังสวยเก๋ชวนมอง
“พี่เกดอาบน้ำก็เลยส่งโรสลงมารับคุณแดนแทนค่ะ เชิญข้างในเลยค่ะ”
“โรสเรียกว่าพี่ว่าพี่แดนก็ได้ครับ” เขากล่าวอย่างเป็นกันเองขณะเดินตามหลังเธอเดินตรงไปหาลิฟต์
“ค่ะพี่แดน” โรสรินยิ้มจนตาหยี “โรสได้ยินพี่เกดพูดถึงพี่แดนทุกวันจนอยากรู้ว่าหน้าตาจะเป็นแบบไหนค่ะ”
“แล้วผิดหวังหรือเปล่าล่ะครับ” คิ้วหนาเลิกขึ้นเล็กน้อย
“หูย โรสโยนคำว่าผิดหวังทิ้งตั้งแต่วินาทีแรกที่เห็นพี่แดนแล้วล่ะค่ะ” สาวน้อยปากหวานเสียจนคนฟังหัวเราะ
“แน่ใจนะครับว่าโรสไม่ได้พูดแบบนี้กับหนุ่มทุกคนที่แวะมาหาพี่เคทน่ะ” เขาขยิบตาขี้เล่นใส่เจ้าของดวงหน้าแฉล้ม ถือโอกาสล้วงความลับเสียเลยว่ามีหนุ่มกี่คนมาข้องแวะกับการะเกด
“สาบานเลยค่ะว่าไม่มีหนุ่มคนอื่นมายุ่งกับพี่เกด ผู้ชายที่พี่เกดคุยด้วยช่วงนี้มีแค่พี่แดนเท่านั้นค่ะ เพราะอย่างงี้ไงคะ โรสถึงอยากเจอพี่แดน” โรสรินทำตาชวนฝัน ดีใจแทบบ้าที่รู้ว่าหนุ่มที่พี่สาวคนสวยคุยด้วยทุกคืนสูงยาวเข่าดี แถมหน้าตายังหล่อเหลาเอาการอีกต่างหาก
เพราะเหตุนี้กระมัง พี่สาวของเธอถึงได้ยอมรับสายและเลิกโอดครวญเรื่องหาแฟน แม้ปากจะพร่ำบอกว่าเป็นแค่เพื่อน แต่การกระทำของการะเกดกับพ่อหนุ่มคนนี้มันเข้าข่ายคนที่กำลังคบหาดูใจกันชัดๆ
“คอนโดน่าอยู่ดีนะครับ ซื้อหรือว่าเช่าครับ” ชายหนุ่มพึมพำเมื่อเดินเข้าไปยืนอยู่กลางคอนโดแบบสองห้องนอน
“เช่าค่ะ แต่ก็ได้เรตถูกมากๆ เพราะเป็นคอนโดของน้าที่เขาซื้อไว้ขายเก็งกำไรน่ะค่ะ พี่แดนอยากดื่มน้ำ น้ำชาหรือกาแฟคะ” เสียงหวานถามหลังจากผายมือเชิญเขานั่ง
“ถ้าไม่ลำบากโรสมาก พี่ขอกาแฟดำสักแก้วก็ละกันครับ” ตาคมยังมองสำรวจรอบๆ ห้องพักแห่งนั้นเพื่อเก็บรายละเอียดอื่น “ทำไมพี่สาวของโรสถึงยังโสดมาจนถึงทุกวันนี้ล่ะครับ”
คำถามนั้นทำเอาคนที่ยืนหันหลังชงกาแฟให้ถึงกับลอบยิ้ม เธอไม่รู้หรอกนะว่าเขารู้ตื้นลึกหนาบางของการะเกดขนาดไหน แต่ก็ไม่ได้โง่จนดูไม่ออกว่าแดเนียลกำลังถือโอกาสที่พี่สาวของเธอยังไม่ออกมา ถามเลียบเคียงเพื่อเก็บข้อมูล หรือไม่ก็เพราะอยากเปรียบเทียบข้อมูลว่าจะตรงกับที่เคยได้ยินมาจากปากของการะเกดไหม
“พี่เกดเคยหมั้นและเกือบได้เป็นเจ้าสาวมาแล้วครั้งหนึ่งค่ะ แต่ผู้ชายดันไม่รักดี แอบมีคนอื่นระหว่างที่บินไปดูงานต่างประเทศ ตั้งแต่นั้นพี่เกดก็ปิดตายหัวใจและไม่ยอมคบหาหรือเปิดโอกาสให้ผู้ชายคนไหนได้เข้าใกล้อีกค่ะ” โรสรินกล่าวถึงตรงนี้ก็ถือกาแฟถ้วยนั้นมาส่งให้เขาด้วยใบหน้ายิ้มๆ “พี่แดนเป็นคนแรกที่พี่เกดยอมให้ก้าวเข้ามาในชีวิตค่ะ”
“ขอบคุณครับที่เล่าให้พี่ฟัง” ชายหนุ่มยิ้มเยือนจากน้ำใสใจจริง บอกตัวเองไม่ถูกว่ารู้สึกยินดีขนาดไหนเมื่อสิ่งที่โรสรินเล่าให้ฟังตรงกับที่การะเกดเคยบอกเขามาแล้วครั้งหนึ่ง
“แล้วตกลงพี่แดนเป็นเพื่อนหรือว่าเป็นอย่างอื่นกับพี่สาวของโรสคะ” สาวน้อยถามตรงเสียจนคนฟังสำลักกาแฟที่เพิ่งยกขึ้นจิบ
“เอ่อ ตอนนี้พี่กับเคทเป็นเพื่อนกันเท่านั้นครับ” แดเนียลไม่มีทางเลือกนอกจากตอบคำถามแบบตรงไปตรงมาเช่นกัน เขานั่งคุยกับโรสรินต่ออีกเกือบยี่สิบนาที ประตูห้องนอนของการะเกดจึงถูกเปิดออก
“เกดไม่ขอโทษที่ออกมาช้านะคะ เพราะคุณมาถึงเร็วเอง” ใบหน้าของเธององ้ำจนแดเนียลอดขำไม่ได้
“ผมยังไม่ได้บ่นหรือโวยวายสักคำเลยนะครับที่เคทเพิ่งออกมา คนที่บ่นเป็นหมีกินผึ้งอยู่ขณะนี้เห็นจะมีคนเดียวเท่านั้น” ชายหนุ่มกล่าวเสร็จก็หัวเราะผสมโรงกับโรสรินซึ่งอึดใจต่อมาก็ปิดปากเงียบกริบเพราะสายตาเขียวปัดของพี่สาว
“พี่จะออกไปธุระกับคุณแดนสักสองสามชั่วโมง ถ้าอยากให้ซื้ออะไรเข้ามาก็โทร.บอกละกัน” หญิงสาวสั่งโรสรินขณะหยิบรองเท้าส้นสูงมาสวมอย่างคล่องแคล่วแล้วเดินออกจากห้องพักแบบไม่มีการรอเขา
“ไม่ต้องรีบพาพี่เกดกลับมาส่งเร็วนักก็ได้นะคะพี่แดน พาไปทานข้าว ดูหนัง ฟังเพลงได้นานจนกว่าจะพอใจเลยค่ะ” สาวน้อยหันมาบอกด้วยแววตาทะเล้น
“งั้นพี่ขออนุญาตพาเคทกลับเลทนิดหนึ่งนะครับ” แดเนียลขยิบตากลับไปแบบขี้เล่นปานกันก่อนจะเดินตามการะเกดออกไป
ความคิดเห็น