ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ลูบคมกามเทพ

    ลำดับตอนที่ #10 : หลุมพรางเสน่หา

    • อัปเดตล่าสุด 3 ส.ค. 67


    รถของฟิลิปป์แล่นผ่านป้อมยามเข้ามาจอดหน้าล็อบบีของคอนโดของผู้โดยสารสาวตอนสี่ทุ่มครึ่ง ชายหนุ่มลงจากรถและเดินอ้อมมาเปิดประตูบริการการะเกดตามแบบฉบับของสุภาพบุรุษ

    “ขอบคุณที่อุตส่าห์มาส่งเกดค่ะ” หญิงสาวพึมพำพร้อมกับยิ้มให้เขา

                “ด้วยความยินดีครับ หากสนใจจะใช้บริการอีกก็โทร. หาผมได้ตลอด” หนุ่มฝรั่งเศสยิ้มกรุ้มกริ่ม

                “เกดจะจำไว้ค่ะ คุณฟิลิปป์ขับรถกลับดีๆ นะคะ”

                “ว้า ผมนึกว่าคุณเกดจะพูดว่าวันหลังไปทานข้าวด้วยกันนะคะเสียอีก” ฟิลิปป์ทำหน้าทำตาเหมือนผิดหวังจนเธอหัวเราะ

                “ที่เกดยังไม่พูดเพราะเห็นว่าคุณน่าจะคิวยาวเพราะแจกนามบัตรสาวๆ หลายรายต่างหากค่ะ”นัยน์ตาดำขลับฉายแววล้อเลียนกึ่งรู้ทัน

                “โอเคครับ ผมเข้าใจแล้วว่าคุณเกดมองผมเป็นเพียงลูกค้าคนหนึ่ง เอาเป็นว่าผมจะพยายามตัดใจ”เขาแกล้งตีหน้าเศร้า

                “มันเป็นจรรยาบรรณของคนทำงานเป็นกามเทพอย่างเกดมากกว่าค่ะ คุณฟิลิปป์เป็นคนน่ารักและช่างเอาใจ เกดเชื่อว่าต้องมีลูกค้าสาวสักคนที่ต้องตาต้องใจคุณมากกว่าเกดค่ะ” การะเกดยิ้มเยือนเมื่อในที่สุดได้คำตอบที่แน่นอน หลังจากปล่อยให้หัวใจอยู่กับความคลุมเครือมากว่าหนึ่งอาทิตย์ 

                “ผมเข้าใจแล้วครับ งั้นผมจะเลิกส่งดอกไม้หรือโทร.มาเซ้าซี้คุณเกดอีก แต่ถ้าวันไหนคุณเกดเปลี่ยนใจ อยากนัดเจอหรือทานข้าวกัน ผมเปิดประตูหัวใจรออยู่เสมอครับ” ชายหนุ่มสรุปอย่างสุภาพบุรุษใจกว้าง

                “ค่ะ ขับรถกลับดีๆ นะคะ” หญิงสาวกล่าวคำอำลาก่อนจะเดินเข้าไปในตัวตึก เธอไม่มีโอกาสรู้ว่าฟิลิปป์ไม่ได้เคลื่อนรถคันหรูไปไหน แต่เขาคว้าโทรศัพท์มากดหาโรสรินและกรอกเสียงทุ้มลงไปทันทีที่สาวน้อยกดรับ

                “คิดถึงโรสจังเลยครับ”

                “อุตส่าห์ไปงานปาร์ตี้ของพี่เกด คุณฟิลไม่เจอสาวถูกใจสักรายเลยเหรอคะ” ดวงหน้าจิ้มลิ้มเจือรอยยิ้มแห่งความพอใจเพราะคำหวานหูที่เขาประเคนให้

                “ถ้าหากเจอก็คงไม่หาเรื่องขับรถมาส่งคุณเกดเพื่อที่จะแอบมารอเจอน้องสาวของเขาขนาดนี้หรอกครับ” หนุ่มเมืองน้ำหอมกล่าวด้วยสุ้มเสียงจริงจังท้ายประโยค

                “อะไรนะคะ” โรสรินหน้าตื่นตาโต

                “ตอนนี้รถของผมจอดอยู่หน้าล็อบบีข้างล่างครับ คุณเกดกำลังจะขึ้นไป แต่ผมอยากเจอโรส ผมจะไม่กลับจนกว่าโรสจะยอมลงมาเจอ ลงมาให้ผมเห็นหน้าสักครั้งเถอะนะครับ” ชายหนุ่มส่งเสียงออดอ้อน

                “พี่เกดคงดุและไม่ยอมให้โรสลงไปแน่เลยค่ะ” บอกเขาเสียงขลาด แต่หัวใจกลับเต้นโครมครามที่รู้ว่าผู้ชายที่คุยกันวันละหลายชั่วโมงจะมาปรากฏตัวอยู่หน้าคอนโด

                “ก็อย่าบอกคุณเกดสิครับว่าลงมาเจอผม ผมจะรอจนกว่าโรสจะมานะครับ” หนุ่มแผนสูงกล่าวเสร็จก็วางสายด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ เขาผ่านร้อนผ่านหนาวมามาก รู้ว่ากับผู้หญิงอ่อนต่อโลกอย่างโรสรินจะต้องใช้วิธีไหนเพื่อให้ใจอ่อน

                สาวน้อยสะดุ้งเฮือกเมื่อประตูห้องพักถูกเคาะหนักๆ หลายครั้งติดต่อกัน

     “กลับมาแล้วเหรอพี่เกด” โรสรินทักพี่สาวคนสวยด้วยรอยยิ้มจืดเจื่อน 

                “อืม กลับมาแล้วก็หิวมากๆ ด้วย มีอะไรให้พี่หม่ำบ้างล่ะ” การะเกดสลัดรองเท้าส้นสูงสีเงินออกอย่างไม่ไยดีและสาวเท้าเข้าไปเปิดตู้เย็น

                “คืนนี้มีกระเพราหมูกับต้มจืดใบตำลึง” คนพูดเดินไปหยิบกระเป๋าสตางค์กับคีย์การ์ดของห้องพัก “เดี๋ยวโรสไปซื้อของที่เซเว่นก่อนนะ”

                “อื้อ ระวังตัวด้วยล่ะ” ผู้เป็นพี่ไม่ได้ระแวงว่าการกระทำนั้นเป็นสิ่งปกติแต่อย่างใดเพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่น้องสาวคนสวยลงไปซื้อของกลางดึก

                โรสรินยิ้มรับและออกจากห้องด้วยหัวใจพองโต ทั้งตื่นเต้นทั้งหวาดหวั่นว่าหนุ่มที่กำลังจะลงไปพบรูปร่างหน้าตาเป็นอย่างไร แต่คิดว่าอย่างไรเสียก็คงหาทางหนีทีไล่ได้ไม่ยาก หากว่าตัวตนของฟิลิปป์ไม่ได้เป็นอย่างที่คิดไว้ เพราะที่นี่เป็นถิ่นของเธอ

                หัวใจสาวเต้นแรงเร็วยามก้าวออกจากลิฟต์ที่ล็อบบีของคอนโด เธอค่อยๆ สืบเท้าเรียวเล็กไปยังประตูทางออกเพราะอยากแอบมองฝ่ายที่รออยู่ก่อนว่าหน้าตาของเขาเป็นอย่างไร

                วินาทีที่เห็นร่างสูงชะลูดของหนุ่มหล่อที่ยืนพิงประตูรถซึ่งถลกแขนเสื้อสูทขึ้นดูหน้าปัดนาฬิกาด้วยท่าทางกระวนกระวาย หัวใจดวงน้อยๆ ของโรสรินก็เต้นแรงเหมือนมันจะกระโจนออกจากทรวงอก

                ฟิลิปป์หล่อเหลายิ่งกว่าที่เธอจินตนาการไว้หลายเท่า เขามีรูปร่างสูงผิดกับที่เธอเคยได้ยินว่าผู้ชายฝรั่งเศสส่วนมากจะตัวเล็ก รูปหน้าตามแบบฉบับของคนสายเลือดตะวันตกนั้นดูดีราวกับสวรรค์ปั้นแต่ง

                จากที่เคยมั่นใจตนเป็นผู้หญิงสวยน่ารักมากคนหนึ่ง เวลานี้เธอชักจะไม่มั่นใจเสียแล้วว่าดูดีพอสำหรับผู้ชายสมบูรณ์แบบอย่างเขา ทว่าก่อนที่จะหมุนตัวเดินกลับไปหาลิฟต์เพื่อขึ้นไปแต่งหน้าทาปากและเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดที่ดูดีกว่าเสื้อยืดกับกางเกงขาสั้น ฟิลิปป์ก็เงยหน้าและสบตาหวาดหวั่นของเธอเข้าอย่างจัง  

    “บงซัวร์” ชายหนุ่มขยับปากทักทายเป็นภาษาฝรั่งเศส ยิ้มกว้างด้วยความดีใจและเร่งฝีเท้าตรงมาหาประตูหน้าล็อบบีเหมือนกับมั่นใจว่าเธอคือคนที่จะลงมาเจอ

    โรสรินไม่มีทางเลือกนอกจากยิ้มแห้งและรูดคีย์การ์ดเปิดประตูกระจก แล้วก้าวออกไปยืนตัวลีบอยู่บนทางเดิน

                “สวัสดีค่ะ” เธอทักทายแบบคนขาดความมั่นใจ 

                “ผมนึกว่าต้องยืนรอโรสถึงพรุ่งนี้เช้าเสียแล้ว” ฟิลิปป์ยิ้มกว้าง “ทำยังไงคุณเกดถึงปล่อยตัวลงมาได้ครับ”

                “โรสบอกพี่เกดว่าจะลงมาซื้อของที่เซเว่นใกล้ๆ นี่คะ” บอกเขาเสียงอ่อยเพราะรู้สึกผิดที่ต้องสร้างเรื่องมาโกหกพี่สาวเพียงคนเดียว

                “จะซื้อของจริงๆ หรือเปล่าล่ะครับ ถ้าซื้อผมจะได้เดินไปเป็นเพื่อน” หนุ่มเมืองน้ำหอมเสนอตัวด้วยใบหน้ายิ้มๆ หลังจากไล่สายตาคมเหมือนเหยี่ยวไปทั่วร่างเย้ายวนอย่างสำรวจตรวจตรา เขายอมรับว่าถึงจะผอมบางกว่าการะเกดไปบ้าง แต่โรสรินก็สวยสดไม่แพ้ผู้เป็นพี่ตามที่เขาเคยตั้งข้อสันนิษฐานไว้ แถมยังน่าสนใจกว่าการะเกดตรงที่อายุน้อยกว่าถึงห้าปี

                “ถ้าคุณฟิลไม่รีบก็ได้ค่ะ” เจ้าของเสียงหวานงึมงำเสียงเกือบเป็นกระซิบก่อนจะเดินเคียงเขาไปยังประตูทางออก 

                ความเงียบงันต่างจากสมัยที่คุยโทรศัพท์เรียกรอยยิ้มขบขันจากฟิลิปป์ เขาอ่านใจเธอออกอย่างทะลุปรุโปร่งว่ากำลังประหม่าขัดเขินกับการเผชิญหน้ากันอย่างหนัก

    “แน่ใจนะครับว่าโรสเป็นคนเดียวกันกับโรสที่คุยโทรศัพท์กับผมมาหลายวัน” ชายหนุ่มส่งสายตาล้อเลียนกึ่งเสน่หาให้คนฟังซึ่งหน้าแดงก่ำมากขึ้นไปอีก

                “คือโรสไม่รู้จะพูดอะไรเพราะเราเจอกันกะทันหันน่ะค่ะ” แก้มสาวร้อนปานนั่งอยู่ข้างไฟกองใหญ่ 

                “ผิดหวังหรือเปล่าครับที่ผมรูปร่างหน้าตาเป็นแบบนี้” เขาถามพร้อมกับส่งสายตาลึกซึ้ง 

                “มะ ไม่ค่ะ คนที่ผิดหวังน่าจะเป็นคุณฟิลมากกว่า” ตอบเสียงสั่นพลางเร่งฝีเท้าจะให้ถึงร้านสะดวกซื้อที่อยู่ห่างจากคอนโดประมาณสองร้อยเมตร

                “โรสคิดผิดแล้วล่ะครับ” ฟิลิปป์เปรยเสียงเอื่อย รอจนกระทั่งสาวน้อยหน้าหวานหันมาสบตาอีกครั้งถึงได้เฉลย “นอกจากจะไม่ผิดหวังแล้ว ผมยังแอบขอบคุณตัวเองที่ตัดสินใจมาขอเจอโรสคืนนี้ด้วยครับ”

                “…” ไอร้อนไล้เลียบนผิวแก้มของโรสริน เขินกับคำพูดและสายตามีความหมายคู่นั้นจนพูดอะไรไม่ออก

                “โรสสวยกว่าที่ผมคิดไว้หลายเท่าเลยครับ สวยเหมือนกุหลาบหายากที่ดอกยังตูมอยู่ และก็คงจะสวยยิ่งกว่านี้หากดอกบานเต็มที่” ชายหนุ่มเปรียบเปรยเหมือนคนละเมอ  

                “คุณชมมากเกินไปแล้วค่ะ” โรสรินขมุบขมิบกลีบปากสีชมพูอ่อนตอบเขาด้วยหัวใจสั่นระรัว เธอยอมรับว่าแอบชื่นชมว่าเขาเป็นคนน่ารัก คุยสนุกตอนคุยกันทางโทรศัพท์ แต่พอเจอหน้ากันจังๆ แบบนี้ ความรู้สึกชื่นชมนั้นกลับเปลี่ยนเป็นความรู้สึกอื่นที่รุนแรงยิ่งกว่า

                ‘รักแรกพบ’ 

                นั่นคือสิ่งที่ตะโกนก้องจากทุกซอกหัวใจของผู้หญิงชื่อโรสรินขณะนี้

                “แต่ผมสาบานได้ว่าสิ่งที่เพิ่งพูดไป มาจากหัวใจที่กำลังเต้นแรงไม่หยุดตั้งแต่วินาทีที่ได้เห็นหน้าของโรสนะครับ” ฟิลิปป์เปล่งคำหวานและปิดปากเงียบเมื่อก้าวเข้าไปในร้านสะดวกซื้อ เขาแย่งตะกร้าจากมือของสาวน้อยมาถือ แล้วเดินตามต้อยๆ ขณะที่โรสรินหยิบนั่นหยิบนี่มาใส่ พอถึงเวลาจ่ายเงินก็แย่งจัดการเองทั้งหมดโดยไม่สนว่าอีกฝ่ายจะหน้างอที่ถูกขัดใจ

                “พรุ่งนี้ไปทานข้าวดูหนังกันนะครับ”

                “พรุ่งนี้โรสต้องอยู่กับพี่เกดค่ะ คงไม่สะดวกจะออกไปไหน แถมยังต้องเร่งงานแปลส่งสำนักพิมพ์อีก” หญิงสาวแกล้งเฉไฉ 

                “พรุ่งนี้ไม่ได้ งั้นมะรืนนี้ล่ะครับ มะรืนนี้เป็นวันเกิดของโรส แถมคุณเกดก็ทำงาน โรสคงไม่ขลุกอยู่บนห้อง แปลงานจนไม่มีเวลาทานข้าวหรือพักสายตาหรอกนะครับ” หนุ่มเจ้าเล่ห์ดักคอ

                “มะรืนนี้คุณฟิลไม่ทำงานเหรอคะ” โรสรินยังไม่ยอมตอบรับคำชวนของเขา 

                “มะรืนนี้ผมตั้งใจจะเกงานเพื่อฉลองวันเกิดของโรสครับ” เขาขยิบตา “ผมตัดสินใจตอนนี้เลยดีกว่าว่ามะรืนนี้ผมจะขับรถมาหาโรสตอนสิบโมงเช้า ผมจะรออยู่ข้างล่างจนกว่าโรสจะใจอ่อนยอมลงมาเจอ”

                “คุณกำลังมัดมือชกโรสอยู่นะคะ” สาวน้อยปรายตามองเขาอย่างดุ 

                “เปล่านะครับ ผมให้สิทธิ์การตัดสินใจเป็นของโรส ถ้าโรสไม่ลงมาเจอ ผมก็แค่หน้าเศร้า ผิดหวังและก็อกหักก่อนเวลาอันควรเท่านั้นเอง แต่ผมก็ยังยืนยันว่าจะหน้าด้านตามตื๊อต่อจนกว่าโรสจะให้ยามไล่ออกจากคอนโดเหมือนหมูเหมือนหมา” ฟิลิปป์เปิดฉากจีบแบบไม่อ้อมค้อม 

                “คุณฟิลทำแบบนี้กับผู้หญิงทุกคนใช่ไหมคะ” โรสรินมองเสี้ยวหน้าหล่อเหลาด้วยแววตาค้นคว้า

                “ถ้าผมตอบว่านี่เป็นครั้งแรกในรอบห้าปี โรสจะหาว่าผมโกหกไหมล่ะครับ” แววตาใสซื่อมองตอบคนฟังเหมือนอยากให้เธอเห็นถึงขั้วหัวใจ เขาเคยเล่าให้โรสรินฟังว่าเคยรักผู้หญิงคนหนึ่งหัวปักหัวปำเมื่อห้าปีก่อน แต่สุดท้ายก็โดนหล่อนสลัดรักไปกับคนอื่นแบบไม่ไยดี 

                “ไม่รู้สิคะ” เรียวปากอิ่มขยับขึ้นลงเพียงเล็กน้อย ใจเต้นแรงยามคิดว่าไม่ใช่เธอคนเดียวที่รู้สึกถึงแรงดึงดูดที่มีต่อกัน

                “ตอบอย่างนี้แสดงว่าโรสไม่เชื่อผมงั้นสินะครับ” น้ำเสียงคนพูดฟังดูเศร้าสร้อยจนคนฟังรู้สึกผิด

                “ไม่ใช่อย่างนั้นหรอกค่ะ โรสแค่คิดว่าเรารู้จักกันเร็วเกินไป” โรสรินกลืนน้ำลายลงไปหล่อเลี้ยงลำคอแห้งผาก “พี่เกดเล่าให้โรสฟังว่าผู้หญิงที่ไปงานปาร์ตี้ล่องเรือมีแต่คนสวยและเพียบพร้อมกันทั้งนั้น”

                “เพื่อพิสูจน์ว่าผมไม่ใช่ผู้ชายคบเผื่อเลือก ผมจะยกเลิกการเป็นสมาชิกกับคิวปิดฮัทตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไปครับ” ฟิลิปป์กล่าวด้วยสีหน้าจริงจัง แล้วไม่ยอมกล่าวอะไรอีกจนกระทั่งเดินไปถึงหน้าล็อบบีของคอนโดอีกครั้ง 

                “ผมดีใจนะครับที่เราได้เจอกัน” ชายหนุ่มส่งถุงชอปปิงทั้งสองใบให้เธอ

                “ค่ะ ขอบคุณนะคะที่ซื้อของพวกนี้ให้โรส” สาวน้อยพึมพำพร้อมกับส่งยิ้มบางๆ ให้เขา วินาทีนี้เธอรู้สึกใจหายอย่างบอกไม่ถูกที่จะต้องกล่าวคำอำลาต่อกัน 

                “ไม่เป็นไรครับ งั้นพรุ่งนี้ผมจะโทร.หาโรสนะครับ” ฟิลิปป์ทำหน้าเศร้า

                “ค่ะ” โรสรินพยักหน้า แล้วก็ยืนแข็งทื่อเมื่อคนฟังยิ้มตอบแล้วหมุนตัวเดินห่างออกไปอย่างช้าๆ มันเป็นภาพที่ทรมานใจคนมองอย่างอาลัยอาวรณ์จนตัดสินใจตะโกนตามหลังว่า 

    “คุณฟิลคะ”

                คนที่เดินห่างออกไปเพียงห้าก้าวหยุดฝีเท้าและหันกลับมาทันทีเช่นกัน “มีอะไรเหรอครับ”

                “เอ่อ” สาวน้อยทำเสียงตะกุกตะกักในลำคอ ทั้งเขินอายทั้งไม่แน่ใจว่าสิ่งที่หัวใจพยายามสั่งให้พูดไป มันเกิดขึ้นในเวลาและสถานการณ์ที่เหมาะสมหรือเปล่า “ถ้าหากคุณว่างวันจันทร์จริงๆ เราออกไปทานข้าวกันก็ได้ค่ะ”

                ประโยคที่ดังจากเรียวปากรูปกระจับ เรียกรอยยิ้มยินดีจากคนฟังซึ่งก้าวกลับมาหยุดอยู่ตรงหน้าด้วยแววตาเหมือนคนดีใจสุดขีด “ผมจะเคลียร์ตัวเองให้ว่างทั้งวันเพื่อโรสครับ”

                ฟิลิปป์กล่าวเสร็จก็ก้มลงมาฝังจูบลงบนแก้มซ้ายของโรสรินเร็วๆ ส่งยิ้มกระชากใจเมื่อเจ้าของแก้มนุ่มอุทานว่าอุ๊ยและแหงนหน้ามองเขาด้วยสีหน้าตื่นตระหนก

    “ฝันดีนะครับเจ้าหญิงโรสริน”

    สิ้นคำอวยพร ร่างของคนสูงก็เดินจากไป ทิ้งให้คนถูกขโมยหอมแก้มยืนตื่นตะลึงจนกระทั่งรถคันหรูของเขาแล่นออกจากหน้าคอนโด 

    มือสั่นเป็นเจ้าของโรสรินขยับขึ้นมาแตะผิวแก้มร้อนระอุของตัวเองอย่างเผลอไผล จำไม่ได้ว่ายืนเป็นหุ่นอยู่ตรงนั้นนานกี่นาที การะเกดจึงโทร.มาตามเพราะเห็นว่าหายลงมานานผิดปกติ 

    สาวน้อยไม่ได้เล่าสิ่งที่เกิดขึ้นให้พี่สาวฟังเพราะรู้ว่าคงถูกตำหนิ แล้วหากการะเกดซักไซ้จนรู้ว่าความสัมพันธ์ลับๆ ระหว่างเธอกับฟิลิปป์เริ่มต้นอย่างไร ก็คงจะห้ามให้ติดต่อกันเหมือนสมัยที่มีหนุ่มๆ มารุมจีบเธอ 

    การะเกดนั่งคุยกับน้องสาวประมาณห้านาทีก็รีบคว้าแก้วน้ำขึ้นดื่มและถือโทรศัพท์วิ่งหายเข้าไปในห้องนอนด้วยสีหน้ายิ้มระรื่น

                “เป็นยังไงบ้างคะ ทุกอย่างเรียบร้อยดีไหม”

                “ทำเสียงแบบนี้คงจะเปรมปรีดิ์ที่นายฟิลิปป์ไปส่งมากล่ะสิ” แดเนียลระเบิดความพลุ่งพล่านผ่านเสียงกระด้าง ตามหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายมาจากลอนดอนนั้น เขาไม่ควรจะรู้สึกรู้สากับคนที่ยังอยู่ในข่ายผู้ต้องสงสัย แต่ก็ไม่รู้ทำไมถึงยังหงุดหงิดกับภาพที่หล่อนยิ้มร่าให้ฟิลิปป์  

                “คุณเห็น?” การะเกดทวนคำกระแนะกระแหนด้วยความแปลกใจ 

                “ตกใจล่ะสิ” เขาโต้กลับเสียงติดประชด “พฤติกรรมของคุณมันทำให้ผมได้คิดและสงสัยว่าทำไมผู้ชายที่ต้องคอยเอาใจยายหมูตอนในงานปาร์ตี้จะต้องเป็นผม ทั้งที่ถ้าเคทขอร้องให้หมอนั่นทำ ก็น่าจะได้รับคำตอบที่น่าพอใจ แถมยังไม่ต้องฝืนใจเอาข้อมูลของลูกค้ามาให้เหมือนในกรณีของผมอีกด้วย”

                “คุณแดนพูดเหมือนกำลังหึงเกดเลยนะคะ” หญิงสาวตอบเสียงกลั้วหัวเราะ 

                “ผมเนี่ยนะหึงเคท พูดผิดพูดใหม่ได้นะ” หน้าของคนพูดแดงก่ำเมื่อรู้สึกตัวว่าหลงระเบิดความฉุนเฉียวจนแสดงความรู้สึกแท้จริงออกไป

    “ถ้าไม่หึงเกดก็อาจจะแอบหึงคุณฟิลิปป์” คราวนี้กามเทพสาวหัวเราะคิก ในขณะที่คนต้นสายหน้าตาดุดันขึ้นอีกเท่าตัว

                “ต้องให้บอกกี่ครั้งว่าผมเป็นผู้ชายทั้งแท่ง” คนถูกปรามาสว่าอาจเป็นเกย์คำรามใส่โทรศัพท์ ถ้าหากแม่ตัวแสบยืนอยู่ตรงหน้า เขาจะคว้ามาจูบลงทัณฑ์จนกว่าความคิดพิเรนทร์นั้นจะถูกขับออกจากมันสมอง

                “อย่าโกรธสิคะ เกดแค่ล้อเล่นนิดหน่อยเท่านั้นเอง” น้ำเสียงของการะเกดเปลี่ยนเป็นออดอ้อนออเซาะ “แล้วไปส่งยายปลวกมาเป็นไงบ้างคะ คุณแดนได้ขึ้นไปเห็นคอนโดของเขาหรือเปล่า”

                “มันเป็นประสบการณ์ที่แย่ที่สุดครับ ถ้าผมไม่ได้ลุงยามช่วย ป่านนี้อาจจะโดนยายอ้วนปลุกปล้ำขืนใจแล้วก็ได้” ชายหนุ่มพ่นลมหายใจออกยาว นึกภาพที่ปากของคอลัมนิสต์สาวจูบเฉียดมุมปากเขาไปเพียงนิดเดียวด้วยความขนพองสยองเกล้า

                “ฮ้า ! ขนาดนั้นเลยเหรอคะ” หญิงสาวพยายามกลั้นหัวเราะอย่างสุดความสามารถ

                “ใช่ครับ ยายนั่นแกล้งเมาจนเดินไม่ไหว ผมต้องอุ้มขึ้นไปส่งถึงห้องพัก โชคดีนะที่ลุงยามขึ้นไปคอยเปิดประตูและอยู่รอ เพราะพอวางลงบนเตียงปุ๊บ ยายหื่นนั่นก็พยายามลากผมลงไปด้วยเฉยเลย” ขนอ่อนบนกายหนุ่มลุกชันยามย้อนกลับไปนึกถึงช่วงเวลาแห่งความอุตลุดระหว่างเขา แองจี้และยามรักษาการณ์ที่กระโดดขึ้นเตียงมาลากสาวหื่นออกห่างจากเขา แต่ก็โดนคนแกล้งเมาหันไปก่นด่าว่าไม่เจียมพร้อมทั้งฟ้อนเล็บใส่จนหน้าได้แผล

                “คุณพระ !เกดไม่คิดเลยค่ะว่ายายปลวกจะหื่นขนาดนั้น ขอโทษนะคะที่คุณแดนต้องเจอประสบการณ์ที่เลวร้าย” การะเกดแสร้งทำเสียงเหมือนประหลาดใจขณะกลิ้งไปกลิ้งมาอยู่บนที่นอน นี่ถ้าเล่าให้หรรษาฟังวันจันทร์ คงจะฮากันจนน้ำหูน้ำตาไหลเลยทีเดียว 

                “ช่างเถอะครับ ยังไงมันก็ผ่านไปแล้ว ผมหวังว่าชีวิตนี้จะไม่ต้องเจอเขาอีก” เขาตอบเสียงเนือย

                “ค่ะ แล้วคุณแดนถึงที่พักหรือยังคะ” หญิงสาวเปลี่ยนหัวข้อสนทนา ไม่ใช่เขาคนเดียวหรอกที่โล่ง เธอเองก็แอบโล่งที่ทุกอย่างผ่านไปด้วยดี แถมการกระทำแบบสิ้นคิดของแองจี้ก็จะถูกนำมาเป็นข้ออ้างของการเลิกให้ความสนใจของแดเนียลด้วย

                “ถึงปุ๊บก็โทร.หาเคทปั๊บเลยครับ ที่ผมไม่โทร.หาก่อนหน้าเพราะกลัวว่าเคทอาจจะยังอยู่กับหมอนั่น”แววตาสีน้ำตาลอมทองฉายแววขุ่นเคืองขึ้นมาอีก “สรุปว่าเคทจริงจังเรื่องคบหากับฟิลิปป์ใช่ไหมครับ”

                “ไม่รู้สิคะ” การะเกดอมยิ้ม โล่งใจอย่างบอกไม่ถูกกับการตัดสินใจบอกหนุ่มฝรั่งเศสว่าระหว่างเธอกับเขาคงเป็นได้เพียงกามเทพกับลูกค้า ถึงจะพึงพอใจในรูปลักษณ์ภายนอกของฟิลิปป์ แต่เธอก็ทำใจยอมรับผู้ชายที่ส่อแววเจ้าชู้อย่างเขาไม่ได้

                “หมายความว่ายังไงครับ”

                “ถึงจะหาคนมาเป็นแฟนกำมะลอ แต่เคทก็อยากได้ผู้ชายที่ทั้งดูดีและน่าจะรักเดียวใจเดียวมากกว่านี้ค่ะ”

                “ผู้ชายดูดีและรักเดียวใจเดียวเหมือนผมใช่ไหมครับ” แววตาของคนถามฉายความยินดีอย่างปิดไม่มิด

                “ไหงยกหางตัวเองอย่างนี้ล่ะคะ” หญิงสาวทำปากยื่นย่นจมูกใส่โทรศัพท์ ไม่อยากยอมรับง่ายๆ ว่าเขาคือผู้ชายในอุดมคติคนนั้น

                “ไม่ได้ยกแค่หาง ผมยกทั้งตัวเลย เพราะผมมั่นใจว่ามีคุณสมบัติทั้งสองอย่างครับ” คนมั่นใจว่าดีพอยิ้มมีความสุข

                “เวลาพ่อค้าขายของ ก็มีแต่บอกว่าของของตัวเองดีทั้งนั้นแหละค่ะ ไม่เห็นมีสักรายที่จะสะกิดบอกลูกค้าว่าของชิ้นไหนมีตำหนิ” กามเทพสาวเปรียบเปรยด้วยความหมั่นไส้

                “ถ้าจะมีตำหนิก็คงตรงที่ว่าของมันเคยผ่านการใช้งานมาบ้างแล้วเท่านั้นแหละครับคุณเทพแห่งกาม” คนพูดทำท่ากระหยิ่มยิ้มย่อง

                “ทะลึ่ง !” หน้าของกามเทพสาวแดงแปร๊ด 

                “เคทชวนผมคุยทะลึ่งก่อนทำไมล่ะครับ” แดเนียลกล่าวกลั้วหัวเราะ  

                “มันเป็นการอุปมาอุปไมยค่ะ ไม่ได้หมายถึง ‘ของ’ อย่างที่คุณคิด” หญิงสาวส่ายหน้าเอือมระอา

                “อ้าวเหรอครับ ผมนึกว่าเคทกำลังหมายถึงเรื่องพรรค์นั้นเสียอีก” เขายังทะเล้นไม่เลิก ส่งผลให้คนฟังหน้าแดงขึ้นไปอีก

                “ถ้าคุณยังไม่เลิกพูดเรื่องนี้ เกดจะวางสายเข้านอนแล้วนะคะ” การะเกดเปลี่ยนมาสวมบทสาวขี้งอน

                “เลิกก็ได้ครับ” ชายหนุ่มยอมความแต่โดยดี “พรุ่งนี้ให้ผมเข้าไปรับเคทกี่โมงดีครับ”

                “ไม่ต้องมารับก็ได้มั้งคะ เดี๋ยวเกดขับรถไปหาเอง คุณแดนจะได้ไม่ต้องมารับมาส่งให้ลำบากค่ะ”รอยยิ้มอ่อนหวานยังเจืออยู่บนดวงหน้ากระจ่างใส ถึงการพบกันพรุ่งนี้จะไม่ใช่การนัดเดต แต่เธอกลับตื่นเต้นอย่างบอกไม่ถูก 

                “ก็ไม่เห็นจะลำบากอะไรนี่ครับ เพราะที่พักของผมอยู่ห่างจากคอนโดของเคทแค่สิบห้านาทีเอง ผมอยากไปทำความรู้จักน้องสาวของเคทด้วย” แดเนียลยิ้มกริ่มเมื่อแผนการบางอย่างผุดขึ้นในสมอง

                “ทำความรู้จักน้องสาวของเกดทำไมคะ” คนถามทำหน้านิ่วคิ้วขมวด

                “ก็เขาจะได้รู้ว่าพี่สาวจะออกไปข้างนอกกับผู้ชายหน้าตาแบบไหน ไว้ใจได้หรือเปล่าน่ะสิครับ หรือว่าเคทมีอะไรที่จงใจปิดผม เลยไม่กล้าให้ไปเจอน้องโรสครับ” เขาแสร้งสร้างข้อสันนิษฐานขึ้นมาอีก

                “ไม่มีค่ะ เกดแค่ไม่อยากฟังยายโรสแซวเรื่องคุณหลังจากนั้น” หญิงสาวยอมรับตามตรง

                “เดี๋ยวผมจะบอกน้องโรสเองว่าห้ามพูดห้ามแซวให้เคทรำคาญใจ งั้นพรุ่งนี้ผมแวะเข้าไปหาตอนสิบโมงครึ่งนะครับ” แดเนียลสรุป

                “ค่ะ” หญิงสาวตอบสั้นๆ แล้วก็อ้าปากหาว

                “ดึกมากแล้ว เคททำงานมาเหนื่อยๆ พักผ่อนดีกว่านะครับ” หางเสียงของคนพูดแสดงความห่วงอาทร 

                “ค่ะ ฝันดีนะคะ”

                “ฝันดีเช่นกันครับ” มุมปากคนพูดปรากฏรอยยิ้มพึงใจ ความขุ่นมัวที่มีมาหลายชั่วโมง มลายหายไปอย่างไม่น่าเชื่อเมื่อปรับคลื่นความเข้าใจกับเจ้าของเสียงหวานได้ แม้จะบอกตัวเองว่าระหว่างเขากับการะเกดเหมือนเส้นขนานที่คงไม่มีวันเดินทางมาบรรจบกัน แต่แรงดึงดูดมหาศาลก็มากเสียจนไม่รู้ว่าหลังจากได้ข้อมูลตามที่ต้องการแล้ว เขาจะสามารถตีตัวออกห่างอย่างที่ตั้งใจไว้ตั้งแต่แรกได้หรือเปล่า

                ชายหนุ่มอาบน้ำเข้านอนอย่างไม่รีบร้อน และรู้สึกตัวตอนประมาณเจ็ดโมงเช้าเหมือนวันก่อนๆ แม้จะบอกตัวเองว่าการไปพบการะเกดวันนี้ไม่ใช่การออกเดต แต่กลับเป็นวันที่เขาลังเลในการเลือกเสื้อผ้าว่าตัวไหนใส่แล้วดูดีที่สุด  

                แดเนียลขับรถไปจอดหน้าคอนโดของหญิงสาวก่อนเวลานัดประมาณสี่สิบนาที เขาโทร.หาและฟังกามเทพคนสวยโวยวายมาก่อนเวลานัดอยู่หลายนาที ก่อนที่เจ้าหล่อนจะส่งน้องสาวลงมารับ ในขณะที่ตัวเองลนลานเข้าไปอาบน้ำ

    “คุณแดนใช่ไหมคะ” โรสรินฉีกยิ้มให้หนุ่มหล่อ

                “ครับ” เขาตอบรับแล้วรีบยกมือขึ้นรับไหว้สาวน้อยหน้าหวาน โรสรินสวยสมกับเป็นน้องสาวของการะเกด นอกจากจะมีรอยยิ้มที่ทำให้โลกสว่างไสวขึ้นแล้ว ดวงตาดำขลับยังสวยเก๋ชวนมอง

                “พี่เกดอาบน้ำก็เลยส่งโรสลงมารับคุณแดนแทนค่ะ เชิญข้างในเลยค่ะ”

                “โรสเรียกว่าพี่ว่าพี่แดนก็ได้ครับ” เขากล่าวอย่างเป็นกันเองขณะเดินตามหลังเธอเดินตรงไปหาลิฟต์

                “ค่ะพี่แดน” โรสรินยิ้มจนตาหยี “โรสได้ยินพี่เกดพูดถึงพี่แดนทุกวันจนอยากรู้ว่าหน้าตาจะเป็นแบบไหนค่ะ”

                “แล้วผิดหวังหรือเปล่าล่ะครับ” คิ้วหนาเลิกขึ้นเล็กน้อย 

                “หูย โรสโยนคำว่าผิดหวังทิ้งตั้งแต่วินาทีแรกที่เห็นพี่แดนแล้วล่ะค่ะ” สาวน้อยปากหวานเสียจนคนฟังหัวเราะ

                “แน่ใจนะครับว่าโรสไม่ได้พูดแบบนี้กับหนุ่มทุกคนที่แวะมาหาพี่เคทน่ะ” เขาขยิบตาขี้เล่นใส่เจ้าของดวงหน้าแฉล้ม ถือโอกาสล้วงความลับเสียเลยว่ามีหนุ่มกี่คนมาข้องแวะกับการะเกด

                “สาบานเลยค่ะว่าไม่มีหนุ่มคนอื่นมายุ่งกับพี่เกด ผู้ชายที่พี่เกดคุยด้วยช่วงนี้มีแค่พี่แดนเท่านั้นค่ะ เพราะอย่างงี้ไงคะ โรสถึงอยากเจอพี่แดน” โรสรินทำตาชวนฝัน ดีใจแทบบ้าที่รู้ว่าหนุ่มที่พี่สาวคนสวยคุยด้วยทุกคืนสูงยาวเข่าดี แถมหน้าตายังหล่อเหลาเอาการอีกต่างหาก 

    เพราะเหตุนี้กระมัง พี่สาวของเธอถึงได้ยอมรับสายและเลิกโอดครวญเรื่องหาแฟน แม้ปากจะพร่ำบอกว่าเป็นแค่เพื่อน แต่การกระทำของการะเกดกับพ่อหนุ่มคนนี้มันเข้าข่ายคนที่กำลังคบหาดูใจกันชัดๆ

                “คอนโดน่าอยู่ดีนะครับ ซื้อหรือว่าเช่าครับ” ชายหนุ่มพึมพำเมื่อเดินเข้าไปยืนอยู่กลางคอนโดแบบสองห้องนอน 

                “เช่าค่ะ แต่ก็ได้เรตถูกมากๆ เพราะเป็นคอนโดของน้าที่เขาซื้อไว้ขายเก็งกำไรน่ะค่ะ พี่แดนอยากดื่มน้ำ น้ำชาหรือกาแฟคะ” เสียงหวานถามหลังจากผายมือเชิญเขานั่ง

                “ถ้าไม่ลำบากโรสมาก พี่ขอกาแฟดำสักแก้วก็ละกันครับ” ตาคมยังมองสำรวจรอบๆ ห้องพักแห่งนั้นเพื่อเก็บรายละเอียดอื่น “ทำไมพี่สาวของโรสถึงยังโสดมาจนถึงทุกวันนี้ล่ะครับ”

                คำถามนั้นทำเอาคนที่ยืนหันหลังชงกาแฟให้ถึงกับลอบยิ้ม เธอไม่รู้หรอกนะว่าเขารู้ตื้นลึกหนาบางของการะเกดขนาดไหน แต่ก็ไม่ได้โง่จนดูไม่ออกว่าแดเนียลกำลังถือโอกาสที่พี่สาวของเธอยังไม่ออกมา ถามเลียบเคียงเพื่อเก็บข้อมูล หรือไม่ก็เพราะอยากเปรียบเทียบข้อมูลว่าจะตรงกับที่เคยได้ยินมาจากปากของการะเกดไหม

    “พี่เกดเคยหมั้นและเกือบได้เป็นเจ้าสาวมาแล้วครั้งหนึ่งค่ะ แต่ผู้ชายดันไม่รักดี แอบมีคนอื่นระหว่างที่บินไปดูงานต่างประเทศ ตั้งแต่นั้นพี่เกดก็ปิดตายหัวใจและไม่ยอมคบหาหรือเปิดโอกาสให้ผู้ชายคนไหนได้เข้าใกล้อีกค่ะ” โรสรินกล่าวถึงตรงนี้ก็ถือกาแฟถ้วยนั้นมาส่งให้เขาด้วยใบหน้ายิ้มๆ “พี่แดนเป็นคนแรกที่พี่เกดยอมให้ก้าวเข้ามาในชีวิตค่ะ”

                “ขอบคุณครับที่เล่าให้พี่ฟัง” ชายหนุ่มยิ้มเยือนจากน้ำใสใจจริง บอกตัวเองไม่ถูกว่ารู้สึกยินดีขนาดไหนเมื่อสิ่งที่โรสรินเล่าให้ฟังตรงกับที่การะเกดเคยบอกเขามาแล้วครั้งหนึ่ง

                “แล้วตกลงพี่แดนเป็นเพื่อนหรือว่าเป็นอย่างอื่นกับพี่สาวของโรสคะ” สาวน้อยถามตรงเสียจนคนฟังสำลักกาแฟที่เพิ่งยกขึ้นจิบ

                “เอ่อ ตอนนี้พี่กับเคทเป็นเพื่อนกันเท่านั้นครับ” แดเนียลไม่มีทางเลือกนอกจากตอบคำถามแบบตรงไปตรงมาเช่นกัน เขานั่งคุยกับโรสรินต่ออีกเกือบยี่สิบนาที ประตูห้องนอนของการะเกดจึงถูกเปิดออก

                “เกดไม่ขอโทษที่ออกมาช้านะคะ เพราะคุณมาถึงเร็วเอง” ใบหน้าของเธององ้ำจนแดเนียลอดขำไม่ได้

                “ผมยังไม่ได้บ่นหรือโวยวายสักคำเลยนะครับที่เคทเพิ่งออกมา คนที่บ่นเป็นหมีกินผึ้งอยู่ขณะนี้เห็นจะมีคนเดียวเท่านั้น” ชายหนุ่มกล่าวเสร็จก็หัวเราะผสมโรงกับโรสรินซึ่งอึดใจต่อมาก็ปิดปากเงียบกริบเพราะสายตาเขียวปัดของพี่สาว

                “พี่จะออกไปธุระกับคุณแดนสักสองสามชั่วโมง ถ้าอยากให้ซื้ออะไรเข้ามาก็โทร.บอกละกัน” หญิงสาวสั่งโรสรินขณะหยิบรองเท้าส้นสูงมาสวมอย่างคล่องแคล่วแล้วเดินออกจากห้องพักแบบไม่มีการรอเขา

                “ไม่ต้องรีบพาพี่เกดกลับมาส่งเร็วนักก็ได้นะคะพี่แดน พาไปทานข้าว ดูหนัง ฟังเพลงได้นานจนกว่าจะพอใจเลยค่ะ” สาวน้อยหันมาบอกด้วยแววตาทะเล้น 

                “งั้นพี่ขออนุญาตพาเคทกลับเลทนิดหนึ่งนะครับ” แดเนียลขยิบตากลับไปแบบขี้เล่นปานกันก่อนจะเดินตามการะเกดออกไป 

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×