คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #13 : When the feeling is right, you just can’t fight.
หญิงสาวพะว้าพะวังมองคนบ้าบิ่นว่ายน้ำออกห่างจากชายฝั่งด้วยความกระวนกระวายใจ สุดท้ายก็สะดุ้งเพราะเสียงเรียกเข้าของโทรศัพท์ในกระเป๋าของเขา นิสัยอยากรู้อยากเห็นมาแต่ไหนแต่ไรทำให้เธอถือโอกาสนั้นก้มลงรูดซิปและล้วงมือลงไปควานหามือถือเจ้ากรรม ทั้งๆ ที่ตายังมองแดเนียลแบบไม่กะพริบเพราะกลัวว่าเขาจะหันกลับมาเห็นว่าถือวิสาสะเปิดเป้ส่วนตัว
“อยู่ไหนนะ” ปากอิ่มบ่นอุบเพราะเป้ใบนั้นมีหลายหลืบหลายชั้น ที่สุดมือของเธอก็คลำเจอบางอย่างที่กระตุ้นต่อมสงสัยจนรีบรูดซิปอีกชั้นเข้าไปหยิบมันออกมา
“ปืน !” การะเกดตาโตกับการค้นพบใหม่ในสิ่งที่ไม่คาดฝัน มือสั่นเทาของเธอรีบยัดปืนที่ยังอยู่ในซองหนังสีดำกลับเข้าที่ ถัดจากนั้นเธอก็สัมผัสสิ่งที่มีลักษณะคล้ายกระเป๋าสตางค์ แล้วพอล้วงออกมาเปิดดูก็ถึงกับอ้าปากค้าง
ด้านในฝั่งซ้ายของสิ่งที่มองผิวเผินคล้ายกระเป๋าสตางค์ใบนั้น เป็นตราสัญลักษณ์ดาบปักลูกโลกสีทองซึ่งมีอักษรภาษาอังกฤษกำกับไว้ว่า INTERPOL SPECIAL AGENT ฝั่งขวาเป็นไอดีการ์ดที่ระบุชื่อ-นามสกุลกับรหัสประจำตัวอยู่ใต้รูปของเขา
สรุปว่าแดเนียลเป็นตำรวจสากล !
เขาหลอกเธอมาโดยตลอดและคงเข้ามาเป็นลูกค้าของคิวปิดฮัทเพื่อสืบหาข้อมูล
นาทีนี้กามเทพสาวไม่คิดจะสนใจหาโทรศัพท์มือถือของคนหลอกลวง หัวใจของเธอสั่นระรัว ไม่ต่างจากเนื้อตัวที่สั่นขึ้นมาดื้อๆ กับการความจริงที่กระแทกหัวใจ
“อีตาตำรวจเจ้าเล่ห์ ขอให้จมน้ำตายขากลับ หรือโดนปลาฉลามคาบไปกินด้วยเถอะ” เรียวปากอิ่มบริภาษหลังจากเก็บของลับของคนหลอกลวงกลับที่เดิมและนั่งมองเขาด้วยแววตาอาฆาต ทว่าชั่วขณะก็ยกมือขึ้นตบปากของตัวเองและยกมือขึ้นไหว้เจ้าป่าเจ้าเขา ขออย่าให้เกิดเรื่องดังกล่าวขึ้นกับเขาเลย ไม่เช่นนั้นเธอคงรู้สึกผิดบาปไปตลอดชีวิต
สิบสามนาทีหลังออกจากชายฝั่ง แดเนียลก็ว่ายน้ำไปแตะขอบเรือใบลำนั้นซึ่งฝรั่งเจ้าของเรือยิ้มให้อย่างเป็นมิตร
“ว้าว ผมไม่อยากจะเชื่อเลยว่าคุณจะว่ายน้ำมาถึงนี่” ชายวัยห้าสิบทักทายเขาเป็นภาษาอังกฤษสำเนียงออสเตรเลีย
“ผมพนันกับสาวไว้น่ะครับว่าถ้าว่ายมาแตะเรือแล้วกลับไปฝั่งได้ภายในครึ่งชั่วโมง เขาจะยอมจูบกับผม ถ้าผมจะขอขึ้นไปยืนบนเรือและโบกมือยืนยันกับเขาว่ามาถึงนี่จริงๆ คุณจะว่าอะไรไหมครับ” ชายหนุ่มกล่าวปนหอบ
“เชิญครับ” คนพูดช่วยฉุดมือและดึงเขาขึ้นไปบนเรือ “ผมชักอยากเห็นหน้าของผู้หญิงคนนั้นเสียแล้วสิ ว่าสวยหยาดฟ้ามาดินขนาดไหนถึงทำให้คุณต้องลงทุนทำขนาดนี้”
“ก็สวยครับ” แดเนียลหัวเราะหึๆ พร้อมกับโบกมือหย็อยๆ ให้คนบนฝั่งซึ่งลุกขึ้นยืนและโบกมือตอบ
“เกลือแร่ครับ” เจ้าของเรือเดินไปหยิบเกลือแร่แช่เย็นหนึ่งขวดมายื่นให้
“ขอบคุณครับ” ตำรวจหนุ่มรับมาเปิดและดื่มดับกระหาย “ผมแดเนียลครับ”
“สตีฟครับ” เจ้าของเรือยื่นมือไปเชกแฮนด์ตามธรรมเนียมสากล
“ผมอยากอยู่คุยต่อ แต่เห็นจะไม่ได้เพราะต้องรีบกลับไปรับจูบ” คนร้อนใจเพราะกลัวจะพลาดจูบกล่าวและส่งขวดเครื่องดื่มคืน
“โชคดีครับ ฝากบอกสาวคนนั้นด้วยว่าถ้าหากยอมปล่อยให้ผู้ชายอย่างคุณหลุดลอยไปจากชีวิต แสดงว่าเขาโง่มาก” สตีฟมองตามร่างสูงที่กระโดดพุ่งตัวลงไปในน้ำด้วยมาดของนักกีฬาด้วยแววตาชื่นชม แอบลุ้นให้หนุ่มหล่อหุ่นนักกีฬาไปถึงชายฝั่งภายในเวลาที่กำหนด
การะเกดมองการมาของฉลามหนุ่มด้วยหัวใจระทึก แม้จะโกรธที่เขาบังอาจต้มเธอจนเปื่อยเกี่ยวกับหน้าที่การงาน แต่ก็อดใจเต้นตุ้มๆ ต่อมๆ กับการเดิมพันครั้งนี้ไม่ได้ ริมฝีปากสาวแห้งผากจนต้องหยิบลิปมันในกระเป๋ามาทา ทว่าพอคิดว่ามันแลดูเหมือนเตรียมพร้อมสำหรับการรับจูบของเขามากเกินไปก็ก่นด่าตัวเองเสียงขุ่น
“ไม่นะการะเกด เธอจะยอมให้คนหลอกลวงจูบไม่ได้เด็ดขาด ในเมื่อเขากล้าโกหกเรื่องงาน เธอก็ไม่จำเป็นต้องเอาจริงเอาจังกับเรื่องพนันบ้าๆ นี่ ถ้าเธอไม่ยอมให้จูบเสียอย่าง เขาจะทำอะไรได้” หญิงสาวเชิดหน้า คอตั้งตรงกับสัตย์ปฏิญาณที่มีเพียงตัวเองกับหมาแมวนับสิบตัวที่ป้วนเปี้ยนอยู่ใกล้ๆ ได้ยิน
ปากพูดพล่ามบอกไปอย่างนั้น...แต่ตาเจ้ากรรมก็เอาแต่มองแดเนียลสลับกับหน้าปัดนาฬิกาบนข้อมือ ยิ่งเขาว่ายเข้ามาใกล้เท่าไร ใจเธอก็ยิ่งเต้นตี้กตั้กแข่งกับเสียงคลื่น
“สงสัยต้องใช้วิธีเอาตัวรอดสุดท้ายแล้ว” ปากอิ่มขมุบขมิบพร้อมกับจัดการหมุนเข็มนาฬิกาไปข้างหน้าอย่างรีบร้อนเมื่อเห็นว่ายังไงเขาก็คงมาถึงฝั่งก่อนเวลาสามสิบนาทีพันเปอร์เซ็นต์
16 นาฬิกา 13 นาที 05 วินาที คือเวลาจริงที่แดเนียลก้าวขึ้นมาบนชายฝั่งด้วยรอยยิ้มมั่นอกมั่นใจ แต่บนหน้าปัดนาฬิกาของกรรมการสาวมันบอกว่าเขามาช้าไปกว่าเกือบสองนาที
“กี่โมงแล้วครับ” ชายหนุ่มฉีกยิ้มกว้าง
“16 นาฬิกา 15 นาที 45 วินาทีค่ะ เสียใจด้วยนะคะ” กามเทพสาวลอยหน้าลอยตาบอกด้วยรอยยิ้มของผู้ชนะ ในขณะที่คนเพิ่งมาถึงทำหน้านิ่วคิ้วขมวด ก่อนร่างสูงจะตรงมาคว้าข้อมือของเธอขึ้นไปดู
“ผมไม่เชื่อ !” คนหูหนักแผดเสียงลั่นหน้าหาดจนหมาแมวตกใจ
“หลักฐานตำตาขนาดนี้ ถ้าคุณไม่เชื่อ เกดก็ไม่รู้จะว่ายังไงแล้วล่ะค่ะ ไอ้ที่คุณปีนขึ้นเรือและเม้าต์มอยน่ะ มันก็กินเวลาอย่างต่ำสองนาทีแล้ว” หญิงสาวแว้ดกลับเสียงติดรำคาญ นึกในใจว่านี่เป็นบทลงโทษที่ผู้ชายขี้จุ๊อย่างเขาสมควรได้รับ
“ปกติผมใช้เวลาแค่ 25 นาทีในการว่ายน้ำหนึ่งไมล์” กรามของแดเนียลบดเป็นสันนูนเมื่อฉุกคิดอะไรออก พอกระแทกก้นลงบนเตียงผ้าใบก็คว้าเป้คู่ใจมาควานหาโทรศัพท์และกดหน้าจอดูเวลา
“นี่ไงล่ะหลักฐาน เวลาบนหน้าจอมันบอกว่าตอนนี้เพิ่งจะ 16 นาฬิกา 14 นาที” เขายัดมือถือให้สาวเจ้าปัญหา แล้วควานหานาฬิกาข้อมือออกมาเป็นหลักฐานอีกชิ้น “นาฬิกาข้อมือของผมก็บอกเหมือนกันว่ามันเพิ่งเลยสี่โมงเย็นมาแค่สิบสี่นาที คุณปรับเวลาในนาฬิกาข้อมือใช่ไหมเคท”
“นี่คุณแดน แพ้แล้วอย่ามาหาเรื่องชวนตีแบบนี้สิคะ ถ้าเกดรู้ว่าคุณจะมาพูดแบบนี้ เกดจะให้คุณขนนาฬิกากับมือถือออกมาตั้งเวลาให้ตรงกันเป๊ะๆ เลย” สาวเจ้าเล่ห์ตีหน้ายักษ์ใส่เขาขณะโวยวายด้วยสีหน้าสมจริง “นั่นคุณจะทำอะไรกับกระเป๋าเกดคะ”
“ผมจะดูว่าเวลาบนหน้าจอมือถือของคุณมันตรงกับของใคร” แดเนียลรูดซิปกระเป๋าถือและเทข้าวของสารพัดลงบนโต๊ะพลาสติกเตี้ยๆ โดยไม่สนใจเสียงด่าขรมของหล่อน “นี่ไงล่ะครับ เวลาบนหน้าจอมือถือของเคทก็ตรงกับเวลาในมือถือกับนาฬิกาของผม”
“จะพูดยังไงของคุณก็ช่าง แต่เกดยืนยันว่าไม่ได้ทำอะไร ตอนคุณลงไปเกดก็ยึดเวลาตามนาฬิกาของเกด เพราะฉะนั้นคุณไม่มีสิทธิ์จะมาตู่ว่าเกดโกง หรือถ้าอยากพิสูจน์อีกรอบก็ได้นะคะ เรียกป้ากับลุงที่เฝ้าร้านมาช่วยกันเป็นพยานเลยก็ได้” เรียวปากอิ่มคลี่ยิ้มหยันให้เขา
“ขอให้ฟ้าดินกับหมาแมวพวกนี้เป็นพยาน ถ้าคุณโกหกปลิ้นปล้อน ขอให้ตายแล้วเกิดใหม่อีกสิบชาติก็หาผู้ชายที่รักจริงไม่ได้” ผู้แพ้เค้นคำรามใส่ มั่นใจว่าถูกโกง แต่ในเมื่อผู้ร้ายไม่ยอมสารภาพ ตำรวจอย่างเขาก็ทำอะไรไม่ได้เพราะหลักฐานพยานไม่แน่นหนาพอ
“ใครโกหกอะไรไว้ ก็ขอให้พรเหล่านี้กลับคืนไปหาเป็นสิบเท่าเหมือนกันค่ะ” การะเกดกระแทกคำพูดคล้ายกันกลับไปด้วยสีหน้ายียวน
“ผมโกหกอะไรไม่ทราบ” ในเวลาเดือดปุดอย่างนี้ เขาไม่คิดจะพูดครับให้เสียอารมณ์
“เปล๊า เกดแค่พูดในกรณีทั่วไปเท่านั้นค่ะ ใครจะกล้ากล่าวหาหรือว่าอะไรคนอย่างคุณ” ผู้ร้ายที่ยังลอยนวลตอบหน้าระรื่น คิดจะเล่นเกมโปลิศจับขโมยกับเธองั้นเหรอ ไม่มีวันเสียล่ะที่เขาจะชนะ
หญิงสาวฮัมเพลงอย่างสบายอารมณ์ในขณะที่คนหน้าบึ้งเปลี่ยนเสื้อผ้าและหันมาบอกเสียงห้วนว่าจะพากลับ
“เดี๋ยวเกดขับรถให้คุณแดนนั่งสบายๆ ดีกว่านะคะ ว่ายน้ำเกือบสองกิโลฯ คงจะเหนื่อยจนไม่อยากขยับตัว” วายร้ายคนสวยฉีกยิ้มหน้าระรื่นบอกเมื่อนั่งสปีดโบ๊ตกลับไปถึงท่าเรือที่พัทยา คนเพลียจัดยอมมอบกุญแจรถให้แต่โดยดี และก็ผล็อยหลับหลังจากสารถีสาวขับออกจากพัทยาใต้ได้เพียงไม่นาน อาการหลับเป็นตายทำให้สาวเจ้าเล่ห์ตัดสินใจขับรถมุ่งหน้าไปคอนโดของตน ทันทีที่แล่นรถเข้าไปจอดก็หันมาสะกิดปลุก
“คุณแดนคะ ถึงคอนโดของเกดแล้วค่ะ เกดว่าเราแยกย้ายกันอาบน้ำให้สดชื่นก่อนออกไปดินเนอร์ดีกว่านะคะ” รอยยิ้มอ่อนหวานทำให้คนงัวเงียตื่นไม่กล้าบ่น
“เอางั้นก็ได้ครับ เคทจะชวนน้องโรสไปด้วยหรือเปล่าครับ” เขาถามเสียงเหมือนคนง่วงงุน
“ขอถามเขาดูก่อนละกันนะคะ สักทุ่มครึ่งคุณค่อยมารับเกดก็แล้วกันค่ะ” เธอกล่าวเสร็จก็ผลักประตูรถและยืนยิ้มให้ร่างสูงที่เดินอ้อมมาขึ้นรถฝั่งคนขับ ยอมรับว่าบางขณะก็แอบสงสารที่ทารุณกรรมเขาวันนี้
หญิงสาวเดินยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ไปหาลิฟต์ เมื่อเข้าไปในห้องพักก็ต้องขมวดคิ้วเพราะไม่เห็นเงาของน้องสาวคนสวย แถมพอโทร.หาก็ปรากฏว่าโรสรินปิดมือถือ
“สงสัยแบตหมด” เธอพึมพำขณะเข้าห้องนอนเพื่ออาบน้ำแต่งตัวใหม่ พอกลับออกมาอีกครั้งก็ยังไม่มีวี่แววของโรสริน โทร.หาก็ปรากฏว่ายังติดต่อไม่ได้เหมือนเดิม “ชักจะเหลวไหลใหญ่แล้วนะ น่าจะโทร.มาบอกกันบ้างว่าทำอะไร อยู่ที่ไหน”
การะเกดจำต้องลงไปสมทบคนมารับเมื่อเขาโทร.ขึ้นมาตาม แต่อาการหน้าดำคร่ำเคร่งเหมือนคนเครียดจัดของเธอก็ทำให้ชายหนุ่มอดสงสัยไม่ได้
“มีอะไรหรือเปล่าครับ”
“เกดติดต่อน้องไม่ได้ค่ะ ไม่รู้ว่าหายไปไหน โทร.หากี่รอบก็ไม่ติด ไม่รู้ว่าแบตหมด หรือปิดเครื่อง หรือโดนขโมยโทรศัพท์ แต่ปกติเวลาออกไปข้างนอกแล้วจะกลับผิดเวลา โรสจะโทร.มาบอกเกดไว้ก่อนเสมอ” หญิงสาวตอบเสร็จก็ลนลานหยิบมือถือจากกระเป๋าเพราะมีสายเข้า
“ยายโรสโทร.มาค่ะ!”
แดเนียลเพียงแต่ยิ้มบางๆ และรอฟังบทสนทนาระหว่างสองพี่น้อง
“ยายโรส นี่เราหายไปทำอะไรอยู่ที่ไหน พี่โทร.หาตั้งหลายครั้ง ทำไมถึงปิดมือถือ” คนห่วงใยถามแกมบ่น
“โทษทีพี่เกด โรสมาดูหนังกับเพื่อนเลยปิดเครื่อง พี่เกดถึงห้องแล้วเหรอ” คนพูดตอบพี่สาวพลางส่งยิ้มให้คนเลี้ยงหนังซึ่งนั่งรออยู่
“พี่กลับมาอาบน้ำ กะว่าจะชวนเราออกไปทานข้าวกับคุณแดน แต่กลับไม่อยู่ห้องเสียนี่ แล้วโรสไปดูหนังกับใคร ไหนบอกว่าเพื่อนๆ ไม่ค่อยว่างวันอาทิตย์ไง” การะเกดซักตามประสา
“เอ่อ โรสออกมากับหญิงน่ะ พี่เกดออกไปกับพี่แดนกันสองคนละกันนะ โรสไม่อยากไปเป็น กว้างขวางคอ เดี๋ยวโรสทานข้าวเสร็จก็จะกลับแล้ว” สาวน้อยถือโอกาสนั้น ตัดสินใจอยู่ทานข้าวตามคำชวนของหนุ่มเมืองน้ำหอม หลังจากเห็นว่าเขาทำตัวน่ารักขนาดไหนตลอดเวลาหลายชั่วโมงที่ไปชอปปิง เดินเล่นและดูหนังกัน
“อืม...พี่อาจจะกลับประมาณสี่ห้าทุ่ม โรสอย่ากลับดึกนักล่ะ” กามเทพสาวยอมตัดสาย
ไม่ได้ระแวงเลยว่าน้องสาวเพียงคนเดียวโกหกคำโตอย่างที่ไม่เคยทำมาก่อนในชีวิต
แดเนียลพาการะเกดนั่งแท็กซี่จากหน้าคอนโดไปยังร้านอาหารกึ่งผับที่เขาเกริ่นไว้ตอนอยู่เกาะล้าน แต่เพราะแท็กซี่คันนั้นไม่รู้ตำแหน่งที่แน่ชัดของร้านทำให้ขับเลยเข้าไปในซอยกว่าสองร้อยเมตร ผลก็คือเขาต้องพาเธอเดินย้อนกลับไป
“โชคดีที่ไม่ขับรถมา ไม่งั้นคงหาที่จอดลำบากแย่” ชายหนุ่มส่ายหน้าเมื่อมองถนนเต็มไปด้วยรถรา ร่างสูงคอยเดินประกบ ระวังไม่ให้การะเกดซึ่งสวมรองเท้าส้นสูงสี่นิ้วครึ่งหกล้มเพราะพื้นฟุตบาทที่ขรุขระ บางขณะที่ต้องลงมาเดินกันบนถนนเต็มไปด้วยรถแท็กซี่กับมอเตอร์ไซค์ ก็คว้าข้อมือเล็กไว้เพราะกลัวรถหรือมอเตอร์ไซค์จะมาเฉี่ยว
เสียงไลฟ์มิวสิกดังอื้ออึงที่เมื่อเดินมาถึงด้านหน้าของออสเตรเลียนผับ หลังจากยืนตัดสินใจกันสักครู่ พนักงานสาวสวยหุ่นเซ็กซี่ก็นำเขากับการะเกดเข้าไปนั่งโต๊ะซึ่งที่นั่งเป็นโซฟาหนังสีน้ำตาลเข้มด้านใน
แดเนียลหันไปสั่งเบียร์นำเข้ายี่ห้อหนึ่ง ในขณะที่คนมาด้วยกลั้นใจสั่งไวน์ตามคำยุยงของพนักงานสาวหน้าสวยคนนั้น ทั้งสองช่วยกันสั่งอาหารเมื่อสาวคนเดิมนำเครื่องดื่มกลับมาเสิร์ฟ
“อย่าคิดจะมอมเกดนะคะ เพราะเกดไม่ใช่คนคออ่อน” กามเทพสาวเริ่มต้นด้วยการขู่หลังจากจิบไวน์แดงไปหนึ่งอึก
“ผมเชื่อสนิทเลยครับว่านอกจากจะไม่ใช่คนคออ่อนแล้ว เคทยังเป็นผู้หญิงที่มีพิษสงรอบด้าน ถ้าเป็นผู้ร้าย…ตำรวจก็คงทำงานกันเหงื่อตก กว่าจะหาหลักฐานมามัดตัวและเข้าจับกุมได้สำเร็จ” แดเนียลหลิ่วตาล้อเลียน เขารู้สึกกระปรี้กระเปร่าหลังจากกลับไปอาบน้ำ ไม่อย่างนั้นก็คงเหนียวตัวจนหมดสนุก
“แต่ตำรวจสมัยนี้ก็น่ากลัวไม่แพ้ผู้ร้ายนักหรอกค่ะ ตำรวจที่ทำตัวไม่ต่างจากผู้ร้ายมีถมไป”การะเกดตะโกนตอบเขาแข่งกับเสียงเพลงในสากลที่หนุ่มชาวฟิลิปปินส์กำลังนั่งดีดกีตาร์และขับร้องอยู่บนเวทีเตี้ยๆ ห่างจากจุดที่เธอกับเขานั่งอยู่ไม่ถึงสิบเมตร
“เคทเคยมีปัญหากับตำรวจที่ไหนหรือเปล่าครับ ทำไมทำท่าเหมือนมีอคติกับอาชีพนี้จัง” แดเนียลเดาไปตามเรื่อง
“หูย เยอะแยะค่ะ” หญิงสาวฟุ้งต่อ ในเมื่อเขายังทำเซ่อถามอยู่ได้ เธอก็จะตีหน้าซื่อ จีบปากจีบคอด่ากระทบต่อไปเรื่อยๆ เช่นกัน “คุณแดนไม่รู้หรอกว่าตั้งแต่เริ่มขับรถมาเนี่ย เกดโดนโบกรถไปกี่ครั้ง หมดค่าก๋วยเตี๋ยว ค่าเหล้า ค่าน้ำมันให้ตำรวจไปเท่าไร”
“ตำรวจที่ดีก็ยังมีนะที่รัก คุณมองอาชีพผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ในแง่ร้ายเกินไป” แดเนียลส่งตาหวานซึ้งให้คนฟัง ชั่วขณะเขาไม่ชอบใจที่โต๊ะที่นั่งอยู่กันสองคน มันใหญ่และกว้างเกินไป
“คุณพูดอย่างกับว่าเป็นตำรวจเองงั้นแหละค่ะ” หญิงสาวลองใจเขาอีกรอบ อยากรู้ว่าพ่อปลาไหลจะเลื้อยหนีความจริงไปได้สักกี่น้ำ
“เปล่าเสียหน่อย ผมพูดเพราะเพื่อนที่เป็นตำรวจเขานิสัยดีต่างหาก” คนยังไม่อยากเปิดเผยความลับอ้อมแอ้มแก้ตัว
“นิสัยดี” การะเกดทวนคำเสียงแหลม แล้วยกไวน์แก้วเดิมมาดื่มอึกๆ ราวกับนั่นเป็นน้ำเย็นสักแก้ว
“ดื่มแบบนั้นเดี๋ยวก็เมาคอพับก่อนที่ข้าวจะตกถึงท้องหรอก” ชายหนุ่มส่ายหน้า
“เกดบอกแล้วไงคะว่าคอแข็ง” สาวขี้จุ๊สวนกลับ แต่แล้วก็ต้องตาเบิกโพลง เมื่อสะดุดเข้าร่างผู้ชายคนหนึ่งซึ่งเธอไม่ได้เจอมาหลายปีแล้ว
ณัฐวุฒิ หรือ พี่ณัฐ อดีตคนรักเก่าที่เธอคิดมาตลอดว่ากรุงเทพฯ มันกว้าง เกินกว่าที่เธอกับเขาจะโคจรมาเจอกันอีก ทว่าเวลานี้ทฤษฎีโลกกลมกำลังเล่นงานเธออย่างหนัก ณัฐวุฒิมากับฝรั่งผู้ชายสองคน เขายังดูดีและแต่งตัวเนี้ยบตั้งแต่เส้นผมยันปลายเท้าเหมือนสมัยก่อน เพียงแต่ดูเป็นผู้ใหญ่ที่สุขุมมากขึ้น
เหมือนคนถูกมองจะรู้เพราะสายตาคมกริบมองมายังโต๊ะที่เธอกับแดเนียลนั่งอยู่ทันที วินาทีนั้น การะเกดรีบหันหนี ภาวนาขอให้แสงไฟสลัวช่วยไม่ให้เขาจำเธอได้
“เป็นอะไรหรือเปล่าครับ หรือว่าเมาแล้ว” แดเนียลชะโงกหน้ามาถามเมื่อเห็นอาการก้มหน้าจนหน้าปากแทบจะโขกกับโต๊ะ
“ปละ เปล่าค่ะ เกดไม่ได้เมา เพียงแต่ไม่อยากเจอเพื่อนเก่า” หญิงสาวตอบแบบไม่ยอมเงยหน้ามองคนถาม
“เพื่อนเก่า หรือ แฟนเก่าครับ” สายตาของคนผ่านโลกมามากกว่ากวาดมองไปรอบๆ ก่อนจะหยุดลงที่หนุ่มไทยหน้าหล่อคนหนึ่งซึ่งจ้องเขม็งมายังคู่เดตของเขา
“เราย้ายไปร้านอื่นได้ไหมคะ” กามเทพสาวไม่ยอมตอบคำถามนั้น กรุงเทพฯ มีร้านอาหารเป็นพันเป็นหมื่นแห่ง แต่ทำไมณัฐวุฒิต้องโผล่มาร้านนี้ในวันนี้ด้วยก็ไม่รู้
“ถ้าหากเขาคือคนที่ทรยศต่อความรักของเคท เขาก็ควรจะเป็นฝ่ายละอายใจและพิจารณาพาตัวเองออกไปจากร้านนี้ครับ” แดเนียลยื่นมือไปกุมมือเรียวเล็กของเธอคล้ายจะให้กำลังใจ
เสี้ยวนาทีนั้นเขายอมรับว่าไม่ชอบใจสายตาของผู้ชายที่กำลังเดินตามพนักงานมาที่โต๊ะด้านหลังของการะเกด แถมหมอนั่นยังจงใจเลือกหย่อนก้นลงบนโซฟาตัวที่หันหลังชนคู่เดตของเขาอีกเสียด้วย
“ขอไวน์เพิ่มอีกแก้วด้วยค่ะ” กามเทพสาวสั่งพนักงานที่นำอาหารมาเสิร์ฟ แดเนียลพูดถูกว่าคนที่ควรละอายใจคืออดีตคู่หมั้นของเธอ และก็ไม่มีความจำเป็นที่เธอจะต้องนั่งตัวลีบเล็กเหมือนหวาดกลัวณัฐวุฒิขนาดนั้น เธอควรจะทำให้เขาเห็นว่าเวลานี้เธอมีความสุขและลืมความเจ็บปวดเหล่านั้นไปหมดแล้ว
“ถ้าคืนนี้เกดเมา คุณคงอุ้มไปส่งไหวใช่ไหมคะที่รัก”
สรรพนามใหม่แกะกล่องที่สาวเจ้าเจาะจงเรียกเขา ทำเอาแดเนียลยิ้มกว้าง รู้ด้วยประสบการณ์ว่าหล่อนทำแบบนั้นเพื่ออะไร หลังจากสั่งเบียร์เพิ่มอีกขวด เขาก็ตอบเสียงดังฟังชัดกลับไปว่า
“พูดอย่างกับว่าผมไม่เคยอุ้มคุณขึ้นไปส่งอย่างนั้นแหละเบบี๋ แต่เคทคงรู้ใช่ไหมว่าถ้าอุ้มขึ้นไปส่งแล้ว คืนนี้ผมคงจะหมดแรงลงมาข้างล่าง” คนพูดส่งสายตาเจ้าชู้ให้คนฟังซึ่งลอบทำหน้าเบ้ใส่
“ทะลึ่งแบบนี้ เดี๋ยวก็โดนดีเหมือนตอนอยู่เกาะล้านหรอกค่ะ” การะเกดนึกถึงกลโกงพิเรนทร์ของตนแล้วก็กลั้นหัวเราะเอาไว้ไม่ได้
“คนขี้โกง !” ชายหนุ่มตราหน้าอีกฝ่ายด้วยสายตาตัดพ้อ
“หลักฐานไม่พอ ยังไงก็จับผู้ร้ายอย่างเกดไม่ได้หรอกค่ะ” นัยน์ตาคนพูดทอประกายระยิบระยับ ให้ความรู้สึกเย้ายวนอย่างบอกไม่ถูก ทว่ายังไม่ทันที่เขาจะตอบโต้แม่สาวช่างพูด ผู้ชายที่นั่งหันหลังให้หล่อนก็หันหน้ามาทักทายการะเกดว่า
“ไม่ได้เจอกันหลายปี เกดสบายดีไหมครับ”
คนถูกถามเม้มปากเป็นเส้นตรง สบตาแดเนียลหลายวินาที ก่อนจะขยับตัว หันกลับไปมองคนทักและฝืนยิ้มตอบเขาตามมารยาท
“เกดสบายดีค่ะ พี่ณัฐมาเที่ยวกับเพื่อนเหรอคะ” เธอกล้ำกลืนฝืนตัวไม่ให้แสดงสีหน้าแปลกๆ ให้เขาจับความรู้สึกได้
“บริษัทแม่ที่ออสเตรเลียส่งพวกเขามาดูงานที่ไทยหกเดือนน่ะครับ พอดีรู้จักกันตอนพี่ไปดูงานที่ซิดนีย์คราวโน้น ก็เลยพาพวกเขาออกมาเปิดหูเปิดตา” สายตาของคนพูดเหลือบมองมาทางแดเนียลเหมือนอยากให้เธอแนะนำให้รู้จักกัน
“ขอโทษที่เสียมารยาทค่ะ นี่คุณแดน...แฟนเกดค่ะ คุณแดนคะ...นี่พี่ณัฐ แฟนเก่าของเกดค่ะ” หญิงสาวเอียงคอหัวเราะ ขณะแนะนำให้ทั้งสองรู้จักกัน
แดเนียลลุกขึ้นเต็มความสูงและยื่นมือออกไปจับมือของอีกฝ่ายด้วยใบหน้ายิ้มๆ
“ถึงผมจะหึงที่คุณเคยคบเคทมาก่อน แต่ก็ยินดีที่ได้รู้จักครับคุณณัฐ”
“เช่นกันครับ” ณัฐวุฒิยิ้มแหย แล้วเสทำเป็นแนะนำให้อีกสองหนุ่มรู้จักกับคู่สนทนาและการะเกด
“ถ้าหากพวกคุณอยากย้ายมานั่งโต๊ะเดียวกับเราก็ได้นะครับ” แดเนียลกล่าวกับสามหนุ่มเป็นภาษาอังกฤษโดยไม่สนสายตาเขียวปัดของสุภาพสตรีเพียงคนเดียว
“ก็ดีนะครับ นั่งกันหลายๆ คนจะได้สนุก” ไรอัน หนุ่มรุ่นราวคราวเดียวกับเขารีบตอบตกลง ส่งผลให้ณัฐวุฒิกับเพื่อนอีกคนต้องย้ายตามมานั่งร่วมวงอย่างเลี่ยงไม่ได้
“คุณเสียสติไปแล้วเหรอคะถึงไปชวนพวกเขามานั่งกับเรา” การะเกดอาศัยจังหวะที่ทั้งสามหันไปคุยกับพนักงาน หันมากระซิบกระซาบกับคนตัวโตที่ย้ายก้นมานั่งเบียดกับเธอ
“อย่างนี้แหละดีแล้ว หมอนั่นจะได้เห็นว่าตอนนี้เขาไร้ความหมายในสายตาของเคทไงครับ” ไม่พูดเปล่าแต่คนมือไวยังวาดมือข้างหนึ่งมาโอบไหล่ แสดงความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของแบบไม่เกรงสายตาอีกสามคู่ “คุณณัฐแต่งงานหรือยังครับ”
“ยังครับ ตอนนี้ผมโสดสนิท” ณัฐวุฒิปรายตามองเสี้ยวหน้าสวยซึ้งของอดีตคู่หมั้น ยอมรับว่าการะเกดในวันนี้สวยยิ่งกว่าสมัยคบเขาเสียอีก
สมัยเลิกรากันใหม่ๆ เขาเพียรโทร.หาเธอหลายครั้ง แต่การะเกดเปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์ รวมทั้งย้ายที่อยู่ใหม่เหมือนจงใจจะหนีหน้า พอไปดักรอที่หน้าบริษัทวันหนึ่ง หญิงสาวก็ขอร้องทั้งน้ำตาว่าอย่ามาให้เธอเห็นหน้าอีก ตั้งแต่นั้นเขาก็ไม่กล้าแวะเวียนไปใกล้คิวปิดฮัท และปล่อยให้อีกฝ่ายเข้าใจไปเองว่าได้แต่งงานกับผู้หญิงคนนั้นแล้ว
“เกดล่ะครับ ใกล้จะมีข่าวดีหรือยัง”
“ใกล้แล้วล่ะครับ ผมไม่อยากให้เคทรอนานจนอายุสามสิบ คุณแม่ของผมท่านก็บ่นอยากได้ลูกสะใภ้ให้ฟังทุกครั้งที่โทร.มา” แดเนียลตอบแทน แล้วฝังริมฝีปากลงบนขมับคนข้างกาย
“เกดนึกว่าพี่ณัฐแต่งงานกับคุณลูกปัดแล้วเสียอีกค่ะ” การะเกดผสมโรงหลังจากจิบไวน์ไปหลายอึก งงเป็นไก่ตาแตกที่ณัฐวุฒิยังไม่มีลูกมีเมียเพราะเท่าที่จำได้ ทุกอย่างระหว่างเขากับผู้หญิงคนนั้นจริงจังเสียจนเธอแอบคิดว่าเขาอาจจะทำเจ้าหล่อนท้องจึงรีบร้อนขอถอนหมั้น
“พี่กับเขาหมั้นกันได้ไม่ถึงปี เขาก็ขอถอนหมั้นครับเพราะที่บ้านของเขาไม่ชอบพี่” รอยยิ้มหยันผุดขึ้นเหนือใบหน้าของคนพูด “สงสัยเพราะเคยทำเลวๆ กับเกดไว้ บาปกรรมมันเลยตามทันพี่มั้งครับ”
“ยังไงก็ต้องขอบคุณที่คุณขอเลิกกับเคทตอนนั้น เพราะไม่งั้นผมคงไม่มีเคทในวันนี้” แดเนียลเปรยเสียงเอื่อย สายตากรุ้มกริ่มลึกซึ้งมองกามเทพสาวอย่างเสน่หา
“คุณแดนอยู่เมืองไทยหรือว่าบินไปๆ กลับๆ ครับ” ไรอันถามตามประสาคนเพิ่งรู้จักกันขณะที่พนักงานสาวสองคนนำเครื่องดื่มและอาหารมาเสิร์ฟ
“ตอนนี้ผมมาประจำอยู่เมืองไทยชั่วคราวครับ แต่หลังจากนี้คงต้องกลับไปประจำที่อังกฤษและบินมาหาเคทเป็นระยะครับ” แดเนียลตักนั่นตักนี่มาใส่จานของคนข้างกายอย่างเอาใจ การะเกดที่เคยพูดเป็นต่อยหอยที่เขาคุ้นเคย บัดนี้เปลี่ยนมาเป็นสาวพูดน้อยจนนึกสงสาร
“คุณแดนทำงานอะไรเหรอครับ” ณัฐวุฒิถามบ้าง
“ผมวิจัยและประมวลผลธุรกิจบางอย่างส่งเจ้านายน่ะครับ แต่คงบอกพวกคุณไม่ได้เพราะมันเป็นความลับสุดยอดของบริษัท” ตำรวจสากลไม่คิดจะลงรายละเอียด
“ผมเข้าใจแล้วครับ ประมาณว่าถ้าบอกพวกผม คุณแดนก็ต้องฆ่าปิดปากพวกผมเลยใช่ไหมครับ”ไทเลอร์กล่าวกลั้วหัวเราะ
“ใช่ครับ ขนาดเคท…ผมยังไม่บอกเลย” แดเนียลขยิบตาในเชิงขี้เล่นกับสามหนุ่ม ก่อนสะดุ้งเฮือกและทำหน้าเหยเกเพราะส้นแหลมของรองเท้าส้นสูงของการะเกดกดลงบนรองเท้าหนัง ที่เลวร้ายกว่านั้นคือพอหันไปหาคนทำ แม่ตัวดีกลับส่งยิ้มยียวนและกดส้นรองเท้าลงไปอีก
“เล่นแผลงๆ แบบนี้ เดี๋ยวก็ได้เสียจูบที่โกงผมไปหรอก” เขาโน้มมากระซิบคาดโทษอย่างมันเขี้ยว
“ถ้าเกดไม่เต็มใจ ยังไงคุณก็ไม่ได้แอ้มหรอกค่ะ” ริมฝีปากคนพูดคลอเคลียกับใบหูจนคนฟังขนลุกซู่
“ว้าว…ผมพูดแค่เรื่องจูบ แต่เคทคิดไปไกลถึงเรื่องแอ้มแล้วเหรอเนี่ย” ชายหนุ่มทำตาพราว แล้วก็เปลี่ยนเห็นหัวเราะล้อเลียนเมื่อคนเขินจัดแจกขนมตุ้บตั้บใส่แผ่นหลังหลายครั้ง
การหัวร่อต่อกระซิกเหมือนหนุ่มสาวที่ดื่มด่ำอยู่ในห้วงรักระหว่างคนทั้งคู่ ทำให้ณัฐวุฒิร้อนรุ่มเหมือนมีใครมาสุมไฟอยู่กลางอก เขาพยายามทำเป็นไม่รู้สึกรู้สาและสนใจเครื่องดื่มตรงหน้า แต่ยิ่งเวลาผ่านไป ความอึดอัดที่ต้องนั่งมองภาพบาดตาบาดใจก็ยิ่งมากขึ้น
“เกดไปเข้าห้องน้ำก่อนนะคะ” การะเกดบอกสี่หนุ่มขณะประคองตัวลุกจากโซฟาอย่างระมัดระวัง
“คุณดื่มไวน์ไปตั้งสามแก้ว ให้ผมไปเป็นเพื่อนดีไหมครับที่รัก” แดเนียลถามเสียงทุ้ม
“ไม่ต้องหรอกค่ะ เกดเดินไหว” เจ้าของตาหวานฉ่ำส่งยิ้มให้แล้วเดินจากไป เธออยู่ในห้องน้ำเกือบห้านาทีถึงได้ออกมา ทว่าก็ต้องชะงักเมื่อเห็นอดีตคนรักยืนพิงผนังของทางเดิน
“พี่ไม่คิดว่าจะเจอเกดที่นี่” ณัฐวุฒิเปรยด้วยสีหน้าเคร่งขรึม
“ค่ะ สงสัยทฤษฎีโลกกลมมันจะเป็นจริง เพราะร้านอาหารแถวสุขุมวิทมีเป็นร้อยเป็นพัน แต่วันนี้พี่ณัฐกลับมาพาเพื่อนมาร้านนี้” ยิ้มหยันผุดขึ้นตรงมุมปากอิ่ม “จริงสิ…เกดลืมไปว่าเพื่อนของพี่ณัฐเป็นชาวออสซี่ ก็เลยต้องพามาดินเนอร์ที่ออสเตรเลียนผับ”
“ท่าทางคุณแดนจะรักและหวงเกดมากนะ” แววตาของณัฐวุฒิขมขื่น
ยิ่งมองการะเกด เขาก็ยิ่งเสียดายที่ความสัมพันธ์ฉันคู่รักได้จบลงเพราะความใจเร็วด่วนได้ของตน การกลับมาเจอกันในครั้งนี้ เรียกความทรงจำดีๆ ระหว่างกันกลับมา พร้อมกับทำให้เขาเข้าใจถึงแก่นว่าทำไมจนป่านนี้ยังอยู่เป็นโสด
“เกดกับคุณแดนยังรู้จักกันได้ไม่นานนักหรอกค่ะ แต่เท่าที่เห็นและเป็นอยู่ เขาดีกับเกดทุกอย่าง” หญิงสาวแบ่งรับแบ่งสู้
“เกดเปลี่ยนไปมากนะครับ ดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้น” สายตาคมมองตั้งแต่ดวงหน้าสวยผุดผาดลงไปถึงขาเรียวเล็ก สมัยก่อนการะเกดแต่งตัวรัดกุมและระวังตัวแจเวลาอยู่กับเขา ผิดกับคืนนี้ที่อยู่ในชุดเดรสรัดรูปคอปาดสีดำ “สวยขึ้นกว่าเมื่อก่อนเยอะ”
“จริงเหรอคะ” หญิงสาวโคลงศีรษะหัวเราะ “เกดว่าพี่ณัฐพูดอย่างนี้เพราะเมาจนตาลายมากกว่าค่ะ”
“พี่พูดจริงครับ” ชายหนุ่มลูบท้ายทอยตัวเองแก้เก้อ “ตอนแรกที่มองมาเห็นเกด พี่รู้สึกเหมือนครั้งแรกที่เราเจอกันเลย”
ครั้งแรกที่ณัฐวุฒิกล่าวถึง คือหน้าห้างสรรพสินค้าชื่อดังย่านสยามที่เขานัดเจอเพื่อน แล้วเห็นการะเกดนั่งรอเพื่อนอยู่ใกล้ๆ หล่อนสวยสะดุดตาจนเขาปิดเสียงมือถือ แล้วแกล้งเข้าไปขอความช่วยเหลือ โดยบอกว่าโทรศัพท์มือถือแบตหมดและขอยืมโทรศัพท์โทร.หาเพื่อนที่นัดเจอ
หญิงสาวหลงกล ยอมให้เขายืมตามประสาคนมีน้ำใจ ทว่าหลังจากคืนโทรศัพท์ให้และเดินจากไปประมาณห้านาที เขาก็โทร.หาเพื่อสารภาพว่าแท้จริงทำแบบนั้นเพราะอยากได้เบอร์ของเธอ
“พี่อยากโทร.ตามเพื่อนมาแจมที่นี่ แต่แบตหมด ขอยืมโทรศัพท์ของเกดใช้สักสามนาทีได้ไหมครับ” ชายหนุ่มตีหน้าซื่อขอความช่วยเหลือ
“มุกนี้ใช้ได้ผลแค่ครั้งแรกเท่านั้นแหละค่ะพี่ณัฐ เกดไม่อยากให้พี่ณัฐหรือเกดสับสนเพราะการเจอกันครั้งนี้ ปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปอย่างที่มันควรจะเป็นดีกว่านะคะ เกดขอตัวกลับไปหาคุณแดนก่อนล่ะ” การะเกดพึมพำด้วยสีหน้ายิ้มๆ แล้วทำท่าจะผละหนี แต่มือของอดีตคนรักกลับดึงข้อศอกไว้และกระตุกเธอเข้าไปหา
“พี่ณัฐจะบ้าเหรอคะ !” สัญชาตญาณของการเอาตัวรอดทำให้เธอสะบัดหน้าออกทันทีที่ริมฝีปากร้อนรุ่มแตะริมฝีปาก ส่งผลให้ปากร้อนไถลไปสูดความหอมของแก้มสาวผ่าวแทน
“พี่คิดว่าพี่ลืมเกดไปแล้ว แต่พอมาเจอเกดอยู่กับคนอื่น พี่บอกตามตรงว่าทนไม่ได้ พี่ยังไม่ลืมเกด! ที่ไม่เคยแต่งงานกับใครตั้งแต่เราเลิกกันเพราะพี่คอยเปรียบเทียบคนอื่นกับเกดมาโดยตลอด” ณัฐวุฒิสารภาพหลังจากกดศีรษะคนฟังแนบอก หวังว่าหัวใจที่กำลังเต้นรัวเร็วของตนจะช่วยให้อีกฝ่ายเข้าใจความรู้สึก
คนตกอยู่ในพันธนาการเงียบไปกว่านาที ถึงได้ผลักเขาออกห่างด้วยเรี่ยวแรงทั้งหมด
“พี่ณัฐอย่าพูดแบบนี้สิคะ ตอนพี่ณัฐมาขอถอนหมั้น เกดไม่เคยด่าทอพี่ณัฐหรือผู้หญิงคนนั้นเลย แต่พอเกดจะเริ่มต้นกับคนใหม่…ทำไมพี่ณัฐจะต้องมาพูดเหมือนคนเห็นแก่ตัวแบบนี้” กามเทพสาวตวาดใส่เขาโดยไม่แคร์สายตาของคนที่เดินสวนกันไปมาอยู่หน้าห้องน้ำ
“ถึงวันนี้เกดจะไม่มีใคร เกดก็ไม่มีทางกลับไปคบกับพี่ณัฐหรอกค่ะ เพราะเรื่องของเรามันจบตั้งแต่วันที่พี่ณัฐมาขอเลิกกับเกดแล้ว”
“พี่ขอโทษจริงๆ ครับ พี่รู้ว่าพี่ทำให้เกดเจ็บปวดแค่ไหน พี่รู้สึกแย่กับการกระทำของตัวเองมาโดยตลอด” คนเคยทำผิดมองตาของเธอด้วยความปวดร้าว
“เกดอโหสิให้พี่ณัฐค่ะ แต่มันไม่ได้หมายความว่าเกดลืมสิ่งที่พี่ณัฐเคยทำ ตอนนี้แผลในใจของเกดมันจะไม่เจ็บแล้ว แต่รอยแผลเป็นของมันจะอยู่กับเกดไปตลอดชีวิตค่ะ”
น้ำตาที่ใกล้ไหลออกมานอกเบ้าอยู่รอมร่อ ทำให้ร่างสมส่วนรีบหมุนตัวและเดินเร็วๆ ฝ่าฝูงชนหน้าฟลอร์เต้นรำกลับไปยังโต๊ะที่อีกสามหนุ่มนั่งอยู่
“เคท !” แดเนียลสปริงตัวขึ้นจากโซฟา และรวบร่างของคนที่ทำหน้าเหมือนจะร้องไห้เข้าไปกอดไว้แนบแน่น “ไอ้หมอนั่นทำอะไรคุณ”
เขาเค้นเสียงลอดไรฟันถามพอให้ได้ยินกันสองคน แต่ไม่มีคำตอบจากการะเกดนอกจากอาการสั่นหน้ากับอกของเขา ทว่าน้ำตาที่ซึมผ่านเสื้อก็ทำให้กรามของแดเนียลปูดโปน
“มีอะไรหรือเปล่าครับ” ไทเลอร์ถามด้วยสีหน้างุนงง
“นั่นสิ ทำไมคุณเกดถึงทำท่าเหมือนคนจะร้องไห้แบบนั้น” ไรอันอัดคำถามตามมาเร็วพอกัน
“ไม่มีอะไรหรอก ผมฝากโต๊ะสักครู่นะครับ ขอพาเคทไปเปิดฟลอร์สักเพลงสองเพลงก่อน” ชายหนุ่มตอบสองหนุ่มแล้วลากคนขี้แยออกไปกลางฟลอร์เต้นรำ ซึ่งขณะนั้นนักร้องสาวชาวฟิลิปปินส์กำลังขับขานเพลงสากลหวานซึ้ง
“ผมไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นระหว่างเคทกับหมอนั่น แต่ถ้าอยากร้องก็ร้องอยู่กับอกของผมเถอะ” มือหนาขยับขึ้นมากดศีรษะเล็กไว้แนบอก
ความคิดเห็น