คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : อรัมภบท
‘พี่เกด ! อีตาฮิตเลอร์สั่งให้รีบเข้าไปพบด่วนที่สุด’ เสียงหวานใส ทว่าเป็นไปในเชิงกระซิบยามเอ่ยฉายาของกรรมการผู้จัดการบริษัทคิวปิดฮัทอย่างภีม เตชะดำรงกุลส่งผลให้คิ้วเรียวของการะเกดที่เพิ่งก้าวเข้ามาในบริษัทกระท่อมกามเทพถึงกับเลิกคิ้วสูง เธอจำได้ว่าเมื่อวานนี้ เพิ่งประชุมสดๆ ร้อนๆ ไปนี่นา แล้ววันนี้ทำไมเจ้านายสุดโหดถึงเรียกเข้าไปพบเป็นการส่วนตัวอีก หรือว่าเธอทำงานพลาดนะ ผลงานของเธอก็ทะลุเป้าเหมือนที่ผ่านมานี่นา
‘หนูษารู้รึเปล่าว่าบอสเรียกพี่ไปพบเรื่องอะไร’ การะเกดถามหรรษา ซึ่งเป็นผู้ช่วยของเธออยู่ฝ่ายการตลาดและประชาสัมพันธ์มาหลายปีแล้ว
‘ไม่รู้เหมือนกัน แต่หนูษาว่าพี่เกดรีบไปดีกว่านะ เกิดบอสอาละวาดอีกจะซวยยกแผง’ คนส่งข่าวทำหน้าปั้นยาก กิตติศัพท์การเป็นคนเจ้าอารมณ์ของเจ้านายหนุ่มนั้นเป็นที่โจษจันกันทั้งบริษัทอยู่แล้ว
‘รู้แล้วน่า แต่ก่อนไปพี่ขอซัดน้ำเย็นสักแก้ว สวดคาถาเมตตามหานิยมสักสามรอบก่อน’ กล่าวเสร็จ สาวรุ่นพี่ก็หมุนตัวเร่งฝีเท้าไปยังครัวกะทัดรัดของบริษัท รินน้ำเย็นมาดื่มหลายอึก เพื่อเตรียมพร้อมรับศึกหนักที่อาจเกิดขึ้นในไม่กี่นาทีข้างหน้า คาถาเมตตามหานิยมที่สาวสวยรวยเสน่ห์อย่างเธอไม่เคยใช้กับผู้ชายคนไหนเลยในชีวิต ถูกนำมาสวดภาวนาอยู่ในใจสามครั้งสามคราก่อนจะสูดลมหายใจเข้าลึก บอกตัวเองว่าเธอพร้อมรับทุกสถานการณ์แล้ว
‘เชิญ !’ เสียงห้วนห้าว วางอำนาจตามแบบฉบับของภีมทำเอาคนเคาะประตูกลืนน้ำลายดังเอื๊อก ดูเหมือนคาถาของเธอจะไม่ได้ผลเสียแล้วแฮะ เพราะเสียงตวาดแบบนี้มันแสดงว่างานเข้านางสาวการะเกดล้านเปอร์เซ็นต์
หลังจากหันไปมองใบหน้าสลอนของสาวในแก๊งทั้งเจ็ดที่ส่งยิ้มให้กำลังใจ หญิงสาวก็สูดลมหายใจเข้าลึก ปลุกปั่นขวัญกำลังใจให้ตัวเองอีกครั้งก่อนมือบางจะผลักประตูห้องทำงานของนายหนุ่มเข้าไป ทว่ากามเทพสาวก็ต้องทำตาปริบๆ กับสิ่งที่พบ เพราะนอกจากคนในห้องจะไม่ได้หน้าบึ้งตึงอย่างที่เธอคาดไว้แล้ว ภีม เตชะดำรงกุลยังส่งยิ้มกว้างมาให้อีกต่างหาก
แม่เจ้า! ถ้าหากเธอไม่ตาฝาด สติไม่ฟั่นเฟือน ก็แสดงว่าอีตาฮิตเลอร์ผีเข้าแน่ๆ ถึงได้ยิ้มแป้น ปากแทบฉีกถึงใบหูขนาดนี้
เพื่อความแน่ใจว่าไม่ใช่ทั้งสองอย่าง มือของเธอจึงยกขึ้นขยี้ตาตัวเอง ลืมให้ความสำคัญกับแขกสองคนซึ่งยังนั่งหันหลังให้
‘คุณเกดมาแล้วครับ’ หนุ่มใหญ่ลุกขึ้นจากเก้าอี้ทำงานตัวโตและเชื้อเชิญให้แขกทั้งคู่หันมาหาเธอ‘คุณบิลกับคุณน้ำต้องการมาขอบคุณคุณเกด ผมก็เลยให้คุณหนูษาไปเชิญคุณเข้ามาพบ’
‘สวัสดีค่ะคุณบิล คุณน้ำ’ การะเกดยกมือไหว้พลางทักทายแขกทั้งสองด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม
‘คุณเกดอาจจะจำสองเราไม่ได้’ แขกตาน้ำข้าวชื่อบิล พึมพำกับคนข้างกาย
‘เราต้องเข้าใจเธอค่ะบิล เพราะเธอมีลูกค้าเยอะ อาจจะจำไม่หวาดไม่ไหว’ แขกสาวอายุประมาณสามสิบต้นๆ กล่าวตอบชายคนรักด้วยแววตาสดใส แล้วหันมาส่งยิ้มให้การะเกด ‘เมื่อประมาณสี่เดือนก่อนคุณน้ำกับคุณบิลไปปาร์ตี้ล่องเรือดินเนอร์ของคุณเกดค่ะ’
‘อย่าพูดอย่างนั้นสิคะ เกดจำลูกค้าทุกรายได้อยู่แล้วค่ะ ไม่ทราบว่าวันนี้คุณบิลกับคุณน้ำมีอะไรให้เกดรับใช้คะ’ หญิงสาวฉีกยิ้มกว้าง แอบขอบคุณเจ้านายหนุ่มที่รีบบอกชื่อแซ่ของแขกทั้งสอง ไม่งั้นเธออาจจะเอ๋อรับประทานเพราะจำพวกเขาไม่ได้
‘วันนี้พวกเราสองคนตั้งใจแวะเอากระเช้ามาขอบคุณคุณเกดโดยเฉพาะค่ะ’ คนพูดกล่าวพลางยกกระเช้าของฝากซึ่งนอกจากจะมีรังนกสกัดแล้ว ก็มีซองสีฟ้ากับสีขาวแนบมาด้วย
‘เราสองคนแวะมาเชิญคุณเกดไปร่วมงานแต่งงานที่จะมีขึ้นอีกสองเดือนข้างหน้าค่ะ’
‘จริงเหรอคะ’ การะเกดอุทานเสียงหลงเพราะตื่นเต้นดีใจกับข่าวดีของลูกค้า ทว่าเห็นสายตาดุๆ ของนายหนุ่มก็รีบปรับสีหน้า รับกระเช้าของฝากและละล่ำละลักขอบคุณเป็นการใหญ่
‘คุณเกดเก่งมากครับ เขาทำให้คนไม่ศรัทธาในเรื่องโซลเมตอย่างผมได้มาพบน้ำ นาทีแรกที่ได้พบและพูดคุยกับน้ำ ผมก็รู้เลยว่าเขาคือคนที่ผมรอคอยและตามหามาตลอดชีวิต’ นัยน์ตาของฝรั่งวัยสี่สิบหันมามองเจ้าแม่อีเว้นต์ด้วยความชื่นชม ‘ขอบคุณที่จัดงานปาร์ตี้ครั้งนั้นขึ้นมาครับคุณเกด คุณเกิดมาเพื่อสิ่งนี้จริงๆ’
‘เป็นหน้าที่ของเกดอยู่แล้วล่ะค่ะ’ หญิงสาวยิ้มจนแก้มแทบแตก นี่เป็นสุดยอดแห่งความปรารถนาของคนที่ยึดอาชีพกามเทพอย่างเธอ
‘ขอบคุณคุณบิลกับคุณน้ำมากนะครับที่อุตส่าห์แวะมาถึงบริษัท คุณสองคนทำให้ผมรู้สึกว่าเลือกคนมาทำงานด้วยไม่ผิด’
คำพูดและแววตาเปี่ยมความภาคภูมิใจของเจ้านายที่ไม่เคยชมใครให้เธอได้ยินแบบตรงๆ เลยสักครั้งตั้งแต่ก้าวเข้ามาทำงานในบริษัทหลังนี้ พาให้หัวใจดวงน้อยของการะเกดพองโตคับอก ดีใจยิ่งกว่าเพิ่งได้รับเงินโบนัสหกเดือนเสียอีก
ทว่า… วินาทีที่หญิงสาวกำลังจะอ้าปากบอกลูกค้าว่าการทำให้พวกเขาได้พบเนื้อคู่คือหน้าที่ของกามเทพ โลกที่สวยงามปานสรวงสวรรค์ก็เป็นอันถล่มทลาย เพราะเสียงกรีดร้องอย่างตกใจสุดขีดของใครคนหนึ่ง เสียงแหลมเล็กนั้นฉุดกระชากลากเธอออกจากภวังค์ฝัน ทะลึ่งพรวดขึ้นมาพบกับความจริงอันแสนโหดร้าย
“เกิดอะไรขึ้นน่ะ” เสียงหอบปนสั่นถามพลางกวาดตาดำขลับสำรวจรอบๆ อย่างจับต้นชนปลายไม่ถูก
“พี่เกดดูโน่นสิ” หรรษาบุ้ยให้เธอแหงนมองกระดาษสีขาวแผ่นหนึ่งซึ่งแปะอยู่บนฝาผนัง
ข้อความแห่งคำมั่นสัญญาที่ปรากฏเป็นลายมือโย้เย้ของเธอกับสาวๆ อีกเจ็ดชีวิตเหมือนจะสูบเลือดออกจากใบหน้ารูปไข่ เนื่องจากเนื้อความแต่ละประโยคเลวร้ายยิ่งกว่าสัญญาขายดวงวิญญาณให้ปีศาจของจอห์นนี่ เบล็ด ในหนังเรื่อง เดอะ โกสต์ ไรเดอร์
รอยจูบของคราบลิปสติกสีส้มอ่อนซึ่งเธอจำได้ดีเป็นของตน รวมอยู่กับลิปสติกอีกเจ็ดรอย คือหลักฐานสำคัญว่าเธอมีส่วนร่วมในพันธะสัญญาหาแฟนให้ได้ภายในหนึ่งปีหรือก่อนวาเลนไทน์ปีถัดไป ไม่เช่นนั้นจะเสียโบนัสหกเดือนที่เฝ้ารอมาตลอดทั้งปี แล้วหากมีใครคิดฉ้อฉล หาคนมาแอบอ้างว่าเป็นแฟนยังมีคำสาปแช่งกำกับไว้ให้อกสั่นขวัญแขวนอีกต่างหากว่า
‘หากสมาชิกคนใดคนหนึ่งกระทำการหาแฟนโดยมิสุจริต หรือว่าจ้างผู้ชายมาเป็นแฟน ไม่ว่าวิธีใดวิธีหนึ่ง ขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ลงโทษ อย่าให้มีแฟนไปตลอดชีวิต ถ้าได้แต่งงานภายหลัง ก็ขอให้เจอะเจอกับผู้ชายที่ห่วยแตกที่สุดในโลก แต่งงานก็ขอให้หย่า อย่าได้มีความสุขในชีวิตแต่งงานไปตลอดชีวิต
ข้าพเจ้าทั้งแปดได้อ่านสัญญาฉบับนี้และลงลายมือชื่อด้วยความเต็มใจ ขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ในสากลโลกเป็นพยาน หากข้าพเจ้าบิดพลิ้ว หรือไม่ปฏิบัติตามสัญญา หรือฉีกสัญญาทิ้ง ก็ขอให้มีอันเป็นไปภายในสามวันเจ็ดวัน ขอให้เป็นหมัน ขอให้ขี้เหร่ อัปลักษณ์ไปตลอดชาติ สาธุ!’
"นะ นี่มันอะไรกัน" การะเกดรำพึงรำพันด้วยหัวใจสั่นระรัว
นอกจากฝันดีที่สุดในรอบห้าปีเมื่อสักครู่จะไม่เป็นจริงแล้ว เธอยังตื่นมาพบกับความจริงอันแสนโหดร้ายอีกหรือนี่
เงินโบนัสหกเดือนซึ่งตั้งใจจะเอาไปซื้อแพกเกจทัวร์เที่ยวยุโรปเหมือนแขวนอยู่บนเส้นด้ายเพราะหากเธอหาแฟนไม่ได้ภายในหนึ่งปี ความหวังความฝันนั้นก็เป็นอันหลุดลอยไปจากชีวิตทันที เนื่องจากมันกลายเป็นเงินเดิมพันของการหาแฟน
หญิงสาวเหลือบมองสภาพโดยรอบ ก็เห็นขวดเครื่องดื่ม แก้วเปล่าและจานชามกระจัดกระจายอยู่ทั่วบริเวณกินเลี้ยงในห้องนั่งเล่นของบ้านของเจ๊ใหญ่อย่างวราลี เธอพอจะเดาออกว่าทุกคนคงเมามาย แล้วสุมหัวกันร่างสนธิสัญญาบ้าบอคอแตกนั้นขึ้นมา เพราะโกรธแค้นที่นายหนุ่มหน้าเทพบุตรใจซาตานอย่างภีม เตชะดำรงกุล พูดจาดูหมิ่นดูแคลนว่ากามเทพอย่างพวกเธอไม่มีปัญญาหาแฟน
แม้ว่าเธอกับสมาชิกบางคนจะเสนอว่าควรร่วมมือร่วมใจกันยกเลิกสัญญามหาโหดนั้นเสีย แต่เสียงส่วนใหญ่กลับโหวตไม่เห็นด้วย พอคุยกันไปคุยกันมาก็กลับกลายเป็นว่าเธอเออออห่อหมก เห็นสมควรว่าทุกคนต้องลบล้างคำสบประมาทของนายหนุ่มให้ได้ภายในหนึ่งปี
National Central Bureau of Interpol, London, UK
นัยน์ตาสีน้ำตาลของแดเนียล นายตำรวจหนุ่มสังกัดตำรวจสากล หรือ INTERPOL* แข็งกร้าวขึ้นมาทันทีทันใดเมื่อมองสภาพของสาวสวยสองคนในรูปถ่ายทั้งสี่ใบ คำบอกเล่าที่ว่าทั้งคู่เป็นคนไทยทำให้กรามของเขาบดเข้าหากันเป็นสันนูน นอกจากจะสงสารผู้เคราะห์ร้ายทั้งสองในฐานะผู้พิทักษ์สันติราษฎร์แล้ว เขาก็ยังมีอีกเหตุผลที่ทำให้รู้สึกเจ็บแค้นผู้กระทำการอุกอาจ เหตุผลนั้นก็คือเพราะในตัวเขามีเลือดของคนไทยครึ่งหนึ่ง
เนื้อตัวและใบหน้าของผู้หญิงในภาพทั้งคู่เต็มไปด้วยรอยฟกช้ำดำเขียว บ่งบอกว่าคงถูกทารุณกรรมมาอย่างสาหัสสากรรจ์ ก่อนพยายามหลบหนีกันอย่างหัวซุกหัวซุน ทว่าพวกหล่อนก็โชคร้ายเพราะถูกพวกเดนมนุษย์ตามมากระชากวิญญาณ ก่อนที่จะมีใครช่วยเหลือไว้ได้ทัน
“คิดว่าเป็นอาชญากรกลุ่มเดียวกันไหมครับ” แดเนียลสูดหายใจเข้าลึก
รู้สึกสงสารสาวเคราะห์ร้ายที่เป็นเหยื่อขององค์กรค้าเนื้อสดจับใจ พวกหล่อนคงคิดว่ายุโรปเป็นดินแดนน่าฝันใฝ่และดิ้นรนขวนขวายจะมาที่นี่ให้ได้ แต่ก็ต้องเคราะห์ร้าย เอาชีวิตมาทิ้งเพราะลืมนึกถึงอันตรายที่แทรกซึมอยู่ในดินแดนซิวิไลซ์นี้เช่นกัน นี่ไม่ใช่เพียงเคสแรกๆ ที่เขาเห็น เพราะตลอดระยะเวลาของการทำงานให้ตำรวจสากลมากว่าหกปี มีผู้หญิงเอเชียจำนวนหลายหมื่นรายที่ประสบชะตากรรมเดียวกัน
“ผมก็ไม่อยากปักใจเชื่อหรอกนะแดน เพราะคนแรกถูกหลอกไปปารีส ส่วนอีกคนถูกหลอกมาลอนดอน” ริกกี้หยิบซองสีน้ำตาลมาวางไว้ตรงหน้าของลูกน้องหนุ่ม “สำนักงานใหญ่ส่งภาพพวกนี้มาให้ทางเราพร้อมกับรายละเอียดเพิ่มเติมว่าควรเริ่มจากตรงไหน ผมเห็นว่าสมควรส่งคุณไปสืบเรื่องที่เมืองไทยเพราะคุณพูดภาษาไทยได้คล่อง แถมไม่มีพันธะให้ต้องห่วง”
“คิวปิดฮัท” ริมฝีปากของแดเนียลขมุบขมิบ เมื่อเปรียบเทียบเอกสารของสองผู้เคราะห์ร้ายแล้วตาสะดุดลงบนสิ่งที่คล้ายคลึงกัน “ผู้หญิงสองคนนี้คงคิดว่าเจอเจ้าชายในฝัน แต่พวกเธอกลับพบซาตานร้ายที่แอบแฝงมาในคราบของพวกมันแทน”
“ใช่ สิ่งที่เหมือนกันของทั้งสองเคสคือพวกเขาใช้บริการของเว็บไซต์หาคู่เว็บนั้น แล้วตำรวจฝั่งไทยก็ให้ข้อมูลเพิ่มเติมมาอีกว่าพวกเขาไปร่วมงานปาร์ตี้ล่องเรือที่บริษัทนั้นจัดขึ้นด้วย ผมคิดว่ามันมีสิ่งที่น่าสงสัยเกี่ยวกับปาร์ตี้นั้น บางทีอาจมีคนของบริษัทนั้นรู้เห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ด้วย”
“อืม มีสิทธิ์เป็นไปได้อย่างที่คุณสันนิษฐานครับริก ผมจะจับตาดูความเคลื่อนไหวของเขาให้ละเอียดครับ” ชายหนุ่มยิ้มแห้งเพราะเศร้าสลดกับภาพที่เห็น ผู้หญิงทั้งคู่อายุยังคงไล่เลี่ยกับลูกพี่ลูกน้องของเขาที่เพิ่งจะเรียนจบปริญญาตรี ไม่ควรเลยที่จะมาพบเจอเรื่องเลวร้ายขนาดนั้น
“ผมให้พอลประสานงานกับตำรวจทางเมืองไทยให้คุณเรียบร้อยแล้ว พอลจะเป็นคนบอกรายละเอียดที่เหลือให้คุณรู้ ว่าต้องทำอะไรบ้าง ส่วนเบอร์โทรศัพท์ของคนที่คุณต้องติดต่อทางเมืองไทยอยู่ในซองนั้นแล้ว เรื่องนี้ทางสำนักงานใหญ่คาดหวังไว้สูงมากว่าทางเราจะสามารถควานหาตัวการใหญ่ของพวกมันได้สำเร็จ ผมหวังว่าคุณจะสร้างผลงานได้ดีเยี่ยมเหมือนที่ผ่านมานะแดน” ประกายตาของคนพูดเต็มไปด้วยความคาดหวัง
“ผมจะทำอย่างสุดความสามารถครับริก” ตำรวจสากลวัยสามสิบสองรับคำหนักแน่นก่อนจะคว้าซองสีน้ำตาล แล้วพาร่างสูงถึง 185 เซ็นติเมตรออกจากห้องผู้บังคับบัญชา
ปกติเขาแยกแยะระหว่างความรู้สึกส่วนตัวออกจากงานได้ดีเยี่ยมเสมอ แต่คดีใหญ่ที่เป็นปัญหามากขึ้นทุกวันในสหภาพยุโรป และกำลังแพร่ระบาดไปยังส่วนอื่นของโลกอย่างคดีนี้ เขาอดที่จะใส่ความชิงชังส่วนตัวเข้าไปไม่ได้ แล้วก็รู้อีกเช่นกันว่า หากสามารถหาหลักฐานอันจะนำไปสู่การจับกุม กวาดล้างเดนมนุษย์เหล่านั้นได้ หัวใจครึ่งดวงที่เป็นคนไทยคงพบพานกับความสงบสุข
ความคิดเห็น