คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : Accidental of love ♡ Chapter 2 coincidence
-ตอนที่2-
บรรยากาศในห้องเรียน ยังคงวุ่นวายเฉกเช่นทุกวัน จนแพคฮยอนเองเริ่มจะชิน ว่าคงหาความสงบสุขจากที่นี่ไม่ได้
"เฮ้ย ชานยอล พวกมันส่งจดหมายมาท้าว่ะ" หนุ่มผิวเข้มที่สุดในกลุ่มเอ่ยขึ้นพร้อมขว้างก้อนอะไรซักอย่างไปทางคนถูกเรียก ซึ่งเจ้าตัวยกมือคว้าได้อย่างแม่นยำ ก่อนคลี่สิ่งที่เคยมีสภาพเป็นกระดาษก่อนหน้านี้และโดนขยำไม่แทบเหลือสภาพเดิมออก
"ไป"
เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงราบเรียบเช่นเคย มือกว้างโยนก้อนกระดาษทิ้ง ตาคู่สวยค่อยๆปิดสนิทไม่ใส่ใจกับสิ่งรอบข้างอีกครั้ง
"เจ๋งโว้ยย อยากยืดเส้นยืดสายซักหน่อยเหมือนกัน" จงอินเอ่ยอย่างกระตือรือล้นพร้อมหักข้อมือไปมาดังกร๊อบแกร๊บ ฟังดูน่ากลัวว่ามือเจ้าตัวจะหักเสียให้ได้
"อ ย า ก ไ ป กิ น ช า น ม กั บ พี่ ลู่ "
เสียงงุ้งงิ้งคล้ายเสียงสวดอะไรซักอย่างดังแว่วๆมาจากร่างขาวๆที่ฟุบกองอยู่กับโต๊ะ ตาลอยๆปรือปรอยบ่งบอกว่าคนตัวขาวนี้ไม่ได้หลับแล้วเผลอละเมออกมา แต่ก็ไม่แน่ว่ามีสติที่มียังอยู่ครบดีหรือเปล่า
"อยาก ไป กิน ชา นม กับ พี่ ลู่" เสียงยานคางเนือยๆ ถูกส่งออกมาจากปากบางๆสีชมพูระเรื่ออีกครั้ง เจ้าตัวขาวยกมือขยี้หูขยี้ตาพลางหาวหวอดๆ ลิ้นชื้นถูกส่งมาแลบเลียทดแทนความชุ่มชื่นอย่างที่ชอบทำ
"อะไร จะไม่ไปงั้นสิ เห็นชานมกับสาวมหาลัยดีกว่าพวกฉันแล้วงั้นสิ “
"นี่ล่ะน้า.." จงอินทำท่าจะพูดต่อ แต่ก็หยุดอยู่แค่นั้น เพราะมือเล็กของคยองซูยื่นมากระตุกชายเสื้อเขาไว้เบาๆ
"สาวบ้านป้าแกสิ ฉันบอกกี่ครั้งแล้วว่าพี่เค้าเป็นผู้ชาย และไม่ได้บอกว่าจะไม่ไป แค่อยากกินชานมก่อน จะได้มีแรงกระทืบพวกมัน" เซฮุนสาธยายยาวยืดให้เหตุผล
"อยากไปเจอพี่ลู่ก็บอกเหอะ" จงอินเหล่มองด้วยหางตา น้ำเสียงที่เอ่ยออกมาแสร้งทำเป็นประชดมากกว่าจริงจัง
ครืดด!
โต๊ะด้านหน้าออกเคลื่อนครูดไปกับพื้นห้องด้วยฝีมือของคนที่หลับตาลงไปเมื่อครู่ ถึงมันจะไม่ได้รุนแรงนัก แต่ก็เรียกความสนใจจากคนทั้งห้องได้เป็นอย่างดี รวมถึงแพคฮยอนเองด้วย
"ฉันรอที่เดิม"
ลุกขึ้นเต็มความสูง คำพูดแทบนับคำได้กับน้ำเสียงราบเรียบไร้ซึ่งอารมณ์ มันไม่ได้เฉื่อยชาหรือแสดงถึงความเบื่อหน่าย แต่มันราบเรียบคงเส้นคงวา เข้าข่ายผู้ชายเย็นชาอย่างแท้จริง
แพคฮยอนได้แต่กลอกตาไปมา อยากรู้ว่าหมอนั่นเวลาท้องผูกยังจะทำหน้าตาแบบนี้ตอนใช้พลังลมปราณขั้นสูงสุดในส้วมรึเปล่า
ก็แค่คิด..
ถ้อยคำสุดท้ายหยุดลงพร้อมเรียวขายาวที่ขยับก้าว ฉุดเอาทั้งจงอินและเซฮุนลุกตามออกไปทันที
"คยองซู ก็จะไปด้วยเหรอ?" แพคฮยอนเอ่ยถามออกไปทั้งๆที่พอจะรู้คำตอบเมื่อเห็นคนนั่งข้างๆเตรียมตัวเก็บข้าวของ เพื่อนตาโตพยักหน้าแย้มยิ้ม ก่อนเป็นฝ่ายเอ่ยขึ้นบ้าง
"แพคฮยอนก็รีบกลับบ้านนะ แล้วก็..อย่าผ่านไปแถวๆเกมเซ็นเตอร์ล่ะ"
แล้วแถวนั้นมันทำไมล่ะ ..
ปกติแพคฮยอนเองต้องเดินผ่านทางนั้นทุกวันเพราะมันดันเป็นทางลัดที่ทำให้เดินถึงหอพักของเขาได้เร็วขึ้น ซึ่งมันก็อยู่ไม่ไกลจากโรงเรียนมากนัก แต่มันก็ดันเป็นแหล่งรวมตัวของพวกอันธพาล นักเรียนนักเลงเรียกว่ามากหน้าหลายตาชอบมาซ่องสุมทำสารพัดกิจกรรมกันในละแวกนั้นอย่างมหาศาลเลยก็ว่าได้
ที่นั่นมักถูกเรียกว่าเกมส์เซ็นเตอร์ เพราะมีร้านเกมส์หลากชนิดหลายสิบร้าน ไม่เว้นแม้แต่ร้านเหล้าหรือสถานบันเทิงหลายรูปแบบที่รวมตัวแออัดยัดเยียดอยู่ในละแวกเดียวกัน แต่ก็ไม่เห็นจะเกี่ยวอะไรกับเขา เพราะเขาไม่เคยมีเรื่องมีราวกับคนพวกนั้น และตลอดหลายอาทิตย์ที่ผ่านมาก็ไม่เห็นว่าจะมีใครในที่นั้นให้ความสนใจแพคฮยอนกันซักคน
"พวกนั้นคงมีเรื่องเหมือนทุกวันแหงเลย" พูดกับตัวเองพลางเก็บข้าวของบ้าง ชะเง้อมองตามกลุ่มคนที่เพิ่งเดินพ้นประตูห้อง แม้แต่คยองซูที่ดูใจดีก็ยังเป็นหนึ่งในแก๊งอันธพาลของโรงเรียน และไมใช่แค่พวกแก๊งกระจอกที่ทำตัวกร่างไปวันๆ จากที่ได้ยินและได้ฟังและอยากรู้อยากเห็นเองบ้าง เทพบุตรทั้งห้าแห่งโรงเรียนมัธยมK แก๊งค์อันดับหนึ่งที่ไม่มีใครในย่านนี้ไม่รู้จัก
ตอนแรกแพคฮยอนก็ไม่อยากจะเชื่อนักหรอก แต่เพราะตลอดอาทิตย์ที่ผ่านมา คยองซูเป็นคนเดียวที่คอยช่วยเหลือเรื่องต่างๆ และมักไปไหนมาไหนด้วยกันกับเขาในโรงเรียนเสมอ นักเรียนหญิงที่กรี๊ดกร๊าดเวลาพบเจอ หรือแม้แต่พวกนักเรียนชายก็ต่างก้มหัวให้แถมไม่กล้าสบตากันทั้งนั้น ซึ่งทำให้เขาเองรับรู้ได้ว่าสี่คนนี้ไม่ธรรมดาเอาซะเลย สมแล้วที่เป็นแก๊งอันดับหนึ่ง เรื่องฝีมือแพคฮยอนก็ได้สัมผัสมันกับตัวเอง ตั้งแต่วันแรกที่เหยียบย่างเข้ามาเรียนที่นี่
"ซวยล่ะ"
ทั้งๆที่คิดว่าจะเลี่ยงไม่เดินผ่านหน้าเกมส์เซ็นเตอร์ตามคำเตือนของเพื่อนตาโต แต่เพราะความเคยชินที่ต้องผ่านทุกวันทำให้คนตัวเล็กเผลอเดินกลับทางเก่าจนได้ รู้สึกตัวอีกทีก็กำลังจะเดินพ้นร้านอาหารกึ่งบาร์ที่เปิดได้ตั้งแต่หัววัน และดูท่าวันนี้คนจะเยอะเป็นพิเศษ
"มุงอะไรกันนะ?"
คนตัวเล็กงึมงัมกับตัวเองด้วยความสงสัย เขย่งปลายเท้าชะเง้อมองด้านในร้านด้วยความอยากรู้อยากเห็น ต้องโทษความสูงที่ออมม่ากับอัปป้าแบ่งให้เพียงน้อยนิดทำให้เขาต้องเขย่งดูเหตุการณ์ภายในร้านจนสุดปลายเท้า และมันก็แย่พอๆกับความไม่สูง แพคฮยอนเสียการทรงตัวจนเซถลาไปด้านหน้าอย่างแรง
"เฮ้ยยย!!!!"
เสียงร้องดังลั่นของแพคฮยอน ทำให้เกาหลีมุงตกใจหันมามองกันอย่างพร้อมเพรียงและไหวตัวออกจากรัศมีการเซถลาแบบควบคุมทิศทางไม่ได้ ก่อนเจ้าตัวจะกลิ้งหลุนๆอีกหลายตลบและมาหยุดตรงขาโต๊ะตัวหนึ่งในร้าน เป็นเหตุให้การสนธนาอันครุกกรุ่นของเพื่อนร่วมโรงเรียนและต่างโรงเรียนเป็นอันต้องหยุดชะงักลง
"เอ่อ สะ..สวัสดีทุกคน..." แพคฮยอนทักทายเมื่อเห็นหน้าตาของเพื่อนร่วมห้องที่คุ้นเคย ถึงแม้จะมีอีกหลายคนที่ไม่รู้จักอยู่ด้วยก็ตาม
"เฮ้ย! ไหนบอกมาเจรจาแบ่งถิ่นแฟร์ๆสี่ต่อสี่ไงวะ แล้วไอ้เตี้ยนี่ใคร!?"
ผมผ่านมาครับและกำลังจะไปเดี๋ยวนี้เลย...
"ไอ้เตี้ย!!!!!"
เพื่อนร่วมห้องตัวขาวผิวเข้มพร้อมใจประสานเสียงขึ้นมาอย่างพร้อมเพรียง ในขณะที่คยองซูกำลังใช้ทักษะทางการต่อสู้ชนิดใหม่ที่น่าจะเรียกว่าการขยายม่านตา อีกซักแป๊บมันคงหลุดออกมาข้างนอกและพวกนี้ก็จะหนีกระเจิงไปใช่มั้ย?
คยองซูกำลังเบิกตากลมๆของตัวเองกว้างขึ้นเรื่อยๆ
และมีเพียงคนเดียวที่ไร้รีแอคชั่นจากการปรากฎตัวของแพคฮยอน ..
มองซักนิดก็ไม่เสียสายตาหรอกนะ ทำไมต้องเหลือบด้วยหางตาแบบนั้นด้วย! ขอตำหนิในใจซักนิด ช่วยแบบ เฮ้ย นี่นายเพื่อนร่วมห้องที่แสนน่ารักของฉันหนิ! อะไรแบบนี้!
ชานยอลยังคงมีสีหน้าที่นิ่งสนิทและเรียบเฉย
"เอ่อ ..ฉะ..ฉัน ไม่รู้เรื่อง อะไร เกี่ยวกับพวกนายนะ ฉันแค่ผ่านมา แล้วก็ กะ..เกิด..อุบัติเหตุนิดหน่อย.. และ และ กำลังจะไป.." คำพูดตะกุกตะกักถูกเค้นออกมาจากริมฝีปากบางก่อนเจ้าตัวจะพยายามยันตัวลุกด้วยความลำบากลำบน
"จะไปไหนไอ้เตี้ย!"
ผู้ชายร่างค่อนข้างใหญ่ ไม่ล่ะ ใหญ่มากซะด้วย ดึงคอเสื้อนักเรียนของแพคฮยอนไว้ จนเขาเซถอยหลังตามแรงมือ
เอ๊!! ไอ้ยักษ์นี่พูดไม่รู้เรื่อง ฉันกำลังจะไปแล้วโว้ยยยยย!!
"หึ นี่มันเครื่องแบบนักเรียนโรงเรียนแกนี่หว่า ชานยอล หึ! ไอ้นี่คงเป็นสายสินะ พวกแกเหยียบจมูกฉันเกินไปแล้ว!!"
สายบ้านน้าแกสิ แล้วปล่อยฉันด้วยเดี๋ยวฉันกลับบ้านสาย ถ้าเสื้อฉันขาดแกต้องซื้อใช้นะ ไอ้หน้าหัก!
"ฉะ..ฉัน ไม่ กะ.. เกี่ยว " แพคฮยอนเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงยากลำบาก บรรยากาศรอบตัวไม่เห็นเหมือนในนิยายที่เคยอ่านมาซักนิด พวกนี้ดูท่าจะไม่ล้อเล่นซะด้วย คือ..ถ้านางเอกได้รับอันตรายป่านนี้พระเอกต้องทะยานตีลังกาสามตลบ ลงสู่พื้นด้วยท่าทีที่งดงาม แล้วมาช่วยแล้วดิวะ!
โครม!!!!
"เหยียบจมูกของจริงต้องแบบนี้ต่างหาก"
ยังไม่ทันที่แพคฮยอนจะได้เอ่ยข้อแก้ต่างให้ตัวเองจบ ก็เกิดเสียงดังลั่นคล้ายของหนักร่วงกระทบโต๊ะในร้านจนหูแทบอื้อ
ต้นเหตุมาจากบุคคลที่นั่งนิ่งไร้อารมณ์ กระโดดจากเก้าอี้ทีเดียวก็ขึ้นมายืนหล่อบนโต๊ะ ก็ไอ้ตัวที่ใช้เปิดประเด็นสนทธนาเมื่อครู่นั่นแหละ ก่อนยกเท้าถีบจมูกไอ้ยักษ์นั่นไปเต็มๆจนลงไปกองกับพื้น พร้อมโต๊ะเก้าอี้ที่ล้มระเนระนาด
และทันทีที่ไอ้ตัวโตล้ม ก็ปรากฎร่างนักเรียนชายในชุดเครื่องแบบสีดำเป็นสิบกรูกันเข้ามา ในมือของพวกมันทุกคนมีไม้เบสบอลขนาดเขื่องสีเดียวกับเครื่องแบบเด๊ะ
"ว่าละพวกมันต้องเล่นงี้ เอาไงวะชานยอล" คนผิวเข้มที่สุดในกลุ่มเอ่ยพร้อมกระตุกยิ้มร้าย สีหน้าเจ้าเล่ห์ไม่ได้ดูหวาดกลัวเลยซักนิด มันกลับสนุกสนานราวกับกำลังเจอเรื่องถูกใจเสียเต็มประดา
"หนี”
คนตัวสูงเอ่ยสั้นๆ ขายาวก้าวเข้ามาประชิดตัวแพคฮยอนก่อนลากข้อมือคนตัวเล็กมุ่งไปทางด้านหลังของร้าน และใช้อวัยวะเดียวกันเบิกทางนักเรียนนับสิบที่กรูเข้ามาหาด้วยความบ้าคลั่ง ต่างกับชานยอลที่ยังคงสงบนิ่งอยู่ภายใต้หน้ากากแสนเย็นชา
"ห๊า! อะไรนะ! " จงอินถามกลับอย่างไม่เชื่อหู แต่มือหนากลับคว้าข้อมือคยองซูรวดเร็วและเตรียมพร้อมเผ่นไปทางหน้าร้าน คนตาโตมองตามชานยอลที่ดึงนักเรียนใหม่หายเข้าไปด้านหลังก่อนหันกลับมาสบตาจงอินด้วยแววตาที่ไร้คำถามใดๆ
"งั้นสนุกซักหน่อยไปตลอดทางละกัน" พูดจบจงอินก็วาดขายาวๆฟาดปากไอ้หัวหนามที่ถือไม้เบสบอลวิ่งทะเล่อทะล่าข้ามา
ถือว่าออกกำลังก่อนกินมื้อเย็นซักหน่อยจะได้เจริญอาหาร
"เสียเวลากินชานมชะมัดเลยพวกแก” เซฮุนบ่นพร้อมกับสาวหมัดขาวๆไปเบื้องหน้า จุดสิ้นสุดคือปากหนาของไอ้อ้วนคนหนึ่ง โดนเพียงแค่นั้นมันก็ลงไปชักดิ้นชักงอที่พื้น
นี่มันสมรภูมิรบชัดๆ!!เลย!!
แพคฮยอนคิดพลางพยายามทำตัวเบาซอยเท้าด้วยความถี่กว่าปกติเพื่อแบ่งเบาภาระกับคนที่กึ่งลากกึ่งจูงพาเขาฝ่าฝูงอันธพาลนับสิบออกมาได้ แม้ว่าหลายคนจะลงไปนอนนับดาวด้วยฝีมือคนตัวสูง แต่ก็ยังมีอีกหลายคนที่ตามพวกเข้ามาอย่างไม่ลดละ
เหนื่อยใจจะขาดแล้วนะ
เพราะไม่รู้ว่าวิ่งมานานเท่าไหร่ ขาเจ้ากรรมดันจะหมดแรงเอาดื้อๆ ส่งผลให้แพคฮยอนเสียการทรงตัวและทรุดลงกับพื้นถนน มือเรียวหลุดจากการเกาะกุมของคนตัวสูงทันที
"เป็นอะไรหรือเปล่า!"
น้ำเสียงเจือความตกใจเล็กน้อย เป็นครั้งแรกที่ได้ยินเสียงที่บ่งบอกอารมณ์ของคนคนนี้
"มะ..ไม่ เป็นไร " แพคฮยอนยันตัวลุก เอื้อมมือเรียวไปเกาะแขนคนสูงอีกครั้ง ร่างกายยังคงหอบถี่เพราะความเหนื่อย เขาไม่อยากเป็นภาระ ถึงขาทั้งสองข้างจะแทบหมดแรงแล้วก็ตาม
"เฮ้ย!!!นั่นไงมันอยู่ตรงนั้น!!"
ไม่ต้องรอให้บอก ขาทั้งสองออกแรงวิ่งอีกครั้งทันที แต่เพราะคราวนี้ ระยะห่างมันกระชั้นชิด ชานยอลจึงเลือกที่จะดึงแพคฮยอนหลบไปในตรอกเล็กๆสำหรับทิ้งขยะระหว่างซอกตึก ซ่อนตัวในช่องว่างระหว่างกำแพงที่แสนแคบ
"มันหายเข้ามาในนี้นี่หว่า หายไปไหนวะ หรือมันจะปีนกำแพงออกไป แม่ง!!อย่าให้เจอนะเว้ย!!!"
เสียงฝีเท้าของพวกนั้นห่างไปทุกที คงไว้แต่ความเงียบที่โอบล้อมรอบกายพวกเขา ที่ได้ยินตอนนี้ก็แค่ลมหายใจของกันและกันเท่านั้น ถึงแม้จะอยู่ในตรอกแคบๆ มีเพียงแสงไฟจากถนนส่องมาเพียงนิดหน่อย แต่แพคฮยอนก็มองหน้าบุคคลที่ยืนแทบซ้อนกันได้อย่างชัดเจน
กลิ่นเหม็นชวนอ้วกของซากขยะไม่ได้มีผลซักเท่าไหร่
เพราะคนตรงหน้า ยิ่งมองก็ยิ่งหล่อ.. นี่สินะเค้าเรียกว่า หล่อสลบสยบความเหม็น
ใบหน้าหล่อเหลาเจือไว้ด้วยความหวานละมุนแบบผู้หญิงยังคงเรียบนิ่ง ดวงตากลมโตมองสบตากับแก้วตารีใสของแพคฮยอนไม่ยอมละไปไหนตั้งแต่แรก ก็ดีที่ว่าตรงนี้ไม่สว่างเท่าไหร่ ไม่งั้นคนตรงหน้านี้ต้องเห็นว่าเขาหน้าแดงไปถึงหูแล้วแน่ๆ
เสี้ยวนาทีแห่งความคิด ใบหน้าที่อยู่สูงกว่าเขาเหมือนจะค่อยๆเคลื่อนเข้ามาใกล้ลงทุกที อาจเพราะความสลัวที่ทำให้แคฮยอนตาพร่า มันใกล้จนลมหายใจอุ่นเป่ารดใบหน้า หัวใจของแพคฮยอนเต้นโครมครามกระโดดข้ามจังหวะ แต่สมองกลับสั่งการให้คนตัวเล็กค่อยๆปิดเปลือกตาลงช้าๆ
.....................................................................
......................................
..................
.......
..
.
อ๊บ อ๊บ อ๊บ อ๊บ
กบที่ไหนมาร้องแถวนี้ หน้าฝนแล้วเร๊อะ
♬ อ๊ปป้ากังนัมสไตล์ ♩
อ๋อ ลุงไซน่ะเอง
เสียงเพลงปริศนาทำเอาเราทั้งคู่ชะงัก
"ใคร"
หือ?!?" ใคร อะไร ยังไง?
"ใครโทรมา..."
อย่าบอกนะว่า..นั่นเสียงเรียกเข้า... =___=
"ปาร์คชานยอล"
พลั่ก!!
"ชานยอล!!"
TBC..
เมเม: พล็อตได้มาจากการ์ตูนตาหวานหลายๆเรื่องที่ชอบอ่าน รู้สึกว่านาง(?)เอกโก๊ะๆกับพระเอกเย็นชาน่ารักดี และนาง(?)เอกก็มักจะซวยเซ่อซ่าประมาณนั้น
#ฟิคอุบัติเหตุ @Aprilnov0408
ความคิดเห็น