คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #20 : Accidental of love ♡ Chapter 18 รอยแผลในหัวใจ
-ตอนที่18-
.
.
.
เบื่อขี้หน้านายเต็มทน
ทำไมชอบแย่งทุกอย่างไปจากฉัน
เกลียดขี้หน้านาย...
ตายๆไปซะ
ตายตามแม่นายไปสิ ...
ถ้าแกไม่ใช่ลูกฉัน! ฉันเฉดหัวแกออกจากโรงเรียนไปนานแล้ว ไม่เคยมีซักวันที่จะทำให้ภูมิใจ ดูพี่แกเป็นตัวอย่างสิ หัดดูซะบ้าง !!
แม่ไปไหนเหรอครับ? แม่ไม่รักผมเหรอครับ ทำไมแม่ไม่มาหาผมล่ะ?
มือเล็กเกาะขอบประตูห้องนอนแน่น โผล่ใบหน้าออกมาเพียงครึ่งกับดวงตากลมโตส่งผ่านไปยังผู้มาเยือนอย่างสงสัย
"ชานยอล ออกมาสิ คุณพ่อมารับแล้วนะ"
มือของหญิงวัยกลางเอื้อมไปจูงมือเล็กของเด็กน้อยที่ซ่อนตัวอยู่ด้านหลังประตูให้มานั่งข้างตน เธอยกมือกร้านตามวัยขึ้นลูบแก้มใสอย่างทะนุถนอมและกอดเด็กชายแนบอกด้วยความรักท่วมท้น
"ต่อไปนี้จะได้เรียนหนังสือแล้วนะ ไปอยู่กับคุณพ่ออย่าซน ต้องเป็นเด็กดีนะลูก"
เธอเอ่ยกับเด็กชายตัวน้อยด้วยถ้อยคำอบอุ่นหัวใจ รอยยิ้มอ่อนโยนผุดพรายขึ้นประดับดวงหน้า ความห่วงหาอาทรฉายเต็มดวงตาที่กำลังเอ่อไปด้วยน้ำสีใส หลานชายตัวน้อยที่เฝ้าดูแลทะนุถนอมมาตั้งแต่อ้อนแต่ออกตั้งแต่วันที่ผู้เป็นแม่ทิ้งไปอย่างไม่ไยดี
"เธอไม่กลับมาที่นี่เกือบห้าปีแล้วเหรอครับ ขอโทษที่ทำให้คุณต้องลำบากมาตลอด"
"ไม่เป็นไรหรอกค่ะ นี่ก็หลานฉันแท้ๆ ถึงอย่างไรก็ต้องดูแลแกอย่างเต็มที่อยู่แล้ว"
เธอพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนระคนเอ็นดู เด็กชายยังคงนั่งคลอเคลียอยู่กับผู้เป็นป้าไม่ห่าง มือเล็กเกาะแขนนั้นแน่น ดวงตากลมโตส่งแววหวาดหวั่นให้กับหนุ่มใหญ่ที่นั่งฝั่งตรงข้ามกัน เมื่อถูกจ้องกลับก็หลุบลงแทบจะซุกตัวให้จมหายไปกับเรียวแขนผู้เป็นป้า
"มาหาแม่สิจ๊ะ ชานยอล ต่อไปนี้หนูจะเป็นลูกชายของแม่นะ" มือขาวที่เล็บถูกแต่งแต้มด้วยสีแดงเพลิง เช่นเดียวกับริมฝีปากของเจ้าของเสียงแหลมใสถูกยื่นอออกไปเบื้องหน้า รอยยิ้มละมุนแสนหวานถูกส่งมาให้เด็กชายตัวเล็ก ดวงตาคู่สวยที่ฉาบทับด้วยเครื่องสำอางราคาแพงมองเด็กชายอย่างเอ็นดู ก่อนเคลื่อนตัวไปนั่งที่พื้นจนใบหน้าอยู่ระดับเดียวกันกับเด็กน้อย แขนทั้งสองข้างถูกยกและอ้าออกจากกัน เธอส่งยิ้มหวานและเอ่ยกับเด็กชายอีกครั้ง
"มาหาแม่สิจ๊ะชานยอล"
เด็กชายตัวน้อยค่อยๆโผเข้าสู่อ้อมกอดนั้นช้าๆตามประสา มือเล็กเกาะแน่นหาที่ยึดเหนี่ยว ความรักและอ้อมกอดจากแม่ที่เฝ้าโหยหาของเด็กชายไร้เดียงสา โดยเขาไม่สามารถรับรู้ได้เลย..
ว่ามันเป็นเพียงอ้อมกอดจอมปลอม
"ไอ้เด็กขี้ขโมย ฉันบอกแกกี่ครั้งแล้ว ฉันบอกกี่ครั้งแล้ว ทำไมยังทำ ตอบมา!!"
มือเรียวฟาดลงที่แขนเล็กไม่ยั้งจนเกิดรอยแดงเป็นปื้น เด็กชายถอยกรูดด้วยความหวาดกลัว น้ำตาเม็ดโตค่อยๆไหลอาบแก้มใส
"ผม..ฮึก..แค่หิว"
เด็กชายละล่ำละลักปนเสียงหอบสะอื้น น้ำตาพร่างพรูหยดแล้วหยดเล่า แต่หญิงสาวตรงหน้าก็ไม่มีทีท่าว่าจะเมตตาส่งความสงสารกลับมาให้แต่เพียงนิด
"ฉันบอกแกแล้วใช่มั้ย นี่มันของลูกชายฉัน เด็กข้างถนนอย่างแกไม่มีสิทธิ์มาแตะต้อง หิวเหรอ? ก็หิวให้ตายไปเลย! ขี้ขโมย เหลือขอเหมือนแม่แกไม่มีผิด!"
น้ำเสียงกราดเกรี้ยวดูถูกและเหยียดหยาม แววตาที่แสนจะชิงชังช่างขัดกับหน้าตาที่งดงาม แม้มันจะถูกฉาบทับด้วยหนาเตอะไปด้วยเครื่องสำอางราคาแพงก็ตาม จางอี้เฟยคือผู้หญิงที่สวย งดงามราวกับภาพวาด
สวย....เหมือนกับครั้งแรกที่ได้พบ แทบไม่ผิดเพี้ยนไปจากเดิม
ยังคงสวยเหมือนครั้งที่เธอและพ่อแท้ๆของเขาไปรับเด็กชายกำพร้ามาเลี้ยง เพื่อแค่จะโยนเศษเสี้ยวความรับผิดชอบ มันก็เท่านั้น
ปาร์คชานยอล ลูกเมียน้อยที่ถูกแม่แท้ๆทอดทิ้งตั้งแต่เกิด มีเพียงป้าของเขาที่เฝ้าทะนุถนอมมาตั้งแต่เล็ก ความรักจอมปลอมของผู้ที่ตนกำลังเรียกว่าแม่กับเศษเสี้ยวความรับผิดชอบของพ่อแท้ๆได้ถูกหยิบยื่นเข้ามา เด็กชายไร้เดียงสาที่ไม่เคยได้รับอ้อมกอดจากแม่หลงใหลไปกับสิ่งหลอกตาได้ไม่กี่ปี แม่ที่แสนน่ารักใจดีก็สอนให้เขารู้จักกับคำว่า แม่เลี้ยง
"ผม...ฮึก..จะไม่ทำมันอีก.. ผม ขอโทษครับ"
เสียงสะอื้นแห่งความน้อยใจที่พยายามเก็บกักแต่ก็ดูเหมือนยิ่งพยามมากเท่าไหร่ ก้อนสะอื้นที่ไล่จุกลำคอก็ยิ่งส่งเสียงประจานความเสียใจน้อยใจมากขึ้นเท่านั้น
นานแค่ไหนแล้วนะที่เขาต้องทนกับเรื่องพวกนี้ พ่อแท้ๆที่วันๆเอาแต่ทำงานเป็นบ้าเป็นบอกับธุรกิจหลายร้อยล้าน แม้แต่วันประชุมผู้ปกครองผู้หญิงตรงหน้ายังไม่คิดจะใส่ใจด้วยซ้ำ หากไม่มีป้าแม่บ้านที่คอยแอบช่วยเหลือ ชานยอลเองก็ไม่รู้ว่าจะอยู่ที่นี่ต่อไปได้หรือเปล่า
"แม่ครับ.." ร้องเรียกออกไปแผ่วเบา เสียงสะอื้นหยุดลงแล้ว คงเหลือไว้แค่คราบน้ำตาที่ที่เริ่มแห้งเกรอะแก้มใส
"ฉันไม่ใช่แม่แก อย่าสะเออะ ไอ้เด็กเหลือขอ!"
นิ้วเรียวถูกจิ้มที่หน้าผากย้ำๆ เล็บยาวจิกเข้าเนื้อจนเป็นรอย น้ำตาที่แห้งก็เอ่อล้นอีกครั้งพร้อมเสียงสะอื้นของความน้อยใจแล่นมาจุกคอหอยจนกลั้นไม่อยู่ ผู้หญิงคนนี้ผู้หญิงที่เขารัก ผู้หญิงที่เขาเรียกว่าแม่มาตลอดหลายปี ผู้หญิงที่ไม่เคยคิดว่าชานยอลเป็นลูกเลยซักครั้ง
"อย่ามาบีบน้ำตา! ปาร์คชานยอล แกมันน่ารำคาญแค่ไหนรู้มั้ย!"
ผ่ามือเรียวเงื้อฟาดข้างแก้มจนใบหน้าสะบัดไปตามแรง รู้สึกหงุดหงิดเป็นเท่าตัวที่นับวันเด็กนี่ยิ่งโตก็ยิ่งหน้าเหมือนผู้หญิงที่เธอเกลียดนักหนา ถ้าเป็นไปได้อยากจะฆ่าให้ตายไปซะตั้งแต่คราวโน้น ติดแค่ว่าไม่อยากให้สามีคลางแคงใจก็เพียงเท่านั้น อี้เฟยยอมเทหมดหน้าตัก จะมาพังง่ายๆเพราะเด็กตัวกระจ้อยไม่ได้!
"ตายแล้วคุณอี้เฟย เกิดอะไรขึ้นคะ คุณหนูๆ คุณชานยอล ทำไมเป็นแบบนี้ล่ะ!"
แม่บ้านร่างอวบวัยเกือบหกสิบวิ่งปรี่เข้ามาอย่างลืมสังขาร มือเหี่ยวกร้านประคองใบหน้าที่แดงเป็นรอยแผ่วเบา แตะนิ้วเช็ดคราบน้ำตาที่ยังไม่แห้งสนิทด้วยหัวใจสั่นไหวไม่แพ้เรียวนิ้ว สงสารเหลือเกิน แต่สิ่งที่จะทำได้คงมีแค่ปลอบประโลมเพียงเท่านั้น
"ขี้ขโมย น่ารำคาญ สั่งสอนมันบ้างนะ แต่อย่างว่าสันดานมันเสียเหมือนแม่มัน!"
ใบหน้าสวยเชิดขึ้นพลางส่งสายตาเหยียดหยามทิ้งท้ายก่อนจะเดินออกจากห้องไปทิ้งความเจ็บปวดทั้งที่ร่างกายและหัวใจไว้กับร่างของเด็กชาย
“เจ็บมั้ย .. นายเจ็บหรือเปล่า พี่จะทายาให้นะ" เด็กชายตัวขาวแอบย่องเข้ามาในห้องอย่างเงียบกริบ เขาพูดกับน้องชายต่างมารดาที่นอนหลับสนิทไปแล้ว นิ้วเรียวค่อยๆแตะยาแก้ฟกลูบผ่านแก้มใสอย่างเบามือ เขาไม่สามารถทำอะไรได้ทุกครั้งเมื่อน้องขายถูกทำโทษอย่างไร้เหตุผล
ทุกครั้งที่ชานยอลร้องไห้เขาก็ได้แต่ยืนร้องตาม
ไม่สามารถช่วยเหลืออะไรน้องชายคนนี้ได้เลย
“ถ้าพี่โตเป็นผู้ใหญ่ พี่จะปกป้องนายเอง นายจะไม่ต้องร้องไห้อีกแล้วนะชานยอล”
"ชานยอลกินนี่สิ พี่ให้หมดเลย"
คนเป็นพี่หอบขนมพะรุงพะรังจนเต็มอ้อมแขนค่อยๆวางลงบนเตียงของน้องชาย ส่งยิ้มกว้างจนแก้มข้างขวาปรากฏลักยิ้มแสนน่ารัก เขาจงใจเลือกซื้อของโปรดของชานยอลในขณะที่ออกไปช้อปปิ้งกับมารดาเช่นทุกที คนเป็นแม่แปลกใจไม่น้อยที่เห็นพักหลังๆลูกชายมักจะเลือกของเยอะแยะกว่าที่เคย แต่เธอก็เพียงคิดว่าเด็กกำลังโตคงจะอยากโน่นอยากนี่มากกว่าปกติเป็นธรรมดา
โดยไม่รู้เลยว่าเด็กชายมักจะย่องเอาของกินมาให้น้องชายเสมอ พี่ชายที่รักน้องชายต่างมารดาราวกับน้องแท้ๆ
"จริงเหรอ ฉันกินได้..เหรอ?”
ถามออกไปอย่างนึกกลัว หากผู้เป็นแม่รู้เรื่องว่าเขากล้าแตะต้องของของพี่ชาย ชานยอลคงโดนทำโทษเหมือนเช่นทุกที
“ได้สิ พี่ให้ กินเยอะๆเลยนะ”
ส่งยิ้มให้น้องชายอีกครั้งพลางนั่งลงข้างๆ ดวงตาจับจ้องใบหน้าหล่อเหลาแต่กลับดูสวยหวานราวกับเด็กผู้หญิงแล้วอดเอ่ยชมไม่ได้
“ชานยอลนี่หล่อจังเลยนะ ดูสิ เพิ่งขึ้นม.ต้นแท้ๆ ตอนนี้สูงกว่าพี่แล้วมั้ง”
พูดไปยิ้มไป คนเป็นน้องได้แต่เงยหน้ายิ้มรับน้อยๆ มุมปากดันแก้มกลมจนเผยลักยิ้มที่ข้างแก้มด้านซ้าย
เป็นเรื่องบังเอิญของสองพี่น้องต่างมารดา ที่ถูกธรรมชาติสร้างขึ้นมาให้เหมือนกันอย่างน่าประหลาด
“พี่รักผมมากมั้ย?”
จู่ๆน้องชายก็เงยหน้าขึ้นจากของโปรดตรงหน้า ดวงตาดำขลับจ้องลึกเข้าไปในดวงตาผู้เป็นพี่อย่างมั่นคงและเชื่อมั่น
“รักสิ รักที่สุดเลย ก็เราเป็นพี่น้องกันนี่น่า”
อี้ชิงตอบกลับพลางยกมือขยี้หัวน้องชายด้วยความเอ็นดู แน่นอนว่าเขารักชานยอลมาก ยิ่งรับรู้ในสิ่งที่น้องชายขาดมาตั้งแต่เด็กเขาก็ยิ่งอยากช่วยเติมเต็ม
“ชานยอลก็รักพี่ รักมากที่สุด”
ชานยอลเอ่ยโดยไม่ได้ละสายตาไปจากเดิม ดวงตาสีดำนิ่งสนิท
“อี้ชิง จะไม่ทรยศความรักของชานยอลใช่มั้ย?”
Accidental of love♡
นายไม่เคยเป็นอย่างฉันจะไปรู้อะไร…
นายไม่เคยถูกทิ้งจะไปรู้อะไร..
อย่าเอาความเพรียบพร้อมของนายมาสงสารฉัน!
ภาพของเด็กผู้ชายสองคนที่จับมือกันเดินไปด้วยกันไม่ห่างเรียกรอยยิ้มจากผู้พบเห็นได้ไม่น้อย ไม่ว่าจะเป็นที่โรงเรียนหรือเวลาออกไปไหนด้วยกัน อี้ชิงมักจะกุมมือน้องชายคนเดียวของเขาไว้เสมอ
อยากดูแล อยากทดแทนในสิ่งที่น้องชายคนนี้ขาดหาย
“เรามีกันสองคนพี่น้องเองนะชานยอล พี่ไม่รักนายแล้วพี่จะรักใคร”
เป็นคำตอบของคำถามรอบที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้ ยามที่ได้นั่งทำกิจกรรมต่างๆร่วมกัน น้องชายของเขาคนนี้มักจะคอยย้ำคอยถามให้ตัวเองได้มั่นใจเสมอ
ความรักเพียงหนึ่งเดียวจากคนในครอบครัวที่ชานยอลสัมผัสได้ ความรักจากพี่ชายที่แสนหวงแหน เป็นสิ่งมีค่าสิ่งเดียวในชีวิตตอนนี้ หากสูญเสียไป หัวใจที่ลอยคว้างดวงนี้จะหาที่ยึดเหนี่ยวที่ไหน
ชานยอลเองก็หาคำตอบให้ตัวเองไม่ได้
แม้แต่คนเป็นพ่อแท้ๆ ยังไม่เคยสนใจใยดีลูกนอกคอกอย่างเขาเลยซักครั้ง เวลาแทบจะพบหน้ากันยังไม่มี แล้วให้คนอย่างปาร์คชานยอลเอาอะไรไปรับรู้ความรักเหล่านั้น
ความรัก ..ที่มันอาจไม่มีอยู่จริง
“จบม.ต้นแล้ว ลูกอยากเรียนต่อที่ไหนจ๊ะ?” ริมฝีปากสีแดงสดที่ไม่เคยซีดจาง แม้จะล่วงเลยวัยสาวสะพรั่งมานานแล้วขยับเอื้อนเอ่ยกับลูกชายสุดที่รักเพียงคนเดียวของเธอ อี้ชิงเงยหน้าจากหนังสือตรงหน้ามองดูผู้เป็นมารดาด้วยแววตาไม่เข้าใจ
“ครับ? ก็ที่นี่”
อี้ชิงเลิกคิ้วสูงพลางมองมารดาที่ยังคงส่งยิ้มหวานมาให้ มือเรียวยกลูบเส้นผมสีอ่อนของลูกชายช้าๆแผ่วเบา
“แม่ไม่ได้หมายถึงที่นี่ ลูกต้องไปเรียนต่อต่างประเทศ”
ประโยคของอี้เฟยส่งผลให้อี้ชิงเบิกตากว้าง ผู้เป็นลูกขยับปากจะคัดค้านแต่นิ้วเรียวยาวของผู้เป็นแม่ยกแตะไว้ก่อนเป็นเชิงห้าม
“แม่อยากให้ลูกไป เพื่ออนาคตและเพื่อครอบครัวของเรา”
“แต่แม่ครับ ไว้จบม.ปลายก่อนก็ได้นี่ครับ เรื่องนี้ผมก็คิดไว้บ้างแล้วแต่ตอนนี้มันเร็วไป”
อี้ชิงบอกกับมารดาด้วยน้ำเสียงเป็นกังวน ไม่เพียงแต่จะรู้สึกไม่พร้อม ถึงแม้เขาจะรู้อยู่เต็มอกว่ายังไงวันนี้ก็ต้องมาถึง แม่ของเขาเป็นสาวสังคมไฮโซ เป็นธรรมดาที่จะอยากให้ลูกได้ชื่อว่าเป็นนักเรียนดีมีดีกรีจบจากนอก
เพียงแต่ตอนนี้สิ่งที่อี้ชิงห่วงที่สุดคือ ชานยอล น้องชายเพียงคนเดียวที่ผูกโลกทั้งโลกไว้กับพี่ชายเพียงคนเดียวคืออี้ชิง ชานยอลเข้ากับแม่ของเขาไม่ได้เรื่องนี้อี้ชิงรู้ดี ส่วนพ่อก็ทำงานหนักเป็นบ้าเป็นหลังเวลาอยู่ติดบ้านแทบจะไม่มี จะเหลือก็แต่ป้าแม่บ้านที่อายุมากแล้ว ถึงจะคอยดูแลกันมาตลอดแต่อี้ชิงก็ไม่ไว้ใจใครนอกจากตัวเอง
ผู้เป็นแม่ยิ้มหวานหยดให้กับลูกชายที่ตอนนี้ดูเครียดเหลือเกิน อี้เฟยรู้ดีว่าลูกชายคนเดียวของเธอรักน้องนอกไส้มากแค่ไหน ทุกการกระทำของอี้ชิงตลอดเวลาที่ผ่านมามีหรือจะรอดพ้นสายตา เ พียงแค่ต้องทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น เธอไม่อยากให้ลูกชายสุดที่รักต้องรู้สึกแย่กับเธอนักหรอก แม้บางครั้งที่เธอทุบตีชานยอลอี้ชิงจะผ่านมาเห็นบ้างก็ตาม
แต่ลูกชายของเธอจะกล้าตำหนิอะไรผู้เป็นแม่ได้ หลายครั้งที่อี้ชิงขอร้องแต่เธอก็ให้เหตุผลว่า น้องดื้อต้องสั่งสอน แค่นี้เด็กดีอย่างอี้ชิงมีหรือจะเถียง และคราวนี้อี้ชิงก็ขัดเธอไม่ได้เช่นกัน
“ชานยอลเองก็ต้องไปเหมือนกัน ลูกไปก่อนแค่ปีเดียวพอน้องจบม.ต้น แม่ก็จะพาน้องไปอยู่กับอี้ชิง” อี้เฟยหว่านล้อมอีกครั้งเมื่อเห็นว่าอี้ชิงทำท่าจะไม่ยอมเหมือนทุกที
“งั้น ก็ให้น้องไปพร้อมผมเลยก็ได้ครับ ทำเรื่องโอนย้ายไปเลยก็ได้นี่ครับ จะได้ไปพร้อมกันเลย”
และเป็นอย่างที่คาดไว้ไม่ผิด ดวงตาสวยฉายแววหงุดหงิดจนปิดไม่อยู่ เมื่อใช้ไม้อ่อนไม่ได้เห็นทีจะต้องใช้มาตรการเด็ดขาด
“อย่าเรื่องมากนะอี้ชิง ไปเรียนก็เพื่อจะได้กลับมาช่วยคุณพ่อ คิดว่าพ่อแกจะต้องทำงานอีกเท่าไหร่กันฮะ! ไปเร็วๆก็จะได้ความรู้เยอะๆ แกคิดว่างานพ่อแกมีอย่างสองอย่างหรือไง!”
เสียงหวานของแม่ผู้ใจดีกลายเป็นน้ำเสียงเกรี้ยวกราด ย้ำปลายเสียงชัดเจนว่าหากขัดใจคงจะกลายเป็นเรื่องใหญ่ไม่จบสิ้น แต่ความที่เป็นห่วงน้องชายทำให้อี้ชิงมีความกล้าที่จะร้องขอความเห็นใจ
“แม่ครับ...”
“อี้ชิง แกเลือกเอานะ ว่าแกจะไปก่อนแล้วให้น้องแกตามไป หรือจะไม่ไปแล้วจะให้ฉันเฉดหัวมันออกจากบ้าน!!”
“แม่ครับ” เอ่ยเสียงแผ่วจนแทบไม่ได้ยิน อี้เฟยกระตุกยิ้มร้ายกาจก่อนเปลี่ยนเป็นยิ้มหวานหยดดังเดิม มือบางยกขึ้นลูบหัวลูกชายอีกครั้ง
“แม่เป็นคนพูดจริงทำจริงนะ ลูกก็รู้”
“อี้ชิง.. จะไปไหน?”
ชานยอลเอ่ยเสียงสั่นเมื่อเห็นพี่ชายเก็บข้าวของส่วนตัวลงกระเป๋าใบโต อี้ชิงเงยหน้ามองน้องชายต่างมารดาที่ยืนนิ่งไม่ละสายตาไปจากกระเป๋าที่มีข้าวของเสื้อผ้าอัดแน่น
“พี่จะไปเรียนต่อน่ะ เดี๋ยวชานยอลก็จะได้ตามไป”
บอกน้องชายยิ้มๆแม้จะรู้สึกใจหาย แต่สิ่งที่ทำทั้งหมดก็เพื่อให้ผู้เป็นแม่สบายใจ และเพื่อน้องชายเพียงคนเดียวของเขา
“ไม่มีวันนั้น…”
ชานยอลเอ่ยขึ้นแผ่วเบา ดวงตากลมเลื่อนลอยไม่ยอมสบตาผู้เป็นพี่ ก้อนเนื้อในอกวูบโหวงเหลือเกินราวกับว่าตอนนี้มันหายไป อี้ชิงกำลังจะทิ้งเขา พี่ชายคนนี้กำลังจะทิ้งเขาไป
“มีสิ ..ถ้าวันนั้นชานยอลยังไม่ตามไป พี่จะกลับมารับเอง” ขยับตัวลุกขึ้นมาโอบกอดน้องชายเอาไว้ รับรู้แรงสั่นจากร่างกายที่สูงกว่าเขาแล้วในตอนนี้ ชานยอลกำลังร้องไห้แต่กลับไร้เสียง หัวใจดวงน้อยแสนบอบบางที่เข้มแข็งกว่าใคร
อี้ชิงทำได้เพียงกระชับอ้อมกอดนั้นแน่นยิ่งขึ้นไปอีก
“จะไปวันไหน” พยายามสะกดกลั้นน้ำเสียงแสนสั่น แต่ตอนนี้มันดูยากเหลือเกิน
“อีกสองวัน คุณแม่จัดการทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว”หัวใจดวงนี้ อ้างว้างเกลือเกิน
Accidental of love♡
หัวใจดวงนี้เจ็บปวดเหลือเกิน
ฉันผิดอะไร ทำไมไม่มีสิทธิ์ได้รับความรัก
...บางทีอาจผิดตั้งแต่เกิดมาแล้วด้วยซ้ำ
"ใช่!! ลูกนังนั่นแหละ ตอนนี้คุณปาร์คไปรับมันมาอยู่ด้วยแล้ว ถ้ารู้ว่าจะเป็นอย่างนี้ ให้มันหายไปพร้อมกับแม่มันก็ดี!"
ขาทั้งสองข้างหยุดชะงักนิ่งงันกับที่ ลูกบาสสีส้มในมือแทบจะร่วงหล่นพื้นแต่ดีที่ว่าเจ้าตัวยังมีสติประคองมันไว้ได้ทัน ชานยอลแนบตัวเข้ากับผนังของตัวบ้านข้างหน้าต่างที่เปิดทิ้งไว้ด้วยหัวใจที่สั่นระริก เขาแค่เผลอเดินเข้ามาอีกฝั่งของตึกหลังใหญ่และได้ยินเสียงเข้าโดยบังเอิญ น้ำเสียงสูงเกรี้ยวกราดยามหงุดหงิดที่เขาจดจำมันได้ดี และไม่มีวันลืม
แม่เลี้ยงของเขา
“พี่! ฉันทนให้มันรกหูรกตามาหลายปีแล้วนะ ทุกอย่างที่ทำมากำลังจะพัง มันจะแย่งทุกอย่างไปจากลูกอี้!“
เสียงสูงยังแสดงอารมณ์หงุดหงิดอย่างต่อเนื่อง เธอทั้งสบถถ้อยคำหยาบคายต่างๆนาๆกับคู่สนทนาที่ชานยอลไม่อาจเห็นหน้าได้
“ฉันต้องทำยังไง! ฉันต้องทำยังไงกับมันดี!”
TBC..
เมเม : รีไรท์ตรงไหน แก้คำผิดเสียมากกว่า - - และเราก็จะใช้ทอล์คเก่า (หัวเราะเสียงดังลำพังในห้อง) // อดีตยาวไปยันตอนหน้าเลย พระเอกมีบทเยอะแล้ว (เย้~~) ทำไมอี้เฟยถึงร้ายกาจนักนะ ... ขอบคุณที่ยังติดตามกันเช่นเคย เผื่อใครเบื่อๆไปแล้วเพราะไรเตอร์มันชอบหาย (ขำสะอื้น) เผื่อว่างๆก็คิดถึงเรื่องนี้ซักนิดนะจ๊ะ รักคนอ่านที่สุดและขอบคุณทุกคอมเม้นท์เช่นเคยค่ะ ((อีกนิด..ไม่ซีเรียจเรื่องเม้นท์นะเพราะรู้ว่า บางทีอ่านไปไม่รู้จะเม้นท์อะไรดี แต่ถ้ามันสนุกก็บอกกันบ้างนะคะแค่อยากรู้จริงๆ ขอบคุณค่ะ~~~~)) @Aprilnov0408
.
.
ความคิดเห็น