ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic EXO] -Accidental of love-

    ลำดับตอนที่ #2 : Accidental of love ♡ Chapter ‏1 Meet up

    • อัปเดตล่าสุด 9 พ.ค. 57


    Rasp Free Theme dek-d By i'nutberry




                                                     










                                                                   -ตอนที่1-



















                                    












     
               "จะนั่งอยู่อย่างนั้นอีกนานมั้ย"

     

     

    เจ้าของเสียงทุ้มหน้าหล่อเอ่ยขึ้นแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย จนคนที่ตกอยู่ในมโนภาพของตัวเองสะดุ้งโหยง  ใบหน้าหล่อที่คนตัวเล็กเผลอเพ้อถึง  ว่าเป็นดั่งเจ้าชายในนิยาย  ไม่ได้สนใจแม้แต่จะเหลือบมองคู่สนทนาเพียงหางตาเสียด้วยซ้ำ กลับเป็นเขาเองต่างหากที่จ้องมองหมอนั่นตาแป๋ว

     

     

     "......."

     

     

                คนตัวเล็กค่อยๆลุกขึ้นช้าๆ  ปัดเศษฝุ่นที่ติดตามกางเกงอย่างลวกๆ ก่อนหันไปยิ้มแป้นให้กับคนสูงกว่าค่อนข้างเยอะ จะว่าไปก็เยอะมาก..

     

     

                "ฉันเพิ่งย้ายมาเรียนที่นี่วันนี้น่ะ ชื่อพยอนแพคฮยอน"  พูดเสียงดังฟังชัด พร้อมกับยื่นมือเล็กๆของตัวเองไปด้านหน้า รอยยิ้มสดใสฉีกกว้างขึ้นอย่างเป็นมิตร

     

     

    "ยะ..ยิน ดี ..."    ยังไม่ทันจบประโยค คนที่เคยยืนค้ำหัวตรงหน้าก็เดินผ่านไปอย่างไม่ใยดีเล่นเอาแพคฮยอนหน้าเหวอแต่ก็ต้องกลบเกลื่อนด้วยรอยยิ้มแห้งๆ  ปากบางยิ้มค้างกับสายลมแสงแดด  แม้อยากหุบมันลงอย่างใจเท่าไรแต่ดูเหมือนขากรรไกรของเขามันจะไม่รักดีเอาซะเลย  จนกระทั่งแผ่นหลังกว้างของคนตัวสูงหายไปจากกรอบสายตา

     

     

     "คนบ้าไรเนี่ย ไร้มนุษย์สัมพันธ์ชะมัด หน้าตาดีซะเปล่า ชิ!!"  อ้าว ขากรรไกรทำงานได้แล้ว  

     

     

    ปากเล็กบ่นขมุบขมิบอย่างขัดใจพลางอ้าขยับซ้ายขยับขวาเช็คความเรียบร้อยว่าขากรรไกรของเขากลับมาทำงานตามปกติดีแล้ว  



                เด็กหนุ่มตัวขาวเหลือบมองแพคฮยอนด้วยสายตาประหลาด  สีหน้าเนือยๆเหมือนไม่ยินดียินร้ายนั่นยังคงเรียบเฉย มีแค่แววตาที่คอยไล่สำรวจร่างกายของคนตัวเล็กตั้งแต่หัวจรดเท้า  



                และแพคฮยอนคงไม่ได้ตาฝาด  เจ้าตัวขาวกระตุกมุมปากเบาๆพลางชักสีหน้าเหมือนหมาง่วงนอนใส่เขาเต็มๆ  สีหน้า
    ในแบบที่ว่า  ขยะแขยง  หรืออาจจะขนพองสยองเกล้า หรืออะไรที่แสดงว่าหมอนั่นไม่อยากคบค้าสมาคมด้วยเป็นอันขาด  แค่หายใจร่วมกันในโรงเรียนนี้ยังลำบากประมาณนั้น  มันก็แค่ชั่วกระพริบตาสองครั้งเท่านั้นก่อนเจ้าตัวขาวที่ไม่น่าจะเคยรู้จักความอบอุ่นของดวงอาทิตย์นั่นจะหันหลังแล้วเดินหนีไปอีกคน

     

     

    ทำไมต้องมามองกันเหมือนตัวประหลาด  เหมือนสารปนเปื้อนสิ่งแปลกปลอมขนาดนั้น ?! แล้วนี่ก็..เดินหนีอีกแล้วคนโรงเรียนนี้เป็นอะไรกันไปหมด.. วะ! เห็นใสๆงี้บอกเลยแพคฮยอนหงุดหงิดเป็นครับ

     

     

    "นี่ไอ้เด็กหลง ห้องพักพวกอาจารย์ตึกโน้น เอ๊ะ หรือตึกนั้นวะ เอ้ย ตึกนี้ๆๆ  ถ้ าหาห้องเรียนไม่เจอล่ะก็นะ.. หึ!" คำสุดท้ายอึมครึมอยู่ในลำคออย่างเท่!  คิดว่าตัวเองเป็นหรอ =_=

     

     

    คนหน้าหล่อ (มันหล่ออีกแล้ว)  เจ้าของผิวสีน้ำผึ้งดูเซ็กซี่บอกเขาด้วยท่าทางที่ดูมีน้ำใจมาก (ตรงไหน!) พร้อมชี้ทิศทางไปมั่วซั่ว รอยยิ้มยียวนจุดขึ้นที่มุมปากหยักนั่นเล็กน้อย สองมือที่ล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกงนักเรียนสีเดียวกับสูทช่างดูกวนพระบาทจนอยากเอาอวัยวะที่พูดถึงเมื่อสักครู่ไปวางไว้บนหน้าหล่อๆนั้นเสียจริง 
               


                 เจ้าของผิวสีน้ำผึ้ง
    หรี่ตาลงเล็กน้อยแล้วตวัดมองคนตัวเล็กอีกครั้ง ก่อนเจ้าตัวจะทำเท่เดินผิวปากอย่างอารมณ์ดีแล้วก็จากไปอีกคน

     

     

    "ฉัน โด คยองซู"  

     

     

    แพคฮยอนหันขวับตามเสียงที่ดังขึ้นใกล้ๆ  ตาเรียวเล็กสบเข้ากับดวงตากลมโตของอีกคนอย่างจัง  เจ้าของเสียงสดใสเหมือนกับหน้าตายื่นมือห้เขา คนตาโตเผยรอยยิ้มกว้างจากปากรูปหัวใจจนข้างแก้มดันดวงตาเป็นขีดโค้ง ....อา คนนี้น่ารักจัง

     

     

    แพคฮยอนยื่นมือของตัวเองออกไปบ้าง ทันทีที่ปลายนิ้วแตะกันความรู้สึกอุ่นใจก็เกิดขึ้น  คนตัวเล็กส่งยิ้มให้เพื่อนใหม่คนแรกที่ยอมทักทายเขาแบบปกติ  ส่วนพวกก่อนหน้า ไม่นับ!

     

     

    ฉัน แพคฮยอนนะ พยอนแพคฮยอน

     

     

    อื้อ ฉันรู้แล้ว เมื่อกี้ก็ได้ยิน”  ปากอิ่มรูปหัวใจคลี่ยิ้มแสนน่ารักมาให้อีกครั้ง  แล้วเจ้าของร่างเล็กกะทัดรัดจะหันหลังแล้ววิ่งตามคนอื่นๆไปเช่นกัน

     

     

    และแล้วก็กลับมาเงียบสงบ และโดดเดี่ยว

     

     

    คนโรงเรียนนี้แม่ง..แปลกชะมัด ฉันจะอยู่รอดปลอดภัยมั้ยเนี่ย

     

     

    เฮ้อออ~~    

     

     

    ถอนใจกับตัวเองยาวเหยียดพลางหันรีหันขวางหาจุดหมายที่ต้องไปต่อ มาเรียนวันแรกก็เจอเหตุการณ์ชวนหัวใจวายเสียแล้ว จะอยู่รอดจนถึงจบการศึกษามั้ยนะ แค่เทอมเดียวจะรอดหรือเปล่าก็ไม่รู้ เง้ออ~

     

     

    แต่.......

     

     

    "เอ๋??" 

     

     

    เมื่อกี๊ นะ เมื่อกี๊..

     

     

    กลุ่มเจ้าพวกนี้มีแค่5คนเท่านั้นนี่ หนึ่ง..สอง ..สามสี่ ..ห้า!! ห้า!จริงๆด้วยอ่ะ!! .. แล้วกับไอ้พวกเมื่อกี๊ตั้งยี่สิบสามสิบคน ...

     

     

     

    ….

     

     

    ………

     

     

    ………………

     

     



                 "หนะ นี่..มัน โรงเรียนมาเฟียหรือไงฟร๊ะ!!!"










                          

     

     

     

     

     

             

     

















    Accidental of love

     

     

                                                   

                 

     

     

    เป็นโชคดีหรือร้ายของพยอนแพคฮยอนก็ไม่รู้  เพราะห้องที่เขาต้องเข้ามาเรียนดันเป็นห้องเดียวกับห้าหนุ่มสุดหล่อที่เพิ่งไปสร้างวีรกรรมเนรมิตรสนามโรงเรียนเป็นสมรภูมิรบขนาดย่อมเมื่อก่อนหน้านี้ได้ไม่นาน  แต่ถึงอย่างนั้นหน้าตาของคนที่สิงสถิตอยู่ในห้องนี้ก็ไม่ได้ดูแตกต่างจากพวกที่กระโจนวิ่งเข้าหาเขาอย่างบ้าคลั่งเมื่อครู่ซักนิด หรือเพราะกลุ่มคนที่นั่งรวมกันเป็นกระจุกตรงกลางห้องนี่ดูดีเกินมนุษย์กันแน่นะ...  คือแบบ คนนึงก็หล่อ คนนึงก็ขาว คนนึงก็เซ็กซี่ แล้วอีกคนก็น่ารักอ่ะนะ.. 

     

     

    เฮ้ยย คิดอะไรวะเนี่ยแพคฮยอน ควรห่วงสวัสดิภาพของชีวิตตัวเองดิวะ  ..เอาเหอะ ถึงคนที่นี่จะดูไม่ปกติแค่ไหนอย่างน้อยก็ยังมีคยองซูนี่ล่ะ ดูหมอนี่จะมีมนุษยสัมพันธ์และใจดีอยู่บ้าง น่าจะพอคุยกันรู้เรื่อง

     

     

    ผิดกับพวกที่เหลือลิบลับ...!(จำได้ว่าเมื่อกี๊เผลอชม)

     

     

    "นี่ชานยอล การบ้านเเมื่อวานน่ะ ขอลอกหน่อยสิ"  




                 คนผิวเข้มที่สุดในกลุ่มเอ่ยขึ้นกับคนที่เอาแต่นั่งหลับ  ถึงดวงตาทั้งสองข้างจะปิดสนิทแต่แค่มองก็รู้แล้ว หมอนั่นไม่ได้เข้าสู่ห้วงนิทราอย่างที่คิด  ท่าทีแสนสบายดูไม่ยินดียินร้ายกับสิ่งมีชีวิตรอบตัวราวกับผู้คนพวกนั้นเป็นเพียงอากาศธาตุ  แพคฮยอนรับรู้ได้ถึงกำแพงโปร่งแสงเบาบางที่ถูกสร้างขึ้นรอบๆตัวหมอนั่น  ไหนจะกลุ่มแม่สาวกระโปรงสั้นที่เอาแต่ยกมือถือถ่ายรูปหมอนี่อีก



                ว่าแต่..นี่มันโรงเรียนชายล้วนไม่ใช่หรือไง แล้วยัยพวกนี้คือ
    !!!?????  

               

                มีอะไรที่จะต้องปวดหัวไปกว่านี้อีกมั้ย รีบๆเลย แพคฮยอนอาจจะบ้า!

     

     

    เฮ้ย  ชานยอล

     

     

      ชานยอล?..หมอนี่ชื่อชานยอลเหรอ

     

     

     "ไม้เบสบอลของไอ้พวกนั้นฟาดถูกเส้นสมองแกหรือไงจงอิน  แกก็รู้ว่าชานยอลมันไม่เคยทำการบ้าน”  เจ้าตัวขาวที่ในมือถือแก้วสีใสที่ข้างในบรรจุน้ำหวานสีข้นพูดไปพร้อมกับปากที่เคี้ยวเจ้าก้อนกลมๆสีดำหนึบหนับเต็มปาก  เสียงอู้อี้นั่นยังคงรักษาเอกลักษณ์ความเนือยบวกเฉื่อยชาเอาไว้ได้เป็นอย่างดี

     

     

    จงอินหน้าหุบลงครึ่งนิ้วทันที ก่อนสมุดการบ้านในมือจะถูกเหวี่ยงออกไปหาเป้าหมาย  ตัวต้นเหตุที่ดันทำเส้นอารมณ์คนหล่อกระตุก แต่ไอ้ตัวต้นเหตุที่ว่าดันโยกตัวหลบได้อย่างรู้งาน สมุดการบ้านมหาประลัยที่แหวกอากาศด้วยความเร็วจึงลอยเเฉียดหัวแพคฮยอนแบบเฉียดฉิว  เส้นผมนิ่มถึงกับปลิวไหวตามแรงเฉียดก่อนสมุดเล่มนั้นจะร่วงปุลงมาอยู่ในทรงเดิมราวกับจับวาง



                 ฮะ ฮ้ะ ฮ้ะ! โรงเรียนนี้มันสนุกจริงๆ

     

     

    นี่มันตื่นเต้นโลดโผนยิ่งกว่าขึ้นรถไฟเหาะม้วนหลังสามรอบครึ่ง น้ำตาจะไหล ...แพคฮยอนอยากกลับบ้านนนนนนน!!!!!

     

     

    "ฉันทำให้แล้ว"  ในขณะที่เหตุการณ์ระทึกรอบสองของวันกำลังทำให้แพคฮยอนหายใจไม่ทั่วท้อง เสียงหวานๆของคยองซูก็ดังขึ้นเรียกความสนใจของสองหนุ่มหล่อต่างสีผิวไปอย่างสิ้นเชิง  รอยยิ้มบางเบาจุดขึ้นประดับใบหน้าน่ารักเหมือนแสงอาทิตย์แรกยามเช้า  มันช่างสดชื่นชวนให้หัวใจพองโต

     

     

     แต่รอยยิ้มที่ว่านี่ดันมีผู้รับที่ชื่อว่าจงอิน  ซึ่งทำท่าเหมือนกับไม่ใส่ใจหรือสนใจอยากได้ใคร่ดีอะไรซักนิด คนผิวเข้มเดินลิ่วมาหยิบสมุดที่อยู่ในมือคยองซูอย่างรวดเร็ว ไม่มีแม้แต่คำขอบคุณ  ดำไม่พอนิสัยยังเสียอีกนะจงอิน!

     

     

                "อะไรวะงุบงิบทั้งปีแกสองคน!"   เจ้าผิวขาวหน้าใสโวยวาย  ชานมในแก้วถูกยกขึ้นซดเสียงดังจนความถี่ของมันแทบทำลายโสตประสาท  ฮึดฮัดถึงขนาดที่กินยังไม่ทันหมดแก้วพลาสติกในมือก็ไปนอนแอ้งแม้งอยู่ในถังขยะหลังห้อง ..แม่นยำราวกับจับวางอีกแล้ว...

     

     

     "แกก็ไปให้พี่ลู่ทำให้สิ เซฮูนา~~~~"  จงอินล้อเลียนพร้อมกับแกล้งกระซิบเข้าที่ข้างหู  ทำเอาเจ้าหนุ่มตัวขาวแทบซีดที่ถูกเรียกชื่อแบบน่ารักหน้าแดงเถือกลามไปถึงหู  ไม่รู้ว่าอายหรือโกรธ แต่ดูแล้วน่าจะเป็นอย่างหลังเสียมากกว่า

     

     

    "ไอ้บ้า ฉันไม่อนุญาติให้แกเรียกชื่อนี้เว้ย!!”  แผดเสียงดังลั่นห้องก่อนจะไล่เตะคนผิวเข้มที่หนีอย่างลุกลนพลางหัวเราะดังลั่นไม่แพ้เสียงโต๊ะเก้าอี้ที่พากันล้มระเนระนาดเพราะฝีเท้าของเซฮูนา(?)



                "จงอิน แกตายยยยยยยย!!!!"



                "ว้ากกกกกกกกกก!!"

                 

                "ย้ากกกกกกกก!! กกกกกกก"

     

     

    แพคฮยอนมองความวุ่นวายรอบตัวตาปริบๆ รับรู้ถึงชีวิตที่ในอีกไม่นานคงเต็มไปด้วยสีสัน  อา..ชีวิตวัยรุ่นมันดีอย่างนี้เอง  เขาจะต้องสนุกกับมันมากแน่ๆ  ...........



                 ได้โปรดเถอะ ส่งเขากลับคยองกีที!!!!!!

     

     

    จะเหลือก็แค่คนปกติเพียงคนเดียว...

     

     

    ที่ดูไม่ปกติในตอนนี้ - -  ก็ดูชาวบ้านเค้าโหวกเหวกโวยวายจนห้องแทบแตก นี่เข้าชานทำสมาธิหรือเปล่าทำไมยังสงบนิ่งขนาดนี้ พรุ่งนี้จะบรรลุโสดาบันแล้วใช่มั้ย คยองซู!

     

     

    ตาเรียวเหลือบมองคยองซูที่นั่งข้างๆกัน คนตาโตที่ไม่ได้สนใจกับสิ่งรอบตัวแม้เพียงนิด  มือเล็กกำลังเปิดหนังสือเรียนอ่านเงียบๆ  ไม่ต่างกันกับคนที่เอาแต่นั่งหลับสบายถัดจากเขาไปอีกสองโต๊ะ และแพคฮยอนก็อดไม่ได้ที่จะเหลือบไปมองใครคนนั้นอีกครั้ง

     

     

    ผู้ชายที่มีเหมือนหลุดมาจากการ์ตูนตาหวานของประเทศญี่ปุ่นไม่มีผิด ..ตากลมโตนั่นกำลังปิดสนิท  ใบหน้าหวานยามหลับใหลดูงดงามเกินไปสำหรับผู้ชาย จมูกโด่งรับกับปากอิ่มสีธรรมชาติ ลมหายใจถูกผ่อนเข้าออกอย่างเป็นจังหวะสม่ำเสมอ  ขาสองข้างถูกยกพาดบนโต๊ะเรียนในท่าที่ดูสบาย  หมอนั่นกำลังหลับสบายในขณะที่ห้องเรียนยังคงโหวกเหวกโวยวาย (คราวนี้น่าจะหลับไปจริงๆแล้ว)

     

     

     

               

     

     

     

     

     

                  หล่อแฮะ..

     

     

               ย่า!.. แพคฮยอนหมอนั่นมันผู้ชาย ไปคิดว่ามันหล่ออย่างนี้นายบ้าไปแล้วเหรอไง!!

     

     

     แต่ก็ถูกแล้วไง ผู้ชายก็ต้องหล่อดิวะ จะให้สวยได้ไง แต่ว่าไปหมอนั่นก็สวย…. ถ้าตาของเราโตได้ซักครึ่งนึงของหมอนั่นก็คงดี ..ถ้าสูงได้เท่านั้นก็ยิ่งดีใหญ่ อยากขายาวแบบนั้นบ้างจัง

     

    เฮ้ย!! แพคฮยอน เลิกคิดเรื่องหมอนั่นซะที!

     

     

     สะบัดหัวไปมาไล่ความคิดที่กำลังตีกันยุ่งเหยิงในสมอง หันมองรอบๆตัวก็พบว่าทุกคนเริ่มเก็บข้าวของกันแล้ว 

     

     

     "นี่นั่งคิดเรื่อยเปื่อยจนหมดคาบเลยเหรอเนี่ย"    บ่นพึมพัมกับตัวเองแล้วก็ได้แต่ถอนใจอีกครั้ง ปกติอาจารย์โรงเรียนนี้เค้าไม่สอนกันหรือไง มาสั่งงานแล้วก็ไปนี่นะ ..นักเรียนแต่ละคนก็... เป็นการมาเรียนวันแรกที่ไม่ได้อะไรเลยจริงๆ พยอนแพคฮยอน ...นอกจากเจอสนามรบย่อมๆที่ชวนตื่นเต้นหัวใจวายแล้ว ตอนนี้ก็ยังมานั่งฟุ้งซ่านอีก... 

     

     

    คนตัวเล็กคิดอะไรต่างๆนาๆปะปนกันไปด้วยอารมณ์เซ็งๆ พร้อมเรียวขาเล็กที่ก้าวเรื่อยๆ  จุดหมายคือประตูรั้วด้านหน้าโรงเรียน

     

     

    อยากกลับไปนอนเร็วๆจัง เหนื่อยชะมัด...

     

     

    เฮ้อ..ทำไมนักเรียนทุนอย่างเราต้องถูกส่งมาที่โรงเรียนแปลกๆนี่ด้วยวะ กลับไปเรียนบ้านนอกดูจะมีความสุขซะกว่า..

     

     

     




                  "เฮ้ย!!ไอ้เตี้ย หลบ!!!!!!!!!

     

     

    หา?แกว่า ใครเตี้ย เสียมารยาท

     

     

                "ว่าไงนะ!”  หันหาตัวต้นเสียงพร้อมตั้งใจจะเหวี่ยงเต็มที่ จริงๆแล้วพยอนแพคฮยอนผู้นี้จัดอยู่ในหมวดผู้ชายหน้าตาดีนะเฟ้ย ! ตอนอยู่โรงเรียนเก่าสาวๆ กรี๊ดฉันใช่น้อยที่ไหน 

     

     

    แต่..เรื่องส่วนสูงเป็นปมด้อยอย่างเดียว ที่ยอมไม่ได้!! 

     

     

    ไอ้เตี้ย หลบไป!!!!!!  โว๊ะ! ก็บอกว่าอย่าเรียกเตี้ยยยยย!!!

     

     

    คล้ายภาพสโลวโมชั่นเบื้องหน้า เหตุการณ์ทุกอย่างเกิดขึ้นเชื่องช้า ลูกบอลที่ลอยคว้างอยู่ในอากาศ ด้วยความเร็วสูง ค่อยๆลอยอืดเข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อยๆ ...และแน่นอนมันต้องมีอานุภาพความแรงอย่างมาก พิกัดที่จะหยุดลง คงไม่พ้นจมูกของพยอนแพคฮยอนผู้นี้เป็นแน่

     

     

    แพคฮยอนเบิกตาเล็กๆของตัวเองกว้างกว่าเดิมหลายเท่าตัว เพียงชั่วอึดใจที่ลูกบอลกลมๆ กำลังพุ่งมาหา ทำไมเขาถึงคิดอะไรได้เยอะขนาดนี้ (มันยังจะคิดต่ออีก - -')   คนตัวเล็กหลับตาปี๋ รับรู้ถึงร่างกายที่หมุนคว้างไปตามแรงปะทะ

     

     

    ลูกบอลลูกเล็กๆทำไมมันมีแรงมหาศาลขนาดนี้นะ...

     

     

    ...ก่อนทุกอย่างจะสงบนิ่งที่พื้นหญ้านิ่มๆกลางสนาม

     

     

                "เจ็บ..เจ็บจมูกชะมัด ฮือ จมูกหักปะวะเนี่ย.."  แพคฮยอนกุมปลายจมูกครางโอดโอยเมื่อได้สติ ความเจ็บแล่นริ้วไปทั่วจนเลือกไม่ถูกว่าจะโอดครวญกับส่วนไหนของร่างกายก่อนดี

     

     

                "ไอพวกบ้า ฮือ..อ อ เตะบอลกันยังไงไม่ดูคนเลย"   จะว่าไปก็ไม่ได้รู้สึกเจ็บเท่าที่ควรนะ แต่ว่าร้องไปก่อนละกัน

     

     

     "ฮืออออออออ เจ็บ..บ บ อ๊า!!!

     

     

     "................."

     

     

    “...................”

     

     

    “..................”

     

     

     

     

     

     

                  "นี่...."

     

     

      "หือ??" (เสียงใครวะ จะมาเยาะเย้ยฉันสินะไอ้พวกบ้า)

     

     

                "นี่นาย..."

     

     

    จะว่าไปพื้นสนามนี่นิ่มแปลกๆ เหมือนนอนอยู่บนตัวคนเลยแฮะ ..หะ เฮ้ย!!

     

     

    ทันทีที่ลืมตาขึ้นก็พบว่าหน้าตัวเองอยู่ห่างกับใครซักคนไม่ถึงคืบ ลมหายใจแทบจะเป่ารดหลอมรวมกันเป็นหนึ่งเดียวอยู่แล้ว  แถมตัวแพคฮยอนเองยังมานอนแอ้งแม้งทาบทับอยู่บนตัวหมอนี่อีกต่างหาก  ท่าโครตจะ..ล่อแหลม

     

     

                 ปาร์คชานยอล!!!!

     

     

    ป้ายชื่อเต็มยศบนอกเสื้อแทบกระแทกตา คนที่ถูกเขาทับไปเกือบทั้งตัวยังคงมีสีหน้านิ่งสนิทเหมือนเมื่อเช้าที่เจอกันไม่มีผิด  คิ้วเข้มเลิกขึ้นเล็กน้อยแต่ดวงตายังคงจับจ้องมาที่คนตัวเล็กนิ่งไม่บ่งบอกถึงความรู้สึก มันว่างเปล่า อ้างว้าง เหมือนทะเลที่ไร้สิ่งมีชีวิต...

     

     

     ความอึดอัดแถวช่องท้องทำให้แพคฮยอนต้องก้มมอง และเห็นว่าแขนทั้งสองข้างของคนด้านล่างนี้กอดเอวของเขาไว้ซะแน่น  เพียงแค่นั้นแก้มใสก็ขึ้นสีระเรื่อร้อนเห่อไปทั้งหน้า แพคฮยอนหันกลับมามองคนโดนทับอีกครั้งด้วยใบหน้าช็อคกว่าเดิม ปากบางเผยออกและอ้ากว้างขึ้นเรื่อยๆเตรียมจะแผดร้อง แต่มันก็เป็นจังหวะเดียวกันกับที่คนตัวสูงคลายอ้อมกอดออกและชิงพูดตัดหน้า

     

     

                 "ลุกซะทีสิ"    

     

     

    น้ำเสียงเรียบยิ่งกว่าเส้นตรงของไม้บรรทัดเอ่ยขึ้นอีกครั้ง  ส่งผลให้มนุษย์ที่อยู่ด้านบนเด้งตัวออกแทบไม่ทัน

     

     

     "นาย.. เอ่อ ขอบคุณนะ"

     

     

                 ไม่ต้องถามไถ่ว่าเรื่องราวเป็นมาอย่างไร มองจากสถานการณ์เมื่อครู่ คงเป็นคนตัวสูงที่พุ่งมาดึงตัวเขาออกจากวิถีลูกบอลได้ทันท่วงทีจนล้มไปด้วยกันทั้งคู่ ส่งผลให้เขาไปนอนเกยตื้นอยู่บนตัวผู้ประสงค์ดีเสียพักใหญ่ จะว่าไปหมอนี่ก็ไม่ได้เลวร้ายนี่นะ...

     

     

     "ซุ่มซ่าม"

     

     

                 นั่นไง คนดี๊ดี =_=

     

     

    เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นทั้งที่ไม่ได้หันกลับมามองใบหน้าเล็กที่ออกอาการเหวออย่างเห็นได้ชัด คำสรรเสริญในใจเมื่อครู่แพคฮยอนขอเก็บมันใส่กระเป๋า  รูดซิป  ล็อคตายแม่งเล้ยย!!

     

     

                  อะ..อะไร ฉันเดินของฉันมาอยู่ดีๆ เจ้าพวกนั้นต่างหากที่เตะบอลไม่ดูตาม้าตาเรือน่ะ"  ตั้งท่าได้ก็เถียงใส่เป็นชุด แหงสิ เขาไม่ได้ผิดที่เดินเซ่อซ่ามารับลูกบอลนะ และก็ไม่ได้สะดุดอะไรจนกระเด็นมาอยู่กลางสนามบอลด้วย

     

     

     ้ะ!?... สนามบอลเร้อะ!?

     

     

                "นายมันเซ่อไง เป็นบ้าหรือไงถึงเดินเอาหัวมารับลูกบอลกลางสนามน่ะ"   ร่างสูงหันกลับมาหา ปลายนิ้วจิ้มจึกๆเข้าที่กลางหน้าผากจนแพคฮยอนหัวสั่นหัวคลอน จะเถียงก็เถียงไม่ออก เมื่อนึกประมวลผลเรื่องราวได้ว่าเป็นตัวเขาเองนั่นแหละที่ซุ่มซ่ามเซ่อซ่าอย่างที่คนตัวสูงว่าจริงๆ

     

     

     ก็แค่คิดเยอะ  เหม่อ  เหงา  โฮมซิก  ฉันผิดอาไร๊!

     

     

     "เอ่อ..ฉัน.."

     

     

                 "ไม่เป็นไรก็กลับบ้านไปซะ อย่ามาเกะกะแถวนี้ "  ประโยคไร้เยื่อใยถูกสาดซ้ำจนหน้าชา ปากอิ่มขยับเหมือนจะเอื้อนเอ่ยอะไรซักอย่างต่อ แต่จนแล้วจนรอดแพคฮยอนก็ได้ยินเพียงเสียงหายใจของตัวเองเท่านั้น

     

     

     "ไม่ต้องมาทำหน้าเหมือนหมาสงสัย กลับไปซะ"  พูดจบก็เดินหนีไปดื้อๆ ทิ้งให้คนตัวเล็กยืนนิ่งอ้าปากค้างอยู่เพียงลำพัง  

     

     

     หมะ..หมา..?   หมางั้นเหรอ..

     

     

     

     

















    Accidental of love

     

     

     

     

     "อะ..ไอ้บ้า!! นี่หาว่าฉันทำหน้าหมางงเหรอ.. แล้วยังมาทำหน้ามึนใส่อีก หล่อซะเปล่าเป็นคนประเภทไร้ความรู้สึกหรือไงฟะ!!"

     

     

    กลับมาถึงหอพักได้ก็โวยวายใส่ข้าวของ กระแทกตัวนั่งกับเตียงนอนขนาดกระทัดรัดของตนเองด้วยท่าทางกระฟัดกระเฟียด  ไม่เข้าใจเลยจริงๆจะพูดกันดีๆไม่ได้หรือไง  แถมยังมาหาว่าเขาเป็นหมาซะอีก  ถึงมันจะคล้ายๆอยู่บ้างก็เหอะ!

     

     

                "ถือว่าหล่อหรือไง ปาร์คชานยอล ไอ้บ้า ที่บูชอนมีหล่อกว่านี้อีกเว้ย!"  มือเล็กฟาดลงกับที่นอนอย่างหัวเสีย แต่สมองไม่รักดีก็fดันฉายภาพที่ตนเองกำลังนอนแอ้งแม้งทับอยู่บนร่างของมนุษย์หน้าเดียว ราวกับมีใครมากดรีเพลย์ 

     

     

     แค่ไม่ถึงนาทีที่ได้สบตา ทำให้แพคฮยอนรับรู้ว่าผู้มีบุญคุณช่วยชีวิตเขาจากลูกบอลมหาภัยมีดวงตาที่สวย ..สวยจนแทบไม่อยากหยุดมอง แต่ในแววตาคู่นั้นมันช่างอ้างว้างเหลือเกิน ทำไมคนที่ดูเพียบพร้อมและเพอร์เฟคขนาดนั้นถึงได้มีแววตาที่เศร้าแบบนั้น ทำไมกันนะ 

     


                  แพคฮยอนล้มตัวลงนอน ใบหน้าคมหวานยังลอยชัดอยู่ในหัว เครื่องหน้างดงามราวกับเทพบุตรที่เขาสามารถจดจำมันได้อย่างแม่นยำ นึกถึงเรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้นอีกครั้ง แก้มใสก็พาลเห่อร้อนขึ้นสีจาง  เผลอยิ้มกับตัวเองอย่างไม่รู้ตัว..




























    TBC..

     

     

     

     
    #ฟิคอุบัติเหตุ  @Aprilnov0408 

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×