คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : Accidental of love ♡ Chapter 8 Something..
-ตอนที่8-
...ฉันสํญญา..ว่าจะดูแลนายตลอดไป ต่อไปนี้ห้ามห่างจากฉัน ห้ามอยู่ห่างจากฉัน...
ห้องสมุดในตอนสาย นักเรียนหลายต่อหลายคนเริ่มทยอยกลับเข้าห้องเรียนของตนกันบ้างแล้ว มีก็เพียงแค่สองเพื่อนซี้ตัวเล็กที่ยังคงนั่งอยู่ที่เดิม
แพคฮยอน นั่งอ้าปากค้างฟังเรื่องราวจากเพื่อนตาโต สีหน้าที่บ่งบอกถึงความอึ้งและอึ้งในสิ่งที่ได้รับรู้ทำเอาคยองซูอดขำกับท่าทางของแพคฮยอนเสียไม่ได้
"จงอินแค่อยากตอบแทน ที่ฉันเองต้องมาเจ็บตัวแทน ก็เลยสัญญาว่าจะคอยดูแลฉัน แล้วอีกอย่างป้าจีอึนแม่ของจงอินเองก็คอยกำชับอยู่ตลอดเวลา มันก็เลยเป็นอย่างที่เห็นนี่ล่ะ" คยองซูอธิบายต่อด้วยสีหน้ายิ้มๆ
"แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องหรือความผิดอะไรของจงอินเลยนะ ฉันเองต่างหากที่ทะเล่อทะล่าเข้าไปยุ่งวุ่นวายเอง" สีหน้ายิ้มแย้มเมื่อครู่ถูกกลบด้วยยิ้มเศร้าๆ เมื่อนึกถึงเรื่องราวในอดีต
...หากไม่วิ่งเข้าไป จงอินจะสามารถหลบหลีกได้มั้ย ฝีมือระดับนั้นอาจทำได้ไม่ยาก แต่เพราะอะไรในตอนนั้นเขาถึงได้ตัดสินใจทำแบบนั้น...
"หมายความว่า ตอนนี้คยองซู กะ..ก็ อยู่บ้านเดียวกับจงอินเหรอ?" แพคฮยอนโพล่งข้อสงสัยออกมา ตาเรียวคู่สวยจ้องมองเพื่อนตาโตไม่กระพริบ
"ฉันก็อยู่บ้านฉันนั่นล่ะ ป้าจีอึนก็คอยมาดูแลตลอดเหมือนฉันเป็นลูกคนนึงเลย" คยองซูยิ้มอ่อนโยนเมื่อนึกถึงผู้มีพระคุณที่ดูแลเขาราวกับแม่แท้ๆ
แพคฮยอนพยักหน้าหงึกหงักเมื่อคยองซูตอบในสิ่งที่ตนเองสงสัย
"คยองซู ทำไมกล้าเอาหัวไปรับไม้เบสบอลแทนหมอนั่นล่ะ ความจริงถ้าหัวหมอนั่นได้รับความกระทบกระเทือนบ้างอาจปกติขึ้นนะ" ประโยคหลังแพคฮยอนจงใจชะโงกหน้าเข้าไปกระซิบใกล้ๆคยองซูด้วยความหมั่นไส้ส่วนตัว เมื่อนึกถึงสีหน้ากวนๆกับถ้อยคำร้ายๆที่มักจะหลุดออกมาจากปากของคนผิวเข้ม
...คนบ้าอะไร นึกจะดีก็มาแบบไม่ทันตั้งตัว ซักพักก็ร้ายกาจแบบเอาแน่เอานอนไม่ได้ แถมคราวนั้นยังทำแบบนั้นอีก..
คิดแล้วหน้าก็ร้อนวูบวาบขึ้นมาอย่างไร้สาเหตุ
..บ้าเอ้ย คิมจงอิน..!
"คุยอะไรกัน"
แพคฮยอนสะดุ้งแทบตกจากเก้าอี้เมื่อเสียงที่จำได้แม่นว่าเป็นของใครดังขึ้นที่ด้านหลัง หนังสือเล่มบางในมือจงอินถูกยกขึ้นเคาะหัวของแพคฮยอนเพียงเบาๆ แต่ก็ทำให้เจ้าตัวร้องออกมาด้วยความตกใจ
"นี่เคาะเบามากของเบามากเลยนะ แค่นี้ทำเป็นเจ็บ ไอ้เตี้ย" จงอินอดแขวะเล็กๆไม่ได้เมื่อเห็นท่าทางของแพคฮยอน ก่อนที่เจ้าตัวจะทิ้งตัวลงนั่งข้างๆคยองซู
"ทำไมเมื่อเช้าไม่รอฉัน"
ทันทีที่หลังสัมผัสกับพนักพิง จงอินก็เลิกสนใจแพคฮยอนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม แขนยาวยกพาดพนักเก้าอี้เลยไปถึงฝั่งที่คยองซูนั่ง ตาคมจับจ้องเพื่อนสนิทที่ตนเองถือสิทธิ์ดูแลนิ่ง
"เอ่อ... ฉันแค่อยากลองมาโรงเรียนเองดูบ้างน่ะ" คยองซูตอบกลับเสียงแผ่ว
"ฉันไม่อนุญาติ ฉันเคยบอกแล้วไง!" จงอินพูดเหมือนดุ แต่มันกลับแฝงไปด้วยความรู้สึกบางอย่างที่เจือไว้ในน้ำเสียงนั้น แพคฮยอนได้แต่มองหน้าสองคนสลับกันไปมา
..คงจะมีเพียงแต่คยองซูเท่านั้นที่ไม่รับรู้ถึงความรู้สึกเหล่านั้น มันต้องมีอะไรมากกว่าแค่เหตุผลกับเรื่องราวในอดีต..
คยองซูได้แต่นิ่งเงียบเหมือนเด็กที่กำลังทำความผิดแล้วหาข้อแก้ตัวไม่ได้
..ไม่หรอก ไม่ใช่เลยคยองซู จงอินในตอนนี้ไม่ได้ดุนายเลยซักนิด มันมีอะไรมากกว่านั้น
ไอ้ความรู้สึกที่แปลกๆนั่นมันอะไรกันนะ..
ฟุ่บบบ!!
แก้วใสทรงกระทัดรัดที่ด้านในบรรจุของเหลวสีหวานหลายต่อหลายแก้วถูกวางลงกลางโต๊ะอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย ทำให้ความคิดของแพคฮยอนต้องชะงักลงและเรียกความสนใจจากทั้งจงอินและคยองซูให้หันมามองเป็นสายตาเดียวด้วยความสงสัย
ใบหน้าขาวจนเกือบซีดยืนหน้างอมองแก้วชานมหลากสีสันที่ตนเองหอบมากองไว้อย่างไม่สบอารมณ์ ปากบางค่อยๆคว่ำลงเรื่อยๆจนบูดบึ้ง หากนี่เป็นการ์ตูน คงมีควันลอยออกมาจากหูเซฮุนเป็นแน่
"ห้ามเอาของกินเข้ามาในห้องสมุดนะเซฮุน" คยองซูทักขึ้นแต่คำพูดกลับดูเหมือนตำหนิเสียมากกว่า ในขณะที่ถ้อยคำของคยองซูไม่ได้ทะลุประสาทการได้ยินของเซฮุนแม้เพียงนิด
"เป็นอะไรวะ เซฮุนนาาาา" จงอินเอ่ยขึ้นบ้างด้วยเสียงล้อเลียนกับชื่อที่เจ้าตัวหวงนักหนา
"อยากตายไงวะ!" เหมือนเสียงล้อเลียนของจงอินจะไปสะกิดเส้นอะไรซักอย่างขาดดังผึง เซฮุนถลาเข้าไปกระชากคอเสื้อเพื่อนรักขึ้นมาอย่างแรง จงอินยังคงแค่นยิ้มกวนประสาทไร้ซึ่งความสะทกสะท้านราวกับเป็นเรื่องสนุก แม้ในตอนนี้เซฮุนแทบจะยกเขาลอยจากเก้าอี้ก็ตาม
"พี่ลู่หักอกมาไงวะ"
ฉึก!!
คำถามแทงใจดำถูกส่งออกมาอย่างลอยหน้าลอยตาแต่แม่นยำ เพราะจงอินรู้จักนิสัยเพื่อนสนิทดี เรื่องที่จะทำให้มนุษย์มึนงงอย่างโอเซฮุนสติหลุดได้ขนาดนี้มีไม่กี่เรื่อง และเรื่องที่ทำให้โลกมืดได้ขนาดนี้คงหนีไม่พ้นรุ่นพี่หน้าหวานที่เซฮุนปลื้มนักปลื้มหนา
"ไอ้จงอิน อย่าอยู่เลย!!" เซฮุนคลายมือจากคอเสื้อจงอินแล้วเปลี่ยนเป็นบีบคอเพื่อนสนิทผิวเข้มทั้งเขย่าไปมาอย่างบ้าคลั่ง จนคยองซูตกใจรีบมาช่วยแกะมือขาวซีดนั้นออก แม้แต่แพคฮยอนเองก็ลุกขึ้นมาช่วยคยองซูห้ามทัพอีกแรง โดยลืมไปเสียสนิทว่าสองคนที่กำลังจะฆ่ากันนี้เกลียดเขาอย่างกับอะไรดี
แต่โอเซฮุนในตอนนี้สติท่าจะหลุดไปไกลแล้ว..
"ห้องสมุดห้ามส่งเสียงดัง"
สี่ชีวิตที่กำลังชุลมุนวุ่นวาย แม้แต่เซฮุนเองก็เหมือนถูกเรียกสติกลับมาด้วยเสียงทุ้มเรียบๆที่ทุกคนคุ้นเคยเป็นอย่างดี ทุกคนหยุดการกระทำของตัวเองแทบจะทันทีพร้อมกับหันมองที่มาของเสียง ร่างสูงคุ้นตาค่อยๆยันตัวเองลุกขึ้นจากซอกระหว่างชั้นหนังสือที่อยู่ด้านหลังที่นั่งของแพคฮยอน หากไม่สังเกตคงไม่เห็นว่ามีใครมานอนอยู่ตรงนี้เพราะเป็นมุมด้านในสุดของห้องสมุดพอดิบพอดี
แม้จะรู้ว่าเสียงนั้นเป็นใคร แต่พอได้เห็นใบหน้าของคนที่ไม่ได้เจอกันมาหลายวันอย่างชัดเจนแก้มใสของแพคฮยอนก็ขึ้นสีระเรื่ออย่างห้ามไม่อยู่ จนเจ้าตัวรู้สึกว่ามันร้อนเห่อไปหมดร้อนยิ่งกว่าตอนคิดถึงเรื่องของจงอินมากกว่าหลายต่อหลายเท่า
คยองซูปล่อยมือออกจากมือขาวซีดของเซฮุนเมื่อเห็นว่าเซฮุนเองคลายมือที่บีบคอจงอินออกและทิ้งตัวลงนั่งข้างๆเพื่อนสนิทที่กำลังสำลักอย่างเอาเป็นเอาตาย ใบหน้าขาวซบลงกับไหล่เพื่อนผิวเข้มที่การหายใจกลับมาเป็นปกติอีกครั้ง มือทั้งสองข้างโอบกอดเอวจงอินแน่นเหมือนกลัวว่าเพื่อนผิวเข้มจะหายวับไปกับอากาศ
"พี่ลู่ ....พี่ลู่...ฮึก! พี่ ลู่ มี แฟน แล้ว อ่ะ ฮือออออออออออออออออออออออออออออออออ!!!!! “ เซฮุนแหกปากเสียงดังลั่นไม่อายใคร ดีที่ว่าตอนนี้ในห้องสมุดมีแค่พวกเขากับป้าบรรณารักษ์ที่เสียบหูฟังและอ่านนิยายไปด้วย โดยที่หล่อนไม่สนใจสิ่งมีชีวิตสี่ห้าคนที่กำลังโหวกเหวกโวยวายอยู่แม้แต่นิด
"ไปเจอเค้าอยู่กับแฟน เลยประชดด้วยการเหมาชานมมาทั้งร้านกะมากินให้อ้วนตายไงวะ ชาติไหนจะตาย" จงอินส่ายหน้าระอาพร้อมก่นด่าเพื่อนที่กำลังสะอึกสะอื้นอยู่กับไหล่ของเขาจนมันเปียกชุ่มไปหมด
"นายน่ะ"
..หือ..??
"จะมองอยู่อย่างนั้นอีกนานมั้ย"
"อะ..หา!?"
เสียงทุ้มของชานยอลเรียกสติแพคฮยอนกลับมาอีกครั้ง หลังจากที่รู้สึกตัวแพคฮยอนก็เพิ่งรู้ตัวว่าเขาเอาแต่จ้องชานยอลที่ยืนพิงชั้นหนังสือฝั่งตรงข้ามอยู่อย่างนั้นไม่รู้ว่านานเท่าไหร่ ใบหน้าที่ไร้ความรู้สึกมองมาด้วยสายตาว่างเปล่า ยากจะคาดเดาว่าคนตรงหน้าคิดอะไรกันแน่ แค่เสี้ยววินาทีที่ได้สบตาแต่แพคฮยอนก็เลือกที่จะเบนสายตาหนีเสียเอง คนตัวเล็กทำอะไรไม่ถูกแม้มือของตัวเองก็รู้สึกว่ามีนเกะกะ จึงขยับเก้ๆกังๆลงมานั่งที่เก้าอี้ตัวเดิม
"พี่ลู่หานบอกเหรอ ว่ามีแฟนแล้ว" คยองซูเอ่ยถามขึ้นเมื่อเห็นว่าเซฮุนหยุดสะอื้นไปบ้างแล้วแต่ยังคงกอดและซบหน้ากับไหล่ของจงอินอยู่อย่างนั้น
เซฮุนได้แต่ส่ายหน้าเป็นคำตอบ
"อ้าว แล้วไอ้ที่ตีโพยตีพาย ร้องไห้ซะตุ๊ดแตกนี่มันยังไง๊!" จงอินหันไปด่าเพื่อนสนิทอีกครั้งก่อนผลักหัวเซฮุนออกจากไหล่ตนแบบออมแรง หรือต่อให้ใส่เต็มแรงเซฮฺนในตอนนี้ก็ไม่รู้สึกอะไร
เซฮุนยกมือปาดคราบน้ำตาพลางสูดจมูกก่อนเอ่ยตอบ
"ก็ฉันเห็นพี่ลู่อยู่กับผู้ชายคนอื่น ท่าทางสนิทสนมกันมากด้วย" พูดไปก็ทำท่าจะร้องไห้ขึ้นมาอีกจนจงอินต้องโบกมือห้าม
"ถ้าขืนแหกปากอีกทีฉันจะไปยุให้พี่ลู่แต่งงานกับไอ้หมอนั่นให้มันรู้แล้วรู้รอดไปเลย" จงอินขู่ ทั้งที่เซฮุนรู้ดีว่าคนผิวเข้มไม่คิดจะทำจริง แต่ก็พยายามเก็บกลืนกลืนเสียงสะอื้นลงคอแม้จะยากลำบาก
"เค้าอาจเป็นเพื่อนกันก็ได้ คนน่ารักอย่างพี่ลู่มีเพื่อนบ้างจะแปลกเหรอวะ" จงอินตั้งข้อสันนิษฐานแบบเข้าข้างเพื่อนนิดๆให้เซฮุนได้สบายใจ
"แต่พี่ลู่ไม่เคยไปที่นั่นกับเพื่อนเลยนะ ตั้งแต่เรารู้จักกันมา ที่นั่นเป็นที่ของฉันกับพี่ลู่!" เซฮุนเถียงทันควันและทันทีที่พูดจบจงอินก็ยกมือตบหัวเพื่อนตัวเองอย่างแรง
"อย่ามโน พี่ลู่เค้ารู้อะไรด้วยมั้ย ไอ้รักข้างเดียวข้าวเหนียวนึ่ง"
เซฮุนได้แต่สลดยกมือขึ้นลูบหัวตัวเองป้อยๆ พลางคิดถึงช่วงเวลาหลายเดือนที่เขาคอยไปเฝ้ารุ่นพี่นักศึกษามหาลัยหน้าหน้าหวานที่ร้านขายชานมแถวๆมหาลัยของเจ้าตัว ซึ่งคนหน้าหวานที่เซฮุนแอบชอบจนไม่อยากโงหัวขึ้นมานั้นมักจะมานั่งอ่านหนังสือพร้อมกับการลิ้มรสชานมแสนอร่อยที่นั่นเป็นประจำ
"ข้าวเหนียวนึ่งคืออะไร?" จู่ๆคยองซุก็เอ่ยถามจงอิน ตากลมโตของเจ้าตัวเต็มไปด้วยความสงสัย
"ก็ข้าวเหนียวๆหนึบๆ ไว้กินกับส้มตำ" จงอินตอบ
"ส้มตำ?" คราวนี้เป็นแพคฮยอนที่นั่งเงียบฟังอยู่นานทวนคำด้วยความสงสัยบ้าง
"อาหารไทยชนิดหนึ่ง"
"แล้วจงอินเคยกินเหรอ" คยองซูยังคงถามต่อจงอินได้แต่ยักไหล่เบาๆเป็นคำตอบ แม้แต่ชานยอลเองก็ยังหันมาสนใจการสนทนาของคนทั้งสามที่ถูกเปิดประเด็นขึ้นด้วยคำว่าข้าวเหนียวนึ่งของจงอิน โดยลืมเซฮุนที่ตอนนี้กำลังนั่งตาลอยรำลึกถึงเรื่องในอดีตไปเสียสนิท
“พี่ลู่ พี่ลู่ของเซฮุน ฮึก!”
TBC…
เมเม : รักข้างเดียวข้าวเหนียวนึ่ง
#ฟิคอุบัติเหตุ @Aprilnov0408
ความคิดเห็น