ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic EXO] -Accidental of love-

    ลำดับตอนที่ #14 : Accidental of love ♡ Chapter ‏13 ความจริงในอดีต

    • อัปเดตล่าสุด 4 เม.ย. 57


    Rasp Free Theme dek-d By i'nutberry



                                                   





                                                         -ตอน13-

















     

    อยู่ใกล้ฉันนายอาจจะไม่ปลอดภัย

     

     

    แพคฮยอนส่ายหน้าช้าๆ อยู่ๆน้ำตาก็พาลจะไหลขึ้นมาอีกซะอย่างนั้น  ใบหน้าเล็กค่อยๆเอียงซบกับฝ่ามืออุ่น  แพคฮยอนหลับตาลงพร้อมกับซ้อนมือตนเองทับฝ่ามือหนาที่ประคองข้างแก้มอย่างทนุถนอมนั้นเอาไว้ อยากจับมือนี้แม้จะอันตรายแต่ก็อบอุ่น  แม้จะต้องเจออะไรที่คาดไม่ถึง  แต่ก็รู้สึกปลอดภัย

     

     

    อยากอยู่ใกล้ๆไม่อยากต้องห่างแม้เพียงเศษเสี้ยวของเวลา..และไม่อยากเฝ้ามองเพียงลำพังอีกต่อไปแล้ว  รอยยิ้มที่อยากได้ อ้อมกอดที่อยากสัมผัส แพคฮยอนแทบไม่รู้ตัวเลยว่าโหยหาสิ่งเหล่านี้จากคนตรงหน้าตั้งแต่เมื่อไหร่  พอรู้ตัวอีกที ในตอนนี้  เขากลับรักชานยอลไปจนหมดใจแล้ว

     

     

    รัก.. จะไม่ปล่อย..จะไม่ยอมปล่อยมือ แต่ว่า ฉันมีเรี่ยวแรงมากพอจะรั้งนายไว้หรือเปล่า นายพร้อมที่จะยืนข้างฉันเหมือนกันใช่มั้ย...

     

     

    แพคฮยอนดึงมือออกจากมือชานยอลเมื่อรู้สึกตัวว่าเดินมาถึงหน้าห้องเรียนแล้ว ไม่รู้ว่าจากมือที่เกาะกุมข้อมือเล็กของเขามาตลอดทาง เลื่อนมาประสานกันไว้ตั้งแต่เมื่อไหร่ คยองซูเป็นคนแรกที่วิ่งมาหาเขาด้วยสีหน้าเป็นกังวล และคงจะมีแค่คยองซูเพียงคนเดียวนั่นล่ะที่เป็นห่วง  เพราะคนอื่นก็ไม่มีใครให้ความเป็นมิตรกับเขาซักคนอยู่แล้ว 

     

     

    แพคฮยอนมีคนมาหา”   

     

     

    คยองซูเบี่ยงตัวหลบเผยให้เห็นบุคคลที่นั่งส่งยิ้มหวานหยดมาให้ จนน่ากลัวว่ามดจะเผลอไต่ขึ้นปากเจ้าตัวเข้าซักที แพคฮยอนเบิกตากว้างเมื่อเห็นว่าคนที่มาหานั้นเป็นใคร แถมตอนนี้เจ้าตัวยังนั่งอยู่บนเก้าอี้ของเขาอีกต่างหาก

     

     

    พี่อี้ชิง!”   

     

     

    อี้ชิงหัวเราะออกมาเบาๆเมื่อเห็นอาการเหวอขั้นสุดของแพคฮยอน

     

     

    ครับ พี่เอง ทำไมทำหน้าอย่างกับเห็นซูเปอร์สตาร์เกาหลีอย่างนั้นล่ะ

     

     

    ..อย่างนั้น ก็คงดีกว่าเจอพี่ตอนนี้เยอะเลย..

     

     

    แพคฮยอนคิดในใจแต่กลับทำหน้าเหมือนอยากร้องไห้ เขาหันไปมองชานยอลที่ยืนซ้อนอยู่ด้านหลัง คนตัวสูงยังคงวางสีหน้าเรียบเฉยอย่างเคย ก่อนหมุนตัวเดินไปที่โต๊ะของตนเองอย่างไม่ใส่ใจ

     

     

    ดีใจที่พี่มาหาจนน้ำตาซึมเลยเหรอ แพคฮยอน”   

     

     

     อี้ชิงยังคงแหย่คนตัวเล็กที่ตอนนี้ทำหน้าเหมือนมีอะไรมาจุกอยู่ที่คอ เขาส่งยิ้มแหยๆให้กับอี้ชิงแต่สายตายังคงมองตามแผ่นหลังของคนตัวสูง  ชานยอลเดินไปหยิบกระเป๋าสีดำของตนเองเหวี่ยงพาดไปด้านหลังพลางเหลือบมองแพคฮยอนเพียงครู่ และทำท่าจะเดินออกจากห้องไปทันที

     

     

    อย่าเพิ่งไปสิ...ได้โปรด ..ชานยอล          อย่าเพิ่ง 

     

     

    แพคฮยอนอยากจะวิ่งไปขวางคนตัวสูงเอาไว้ แต่ในสถานการณ์แบบนี้ทำให้เขาไม่มีความกล้าที่จะทำอะไรอย่างนั้นซักนิด แค่จะหุบยิ้มที่แค่นมันออกมาทั้งๆที่ในใจร่ำไห้ไปแล้วก็ยังทำไม่ได้

     

     

    นี่!”  

     

     

    ชานยอลมองหน้าคนที่ลุกพรวดขึ้นมาขวางหน้าเขาเอาไว้ด้วยแววตาไร้อารมณ์  คนตัวสูงขยับเพื่อจะเบี่ยงหลบไปอีกทางแต่ร่างนั้นก็ยังคงขยับตามทั้งดวงตาคมหวานที่ประสานอย่างไม่ลดละ  ชานยอลจึงเบี่ยงตัวอีกครั้ง แต่ก็ไม่ทำให้ความพยายามของคนตัวเล็กกว่าลดลง ร่างนั้นตัดสินใจยกแขนขึ้นยันกับประตูทางออกเพื่อขวางคนตัวสูงเอาไว้

     

     

    นี่ จะทำเป็นไม่รู้จักฉันอีกนานมั้ย?”  

     

     

    ประโยคคำถามที่ดูเหมือนไม่จริงจังนักถูกเอ่ยขึ้นจากคนตรงหน้า คนพูดถอนหายใจอย่างชั่งใจ  สบตาชานยอลด้วยแววตาที่ยากจะเดาได้ว่าคิดอะไรอยู่  ผิดกับชานยอลที่มองเหมือนคนที่กำลังพยายามสนทนากับเขานั้นไร้ตัวต

     

     

    หลีกไป”   ชานยอลเอ่ยเสียงเรียบ เขาไม่ยอมมองหน้าคนที่กำลังยืนขวางด้วยซ้ำ

     

     

    จะยังไงก็ได้แต่เลิกทำเหมือนฉันไม่มีตัวตนสักที เลิกทำเหมือนเราไม่รู้จักกัน!!”

     

     

    น้ำเสียงขี้เล่นถูกแปรเปลี่ยนเป็นสุ้มเสียงที่ตัดพ้อ เจือเต็มไปด้วยความน้อยใจอย่างมากมาย แต่มันกลับไม่ทำให้ท่าทีของคนตัวสูงเปลี่ยนไปจากเดิมแม้แต่นิด

     

     

    ฉันไม่รู้จักนาย

     

     

    อี้ชิงแค่นหัวเราะบางเบา เจ้าตัวทำท่าครุ่นคิดอะไรเพียงครู่ ก็เอ่ยขึ้นกับชานยอลอีกครั้ง

     

     

    ก็ได้ อย่างนั้นก็ได้ งั้นวันนี้ฉันยืมตัวแพคฮยอนหน่อยละกัน คงไม่มีปัญหาใช่มั้ย พูดพร้อมกับหันไปส่งยิ้มหวานให้กับแพคฮยอนแล้วหันมาสบตาคนตัวสูงอย่างท้าทา

     

     

    ทั้งคำพูดและการกระทำของอี้ชิงทำให้แพคฮยอนที่เหวออยู่แล้วยิ่งเหวอหนัก ไหนจะตกใจที่จู่ๆอี้ชิงก็โผล่เข้ามาหาถึงที่นี่ ไหนจะประโยคสนทนาของอี้ชิงกับชานยอลอีก.. ตอนนี้เขางุนงงไปหมด จนไม่รู้ว่าจะคิดประมวลผลกับสิ่งไหนก่อนดี  มีเพียงเซฮุนกับจงอินเท่านั้นที่ดูนิ่งเเกินน่าจะเป็น ทั้งสองคนได้แต่สบตากันเงียบ

     

     

    อยากทำอะไรก็ทำ” 

     

     

    ชานยอลเอ่ยกับอี้ชิงด้วยน้ำเสียงเรียบดังเดิม มือหนาจับแขนที่กั้นขวางสะบัดออกอย่างไม่ใยดี เขาเดินชนไหล่เล็กจนอี้ชิงเซไปด้านข้าง หลงเหลือไว้เพียงแววตาแห่งน้อยใจที่ได้เพียงแค่มองตามแผ่นหลังกว้างนั้

     

     

    เหมือนไร้ตัวตน   เหมือนตรงนี้ไม่มีร่างนี้อยู่ด้วยซ้ำ 

     

     

     

     

     

     

     

    Accidental of love

     

     

     

     

    นิ้วสวยหมุนหลอดสีเดียวกับน้ำผลไม้ในแก้วทรงสูงวนไปวนมา ตาเรียวก็คอยชำเลืองมองคนที่นั่งตรงข้ามกันเป็นระยะ  อี้ชิงในตอนนี้ดูเงียบขรึมจนดูน่ากลัว ตาคมหวานที่มองเหม่อไปอย่างไร้จุดหมายนั่นก็ไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่ 

     

     

    หัวคิ้วของแพคฮยอนมุ่นเข้าหากันอย่างลืมตัว  ประโยคสนทนาระหว่างอี้ชิงกับชานยอลยังคงดังก้องในหัวเวียนไปเวียนมาซ้ำๆ  ฟังแล้วคงไม่มีใครคิดว่าจะเป็นแค่คนเคยรู้จักกันธรรมดา เพียงแต่แพคฮยอนเองก็ไม่กล้าที่จะคิดต่อ...

     

     

     ไม่อยากคิด แค่นี้ก็แทบหายใจไม่ออก

     

     

    พี่อี้ชิงครับ”  

     

     

    แพคฮยอนตัดสินใจเอ่ยทำลายความเงียบที่แสนอึดอัด เขาไม่รู้ว่าอี้ชิงต้องการอะไร  ทั้งที่ตอนแรกคิดว่าคนคนนี้คงจะพอใจในตัวเขาถึงได้ทำอะไรแบบนั้น  แต่เหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นก่อนหน้าทำให้ความคิดแพคฮยอนเปลี่ยนไป  แล้วมันมีเหตุผลอะไรล่ะ ถึงในอดีตความสัมพันธ์ของคนทั้งคู่อาจมีอะไรมากกว่านั้นแต่เขากับชานยอลเองก็ยังไม่ได้เป็นอะไรกัน ไม่จำเป็นที่อี้ชิงจะต้องมาทำอะไรแบบนี้กับเขาด้วยซ้ำ

     

     

    แพคฮยอน” 

     

     

    นิ้วเรียวเย็นเฉียบถูกยกแตะข้างแก้มขาว ทำให้แพคฮยอนสะดุ้งนิดๆ  อี้ชิงส่งยิ้มอ่อนโยนเหมือนกับครั้งแรกๆที่พบกันมาให้ แววตาที่เหม่อลอยเมื่อครู่กลับมาดูขี้เล่นเหมือนเคย

     

     

    เป็นอะไร เรียกพี่แล้วก็ไม่พูด พอถามกลับก็ไม่ตอบ พี่เรียกตั้งนานแน่ะ” 

     

     

    กลายเป็นว่าเขากลับเหม่อเสียเอง ตอนนี้ในหัวกลัวไปหมด กลัวความสัมพันธ์ระหว่างอี้ชิงกับชานยอล กลัวสิ่งที่จะได้รับรู้ ความสัมพันธ์เบื้องหลังนั้น  ระหว่างเขากับชานยอลยังไม่เริ่มแต่มันกำลังจะจบอย่างนั้นเหร

     

     

     “ผมต้องไปทำงานพิเศษแล้วล่ะครับ”  

     

     

    อี้ชิงพยักหน้ารับเขาวางเงินจำนวนหนึ่งไว้บนโต๊ะและลุกขึ้นยืนส่งยิ้มอ่อนโยนให้กับแพคฮยอน

     

     

    เดี๋ยวพี่ไปส่งนะ

     

     

     

     

     

    Accidental of love

     

     

     

     

     

    หลายวันต่อมา..

     

     

    ฮานอ่า

     

     

    เซฮุนเอ่ยเรียกคนหน้าหวานแผ่วเบาเมื่อเจ้าตัวมัวแต่สาละวนอยู่กับการพิมพ์อะไรยุกๆยิกๆนโน๊ตบุ๊คเครื่องกะทัดรัดของเจ้าตัว

     

     

    แป๊บนึงนะเซฮุน อันนี้ต้องส่งพรุ่งนี้แล้ว ต้องเรียบเรียงให้เสร็จน่ะ”  ลู่หานตอบโดยที่ยังคงก้มหน้าก้ม

     ตาไม่ได้เงยหน้าขึ้นมามองรุ่นน้องตัวขาวที่ตอนนี้ กำลังทำหน้ามู่ทู่ราวกับกินชานมบูดเข้าไป

     

     

    เซฮุนนั่งมองบรรยากาศภายในร้านที่ยังคงเหมือนเดิมเช่นทุกวัน คนตรงหน้าก็ยังหน้าตาหน้ารักราวกัตุ๊กตาเหมือนเดิม แต่สิ่งที่แปรเปลี่ยนไปคงมีเพียงแค่ความสัมพันธ์ของพวกเขา  บางทีมันก็รวดเร็วจนเซฮุนแทบไม่เชื่อด้วยซ้ำว่านี่เป็นเรื่องจริง คนที่แอบชอบมาตลอดที่ตอนนี้นั่งอยู่ตรงหน้าเขา ในฐานะคนรัก

     

     

    และเมื่อหลายวันก่อน

     

     

    ผมชอบพี่!!”   

     

     

    เซฮุนพูดด้วยน้ำเสียงที่ดังฟังชัดจนลู่หานเกือบสำลักน้ำที่เพิ่งดูดเข้าไป ดวงตากลมเบิกกว้างกับปากบางทำได้แค่อ้าค้างอยู่อย่างนั้น

     

     

    พี่สองคนเป็นแค่เพื่อนสนิทกันจริงๆใช่มั้ย ไม่ได้มีอะไรลึกซึ้งมากกว่านั้นใช่มั้ย งั้นผมจะจีบพี่ลู่หาน!!”    

     

     

    เซฮุนร่ายประโยคยาวรวดเดียวแบบที่คนฟังจับใจความได้ง่ายแสนง่าย เขาไม่รู้ว่ากล้าพูดอะไรแบบนั้นออกไปได้ยังไง ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้เขาแทบไม่มีความกล้าแม้แต่นิด หรืออาจจะเป็นเพราะว่าเขาหวาดระแวงคนที่ถูกแนะนำว่าเป็นเพื่อนสนิทนี่กันแน่เลยทำให้เขาต้องพยายามรักษาหัวใจของตนเอง แต่บางทีอาจไม่ใช่เพราะอี้ชิง แต่เพราะคำพูดของใครบางคนที่ดังก้องอยู่ในหัวตอนนี้ และมันเป็นแรงกระตุ้นให้เขาได้อย่างยอดเยี่ยม

     

     

    ถ้าเซฮุนพยายามล่ะก็ มันต้องสำเร็จอย่างแน่นอน

     

     

    นายก็จีบมาตั้งนานแล้วนี่

     

     

    อี้ชิงเอ่ยติดจะเย้าเล็กน้อยทำเอาลู่หานที่กำลังตกตะลึงในความบ้าบิ่นขอเซฮุนในครั้งนี้ได้สติ คนหน้าสวยฟาดไปที่ต้นแขนเพื่อนสนิทอย่างแรงเมื่อเห็นว่าอี้ชิงกำลังจะเอ่ยอะไรไม่เข้าท่า ในขณะที่เซฮุนทำหน้าเหมือนมีเครื่องหมายคำถามเป็นร้อยแปะบนใบหน้าเล่นเอาอี้ชิงอดขำกับอาการเหล่านั้นไม่ได

     

     

    ก็หมอนี่น่ะ มันบ่นกับฉันทุกวัน ตั้งแต่ตอนยังอยู่เมืองนอกโน่นแล้วว่ามีรุ่นน้องหน้าตาน่ารักๆมาขายขนมจีบซาลาเปา แต่รุ่นน้องคนนั้นก็หล่อซะเหลือเกินแถมยังเป็นพวกแบดบอย แถมอะไรๆก็ยังไม่คืบหน้าเสียที เจอกันทุกวันแต่กลับไม่มีอะไรพัฒนา ไม่รู้ว่าเค้าจะชอบฉันจริงไหมไอ้ครั้นจะให้เผยก่อนก็กลัวเค้าจะไม่จริงจังฉันควรทำไงดี” 

     

     

    อี้ชิงจงใจทำเสียงเล็กเสียงน้อยล้อเลียนเพื่อนสนิทโดยไม่สนใจมือเล็กของลู่หานที่ค่อยเขย่าแขนให้เจ้าตัวหยุดพูดเสียที

     

     

    เยอะแยะมากมาย วันๆฉันก็ฟังแต่เรื่องนายนั่นแหละ”  อี้ชิงสาธยายยาวเหยียดไม่แพ้เซฮุน ลู่หานที่ดูเหมือนจะห้ามเพื่อนไม่ทันแล้วได้แต่ยกมือบางนวดขมับ คนหน้าหวานเหลือบมองเซฮุนที่เหมือนจะอึ้งอยู่ไม่น้อยเพียงแว่บหนึ่ง แต่ก็ดันสบเข้ากับดวงตาคมพอดีทำให้ต้องหลุบตาลงต่ำอย่างช่วยไม่ได้  แก้มใสที่ขึ้นสีอย่างเห็นได้ชัดและอาการของคนหน้าหวานที่ทำได้เพียงก้มหน้าเม้มริมฝีปากสีอ่อนของตนอยู่อย่างนั้น  เพียงแค่นั้นก็ทำให้เซฮุนยิ้มกว้างเหมือนคนบ้า

     

     

     

     

     

     

    Accidental of love

     

     

     

     

    ฮานอ่า  จะงอนแล้วนะ”  เซฮุนเอ่ยขึ้นอีกครั้งพร้อมทำหน้ามูทู่หนักกว่าเก่า น้ำเสียงออดอ้อนทำเอาลูหานต้องใจอ่อน มือบางถูกยกขึ้นบีบจมูกโด่งเบาๆอย่างหมั่นไส้ พลางทำหน้ายู่แข่งกับคนตัวขาวบ้าง แต่มักลับดูน่ารักสุดๆในสายตาเซฮุน

     

     

    ถ้าฉันเรียนไม่จบ ต้องรับเลี้ยงไปตลอดชีวิตนะ”  ลู่หานประชดทีเล่นทีจริงแต่กลับทำให้เซฮุนยิ้มกว้าง

     คนอายุน้อยกว่าเลื่อนมือของตนไปกุมมือบางไว้พร้อมพูดด้วยน้ำเสียงและแววตาที่จริงจัง

     

     

    นั่นมันหน้าที่ของฉันอยู่แล้วนี่ ฉันจะดูแลลู่หานไปตลอดชีวิตเลย

     

     

    พูดอะไรน่ะ ยังไงมันก็ต้องเป็นอย่างนั้นอยู่แล้ว แต่จะให้ฉันอายเพื่อนหรือไง อี้ชิงน่ะจบมาแล้วนะ ฉันก็ต้องขยันให้มากขึ้นเพื่ออนาคตด้วยสิ เซฮุนก็เหมือนกันไม่ใช่เวลามาเกเรแล้ว” 

     

     

    ลู่หานมองหน้าเซฮุนด้วยแววตาจริงจังไม่แพ้กัน มืออีกข้างถูกยกมาซ้อนทับมือของเซฮุนพร้อมกับบีบเบาๆ

     

     

    ไม่ว่ายังไง เราก็จะเดินเคียงข้างกัน ไม่ว่ายังไงฉันก็พร้อมจะอยู่ข้างนายน

     

     

    ฉันอยากเป็นกำลังใจให้นาย ไม่ว่าจะยังไง เพราะฉันรัก เซฮุนของฉัน....

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    Accidental of love

     

     

     

     

     

    หายไปไหนของเขานะ” 

     

     

    แพคฮยอนได้แต่บ่นพึมพำกับตัวเอง อี้ชิงยังคงคอยมาหาไปรับส่งเขาทำงานพิเศษตลอดหลายวันมานี้ แต่กลับกลายเป็นชานยอลที่หายไปดื้อแม้แต่หอสมุดเก่าที่เจ้าตัวชอบมาก็ไร้วี่แววของร่างสูง

     

     

    แพคฮยอนทิ้งตัวลงนั่งกับเก้าอี้ไม้ตัวเดิมที่ชานยอลเคยนั่ง.. ที่นี่เงียบสงบเหมือนเดิมหลังจากวันนั้นที่เขาเผลอเดินเข้ามาก็ติดใจในเสน่ห์ที่น่าหลงใหลของหอสมุดแห่งนี้จนต้องแอบเข้ามาอีกบ่อยๆ  และบ่อยครั้งที่เข้ามาเพื่อหาใครซักคน แต่ก็ไม่พบ..

     

     

    นายนี่มันเหลือเชื่อชะมัด

     

     

    เสียงคุ้นหูถูกเอ่ยทำลายความเงียบ มันคงจะดีไม่น้อยถ้าเสียงนั่นเป็นเสียงของคนที่เขากำลังคิดถึง หากแต่มันไม่ใช่  แพคฮยอนพรูลมหายใจหนัก คนตัวเล็กค่อยๆลุกขึ้นยืนมองผู้มาเยือนคนใหม่ด้วยแววตาติดจะเบื่อหน่า

     

     

    จะมาหาเรื่องอะไรฉันอีกล่ะ คิมจงอิน

     

     

    ที่นี่ ชานยอลมันหวงมากนะ แม้แต่พวกฉันเองยังต้องขออนุญาตก่อนเข้ามา”  จงอินพูดขึ้นลอยๆโดไม่ได้หันมามองหน้าคนตัวเล็ก  คนผิวเข้มเดินไปเรื่อยๆพลางใช้นิ้วไล่เรียงหนังสือมากมายที่ยังคงเรียงตัวกัเป็นระเบียบนชั้นติดผนัง

     

     

    จริงสิถึงที่นี่ไม่ได้ใช้งานแล้วและมีแต่หนังสือเก่าเก็บ  แต่มันก็สะอาดสะอ้านเหมือนกับได้รับการดูแลอย่างดี

     

     

    ที่นี่มันเจ๋งใช่มั้ยล่ะ”  จงอินยังคงมองอย่างสำรวจไปรอบๆ เป็นครั้งแรกที่แพคฮยอนได้เห็นคนผิวเข้มยิ้มอย่างสบายใจ แทนที่จะเป็นรอยยิ้มร้ายแสนยียวนแบบที่ชอบทำใส่เขา คนตัวเล็กยืนมองจงอินที่เดินเข้ามาใกล้เรื่อยๆตาปริบๆ   เขาไม่รู้ว่าจงอินจะมาไม้ไหนกันแน่

     

     

    ชานยอลน่ะ มันไม่เคยต้องบ้าบออะไรขนาดนั้น ทั้งเรื่องเจ็บตัวเพราะนายทั้งเรื่องไอ้เซฮุนด้วย เรื่องความรักไร้สาระอะไรพวกนั้นไม่เคยอยู่ในสมอง  ปกติมันไม่ทำ พวกเราจัดการกันเองได้”  จงอินเดินมาหยุดและจ้องมองคนตัวเล็กด้วยแววตาที่ต่างออกไป

     

     

    หัวใจด้านที่รับความรู้สึกของมันตายไปนานมากแล้ว ถึงพวกเราจะสนิทกันมากมาแต่ไหนแต่ไร  ทั้งฉันชานยอลและเซฮุนแต่เราก็ไม่เคยก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวซึ่งกันและกัน ถ้ามันอยากบอกมันจะบอกเอง

     

     

    แต่พอนายมาที่นี่ เรื่องทุกอย่างก็เปลี่ยนไปหมด  ฉันไม่รู้ว่าควรจะดีใจมั้ยที่ชานยอลมันกลับมามีหัวใจอีกครั้ง”  จงอินเงียบไปแต่ตาคมยังคงสบนิ่งลึกเข้าไปในดวงตาของแพคฮยอน ทุกคำพูดของจงอินที่ไหลผ่านประสาทการรับรู้บ่งบอกว่าตอนนี้คนตรงหน้าไม่ได้ล้อเล่น

     

     

    ที่มันเป็นแบบนั้นมันก็มีเหตุผล และที่มันเป็นในตอนนี้มันก็มีเหตุผล และเหตุผลของมันในตอนนี้คือนาย"

     

     

    แพคฮยอนได้แต่ตั้งใจรับฟังสิ่งที่จงอินพยายามบอกกับเขา แม้ว่าเขาเองไม่ได้เข้าใจความหมายของประโยคยาวเหยียดที่คนตรงหน้าพูดออกมาทั้งหมด แต่กลับรับรู้ถึงความใส่ใจที่จงอินมีต่อชานยอลอย่างมากมาย

     

     

    เพราะนาย จะไม่หักหลังมันใช่มั้ย?”  

     

     

    แพคฮยอนขมวดคิ้วอย่างสงสัย  เขาไม่เข้าใจประโยคที่จงอินพูด ไม่ใช่ว่าไม่เข้าใจว่าจงอินหมายถึงว่าต่อไปเขาจะไม่ทรยศความรู้สึกที่ชานยอลมีต่อเขา แต่สิ่งที่ไม่เข้าใจคือ สิ่งเหล่านี้มันเคยเกิดขึ้นกับชานยอลในอดีตอย่างนั้นหรือ  หัวใจที่แพคฮยอนอยากครอบครองมันเคยมีแผลอย่างนั้นใช่มั้ย

     

     

    ฉันจะยอมรับนายก็ได้ ไอ้เตี้ย แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าจะล้อเล่นกับความรู้สึกใครก็ได้ รีบๆจัดการ เรื่องไอ้เจ๊กหน้าขาวนั่นด้วยล่ะ

     

     

    จงอินยังคงพูดไปเรื่อยๆโดยที่แพคฮยอนไม่ได้เอ่ยแย้งอะไร  คนผิวเข้มหยุดพูดและยืนสบตานิ่งอยู่เพียงครู่ก็ตัดสินใจหมุนตัวกลับไปที่ประตู แต่ก่อนที่ขายาวจะก้าวไปถึงจงอินกลับชะงักนิ่งอีกครั้ง  คนผิวเข้มพ่นลมหายใจหนักๆ เขาหมุนตัวกลับมามองแพคฮยอนดังเดิมเพียงแต่ระยะห่างที่ต่างออกไป  ก่อนเจ้าตัวจะเอ่ยบางคำที่แพคฮยอนไม่คิดว่าจะมีโอกาสได้รับฟังจากปากคนคนนี้

     

     

    แล้วก็ ...ขอโทษ สำหรับทุกอย่างที่ผ่านมา”  

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    TBC..

     

    เมเม : จงอินเด่นกว่าพระเอกเพราะเป็นพระรองที่ไรท์เตอร์มันลำเอียง

    #ฟิคอุบัติเหตุ @Aprilnov0408

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×