ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic EXO] -Accidental of love-

    ลำดับตอนที่ #13 : Accidental of love ♡ Chapter ‏12 เพียงเปิดใจ

    • อัปเดตล่าสุด 4 เม.ย. 57


    Rasp Free Theme dek-d By i'nutberry


                                 
                                                         









                                                                    -ตอนที่12-











     

      








     

    "ที่นี่เหรอ"

     

     

    แพคฮยอนพยักหน้ารับเบาๆเมื่อถึงที่หมาย  ชานยอลกวาดสายตามองไปรอบๆด้วยสีหน้าปกติเหมือนทุกที โดยมีจงอินยืนทำหน้าง่วงอยู่ไม่ห่างออกไปนัก ชานยอลละสายตาจากการสำรวจรอบๆกลับมามองหน้าแพคฮยอน ดวงตากลมโตที่ดูสวยราวกับดวงตาของผู้หญิงสบตาแพคฮยอนนิ่งโดยที่ไม่ได้พูดอะไร

     

     

     คนคนนี้แม้จะเย็นชาและดูไร้ความรู้สึก  แต่กลับมีแรงดึงดูดอย่างน่าประหลาดราวกับซ่อนบางสิ่งไว้ใต้หน้ากากที่ว่างเปล่า ฉาบทับใบหน้าจริงที่อาจมีอะไรมากไปกว่าที่เห็น...

     

     

    อยากรู้จัก คนคนนี้ให้มากกว่านี้  ....

     

     

    "นายอยู่ที่นี่คนเดียวเหรอ"  ชานยอลที่เอ่ยถามขึ้นอีกครั้ง แต่คราวนี้เจ้าตัวกลับเสมองไปทางอื่นที่ไม่ใช่ดวงหน้าของแพคฮยอน พึมพัมคล้ายจะพูดกับตัวเองแต่กลับเป็นประโยคที่สื่อว่าถามคนตัวเล็ก 

     

     

    ทำไมเวลาคุยด้วยไม่ชอบมองหน้านะ! เวลามองก็มองเอาๆไม่คุย คนบ้าอะไรเนี่ย

     

     

    นั่นสิ ...ทำไม?

     

     

    "อื้ม"  แพคฮยอนตอบรับเบาๆแต่ก็ดังพอที่ชานยอลจะได้ยิน

     

     

    "ขอยืมมือถือนายหน่อย" 

     

     

    สายตาของชานยอลยังคงมองไปที่อื่น แต่คนตัวสูงกลับยื่นมือเรียวหนาออกมาด้านหน้า แพคฮยอนงุนงงกับการกระทำนั้นไม่น้อย  แต่ก็ล้วงหยิบเครื่องมือสื่อสารในกระเป๋ากางเกงไปวางไว้บนมือของชานยอล  คนตัวสูงใช้มือเพียงข้างเดียวจิ้มหน้าจออยู่เพียงครู่ก็ส่งมันคืนให้กับแพคฮยอน ทำเอาคนตัวเล็กยิ่งงงหนัก เขารับเครื่องมือสื่อสารของตัวเองมาถือไว้  ประโยคคำถามที่ก่อตัวขึ้นในสมองและกำลังถูกกลั่นกรองเป็นคำพูด  แต่ยังไม่ทันได้เอ่ยคนตัวสูงก็เดินหนีไปซะดื้อๆ

     

     

    "อะ.?"   แพคฮยอนอ้าปากค้างได้แต่ก้มมองมือถือของตนเอง  นิ้วเรียวสัมผัสเพื่อปลดล็อกหน้าจอก่อนลากผ่านเข้าสู่เข้าเมนูการใช้งานล่าสุด  ยังคงเป็นเบอร์ของแม่เขา คิ้วเรียวขมวดยุ่งจนแทบพันกันด้วยความงุนงงระคนสงสัย  หรือบางทีคนตัวสูงอาจจะใช้ส่งข้อความ แต่พอกดเข้าไปดูก็พบเพียงความว่างเปล่า

     

     

    อาจจะลบทิ้งไปแล้วก็ได้มั้ง

     

     

    กลับกันเถอะ”  ชานยอลเอ่ยกับจงอินเสียงเรียบเมื่อเดินผ่านโดยไม่ได้หยุดรอ ขายาวยังคงก้าวไปข้างหน้าเรื่อยๆ  จงอินหมุนตัวเดินตามชานยอลไปอย่างไม่รีบร้อนนัก แต่ไม่วายที่เสี้ยวหน้าคมจะหันกลับมาส่งยิ้มกวนประสาทแบบที่เจ้าตัวชอบทำให้กับแพคฮยอนที่ยืนทำหน้ายุ่งๆอยู่ด้านหลัง

     

     

    รีบเข้านอนซะนะไอ้หนู

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     Accidental of love

     

     



     

    นอนไม่หลับ...

     

     

    แพคฮยอนพลิกไปพลิกมาในความมืดอยู่อย่างนั้น แม้พยายามข่มตาให้หลับแค่ไหนก็ไม่มีความง่วงแม้เพียงน้อยนิดเข้ามาทักทาย คนตัวเล็กค่อยๆดึงหมอนอีกใบมากอดไว้แนบออก สมองก็คิดถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นตลอดทั้งวัน

     

     

    เพียงวันเดียวทำไมเกิดอะไรขึ้นมากมายขนาดนี้ ..ทั้งการได้พบกับลู่หานคนที่เซฮุนแอบชอบ ดูแล้วก็น่ารักเหมาะจะเป็นพี่สาวมากกว่าพี่ชายซะอีก คงเป็นเพราะหน้าสวยๆนั่นล่ะมั้ง ไหนจะอี้ชิงคนที่ลู่หานแนะนำว่าเป็นเพื่อนสนิทที่ดูเหมือนจะถูกใจเขาไม่น้อย เกิดมาไม่เคยโดนผู้ชายจีบก็เลยรู้สึกแปลกไปซักหน่อยแต่ก็ไม่ได้รังเกียจอะไร

     

     

    พี่อี้ชิงก็น่ารักดีนะ...

     

     

    ดูเป็นคนเปิดเผยแสดงออกชัดเจน ไม่เหมือนกับ.....

     

     

     ย่า !! พยอนแพคฮยอน ทำไมต้องคิดถึงแต่หมอนั่นด้ว!

     

     

    แพคฮยอนผุดลุกขึ้นมานั่งทำหน้ายุ่งในความมืด  มือเรียวควานหาโทรศัพท์ที่วางไว้หัวเตียงก่อนปลดล็อกและเริ่มสำรวจมันอีกครั้ง  เขามั่นใจว่าชานยอลไม่ได้โทรออกเพราะไม่เห็นคนตัวสูงจะยกโทรศัพท์แนบหูเลยซักครั้ง ชานยอลแค่ทำเหมือนพิมพ์อะไรบางอย่าง ซึ่งเขาคิดว่าคนตัวสูงอาจจะใช้ส่งข้อความ และอาจลบมันทิ้งทันทีที่ส่งเสร็จ

     

     

    แค่นี้ก็ต้องลบด้วย .. เชอะ ไม่เห็นจะอยากรู้เลย จะส่งหาสาวๆทำไมไม่ใช้โทรศัพท์ตัวเองห้ะคนระดับนายทำไมต้องมายืมโทรศัพท์คนอย่างฉัน หรือแบตจะหมด แล้วทำไมไม่ยืมของจงอินล่ะ เฮอะ!

     

     

    แพคฮยอนล้มตัวลงนอนอีกครั้งเพราะรู้สึกปวดหัวขึ้นมา  ความคิดในสมองกับลังเล่นงานเขาอย่างจัง

    ไม่รู้ว่าปล่อยให้คนตัวสูงมามีอิทธิพลอย่างนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่  แพคฮยอนยกโทรศัพท์จนอยู่ในระดับเดียวกับใบหน้า  มืออีกข้างสัมผัสหน้าจอไปเรื่อยๆ  เขากดผ่านเข้าสู่เมนูสมุดโทรศัพท์แบบไม่ได้ตั้งใจ จริงสิเขามีเพื่อนที่โรงเรียนเก่าหลายคนที่ไม่ได้ติดต่อไปหาเลยตั้งแต่มาอยู่ที่นี่ ไม่รู้ว่าเจ้าพวกนั้นเปลี่ยนเบอร์กันไปบ้างหรือยัง ที่โน่นจะเป็นยังไงบ้าง

     

     

    แพคฮยอนคิดและยิ้มกับตัวเองเมื่อนึกถึงช่วงเวลาดีๆที่โรงเรียนเก่า สายตายังคงไล่อ่านรายชื่อผู้ติดต่อในสมุดโทรศัพท์ของตนไปเรื่อยๆ  แต่จู่ๆร่างเล็กก็มีอันต้องเด้งตัวจากที่นอนราวกับติดสปริง ตาคู่สวยจ้องมองจอเครื่องมือสื่อสารแทบไม่กระพริบ พินิจดูว่าสิ่งที่เห็นไม่ใช่เพราะตาฝาด

     

     

    รายชื่อที่ไม่คุ้นเคยในสมุดโทรศัพท์ แต่จำได้อย่างแม่นยำในความทรงจำ

     

     

    ปาร์ค ชานยอล 010 xxx xxxx

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    Accidental of love

     


     

     

    วันนี้   อากาศดีเกินไป.. รึเปล่านะ แต่อะไรๆก็ดูดีไปหมด แม้แต่หน้ากวนเบื้องล่างของจงอินยังดูหล่อ
    และทั้งชานยอลเซฮุนและจงอินก็ยังเข้าเรียนพร้อมกันอีก
     ซึ่งเป็นเรื่องที่หาได้ยาก แม้ว่าทั้งชานยอลและเซฮุนจะเอาแต่หลับตลอดคาบก็เถอะ อะไร
    อะไร ..ก็ดี ดีจริงๆ

     

     

    คยองซูมองหน้าแพคฮยอนที่เอาแต่ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่แถมยังฮัมเพลงเบาๆอย่างอารมณ์ดีด้วยสีหน้าแปลกใจ ก็ตั้งแต่แพคฮยอนเข้ามาเรียนที่นี่ด้วยกัน เขายังไม่เคยเห็นแพคฮยอนอารมณ์ดีขนาดนี้เลยซักครั้ง

     

     

    มีอะไรน่ายินดีหรือเปล่าแพคฮยอน”  คยองซูเอ่ยถามเพื่อนสนิท มือเรียวที่กำลังเก็บสัมภาระลงกระเป๋าชะงักเล็กน้อย แก้มใสขึ้นสีจางๆอย่างห้ามไม่อยู่ เขาหันมายิ้มที่เรียกว่ายิ้มกลบเกลื่อนเสียมากกว่าเพราะเหมือนจะถูกเพื่อนตาโตจับความรู้สึกได้

     

     

    "เปล่านี่ ก็เหมือนเดิม"  แพคฮยอนตอบกลับด้วยเสียงที่พยายามให้เป็นปกติ แม้หัวใจจะถูกสูบฉีดจนเต้นโครมครามเมื่อนึกถึงเรื่องที่ทำให้เขามีความสุขมาทั้งวัน ..

     

     

    ปาร์คชานยอล...

     

     

    มือเรียวเผลอล้วงหยิบโทรศัพท์ของตัวเองขึ้นมาจ้องมองแล้วเผลอยิ้มอย่างลืมตัว  ความดีใจบางอย่างแล่นริ้วไปทั่วจนไม่สามารถจะควบคุมกริยาที่แสดงออกมาได้ คยองซูได้แต่นั่งมองเพื่อนสนิทของตนตาปริบๆ ดูท่าแล้วแพคฮยอนเหมือนพวกที่กำลังมีความรัก หรือไม่ก็ตกหลุมรักใครซักคนเอามากๆ แต่มันเกี่ยวอะไรกับโทรศัพท์มือถือ

     

     

    หรือจะตกหลุมรักกับโทรศัพท์..?

     

     

    "น่าหมั่นไส้ชะมัด" 

     

     

    แพคฮยอนเงยจากจอเครื่องมือสื่อสารคู่กายด้วยใบหน้าหน้ายิ้มค้าง หัวใจที่เต้นรัวเหมือนกลองค่อยๆเต้นช้าลงไปทุกขณะ ความดีใจที่ไหลผ่านความรู้สึกเมื่อครู่มลายหายไปหมดสิ้นทันทีที่ได้ยินน้ำเสียงกวนประสาทของจงอิน  ที่ดันมายืนอยู่ตรงหน้าเขาตั้งแต่ตอนไหนก็ไม่รู้

     

     

    "อะไร"  แพคฮยอนถามไปอย่างไม่รู้ตัวว่าตอนนี้ทำหน้าหงุดหงิดใส่จงอินขนาดไหน ทำไมหมอนี่ชอบมาขัดความสุขเขานักนะ จะไม่ค่อนขอดซักวันคงนอนหลับไม่สบายกินข้าวไม่อร่อยใช่ไหม!

     

     

    "ฉันบอกว่า นายมันน่าหมั่นไส้  สมองไม่ประมวลผลหรือไงถึงฟังภาษามนุษย์ด้วยกัน ไม่รู้เรื่อง" 

     

     

    จงอินจงใจยื่นไงหน้าเข้ามาใกล้เน้นคำพูดทุกคำ  นิ้วชี้ถูกยกขึ้นจิ้มหน้าผากมนย้ำๆ  ถึงจะกล้าๆกลัวๆกับคนตรงหน้าบ้างแต่ความอดทนของแต่ละคนมีขีดจำกัด  แพคฮยอนรู้สึกปวดหัวขึ้นมาอีกครั้ง  เขาพยายามที่จะข่มความรู้สึกแต่เหมือนมันจะไม่ได้ช่วยอะไร เมื่อสติสุดท้ายแห่งความอดทนขาดผึงลงไปแล้ว

     

     

    "นี่ !  ฉันรู้ว่านายคงจะไม่ชอบขี้หน้าฉันเอามากๆอาจจะถึงขั้นเกลียด อาจจะอย่างนั้น เพราะฉะนั้นในเมื่อ นายเกลียดฉันนักก็อยู่ห่างๆจากฉันซิ ไม่ใช่มาวุ่นวายเวียนวนอยู่อย่างนี้"  

     

     

    แพคฮยอนพูดรัวอย่างเหลืออด ความโกรธปะปนกับความน้อยใจที่ไม่สามารถอธิบายได้ว่าเกิดขึ้นเพราะอะไร  หรือเพราะไม่เคยได้รับความเป็นเพื่อนจากคนตรงหน้าได้ซักนาที ทำให้แพคฮยอนควบคุมตัวเองไม่อยู่

     

     

    "หึ คิดว่าฉันอยากยุ่งกับนายนักเหรอไง"  

     

     

    จงอินตอบกลับอย่างไม่หยี่ระในขณะที่แพคฮยอนสั่นไปแทบทั้งตัวแต่ก็พยายามที่จะควบคุมมัน คนตัวเล็กกระตุกยิ้มบางเบาที่มุมปากหัวสมองของเขาตอนนี้มีแต่คำว่าอยากจะเอาชนะคนตรงหน้านี้ให้ได้

     

     

    "หรือว่า จริงๆแล้ววนายจะชอบฉันล่ะ"  แพคฮยอนยิ้มเย็น เขาคิดว่าตอนนี้แค่ทำให้จงอินดูร้อนรนบ้าง อย่างไรซะคนที่นั่งอยู่ข้างๆเขาก็คือคยองซูคนที่จงอินรู้สึกพิเศษด้วยอย่างแน่นอน

     

     

    "หึ "  ยกอินยกยิ้มร้ายกาจ 

     

     

    "สำคัญตัวจังนะ ถ้าฉันชอบนายแล้วจะทำไม"  จงอินจงใจเว้นระยะชั่วอึดใจแต่ก็ทำให้แพคฮยอนลืมวิธีหายใจไปชั่วอึดใจเช่นกัน

     

     

     "แต่ ฉันไม่มีทางชอบคนอย่างนาย"   จงอินเหยียดยิ้ม เขาจงใจหลอกล่อแพคฮยอนให้ตกหลุมพราด้วยคำพูดแสนฉลาด ทั้งที่มันดูไม่มีอะไรแต่แพคฮยอนกลับรู้สึกว่าเขากำลังโดนคนตรงหน้าเย้ยหยันราวกับจะเหยียบให้จมดิน

     

     

    ทำไม  คนอย่างฉันแล้วมันทำไม!

     

     

    ปึง!

     

     

    แพคฮยอนวางหนังสือกระแทกโต๊ะอย่างแรง เขาไม่รู้ว่าอารมณ์ในตอนนี้คืออะไร โกรธ เสียใจ น้อยใจหรืออะไรกันแน่ แต่เขาไม่ชอบไม่ชอบคำพูดที่เหมือนดูถูกเหล่านั้น มันทำให้เขาอดทนไม่ได้ยิ่งกว่าครั้งไหนๆ

     

     

    "หึ ไม่ชอบฉัน นาย... ไม่มีทางชอบคนอย่างฉัน ..ไม่ชอบ...แล้วนายมาจูบฉันทำไม!!" 

     

     

     แพคฮยอนพูดเสียงดังจนกลายเป็นตะโกน จนเซฮุนที่ฟุบหลับอยู่แทบสะดุ้งตกจากเก้าอี้ คยองซูที่ตกใจไม่แพ้กันลุกขึ้นจับแขนแพคฮยอนเบาๆเหมือนเรียกสติ  แพคฮยอนกัดปากเล็กจนเจ็บไปหมด ตาเรียวทั้งสองข้างร้อนผ่าวเอ่อล้นไปด้วยน้ำใสๆที่พร้อมจะร่วงหล่นได้ทุกเมื่อ จงอินเองก็มีสีหน้าตกใจไม่แพ้กันเมื่อเห็นอาการของคนตัวเล็ก 

     

     

    "ขอโทษนะคยองซู" แพคฮยอนเบี่ยงแขนออกจากการเกาะกุมของเพื่อนสนิท เขาไม่สามารถควบคุมน้ำตามากมายที่ไหลไม่หยุดได้ ทั้งอับอายทั้งเจ็บจุกจนไม่รู้จะทำอย่างไร เขาก้าวเดินผ่านเซฮุนที่เหมือนจะพยายามพูดอะไรบางอย่างแต่ก็ไม่ได้พูดออกมา  เขาอยากจะออกไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุดแต่ขาเจ้ากรรมก็เหมือนจะเดินได้ช้าเหลือเกิน

     

     

    แพคฮยอนเลือกที่จะเดินให้พ้นไปจากที่นี่เร็วๆ แต่สายตาก็ดันสบเข้ากับชานยอลที่คงตื่นขึ้นมาเพราะเสียงเขาอย่างไม่ได้ตั้งใจ  แพคฮยอนทำได้แค่หลบสายตาคมคู่นั้น อยากหนีไปให้ไกล ไม่อยากต้องทนเป็นตัวตลกอีกต่อไปแล้ว

     

     

    ..ไม่อยากให้มันเป็นแบบนี้...

     

     

    คนตัวเล็กฟุบหน้ากับโต๊ะไม้ในหอสมุดเก่านิ่งๆ ที่นี่เงียบพอจะให้เขาได้สงบสติที่สับสนฟุ้งซ่าน

    ปล่อยน้ำตาให้ไหลอยู่อย่างนั้นจนมันเริ่มแห้งไปเอง  เขาไม่ได้โมโหจงอินกับคำพูดที่ว่าไม่ได้ชอบแต่กลับเจ็บปวดกับคำว่า คนอย่างนาย

     

     

    ก็แค่คนอย่าง พยอนแพคฮยอน...

     

     

    เขาก็แค่เด็กบ้านนอกจนๆที่โชคดีสอบผ่านจนได้ทุนการศึกษาจากเหล่าผู้บริหารโรงเรียนใหญ่โตหลายแห่งที่ร่วมกันทำโครงการให้กับพวกนักเรียนที่เรียนดีแต่ขาดทุนทรัพย์   อาจจะแค่เป็นการทำบุญกับพวกเด็กจนๆเช่นเขา แต่นั่นก็เป็นโอกาสอันยิ่งใหญ่เพราะไม่เพียงแค่ทุนจบม.ปลาย แต่ยังได้เข้าเรียนในมหาวิทยาลัยในโครงการด้วยอย่าสบายๆ  ถึงจะต้องเจออะไรมากกว่านี้ก็ต้องอดทน เพื่ออนาคตที่ดีและสามารถช่วยแบ่งเบาภาระที่บ้านได้ 

     

     

    นั่นคือสิ่งที่แพคฮยอนต้องการ...

     

     

    แพคฮยอนลุกขึ้นสะบัดหัวไล่ความฟุ้งซ่าน เขาหมุนตัวกลับไปที่ประตูแต่ก็ต้องชะงัก...

     

     

    ร่างสูงโปร่งของชานยอลยืนพิงประตูมองมาที่เขาอย่างเงียบๆ  แพคฮยอนได้แต่ยืนนิ่งอยู่อย่างนั้น ไม่กล้าแม้แต่จะขยับเท้าแต่กลับกลายเป็นชานยอลที่กำลังก้าวเข้ามาหาเขาช้าๆ จนมาหยุดยืนตรงหน้า ทิ้งระยะห่างกันเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

     

     

    นาย จูบกับจงอิน..

     

     

    คนตัวสูงเอ่ยด้วยน้ำเสียงราบเรียบบวกกับแววตาว่างเปล่าทำให้แพคฮยอนจุกจนแทบพูดไม่ออก ไม่แน่ใจว่านั่นเป็นประโยคคำถามหรือต้องการจะมาตอกย้ำอะไรกับเขากันแน่ ทั้งๆที่เมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อนทำเขาแทบสำลักความสุขตายแต่ตอนนี้กลับพรากมันออกไปอย่างไม่ใยดี

     

     

    เมื่อไหร่"

     

     

    ชานยอลถามขึ้นอีกด้วยน้ำเสียงแบบเดิม แพคฮยอนไม่รู้ว่าคนตัวสูงต้องการอะไร  ถึงพยายามเข้าใจแต่ก็ไม่สามารถเข้าถึงได้เลยซักที คำว่าอย่าทำให้ต้องเป็นห่วงที่เคยบอกกับเขา บางทีอาจจะหมายความว่าอย่ามาทำให้ต้องวุ่นวายอีกก็เป็นได้

     

     

    "ก่อนหรือหลัง"

     

     

    ชานยอลยังคงตั้งคำถามอย่างต่อเนื่องเมื่อเห็นว่าแพคฮยอนเอาแต่นิ่ง แต่เพราะประโยคที่ถูกเอ่ยล่าสุดทำเอาแพคฮยอนต้องเงยหน้ามองคนตัวสูง ดวงตาเรียวเต็มไปด้วยความงุนงงไม่เข้าใจ

     

     

    "ก่อนหรือหลัง...        ฉันทำ"

     

     

    ตอนนี้แพคฮยอนเหมือนลืมวิธีหายใจอีกครั้งคล้ายหัวสมองหยุดทำงาน  ม้วนฟิล์มในความทรงจำกำลังฉายซ้ำภาพเมื่อหลายอาทิตย์ก่อนขึ้นมาใหม่

     

     

    ชานยอลจูบเขา ที่นี่..

     

     

    แพคฮยอนได้แต่ก้มหน้าจนแทบชิดอกความรู้สึกมากมายเริ่มตีกันวุ่นวายในหัว บางสิ่งที่คิดว่าเคยเข้าใจกลับไม่เข้าใจเอาดื้อๆ ริมฝีปากบางเม้มหนักก่อนตัดสินใจตอบคำถามแผ่วเบา

     

     

    หลัง ... หลัง จากนั้น" 

     

     

    แพคฮยอนหลับตาลงช้าๆ เขาปวดหัวอีกแล้ว ไม่อยากคิดอะไรอีกแล้ว  บางทีการต้องคิดไปเองอยู่คนเดียวเพราะอีกฝ่ายอาแต่นิ่งหรือการไล่ตามความรู้สึกของใครมันเหนื่อยเกินไป

     

     

    มือเรียวหนาของชานยอลถูกยกขึ้นลูบแก้มใสแผ่วเบา มันทำให้คนตัวเล็กแปลกใจจนต้องเงยหน้าขึ้นสบตาคมสวยคู่นั้นที่เขาแอบหลงใหลไปตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้  นิ้วโป้งถูกแตะไว้ที่กลีบปากบางอย่างนุ่มนวล คนตัวสูงไล้นิ้วอ่อนละมุนไปตามแนวริมฝีปากด้านล่างอย่างช้าๆ  แพคฮยอนรับรู้ได้ถึงความรู้สึกอ่อนโยนเกินกว่าครั้งไหนๆถูกส่งผ่านปลายนิ้ว  เฉกเช่นเดียวกับดวงตาของชานยอลที่สะท้อนเพียงภาพของเขาในตอนนี้ และดวงตาของเขาก็จะสะท้อนแค่ภาพของชานยอลเช่นกัน

     

     

    อย่าให้ใครมาแตะต้องง่ายๆสิ" 

     

     

    ประโยคราบเรียบเหมือนคำสั่งในทีแต่กลับทำให้หัวใจมีเลือดมาหล่อเลี้ยงอีกครั้ง  แพคฮยอนพยักหน้ารับเบาๆ  แม้ในตอนนี้จะยังมั่นใจได้ไม่เต็มร้อยแต่บางสิ่งที่รับรู้ได้ในขณะนี้ แม้คนตัวสูงไม่ได้เอ่ยมันออกมาทั้งหมด     แต่หัวใจของเขาตอนนี้มันบอกว่าควรเชื่อในความรู้สึกนี้อีกครั้ง  อยากเชื่ออีกครั้งว่าไม่ใช่แค่เขาที่คิดอยู่ฝ่ายเดียว

     

     

    แพคฮยอนหลับตาลงและเอียงหน้าแนบสนิทอุ้งมือหนา  เขาอยากรับความรู้สึกนี้ อยากมีไว้ให้นานที่สุด แค่ตอนนี้...ที่สามารถทำได้

     

     

    กลับกันเถอะเย็นมากแล้ว”  ชานยอลค่อยๆดึงมือออกจากแก้มใสช้าๆ คนตัวสูงวางมันบนหัวทุยของแพคฮยอนอย่างเอ็นดู ปากอิ่มระบายยิ้มบางเบาอย่างที่แพคฮยอนไม่เคยได้เห็นมาก่อน

     

     

    เปิดให้ฉันแล้วสินะ หัวใจที่แสนเย็นชาดวงนั้น

     

     

    แพคฮยอนเดินตามชานยอลเพื่อกลับไปเอาสัมภาระที่ห้องเรียน  เขาพยายามรักษาระยะห่างจากคนตัวสูงอย่างพอดีไม่ให้ใกล้จนเกินไป ขนาดเดินห่างสายตาของบรรดานักเรียนอื่นก็ยังจ้องมาที่เขเขม็ง  โดยเฉพาะพวกแฟนคลับสาวๆที่ดูจะคลั่งไคล้ชานยอลกันเป็นพิเศษ

     

     

    เดินช้าชะมัด

     

     

    ชานยอลบ่นและหยุดเอาดื้อๆ  ทำให้แพคฮยอนที่ไม่ทันระวังจึงชนเข้ากับแผ่นหลังกว้าง คนตัวสูงหันมาทำหน้ายุ่งๆก่อนจะคว้าข้อมือแพคฮยอนอย่างรวดเร็วและดึงคนตัวเล็กมาใกล้จนแทบชิด  ก่อนเริ่มก้าวไปข้างหน้าอีกครั้ง  แพคฮยอนทำได้แค่มองชานยอลที่จูงเขาไปเงียบๆ พร้อมรับรู้ถึงรังสีอำมหิตรอบด้านที่ถูกส่งมาจากพวกแฟนคลับปะทะร่างเขาอย่างจัง

     

     

    แพคฮยอน !!”  คยองซูวิ่งมาหาทันทีที่แพคฮยอนปรากฏตัวที่ประตู ดวงตากลมโตนั้นฉายแววห่วงใยอย่างชัดเจน มือเล็กของเจ้าตัวกุมมือของแพคฮยอนเอาไว้แน่น เหมือนกลัวว่าเพื่อนตัวเล็กจะหายไป

     

     

    ไม่เป็นไรหรอกคยองซู ฉันโอเค”    แพคฮยอนยิ้มสดใสให้คยองซูอย่างเคย ทำให้เพื่อนตาโตของเขายิ้มออกมาได้เช่นกัน

     

     

    ชานยอลจัดการเรียบร้อยแล้วสินะ”  ประโยคต่อมาคยองซูชะโงกหน้าไปคุยกับคนตัวสูงที่ยืนอยู่ด้านหลังทำให้แพคฮยอนต้องมองตาม ชานยอลได้แต่พยายามตีหน้านิ่งๆเหมือนเคย หากว่าเป็นก่อนหน้านี้ คงจะเป็นชานยอลผู้เฉยชาในความรู้สึกของแพคฮยอน  แต่ตอนนี้มันต่างออกไป..

     

     

    อ้อ แพคฮยอน มีคนมาหาแน่ะ”  แพคฮยอนขยับปากไร้เสียงถามว่าใคร  คยองซูจึงเบี่ยงตัวหลบเผยให้เห็นคนที่กำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้เรียนของเขา และกำลังส่งยิ้มหวานๆมาให

     

     

    สวัสดี แพคฮยอน” 

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     






    TBC...

     

    เมเม : มันเป็นฟิคแก้บนนะ ไม่แก้ล่าง  #ฟิคอุบัติเหตุ @Aprilnov0408

     

     


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×