ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic EXO] -Accidental of love-

    ลำดับตอนที่ #11 : Accidental of love ♡ Chapter ‏10 บุคคลผู้มาใหม่

    • อัปเดตล่าสุด 24 มี.ค. 57


    Rasp Free Theme dek-d By i'nutberry


                                      



                           





                                                       -ตอนที่10-





















    ..ผมอยากเจอพี่ทุกวันได้รึเปล่า.. …

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    "ก็เห็นเซฮุนไปหาพี่ลู่หานทุกวัน ยังไม่ได้สารภาพอีกเหรอ?"

     

     

     คยองซูสะกิดถามจงอิน  คนถูกถามหันไปกระตุกยิ้มใส่เพื่อนสนิทตัวขาวที่นั่งตาลอยอยู่ด้านข้าง ปากหยักเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงติดจะเหยียดเล็กน้อย

     

     

    "ไอ้นี่มันป้อด ไปหาเค้าทุกวัน ไปนั่งจ้องหน้าเค้าก็พอใจ เป็นไงล่ะ โดนใครที่ไหนไม่รู้มาคาบไปแล้ว” 

     

     

    เซฮุนหันมองเพื่อนสนิทช้าๆพร้อมทำท่าจะเบะปากร้องไห้อีกรอบ

     

     

    "ถ้าอยากรู้ก็ต้องถามนะ!"  แพคฮยอนก็โพล่งขึ้นมากลางวงสนทนา  ขาเล็กก้าวไปยืนตรงหน้าคนตัวขาว มือเรียวยื่นไปจับมือของเซฮุนมากุมเอาไว้แน่น

     

     

    "ต้องไปคุยกับพี่ลู่ของเซฮุนให้รู้เรื่อง และถ้ามันไม่มีอะไรจริงๆ หลังจากนี้ ถ้าเซฮุนพยายามล่ะก็มันต้องสำเร็จแน่นอน!"   แพคฮยอนบอกด้วยสายตามุ่งมั่นในขณะที่เซฮุนพยักหน้ารับหงึกหงัก  ริมฝีปากบางคลี่ยิ้มออกมา ดวงตาเป็นระกายอย่างมีความหวัง

     

     

    "มั่นใจจังนะไอ้เตี้ย เป็นกูรูความรักหรือไง"  

     

     

     จงอินแขวะด้วยน้ำเสียงไม่ชอบใจซึ่งถือว่าเป็นเรื่องปกติ แพคฮยอนหันมองและจิ๊ปากเบาๆอย่างลืมตัว หากเป็นเมื่อก่อนคนตัวเล็กคงทำแค่สงบปากสงบคำ  แต่เหมือนช่องว่างเหล่านั้นจะแคบลงและทำให้แพคฮยอนกล้าคุยกับจงอินมากขึ้น  ถึงแม้บทสนทนาจะเป็นแค่การโต้เถียงก็ตาม  แต่พอสายตาคมตวัดมองอย่างเอาเรื่องก็ได้แต่หลบตาลงแบบเดิมเท่านั้น

     

     

    "ก็เป็นความคิดที่ดีนะ"  ชานยอลเอ่ยขึ้น  ตากลมโตจับจ้องที่ใบหน้าขาวจนแพคฮยอนรู้สึกแปลกๆ  พอทำใจดีสู้เสือเข้าสบตากับคนตัวสูงทั้งที่รู้สึกว่าร่างกายมันสั่น  ทั้งที่หัวใจของเขามันเต้นแรงจนยากจะควบคุม แต่สิ่งที่ได้พบก็คือความว่างเปล่าจากแววตาคู่นั้น

     

     

    ไม่เห็นแม้แต่เงาสะท้อนของตัวเอง

     

     

     "ความคิดของหมอนี่นะ"  จงอินชี้จนนิ้วเกือบทิ่มตาแพคฮยอน ดีที่ว่าคนตัวเล็กเอียงศีรษะหลบได้ทันทั้งที่ยังยืนกุมมือของเซฮุนอยู่อย่างนั้น 

     

     

    เซฮุนในตอนนี้สิ่งที่ต้องการมากที่สุดก็คือกำลังใจไม่ใช่เหรอ แล้วดูไอ้พวกเพื่อนซี้เหล่านี้สิ มัวแต่เถียงกันไปมาอยู่ได้ !

     

     

    "ก็ถ้ายังไม่มีความคิดอะไรที่มันเข้าท่ากว่านี้ จะปล่อยให้เซฮุนมันช้ำใจจนตายไปเลยก็ได้"  คนตัวสูงพูดจบมือหนาก็คว้าหมับเข้าที่ข้อมือของแพคฮยอน  ชานยอลออกแรงดึงจนคนตัวเล็กต้องปล่อยมือเซฮุน  กึ่งลากกึ่งจูงไม่พูดไม่จาจนแพคฮยอนต้องร้องถามขึ้น

     

     

     "ปะ..ไป ไหน?"  เพราะยังไม่ทันตั้งตัวแต่ก็ยอมสาวเท้าตามโดยดี   ตาสวยคมตวัดมองแพคฮยอนครู่นึงก่อนเหลือบมองเซฮุนที่กำลังลุกตามมาพร้อมทั้งจงอินและคยองซู

     

     

    "ไปจัดการเรื่องหมอนั่นไง"

     

     

    ..เดี๋ยวสิ  นี่มันเรื่องของเซฮุนนะ...แล้ว  แล้ว  ..ให้ฉันไปด้วยได้งั้นเหรอ?

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     Accidental of love

     

     

     

    "แล้วทำไมพวกเราต้องมาเล่นซ่อนแอบด้วยวะ"  จงอินบ่นอุบ  พอมาถึงที่เซฮุนกลับลากพวกเขาทั้งหมดมาซุ่มอยู่แถวพุ่มไม้บริเวณด้านข้างร้าน  ทำลับๆล่อๆเหมือนพวกเมียหลวงมาจับผิดกิ๊กสามียังไงยังงั้น

     

     

    "นั่นสิทำไมเราไม่เข้าไปรอด้านในล่ะ นี่ก็นานแล้วนะ"  คยองซูเอ่ยเสริมพลางทุบขาที่เริ่มเป็นตะคริวเพราะนั่งท่าเดิมมาค่อนข้างนาน 

     

     

    "โอ๊ะ!"   เผลอร้องออกมาทันทีที่กำปั้นเล็กสัมผัสกับข้อเท้า ความชาหนึบระคนปวดแล่นริ้วไปทั่วข้อเท้า ถึงจะไม่ได้มากมายแต่ก็จุดความน่ารำคาญให้เจ้าตัวไม่น้อย

     

     

    "นั่งลงไปกับพื้นแล้วเหยียดขาออกมา"  

     

     

    จงอินที่มองอยู่ตลอดบอกแกมสั่ง คยองซูได้แต่มองกลับอย่างงงๆแต่ก็ยอมทำตามอย่างว่าง่าย  มือหนาค่อยๆเคลื่อนไปวางบนข้อเท้าของคยองซูและออกแรงบีบเบาๆ  คนตาโตได้แต่มองการกระทำนั้นเงียบๆ และทั้งหมดนั้นก็ไม่ได้รอดพ้นไปจากสายตาของแพคฮยอนเช่นกัน

     

     

    "นี่พวกนายไม่รู้ตัวกันจริงๆหรือว่าแกล้งไม่รู้เนี่ย"  

     

     

    แพคฮยอนเผลอบ่นออกมาอย่างลืมตัว  พูดจบก็ได้แต่ส่งยิ้มแหยๆให้ทั้งสองที่หันขวับมาแทบพร้อมกัน  คยองซูน่ะไม่เท่าไหร่เพราะใบหน้าน่ารักนั่นมีเพียงเครื่องหมายคำถาม  แต่สำหรับจงอินหากฉีกทึ้งเขาเป็นชิ้นๆได้คงไม่รอช้า

     

     

    คยองซูยิ้มให้แพคฮยอนก่อนเบนสายตาไปหาคนผิวเข้ม  สบตาเพียงครู่จึงค่อยๆขยับขาตัวเองออก  จงอิทำหน้าไม่ถูกและรู้สึกว่ามือไม้มันเกะกะเหลือเกินในยามนี้  มือหนายกขึ้นเสยผมตัวเองด้วยความหงุดหงิดใจ  เขาไม่อยากจนมุมแบบนี้  และไม่มีทางที่ใครจะได้รู้สิ่งที่พยายามซ่อนไว้มานาน  โดยเฉพาะคนสำคัญเพียงหนึ่งเดียวของหัวใจ

     

     

    ปากเสียอีกแล้วเรา แต่มันก็จริงนิ ไอ้อาการเป็นห่วงเป็นใยแบบนี้น่ะมัน..” แพคฮยอนพึมพัมหน้ามุ่ย ความจริงไอ้เรื่องที่เขาพูดก็ไม่ผิดนะ ออกจะชัดเจนขนาดนี้ เด็กห้าขวบยังรู้เลยมั้ง

     

     

    "ใครบอกว่าไม่รู้กันล่ะ"  เซฮุนพูดขึ้นด้วยอารมณ์เซ็งๆ  แพคฮยอนตาโตอ้าปากจะถามต่อตามประสาคนอยากรู้  ลืมไปเสียสนิทว่าตอนนี้กำลังสนทนาอยู่กับคนที่ไม่ชอบขี้หน้าเขาเอามากๆซะด้วย

     

     

    นั่น ใช่มั้ยแฟนนาย"  

     

     

    ยังไม่ทันที่แพคฮยอนจะได้ถามต่อ  คนที่เอาแต่เงียบมาตลอดก็เอ่ยขึ้นขัดจังหวะเสียก่อน  ทุกสายตาเบนความสนใจไปหาสิ่งที่พวกเขากำลังรอคอยทันที

     

     

     "อือ"   เซฮุนเอ่ยเสียงแผ่วจนเกือบปลิวหายไปตามสายลม เมื่อเห็นใบหน้าหวานของคนที่ตัวเองเฝ้าคิดถึงอยู่ตลอดเวลา  ร่างบางเดินเคียงคู่มากับใครอีกคน  คนที่ทำให้เขาแทบบ้าคลั่งเมื่อเช้า  คนรักของพี่ลู่หาน...

     

     

    แพคฮยอนไล่สายตาตามคนทั้งคู่ด้วยความสนใจ  เพียงแค่แว่บแรกก็รู้ทันทีว่าคนไหนคือเจ้าของหัวใจของเซฮุน

     

     

    "สวยจัง"  แพคฮยอนพึมพัมเบาๆเมื่อได้เห็นใบหน้าของคนที่ทำเซฮุนแทบเป็นบ้าเป็นบอชัดๆ  แบบนี้สินะเจ้าชายหน้ามึนถึงได้กลายเป็นเจ้าชายสติหลุด

     

     

    "หมอนั่น.." เสียงทุ้มคุ้นหูเอ่ยออกมาเบายิ่งกว่ากระซิบ   แต่ไม่เป็นปัญหากับคนที่นั่งใกล้ๆเช่นแพคยอน  คิ้วบางขมวดหากันเล็กน้อย  คนตัวเล็กมองหน้าชานยอลสลับกับคนที่เพิ่งเดินเข้าไปในร้าน  แพคฮยอนมั่นใจว่าคนที่ชานยอลพึมพำถึงเมื่อครู่ไม่ได้หมายถึงลู่หานแต่น่าจะหมายถึงใครอีกคนที่มาพร้อมกัน

     

     

    "รู้จักเหรอ"  ไม่รู้ไปเอาความกล้ามาจากไหนจึงกล้าถามคนตรงหน้าออกไปแบบนั้น  ชานยอลไม่ได้ตอบคำถามแต่กลับลุกขึ้นทำท่าจะเดินออกไปส่งผลให้แพคฮยอนลุกตามทันที

     

     

    "เดี๋ยวซิ นายจะไปไหน ยังไม่ได้จัดการเรื่องเซฮุนเลย"   มือบางเผลอรั้งชายเสื้อของคนตัวสูงอย่างลืมตัว ชานยอลไล่สายตาตามมือเล็กไปเรื่อยๆจนหยุดนิ่งที่ใบหน้าใส แววตาที่เรียบเฉยสบเข้ากับดวงตาเรียวสั่นของแพคฮยอนนิ่ง  มันยังคงนิ่ง เงียบ และอ้างว้าง.. 

     

     

    ดวงตากลมที่ยังฉายแววสงบนิ่ง คาดเดาไม่ได้ ไม่มีอะไร และไม่ได้จะบอกอะไร

     

     

    ไม่เข้าใจเลย... ไม่เข้าใจ  ให้ฉันเข้าใจมันบ้างได้ไหม..ชานยอล

     

     

    "ไปตอนนี้ก็ไม่ทันละ"  

     

     

    เสียงจงอินดึงความคิดที่กำลังเตลิดของแพคฮยอนให้คืนกลับมาอีกครั้ง  พอหันกลับไปก็เห็นว่าทุกคนต่างลุกยืนตามเขาและชานยอลกันหมดแล้ว  ริมกระจกใสอีกด้านปรากฎร่างของใครซักคน  มือเรียวโบกไปมากลางอากาศอย่างร่าเริงและส่งยิ้มสดใสมาให

     

     

    "เมื่อเช้าไม่เห็นมา นึกว่าไม่สบายซะอีก เป็นห่วงแทบแย่"  ทันทีที่ทั้งหมดนั่งลงที่โต๊ะภายในร้าน ลู่หานก็เอ่ยทักเซฮุนพร้อมยิงคำถามอย่างรวดเร็ว รอยยิ้มสดใสประดับใบหน้าแฝงไปด้วยอาการงอนเล็กๆด้วยจริตแบบน่ารัก

     

     

    "ผมตื่นสาย ก็เลยไปโรงเรียนเลยไม่ได้แวะมา"   เซฮุนเลือกโกหกคำโต เขาในตอนนี้ไม่อยากแม้แต่จะมองหน้าของลู่หาน ไม่ใช่ว่าโกรธหรืออะไร แต่เพราะไม่อยากเห็นใครอีกคนที่นั่งข้างกัน 

     

     

    "ไม่คิดจะแนะนำเพื่อน ให้รู้จักหน่อยเหรอไง"  ลู่หานเอื้อมมือตีไปที่แขนเซฮุนเบาๆ  ปากบางเชิดขึ้นเล็กๆอย่างน่ารัก  รู้ทั้งรู้ว่าคนเป็นพี่แกล้งงอน แต่แค่นั้นก็เล่นเอาเซฮุนใจอ่อนยวบ

     

     

    "แนะนำอะไรล่ะ พวกนี้พี่ก็รู้จักหมดแล้ว มาด้วยกันบ่อยๆ"   เซฮุนเว้นระยะไปเพียงเล็กน้อยก่อนจะพูดต่อ  "พี่ต่างหากที่ควรแนะนำ"  ประโยคหลังจงใจมองคนนั่งขนาบข้างร่างบอบบาง  แววตาที่ดูเลื่อนลอยยามปกติในตอนนี้กลับสงบนิ่ง  ไม่มีแม้แต่ความขี้เล่นแบบที่ลู่หานเคยเห็นเป็นประจำ  ..ก็แค่กับลู่หาน

     

     

    คนหน้าหวานหันมองอีกคนข้างกายก่อนยิ้มน้อยๆ  นิ้วชี้ถูกยกขึ้นผ่านหน้าเซฮุนไปหยุดค้างกลางอากาศ  ปลายนิ้วจรดเบื้องหน้าคนที่นั่งเกือบริมสุดของโต๊ะตัวยาว

     

     

    "คนนี้ไม่รู้จัก"  ลู่หานเอียงคอกลับมาหาเซฮุนอย่างรอคำตอบ  ใบหน้าสวยยังคงยิ้มแย้มในขณะที่คนถูกชี้ทำหน้าไม่ถูก เขาหันมองหน้าคนตัวสูงที่นั่งข้างกันเพื่อขอความช่วยเหลือ  แต่คนตัวสูงกลับไม่ได้สนใจการสนทนาบนโต๊ะเลยซักนิด  ตาคมคู่สวยมองผ่านกระจกใสออกไปด้านนอกอย่างไร้จุดหมาย

     

     

    ผ.. ผะ..ผม ชื่อแพคฮยอน พยอน แพคฮยอนครับ เพิ่งย้ายเข้ามาเรียนที่โรงเรียนเดียวกับทุกคน ..เอ่อ เป็นเพื่อน.....ร่วมห้อง”   แพคฮยอนเป็นฝ่ายหันไปตอบเสียเอง ไม่รู้ว่าตัวเองมีสิทธิ์ใช้คำว่าเพื่อนกับใครได้หรือเปล่าจึงเลือกพูดไปแบบนั้น 

     

     

    แพคฮยอนเหรอ”  

     

     

    คนที่นั่งเงียบอยู่ข้างๆลู่หานเอ่ยขึ้น  แก้วตาใสเหมือนลูกกวางเหลือบมองคนที่นั่งข้างตัวด้วยความสงสัย  เมื่อเห็นว่าคนข้างกายเอาแต่จ้องรุ่นน้องตัวเล็กที่เพิ่งแนะนำตัวก็ได้แต่ส่ายหน้ายิ้มๆ ก่อนหันกลับมายิ้มร่าเริงให้ทุกคนเช่นเดิม

     

     

    ส่วนคนนี้น่ะ …เป็นเพื่อนของพี่เองเพิ่งกลับมาจากต่างประเทศ..ชื่อ...

     

     

    “ ฉันชื่ออี้ชิง จางอี้ชิง    ยินดีที่ได้รู้จักนะแพคฮยอน”

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    TBC…

     

    เมเม : เพราะมันเป็นฟิคใส๊ใสไร้มลพิษษษษ มันเลยค่อนข้างเรื่อยๆเอื่อยๆ ความพีคไม่มี แต่ก็อยากได้คอมเม้นท์นะ ฮุฮุ  กดโหวตให้คะแนนกันซักนิ้ดดด เม้นท์กันซักหน่อยไหมเธออออ  #ฟิคอุบัติเหตุ @Aprilnov0408

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×