คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #23 : บทสรุปของความรัก
9 เดือนต่อมา..
Washington State, America
M&Bc Software
จีน่านั่งอ่านเอกสารการประชุมอยู่ในห้องผู้จัดการเพื่อเตรียมตัวจะเช้าประชุมในอีกหนึ่งชั่วโมงข้างหน้านี้ อย่าทำหน้าแปลกใจแบบนั้น ทุกคนไม่ได้อ่านผิดไปหรอก ที่นี่รัฐวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา ตอนนี้จีน่าได้ย้ายมาเป็นผู้จัดการในบริษัทแม่ของ M&Bc Software แล้ว เธอตัดสินใจย้ายออกมาจากสภาพแวดล้อมเดิมๆมาใช้ชีวิตใหม่เพื่อหาประสบการณ์ชีวิต
และเพื่่อถอยออกมาจากอะไรบางอย่าง..
จีน่าพลิกแฟ้มเอกสารไปมาเพื่อดูรายละเอียดต่างๆ มือเรียวของผู้จัดการคนสวยคว้าแก้วกาแฟบนโต๊ะขึ้นมาจิบ บางทีก็เหงาๆเหมือนกันนะ.. ไม่มีคุณณิชญาวีร์ผู้อำนวยการฝ่ายที่ว่างงานที่สุดในสามโลกมาป่วนให้เธอปวดหัวเล่นๆ และบอสที่นี่ก็ไม่ได้ใจดีเหมือนบอสมะปรางของเธอเลยสักนิด
แถม.. ที่นี่ไม่มีโปรแกรมเมอร์ที่เธอรักด้วย..
เฮ้ออออ
จีน่าถอนหายใจยาวๆหลังจากปิดแฟ้มเอกสารลงแล้วเอนตัวพิงพนักเก้าอี้ ผู้จัดการสาวหมุนเก้าอี้ออกจากโต๊ะแล้วมองออกไปที่นอกหน้าต่าง ชั้นยี่สิบเจ็ดของบริษัทแม่มันสูงระฟ้าซะจนทำให้เธอรู้สึกราวกับว่าสุดขอบฟ้าที่เธอมองเห็นอยู่ไกลโพ้นนั่นคือประเทศไทย
และ.. มันทำให้เธอคิดถึงเรื่องคืนนั้นอีกครั้ง
ย้อนกลับไปเมื่อเก้าเดือนก่อน
หลังจากที่จีน่าขับรถออกจากคอนโดของกวางและเจสซี่แล้ว ผู้จัดการสาวก็โทรเรียกให้เพื่อนรักทั้งสองคนมาหาทันที และตอนนี้เธอก็กำลังนั่งอยู่ที่ห้องรับแขกเพื่อรอการมาของเพื่อนทั้งสองคน..
ปัง!!!
"จีน่า!! เรียกพวกฉันมามีอะไรหรือเปล่า!?"
จีผลักประตูเข้ามาในห้องอย่างแรงแล้วถลาเข้าหาจีน่าที่นั่งซึมอยู่ตรงโซฟา มะปรางค่อยๆปิดประตูแล้วก้าวเท้าเร็วๆมาหาจีน่าอีกคน จีน่าก้มมองจีที่นั่งอยู่ตรงพื้นด้านล่างโซฟาของเธอแล้วเงยหน้ามองมะปรางที่ยืนอยู่ข้างๆจี
ทันทีที่เห็นสายตาเป็นห่วงของเพื่อนทั้งสองส่งมาให้เธอ..
ผู้จัดการสาวก็กลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่..
"พวกแก.."
จีน่าโผเข้ากอดจีที่นั่งคุกเข่าอยู่ด้านล่างโซฟาทันทีแล้วเริ่มร้องไห้อย่างหนัก น้ำตาของจีน่าไหลลงมาอาบใบหน้าสวยราวกับเขื่อนแตก เสียงสะอื้นดังเป็นระยะๆนั่นทำให้เพื่อนทั้งสองยิ่งเป็นห่วงมากขึ้น
"จีน่า!! เป็นอะไรวะ! ใครทำอะไรแก!" จีพูดด้วยน้ำเสียงร้อนรนแล้วกอดจีน่าแน่น
"ฉ.. ฉัน.." จีน่าสะอื้นไม่หยุดจนเริ่มพูดไม่รู้เรื่อง
"ฉันอะไร! พูดสิ! บอกฉันมาเดี๋ยวนี้นะจีน่า!!" จีเขย่าตัวจีน่าเบาๆเป็นการคาดคั้นคำตอบ
"พูดบ้าอะไรล่ะวะ! แหกตาดูบ้างสิมันร้องไห้อยู่เนี่ยเห็นไหม" มะปรางดุจีซะจนสาวมาดกวนต้องเลิกเขย่าตัวจีน่าทันที มะปรางค่อยๆดึงตัวจีน่ามากอดปลอบแทน
"ก็ฉันเป็นห่วงอ้ะ! ตั้งแต่มันอกหักครั้งสุดท้ายฉันก็ไม่เคยเห็นมันร้องไห้หนักขนาดนี้เลยนะเว้ย!" จีพูดแล้วชะงักไปเล็กน้อยเหมือนนึกอะไรได้ "หรือว่า.."
"แกอกหักเหรอวะจีน่า?" มะปรางเอ่ยถามจีน่าที่กอดตัวเองร้องไห้อยู่
"อ.. อือ" จีน่ารับคำในลำคอแล้วพนักหน้าเสริมเป็นคำตอบ
"อกหัก? อ๋อ จากกวางใช่ไหม! เมื่อกี้เลยใช่ไหม!! ได้!! เดี๋ยวได้เห็นดีกันแน่" จีพูดพลางผุดตัวลุกขึ้นทำท่าจะเดินออกนอกห้อง แต่..
โป๊ก!!!
"จะไปไหน? ทำเป็นกร่างจะไปหาเรื่องเขา รู้หรือไงว่าเขาอยู่ที่ไหน" มะปรางแจกมะเหงกให้จีไปหนึ่งลูกใหญ่เอาซะจนจีต้องกลับมานั่งเป็นหมาหงอยอยู่ที่เดิม
"ไม่รู้อ่ะ.." จีพูดแล้วลูบหัวตัวเองป้อยๆ
"แทนที่จะไปหาเรื่องคุณกวาง มาดูเพื่อนตัวเองก่อนดีกว่าไหม ท่าจะหนักนะคราวนี้" พูดจบมะปรางก็หันมาพูดกับจีน่า "อย่าไปสนใจจีมันเลย เป็นธรรมดาที่มันจะปัญญาอ่อน บอกฉันดีกว่าว่ามันเกิดอะไรขึ้น"
"ม.. ไม่มีอะไร ก็แค่.. แฟนเขากลับมาแค่นั้นเอง" จีน่าพยายามกลั้นสะอื้นแต่ก็มีหลุดออกมาเป็นระยะๆ
"เดี๋ยว ไหนตอนนั้นแกบอกว่าคุณกวางเป็นแฟนแกไง" จีแย้งขึ้น
"มันใช่เวลามาถามเรื่องนี้ไหมล่ะ" มะปรางดุจี "แล้วยังไง? แล้วเขากลับไปหาแฟนเขาเหรอ?"
"พอฉันเห็นแฟนเขากลับมา ฉันเลยหนีออกมาก่อน.." จีน่าพูดต่อโดยไม่สนใจที่จะตอบคำถามของมะปราง
"............"
"เขาก็แค่วิ่งตามฉันออกมา" จีน่าเว้นจังหวะสะอื้นเล็กน้อยแล้วพูดต่อ "ฉันลงลิฟท์.. ส่วนเขาวิ่งลงบันได จากชั้นแปดอ่ะนะ"
"โอ้.." จีอุทานออกมาเบาๆ
"ไม่น้อยเลยนะนั่น" มะปรางเสริมต่อ
"แล้วเขาก็ถามฉันว่า.. ฉันรักเขาไหม?" จีน่าพูดต่อ
"............"
"แล้วรู้ไหมว่าฉันตอบเขาว่าอะไร?" จีน่าถาม
"แกตอบเขาว่า..?" จีถามกลับ
"ไม่ ฉันไม่เคยรัก"
"โอ๊ยยยย!! จีน่า!! ขอด่าหน่อยเถอะ อีโง่!!! ถ้าแกบอกรักเขาแกก็คงไม่มานั่งจมกองน้ำตาแบบนี้หรอก คือต่อให้เอาเด็กประถมมาดูก็รู้โว้ย! ไม่มีคนปกติที่ไหนเขาจะลงทุนวิ่งลงบันไดจากชั้นแปดเพื่อมาตามคนที่เขาไม่ได้รักหรอกนะ!" จีพูดอย่างหัวเสีย
"แล้วเป็นแกแกจะพูดไหมล่ะ!! แฟนเขายืนอยู่ข้างหลังอ่ะ!! แฟนคนที่เขามาก่อนฉัน!! แฟนคนที่เขารักมาก!! ทั้งรัก ทั้งผูกพันกันมานาน ต่อให้แกรักเขามากแค่ไหนแกจะหน้าด้านบอกรักเขาต่อหน้าแฟนเขาไหมล่ะ!!!" จีน่าตะคอกกลับทั้งน้ำตา
"............" จีเงียบไปทันทีเมื่อได้ยินจีน่าพูดแบบนั้น
"แกไม่เป็นฉันแกไม่รู้หรอก.. มันไม่สำคัญเลยด้วยซ้ำว่าวรรณปิยะเขาจะรักฉันบ้างหรือเปล่า เออ ฉันโทษเขาไม่ได้หรอก มันคงจะจริงอย่างที่แกพูดว่าถ้าฉันบอกรักเขา ฉันอาจจะไม่ต้องมานั่งร้องไห้กับพวกแกแบบนี้ก็ได้" จีน่ายกมือขึ้นปาดน้ำตาตัวเอง
"แล้วทำไมแกถึงไม่บอกไปล่ะ?" มะปรางถาม
"นั่นสิ.. ทำไมนะ" จีน่าพูดแล้วแค่นยิ้มเล็กๆ "ทำไมฉันถึงรู้สึกว่าที่ข้างๆเขา มันไม่ใช่ที่ของฉัน.."
"............"
"ทั้งๆที่ฉันก็รักเขาไม่ได้น้อยไปกว่าใครแท้ๆ.."
พูดจบน้ำตาของจีน่าก็ไหลลงมาอีกระลอก แต่คราวนี้ไม่มีเสียงสะอื้น.. จีน่านั่งก้มหน้าปล่อยน้ำตาให้ไหลอยู่แบบนั้นจนจีที่ตอนแรกอยากจะด่าจีน่าให้สำนึกต้องค่อยๆคว้าตัวเข้ามากอดจีน่าไว้แล้วดันศีรษะของจีน่าให้ซบไหล่ของเธอ มือเรียวของจียกขึ้นลูบผมจีน่าเบาๆ
"แล้วแกจะทำยังไง? ยังต้องทำงานอยู่ด้วยกันอีกไม่ใช่เหรอ?" จีถาม
"นั่นแหละ.. ฉันจะทำยังไง ถ้าฉันเห็นหน้าเขาอีกครั้งฉันก็ไม่แน่ใจด้วยซ้ำว่าตัวเองจะห้ามน้ำตาได้หรือเปล่า" จีน่าพูดแล้วซบใบหน้าลงที่ไหล่ของจีอย่างอ่อนล้า
"ย้ายไหม? มาอยู่กับฉันไหม? ฉันจะทำเรื่องขอย้ายแกให้มาอยู่ฝ่ายเดียวกับฉัน" จีถามอย่างใจเย็น
"ได้ที่ไหนล่ะ ฉันไม่ได้เรียนการตลาดมา ทำงานกับแกไม่รู้เรื่องหรอก" จีน่าตอบ
"แล้วแกจะทำยังไง" จีถามอีกครั้ง
"ก็ลองดูก่อน.. ถ้ามันยากนักก็ลาออกล่ะมั้ง" จีน่าตอบยิ้มๆ
"เฮ้ย!! ไม่ได้นะ!! แกจะลาออกจากงานเพราะแค่คนๆเดียวนี่นะ!? ไม่ได้อ่ะ ฉันไม่ยอม มะปราง แกไล่คุณกวางออกเลยไป จีน่ามันจะได้ไม่ต้องมาเจอหน้าคุณกวางทุกวัน" จีหันไปพูดกับมะปราง
"อย่านะ!!" จีน่าสวนขึ้นทันควัน
"เฮ้ออออ! อกหักจากเขาแล้วยังจะมาห่วงเขาอีก ไม่ให้ไล่เขาออกแต่ตัวเองจะลาออกเนี่ยนะ? บ้าบอชะมัด" จีพูด
"............" จีน่าเงียบไป
"งั้น.. จีน่า แกอยากไปอยู่อเมริกาไหม?" มะปรางถามขึ้น
"อเมริกา?" จีกับจีน่าพูดพร้อมกับ
"ใช่ อเมริกา"
ก็นั่นแหละ.. ตอนนี้เธอถึงได้มาอยู่อเมริกาไงล่ะ
หลังจากคืนนั้นที่เธอโทรให้เพื่อนสองเกรียนมาช่วยปลอบ มะปรางก็จัดการทำเรื่องย้ายเธอมาที่บริษัทแม่ในวันถัดไปทันที และเรื่องก็อนุมัติในอีกประมาณอาทิตย์นึงให้หลัง เธอสามารถเข้าทำงานที่บริษัทแม่ได้ทันทีหลังจากได้รับการอนุมัติแล้ว
จริงๆเธอจะดอดมาอยู่ที่อเมริกาก่อนเรื่องจะอนุมัติก็ได้เพราะยังไงมะปรางก็คงจัดการเรื่องทุกอย่างให้เรียบร้อย แต่ติดแค่ว่าไอ้เพื่อนมาดกวนมันงอแงจะเป็นจะตายไม่ยอมให้เธอมาสักทีนี่สิ แถมยังบอกอีกว่าจะย้ายตามมาด้วย อยากจะบ้าตายกับความปัญญาอ่อนของมันจริงๆ คือ.. มันก็เป็นตั้งผู้อำนวยการฝ่ายไง ตำแหน่งใหญ่โตขนาดนั้นมันโยกย้ายกันได้ง่ายๆซะที่ไหนเล่า.. จีน่าต้องนั่งปลอบใจจีอยู่นานเลยแหละกว่านางจะยอมปล่อยจีน่ามา
พอนึกถึงเรื่องนี้ทีไรก็ได้แต่แอบนั่งขำเล็กๆคนเดียวให้กับความติ๊งต๊องปัญญาอ่อนของจีทุกที ไม่อยากจะเชื่อเลยจริงๆนะว่าไอ้เพื่อนเกินๆคนนี้ของเธอจะเป็นผู้บริหารระดับสูงขนาดนั้น อยากรู้จริงๆว่าถ้าลูกค้าได้เห็นท่าทางปัญญาอ่อนของมันจะยังไว้ใจให้บริษัทเราทำงานให้อยู่หรือเปล่า บางทีโปรแกรมเมอร์ของเธอยังดูน่าเชื่อถือกว่าด้วยซ้ำ
อ่า..
คิดถึงเขาอีกแล้ว..
จีน่ายกยิ้มมุมปากให้กับตัวเองเล็กๆเมื่อรู้ตัวว่าเผลอคิดถึงกวางเข้าซะแล้ว แต่ก็ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจเท่าไหร่หรอก ตลอดเก้าเดือนที่ผ่านมาก็ไม่เห็นว่าจะมีวันไหนที่เธอไม่คิดถึงวรรณปิยะ มันอาจจะแปลกที่ถึงแม้ว่าเธอจะไม่ได้คุยกับเขาเลยตั้งแต่คืนนั้น แต่เธอกลับไม่เคยลืมเขาได้เลย
บางทีอาจจะเป็นเพราะว่าเธอทำตัวเธอเองด้วยแหละ
เคยเป็นคนปากจัดยังไงปัจจุบันก็ยังเป็นอยู่ ทุกครั้งที่มีฝรั่งตาน้ำข้าวมาจีบเธอก็จะบอกปฏิเสธอย่างตรงไปตรงมาเหมือนทุกที และไอ้ความปากจัดของเธอนั่นแหละมันเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ตอนอยู่ไทยเธอยังไม่มีแฟนสักที
แต่พอมาอยู่อเมริกา ปัจจัยปากจัดนั้นกลายเป็นปัจจัยรองไปโดยปริยาย
ก็เพราะไอ้รูปที่เธอตั้งไว้บนโต๊ะนี่แหละ
จีน่าหันกลับมาที่โต๊ะทำงานของตัวเองแล้วเอื้อมมือไปหยิบกรอบรูปขนาดเล็กที่วางอยู่ตรงมุมโต๊ะขึ้นมาดู รอยยิ้มเล็กๆผุดขึ้นมาที่มุมปากของจีน่าอีกครั้ง
รูปคู่เธอกับกวางที่ถ่ายตอนไปเที่ยวน้ำตก..
นี่แหละปัจจัยสำคัญที่ทำให้ตอนอยู่อเมริกาเธอยังโสด เพราะการที่เธอเอารูปคู่ของเธอกับกวางมาตั้งไว้บนโต๊ะทำงานแบบนี้มันทำให้ทุกคนคิดเองเออเองว่าเธอไม่ได้โสดและกวางเป็นแฟนของเธอ
แต่.. ปล่อยให้คนเขาคิดกับแบบนั้นไปเถอะ
เพราะตอนนี้เธอก็ยังไม่พร้อมจะมีใครใหม่เหมือนกัน
ตอนนี้เธอมีความสุขดีกับการที่ได้นั่งมองรูปคู่ของเธอกับกวาง.. เป็นความโชคดีที่กวางเลือกที่จะถ่ายรูปคู่กับเธอตอนที่ไปเที่ยวน้ำตก เพราะทุกครั้งที่เธอมองรูปนี้ มันทำให้เธอรู้สึกราวกับว่าได้ย้อนกลับไปในช่วงเวลาที่เธอกับเขาอยู่ด้วยกันที่น้ำตก มันเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุด..
เธอจะไม่กล่าวถึงเรื่องราวต่อจากนั้นนะ
เพราะเธอเลือกที่จะจำแค่ความทรงจำดีๆเกี่ยวกับกวางก็พอแล้ว..
ตั้งแต่เธอมาอยู่อเมริกา เธอตัดสินใจปล่อยให้เรื่องของเธอกับกวางกลายเป็นเพียงแค่อดีต อดีตที่ไม่เชิงว่าฝังใจ แต่เรียกว่าเธอเลือกที่จะเก็บไว้ในใจมากกว่า มันดูเหมือนเป็นการปิดโอกาสตัวเองหรือเปล่าที่ปล่อยให้ตัวเองจมอยู่กับอดีตที่ไม่มีวันเป็นไปได้จนไม่ยอมเปิดใจรับสิ่งใหม่ๆเข้ามา แต่เธอคิดว่าไม่นะ.. ทำแบบนี้ไม่เห็นว่าจะเป็นการปิดโอกาสตัวเองตรงไหน
ก็เธอจะเปิดใจรับสิ่งใหม่ๆได้ยังไง ในเมื่อทั้งใจของเธอยังมีแต่กวาง..
แต่ถึงอย่างนั้นก็เถอะ.. เธอไม่เคยเสียใจที่เธอมีความรักล้นใจให้กับกวาง เธอไม่เคยเสียใจที่ตัวเองคืนกวางให้กับเจสซี่ทั้งๆที่ในตอนนั้นเขาควรจะเป็นคนของเธอ และเธอก็ไม่เคยเสียใจที่ต้องกลายมาเป็นคนที่ทำได้เพียงแค่นั่งคิดถึงเขาจากที่ไกลๆแบบนี้
แต่มีเพียงเรื่องเดียวที่เธอเสียดาย..
จีน่ามองรูปคู่ของเธอกับกวางในมือแล้วค่อยๆยกมืออีกข้างขึ้นมาลูบที่ใบหน้าของตัวเองในรูปเบาๆ ผู้จัดการสาวแอบถอนหายใจแล้วยิ้มขำเล็กๆให้กับตัวเองในรูป ตอนนั้นเธอน่าจะยิ้มดีๆเหมือนที่กวางบอก..
กลายเป็นว่ารูปของเธอกับกวางไม่มีรูปไหนที่เธอสวยเลย
อ่า.. เสียดายจัง
ก๊อกๆๆ!
"ผู้จัดการคะ การประชุมจะเริ่มในอีกครึ่งชั่วโมงนะคะ"
เสียงเคาะประตูเรียกให้เธอเตรียมตัวเข้าประชุมปลุกให้เธอตื่นจากภวังค์ความคิด ผู้จัดการคนสวยวางรูปคู่ของเธอกับกวางลงที่เดิมแล้วกลับมาสนใจเอกสารตรงหน้าอีกครั้ง จีน่าจัดแจงหยิบเอกสารในมือและเอกสารเพิ่มเติมบางอย่างเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการประชุม
"โอเค ฉันจะไปเดี๋ยวนี้แหละ"
Bangkok, Thailand
ณ คอนโดกวางและเจสซี่
"เจสซี่คะ เจสซี่รู้สึกยังไงกับการที่ได้ตำแหน่งเป็นนางร้ายดาวรุ่งพุ่งแรงที่สุดในตอนนี้คะ"
"รู้สึกดีค่ะ เพราะนี่เป็นละครเรื่องแรกที่เจสซี่ได้แสดงเลย เป็นเกียรติมากๆค่ะที่คนดูแล้วก็ผู้ใหญ่ให้ความสนใจและมองเห็นความสามารถในตัวเจสซี่"
"เจสซี่คะ ละครบ่วงร้ายพ่ายรักที่เพิ่งจบไปกระแสตอบรับดีมากๆเลยค่ะ เจสซี่เป็นที่พูดถึงมากเลยนะคะในละครเรื่องนี้"
"อ่า ใช่ค่ะ ต้องขอขอบพระคุณทุกๆคนเป็นอย่างสูงเลยนะคะที่ให้การติดตาม"
"แล้วตอนนี้กำลังจะมีผลงานอะไรออกมาออนแอร์อีกหรือเปล่าคะ?"
"สักประมาณต้นเดือนหน้ารับรองทุกคนได้เห็นเจสซี่อีกแน่นอนค่ะ"
"ชื่อเรื่องอะไรคะ? เกี่ยวกับอะไรคะ? สปอยให้ฟังหน่อยได้ไหมคะ"
"อันนี้ขออุบไว้ก่อนแล้วกันนะคะ"
"พี่กวางคะ ดูอะไรอยู่เหรอคะ?"
เจสซี่ที่เพิ่งอาบน้ำเสร็จเดินมาหากวางที่นั่งอยู่ตรงโซฟาหน้าโทรทัศน์จากทางข้างหลัง กวางที่กำลังนั่งดูข่าวบันเทิงอยู่หันกลับมาตามเสียงเรียกก็พบสาวลูกครึ่งชะโงกหน้าเข้ามาใกล้เธอ
"อ่า.. นั่นข่าวเจสซี่นี่นา เดี๋ยวนี้พี่กวางดูข่าวบันเทิงกับเขาด้วยเหรอคะ?" เจสซี่เดินอ้อมมานั่งลงบนโซฟาข้างๆกวาง
"ดูนานแล้วค่ะ ตั้งแต่แฟนพี่เริ่มดังนี่แหละ" กวางเว้นจังหวะเล็กน้อยก่อนพูดต่อ "ก็ตั้งแต่เจสซี่ดังงานก็เข้ามาเยอะแยะ ไม่ค่อยมีเวลาให้พี่เลย พี่ก็เหงาเป็นเหมือนกันนะคะ"
"ฮ่าๆๆๆ งั้นพี่กวางปิดทีวีไปเลยค่ะ เจสซี่ตัวจริงนั่งอยู่ข้างๆพี่แล้วไงคะ" เจสซี่พูดแล้วจับใบหน้าของกวางให้หันมามองเธอ
"นั่นสิ ตัวจริงสวยกว่าในทีวีเยอะเลยนะคะ"
กวางพูดพลางส่งยิ้มให้เจสซี่ เจสซี่ยิ้มตอบแล้วหอมแก้มกวางไปหนึ่งทีก่อนจะหันตัวกลับมาดูกระดาษหลายปึกที่วางอยู่ตรงหน้าของเธอ กวางชะโงกหน้าไปดูกระดาษในมือเจสซี่แล้วเอ่ยถาม
"นั่นอะไรคะเจสซี่?"
"บทละครค่ะ อันนี้เป็นเรื่องล่าสุดที่พี่ซันให้มาดูก่อนรับเล่นน่ะค่ะ" เจสซี่พูดถึงพี่ซันผู้จัดการส่วนตัวของเธอ
"อ่อ.. แล้วเจสซี่จะรับไหมล่ะคะ?" กวางถาม
"ต้องรับแน่นอนอยู่แล้วค่ะ ช่วงนี้งานไหลมาเทมา เจสซี่ต้องรีบกอบโกยไว้ อิอิ" เจสซี่พูดแล้วหัวเราะเล็กๆ
"งั้นแบบนี้เจสซี่ก็คงจะไม่มีเวลาให้พี่ไปอีกยาวเลยสิ" กวางพูดหงอยๆ
"โธ่.. เหงาเหรอคะพี่กวางของเจสซี่" พูดจบเจสซี่ก็ขยับตัวเบียดเข้าไปใกล้กวางมากขึ้น "แต่คืนนี้เจสซี่มีเวลาให้พี่กวางทั้งคืนเลยนะคะ เพราะพรุ่งนี้เจสซี่ไม่มีงานเช้า"
"เอ.. เวลาที่เจสซี่ให้พี่ทั้งคืนเนี่ย พี่จะเอาไปทำอะไรดีน๊าา" กวางพูดหยอกแล้วโอบเอวเจสซี่ไว้พร้อมกับก้มลงหอมแก้มสาวลูกครึ่ง
"พี่กวางอยากทำอะไรเจสซี่จะตามใจพี่หมดทุกอย่างเลยค่ะ" เจสซี่โน้มตัวไปจุ๊บปากกวางหนึ่งครั้ง "แต่ก่อนอื่น.. พี่กวางตอบคำถามเจสซี่ก่อนได้ไหมคะ?"
"หืม? คำถามอะไรคะ?" กวางเอ่ยถาม
"วิรายา ภัทรโชคชัย คือใครคะ?"
"............"
สิ้นสุดคำถามนั้นของเจสซี่กวางก็นิ่งอึ้งไป มือที่เคยโอบเอวเจสซี่ค่อยๆคลายออกโดยที่เจ้าตัวไม่รู้ตัว เจสซี่ยกยิ้มมุมปากเล็กๆเมื่อเห็นปฏิกิริยาของกวางที่มีต่อชื่อ 'วิรายา ภัทรโชคชัย' สาวลูกครึ่งถอยตัวออกมานั่งที่เดิมแล้วเอื้อมมือไปหยิบซองสีน้ำตาลที่วางอยู่ใต้บทละครของเธอออกมาแล้วชูขึ้นตรงหน้ากวาง
เป็นซองที่มีชื่อ 'วิรายา ภัทรโชคชัย' แปะอยู่ที่หน้าซอง..
"ไม่ต้องห่วงค่ะ เจสซี่ยังไม่ได้เปิดดู" เจสซี่ยื่นซองนั้นคืนให้กวาง
"เจสซี่ไปเจอมันได้ยังไงคะ..?" กวางถามอย่างอึ้งๆแล้วเอื้อมมือไปหยิบซองนั้นมาจากเจสซี่
"ซองนี้เจสซี่เพิ่งเจอเมื่อวันก่อนค่ะ แต่อันนี้.." เจสซี่เว้นจังหวะเล็กน้อยแล้วเอื้อมมือไปหยิบกระดาษที่อยู่ใต้บทละครของเธอออกมา "กระดาษแผ่นนี้ เจสซี่เห็นมาเป็นเดือนแล้วค่ะ"
กวางมองกระดาษที่อยู่ในมือของเจสซี่นิ่ง.. มันเป็นแผนที่ประเทศสหรัฐอเมริกาแบบหยาบๆที่มีรอยกากบาทเมืองไปแล้วประมาณสี่ห้าเมือง เจสซี่กระตุกยิ้มมุมปากเล็กๆอีกครั้งเมื่อเห็นว่าพี่กวางของเธอจ้องแผ่นกระดาษตรงหน้าอย่างไม่วางตา
"บอกเจสซี่ได้ไหมคะว่ามันคืออะไร?" เจสซี่โบกกระดาษตรงหน้าไปมาอย่างต้องการคำตอบ
"ก็.. แผนที่อเมริกาไงคะ" กวางตอบอึกอัก
"พี่กวางคะ เจสซี่ไม่ได้โง่นะคะที่จะได้ไม่รู้ว่ามันคือแผนที่ประเทศอเมริกา" เจสซี่เว้นจังหวะถอนหายใจเล็กๆแล้วพูดต่อ "แต่สิ่งที่เจสซี่อยากรู้คือมันเกี่ยวข้องกับซองนั้นใช่ไหมคะ?"
"............"
"พี่กวางคะ ตอบเจสซี่ค่ะ"
"ใช่ค่ะ มันเกี่ยวกัน" กวางยอมรับ
"เฮ้อออ!" เจสซี่ถอนหายใจเสียงดังแล้วยัดแผนที่ใส่มือกวาง "แล้วที่พี่บอกเจสซี่ว่าไปสัมมนาที่อเมริกาเมื่อสองเดือนก่อน พี่กวางโกหกเจสซี่ใช่ไหมคะ?"
"เจสซี่.. รู้ได้ยังไงคะ?"
"พี่กวางอย่าลืมสิคะว่าเจสซี่เป็นคนทำบัญชีให้พี่ทุกเดือน แล้วตอนช่วงที่พี่บอกเจสซี่ว่าไปสัมนา เงินในบัญชีของพี่กวางหายไปเกือบแสนเลยนะคะ พี่ไปสัมมนางานแค่สองอาทิตย์พี่คงไม่ใช้เงินไปเป็นแสนหรอกค่ะ แล้วมันจะหายไปไหนได้ถ้าไม่ใช่ว่าพี่เอาเงินไปซื้อตั๋วเครื่องบิน" เจสซี่อธิบาย
"..........." กวางเม้มปากเล็กๆแล้วก้มหน้าลงอย่างยอมรับความผิด
"พี่ไปตามหาผู้หญิงที่ชื่อวิรายาใช่ไหมคะ?" เจสซี่ถาม
"ใช่ค่ะ" กวางพยักหน้ายอมรับ
"อ่า.. อยากรู้จังเลยนะคะว่าผู้หญิงคนนั้นเขาเป็นใคร"
"............"
"ไม่รู้ว่าจะใช่คนนี้หรือเปล่านะคะ"
สิ้นประโยคของเจสซี่กวางก็เงยหน้าขึ้นมามองสาวลูกครึ่งอีกครั้ง ภาพที่กวางเห็นคือเจสซี่กำลังเปิดกระเป๋าสตางค์ของเธอและดูรูปคู่ใบแรกของเธอและเจสซี่ที่เธอเก็บไว้ในกระเป๋าสตางค์มาตลอดสี่ปีไม่เคยเปลี่ยนรูปถึงแม้จะมีเปลี่ยนกระเป๋าบ้างก็เถอะ เจสซี่ยิ้มเล็กๆให้กับรูปนั้น นิ้วเรียวของสาวลูกครึ่งค่อยๆหยิบรูปคู่ออกจากกระเป๋าสตางค์ของกวาง
เผยให้เห็นรูปอีกใบที่กวางซ่อนไว้ข้างหลัง
รูปของผู้จัดการ..
"คนนี้ใช่ไหมคะ? วิรายา ภัทรโชคชัย" เจสซี่ยื่นกระเป๋าสตางค์ที่เปิดรูปจีน่าอยู่แบบนั้นคืนให้กวาง
"............"
"พี่กวางคะ พี่จะนั่งเงียบไปถึงไหนคะ?" เจสซี่ถาม
"ก็.. พี่ไม่รู้จะพูดอะไรนี่นา ในเมื่อเจสซี่รู้ทุกอย่างแล้ว" กวางตอบ
"ค่ะ เจสซี่รู้ทุกอย่าง แต่เจสซี่อยากได้ยินจากปากพี่กวางมากกว่า นี่จะเป็นคำถามสุดท้ายจากเจสซี่แล้วนะคะ พี่กวางช่วยตอบเจสซี่ตามจริงได้ไหมคะ?"
"ได้ค่ะ"
"พี่กวาง.. รักคุณผู้จัดการคนนั้นใช่ไหมคะ?"
"............."
กวางเงียบไปเมื่อได้ยินคำถามนั้นของเจสซี่ ริมฝีปากอิ่มของโปรแกรมเมอร์สาวเม้มแน่นอย่างชั่งใจ กวางถอนหายใจยาวแล้วตัดสินใจพูดออกไป..
"ใช่ค่ะ พี่รักผู้จัดการ"
"หึ เจสซี่ก็คิดอยู่แล้วค่ะ" เจสซี่หัวเราะเบาๆในลำคอแล้วเบนหน้าหนีกวาง
"............"
"วันนั้นที่เจสซี่วิ่งตามพี่ลงไป.. เจสซี่ก็เห็นค่ะ พี่กำลังยืนคุยกับคุณผู้จัดการอยู่พอดี เจสซี่ไม่ได้เสียมารยาทแอบฟังนะคะ เพราะคุณผู้จัดการเขาก็รู้ว่าเจสซี่ฟังอยู่" เจสซี่หันกลับมามองหน้ากวางอีกครั้ง "เจสซี่รู้นะคะว่าพี่กวางไม่ได้เชื่อคำที่คุณผู้จัดการเขาบอกว่าไม่รักพี่หรอก แต่เจสซี่ไม่เข้าใจเลยสักนิด ทำไมพี่กวางถึงยอมปล่อยให้คุณผู้จัดการเขาเดินไปง่ายๆแล้วกลับมาคบกับเจสซี่แบบนี้ล่ะคะ?"
"แต่เจสซี่ก็ตกลงคบกับพี่" กวางพูดแทรก
"ก็เพราะว่าเจสซี่คิดว่าสักวันเจสซี่จะได้ใจพี่กลับคืนไงคะ" เจสซี่สวนกลับทันควัน "แต่ยิ่งนานวันเข้าเจสซี่ก็รู้ตัวว่าเจสซี่คิดผิด ตั้งแต่เรากลับมาคบกันใหม่.. เดือนแรกโอเคพี่อาจจะยังกลับมารักเจสซี่ได้ เดือนที่สามพี่เริ่มให้ความสนใจกับเจสซี่น้อยลงก็ไม่เป็นไรค่ะ เดือนที่ห้าพี่กวางเฉยชาแต่เจสซี่ก็ยังมีหวัง แต่พอเริ่มเข้าเดือนที่หก.. เจสซี่ก็รู้ทันทีเลยว่าเจสซี่ไม่มีวันได้ใจพี่กลับมาแล้ว"
"............"
"เจสซี่ไม่เข้าใจพี่กวางเลยค่ะ เพราะอะไรเหรอคะ? ทั้งๆที่พี่น่ะรักคุณผู้จัดการไปตั้งนานแล้ว แต่ทำไมพี่ถึงยังอยู่กับเจสซี่ตรงนี้อีก"
เจสซี่ถามกวางด้วยน้ำเสียงเชิงตำหนิเล็กๆ กวางกำมือแน่นไว้ที่หน้าตัก ก้มหน้าลงแล้วเริ่มเม้มปากอีกครั้ง หากแต่ว่าคราวนี้กวางไม่ได้เม้มปากเพราะชั่งใจ
แต่เม้มเพราะกลั้นน้ำตาต่างหาก..
"พี่ขอโทษค่ะเจสซี่.." กวางพูดเสียงสั่น "เจสซี่พูดถูกทุกอย่าง.. พี่ไม่ได้เชื่อหมดใจหรอกค่ะว่าผู้จัดการเขาไม่ได้รักพี่ แต่ว่า.. แค่พี่ถามเขาแค่นั้นเขายังไม่กล้าตอบพี่เลย แล้วแบบนี้เขาจะกล้ามาใช้ชีวิตร่วมกับพี่เหรอคะ?"
"พี่ไปคาดคั้นเขาแบบนั้น แล้วพี่เคยบอกเขาสักครั้งไหมล่ะคะว่าพี่รักเขา"
"............" ลมหายใจของกวางสะดุดทันทีที่ได้ยินประโยคนั้นของเจสซี่
นั่นสิ.. ตัวเธอเองก็ยังไม่เคยบอกรักจีน่าเลยสักครั้ง
แล้วทำไมเธอถึงกล้าไปคาดคั้นให้จีน่าบอกรักเธอกันนะ?
"พี่ขอโทษ.. แต่พี่เสียเจสซี่ไปไม่ได้จริงๆ" กวางตอบเสียงสั่น "พี่อยู่กับเจสซี่มานาน เจสซี่ไม่ได้เป็นแค่คนรักของพี่ แต่เจสซี่เป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของพี่ หลายปีที่ผ่านมาพี่ใช้เวลาทั้งหมดไปกับงานแล้วก็เจสซี่ พี่อยู่กับเจสซี่มานานมาก.. มากซะจนพี่ลืมไปแล้วว่าอยู่คนเดียวมันอยู่ยังไง"
กวางพูดทั้งน้ำตาที่ไหลออกมาเรื่อยๆ พอเจสซี่เห็นว่ากวางเริ่มร้องไห้ สาวลูกครึ่งก็ค่อยๆขยับตัวเข้าไปใกล้แล้วดึงกวางเข้ามากอด ไม่บ่อยหรอกนะที่กวางจะร้องไห้กับเจสซี่แบบนี้..
"พี่กวางจะไม่มีทางเสียเจสซี่ไปค่ะ" เจสซี่ลูบผมกวางเบาๆ "แต่.. เจสซี่แค่ถอยออกมาอยู่ในฐานะน้องสาวเท่านั้นเอง"
"แล้วแบบนี้เจสซี่โอเคเหรอคะ?" กวางถาม
"มันก็คงจะโอเคกว่ารั้งพี่กวางให้อยู่กับเจสซี่แหละค่ะ" เจสซี่เว้นจังหวะเล็กน้อย "ตลอดเก้าเดือนที่ผ่านมา.. เจสซี่ว่ามันถึงเวลาแล้วค่ะที่เจสซี่ควรจะปล่อยพี่กวางไปสักที"
"............"
"พี่กวางคะ เราเลิกกันนะคะ"
จบประโยคนั้นของเจสซี่กวางก็กอดเจสซี่แน่น ใบหน้าสวยของคนอายุมากกว่าซบลงตรงไหล่ของสาวลูกครึ่ง กวางซุกใบหน้าเข้าหาเจสซี่เหมือนเด็กเล็กๆแล้วพูดออกมาเสียงอู้อี้
"ขอบคุณนะคะเจสซี่"
"พี่กวางอย่ากังวลเลยค่ะ พี่ไม่ต้องย้ายไปไหนเหมือนตอนที่เจสซี่ขอห่างกับพี่กวาง พี่อยู่ที่นี่กับเจสซี่ ส่วนเรื่องคุณผู้จัดการ.. ถ้าวิธีต่างๆที่พี่ทำมามันไม่เวิร์ค เจสซี่จะช่วยพี่คิดนะคะว่าจะเอายังไงต่อไปดี"
"ขอบคุณมากๆนะคะเจสซี่ ขอบคุณมากจริงๆ"
กวางพูดขอบคุณเจสซี่ซ้ำไปซ้ำมาแล้วกอดเจสซี่ไว้แน่น สาวลูกครึ่งเห็นแบบนั้นก็ถอนหายใจเบาๆพร้อมกับยกยิ้มเล็กๆให้กับท่าทางแบบนั้นของกวาง เจสซี่ซบใบหน้าลงที่เรือนผมสีน้ำตาลเข้มของกวางแล้วค่อยๆหลับตาลง
บางที.. การเป็นน้องมันก็ไม่ได้แย่สักเท่าไหร่แฮะ
ครึ่งเดือนผ่านไป..
17.30
M&Bc Software
"เฮ้อออออ!!!"
กวางถอนหายใจยาวๆแล้วทิ้งตัวลงบนเก้าอี้ทำงานของเธออย่างเหนื่อยใจ และนี่ก็เป็นอีกวันที่เธอไม่สามารถรู้ได้เลยว่าตอนนี้จีน่าอยู่ที่ไหน รู้แค่ว่าจีน่าย้ายไปอยู่อเมริกา จะให้เธอจ้างนักสืบค่าสืบนอกประเทศก็แพง จะบินไปหาเองเหมือนคราวที่แล้วก็เหมือนงมเข็มในมหาสมุทร ส่วนจะถามเพื่อนๆในแผนกทุกคนก็รู้เท่าๆกับเธอนั่นแหละว่าตอนนี้ผู้จัดการย้ายไปอยู่อเมริกา
นอกซะจากว่าจะอาจหาญไปถามจีกับมะปรางอ่ะนะ..
"ยังไม่กลับบ้านอีกหรือไง?"
น้ำเสียงราบเรียบดังมาจากทางด้านหลังของกวาง โปรแกรมเมอร์สาวสะดุ้งเล็กๆแล้วหันกลับไปมองก็เห็นคุณจีที่ตอนนี้อยู่ในมาดผู้อำนวยการฝ่ายยืนส่งสายตาเย็นๆมาหาเธอ
นี่เป็นครั้งแรกที่เธอได้คุยกับจีนับตั้งแต่วันสุดท้ายที่เธอคุยกับจีน่า..
"มัวแต่นั่งทำอะไรอยู่ เดี๋ยวนี้คุณไม่มีจีน่าให้รอกลับบ้านพร้อมกันแล้วไม่ใช่เหรอ?" จีพูดพลางเดินเข้ามาหากวางที่นั่งอยู่ตรงโต๊ะ
"คุณจี.." กวางกลืนน้ำลายอึกใหญ่
บางทีคุณจีเวอร์ชั่นนิ่งๆนี่ก็น่ากลัวเหมือนกันแฮะ..
"เป็นไงอ่ะเมื่อกี้? เข้มดีป้ะ? โหดใช่มะๆ เหมือนจีน่าหรือยังอ่ะ? โหยยย เก๊กปากเสียพูดจาแดกดันคนอื่นนี่มันยากชะมัด ไม่รู้ว่าจีน่ามันทำได้ยังไงนะเนี่ย"
แต่พอจีเดินมาถึงตรงหน้าของกวางก็หลุดเก๊กแล้วกลับสู่โหมดติ๊งต๊องเหมือนเดิมทันที ทำเอากวางหน้าเหวอเพราะปรับอารมณ์ตามจีไม่ทัน
สรุปคือเมื่อกี้แค่เลียนแบบจีน่าหรอกเหรอเนี่ย!?
"เอ่อ.. คุณจีมาหาฉันถึงที่นี่มีอะไรหรือเปล่าคะ?" กวางเอ่ยถามเมื่อเห็นว่าจีกลับเข้าสู่โหมดปกติเต็มตัวแล้ว
"มีแน่นอน เราไม่ได้คุยกันนานเลยนะคุณกวาง" จีพูดแล้วเดินอ้อมไปนั่งบนโต๊ะทำงานของกวาง "ได้ข่าวว่าคุณเลิกกับนางฟ้าเจสซี่แล้วเหรอ?"
"เอ๋? คุณรู้ได้ยังไงคะ?" กวางถามด้วยความแปลกใจ
"โกโก้เพิ่งมาเม้าท์ให้ฟังวันนี้ ฮี่ๆ อ้ะๆ อย่าเพิ่งทำหน้าเหมือนโดนเพื่อนขายแบบนั้น โกโก้ไม่ได้พูดอะไรมากหรอก แค่บอกว่าคุณสตรองมากที่มีกะจิตกะใจมาทำงานทั้งๆที่เพิ่งเลิกกับแฟน"
"อ่า.. งั้นเหรอคะ?"
"จริงๆแล้วคุณกับจีน่าก็เหมาะกันดีนะ นานๆทีจีน่ามันจะมีความรัก ฉันก็อยากเห็นมันสมหวังอ่ะแหละ" จีพูดขึ้น
"เอ๋? คุณไม่โกรธฉันเหรอคะที่ฉันทำแบบนั้นกับจีน่า" กวางถาม
"คุณทำอะไรมันอ่ะ? เท่าที่จีน่าเล่าให้ฟังฉันก็เห็นว่ามันทำตัวมันเองทั้งนั้น" จีพูดแล้วยักไหล่สองข้างอย่างไม่ค่อยใส่ใจมากนัก "ว่าแต่คุณเถอะ.. คุณยังรักจีน่ามันอยู่หรือเปล่า?"
"ก็.. รักค่ะ"
"นั่นไง!! ฉันว่าแล้ว!! ถ้าวันนั้นจีน่ามันตอบคุณไปว่ารักมันก็คงไม่ต้องย้ายไปอยู่ตั้งอเมริกาหรอก วุ๊!! เสียดายจริงๆ" พูดจบจีก็ตบเข่าตัวเองดังป๊าบด้วยความเสียดาย
"เอ่อ.."
"นี่ คุณกวาง คุณคิดถึงจีน่าไหม?" จีถามกวางอีกครั้ง
"ก็ต้องคิดถึงแน่นอนอยู่แล้วสิคะ" กวางตอบ
"ใช่มะ พวกฉันก็คิดถึงมันเหมือนกัน ไปอยู่คนเดียวท่ามกลางฝรั่งตาน้ำข้าว ดีนะที่มันสูงไม่งั้นคงได้กลายเป็นสเมิร์ฟในหมู่มนุษย์ ไม่รู้มันจะเป็นยังไงบ้างนะเนี่ย" จีเว้นจังหวะเล็กน้อยก่อนจะพูดต่อ "เพราะฉะนั้น.. คุณกวาง"
"คะ?"
จีหันไปหยิบซองสีน้ำตาลที่ถือเข้ามาด้วยแล้วยื่นไปให้กวาง กวางมองซองในมือของจีสลับกับใบหน้าของจีไปมาจนจีต้องพยักหน้าให้กวางรับซองเอกสารนั่นไป พอกวางรับเอกสารไว้ในมือแล้วจีก็กระโดดลงจากโต๊ะจัดแจงเสื้อผ้าเล็กน้อยแล้วพูดขึ้น
"ฉันคงต้องฝากคุณไปบอกมันแล้วแหละว่าพวกฉันคิดถึงมันมากๆ แล้วก็บอกให้มันกลับมาเยี่ยมเพื่อนฝูงด้วยนะ" จีพูดยิ้มๆ
"อันนี้ซองอะไรคะ?" กวางถามแล้วมองซองในมือของตัวเองด้วยความสงสัย
"อยากรู้คุณก็เปิดดูสิ" จีพูดแล้วเดินออกจากล็อคของกวางไป แต่ก็ยังไม่วายหันมาพูดประโยคสุดท้าย "อ้อ! ถ้าคุณตกลง โทรหาฉันเลยนะ เบอร์โทรอยู่ในซองนั่นแหละ แค่กริ๊งเดียวเท่านั้นฉันจะให้มะปรางจัดการเรื่องทุกอย่างให้คุณเอง"
"ด.. เดี๋ยวก่อนสิคะคุณจี!"
แต่ไม่ทัน.. จีวิ่งออกจากห้องพนักงานไปซะแล้ว
แล้วนี่เธอต้องตกลงเรื่องอะไรวะ?
กวางกระพริบตาสองสามครั้งด้วยความมึนงงแต่แล้วก็ตัดสินใจเปิดซองเอกสารนั่นดู ข้างในมีเพียงกระดาษแผ่นเดียวเท่านั้น.. กวางค่อยๆเอื้อมมือไปหยิบเอกสารแผ่นนั้นออกมาดู และกวางก็ต้องเบิกตากว้างด้วยความตกใจเมื่อเห็นหัวกระดาษ
'เอกสารโยกย้ายพนักงาน'
ณ สนามบินสุวรรณภูมิ
"พี่กวางคะ พี่มั่นใจนะคะว่าพี่มาถูกเกทแล้ว"
เจสซี่เอ่ยถามกวางในขณะที่สอดสายตามองไปรอบๆ ตอนนี้สาวลูกครึ่งอยู่ในชุดลำลองสบายๆกับหมวกแก๊ปและแว่นกันแดดอันใหญ่ครึ่งหน้าเพื่อเป็นการอำพรางตัว จริงๆเจสซี่ควรจะรีบไปถ่ายละครได้แล้วแต่เธออ้อนวอนขอผู้กำกับให้เลื่อนกองออกไปอีกสักชั่วโมงสองชั่วโมงเพราะเธอต้องมาส่งกวางที่สนามบิน
จะให้เธอพลาดได้ยังไงล่ะ
ก็ในเมื่อพี่กวางของเธอกำลังจะย้ายสัมโนครัวไปอยู่อเมริกา..
"มั่นใจสิคะเจสซี่ เกทนี้แหละ" กวางตอบแล้วชี้ไปยังป้ายทางเข้าเกท
"แล้วพี่ต้องไปต่อเครื่องที่ปักกิ่ง พี่อย่าไปเข้าผิดเกทนะคะเดี๋ยวตกเครื่องบินแล้วจะไปไม่ถึงอเมริกา" เจสซี่ย้ำอีกรอบให้กวางเดินเข้าเกทดีๆ
"จ้าาา ไม่ผิดหรอกจ้ะ เจสซี่อย่าลืมนะคะว่าพี่เคยมาแล้วรอบนึง พี่พอจะจำอะไรๆได้บ้างแหละน่า"
"แล้วนี่พี่ต้องพักโรงแรมก่อนเปลี่ยนเครื่องเหรอคะ? พี่กวางรู้ใช่ไหมคะว่าต้องไปพักที่ไหน? พี่จะไม่หลงแน่ๆใช่ไหมคะ?" เจสซี่ถามย้ำ
"ไม่หลงแน่นอนค่ะเจสซี่ เป็นห่วงขนาดนี้บินตามพี่ไปเลยดีกว่าไหม? ฮ่าๆๆๆ" กวางหัวเราะให้กับท่าทางแบบนั้นของเจสซี่
"ก็ห่วงแค่ตอนเดินทางเท่านั้นแหละค่ะ พอพี่ไปถึงวอชิงตันเจสซี่ก็ไม่ห่วงแล้ว" เจสซี่พูด
"หืม? ไม่กลัวพี่ไปหลงทางต่อในวอชิงตันแล้วเหรอ?"
"เจสซี่เชื่อว่าคุณผู้จัดการเขาไม่ปล่อยให้พี่หลงได้นานหรอกค่ะ" เจสซี่พูดแล้วส่งยิ้มให้กวาง
"เจสซี่.." กวางเรียกชื่อเจสซี่เสียงแผ่ว "พี่ไม่อยู่แล้ว เจสซี่อยู่คนเดียวได้ใช่ไหมคะ?"
"ได้ค่ะ เจสซี่อยู่ได้" เจสซี่ยิ้มกว้าง
"เจสซี่รู้ใช่ไหมคะว่าดาราเป็นคนของประชาชน เป็นอาชีพที่มีความกดดันสูง ทำอะไรก็เป็นที่จับจ้องของผู้คน พลาดเมื่อไหร่ก็มีแต่คนจะคอยเหยียบซ้ำ ถ้าวันหนึ่งเจสซี่เกิดพลาดขึ้นมา.. เจสซี่จะรับมันไหวใช่ไหมคะ?" กวางถามด้วยความเป็นห่วง
"วันนั้นมันยังมาไม่ถึง แต่เจสซี่คิดว่าไหวนะคะ" เจสซี่ทำท่าคิดเล็กน้อยก่อนจะพูดต่อ "อืม.. แต่ถ้าไม่ไหวเดี๋ยวเจสซี่จะขอหนีไปอยู่กับมัมกับแด๊ดที่อังกฤษสักแปบนึง กลับมาเจสซี่คงจะดีขึ้นเอง พี่กวางไม่ต้องห่วงนะคะ เจสซี่อยู่ได้"
"ค่ะ เจสซี่เป็นเด็กเข้มแข็ง พี่รู้ว่าเจสซี่ต้องทำได้"
"พี่กวางคะ เจสซี่คงไม่ได้อยู่ด้วยจนพี่ขึ้นเครื่องนะคะ เดี๋ยวที่กองจะรอนาน" เจสซี่พูดแล้วยกนาฬิกาข้อมือขึ้นมาดู
"ไม่เป็นไรค่ะ แค่เจสซี่อุตส่าห์มาส่งพี่ทั้งๆที่ยุ่งอยู่ก็ดีแค่ไหนแล้ว" กวางพูดแล้วเอื้อมมือมาลูบปลายผมที่โผล่พ้นหมวกของเจสซี่ด้วยความเอ็นดู
"พี่กวางคะ.." เจสซี่เรียก "พี่กวางไปอยู่ที่นั่นแล้ว มันไม่มีอะไรเหมือนเดิมแล้วนะคะ สถานที่ใหม่ กับคนใหม่ ไอ้นิสัยชอบลุกขึ้นมาเก็บครัวตอนตีสามนี่เลิกได้แล้วนะคะ มันเสียงดังมาก"
"ฮ่าๆๆๆ โอเคค่ะ พี่จะพยายามเลิกนะคะ" กวางหัวเราะร่วนเมื่อได้ยินเจสซี่พูดถึงนิสัยแปลกๆของตัวเอง
"พี่กวางคะ ถึงเจสซี่จะเคยคุยกับคุณผู้จัดการแค่ไม่กี่ครั้งแต่เจสซี่ก็พอจะดูออกว่าเขาไม่เหมือนเจสซี่ เจสซี่ชอบแสดงออก คิดอะไรก็พูดไปตรงๆ แต่คุณผู้จัดการเขาอาจจะไม่ แต่ถึงเขาจะเป็นอย่างนั้นพี่กวางก็วางใจเถอะค่ะ"
"วางใจอะไรคะ?"
"วางใจได้เลยค่ะ ว่าคุณผู้จัดการเขารักพี่ไม่ได้น้อยไปกว่าที่เจสซี่รักพี่หรอกนะคะ"
พูดจบเจสซี่ก็เดินเข้าไปใกล้กวางมากขึ้น สองมือของสาวลูกครึ่งวางลงบนไหล่บางของคนอายุมากกว่า ใบหน้าสวยไร้ที่ติของเจสซี่ค่อยๆเคลื่อนเข้ามาใกล้กวางมากขึ้น จนริมฝีปากของทั้งคู่สัมผัสกัน.. เจสซี่ไม่ได้รุกล้ำกวางมากไปกว่านั้น ริมฝีปากของทั้งคู่ยังคงสัมผัสกับเพียงแผ่วเบา
แต่จูบเพียงแผ่วเบานั้น.. มันกลับสื่อทุกความรู้สึกของเจสซี่ได้เป็นอย่างดี
ปล่อยให้ริมฝีปากสัมผัสกันอยู่เนิ่นนาน สุดท้ายแล้วเจสซี่ก็ค่อยๆละริมฝีปากออก ดวงตาภายใต้แว่นกันแดดอันใหญ่จ้องมองไปที่กวางราวกับต้องการเก็บทุกรายละเอียดของคนตรงหน้า เจสซี่ยกยิ้มเล็กๆให้กวาง
"ลาสคิสค่ะ" เจสซี่พูดแล้วส่งยิ้มให้กวาง "ถ้าพี่กวางเหนื่อย หรืออยู่อเมริกาแล้วพี่ไม่ชอบพี่ก็กลับมานะคะ เจสซี่ยังอยู่ที่เดิม คอนโดของเรานั่นแหละค่ะ เจสซี่จะไม่พูดว่าเจสซี่รอพี่กลับมาหรอกนะคะ เพราะเจสซี่คิดว่าคุณผู้จัดการเขาคงไม่ปล่อยให้พี่เหนื่อยอยู่คนเดียวแน่ๆ เจสซี่ว่าเขาต้องดูแลพี่กวางได้ดีกว่าเจสซี่แน่นอนค่ะ"
"ดูเจสซี่จะอวยผู้จัดการจังเลยนะคะ" กวางพูดพลางเลิกคิ้วขึ้นด้วยความแปลกใจ
ก็จะไม่ให้แปลกใจได้ยังไง..
ปกติแฟนเก่ากับแฟนใหม่นี่เขามักจะไม่ถูกกันไม่ใช่เหรอ?
"เปล่าค่ะ เจสซี่ไม่ได้อวยคุณผู้จัดการสักหน่อย" เจสซี่หัวเราะเล็กๆ
"............"
"เจสซี่แค่เชื่อใจเขา เหมือนวันนั้นที่เขาเชื่อใจเจสซี่ แค่นั้นแหละค่ะ"
เจสซี่พูดแล้วส่งยิ้มบางๆให้กวาง ร่างสูงของสาวลูกครึ่งยกนาฬิกาข้อมือขึ้นมาดูอีกครั้งแล้วเงยหน้าขึ้นพูดกับกวาง
"พี่กวางคะ เจสซี่ต้องไปแล้วนะ" เจสซี่ชะงักไปเล็กน้อยเหมือนนึกอะไรขึ้นได้ "อ้อ! เกือบลืมไปแหนะ"
เจสซี่หยิบกระเป๋าสตางค์ของตัวเองขึ้นมาแล้วหาอะไรบางอย่างอยู่ในนั้น กวางมองท่าทางของเจสซี่แล้วเลิกคิ้วขึ้นด้วยความสงสัย แต่ความสงสัยของกวางก็หมดไปทันทีเมื่อได้เห็นสิ่งที่เจสซี่ยื่นให้เธอ
รูปคู่ใบแรกของเธอกับเจสซี่.. ที่เจสซี่เอาออกจากกระเป๋าสตางค์เธอวันนั้น
"เจสซี่อยากให้พี่กวางเก็บไว้นะคะ อาจจะไม่เก็บในกระเป๋าสตางค์เหมือนเดิมก็ได้ พี่เอาไปเก็บไว้ตรงไหนก็ได้" เจสซี่เว้นจังหวะเล็กน้อยก่อนจะพูดต่อ "แต่เจสซี่อยากให้รูปนี้อยู่กับพี่กวาง ทุกครั้งที่พี่กวางเห็นมัน.. พี่จะได้จำได้ว่าครั้งหนึ่งเราเคยรักกันมากแค่ไหน"
"ต่อให้ไม่มีรูปนี้พี่ก็ไม่มีวันลืมอยู่แล้วค่ะว่าพี่เคยรักเจสซี่มากแค่ไหน" กวางพูดแล้วเอื้อมมือไปหยิบรูปนั้นมาใส่ไว้ในกระเป๋าสตางค์เหมือนเดิม "แต่.. พี่จะเก็บมันไว้อย่างดีเลยนะคะ"
"ค่ะ เจสซี่ต้องไปจริงๆแล้วนะ ดูแลตัวเองดีๆนะคะพี่กวาง"
"ขอบคุณสำหรับทุกอย่าง ขอบคุณที่เข้ามาในชีวิตพี่นะคะเจสซี่"
"ยินดีค่ะพี่สาว"
เจสซี่ส่งยิ้มให้กวางเป็นครั้งสุดท้ายแล้วเดินออกจากสนามบิน แต่ก็ยังไม่วายหันกลับไปมองกวางอีกครั้ง กวางเดินเข้าเกทไปแล้ว..
เจสซี่ยกยิ้มเล็กๆอย่างโล่งใจแล้วเดินออกมาหาพี่ซันผู้จัดการของเธอที่นั่งรอเธอบนรถอยู่แล้ว เธอเปิดประตูสอดตัวนั่งเข้าไปในตำแหน่งข้างคนขับ ถอดหมวกถอดแว่น คาดเข็มขัด พูดคุยกับพี่ผู้จัดการเล็กน้อย และสุดท้ายเธอก็นั่งเอาหัวพิงกระจกแล้วคิดถึงบทสนทนาของเธอกับพี่กวางที่เพิ่งผ่านไปเมื่อครู่เงียบๆคนเดียว
บางทีการเป็นน้องมันก็ไม่ได้แย่สักเท่าไหร่..
อ่า.. แล้วทำไมน้ำตาของเธอต้องไหลออกมาแบบนี้ด้วยนะ..
08.57
Washington State, America
M&Bc Software
ซวยอะไรขนาดนี้วะ!!!!
นี่มันวันซวยของเธอชัดๆเลยจีน่า!!!
จีน่าวิ่งกระหืดกระหอบเข้ามาในบริษัท วันนี้เป็นวันที่เธอให้คำจำกัดความว่ามันเป็น 'วันซวย' ของเธอโดยแท้จริง ตั้งแต่เช้าแล้ว เธอตื่นสาย ปกติเธอจะตื่นเจ็ดโมงแต่วันนี้เธอกลับตื่นตั้งเกือบแปดโมง อาจจะเป็นเพราะว่าเธอเหนื่อยจากการเพิ่งกลับจากสัมมนางานก็ได้ แต่ช่างมันเถอะ การตื่นสายในกรุงวอชิงตันมันไม่ได้น่ากลัวเท่าไหร่ ระยะทางจากคอนโดเธอไปบริษัทมันไม่ได้ไกลมากหากนั่งรถแท็กซี่ก็จะใช้เวลาประมาณยี่สิบนาที
แต่!!! ทำไมรถแท็กซี่คันนั้นมันต้องมาเสียตอนที่เธอเพิ่งนั่งมาได้ครึ่งทางด้วยล่ะ!?
กลายเป็นว่าอีกครึ่งทางเธอต้องวิ่งมาเอง ซึ่งตอนนั้นเธออยู่ห่างจากบริษัทประมาณแปดกิโลเมตรอ่ะนะ.. มันไม่ตลกเลยนะกับการที่เธอต้องมาวิ่งมาราธอนแปดกิโลท่ามกลางหิมะและอุณหภูมิสามองศาเนี่ย!! แถมวันนี้เธอมีประชุมเช้าอีก ตายจีน่าตาย.. เธอไม่เคยเลทการประชุมสักครั้ง โอเค.. มันไม่ถือว่าเลท แต่การเข้าประชุมก่อนเวลาเพียงแค่สองนาทีมันก็เสียมารยาทมากอยู่นะ!!
ปัง!!!
"ขออภัยค่ะทุกท่าน พอดีว่ามีเหตุฉุกเฉินนิดหน่อย"
จีน่าวิ่งเข้าห้องประชุมมาในสภาพที่ เอ่อ.. เรียกได้ว่าค่อนข้างแย่ ผมสั้นประบ่าของเธอยุ่งฟูตามสภาพการวิ่ง ลมหายใจหอบถี่ เสื้อโค้ทตัวหนาก็ยังไม่ได้ถอดออก
หวังว่าผู้บริหารทั้งหลายเห็นสภาพเธอแล้วจะอนุโลมให้หน่อยนะ..
"ไม่เป็นไรครับคุณวิรายา เชิญนั่งครับ"
"ขอบพระคุณค่ะ"
จีน่าโค้งตัวให้ทุกคนแล้วนั่งลงตามที่ท่านประธานเชิญ เธอจัดแจงถอดเสื้อโค้ทออกแล้วยื่นให้ผู้ช่วยของเธอที่เอาแฟ้มเอกสารการประชุมมาให้ จีน่าเปิดอ่านเอกสารคร่าวๆเพื่อเตรียมตัวฟังการประชุม แต่ก็มีเสียงจากบอสของเธอเรียกไว้ซะก่อนที่เธอจะได้อ่านจบ
"อ้อ! คุณวิรายา นี่คุณวรรณปิยะ โปรแกรมเมอร์คนใหม่ และเขาจะมาเป็นโปรแกรมเมอร์ของโปรเจคนี้" บอสแนะนำตัวโปรแกรมเมอร์คนใหม่ให้เธอฟัง จีน่าเงยหน้ามองบอสของเธอด้วยความตกใจเล็กๆ
เดี๋ยวนะ.. โปรแกรมเมอร์ชื่ออะไรนะ?
"คุณวรรณปิยะทำงานกับเราได้สองสามวันแล้ว แต่ช่วงนั้นเป็นช่วงที่คุณไปสัมมนาพอดี ทักทายกันซะตอนนี้คงจะไม่ช้าไปหรอกใช่ไหม" บอสของเธอพูดพลางพยักพเยิดใบหน้ามาที่ข้างๆตัวเธอ จีน่าหันขวับไปมองอย่างรวดเร็ว
นี่เธอไม่ได้ฝันไปใช่ไหม..?
"สวัสดีค่ะผู้จัดการ ดิฉันวรรณปิยะ ออมสินนพกุล เป็นโปรแกรมเมอร์คนใหม่อยู่แผนกเดียวกันกับคุณค่ะ" กวางพูดพลางยื่นมือออกมาเชคแฮนด์กับเธอ
"วิรายา ภัทรโชคชัย ยินดีที่ได้ร่วมงาน" จีน่าเอื้อมมือไปเชคแฮนด์กับกวาง
จับต้องได้แบบนี้.. เธอไม่ได้ฝันไปหนิ
จีน่ามองหน้ากวางนิ่งด้วยความสงสัย แอบส่งสายตาถามไปเล็กๆว่ามาได้ยังไง แต่คำตอบที่เธอได้จากกวางมีเพียงรอยยิ้มมุมปากเล็กๆส่งมาให้เธอ จีน่ามองกวางด้วยสายตาเอือมๆแล้วเหลือบไปมองมือของพวกเธอสองคนที่เชคแฮนด์กันอยู่
"แล้วมือน่ะเมื่อไหร่จะปล่อย" จีน่ากระซิบดุเป็นภาษาไทย
"แหะๆ ปล่อยก็ได้ค่ะ"
กวางหัวเราะเบาๆแล้วยอมปล่อยมือออกจากจีน่าแต่โดยดี จีน่าสะบัดมือกวางออกแล้วก้มหน้าก้มตาดูเอกสารการประชุมอีกครั้ง กวางมองจีน่าแล้วแอบยิ้มขำเล็กๆกับท่าทางของจีน่า
"โอเคทุกคน เรามาเริ่มการประชุมกันนะครับ"
หลังการประชุม..
"จีน่า!! เฮ้ เดี๋ยวก่อน!! จีน่ารอฉันด้วยสิ!!"
กวางถือแฟ้มเอกสารวิ่งตามจีน่าออกมาทันทีหลังจากเสร็จการประชุม ตามที่คาดไว้.. จีน่าเดินหนีกวางอีกแล้ว นี่เป็นครั้งที่สอง.. หรือสามนะ? ที่จีน่าเดินหนีกวางแบบนี้
"ตามฉันมาทำไม!! ไม่มีงานมีการให้ไปทำหรือไง!?" จีน่าตะคอกกลับทั้งๆที่ไม่หันกลับไปมองกวางเลยสักนิด
"งานการน่ะมี แต่นี่พักเที่ยงนะคะ แล้วฉันก็อยากคุยกับคุณด้วย คุยกันก่อนได้ไหมจีน่า"
"แต่ฉันไม่อยากคุย!!"
กวางไม่ละความพยายาม วิ่งตามจีน่าไปเรื่อยจนถึงห้องผู้จัดการ จีน่าเดินเข้าห้องไปและปิดประตูใส่หน้ากวางเหมือนทุกครั้ง
และเชื่อหรือเปล่า.. มันลงอีหรอบเดิม
ปึก!!!
"โอ๊ย!!!!!!!!"
"วรรณปิยะ!! เป็นอะไร!?"
จีน่าได้ยินกวางร้องลั่นเหมือนคราวที่แล้วก็รีบหันกลับมาดูอาการของกวางที่ยืนก้มหน้าก้มตากุมมือตัวเองอยู่ จีน่าเดินเข้ามาใกล้ๆแล้วคว้ามือกวางไปดู
"ไม่เห็นจะมีแผลเลยหนิ!" จีน่าพูดขึ้นเมื่อสำรวจมือของกวางเรียบร้อยแล้ว
"แหะๆ คราวนี้ฉันเอาแฟ้มยันประตูไว้ค่ะ ไม่ใช้มือยันหรอก คราวที่แล้วฉันเจ็บไปเป็นเดือนเลยนะคะ" กวางพูดพลางชูแฟ้มเอกสารที่ตัวเองถือไว้ให้จีน่าดู
"แล้วที่ร้องเมื่อกี้มันหมายความว่ายังไงฮะ!? เธอหลอกฉันเหรอ!?" จีน่าถามเสียงดัง
"ถ้าไม่ทำแบบนี้คุณจะยอมให้ฉันเข้าไปเหรอคะ?" กวางถามแล้วแทรกตัวผ่านขอบประตูเข้าไปในห้องผู้จัดการ
"โอ๊ยยยย!!! ฉันเกลียดเธอจริงๆวรรณปิยะ!! จะไปไหนก็ไปเลยไป๊!!!" จีน่าพูดด้วยความหัวเสียแล้วเดินไปที่โต๊ะผู้จัดการ
"ฉันจะไม่ไปไหนจนกว่าฉันจะได้คุยกับคุณก่อน"
"ก็นี่ไง คุยกันแล้วนี่ไง ทีนี้ก็ออกไปได้แล้ว!"
"ไม่ค่ะ ฉันหมายถึงเรื่องของเรา"
"ฉันไม่อยากคุย!"
"จีน่า!! มันกี่ครั้งแล้วที่คุณเอาแต่วิ่งหนีปัญหา ถ้ารวมครั้งนี้ด้วยก็สามครั้งใช่หรือเปล่า!? ครั้งแรกคุณก็เอาแต่หลบหน้าฉันหลังจากที่เรามีอะไรกัน ครั้งที่สองพอเจสซี่กลับมาคุณก็หนีฉันมาอยู่อเมริกา และครั้งนี้จะเป็นครั้งที่สามที่คุณหนีฉันอีกครั้ง ถามจริงเถอะ! ติดนิสัยชอบหนีปัญหาแบบนี้ คุณมาเป็นผู้จัดการได้ยังไงวะ!?"
"............"
จีน่าเงียบไปทันทีเมื่อได้ยินกวางพูดแบบนั้น ใช่.. กวางพูดถูกทุกอย่าง ไม่มีสักครั้งที่เธอตัดสินใจพุ่งชนปัญหา หลายครั้งที่เขาต้องไล่ตามเธอทั้งๆที่เธอควรจะเป็นคนที่ไล่ตามเขาเพื่อให้ได้หัวใจเขามา แต่.. ถ้าใครไม่มาเป็นเธอก็คงจะไม่เข้าใจ
"เธอไม่เข้าใจฉันหรอก.. ฉันจะกล้าเสนอหน้าไปยืนข้างเธอได้ยังไงในเมื่อเธอมีคนที่เหมาะสมกว่า" จีน่าพูดเสียงเรียบ
"ใช่! ฉันไม่เข้าใจ! คุณเอาอะไรมาวัดว่าเหมาะสมหรือไม่เหมาะสม แค่เรารักกันก็พอแล้วไม่ใช่หรือไง!?" กวางถาม
"ก็ตอนนั้นฉันรู้ดีไงเล่าว่าเธอน่ะไม่ได้รักฉันเลย!!"
"แต่ตอนนี้ฉันรักคุณ!!!"
กวางตะโกนบอกรักจีน่าเสียงดัง จีน่าเงียบไป.. นี่เป็นครั้งแรกที่เธอได้ยินคำว่ารักออกมาจากปากของกวาง และเขากำลังบอกเธอ..
แต่.. เพิ่งมาบอกอะไรตอนนี้..
เขาบอกรักเธอทั้งๆที่ยังคบกับเจสซี่อยู่งั้นเหรอ?
"ฉันขอโทษ! ฉันขอโทษที่วันนั้นฉันคาดคั้นเอาคำตอบกับคุณทั้งๆที่ตัวฉันเองก็ยังไม่เคยบอกรักคุณเลยสักครั้ง"
"..........."
"แต่คราวนี้ฉันบอกคุณไปแล้ว คุณ.. จะบอกฉันบ้างได้หรือเปล่า?"
กวางเอ่ยถามจีน่าน้ำเสียงจริงจัง จีน่าเม้มปากแน่นอย่างชั่งใจ เธอมองลึกลงไปในดวงตากลมโตของกวาง..
มันคือความจริง.. กวางไม่ได้โกหกเธอเลยสักนิด
แล้วเธอควรจะบอกเขาไปดีหรือเปล่า..?
"เธอกลับไปเถอะ.."
"............"
กวางกำมือแน่นทันทีที่ได้ยินประโยคนั้นจากปากของจีน่า แต่.. เธอก็ไม่โทษจีน่าหรอกนะ บางทีเกือบสิบเดือนที่ผ่านมาจีน่าอาจจะหมดรักเธอและมีคนใหม่ไปแล้วก็ได้
บางที.. เธอคงผิดเองที่มาช้าเกินไป
"เชิญออกจากห้องฉันด้วย" จีน่าพูดย้ำ
"หลังจากคืนนั้น.. ที่เราคุยกันครั้งสุดท้ายที่ไทย วันต่อมาฉันไปที่บริษัทฉันไม่เจอคุณ ฉันก็จ้างนักสืบตามหาคุณซะให้วุ่น แต่ก็หาไม่เจอสักที พอเจอตัวคุณอีกทีก็เป็นรูปที่คุณอยู่ที่สนามบินซะแล้ว.. ฉันเลยลองมาถามเพื่อนๆในแผนกดูว่าคุณหายไปไหน โกโก้ก็อุตส่าห์ไปถามคุณจีให้ เลยได้รู้ว่าคุณย้ายมาอยู่ที่อเมริกา ได้ยินครั้งแรกฉันใจหายวาบ.. แอบคิดในใจว่าฉันจะได้เจอคุณอีกครั้งหรือเปล่า"
"............"
"คุณรู้ไหมว่าฉันคิดถึงคุณจนแทบบ้าทุกวัน คิดถึงมาก.. แต่ไม่รู้จะไปหาคุณที่ไหน ฉันกดโทรหาเบอร์เก่าของคุณวันละไม่รู้กี่รอบเพื่อจะฟังเสียงสัญญาณบอกว่าเลขหมายนี้ระงับการให้บริการไปแล้ว ฉันคิดถึงคุณ.. จนต้องไปย่อรูปคุณที่นักสืบถ่ายตอนคุณอยู่ในสนามบินมาใส่ไว้ในกระเป๋าสตางค์"
"............"
"หลายเดือนต่อมา ฉันอยากเจอคุณ ฉันอยากรู้ว่าอยู่อเมริกามันเป็นยังไง คุณจะสบายดีหรือเปล่า ฉันเลยให้โกโก้ไปลองถามคุณจีดูว่าคุณอยู่ที่ไหน โกโก้ก็บอกฉันว่าคุณอยู่วอชิงตัน โอเค.. ฉันก็ไปหาคุณที่วอชิงตัน แต่เป็นวอชิงตัน ดี.ซี. นะ ก็เรียกวอชิงตันเฉยๆใครจะไปคิดว่าเป็นวอชิงตันสเตทล่ะ พอฉันรู้ว่าคุณไม่ได้อยู่ที่วอชิงตัน ดี.ซี. ฉันเลยตามหาคุณซะทั่วรัฐรอบๆนั้น แต่ก็ไม่เจอ.. ฉันเลยตัดสินใจกลับไทย" พอฟังถึงตรงนี้จีน่าก็เบิกตากว้างด้วยความตกใจ
นี่กวางมาตามเธอถึงอเมริกาเลยเหรอ..?
"และสุดท้าย.. เจสซี่ก็จับได้ว่าฉันแอบตามหาคุณ จริงๆเจสซี่ก็รู้อยู่นานแล้วแหละว่าฉันรักคุณ" กวางพูดต่อ
"แล้วเขาว่ายังไงล่ะ? จับได้ว่าแฟนนอกใจแบบนี้น่ะ" จีน่าถาม
"เจสซี่พูดกับฉันว่า ถ้าวิธีการต่างๆที่ฉันเคยทำเพื่อตามหาคุณมันไม่เวิร์ค เจสซี่จะช่วยคิดเอง"
"............"
"และวันสุดท้าย.. เจสซี่มาส่งฉันที่สนามบิน เจสซี่บอกฉันว่าให้ฉันวางใจ เพราะเจสซี่มั่นใจว่าคุณคงรักฉันไม่ได้น้อยไปกว่าที่เจสซี่รัก.." กวางเว้นจังหวะเล็กน้อยก่อนจะพูดต่อ "แต่คืนนี้ฉันจะไปบอกเจสซี่ว่าเจสซี่คิดผิด.."
"............"
"เพราะจริงๆแล้ว คุณคงไม่ได้รักฉันมากพอเหมือนที่เจสซี่คิด" พูดถึงประโยคนี้กวางก้มตัวลงโค้งให้จีน่าที่ยืนอยู่ตรงโต๊ะผู้จัดการ "ฉันขอตัวค่ะ"
หมับ!!!
ทันทีที่กวางหันหลังให้จีน่าและกำลังจะเดินออกจากห้องไป โปรแกรมเมอร์ก็สัมผัสได้ถึงแรงกอดจากข้างหลัง.. ผมสั้นประบ่าของจีน่าหล่นลงมาระต้นคอของกวางเมื่อจีน่าซบใบหน้าลงที่ข้างกกหูของเธอ
"ฉันรักเธอ"
"............"
"ได้ยินหรือเปล่า? ฉันรักเธอ วรรณปิยะ ฉันรักเธอ"
พูดจบจีน่าก็กระชับกอดกวางแน่นแล้วซบใบหน้าลงที่ไหล่ของกวาง รอยยิ้มบางๆผุดขึ้นบนใบหน้าของโปรแกรมเมอร์สาว กวางยกมือขึ้นมาจับมือจีน่าที่กอดเอวเธอไว้อยู่จากนั้นก็หันไปพูดกับคนข้างหลัง
"กว่าจะพูดได้นะคะ" กวางพูดยิ้มๆ
"ฉันขอโทษที่ที่ผ่านมาฉันเอาแต่หนี เธอเหนื่อยหรือเปล่าที่ต้องคอยตามฉันอยู่ตลอด"
"ไม่เคยเหนื่อยค่ะ ฉันเต็มใจ"
"ต่อไปนี้ฉันจะไม่หนีอีกแล้ว" จีน่าเว้นจังหวะแล้วผละกอดจากกวาง กวางหันหน้ากลับมาหาเธอ "ฉันรักเธอ และรักมากพอที่จะยอมใช้ทั้งชีวิตเพื่อรักเธอ ถึงมันจะเป็นรักข้างเดียวก็ตาม"
"จากนี้ไปจะไม่มีรักข้างเดียวอีกแล้วนะคะ" กวางพูดพลางเอื้อมมือไปลูบใบหน้าของจีน่าอย่างแผ่วเบา "เพราะตอนนี้จะมีแค่เรารักกัน"
พูดจบกวางก็ค่อยๆเลื่อนใบหน้าเข้าไปประกบจูบกับจีน่า ผู้จัดการสาววาดแขนขึ้นโอบรอบคอโปรแกรมเมอร์เหมือนทุกครั้งแล้วจูบตอบอย่างร้อนแรง จูบแรกระหว่างเธอกับเขาในรอบสิบเดือน.. ริมฝีปากของทั้งคู่สัมผัสกันอย่างโหยหา ทุกครั้งที่ริมฝีปากขบเม้มกันราวกับว่าทั้งคู่ได้พูดซ้ำๆว่าตัวเองคิดถึงคนตรงหน้ามากแค่ไหน และสุดท้ายจีน่าก็เป็นฝ่ายผละจูบออกก่อน.. จีน่ากระชับแขนให้ใบหน้าของกวางเลื่อนเข้ามาใกล้ตัวเองจนหน้าผากของทั้งคู่สัมผัสกัน กวางยกแขนขึ้นมากอดเอวจีน่าเอาไว้แล้วส่งยิ้มเล็กๆให้คนตรงหน้า
"ฉันรักเธอจริงๆนะวรรณปิยะ"
"ค่ะ ฉันก็รักคุณ จีน่า ผู้จัดการของฉัน"
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------
บทส่งท้าย
23.00
Washington State, America
ณ คอนโดจีน่าและกวาง
จีน่านั่งมองพระจันทร์อยู่ที่ระเบียง วันนี้พระจันทร์เต็มดวง.. เธอคิดว่าใช่อ่ะนะ เพราะในฤดูหนาวที่หิมะตกหนักแบบนี้เธอมองไม่เห็นพระจันทร์หรอก แต่ถ้านับตามปฏิทินคืนนี้จะเป็นคืนพระจันทร์เต็มดวง เธอเลยมานั่งกอดตัวเองในเสื้อโค้ทมองท้องฟ้ามืดๆอยู่แบบนี้ไง
"คุณไม่ควรออกมานั่งตากหิมะในคืนที่อุณหภูมิติดลบแบบนี้นะคะ"
เสียงที่คุ้นเคยดังขึ้นจากข้างหลัง คราวนี้จีน่าไม่ต้องหันไปมองก็รู้อยู่แล้วแหละว่าใครเป็นคนพูดประโยคนั้น.. ไม่นานนักเจ้าของประโยคข้างต้นก็เดินมานั่งข้างๆเธอแล้วห่มผ้านวมให้กับเธอ
"อากาศหนาวแบบนี้ เสื้อโค้ทตัวเดียวเอาไม่อยู่หรอกมั้งคะ" กวางพูดแล้วซุกตัวเข้ามาอยู่ในผ้าห่มผืนเดียวกันกับเธอ
"ขอบคุณ" จีน่ากล่าวแล้วส่งยิ้มเล็กๆให้กวาง
"แล้วนี่คุณนั่งทำอะไรอยู่คะ? มืดก็มืด อากาศก็หนาว"
"นั่งมองดวงจันทร์"
หือ?
คำตอบของจีน่าทำเอากวางงงเป็นไก่ตาแตก คืนที่หิมะตกหนักแบบนี้จีน่ามองเห็นพระจันทร์ด้วยเหรอ? กวางมองตามสายตาจีน่าออกไปนอกระเบียง
ไหนวะพระจันทร์!?
กวางหันกลับมาและกำลังจะอ้าปากถามจีน่าว่าไหนพระจันทร์ที่คุณผู้จัดการคนสวยนั่งมองอยู่ แต่ก็มีเสียงติดแหบของจีน่าดังแทรกขึ้นมาซะก่อน
"เธอรู้ไหม.. คำขอพรจากดวงจันทร์น่ะ ถ้าเรามีจิตแน่วแน่มากพอมันก็เป็นจริงได้นะ" จีน่าพูดขึ้น
"อันนั้นมันเป็นประโยคที่ฉันบอกคุณตอนไปเที่ยวน้ำตกไม่ใช่เหรอคะ?" กวางถาม
"ใช่ แต่สิ่งที่ฉันต้องการจะบอกเธอคือ คำอธิษฐานของฉันมันเป็นจริงนะ" จีน่าพูดแล้วหันไปส่งยิ้มให้กวาง
"เฮ้ย! จริงเหรอคะ? แล้วคุณอธิษฐานไปว่ายังไงอ่ะ!?" กวางถามด้วยความแปลกใจ
"พ่อกับแม่เธอไม่เคยบอกเหรอว่าถ้าบอกคำอธิษฐานกับใครแล้วคำอธิษฐานนั้นจะไม่เป็นจริง"
"ประโยคนี้คุณเคยพูดไปแล้วเหอะ" กวางทำหน้าเอือมๆ "แต่เดี๋ยวนะคะ เมื่อกี้คุณเพิ่งบอกว่าฉันนี่คำอธิษฐานของคุณมันเป็นจริงแล้ว"
"แค่ครึ่งเดียว เหลืออีกครึ่งนึง"
"ง่ะ.. แล้วเมื่อไหร่ฉันจะได้รู้ล่ะคะ?"
"อยู่กับฉันจนวันสุดท้ายสิ แล้วฉันจะบอกเธอ ถึงแม้ตอนนั้นเราทั้งคู่จะกลายเป็นยายแก่อายุแปดสิบแล้วก็เถอะ"
จีน่ายกยิ้มมุมปากให้กวางเล็กๆแล้วลุกเดินกลับเข้าห้องไป ทิ้งให้กวางนั่งคำนวนอายุอยู่ใต้ผ้านวมผืนหนาคนเดียว
"เฮ้ย! อีกห้าสิบกว่าปีเลยเหรอ? ไม่เอาอ่ะจีน่าาา ฉันอยากรู้ตอนนี.. อุ๊บ!"
"เก็บเสื้อโค้ตให้ฉันแล้วรีบมานอนได้แล้ว" จีน่าพูดหลังจากโยนเสื้อโค้ตใส่หน้ากวาง "อ้อ! ถ้าไม่เข้ามาภายในครึ่งนาที ฉันจะให้เธอนอนตรงโซฟา"
"อะไรๆ เดี๋ยวสิจีน่า ไม่เอาแบบนี้สิ" กวางพูดพลางพยายามหอบเสื้อโค๊ตของจีน่ากับผ้านวมผืนหน้าเข้ามาในห้อง
"ผ่านไปแล้วห้าวินาที"
"เดี๊ยวววว!! ข้างนอกมันหนาวนะจีน่า คุณจะทำแบบนี้กับฉันจริงๆเหรอ" กวางท้วง
"สิบวินาทีแล้ว" แต่จีน่าก็ยังคงนับต่อไป
"ว๊ากกก!! คุณอย่ากดดันกันแบบนี้เซ่! โอเคๆ จะไปเดี๋ยวนี้แล้วววว!"
พูดจบกวางก็วิ่งเอาเสื้อโค้ทของตัวเองและจีน่าไปแขวนไว้ตรงที่แขวนข้างๆตู้เสื้อผ้าแล้วหอบผ้านวมวิ่งเข้าห้องนอนไป จีน่าแอบขำเล็กๆให้กับท่าทางตื่นๆของกวาง กวางไม่เคยเปลี่ยนไปเลย.. เวลามีเรื่องอะไรฉุกละหุกขึ้นมาก็จะลืมเรื่องทุกอย่างรอบตัวไปซะหมด
นั่นแหละความตั้งใจของเธอ..
กวางจะได้เลิกถามสักทีว่าเธออธิษฐานไปว่าอะไร
หืม? อะไรนะ? ผู้อ่านอยากรู้งั้นเหรอว่าเธออธิษฐานไปว่าอะไร? ทุกคนน่าจะเดาได้นะ มันเป็นคำอธิษฐานง่ายๆที่มีอยู่ทั่วไปในนิยายน้ำเน่า แต่ถึงมันจะน้ำเน่าแค่ไหนก็เถอะ.. จีน่าก็ปรารถนาจะให้คำอธิษฐานของเธอกลายเป็นจริง
คำอธิษฐานที่ว่า..
'ขอให้มีสักวันที่เธอและวรรณปิยะจะได้รักกัน และขอให้ความรักที่เกิดขึ้นนั้นอยู่ชั่วนิรันด์กาล..'
----------------------------------------------------------------------------------
TALK!!! คุยกันหน่อยนะ ^^
แฮร่! ถ้าเรือกวางเจสเป็นเรือที่ฆ่าไม่ตาย เรือกวางจีน่าก็เป็นเรืออมตะพอๆกัน
ตอนนี้ยาวทวดเลยค่ะ จริงๆมันควรตัดเป็นสองตอน.. แต่ไรท์อยากยัดให้เป็นตอนเดียวอ่ะ อ่านยากหน่อยนะคะ ^^;
คราวนี้จบจริงๆแล้วนะ ไม่หลอกแล้ว
อย่าตกใจที่ไม่เห็นไรท์ใส่คำว่า The End หรือ จบบริบูรณ์ ที่ไรท์ไม่ได้ใส่เพราะไม่อยากใส่ค่ะ
ไรท์ไม่อยากให้ความรักของผู้จัดการและโปรแกรมเมอร์จบอยู่แค่นี้ (วรั๊ยยยส์ น้ำเน่าสิ้นดี)
จริงๆตอนนี้เป็นตอนที่ไรท์ตัดบางฉากออกด้วย เลยอาจจะอธิบายรายละเอียดได้ไม่หมด
ถ้าใครสงสัยอะไรก็เม้นถามได้เลยค่ะ เดี๋ยวเราจะเจอกันในสเปเชี่ยลทอล์คอันสุดท้ายก่อนจากลานะคะ
แล้วก็.. ตอนสุดท้ายแล้วนะคะ อยากคอมเม้นท์เรื่องฟิคหรือบอกไรท์ว่าอะไรก็คอมเม้นท์มาเลยค่ะ
หรือจะเขียนเป็นบทวิจารณ์ไม่ก็คำนิยมก็ได้นะคะ เผื่อมีอะไรบกพร่องยังไงไรท์จะได้แก้ไขเนอะ
ขอบคุณทุกท่านที่ให้ความกรุณาอ่านจนจบ บทสรุปของความรัก ค่ะ! ^^
ความคิดเห็น