คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #20 : Chapter 18
07.00
ณ คอนโดน้ำหวาน
เจสซี่กับน้ำหวานนั่งทานอาหารเช้าง่ายๆอยู่ที่โต๊ะอาหาร และนี่ก็เป็นอีกครั้งที่เจสซี่ต้องตื่นแต่เช้ามาทานข้าวกับน้ำหวานทั้งๆที่เธอไม่ได้มีงานตอนเช้า สาวลูกครึ่งนั่งทานอาหารไปมองสาวหน้าหวานที่นั่งอยู่ตรงข้ามเธอไป ทำไมน้ำหวานยังไม่ทานอาหารเช้าสักทีทั้งๆที่เธอทานไปได้กว่าครึ่งจานแล้วนะ เอาแต่กดโทรศัพท์อยู่นั่นแหละ
"พี่น้ำหวานคะ ทานข้าวเช้าได้แล้วค่ะ"
"..........."
น้ำหวานไม่ได้ใส่ใจประโยคนั้นที่เจสซี่พูดแต่กลับนั่งอมยิ้มอยู่กับโทรศัพท์คนเดียวจนเจสซี่แปลกใจ ปกติน้ำหวานไม่ใช่คนติดโทรศัพท์แบบนี้ แล้วทำไมวันนี้ถึงเอาแต่นั่งเล่นโทรศัพท์จนไม่ยอมทานข้าวล่ะเนี่ย?
มีงานเช้าก็ควรจะรีบๆทานข้าวหน่อยไม่ใช่เหรอ..?
"พี่น้ำหวานคะ ได้ยินที่เจสซี่พูดหรือเปล่าคะ?" นางแบบสาวเอ่ยถามอีกครั้ง
"ว่าไงนะคะเจสซี่?" น้ำหวานเงยหน้าขึ้นจากโทรศัพท์แล้วเอ่ยถามสาวลูกครึ่ง เจสซี่ขมวดคิ้วเล็กๆอย่างขัดใจ
แสดงว่าเมื่อกี้ไม่ได้ฟังกันเลยใช่ไหม?
"เจสซี่บอกว่าให้รีบทานข้าวได้แล้วค่ะ"
"เป็นห่วงพี่เหรอคะ?" น้ำหวานถามแล้วส่งยิ้มกรุ้มกริ่มให้เจสซี่
"ก็แค่เตือนค่ะ ถ้าเจสซี่ปล่อยให้พี่น้ำหวานเล่นโทรศัพท์อยู่แบบนั้นพี่คงได้ไปทำงานสายแน่ๆ" เจสซี่ตอบ
"พี่คุยธุระอยู่ค่ะ" น้ำหวานพูดพลางกดล็อคหน้าจอแล้ววางโทรศัพท์ลงบนโต๊ะ
"เจสซี่เพิ่งรู้นะคะว่าคนคุยธุระเขาอารมณ์ดีขนาดนั้น"
"พูดแบบนี้หึงพี่เหรอคะ?" น้ำหวานพูดหยอก
"เฮ่ออออ!" เจสซี่ถอนหายใจยาวๆแล้วกรอกตามองบนเหมือนทุกครั้งที่น้ำหวานพูดอะไรทำนองนี้กับเธอ
"ฮ่าๆๆๆ พี่ล้อเล่นค่ะเจสซี่" น้ำหวานหัวเราะร่วนแล้วพูดต่อ "พี่ก็คุยธุระเรื่องเจสซี่นั่นแหละค่ะ"
"เรื่องเจสซี่?" เจสซี่พูดแล้วชี้นิ้วเข้าหาตัวเองพร้อมเลิกคิ้วขึ้นสองข้างด้วยความสงสัย
"ค่ะ เจสซี่นั่นแหละค่ะ" น้ำหวานพูดแล้วชี้นิ้วไปที่เจสซี่เป็นการยืนยัน
"เจสซี่มีธุระอะไรต้องให้พี่น้ำหวานคุยให้คะ?"
"เจสซี่จำวันที่พี่ไปนั่งดูเจสซี่เดินแบบได้ไหมคะ?" น้ำหวานถาม เจสซี่พยักหน้าขึ้นลงเป็นการบอกว่าจำได้ "เจสซี่ก็รู้ใช่ไหมว่าขุนน่ะเป็นเจ้าของค่ายเอเคซีที่ผลิตทั้งภาพยนตร์ทั้งละครมาแล้วนับไม่ถ้วน"
"รู้สิคะ แล้วทำไมเหรอคะ?" เจสซี่ถาม
"พี่วันนั้นพี่ไปคุยกับขุน เขาบอกพี่ว่ามีแพลนจะสร้างหนังเรื่องนึง" น้ำหวานเว้นจังหวะเล็กน้อยแล้วกระตุกยิ้มมุมปากเล็กๆ "เขาบอกว่านางเอกหนังเรื่องนี้น่ะ อยากได้เป็นนางเอกใหม่แกะกล่อง พี่เลยแนะนำเจสซี่ไป"
"จริงเหรอคะ!?" เจสซี่ถามเสียงดังด้วยความตื่นเต้น "ล.. แล้วคุณชานนท์ว่ายังไงบ้างคะ?"
"ฮ่าๆๆ จะว่ายังไงล่ะคะ"
พูดจบน้ำหวานก็คว้าโทรศัพท์ที่อยู่บนโต๊ะพร้อมลุกขึ้นเดินมายืนซ้อนหลังเจสซี่ มือข้างหนึ่งของน้ำหวานเอื้อมไปโอบไหล่เจสซี่ที่ยังคงนั่งอยู่บนเก้าอี้อยู่ส่วนมืออีกข้างก็ยื่นโทรศัพท์ไปตรงหน้าของเจสซี่ น้ำหวานเปิดแชทที่คุยกับขุนให้เจสซี่ดูแล้วค่อยๆเลื่อนใบหน้าเข้าไปใกล้ๆกกหูเจสซี่แล้วพูดขึ้นข้างหู
"ได้แน่นอนอยู่แล้วค่ะ ก็น้ำหวาน รักษ์ณภัคขอให้เชียวนะคะ" น้ำหวานพูด
"จริงนะคะ!! พี่น้ำหวานไม่โกหกเจสซี่นะคะ!!" เจสซี่หันมามองน้ำหวาน น้ำเสียงที่เจสซี่ใช้พูดมันเต็มไปด้วยความตื่นเต้น
"จะโกหกได้ยังไงล่ะคะ เจสซี่ก็เห็นแล้วนี่นาว่าขุนตอบตกลงโอเคน่ะ" น้ำหวานพูดแล้วพยักเพยิดไปทางแชทในโทรศัพท์
"ขอบคุณพี่น้ำหวานมากๆเลยนะคะ! ขอบคุณจริงๆค่ะ เจสซี่ขอบคุณพี่น้ำหวานมากจริงๆ" เจสซี่พูดรัวๆแล้วยกมือไหว้ขอบคุณน้ำหวานหลายครั้ง
"ฮ่าๆๆๆ พอแล้วค่ะเจสซี่"
น้ำหวานพูดพลางเอื้อมมือไปจับมือที่ไหว้เธออยู่ไว้ นางเอกสาวกระตุกยิ้มมุมปากเล็กๆเหมือนที่ชอบทำแล้วมองเข้าไปในตาคู่สวยของสาวลูกครึ่ง น้ำหวานก้มลงกระซิบที่ข้างหูของเจสซี่อีกครั้ง
"เปลี่ยนจากคำขอบคุณเป็นอย่างอื่นดีกว่านะคะ.."
พูดจบน้ำหวานก็ค่อยๆจรดริมฝีปากลงที่ใบหูของสาวลูกครึ่งพร้อมกับขยับขบเม้มอย่างแผ่วเบา มือที่เคยโอบไหล่อยู่ก็เลื่อนลงไปลูบวนบริเวณสะโพกมนของเจสซี่ น้ำหวานเลื่อนริมฝีปากมากดจูบข้างแก้มหนึ่งครั้งแต่ก็ต้องผละออกด้วยความเสียดายเมื่อเจสซี่ค่อยๆดันไหล่น้ำหวานออกแล้วพูดขึ้น
"แต่ พี่น้ำหวานมีงานตอนเช้านะคะ" เจสซี่พูด
"ไม่เป็นไรค่ะ วันนี้พี่เผื่อเวลาไว้เยอะอยู่" น้ำหวานพูดพร้อมกับก้มลงกดจูบที่หลังใบหูเจสซี่อีกหนึ่งครั้ง "อืม.. สักครึ่งชั่วโมง"
"แต่พี่น้ำหวานแต่งตัวแล้วนะคะ"
"เจสซี่คะ ครึ่งชั่วโมงมีเวลาทำอะไรตั้งเยอะแยะ แต่งใหม่ยังทัน" น้ำหวานเว้นจังหวะขยับตัวมาจ้องหน้าเจสซี่ระยะประชิดแล้วค่อยพูดต่อ "มัดจำไว้ก่อนสักยกนึงแล้วคืนนี้ค่อยมารวบยอดก็ได้ค่ะ"
น้ำหวานพูดแล้วมองหน้าเจสซี่อ้อนๆ เจสซี่เห็นสายตาออดอ้อนที่น้ำหวานส่งมาก็ถอนหายใจเล็กๆ จะให้เธอทำยังไงได้ล่ะ ไหนๆน้ำหวานก็อุตส่าห์ขอบทมาให้เธอแล้ว แถมเป็นบทนางเอกจอเงินซะด้วย คนอย่างน้ำหวานไม่มีทางให้อะไรเธอฟรีๆแน่ๆ เจสซี่มองหน้าน้ำหวานนิ่งแล้วยักไหล่เล็กๆ
ยังไงซะวันนี้เธอก็ต้องโดน จะโดนตอนเช้าหรือตอนดึกสุดท้ายก็โดนอยู่ดี
"ถ้าคิดว่าทันก็ตามใจพี่น้ำหวานแล้วกันค่ะ"
13.00
หลังจากที่กวางกับจีน่าแวะกินข้าวที่ตีนเขาเป็นที่เรียบร้อยแล้วทั้งคู่ก็สลับตำแหน่งกันให้จีน่าขับรถส่วนกวางมานั่งเป็นตุ๊กตาหน้ารถแทน กวางหันมองผู้จัดการคนสวยที่กำลังเครียดกับการขับรถขึ้นเขา คิ้วเข้มๆผูกกันจนแทบจะกลายเป็นโบอยู่แล้ว จริงๆจะให้เธอเป็นคนขับเองก็ได้ แต่จีน่าอ้างว่าเธอไม่เคยมาสักครั้ง กลัวว่าเธอจะพาขับรถตกเขาเลยขอขับเองดีกว่า
จะบ้าเหรอ! ใครจะไปพาขับรถตกเขา นี่ระแวงเกินไปป้ะเนี่ย!?
อ้อ! เกือบลืมบอก พวกเธอสองคนมาเที่ยวพักผ่อนที่รีสอร์ทน้ำตกแห่งหนึ่ง จริงๆแล้วเธอน่ะอยากจะไปทะเล แต่พอลองไปบอกจีน่าดูจีน่าก็ไม่เอา แถมบอกว่ารู้จักรีสอร์ทน้ำตกที่นึง บรรยากาศดีมากๆ ไม่พูดเปล่าด้วยนะ พอเธอถามว่าจะไปน้ำตกจริงๆเหรอจีน่าก็โทรจองรีสอร์ท ณ เดี๋ยวนั้นเลย
เล่นมัดมือชกกันแบบนี้..
แล้วตอนแรกจะถามเธอทำไมวะว่าอยากไปไหน
"จีน่าคะ กาแฟไหม?" กวางเอ่ยถามเมื่อเห็นว่าจีน่าเครียดเกินไปแล้วกับการขับรถขึ้นเขา
"ก็ดี" พูดจบจีน่าก็เอื้อมมือไปหยิบแก้วกาแฟที่กวางยื่นให้มาดูดแบบเอาเป็นเอาตาย
สงสัยจะเครียดมากจริงๆนะเนี่ย..
"จีน่า คุณไหวไหมเนี่ย?"
"ไหว" จีน่าตอบเสียงห้วน
"ให้ฉันขับแทนไหมคะ?" กวางเอ่ยถาม
"นั่งเงียบๆไปเถอะ"
"............"
จบประโยคนั้นของจีน่ากวางก็รูดซิปปากทันที คือที่ถามนี่เธอไม่อยากให้จีน่าเครียดไง แต่ดูเหมือนว่ายิ่งถามจะยิ่งไปกดดันเขามากกว่าแฮะ
โอเค.. เงียบก็ได้
30 นาทีผ่านไป..
"เฮ้อออ! ถึงสักที"
จีน่าพูดแล้วทิ้งตัวลงกับเบาะอย่างโล่งใจที่พาตัวเองและกวางขึ้นมาถึงรีสอร์ทได้อย่างปลอดภัย กวางหันมองคนข้างตัวแล้วก้มลงไปค้นหาอะไรบางอย่างในกระเป๋า
"ยาดมไหมคะ?" กวางถามแล้วยื่นยาดมให้จีน่า
"ขอบคุณ" จีน่ากล่าวขอบคุณแล้วรับมาพัดบริเวณจมูกของตัวเอง
"เหนื่อยมากไหมคะ?" กวางถามแล้วเว้นจังหวะเล็กน้อย "ก็บอกแล้วว่าให้ฉันขับคุณก็ไม่เชื่อ ไม่พาคุณตกเขาหรอกน่า"
"ฉันขับเองได้ แล้วฉันก็ไม่ได้เหนื่อยด้วย" จีน่าพูดพลางสูดยาดมเข้าปอด
"อะๆ ถ้าไม่เหนื่อยแล้วดมยาดมทำไมคะ?" กวางพูดแล้วชี้นิ้วไปที่ยาดมในมือของจีน่าอย่างหยอกล้อ
"งั้นเอาคืนไปเลย" พอได้ยินประโยคนั้นจีน่าก็ยื่นยาดมคืนกวางทันที
"ฉันล้อเล่นค่ะ คุณดมไปเถอะ ฉันรู้นะคะว่าขับรถขึ้นเขามันเหนื่อย" กวางดันยาดมกลับคืนจีน่า
"ก็รู้หนิว่ามันเหนื่อย" พูดจบจีน่าก็เบนหน้าออกนอกหน้าต่าง "เธอขับตั้งแต่ออกจากคอนโดก็ตั้งไกล แล้วยังอยากจะมาขับขึ้นเขาต่ออีก ไม่คิดว่าตัวเองจะเหนื่อยบ้างหรือไง?"
"หือ?" กวางเลิกคิ้วขึ้นสองข้างด้วยความแปลกใจ สมองของโปรแกรมเมอร์สาวกำลังตีความประโยคที่จีน่าพูด
ที่แท้ที่จีน่าไม่ให้เธอขับรถขึ้นเขาเพราะกลัวเธอจะเหนื่อยงั้นเหรอ?
"แล้วนี่จะนอนบนรถหรือไง ไปขนของได้แล้ว จะได้เช็คอิน" จีน่าพูดแล้วเอื้อมมือไปเปิดประตูรถออก แต่ต้องชะงักเพราะกวางพูดขึ้นมาก่อน
"นี่คุณเป็นห่วงฉันเหรอคะ?" กวางเอ่ยถาม
"ถ้าไม่โง่ก็น่าจะรู้หนิ"
พูดจบจีน่าก็หันมองหน้ากวางแล้วยักไหล่เล็กๆจากนั้นค่อยลงจากรถไป ทิ้งให้โปรแกรมเมอร์สาวนั่งยิ้มแล้วถอนหายใจเบาๆให้กับความปากแข็งของผู้จัดการคนเดียวในรถ
ห่วงก็บอกว่าห่วงสิ ปากจะแข็งอะไรขนาดนั้น..
ภายในกระท่อม
พอจีน่ามาถึงห้องก็ทิ้งตัวลงนอนบนเตียงทันที ส่วนกวางก็วางสัมภาระไว้ที่มุมใดมุมหนึ่งของห้องแล้วค่อยๆเดินสำรวจ กระท่อมหลังนี้อยู่ติดลำธารที่มีน้ำตกเล็กเป็นชั้นๆ เอาง่ายๆคือตื่นมาแล้วสามารถลงเล่นน้ำหน้ากระท่อมได้เลย ทั้งกระท่อมทำจากไม้ไผ่ ภายในห้องมีเตียงคู่หนึ่งเตียง ตู้เสื้อผ้า โทรทัศน์ ตู้เย็นและเครื่องปรับอากาศ กวางเดินเข้าไปสำรวจในห้องน้ำ ในส่วนของที่อาบน้ำเป็นฝักบัวกั้นจากส่วนที่เป็นอ่างล้างหน้าด้วยฉากไม้ไผ่ ประตูห้องน้ำเป็นประตูเลื่อน
ประตูเลื่อนที่ไม่มีกลอนอ่ะนะ
มันไม่ใช่เรื่องน่าตกใจสักเท่าไหร่หรอก ส่วนมากรีสอร์ทจะมีห้องไว้สำหรับคู่รักมาฮันนีมูนอยู่แล้ว และห้องน้ำในห้องประเภทนั้นก็จะเป็นแบบว่าไม่มีกลอนบ้าง กระจกใสบ้าง หรือไม่มีประตูไปเลยก็มี คงเอาไว้สำหรับคู่รักที่อยากลองเปลี่ยนบรรยากาศดูบ้างถ้าหากบนเตียงมันจำเจจนเกินไปนั่นแหละ
แต่เธอคงไม่บ้าบิ่นถึงขนาดที่ว่าเดินเปิดประตูเข้าไปตอนที่ผู้จัดการอาบน้ำอยู่หรอก
มั้ง..
กวางหัวเราะขึ้นมาเล็กๆเมื่อนึกได้ว่าตัวเองกำลังแอบคิดเรื่องลามกอยู่ รู้สึกว่าช่วงนี้เธอจะจินตนาการเรื่องทำนองนี้กับผู้จัดการของเธอบ่อยเกินไปซะแล้ว แต่ในขณะที่กวางกำลังจะเลิกคิดเรื่องลามกแล้วเดินไปสำรวจระเบียงต่อ สายตาก็สะดุดเข้ากับร่างสูงของผู้จัดการสาวนอนคว่ำหน้าลงบนเตียงด้วยความอ่อนล้า เสื้อเชิ้ตสีขาวตัวบางทำให้เธอมองเห็นสายสีดำข้างในประกอบกับกางเกงขาสั้นสีดำอวดเรียวขาสวย ดวงตาที่เธอชอบเรียกมันว่าตายั่วนั้นหลับสนิท ริมฝีปากเผยอออกเล็กน้อยด้วยความอ่อนล้าจากการขับรถ
เซ็กซี่ชะมัด..
จากที่ตั้งใจจะเดินไปสำรวจดูระเบียงกลายเป็นว่าเปลี่ยนใจเดินมาหาจีน่าที่นอนอยู่บนเตียงแทน กวางค่อยๆหย่อนตัวลงนั่งบนเตียงข้างๆจีน่าแล้วมองร่างของคนตรงหน้าอย่างพิจารณา ทำไมเรียวขายาวสวยนั้นมันช่างเชิญชวนให้เธอได้สัมผัสซะเหลือเกินนะ..
และไวเท่าความคิด กวางค่อยๆเอื้อมมือไปแตะที่ต้นขาของจีน่าอย่างแผ่วเบา..
หมับ!!
กวางสะดุ้งเล็กๆเมื่อมือเรียวของคนที่นอนอยู่คว้ามือเธอไว้ทันทีที่ปลายนิ้วของเธอสัมผัสกับต้นขาของผู้จัดการ เธอเงยหน้าขึ้นสบตากับจีน่าที่กำลังจ้องเขม็งมาทางเธอ
"ฉันชักไม่แน่ใจแล้วนะว่านี่มันคือมือคนหรือหนวดปลาหมึก" จีน่าพูดพลางเหลือบมองมือของกวางที่โดนเธอจับไว้อยู่
"อ่า.. ก็.. นานๆทีนะคะจีน่า"
"ไม่นานๆทีหรอก เธอน่ะชอบแต๊ะอั๋งฉันตลอด เดี๋ยวสักวันจะโดนฉันเอากาวตราช้างหยอดให้จับอะไรไม่ได้เลยสักอย่าง" จีน่าพูดเสียงดุ
"ง่ะ.. โอเคๆ ไม่ทำแล้วค่ะ" กวางพูดแล้วชูมือขึ้นเหนือหัวสองข้างเป็นเชิงว่ายอมแพ้
"ฮึ! ไอ้ตอนทำงานอยู่ด้วยกันก็ไม่เคยคิดหรอกว่ามันจะหื่นขนาดนี้น่ะ" จีน่าบ่นเล็กๆ "แล้วนี่ขับรถมาตั้งนาน ไม่เหนื่อยหรือไง?"
"ก็นิดหน่อยค่ะ" กวางตอบ
ได้ยินกวางตอบแบบนั้นจีน่าก็พลิกตัวไปอีกทางให้มีพื้นที่สำหรับหนึ่งคนนอนได้ข้างๆเธอ จีน่าตบที่นอนสองสามครั้งแล้วเงยหน้าขึ้นมองกวางที่นั่งอยู่ข้างเตียง
"มานอน" จีน่าพูด
"แต่ฉันว่าจะออกไปดูข้างนอกก่อน.."
"มานอนกับฉัน" จีน่าย้ำอีกครั้ง "ข้างนอกมันไม่ได้หายไปไหนหรอก นอนกับฉันสักตื่นก่อนแล้วค่อยออกไปมันจะเป็นอะไร"
"พูดอย่างกับว่าถ้าฉันไม่รีบนอนคุณจะหายงั้นแหละค่ะ" กวางย้อน
"ถ้าฉันหายเธอก็หาทางกลับบ้านเอาเองแล้วกัน เพราะฉันจะขับรถกลับ" จีน่าเว้นจังหวะเล็กน้อยก่อนจะพูดต่อ "จะมานอนได้หรือยัง?"
"ค่ะๆ นอนก็นอนค่ะ"
พูดจบกวางก็ล้มตัวนอนลงบนเตียงข้างๆจีน่า พอจีน่าเห็นว่ากวางนอนเรียบร้อยแล้วก็วาดแขนขึ้นกอดเอวกวางพร้อมกับซุกตัวเข้าหาเหมือนทุกครั้งที่เธอชอบทำ กวางมองการกระทำของจีน่าแล้วหัวเราะเล็กๆ
"แล้วคุณนอนกอดฉันแบบนี้ไม่นับว่าเป็นการแต๊ะอั๋งเหรอคะ?" กวางถามยิ้มๆ
"ไม่นับ"
"ทำไมล่ะคะ?" กวางถามต่อ
"ก็ฉันเป็นคนกอด"
"แล้วถ้าฉันกอดคุณบ้างล่ะคะ?"
"อันนั้นเรียกแต๊ะอั๋ง"
"อ่าว.."
"เลิกพูดมากแล้วนอนซะ ฉันจะนอนแล้ว"
"ค่ะๆ"
จบบทสนทนาจีน่าก็หลับตาแล้วซบใบหน้าลงที่ไหล่ของกวางเหมือนทุกครั้ง กวางเอื้อมมือไปปัดปอยผมที่ร่วงลงมาปรกหน้าของจีน่าด้วยความเคยชิน ในหัวของเธอก็คิดถึงบทสนทนาเมื่อครู่
อะไรคือการที่เธอแตะเนื้อต้องตัวจีน่าไม่ได้แต่จีน่ากลับแตะเนื้อต้องตัวเธอได้
กวางเผยยิ้มออกมาเล็กๆเมื่อนึกถึงความสองมาตรฐานแบบที่ไม่สามารถหาได้จากจีน่าในออฟฟิศ ถึงเธอจะสามารถทำเป็นเพิกเฉยต่อความสองมาตรฐานนั้นแล้วหน้าด้านแต๊ะอั๋งจีน่าต่อไปได้ก็เถอะ.. แต่ไม่เอาดีกว่า
เธอยังไม่อยากโดนกาวตราช้างหยอดมือเร็วๆนี้หรอกนะ
17.30
พอตื่นก็หิว..
กวางและจีน่าเดินมาที่ร้านอาหารร้านหนึ่งในบริเวณรีสอร์ทนั่นแหละ เธอเพิ่งจะสังเกตว่าในรีสอร์ทนี้มีแขกแค่สองคนคือเธอกับจีน่า ก็แน่ล่ะ.. นี่มันช่วงโลวซีซั่น แถมยังเป็นวันทำงานอีกด้วย พนักงานในรีสอร์ทก็มีเพียงไม่ถึงสิบคน รีสอร์ทนี้อยู่ใบป่าบนเขา มันเงียบ และสงบมาก
เหมือนเธอกับจีน่าเหมารีสอร์ทมาฮันนีมูนยังไงก็ไม่รู้แฮะ?
"จีน่าอยากกินอะไรคะ?" กวางเอ่ยถามคนที่นั่งดูเมนูอยู่ฝั่งตรงข้าม
"อะไรก็สั่งมาเถอะ ฉันกินได้หมดนั่นแหละ" จีน่าตอบพลางปิดเมนูแล้ววางไว้บนโต๊ะ
"อ่า.. ไม่ถูกใจอย่ามาว่ากันนะคะ" กวางดูเมนูแล้วกวักมือเรียกพนักงานที่ยืนอยู่ไม่ไกลนัก "เอาห่อหมกมะพร้าวอ่อน ต้มยำกุ้งน้ำข้น ปลากะพงทอด แล้วก็ข้าวเปล่าสองจาน เครื่องดื่มขอเป็นน้ำเปล่านะคะ"
"ค่ะ รอสักครู่นะคะ" บริกรรับออเดอร์เรียบร้อยแล้วกวางก็กล่าวขอบคุณแล้วหันกลับมาหาจีน่าอีกครั้ง
"จริงๆคุณเคยมาที่นี่แล้วครั้งนึงน่าจะแนะนำฉันบ้างนะคะว่าควรสั่งอะไร" กวางพูดกับจีน่า
"ฉันรู้ว่าเซ้นส์ทางอาหารเธอดีกว่าฉัน" จีน่าเว้นจังหวะเล็กน้อยก่อนจะพูดต่อ "ยังดีที่เธอสั่งห่อหมกมะพร้าวอ่อนด้วย ฉันลืมบอกไปว่าฉันชอบกินอันนี้"
"ที่ฉันสั่งเพราะคิดว่าคุณน่าจะชอบนั่นแหละค่ะ"
"หือ? ทำไมถึงคิดว่าฉันจะชอบล่ะ?" จีน่าถาม
"ฉันว่าคุณน่าจะชอบกินกับข้าวที่ใส่กะทิ" กวางตอบ "เห็นตอนนั้นฉันทำแกงเขียวหวานกับพะแนงให้คุณ คุณก็บอกว่าอร่อย"
"มันไม่เกี่ยวกันหรอก ต่อให้เธอทำผัดเผ็ดกับกะเพราฉันก็บอกว่าอร่อยอยู่ดีนั่นแหละ"
"ฮ่าๆๆ งั้นเหรอคะ?" กวางหัวเราะให้กับประโยคนั้นของจีน่า "งั้นก็คงแค่บังเอิญรู้ใจเลยสั่งถูกล่ะมั้งคะ"
"อืม บังเอิญจริงๆนั่นแหละ" จีน่าพูด "บังเอิญว่าฉันชอบต้มยำกุ้งน้ำข้นกับปลากะพงทอดด้วย"
"เดี๋ยวนะคะ ถ้าจะชอบกินทุกอย่างแบบนี้แล้วมันมีอะไรที่คุณไม่ชอบกินบ้างคะ?" กวางถาม
"หมี่กะทิ" จีน่าตอบสวนอย่างรวดเร็ว
"อ่า.." กวางนิ่งไปเล็กน้อยเมื่อจีน่าบอกว่าอาหารที่เขาไม่ชอบกินคือหมี่กะทิ จริงๆในเมนูเธอก็เห็นนั่นแหละว่ามันหมี่กะทิด้วย ตอนแรกก็คิดจะสั่งนะเพราะเข้าใจว่าจีน่าชอบกินแกงใส่กะทิ
โชคดีจริงๆที่ตัดสินใจสั่งต้มยำกุ้งน้ำข้นแทน..
"อาหารที่สั่งได้แล้วค่ะ"
นั่งรอกันไปสักพักอาหารก็มาเสิร์ฟ ปลากะพงทอดตัวใหญ่ ต้มยำกุ้งน้ำข้น แล้วก็ห่อหมกมะพร้าวอ่อน ทุกอย่างน่ากินมากและที่สำคัญคือได้เยอะมาก เยอะจนพวกเธอสองคนไม่ค่อยแน่ใจว่าจะกินกันหมดหรือเปล่า
"คุณน่ะต้องกินเยอะๆ ช่วงนี้คุณผอมเกินไปแล้วนะ" กวางพูดพลางตักปลาหมึกในห่อหมกใส่จานจีน่า
"อยู่กับเธอฉันต้องอ้วนตายสักวันแน่ๆ" จีน่าพูดพลางมองกวางที่กำลังตักโน่นตักนี่ใส่จานของเธอ
"อ้วนก็ดีค่ะ จะได้ไม่มีใครมาจีบ" กวางพูดแล้วส่งยิ้มตาหยีให้จีน่า
"ขอโทษเถอะ ตอนนี้เธอเห็นว่ามีคนมาจีบฉันสักคนไหมล่ะ?"
"อืม.. ถ้าไม่นับคุณจีก็ไม่เห็นมีนะคะ" กวางทำท่าคิดเล็กน้อยแล้วพูดขึ้น
"จีมันเป็นเพื่อนฉันไหมล่ะ" จีน่าหรี่ตามองกวาง "เห็นไหม ขนาดตอนนี้ผอมยังไม่มีใครมาจีบสักคน แล้วตอนอ้วนฉันจะไปเหลืออะไรล่ะฮะ?"
"เหลือฉันไงคะ" กวางพูดพลางตักข้าวเข้าปาก
"ให้มันจริงเถอะ" จีน่าพูดแล้วกระตุกยิ้มมุมปากเล็กๆ
"แน่นอนค่ะ ฉันทำคุณอ้วน ฉันก็ต้องรับผิดชอบคุณอยู่แล้ว" กวางเว้นจังหวะคิดเล็กน้อยแล้วค่อยพูดต่อ "เอ.. แต่จริงๆตอนนี้ฉันก็อยู่กับคุณอยู่แล้วนี่นา"
"แล้วถ้าฉันไล่ให้เธอไปไกลๆ เธอจะไปไหม?" จีน่าลองถามเล่นๆ
"ไปสิคะ ถ้าคุณไล่ยังไงฉันก็ต้องไปอยู่แล้ว" กวางตอบ "ก็ฉันน่ะยอมคุณมาตั้งแต่ไหนแต่ไรอยู่แล้วหนิ"
"หึ งั้นเหรอ"
จีน่าได้ยินคำตอบของกวางก็อดมีรอยยิ้มเล็กๆไม่ได้ กวางบอกว่าเขายอมเธอมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว มันก็จริงอยู่ที่เขาน่ะยอมให้เธอทุกอย่างจนดูเหมือนว่าเธอเป็นคนถือไพ่เหนือกว่า
นั่นแปลว่ากวางยังไม่รู้.. ว่าจริงๆแล้วเธอน่ะแพ้ให้เขาทุกทาง
ถ้าเรื่องราวของเธอกับกวางเปรียบได้กับการเล่นไพ่ มันอาจจะจริงอยู่ที่ว่าเธอมีไพ่ดีอยู่ในมือหลายใบและเธอเดินเกมจนกวางเข้าใจว่าเธอกำลังถือไพ่เหนือกว่า แต่กวางกลับไม่เคยรู้เลยว่าเธอน่ะกลัวไพ่ใบหนึ่งที่อยู่ในมือเขามากถึงมากที่สุด..
ไพ่ที่ชื่อว่าเจสซี่..
เป็นไพ่ที่กวางคิดว่าคงไม่มีประโยชน์อะไรและเขาคงไม่นึกจะหยิบมันขึ้นมาใช้เร็วๆนี้ กวางไม่รู้ว่าไพ่ใบนั้นแหละมันเป็นไพ่ตาย.. และถ้าเกิดว่าเขาวางมันลงมาในเกมเมื่อไหร่ เธอจะแพ้อย่างราบคาบทันที..
ไพ่ตายที่ชื่อว่าเจสซี่อยู่ในมือกวาง..
ในขณะที่ไพ่ที่ดีที่สุดในมือเธอคือไพ่ที่ชื่อว่าความรัก..
จะเรียกว่าเป็นไพ่ที่ดีที่สุดก็ไม่ถูกนัก เพราะดูเหมือนว่าไพ่ความรักนี่จะส่งผลเสียให้กับคนถือซะมากกว่า เป็นไพ่ที่เธออยากจะทิ้งลงไปให้อีกฝ่ายรับรู้ใจจะขาด แต่กลับตัดใจทิ้งลงจากมือไม่ได้สักที
เพราะเงื่อนไขที่จะทำให้ไพ่ใบนี้ส่งผลคืออีกฝ่ายต้องมีไพ่แบบเดียวกันน่ะสิ..
และเธอค่อนข้างมั่นใจ ว่ากวางไม่ได้มีไพ่ความรักอยู่ในมือ
ถ้าเรื่องราวของเธอกับกวางเปรียบได้กับการเล่นไพ่ มันก็คงเป็นการพนันที่เธอตัดสินใจลงเล่นทั้งๆที่รู้อยู่เต็มอกว่าเธอน่ะเป็นรองเขาทุกอย่าง สิ่งที่เธอทำได้มีเพียงยืดเกมนี้ออกไปเรื่อยๆจนกว่ากวางจะจั่วได้ไพ่ความรักเช่นเดียวกันกับเธอ ถึงมันจะลำบากหรืออาจต้องใช้เวลามากไปสักหน่อย แต่เธอก็ยอม.. ตราบใดที่ไพ่ตายในมือกวางยังไม่ถูกวางลงบนโต๊ะ ต่อให้เธอต้องเสียอะไรมากน้อยแค่ไหนหรือต้องนั่งเล่นเกมนี้กับกวางไปจนตายเธอก็ยอม
จีน่าเทหมดหน้าตักให้กับเกมนี้..
เกมการพนัน.. ที่มีเดิมพันเป็นหัวใจของกวาง
-------------------------------------------------------------------------------------------
TALK!!! คุยกันหน่อยนะ ^^
มาแล้วค่ะตอนที่สิบแปด มาแบบลำบากยากเย็น
สรุปได้ว่าพี่กวางกับผู้จัดการเขาไปเที่ยวน้ำตกกันนะคะ
มีหลายคนบอกว่าอยากให้ไปญี่ปุ่น คือ.. บางทีลางานสามวันมันก็ไม่คุ้มถ้าจะบินไปญี่ปุ่นค่ะ ฮ่าๆๆๆ
ส่วนทะเลนั้นมีคนเสนอมาด้วย แต่ไรท์ก็ยังไม่ถูกใจเท่าน้ำตกอ่ะ ทะเลมันซ้ำเยอะแล้ววว (แล้วจะถามทำไม - -/โดนถีบ)
ในส่วนของตอนนี้ที่เลทเพราะไรท์มัวแต่นั่งหาข้อมูลรีสอร์ทน้ำตกค่ะ
ไรท์ใช้เวลาหนึ่งคืนหมดไปกับการนั่งดูรีวิวรีสอร์ทน้ำตก คือนั่งหาอยู่นั่นแหละค่ะ หาจนกว่าจะได้อันที่ตัวเองพอใจ
พอหาแล้วก็อ่านจนกระจ่างว่ารีสอร์ทเขามีอะไรบ้าง บางทีก็แอบใส่รายละเอียดเล็กๆน้อยๆลงไปด้วย
มันเลยช้าไปนิดนึงค่ะ ไรท์เลยเพิ่งจะได้เขียนในคืนถัดมา
ไรท์เขียนฟิคตอนกลางคืนค่ะ(แถมเขียนช้าด้วย) เลยชอบอัพดึกๆ เพราะตอนกลางวันต้องอ่านหนังสือตามประสาเด็กม.หก ฮ่าๆๆๆ
สปอยตอนหน้า เราจะมาดูกันนะคะว่าพี่กวางกับผู้จัดการเขาจะทำอะไรบ้างในช่วงที่ไปเที่ยวสามวัน -..-
ป.ล.แล้วก็.. มีคนบอกให้ไรท์อัพวันละตอน
อยากจะบอกว่าสองวันต่อหนึ่งตอนไรท์ยังอัพไม่ได้เลยค่ะตอนนี้ ให้อัพวันละตอนคงไม่ไหว /หัวเราะทั้งน้ำตา
ป.ล.2ช่วงนี้ไรท์ใกล้สอบปลายภาคแล้วก็ต้องจัดวันอำลาด้วยค่ะ อาจจะอัพเลทบ้าง แต่จะพยายามไม่ให้เกินหนึ่งถึงสองวันนะคะ ;)
ขอบคุณทุกท่านที่ให้ความกรุณาอ่านจนจบ Chapter 18 ค่ะ! ^^
ความคิดเห็น