ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic] Choose [GinaGwangJazzy]

    ลำดับตอนที่ #17 : Chapter 16

    • อัปเดตล่าสุด 13 ก.พ. 59


    07.00

     

    ณ คอนโดของจีน่า

     

     

                จีน่ายืนตรวจเช็คความเรียบร้อยของตัวเองอยู่ที่หน้ากระจก วันนี้เธออยู่ในชุดเดรสสั้นสีดำ สวมทับด้วยเสื้อสูทตัวยาวสีครีม จีน่ายกมือขึ้นจัดผมที่ยาวประบ่าของเธอให้อยู่ทรงแล้วมองเข้าไปในกระจก

     

     

                เธอดูดีสำหรับวรรณปิยะแล้วหรือยังนะ?

     

                แต่.. มันก็ไม่ได้ต่างจากทุกวันนี่นา

     

     

                คิดได้แบบนั้นจีน่าก็แอบถอนหายใจเล็กๆ ตั้งแต่เธอตัดสินใจคบกับกวางเธอก็เป็นแบบนี้ตลอด ตื่นเช้ากว่าปกติมาแต่งตัวแล้วก็ยืนเช็คตัวเองซ้ำแล้วซ้ำอีกอยู่หน้ากระจก เธอก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะเช็คอะไรนักหนา ทั้งๆที่เธอก็แต่งตัวสไตล์เดิมทุกวันอยู่แล้ว

     

     

                แต่เชื่อเถอะ.. มันเป็นธรรมชาติของผู้หญิงทุกคนที่อยากดูดีในสายตาคนรัก

     

     

                แต่สำหรับเธอมันคงจะยากหน่อย.. ก็แฟนเก่าของคนรักเธอเขาเป็นถึงนางแบบที่ต้องดูแลตัวเองให้สวยและดูดีอยู่ตลอดเวลา ต่างกับเธอที่วันๆเอาแต่ทำงานอยู่ในออฟฟิศไม่ได้พบปะใครนอกจากบอสมะปรางและคนในแผนก ดูแลตัวเองก็ทำบ้างไม่ทำบ้างตามประสาคนงานยุ่งไม่ค่อยมีเวลา

     

     

                แล้วจะเอาอะไรไปเทียบกับแฟนเก่าเขาล่ะ?

     

     

                จีน่าส่ายหัวให้กับความคิดตัวเองแล้วเดินเข้าไปในห้องครัวเพื่อชงกาแฟจิบสักแก้วก่อนออกไปทำงาน นี่ก็ผ่านไปอาทิตย์กว่าๆแล้วตั้งแต่ที่เธอกับกวางตกลงคบหากัน ความสัมพันธ์ระหว่างพวกเธอสองคนมันก็ดี.. ออกจะดีมากเลยล่ะ ดีจนเหมือนกับว่ากวางไม่ได้เพิ่งอกหักและพวกเธอสองคนดูใจกันมานานแรมปีก่อนจะตกลงคบหากัน แต่ในความจริงมันไม่ใช่..

     

     

                ความจริงคือกวางเพิ่งผิดหวังจากคนรักที่เขารักมาก

     

                และปัจจุบัน.. กวางก็ยังรักเขาอยู่

     

     

                จีน่ารู้ เธอรู้ดีว่าต่อให้ตลอดเวลาที่กวางอยู่กับเธอเขาจะทำตัวเหมือนว่าพวกเธอสองคนรักกันดีแค่ไหน แต่ในใจเขาก็ต้องมีบ้างแหละที่คิดถึงแฟนนางแบบคนนั้น มันไม่แปลกหรอกหากว่ากวางจะยังคงคิดถึงและโหยหาเจสซี่อยู่ ก็คบกันมาตั้งหลายปี ถ้าเลิกกันแค่อาทิตย์เดียวแล้วลืมได้หมดใจนี่สิน่าแปลก

     

                หนึ่งอาทิตย์ที่ผ่านมาเธอได้ไปคอนโดกวางอยู่หลายครั้งและก็ได้สังเกตว่าเครื่องใช้ทุกอย่างที่ใช้ในชีวิตประจำวันยังคงเป็นของสำหรับสองคน นั่นแปลว่าเจสซี่ยังไม่ได้ขนของออกไปจากคอนโดนั้น และกวางก็ไม่คิดจะเก็บของของเจสซี่ออกไปไว้ที่อื่น หรือถ้าจะให้เธอแปลลึกลงไปกว่านั้น..

     

     

                ก็แปลได้ว่าสองคนนั้นกำลังรอเวลากลับมารักกันอีกครั้ง

     

                มันน่าสมเพชนะที่จะต้องยอมรับว่ามันคือความจริงที่เธอกลัวที่สุด..

     

     

                เธอกลัวว่าหากวันหนึ่งเจสซี่กลับมา แล้ววรรณปิยะต้องเลือกระหว่างเธอกับเจสซี่ เขาคงเลือกเจสซี่อย่างไม่ลังเลใจ ก็เจสซี่เป็นคนที่เขารักมานาน ผูกพันธ์กันมาก็ตั้งมากมาย ต่างจากเธอที่เพิ่งเจอกันแค่หนึ่งเดือนและเขาก็แค่พลาดมีอะไรกับเธอทำให้พวกเธอตกลงปลงใจคบกันแบบนี้

     

     

                พวกเธอสองคนไม่ได้คบกันเพราะความรัก

     

                วรรณปิยะเขาไม่ได้รักเธอ..

     

     

                ไอ้อาการหึงหวงที่เขาแสดงออกมาถ้าใครได้มาเห็นอาจจะคิดว่าพวกเธอสองคนเป็นคู่รักที่รักกันดีมากๆ แต่ถ้าลองมองดูดีๆมันสังเกตได้ไม่ยากหรอกนะ

     

     

                ว่าความรู้สึกที่กวางมีให้เธอน่ะ มากที่สุดมันก็แค่ 'เกือบจะรัก'

     

                ต่างจากเธอ ที่รักเขาไปแล้วหมดทั้งใจ..

     

     

                จีน่ายกกาแฟขึ้นจิบหนึ่งครั้งแล้วเม้มปากเล็กๆ จริงๆเธอก็แอบเจ็บอยู่เหมือนกันนะ.. คบกับเขาทั้งๆที่รู้ว่าเขาไม่ได้รักเนี่ย แต่ในเมื่อมันไม่มีอะไรจะเสียแล้ว ตัวเธอเขาก็ได้ไปแล้ว ใจเธอก็ให้เขาไปหมดแล้ว ก็คงไม่มีเหตุผลอะไรที่เธอจะต้องปฏิเสธกวางแล้วล่ะ

     

     

                วันนี้ยังไม่รัก วันหน้าค่อยรักก็ไม่เสียหายนี่..

     

     

                สมัยก่อนขนาดคนที่ไม่เคยเห็นหน้ากัน ไม่เคยรู้จักกัน ไม่มีเคยมีความผูกพันธ์ ไม่เคยได้ยินแม้กระทั่งชื่อ พอจับแต่งงานกันอยู่กินด้วยกันไปนานๆเขายังรักกันได้

     

     

                แล้วนับประสาอะไรกับคนที่ 'เกือบจะรัก' ล่ะ

     

                เธอจะทำให้เขารักเธอไม่ได้เชียวหรือ?

     

     

     

    16.45

     

     

                เจสซี่กับน้ำหวานเพิ่งเสร็จจากงานและตอนนี้กำลังนั่งรถกลับคอนโด แต่ในระหว่างที่รถกำลังจะแล่นผ่านบริษัทแห่งหนึ่ง เจสซี่ก็เรียกให้น้ำหวานหยุดรถก่อน

     

                "พี่น้ำหวานคะ จอดรถให้เจสซี่หน่อยค่ะ"

     

                "ทำไมคะ?"

     

                "จอดก่อนเร็วๆค่ะ"

     

                ได้ยินเจสซี่พูดแบบนั้นน้ำหวานก็ค่อยๆหักรถเข้าเทียบฟุตบาท พอรถนิ่งแล้วเจสซี่ก็ถอดเข็มขัดนิรภัยออกแล้วหยิบแว่นกันแดดขึ้นมาใส่ก่อนจะหันไปพูดกับน้ำหวาน

     

                "พี่น้ำหวานกลับบ้านก่อนเลยนะคะ เดี๋ยวสักพักเจสซี่จะตามกลับไป"

     

                "เจสซี่จะทำอะไรคะ?" น้ำหวานถาม

     

                "พี่น้ำหวานจะรู้ไปทำไมคะ?"

     

                เจสซี่ถามกลับ น้ำหวานได้ยินเจสซี่ตอบแบบนั้นก็หันมองรอบๆตัวเผื่อจะมีแลนด์มาร์คอะไรที่ใช้ถามจี้จุดเจสซี่ได้บ้าง ตอนนี้เธอจอดรถอยู่เลยป้ายรถเมล์ไปเล็กน้อย และป้ายรถเมล์นี่ก็อยู่ที่หน้าบริษัทแห่งหนึ่ง..

     

     

              'M&Bc Software'

     

     

                "เจสซี่มาทำอะไรที่บริษัทนี้คะ?" น้ำหวานถาม

     

                "พี่น้ำหวานไม่รู้เรื่องของเจสซี่สักเรื่องจะได้ไหมคะ?" เจสซี่ถามกลับเสียงหน่าย

     

                "อ๋อ มาหาพี่กวางของเจสซี่เหรอคะ? เอ.. เขาทำงานอยู่ที่นี่เองเหรอเนี่ย" น้ำหวานมีรอยยิ้มมุมปากขึ้นเล็กๆเมื่อเห็นว่าตัวเองเดาถูกทาง

     

                "ไม่ใช่นะคะ!" เจสซี่ตอบทันควัน

     

                "ไม่ได้มาหา แล้วเจสซี่มาที่นี่ทำไมคะ?" น้ำหวานถามจี้

     

                "............"

     

                เจสซี่เงียบไปทันทีเมื่อได้ยินน้ำหวานพูดแบบนั้น เธอก็ไม่รู้จะตอบน้ำหวานว่ายังไงดี โอเค เธอมาหากวาง เธอยอมรับ แต่ว่า.. เธอไม่ได้มาหาแบบนั้นนะ

     

     

                เธอมาหาแบบ.. แค่มาดูหน้า มาเช็คว่าเขายังสบายดีอยู่หรือเปล่า

     

                ไม่ได้กะจะเข้าไปคุยด้วยสักหน่อย..

     

     

                "โอเค เจสซี่ไม่ตอบไม่เป็นไรค่ะ เอาเป็นว่าพี่จะจอดรถรอเจสซี่อยู่ตรงนี้ เสร็จธุระเมื่อไหร่เราจะกลับบ้านพร้อมกัน โอเคนะคะ?" น้ำหวานพูด

     

                “เฮ้ออออ!! เจสซี่ไม่เคยห้ามพี่ได้อยู่แล้วนี่คะ"

     

                พูดจบเจสซี่ก็เดินลงจากรถไปนั่งรออยู่ที่ป้ายรถเมล์ ตอนนี้คนยังไม่พลุกพล่านเพราะยังไม่ถึงเวลาเลิกงาน เจสซี่ยกนาฬิกาข้อมือขึ้นมาดู อีกสิบนาทีงานก็จะเลิกแล้ว..

     

                ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าความคิดถึงมันจะพาเธอมาถึงจุดๆนี้ได้ จุดที่เธอทำตัวเหมือนสโตกเกอร์ที่แอบมาตามดูความเป็นไปในชีวิตเขา นี่ถ้าไม่ใช่เพราะว่าพี่กวางโทรหาเธอเมื่อคืนมันคงไม่ทำให้เธอคิดถึงเขามากซะจนยอมมานั่งรอเพียงเพื่อแค่ได้เห็นเขาออกจากบริษัทและขึ้นรถเมล์กลับบ้านหรอกนะ

               

     

    ครึ่งชั่วโมงผ่านไป..

     

     

                ทำไมพี่กวางไม่ออกมาสักทีเนี่ย..

     

                เจสซี่นั่งรอมากว่าครึ่งชั่วโมงแล้ว จากที่ตอนแรกป้ายรถเมล์ว่างๆสามารถนั่งได้คนเดียวสบายๆตอนนี้กลับมีคนยืนอยู่รอบตัวเธอเต็มไปหมดเพราะที่นั่งไม่พอ เจสซี่ยกข้อมือขึ้นดูนาฬิกาอีกครั้ง จะห้าโมงครึ่งอยู่แล้วนะ พี่กวางมัวแต่ทำอะไรอยู่เนี่ย..

     

     

                หรือว่าวันนี้พี่กวางทำโอที?

     

     

                "เจสซี่คะ เจสซี่รออะไรอยู่คะ พี่เห็นคนออกมากันตั้งนานแล้วนะ"

     

                "พี่น้ำหวาน! ออกมาทำไมคะ!"

     

                เจสซี่กระซิบถามด้วยความตกใจเมื่อเห็นว่าอยู่ดีๆน้ำหวานก็โผล่มาหาเธอจากทางด้านหลังป้ายรถเมล์ ให้ตายสิ.. น้ำหวานโผล่มาตอนนี้เท่ากับว่าฆ่าตัวตายชัดๆ คนเยอะขนาดนี้ มีหวังได้โดนรุมทึ้งชัวร์ๆ

     

                "พี่ขี้เกียจรอแล้วนะ พี่กวางของเจสซี่เขาคงไม่ออกมาแล้วมั้งคะ" น้ำหวานพูดพลางมองไปยังหน้าบริษัท

     

                "พี่เขาคงไม่นอนในบริษัทหรอกค่ะ เจสซี่ก็จะรอไปเรื่อยๆจนกว่าพี่กวางจะออกมานี่แหละ ก็บอกแล้วไงคะว่าให้พี่น้ำหวานกลับบ้านไปก่อนก็ไม่เชื่อ"

     

                "ขอโทษนะคะ ใช่คุณน้ำหวาน รักษ์ณภัคหรือเปล่าคะ?"

     

                ยังไม่ทันที่พวกเธอสองคนจะได้คุยกันมากกว่านี้ก็มีเสียงดังขึ้นจากข้างหลังของเจสซี่ พอเจสซี่และน้ำหวานหันไปตามเสียงก็พบผู้หญิงสองคนกำลังมองมาทางร่างบางของนางเอกสาวด้วยความตื่นเต้น

     

     

                ว่าแล้วเชียว.. แว่นกันแดดแค่อันเดียวมันปิดบังความสวยไม่ได้หรอกนะ

     

     

                "ใช่ค่ะ มีอะไรหรือเปล่าคะ?" น้ำหวานตอบ

     

                "กรี๊ดดด! น้ำหวานจริงๆด้วย น้ำหวานคะขอถ่ายรูปด้วยได้ไหมคะ?"

     

                "อ๋อ ได้ค่ะ"

     

                พูดจบน้ำหวานก็ถอดแว่นกันแดดออกแล้วส่งยิ้มให้คนทั้งคู่พร้อมกับเดินไปเซลฟี่กับสองสาวที่หน้าป้ายรถเมล์ ย้ำ.. หน้าป้ายรถเมล์ แล้วคิดว่าออร่าระดับนางเอกมันจะไม่กระแทกตาคนเดินผ่านไปผ่านมาเหรอ?

     

     

                ไม่มีทางอ่ะ..

     

     

                "กรี๊ดดดดด! พี่น้ำหวานนนน"

     

                "ห้ะๆ! อะไรนะ! น้ำหวานเหรอ!?"

     

                "น้ำหวานนนนนน"

     

                "แกดู๊!!!! น้ำหวานเขามาทำอะไรแถวนี้อ่ะแกร๊!"

     

                "น้ำหวานคะ ขอลายเซ็นหน่อยค่าาาาาา"

     

     

                ก็คิดอยู่แล้วแหละว่าต้องเป็นแบบนี้..

     

     

                หลังจากที่นางเอกสาวถอดแว่นกันแดดออกไม่ถึงสามนาทีคนที่ยืนอยู่ในรัศมีสิบเมตรก็วิ่งมารุมทึ้งน้ำหวานอย่างเอาเป็นเอาตาย รุมชนิดที่ว่าเบียดกันจนเจสซี่ต้องถอยออกมาจากบริเวณป้ายรถเมล์เลยทีเดียว ไม่แปลกหรอกถ้าทุกคนจะตื่นเต้นกันขนาดนั้น ก็ปกติน้ำหวานเป็นดาราที่ค่อนข้างจะระวังตัวดีและไม่ค่อยถูกพบเห็นในที่สาธารณะ การปรากฏตัวให้เห็นในที่ที่เกินความคาดหมายแบบนี้มันก็เป็นอะไรที่ค่อนข้างเซอไพร์สเลยล่ะ

     

                เจสซี่ยืนมองน้ำหวานที่ยืนยิ้มและหัวเราะอยู่ท่ามกลางกลุ่มคนเหล่านั้น น้ำหวานดูเป็นสาวสวยและนิสัยดี สมกับที่คนทั้งประเทศมอบความรักให้เธอ ไม่ได้ดูเจ้าเล่ห์เจ้ากลเหมือนตอนที่อยู่กับเจสซี่เลยแม้แต่น้อย

     

     

                นี่แหละนะ.. เขาถึงเรียกวงการมายา

     

     

                "เจสซี่!!!"

     

                เจสซี่สะดุ้งเล็กๆเมื่อได้ยินน้ำหวานตะโกนเรียกชื่อเธอจากใจกลางฝูงชน สายตาประมาณยี่สิบกว่าคู่อยู่ดีๆก็จ้องมาที่เธอเป็นตาเดียวเมื่อน้ำหวานตะโกนเรียกชื่อแล้วมองมาทางเธอแบบนั้น

     

                "มานี่หน่อยค่ะ!!"

     

                น้ำหวานตะโกนเรียกอีกครั้งพร้อมกับกวักมือเป็นเชิงยืนยันว่าให้เธอเดินฝ่าฝูงชนเข้าไปหาจริงๆ เจสซี่เห็นแบบนั้นก็ค่อยๆมองหาช่องทางแล้วเดินเข้าไป พอเธอเดินเข้ามาใกล้ทุกคนก็แหวกทางให้เธอไปยืนคู่น้ำหวานอยู่ตรงกลางฝูงชน น้ำหวานดึงแขนเจสซี่ให้มาอยู่ข้างตัวแล้วพูดป่าวประกาศกับทุกคน

     

                "ทุกคนคะ! นี่เจสซี่ ดาราหน้าใหม่ของน้ำหวานเองค่ะ จะมีละครเร็วๆนี้ ขอให้ทุกคนซัพพอร์ตน้องกันด้วยนะคะ!"

     

                เจสซี่หน้าเหวอไปแวบหนึ่งเมื่อได้ยินน้ำหวานประกาศแบบนั้น ทุกสายตากำลังจับจ้องมาที่เธออย่างพิจารณาจนเธอแอบรู้สึกประหม่าเล็กๆ ต่อให้เธอเคยเดินแบบมาหลายเวทีแล้วก็เถอะ แต่ว่า.. เขาไม่ได้มาจ้องเธอใกล้ขนาดนี้นี่นา

     

                "แนะนำตัวหน่อยสิคะ" น้ำหวานหันมาพูดกับเจสซี่

     

                "สวัสดีค่ะ เจสซี่ค่ะ ฝากเนื้อฝากตัวกับทุกคนด้วยนะคะ"

     

                แต่เจสซี่ก็ไม่ปล่อยให้ตัวเองได้เหวอนาน พอได้ยินน้ำหวานบอกให้แนะนำตัวสาวลูกครึ่งก็รีบถอดแว่นกันแดดออกแล้วเปลี่ยนสีหน้าเป็นยิ้มแย้มพร้อมกับแนะนำตัวด้วยเสียงแจ่มใสเรียกรอยยิ้มจากแฟนคลับน้ำหวานได้เป็นอย่างดี

     

                "เจสซี่น่ารักจังเลยค่ะ"

     

                "สวยมากกกกก"

     

                "สวยขนาดนี้เล่นเป็นนางเอกหรือเปล่าอ่ะ?"

     

                "น้ำหวานดันขนาดนี้สงสัยฉันต้องตามน้องเจสซี่อีกคนแล้วแหละแก"

     

                เสียงแฟนคลับคุยกันดังขึ้นรอบตัวเจสซี่ทำให้สาวลูกครึ่งยิ้มกว้างได้มากขึ้นเพราะเท่าที่เธอได้จับใจความได้พวกเขากำลังชื่นชมเธออยู่ แถมมีหลายคนเริ่มยกโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายรูปเธอบ้างแล้วล่ะ

     

                "ตอนนี้ใครอยากขอถ่ายรูปขอลายเซ็นก็ขอกันให้เต็มที่ไปเลยนะคะ ระวังน้องดังแล้วจะหาตัวยากน๊าา"

     

                น้ำหวานพูดแล้วส่งวิ๊งค์พร้อมกับรอยยิ้มละลายใจให้กับแฟนคลับทุกๆคน ทำเอาเหล่าแฟนคลับพากันแย่งชิงตัวเจสซี่ไปเซลฟี่บ้าง ขอลายเซ็นบ้าง ฉุดกันไปดึงกันมาจนสวยลูกครึ่งต้องหมุนซ้ายหมุนขวาซะหัวหมุนเลยทีเดียว

     

     

                ถึงจะดูวุ่นวายไปหน่อย แต่มันกลับทำให้เจสซี่มีความสุข

     

                ฝันของเธอใกล้เป็นจริงแล้ว..

     

     

                เจสซี่ฝันมาตลอดตั้งแต่วัยเด็กว่าอยากจะทำงานในวงการบันเทิง อยากเป็นดาราที่มีชื่อเสียง ถูกรายล้อมด้วยแฟนคลับที่รักเธอและเธอก็รักพวกเขา ถึงตอนนี้เธอจะยังไม่มีผลงานอะไรโดดเด่นในวงการ แต่ว่าน้ำหวานกลับปูทางหาแฟนคลับให้เธอเป็นอย่างดี

     

                พี่น้ำหวานเนี่ย.. หาให้เธอได้ทุกอย่างจริงๆเลยเนอะ

     

     

                "ตรงนั้นเขารุมอะไรกันน่ะ?"

     

                จีน่าพูดขึ้นเมื่อเดินออกมาจากบริษัทแล้วเห็นคนกลุ่มใหญ่รุมกันอยู่ที่ป้ายรถเมล์ ทั้งๆที่ความจริงแล้วคนไม่น่าจะไปรอขึ้นรถเมล์กันเยอะขนาดนั้น กวางที่เดินออกมาพร้อมๆกับจีน่าก็สงสัยเหมือนกันจึงพยายามเขย่งยืดตัวขึ้นเพื่อมองไปยังตรงกลางฝูงชน

     

     

                สงสัยเจอดาราล่ะมั้ง?

     

     

                "อ๋อ เขารุมคุณน้ำหวานกันอยู่ค่ะ" กวางตอบเมื่อมองเห็นปลายหัวของคนที่อยู่ตรงกลาง

     

                "น้ำหวาน รักษ์ณภัค ที่เป็นดาราน่ะเหรอ? มาทำอะไรแถวนี้?" จีน่าถาม

     

                "นั่นน่ะสิคะ" กวางพูดขึ้น แต่แล้วสายตาของเธอก็สะดุดกับร่างสูงที่คุ้นเคยยืนอยู่ท่ามกลางฝูงชนเช่นกัน "เจสซี่.."

     

                "หือ?"

     

                จีน่าได้ยินกวางเรียกชื่อนางแบบสาวก็หันขวับไปยังตรงที่เขารุมๆกันอยู่ทันที ด้วยความที่จีน่าสูงกว่ากวางเล็กน้อยและองศาที่เธอยืนอยู่มันเป็นมุมที่สามารถมองเห็นสาวลูกครึ่งได้พอดิบพอดี เธอจึงสามารถเห็นเจสซี่ได้อย่างชัดเจน

     

     

                เจสซี่มาทำอะไรแถวนี้..?

     

     

                จีน่าหันไปมองกวาง รายนั้นกำลังยืนมองสาวลูกครึ่งที่ถ่ายรูปและพูดคุยกับแฟนคลับอย่างสนุกสนานด้วยแววตาเศร้าๆ ก็แน่ล่ะ.. จะให้ไม่เศร้าได้ไง เห็นแฟนเก่ายืนอยู่ตรงหน้าทั้งๆที่เพิ่งเลิกกันไปไม่นานเนี่ย

     

                กวางมองเจสซี่ที่ถูกคนรายล้อมมากมายและเจสซี่กำลังพูดคุยกับพวกคนเหล่านั้นอย่างมีความสุข เจสซี่บอกกับเธอเสมอว่าสักวันจะต้องมีแฟนคลับเป็นของตัวเอง และตอนนี้เจสซี่กำลังเข้าใกล้สิ่งที่ตัวเองเคยพูดไว้อีกก้าวหนึ่งแล้ว..

     

     

                ทำไมดูเหมือนชีวิตเจสซี่ที่ไม่มีเธอมันดีจังเลยเนอะ..

     

     

                เจสซี่ดูมีความสุข สดใส และเปล่งประกายเมื่ออยู่ท่ามกลางผู้คน ต่างจากเธอ.. ที่เป็นแค่มนุษย์เงินเดือนธรรมดาๆคนหนึ่งที่ไม่มีแม้แต่รถจะขับ และยิ่งเธอได้มาเห็นเจสซี่กำลังไปได้สวยในสายงานที่เจสซี่รักแบบนี้ เธอยิ่งรู้สึกเหมือนว่าเจสซี่ไปไกลเกินกว่าที่จะสามารถเดินกลับมาหาเธอได้อีกแล้ว

     

     

                สักวันเจสซี่จะกลายเป็นดาวที่ประดับอยู่บนท้องฟ้า

     

                และถึงตอนนั้น.. เธอคงจะเป็นแค่คนธรรมดาที่ทำได้เพียงเฝ้ามองดวงดาว

     

     

                "ไปกันเถอะ"

     

                เสียงของจีน่าปลุกให้กวางตื่นจากภวังค์ความคิด ผู้จัดการสาวเดินนำโปรแกรมเมอร์ไปที่รถBMWสีขาวคันเดิม จีน่านั่งประจำที่คนขับเพราะกวางยังคงใส่ฟิงเกอร์สปลินท์อยู่ จะให้ใช้กวางขับรถมันก็ดูจะทำบาปไปนิดนึง

     

                พอทั้งคู่คาดเข็มขัดนิรภัยเรียบร้อยจีน่าก็สตาร์ทรถและขับออกจากบริษัทไป แต่ในขณะที่ขับผ่านป้ายรถเมล์กวางก็ยังไม่วายหันมองเจสซี่ที่ยืนอยู่ตรงนั้นจนเหลียวหลัง จนเสียงเพลงที่จีน่าเปิดจึงสามารถดึงความสนใจของกวางให้กลับมาที่คนข้างกายอีกครั้ง

     

                "จีน่าฟังเพลงของเทเลอร์ สวิฟด้วยเหรอคะ?" กวางเอ่ยถามเมื่อได้ยินเพลงฮิตของเทเลอร์

     

                "จีมันโหลดไว้ ฉันก็ฟังบ้างตามอารมณ์" จีน่าตอบ

     

     

                But she wears short skirts

                          แต่เธอคนนั้นสวมกระโปรงสั้น 

                I wear T-shirts

                          ส่วนฉันสวมเสื้อยืด

                She's Cheer Captain

                          เธอเป็นถึงกัปตันเชียร์ลีดเดอร์

                and I'm on the bleachers

                      ส่วนฉันนั่งอยู่บนอัฒจันทร์ ได้แต่ฝันว่า

                Dreaming about the day when you wake up and find

                     ได้แต่ฝันว่าวันหนึ่งเธอตื่นขึ้นมาและพบว่า

                That what you're looking for has been here the whole time

                      สิ่งที่เธอกำลังมองหาอยู่นั้นได้อยู่ที่นี่มาโดยตลอด

     

     

                "ตามอารมณ์นี่อารมณ์ไหนคะ? ปกติไม่เห็นเคยเปิดเพลงนี่นา" กวางถามอีกครั้ง

     

                "ฟังๆไปเถอะ"

     

     

                If you could see that I'm the one who understands you

                         หากเพียงแค่เธอเห็นว่าฉันเป็นเพียงคนเดียวที่เข้าใจเธอ

                Been here all along,

                     อยู่ตรงนี้มาโดยตลอด

                so why can't you see?

                     ทำไมเธอถึงไม่เห็นสักทีนะ

     

     

                จีน่าเหลือบมองกวางที่นั่งเคาะนิ้วฮัมเพลงตามอย่างสบายใจ ที่กวางถามว่าตอนนี้เธอกำลังอยู่ในอารมณ์ไหนน่ะเหรอ? ก็ลองฟังเพลงดูสิ.. จริงๆเธออยากจะตะโกนเป็นเนื้อเพลงให้กวางฟังเลยด้วยซ้ำจะได้รู้ให้กันชัดๆไปเลยว่าเธอน่ะอยู่ในอารมณ์ไหน แต่ก็ทำได้เพียงแค่ร้องท่อนสุดท้ายตามอย่างแผ่วเบาให้เหมือนคนพูดขึ้นลอยๆ

     

     

            You belong with me

                    เธอน่ะควรคู่กับฉัน

     

     

                "You belong with me.."













    ----------------------------------------------------------------------------------

    TALK!!! คุยกันหน่อยนะ ^^

    ตอนที่สิบหกมาแล้วนะคะ
    เป็นตอนที่สั้นที่สุดและไรท์ไม่มั่นใจในตัวเองที่สุดเท่าที่เขียนมา ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน
    รู้สึกเหมือนอยากเขียนใหม่ตลอดเวลา ._.
    คงเพราะมันเป็นตอนที่ชี้ให้เห็นถึงความคิดความรู้สึกของทั้งสามตัวละครหลักล่ะมั้งคะ..
    บอกไว้ก่อน สิ่งที่ไรท์เขียนลงไปมันไม่ใช่ทั้งหมดที่ตัวละครคิดนะคะ บางทีเขาอาจจะมีความคิดที่ซับซ้อนกว่านั้นก็ได้..

    อันนี้นอกเรื่องค่ะ มีคนถามไรท์ไว้ตั้งแต่ประมาณสองตอนที่แล้วว่าไรท์อยากเรียนคณะอะไร
    ไรท์อยากเรียนนิเทศค่ะ อยากเรียนพวกวารสาร สื่อสารมวลชน อะไรทำนองนี้
    ใครที่เรียนสายนี้อยู่หรืออยากเข้าสายนี้เหมือนกันแนะนำไรท์กันได้นะคะว่าควรแอดเข้าที่ไหนดี
    เพราะตอนนี้ มธ ก็ทอดทิ้งไรท์ไปแล้ว ส่วนที่เล็งๆไว้ก็มี มช ค่ะ ไรท์มีความใฝ่ฝันอยากวิ่งขึ้นดอย ฮ่าๆๆๆ
    ใครเคยขึ้นดอยมาแล้วเล่าประสบการณ์ให้ไรท์ฟังบ้างนะคะ เผื่อปีการศึกษาหน้าจะได้ไปวิ่งขึ้นกับเขาบ้าง


    ขอบคุณทุกท่านที่ให้ความกรุณาอ่านจนจบ Chapter 16 นะคะ! ^^

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×