ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    (ฟิคหัวขโมยแห่งบารามอส) ก่อนจะเกิดเรื่องวุ่นๆของเฟรินและคาโล

    ลำดับตอนที่ #9 : บทที่ 8 เพียงเธอเท่านั้น

    • อัปเดตล่าสุด 22 ก.ย. 49


    บทที่ 8  เพียงเธอเท่านั้น



    ท้อง ฟ้าที่เปลี่ยนเป็นสีดำบ่งบอกถึงเวลาค่ำที่คืบคลานเข้าสู่โรงเรียนพระราชา  ช่วงเวลาที่ควรมีแต่ความเงียบสงบ  เนื่องด้วยไม่มีผู้ใดอยู่นอกป้อมพักของตนเอง  เว้นเพียงผู้ที่ต้องปฏิบัติหน้าที่เวรยามรักษาการณ์หรือผู้ที่ได้รับอนุญาต แล้วเท่านั้น

    หากแต่ภายในสวนสวยหลังป้อมอัศวินกลับไม่เป็นเช่นนั้น..



    ทันที ที่ร่างบางของหญิงสาวผู้เป็นเจ้าของดวงใจพลัดตกลงไปในสระกว้าง  ไม่ทันได้รีรอหรือไตร่ตรองแต่อย่างใด  เหมือนร่างกายขยับไปเองตามความรู้สึกคนึงหา  เหมือนสัญชาตญาณสั่งการให้กระทำในชั่วพริบตา  คาโลรีบกระโจนตามลงในสระกว้างนั้นทันที

    พื้นน้ำแข็งที่เปราะบางถูก กระแทกให้แตกกระจายออกด้วยร่างแกร่งของเจ้าชายหนุ่มแห่งแดนนักรบ  ก่อนจะดำผุดดำว่ายควานหาสาวน้อยผู้เป็นเจ้าของดวงใจ..

    เวลาผ่านไป ไม่ถึงอึดใจก่อนผิวน้ำแข็งที่สงบเงียบของสระสวยจะค่อยๆ ปริแตก  น้ำเย็บเฉียบที่ถูกพลังมหาศาลผลักให้กระจายออกด้านข้างค่อยๆ แข็งตัวกลายเป็นหุบเขาน้ำแข็งในทันใด  และภายในศูนย์กลางหุบเขาน้ำแข็งนั่น  ปรากฏร่างของเจ้าชายแห่งแดนนักรบที่กำลังประคองร่างอันไม่ไหวติงของเจ้า หญิงแห่งแดนปีศาจ



    “เฟริน!!  เฟริน..  ฟื้นสิ..  เฟริน!!  อย่าเป็นอะไรนะ..  เฟริน!!” 

    เสียง พร่ำเรียกชื่อหญิงสาวที่นิ่งราวกับร่างไร้วิญญาณดังก้องไปทั่วบริเวณ  ใบหน้าที่ซีดขาวของหญิงสาวเหมือนตอกย้ำอาการให้หนุ่มแดนนักรบต้องไหวหวั่น  คฑาประจำตัวชายหนุ่มปรากฏขึ้นบนมือแกร่งในทันทีพร้อมวิญญาณหมอเทวดาประจำ คฑาที่ปรากฏร่างออกมาตามคำสั่งเจ้าชายหนุ่มผู้เป็นนาย  รวมถึงวิญญาณผีสาวที่ตามติดออกมาด้วย

    “ลุงหมอ!!  รีบดูอาการเฟริน..  เร็ว!!”  เสียงสั่งการอันแสนร้อนรนของบุรุษหนุ่มผู้เป็นนายเรียกให้วิญญาณหมอเทวดา ประจำคฑารีบรุดเข้าตรวจอาการนายหญิงของตนที่ยังคงนิ่งสนิททันที

    “ ท่าจะกลืนน้ำเข้าไปมาก  อย่างไรเสียต้องทำให้มีสติกลับขึ้นมาก่อน”  ว่าแล้วมือโปร่งแสงของหมอเฒ่าก็วางบริเวณกึ่งกลางทรวงอกของหญิงสาวที่ยัง ไร้สติ  ก่อนจะลงมือผายปอดให้นายหญิงของตน

    เวลาผ่านไปสักพักหนึ่งกว่าร่างงามจะสำลักน้ำออก  “แค่ก  แค่ก!!”

    “เฟริน!!”  ชายหนุ่มรีบปราดเข้าดูอาการทันทีที่หญิงสาวยอดดวงใจเริ่มฟื้นคืนสติ

    “หนาว ~~”  คำแรกจากโอษฐ์เจ้าหญิงสองดินแดนที่ใบหน้าหวานยังคงขาวซีด  ริมฝีปากที่เคยแดงระเรื่อกลายเป็นสีม่วงอย่างชัดเจน  ในขณะที่นัยน์ตาสีน้ำตาลที่ปรือขึ้นเล็กน้อยก่อนจะหลับไปอีกครั้งหนึ่ง

    “นาย ท่านพานายหญิงขึ้นไปพักผ่อนบนห้องก่อนเถอะเจ้าค่ะ”  ผีสาวร้องทักเตือนสติให้ชายหนุ่มรีบโอบร่างบางขึ้นก่อนจะเดินกึ่งวิ่งกลับ ห้องพักของหญิงสาวอย่างรวดเร็ว

    ******************************************************************


    ภายในห้องพักของเจ้าหญิงสองดินแดน  คาโลวางร่างบางของหญิงสาวไว้บนเตียงกว้างอย่างแผ่วเบาก่อนจะหลีกทางให้ผี สาวช่วยผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าที่เปียกชื้นและให้หมอเทวดาเข้าทำการตรวจรักษา อีกครั้งหนึ่ง

    “เฟรินเป็นอะไรหรือเปล่า”  คาโลถามย้ำไปยังหมอเฒ่าที่กำลังตรวจร่างกายของหญิงสาวที่ยังไม่ฟื้นคืนสติ

    “คาดว่าไม่มีอะไรน่าห่วงแล้วขอรับ”  หมอโอเดลตอบ  “แต่ก็ควรให้พักผ่อนให้เต็มที่และรักษาร่างกายให้อบอุ่นจะได้ไม่เป็นไข้”

    คำตอบที่ทำให้ชายหนุ่มเบาใจได้เปราะ  หากแต่คำตอบนั้นยังไม่ตรงประเด็นความต้องการ  “แล้ว..  เอ่อ..  เฟริน..  เอ่อ”

    “อะไรหรือขอรับ”  หมอเทวดาถามกลับเมื่อเห็นเจ้านายหนุ่มมีน้ำเสียงอ้ำอึ้ง

    คาโลสูดลมหายใจให้เต็มปอดอีกครั้งก่อนกลั้นใจเอ่ยถามสิ่งที่อยากรู้กับหมอเฒ่า  “แล้วลูก..  ลูกในท้องของเฟริน..”

    คำ ถามที่สร้างความฉงนแก่หมอเจ้าของไข้  โอเดลหันมองหญิงสาวคนไข้ผู้เป็นนายหญิงของตนอีกครั้งก่อนหันกลับมาสบเจ้า นายหนุ่มเพื่อตอบคำถาม  “นายท่าน..  คือว่า..”


    “นายคิดว่าฉันท้องงั้นหรือ”


    เสียงหวานของหญิงสาวที่อยู่บนเตียงดังขึ้นกลบคำตอบของหมอเฒ่า  เสียงที่เรียกให้ทั้งเจ้าชายและสองวิญญาณต้องหันไปสบ  “เฟริน!!”

    “นายเป็นยังไงบ้าง”  คาโลถามขึ้นทันทีขณะขยับกายเข้าไปช่วยพยุงร่างบางที่พยายามลุกให้นั่งพิงพนักเตียง

    หญิงสาวไม่ตอบหากแต่ซักคำถามเดิม  “ที่นายพูดเมื่อกี้..  นายคิดว่าฉันท้องหรือ”

    “เอ่อ..”  สีระเรื่อฉาบทั่วใบหน้าเจ้าชายรูปสลักก่อนจะจางหายไปอย่างรวดเร็วเมื่อสายตาคมเข้มตวัดไปสบหมอเทวดาอีกครั้งเพื่อหาผู้ช่วย

    “นายหญิงไม่ได้ตั้งครรภ์”

    เสียง ตอบของหมอโอเดลสร้างความฉงนให้เกิดแก่เจ้าชายบนยอดหอคอยงาช้าง  ชายหนุ่มหันมองหญิงสาวบนเตียงก่อนจะหันไปขอคำตอบซึ่งก็คือการพยักหน้ารับ ของหมอเฒ่า  คำตอบที่ไม่ทำให้ความฉงนนั้นจางหายเมื่อหวนคิดทบทวนถึงอาการที่แสดงออกมา ของหญิงสาวต้นเรื่องรวมถึงสิ่งที่ได้รับรู้มาในช่วงหลายวันนี้..

    ไม่ได้ท้อง..  งั้นหรือ..
    แล้วอาการของเฟรินนั่นล่ะ..  อาการที่เหมือนกับที่แม่ค้าขายแอปเปิ้ลบอก..


    “ฉันเหมือนคนท้องนักหรือ..  ฮึ..  นายถึงได้คิดว่าฉันท้องน่ะ”  เฟรินว่าต่ออย่างฉุนนิดๆ ที่ถูกเข้าใจผิด

    “เอ่อ..  ก็..  ฉันเห็นนายอาเจียน..”  คาโลตอบเสียงอ่อน  “แล้วนายก็ดูเหมือน..  ไม่ค่อย..  แข็งแรง..”

    “แค่ ฉันอาเจียนก็ว่าฉันท้อง  แล้วถ้าฉันอุ้มเด็กทารก  นายคงไม่คิดว่าฉันมีลูกแล้วหรอกนะ”  หญิงสาวสวนขึ้นทันทีที่ได้ยินคำตอบของเจ้าชายหนุ่มผู้อ่อนประสบการณ์  “อีกอย่าง  วันนั้นฉันกำลังปวดฤดูนางอยู่  จะให้แข็งแรงเป็นปกติได้ยังไงล่ะ..  คิดบ้าๆ..”

    “แต่ว่าพวกเรามี..  เอ่อ..  กันแล้วนี่นา..  ฉันก็เลย..  เอ่อ..”  เสียงเบากุกกักรวมถึงใบหน้าเข้มที่ขึ้นสีระเรื่อ  ชวนให้ผู้ฟังที่พอจะเดาคำพูดถัดไปได้ต้องกระดากอายตาม

    หากแต่นั่น ต้องไม่รวมถึงหัวขโมยสาวแห่งบารามอส  เสียงหัวเราะขบขันในท่าทีและอาการของชายหนุ่มคนรักดังขึ้นในทันที  “ฮ่าฮ่า..  นายนี่อ่อนต่อโลกชะมัดเลย..  ฮ่าฮ่า..  ใช่ว่าทุกคนที่ทำทำแบบนั้นจะต้องท้องนี่นะ..  คิดได้ยังไงเนี่ย..  ฮ่าฮ่า”

    เจ้าคาโลนี่สมกับอยู่บนยอดหอคอยงาช้างจริงๆ..  ช่างไม่รู้อะไรเกี่ยวกับผู้หญิงหรือการมีลูกบ้างเลยนะเนี่ย..

    ชายหนุ่มหันหน้าระเรื่อหนีดวงหน้าหวานที่กำลังหัวเราะขำขันอย่างไม่สมหญิงก่อนจะส่งสายตาดุจัดที่ไม่เคยเป็นผลต่อหญิงสาวกลับไป

    ภาพ หญิงสาวยอดดวงใจที่กำลังหัวเราะขำขันกับอาการ  ‘หน้าแตก’  ของเขาอย่างเป็นบ้าเป็นหลังนั้น  แม้จะไม่เรียกว่าสมควรนักกับสถานะการเป็นเจ้าหญิงสองดินแดนหรือว่าที่ ราชินีของเขา  หากแต่กลับสร้างความสบายใจให้แก่ชายหนุ่มเป็นอย่างมากเมื่อเทียบกับภาพของ เจ้าหล่อนที่นอนนิ่งไม่ไหวติงเมื่อครู่..

    ภาพที่ทำให้เขาแทบขาดใจเมื่อคิดว่าต้องสูญเสียเธอกับลูกไปตลอดกาล..



    “ไม่ ใช่ว่าอาการอาเจียนจะเป็นอาการแพ้ท้องเสมอไปนะขอรับ”  เสียงอธิบายอาการของหมอเทวดาดังขึ้นเรียกเจ้านายทั้งสองให้หลุดจากโลกส่วน ตัว  “ขอถามนายหญิงก่อนว่าฤดูนางที่มาปกติหรือไม่”

    “ก็ปกตินี่นา..  5 วันพอดี..  เพิ่งหมดไปเมื่อเช้านี้เอง”  หญิงสาวตอบอย่างไม่มีความอายต่อเจ้าชายหนุ่มเดียวในห้องเลยสักนิด

    “ฤดูนางของนายหญิงมาปกติ  ก็หมายความว่านายหญิงไม่ได้ตั้งครรภ์แล้วเจ้าค่ะนายท่าน”  ผีสาวขยายความ

    “การ ตั้งครรภ์จะทำให้ผู้หญิงขาดฤดูนางไปราว 9 - 10 เดือน  เว้นแต่หากเป็นเลือดล้างหน้าเด็กซึ่งอาจเกิดขึ้นได้  แต่เลือดที่ออกมานั้นจะน้อยกว่าฤดูนางที่มาเป็นประจำ”  หมอโอเดลอธิบายให้นายหนุ่ม(ผู้อ่อนต่อโลก)ของตนฟังต่อ  “ฤดูนางของนายหญิงมา 5 วันและเพิ่งหมดวันนี้  แสดงว่าช่วงนี้ยังอยู่ในระยะปลอดภัยจากการตั้งครรภ์หากมีสัมพันธ์ฉันท์ชาย หญิง  เพราะอยู่ในช่วงเจ็ดวันก่อนและหลังฤดูนางมาวันแรก  แต่กระนั้นการนับระยะปลอดภัยเช่นนี้ก็ไม่เสมอไปในทุกครั้งหากว่าฤดูนางของ นายหญิงมาไม่ตรงเวลา”

    “แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่าจะมีการตั้งครรภ์หรือไม่ล่ะ”  ชายหนุ่มเอ่ยถามขึ้นหลังจากเงียบฟังมาระยะหนึ่ง

    “การ ตรวจสอบจะมีการตั้งครรภ์หรือไม่นั้นดูได้จากหลายอย่าง  ซึ่งส่วนใหญ่ดูได้จากอาการที่แสดงออกของนายหญิง  อาทิเช่น  ฤดูนางขาดไปมากกว่า 10 วัน  เต้านมคัดและเจ็บหรือบางครั้งรู้สึกปวด  คลื่นไส้อาเจียน  เวียนศรีษะ  หน้ามืดจะเป็นลม  ทานอาหารไม่อร่อยหรือทานแล้วอาจอาเจียน  หรืออยากอาหารที่แปลกไปจากเดิม  ฯลฯ  ซึ่งโดยทั่วไป  อาการแพ้ท้องเหล่านั้นมักจะเกิดขึ้นหลังจากมีการตั้งครรภ์ไปแล้วประมาณ 6 สัปดาห์”  หมอโอเดลตอบ

    “แล้วถ้าแค่ครั้งเดียวจะมีโอกาสตั้งครรภ์หรือเปล่า”  คาโลถามย้ำอีกครั้ง

    “ถ้าจะตั้งครรภ์ครั้งเดียวก็พอแล้วเจ้าค่ะ”  ผีสาวตอบแทน

    “แต่กรณีของนายหญิงข้าคิดว่าไม่ได้การตั้งครรภ์หรอกขอรับ”  หมอเทวดากล่าวสรุป



    ชายหนุ่มทรุดตัวลงอย่างหมดแรงข้างเตียงหญิงสาวหลังจากสั่งให้วิญญาณทั้งหลายกลับเข้าคฑาและเก็บคฑาเข้าตู้เรียบร้อยแล้ว

    “ไม่ได้ตั้งครรภ์..  จริงๆ งั้นสินะ..”  เสียงเบาๆ  หากชัดแจ๋วในโสตประสาทของหัวขโมย  “ดีแล้วล่ะ..  โชคดีจริงๆ..  ฮะฮะ..”

    คำ ที่ชวนให้ผู้ฟังต้องคิดไปในแง่ที่ไม่ค่อยชอบใจนัก  โดยเฉพาะยิ่งได้เห็นใบหน้าขาวที่บัดนี้ผ่อนคลายลงอย่างชัดเจนแล้วนั้น  ก็ยิ่งทำให้ความคิดของหัวขโมยขี้งอนเตลิดไปใหญ่

    “ดีใจอะไรนักหนา”  เสียงหวานโพล่งขึ้น  “ไม่อยากให้ฉันท้องขนาดนี้เชียวหรือ”

    ชายหนุ่มจ้องใบหน้าหน้าหวานอีกครั้งก่อนจะตอบด้วยเสียงเย็นๆ เช่นเคย  “..ใช่”

    คำ ตอบที่เรียกอาการฉุนจัดให้แก่หญิงสาวทันที  “นั่นสินะ..  หัวขโมยอย่างฉันมันผู้หญิงก็ไม่ใช่ผู้ชายก็ไม่เชิง  ถ้าท้องขึ้นมาคงแปลกพิลึก  ถ้าให้ดีต้องเป็นแม่ค้าสาวนั่นสินะ  ถึงจะมีสิทธิมีลูกให้กับเจ้าชายแห่งคาโนวาล



    ใบหน้าเข้มที่บัดนี้ฉงนยิ่ง  เขาไม่เข้าใจในคำพูดของเจ้าหล่อนเลยสักนิด  “นายว่าอะไร..”

    “ก็ตรงตามที่นายพูดนั่นแหละ”  หญิงสาวตวาดใส่  ทั้งที่จังหวะอารมณ์นั้นกรุ่นโกรธแต่กระนั้นน้ำตาเจ้ากรรมกลับทะลักออกมาอีกครั้ง  “นายไม่อยากมีลูกกับฉันใช่ไม๊ล่ะ!!  นายถึงดีใจนักหนาว่าฉันไม่ได้ท้องน่ะ”

    คำกล่าวหาที่ไม่เคยอยู่ในความคิดของจำเลย  ชายหนุ่มคิดในทางตรงข้ามแทบจะตลอดเวลาด้วยซ้ำ

    “เฟริน~~  ไม่ใช่อย่างที่นายคิด..”  คาโลรีบกล่าวแก้  หากแต่ไม่ทันจะได้กล่าวอะไรเสียงหวานก็สวนกลับ

    “ไม่ใช่แล้วอะไรล่ะ!!  ผู้หญิงคนนั้นคงเก่งมากสินะถึงได้มัดใจเจ้าชายน้ำแข็งบนยอดหอคอยงาช้าง อย่างนาย  กระทั่งยอมพากันไปเลือกซื้อแหวนได้เนี่ย”  เฟรินว่าต่อ  เหตุการณ์ในตลาดตอกย้ำเข้าสู่จิตใจที่เปราะบางนั่นอีกครั้ง  “ฉันก็แค่หัวขโมยใจง่ายที่หลงเชื่อใจมอบความสาวให้นายเหยียบย่ำ..  ไม่มีค่าอะไรในความรู้สึกของนายอยู่แล้ว”

    คำต่อขานที่สะท้านไปถึงขั้วหัวใจ  โดยเฉพาะยิ่งเมื่อได้เห็นน้ำน้อยๆ ที่ไหลเรื่อยออกจากนัยน์ตาสีน้ำตาลคู่นั้น  น้ำตาที่ทำให้หัวใจของจำเลยน้ำแข็งต้องกระตุกวูบ..  คาโลนึกทบทวนถึงคำกล่าวหาของโจทย์หัวขโมย..  คำกล่าวหาที่ไม่เป็นจริง..  คำกล่าวหาที่ต้องรีบกล่าวแก้..  หากแต่เขาควรจะทำอย่างไรดี  ในเมื่อเจ้าหล่อนนั้นยังไม่พร้อมที่จะรับฟังคำของเขาของเขาในขณะนี้

    แต่แล้วจู่ๆ  หลักสูตร  ‘ง้อสาว’  ที่พระอาจารย์แห่งไนท์เคยพร่ำสอนไว้ก็ผุดขึ้นมาในสมองของเจ้าชายผู้อ่อนต่อ โลก(ของผู้หญิง)  คาโลตัดสินใจนำขึ้นปฏิบัติในทันที  ชายหนุ่มรีบถลาขึ้นไปบนเตียงของหญิงสาวก่อนจะดึงร่างบางที่กำลังนั่งพิง พนักเตียงก้มหน้าร้องไห้นั้นเข้ามาในอ้อมกอด

    “นายกำลังเข้าใจผิดอยู่นะ”  เสียงเข้มเริ่มอธิบาย  หากแต่ร่างเล็กกลับไม่ยอมรับฟัง

    “ไม่ต้องมาโกหกเลย!!”  เสียงหวานสวนกลับพร้อมพยายามขยับกายให้หลุดจากอ้อมกอดของคนตัวโต  “ฉันเห็นเต็มตาทั้งสองข้างว่านายกำลังซื้อแหวนให้ผู้หญิงคนนั้น  เจ้าคิลก็เห็น  ไปลากมาเป็นพยานก็ได้”

    “ไม่ใช่นะ..  ไม่ใช่อย่างที่นายเข้าใจ..”  คาโลพยายามอธิบายต่อ  ในขณะที่มือแกร่งกระชับอ้อมกอดให้แน่นเข้า

    หากแต่หญิงสาวก็ยังไม่รับฟัง  “เห็นอยู่เต็มตาจะว่าไม่ใช่อีก..  คนหลอกลวง~~

    คำสวนที่กล่าวสำทับมาตลอดทำให้เจ้าชายหนุ่มไม่อาจเอ่ยอธิบายเรื่องราวที่ แท้จริงได้  เขาคงต้องทำให้เสียงหวานนั้นเงียบก่อนกระมัง..  เพียงแค่ความคิด..  ไม่ทันได้ไตร่ตรองแต่อย่างใด  ริมฝีปากได้รูปสวยก็ถูกฉกฉวยความหอมหวานไปจนหมด  เสียงเจื้อยแจ้วที่ดังระงมถูกกลืนหายไปในริมฝีปากของเจ้าชายหนุ่มนักรัก

    รสสัมผัสที่แสนดูดดื่ม..  รสสัมผัสที่ไม่ว่าเมื่อใดก็ไม่เคยเพียงพอต่อความต้องการของชายหนุ่ม..  หากแต่เขาก็จำเป็นต้องถอนริมฝีปากนั้นออกอย่างเสียมิได้เมื่อเห็นใบหน้าอึด อัดเพราะขาดอากาศของเจ้าหล่อน

    “คราวนี้จะนิ่งรอฟังเรื่องที่ฉันจะพูดได้หรือยัง”  เสียงเข้มถามต่อทันทีที่ปลดปล่อยร่างบางนั้นให้เป็นอิสระ  หากแต่เหมือนเสียงหวานที่ถูกกลืนหายไปจะไม่กลับมาด้วย  คาโลไม่ได้ยินเสียงใดๆ ตอบกลับมาเว้นเพียงใบหน้าระเรื่อน่ารักที่ก้มหลบสายตาเขาอย่างเอียงอาย

    รอยยิ้มบางๆ ปรากฏขึ้นบนดวงหน้าเข้มที่ไม่ค่อยปล่อยให้ออกมาแสดงผลงานบ่อยนัก  ก่อนจะเอ่ยอธิบายเรื่องราวที่แท้จริงให้เจ้าหล่อนฟัง..

    ชายหนุ่มเริ่มท้าวความตั้งแต่หลังจากเหตุการณ์วันนั้น..  วันที่พวกเขาทั้งสองกลายเป็นหนึ่งเดียวกัน..  วันที่ทำให้เขาต้องคิดหนักในเรื่องที่เขาเริ่มกังวล  โดยเฉพาะหลังจากเมื่อเขาไปได้รับฟังการสนทนาระหว่างแม่ค้าสาวขายแอ ปเปิ้ลและลูกค้าหญิงวัยกลางคนในวันที่เขาออกไปซื้อแอปเปิ้ลในตลาดเมื่อคราว ก่อน  ทั้งที่ความกังวลนั้นเป็นเพียงความคิดที่เขาคิดไปเองทั้งสิ้น..

    กระทั่งเมื่อเขาได้เห็นอาการที่แสดงออกของเจ้าหล่อน  อาการที่ทำให้เขาต้องหนักใจ  อาการที่ทำให้เขาคิดว่าสิ่งที่เขาคิดไปเองนั้นคงเป็นความจริง  แต่กระนั้นด้วยที่ไม่รู้แน่ชัดนักเขาจึงต้องการที่ปรึกษา..

    แต่อาจเพราะตัวเขาที่ไม่ต้องการให้มีบุคคลที่สามรับรู้ถึงความสัมพันธ์ที่ เกินเลยของทั้งเขาและเธอ  ซึ่งนั่นไม่ใช่ว่าเขากลัวที่จะต้องรับผิดชอบ  หากแต่เขากลัวว่าเธอจะต้องเสื่อมเสีย..  กลัวว่าเธอจะถูกประนาม..  จากความผิดที่เขาเป็นผู้ก่อขึ้น  แม้ว่าเขาคิดวางแผนที่จะมีอนาคตร่วมกับหล่อนไว้แล้ว  หากแต่ในเวลานี้ก็ยังเร็วเกินไป  ทั้งเขาและเธอยังเด็กและยังเรียนไม่จบ..  ดังนั้น  เขาจึงคิดไปถึงแม่ค้าสาวที่กำลังตั้งครรภ์อ่อนๆ คนนั้น  คิดว่าเจ้าหล่อนคงสามารถให้คำปรึกษาแก่เขาได้  และนั่นคือเหตุผลที่สำคัญที่สุดที่เขาตัดสินใจออกไปซื้อแอปเปิ้ลในตลาดใน วันนี้..

    แม่ค้าสาวที่เมื่อได้รับฟังคร่าวๆก็พอจะจับประเด็นเรื่องราวได้  จึงเอ่ยแนะนำให้เขาซื้อแหวนเป็นของกำนัลให้กับหญิงสาวคู่กรณี  เพื่อเป็นสิ่งยืนยันสำหรับอนาคตที่จะอยู่ร่วมกันหลังจากนี้..

    เมื่อเล่าถึงตรงนี้ชายหนุ่มจึงขยับกายหยิบแหวนวงนั้นออกจากกระเป๋าพร้อม บรรจงสวมไว้บนนิ้วนางข้างขวาของหญิงสาวผู้เป็นเจ้าของดวงใจ  “เฟริน..  ฉันขอใช้แหวนวงนี้จองนายไว้ก่อน  ฉันสัญญาว่าฉันจะต้องไปรับนายอย่างแน่นอน”

    นัยน์ตาสีน้ำตาลที่ชุ่มฉ่ำไปด้วยหยาดน้ำตา  หากแต่น้ำตาที่หลั่นรินครั้งนี้กลับเป็นน้ำตาแห่งความสุข  เจ้าหล่อนจ้องมองแหวงวงน้อยบนนิ้วเรียวอีกครั้งก่อนจะหันกลับไปจ้องนัยน์ตา สีฟ้านั้น  “อื้อ.. ฉันจะรอ..  รอให้นายไปรับ..”

    เพียงแค่ขาดคำของหญิงสาว  ริมฝีปากบางก็ถูกฉกฉวยความหอมหวานอีกครั้ง..  หากแต่ครั้งนี้เจ้าหล่อนกลับยินยอมพร้อมใจตอบรับด้วยความเสน่หา..

    การตอบรับของร่างบางที่แสนยั่วยวนนั้นทำให้ผู้คงสติมั่นเป็นนิจมิอาจครอง สตินั้นไว้ได้  คาโลโน้มกายดันร่างบางให้นอนลงกับเตียงนุ่ม  ก่อนที่มือหนาจะค่อยๆ ซุกไซร้เข้าสู่เนินเนื้อบางที่แสนจะคนึงหานั้น..


    “รัก”  อาภรณ์สองชุดถูกทิ้งลงบริเวณปลายเตียง


    “รักมาก”  อิงแอบแนบกายที่ร้อนระอุทั้งสองให้เป็นหนึ่งเดียว


    “รักมากที่สุด”  ค่ำคืนแห่งความสุขของทั้งสองค่อยๆ ดำเนินต่อไป  อย่างไม่รู้จบ


    ******************************************************************


    apple เองจ้า


    แก้ไขนิดหน่อยน๊า  คือพอลุงหมออธิบายว่าเฟรินไม่เป็นอะไรแล้ว  คาโลก็เก็บลุงหมอกะผีสาวเข้าคฑาแล้วค่ะ  คาโลไม่ให้ลุงหมอกะผีสาวดูหนังสดของตัวเองหรอกค่ะ  ฮิฮิ
    22/9/2549


    100  แล้ว  บทง้องอนน้อยไปเปล่าเนี่ย 
    แล้วขอเชิญชมฉาก  'ค่ำคืนแห่งความสุขของทั้งสอง'  ในห้องหลืบหอคอยในบอร์ดของเรานะคะ
    1/8/2549


    ขอตอบคำถามของคุณ  MEEN  นะคะ

    ความคิดเห็นที่ 184
    อุ๊ย ขอโทษครับไม่ทันมอง (อัพแล้วนี่หว่า แฮะๆๆ) ในที่สุดคาโลก็จะรู้แล้วว่าเฟรินไม่ได้ท้อง แต่เอ ที่ว่าลุงหมอผายปอดเฟรินมันหมายความว่า OoO ลุงหมอปั๊มหัวใจ แถมเมาท์ทูเมาท์เฟรินเหรอครับ ถึงแม้ว่าลุงหมอจะเป็นผี แต่ว่าเออ... ให้คาโลทำไม่ดีกว่าเหรอครับ
    Name : * MEEN * < My.iD > [ IP : 203.151.140.116 ]
    Email / Msn:
    วันที่: 26 สิงหาคม 2549 / 11:46

    คือ ลุงหมอแกแค่ปั้มหัวใจนะคะ  เพราะคาโลให้ยืมพลังทำให้สามารถจับต้องสิ่งของและตรวจรักษาให้เฟรินได้ไงคะ  การผายปอดมีหลายวิธีนะคะไม่จำเป็นต้องเมาท์ทูเมาท์หรอกค่ะ  ถ้าต้องทำแบบนั้นลุงหมอต้องให้คาโลทำแทนแน่คะ  55+


    65 แล้วจ้า
    คาโลรู้ความจริงแล้ว  แต่เฟรินยังไม่
    แล้วเจ้าชายน้ำแข็งผู้ไม่รู้วิธีง้อสาวจะง้อสาวไงล่ะทีนี้
    31/8/2549

    อัพแล้วจ้า อัพของจริง อีก 10% ฮิฮิ
    26/8/2549




    มารีไรท์ปรับขนาดตอนหน่อยอะค่ะ
    22/8/2549

    70  เร่งใจขาดแล้วเนี่ย  = ='  (ขนาดเร่งแล้วยังได้แค่นี้หรือฟระ)
    เอาเป็นว่า  "จงรอต่อไป"  แล้วกันนะ 
    แง้มให้นิ๊ด  คาโลกำลังจะรู้แล้วว่าตัวเองเข้าใจผิดล่ะ  อุอุ
    17/8/2549

    45  หมดสต๊อคแล้วอะ  รอสต๊อคถัดไปเน้อ
    รักแม่ที่ซูดเลยจ้า

    แม่ คือ ผู้มอบชีวิตและจิตใจ

    แม่ คือ กำลังใจเมื่อยามเหนื่อยล้า
    แม่ คือ ผู้ให้อภัยแก่เราเสมอมา
    แม่ จะคือ แม่ที่รักยิ่งของเราตลอดไป

    12/8/2549

    มาเพิ่มให้อีก 20  รวมแล้วก็ 35 แล้วมั้ง  ฮิฮิ
    สุขสันต์วันแม่ผู้อ่านทุกคนนะจ๊ะ
    11/8/2549

    เหมือนเดิมจ้า  มาตั้งไว้  แล้วก็ดองต่อ 
    6/8/2549
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×