ลำดับตอนที่ #8
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : บทที่ 7 เข้าใจผิด (5)
บทที่ 7 เข้าใจผิด (5)
หลังจากที่คาโลวิ่งตามเฟรินออกจากร้านขายเครื่องประดับในตลาด ชายหนุ่มวิ่งกลับมายังห้องพักของหญิงสาวในป้อมอัศวิน หากแต่ไร้ซึ่งวี่แววของสาวน้อยเจ้าของห้อง หัวใจน้ำแข็งเริ่มไหววูบ ความรู้สึกในครานั้นแล่นเข้ากระทบดวงใจอย่างเต็มที่ ความรู้สึกเมื่อครั้งที่หญิงสาวหายตัวไปอย่างกระทันหันหลังการแข่งขันหมาก กระดานเกียรติยศ เอเดน-เดมอส เสร็จสิ้น
ครั้งนั้นเขาแทบพลิกเอดินเบิร์กตามหาเจ้าหล่อนเป็นบ้าคลั่ง เขาเพิ่งจะรับรู้เมื่อครานั้นว่าเขาไม่อาจจะทนให้เธอจากไปยังสถานที่ที่เขา ไม่สามารถจะเอื้อมถึง เขาไม่อาจทิ้งเธอไว้ในสถานที่ที่จักเป็นอันตรายต่อเธอได้
คาโลรีบหันหลังวิ่งออกตามหายังสถานที่ที่เขาคิดว่าหญิงสาวผู้คอยป่วนดวงใจ เขาจะไป ทั้งห้องพักหัวหน้าชั้นปี(ห้องของคาโล+คิล) ห้องพักของสามสาว(เรนอน+แองจี้+มาทิลด้า) ห้องนั่งเล่น โรงอาหารดรากอน ลานตะวัน และเรื่อยเลยมาถึงสวนหลังป้อมอัศวิน
และที่นั่น.. ที่สวนหลังป้อมอัศวินนี้เอง ที่เขาได้พบกับภาพที่เขาไม่ต้องการจะเห็นตลอดชีวิต ภาพของหญิงสาวอันเป็นที่รักในอ้อมอกของชายหนุ่มที่อาจเคยเป็นคู่แข่งด้าน หัวใจกับเขา ชายหนุ่มผู้ที่เขาทราบว่ามีความพึงพอใจในตัวของหญิงสาวคนเดียวกับเขา ชายหนุ่มผู้มีเรือนผมสีชานัยน์ตาสีเขียว เจ้าของฉายาขอทานแห่งทริสทอร์ โร เซวาเรส
นัยน์ตาสีฟ้าจ้องไปยังคู่ชายหญิงที่ยืนกอดกันอยู่ริมสระน้ำ เขาแทบอยากเดินหนีไปให้พ้นจากสถานที่แห่งความเจ็บช้ำนั้น หากแต่อีกใจก็อยากรี่เข้าไปแย่งหญิงสาวอันเป็นที่รักกลับคืนมา ยิ่งเมื่อนัยน์ตาสีฟ้าคู่สวยนั้นสบเข้ากับนัยน์ตาสีเขียวที่จ้องมองมา เหมือนเย้ยหยัน ร่างสูงยิ่งสั่นสะท้านด้วยอารมณ์ที่ครุกกรุ่น
แต่ไม่ทันที่ร่างสูงของเจ้าชายแห่งแดนนักรบจะรุกเข้าไปหาสองร่างริมสระน้ำ ร่างโปร่งของขอทานหนุ่มกลับผละร่างออกจากสาวน้อยผู้เป็นยอดดวงใจเดินมาทาง ที่เขายืนมอง
“นายทำเธอร้องไห้มาสองครั้งแล้ว ฉันหวังว่าคงจะไม่มีครั้งที่สาม.. ไม่เช่นนั้นฉันจะไม่ปล่อยมือจากเธออีกแล้ว”
เสียงกระซิบที่แผ่วเบาให้ได้ยินเพียงสองคน หากแต่นั่นกลับเรียกสายตาอันมั่นคงให้เกิดแก่เจ้าชายแดนนักรบ “ไม่ต้องห่วง นายคงไม่ต้องปลอบเธออีกแล้ว แน่นอน!!”
******************************************************************
เมื่อ ครั้นนัยน์ตาสีเขียวใสของขอทานหนุ่มสบเข้ากับนัยน์ตาสีฟ้าสวยที่จ้องมองมา ขอทานหนุ่มก็รับรู้ได้ถึงเวลาของตนเอง เวลาที่ต้องคืนหญิงสาวในอ้อมกอดให้แก่เจ้าของที่แท้จริง
โรขยับร่าง บางในอ้อมกอดพร้อมถอยห่าง หากแต่หญิงสาวผู้ไร้ที่พึ่งพิงกลับยึดร่างนั้นไว้ นัยน์ตาสีน้ำตาลที่เหมือนวิงวอนเงยขึ้นสบให้เจ้าของนัยน์ตาสีเขียวต้องหัน หนี ด้วยทราบดีว่าหากเขาจ้องมองนัยน์ตาสีน้ำตาลคู่นี้ต่อไป เขาจักต้องทนเดินห่างไปไม่ได้แน่
ขอทานหนุ่มกลั้นหายใจเฮือก หนึ่งก่อนกล่าวคำพูดที่ไม่อยากกล่าวตลอดชีวิตนี้ คำพูดที่เมื่อกล่าวไปแล้วอาจทำให้หัวใจดวงน้อยๆ ของเขาต้องเจ็บช้ำ หากแต่เพื่อความสุขของหญิงสาวเบื้องหน้านี้เขาก็เต็มใจที่จะรับความทุกข์ ที่จักเกิดขึ้นในอนาคตไว้แต่เพียงผู้เดียว
“เฟริน.. น้ำตาไม่เหมาะกับนายหรอกนะ คุยปรับความเข้าใจกับเขาเสียให้เรียบร้อยแล้วกลับมาเป็นเฟรินที่ร่าเริงน่า รักเช่นเดิมให้ได้.. ความรักของพวกนายไม่ใช่เกิดขึ้นอย่างฉาบฉวย อย่าให้ความรู้สึกชั่ววูบมาทำให้นายต้องทนทุกข์ไปตลอดชีวิตเลย”
คำ พูดก่อนจากไปของขอทานหนุ่มทำให้หัวขโมยสาวได้คิด หญิงสาวตระหนักได้ถึงผลของการกระทำอันไร้ซึ่งการไตร่ตรองอย่างถี่ถ้วน ทั้งที่เธอเคยมีประสบการณ์มาแล้ว ทั้งที่ผลของการกระทำของเธอทำให้สงครามครั้งที่ผ่านมาลุกลามบานปลายใหญ่โต มาแล้ว ทั้งที่เธอรู้อยู่แล้วว่าหากเธอหยุดคิดสักนิดเธอก็จะเข้าใจความจริงของ เรื่องราวทั้งหมด
แต่ถึงกระนั้นเธอก็ยังกระทำเช่นเดิมอีก..
อาจเป็นเพราะเธอยังเด็กนัก.. เธอจึงปล่อยอารมณ์ให้นำพาความคิด..
อาจเป็นเพราะเธอรักเขามากเหลือเกิน.. เธอจึงทนเห็นภาพเขาอยู่เคียงข้างหญิงอื่นไม่ได้
อาจเป็นเพราะเธอไม่คู่ควรกับเขา หรืออาจเป็นเพราะเธอได้กลายเป็นของเขาแล้ว.. เธอจึงกลัว..
กลัวว่าเขาจะไม่ใยดีเธอ.. กลัวว่าเขาจะไม่สนใจเธอ.. กลัวว่าเขาจะทอดทิ้งเธอ
หากแต่เมื่อฉุกคิดถึงเรื่องราวต่างๆ ที่เขาเพียรทำเพื่อเธอ..
ทั้งเรื่องที่เขายอมตายเพื่อให้เธอมีชีวิตรอด..
ทั้งเรื่องที่เขายอมทรยศแผ่นดินเกิด ทรยศบิดาที่แสนเคารพเพื่อพาเธอหนีกลับเดมอส..
ทั้งที่คำสาบานรักของเขายังก้องอยู่ภายใจหัวใจหัวขโมยผู้ไปไหนไม่รอด.. ‘รัก’ ‘รักมาก’ ‘รักมากที่สุด’
ทั้งที่เป็นเช่นนั้น..
เธอก็ยังระแวงเขา.. ระแวงว่าเขาจะไม่รัก.. ระแวงว่าจะถูกเขาทอดทิ้ง..
ระแวงในความรู้สึกของชายหนุ่มอันเป็นที่รัก..
“เฟริน”
เสียงทุ้มนุ่มที่คุ้นหูปลุกให้หัวขโมยสาวสะดุ้งขึ้นจากภวังค์ เสียงที่เรียกให้หญิงสาวเจ้าของชื่อต้องหันไปสบ
ชาย หนุ่มเจ้าของนัยน์ตาสีฟ้าสวยที่แสนโหยหา หากแต่เจ้าหล่อนยังไม่พร้อมที่จะเผชิญหน้าในเวลานี้ ร่างบางที่รู้สึกประหม่าค่อยๆ เขยิบถอยหนี ในขณะที่ร่างโปร่งกลับขยับเข้าใกล้
นัยน์ตาสีฟ้าใสจ้องมองมายังใบ หน้าหวานที่แม้เสียงสะอื้นไห้จะจางลงแต่ยังคงเต็มไปด้วยรอยคราบน้ำตา คราบน้ำตาที่เขาเป็นผู้ก่อให้ให้เกิดขึ้น คาโลสาวเท้าหวังเข้าไปเคียงข้างปลอบประโลมสาวน้อยเจ้าน้ำตา หากแต่ไม่ทันที่จะได้เข้าประชิด ร่างบางเป้าหมายกลับลื่นไถลตกลงกระแทกผิวน้ำแข็งผืนบางของสระน้ำใหญ่ให้แตก กระจายและจมลงสู่ใต้ผืนน้ำอันเย็นเหยียบ
~~เพล้ง~~ ~~ตูม~~
“เฟริน!!”
******************************************************************
หลัง จากที่ขอทานหนุ่มแยกตัวออกมาแล้วไม่ไกลจากบริเวณสระน้ำนัก เขาได้พบกับนักฆ่าเสธฝ่ายขวาที่กำลังวิ่งวุ่นตามหาคู่รักเจ้าปัญหาที่เขา เพิ่งแยกตัวจากมา
“โร.. นายเห็นเฟรินกับคาโลหรือเปล่า” นักฆ่าเอ่ยถามทันที
“เห็น.. ที่ริมสระน่ะ.. เกิดอะไรขึ้นงั้นหรือ ฉันเห็นเฟรินร้องไห้ ทะเลาะอะไรกับคาโลหรือเปล่า” ขอทานหนุ่มตอบรับพร้อมป้อนคำถามที่ติดค้างอยู่ภายในใจทันที
“ก็.. ไม่มีอะไรนักหรอก.. แค่เรื่องเข้าใจผิดกันนิดหน่อย.. คือว่า..” นักฆ่าหนุ่มเริ่มเล่าเรื่องราวตั้งแต่ที่เขาและหัวขโมยสาวที่ริอาจเปลี่ยน อาชีพเป็นเดอะดีเทคทีฟสะกดรอยสังเกตการณ์พฤติกรรมของเจ้าชายหัวหน้าป้อม กระทั่งไปพบเจ้าชายคนสำคัญกำลังเลือกซื้อแหวนอยู่กับแม่ค้าสาวขายแอปเปิ้ล
“คุณเป็นเพื่อนกับคุณชายท่านนั้นสินะคะ” เสียงหวานของแม่ค้าสาวกล่าวถามนักฆ่าที่ถูกรั้งตัวไว้
“ใช่แล้วทำไม.. เธอจะแก้ตัวให้เจ้านั่นหรือ” นักฆ่ากล่าวตอบอย่างโกรธกริ้ว
“แต่คุณกำลังเข้าใจผิดจริงๆ นะคะ ที่คุณคุณชายท่านนั้นเลือกซื้อแหวนเพื่อมอบให้ผู้หญิงที่เขารักนะคะ” แม่ค้าสาวกล่าวตอบทันที
“แล้ว ทำไมต้องเข้ามาเลือกซื้อกับเธอด้วยล่ะ” นักฆ่าถามต่ออย่างอดสงสัยไม่ได้ ซึ่งอาจคงเป็นเพราะภายในใจลึกๆ เขายังอยากจะเชื่อใจเพื่อนเจ้าชายผู้นี้ว่าจะไม่ทำร้ายน้ำใจเพื่อนสาวของ เขาก็เป็นได้
เมื่อ เห็นสหายหนุ่มของลูกค้ากิตติมศักดิ์อารมณ์เย็นลงแล้ว แม่ค้าสาวจึงเริ่มกล่าวอธิบาย “ดิฉันคงจะกล่าวถึงสาเหตุไม่ได้ เพราะเป็นเรื่องของคุณชายท่านนั้นกับผู้หญิงที่เขารัก แต่สำหรับเรื่องซื้อแหวน ดิฉันเห็นเป็นคนเสนอให้คุณชายท่านนั้นซื้อเองค่ะ ดิฉันเห็นว่าคุณชายท่านนั้นกำลังมีเรื่องที่จะต้องปรึกษากันตามลำพักกับกับ คนรักของเขาแต่ยังลำบากใจที่จะกล่าวออกไป ดิฉันจึงแนะนำให้ซื้อแหวนไปให้เป็นการนำทางค่ะ”
“แล้วไม่รู้หรือว่าพวกนั้นมีเรื่องอะไรที่ต้องปรึกษากัน” นักฆ่าถามต่ออย่างอยากรู้ หากแต่ใจหนุ่มนั้นสงบลงแล้ว
“ดิฉัน ไม่คิดจะละลาบละล้วงหรอกค่ะ ถ้าอย่างไรคุณชายลองไปถามเพื่อนคุณชายดูสิค่ะ” แม่ค้าสาวตอบอย่างอารมณ์ดีที่แก้ไขสถานการณ์ให้เพื่อนของลูกค้า กิตติมศักดิ์หายเข้าใจผิดได้แล้ว “อ้อ ฝากแอปเปิ้ลตะกร้านี้ไปให้คุณชายท่านนั้นด้วยได้ไม๊ค่ะ แกคงลืมไปว่าแกออกมาซื้อแอปเปิ้ล”
เพียง ได้เห็นแอปเปิ้ลตะกร้าใหญ่ นักฆ่าหนุ่มก็ยิ้มออกด้วยรู้แล้วว่าเจ้าชายหนุ่มเพื่อนรักออกมานอกโรงเรียน ทำไม “ได้สิ จะเอาไปฝากให้ถึงมือเลย”
“แอปเปิ้ลตะกร้านี้หรือ”
“อืม..” นักฆ่าเสธฝ่ายขวาตอบ “แล้วจะเอาไงดี เอาไปให้ตอนนี้ดีไม๊”
“อย่า เลย.. ให้พวกเขาคุยกันให้เรียบร้อยก่อนดีกว่า ส่วนแอปเปิ้ลนี่” ขอทานหนุ่มยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ “ถือเป็นค่าเหนื่อยที่พวกเราต้องวิ่งวุ่นก็แล้วกัน”
“นั่นสิ ฮ่า ฮ่า” คิลตอบรับทันที “งั้นเอาไปกินห้องนายดีกว่า ไปห้องฉันเดี๋ยวเจ้าเฟรินจะตามกลิ่นมาฉกเอา”
******************************************************************
apple เองจ้า
มารีไรท์ปรับขนาดตอนหน่อยอะค่ะ
22/8/2549
หลังจากที่คาโลวิ่งตามเฟรินออกจากร้านขายเครื่องประดับในตลาด ชายหนุ่มวิ่งกลับมายังห้องพักของหญิงสาวในป้อมอัศวิน หากแต่ไร้ซึ่งวี่แววของสาวน้อยเจ้าของห้อง หัวใจน้ำแข็งเริ่มไหววูบ ความรู้สึกในครานั้นแล่นเข้ากระทบดวงใจอย่างเต็มที่ ความรู้สึกเมื่อครั้งที่หญิงสาวหายตัวไปอย่างกระทันหันหลังการแข่งขันหมาก กระดานเกียรติยศ เอเดน-เดมอส เสร็จสิ้น
ครั้งนั้นเขาแทบพลิกเอดินเบิร์กตามหาเจ้าหล่อนเป็นบ้าคลั่ง เขาเพิ่งจะรับรู้เมื่อครานั้นว่าเขาไม่อาจจะทนให้เธอจากไปยังสถานที่ที่เขา ไม่สามารถจะเอื้อมถึง เขาไม่อาจทิ้งเธอไว้ในสถานที่ที่จักเป็นอันตรายต่อเธอได้
คาโลรีบหันหลังวิ่งออกตามหายังสถานที่ที่เขาคิดว่าหญิงสาวผู้คอยป่วนดวงใจ เขาจะไป ทั้งห้องพักหัวหน้าชั้นปี(ห้องของคาโล+คิล) ห้องพักของสามสาว(เรนอน+แองจี้+มาทิลด้า) ห้องนั่งเล่น โรงอาหารดรากอน ลานตะวัน และเรื่อยเลยมาถึงสวนหลังป้อมอัศวิน
และที่นั่น.. ที่สวนหลังป้อมอัศวินนี้เอง ที่เขาได้พบกับภาพที่เขาไม่ต้องการจะเห็นตลอดชีวิต ภาพของหญิงสาวอันเป็นที่รักในอ้อมอกของชายหนุ่มที่อาจเคยเป็นคู่แข่งด้าน หัวใจกับเขา ชายหนุ่มผู้ที่เขาทราบว่ามีความพึงพอใจในตัวของหญิงสาวคนเดียวกับเขา ชายหนุ่มผู้มีเรือนผมสีชานัยน์ตาสีเขียว เจ้าของฉายาขอทานแห่งทริสทอร์ โร เซวาเรส
นัยน์ตาสีฟ้าจ้องไปยังคู่ชายหญิงที่ยืนกอดกันอยู่ริมสระน้ำ เขาแทบอยากเดินหนีไปให้พ้นจากสถานที่แห่งความเจ็บช้ำนั้น หากแต่อีกใจก็อยากรี่เข้าไปแย่งหญิงสาวอันเป็นที่รักกลับคืนมา ยิ่งเมื่อนัยน์ตาสีฟ้าคู่สวยนั้นสบเข้ากับนัยน์ตาสีเขียวที่จ้องมองมา เหมือนเย้ยหยัน ร่างสูงยิ่งสั่นสะท้านด้วยอารมณ์ที่ครุกกรุ่น
แต่ไม่ทันที่ร่างสูงของเจ้าชายแห่งแดนนักรบจะรุกเข้าไปหาสองร่างริมสระน้ำ ร่างโปร่งของขอทานหนุ่มกลับผละร่างออกจากสาวน้อยผู้เป็นยอดดวงใจเดินมาทาง ที่เขายืนมอง
“นายทำเธอร้องไห้มาสองครั้งแล้ว ฉันหวังว่าคงจะไม่มีครั้งที่สาม.. ไม่เช่นนั้นฉันจะไม่ปล่อยมือจากเธออีกแล้ว”
เสียงกระซิบที่แผ่วเบาให้ได้ยินเพียงสองคน หากแต่นั่นกลับเรียกสายตาอันมั่นคงให้เกิดแก่เจ้าชายแดนนักรบ “ไม่ต้องห่วง นายคงไม่ต้องปลอบเธออีกแล้ว แน่นอน!!”
******************************************************************
เมื่อ ครั้นนัยน์ตาสีเขียวใสของขอทานหนุ่มสบเข้ากับนัยน์ตาสีฟ้าสวยที่จ้องมองมา ขอทานหนุ่มก็รับรู้ได้ถึงเวลาของตนเอง เวลาที่ต้องคืนหญิงสาวในอ้อมกอดให้แก่เจ้าของที่แท้จริง
โรขยับร่าง บางในอ้อมกอดพร้อมถอยห่าง หากแต่หญิงสาวผู้ไร้ที่พึ่งพิงกลับยึดร่างนั้นไว้ นัยน์ตาสีน้ำตาลที่เหมือนวิงวอนเงยขึ้นสบให้เจ้าของนัยน์ตาสีเขียวต้องหัน หนี ด้วยทราบดีว่าหากเขาจ้องมองนัยน์ตาสีน้ำตาลคู่นี้ต่อไป เขาจักต้องทนเดินห่างไปไม่ได้แน่
ขอทานหนุ่มกลั้นหายใจเฮือก หนึ่งก่อนกล่าวคำพูดที่ไม่อยากกล่าวตลอดชีวิตนี้ คำพูดที่เมื่อกล่าวไปแล้วอาจทำให้หัวใจดวงน้อยๆ ของเขาต้องเจ็บช้ำ หากแต่เพื่อความสุขของหญิงสาวเบื้องหน้านี้เขาก็เต็มใจที่จะรับความทุกข์ ที่จักเกิดขึ้นในอนาคตไว้แต่เพียงผู้เดียว
“เฟริน.. น้ำตาไม่เหมาะกับนายหรอกนะ คุยปรับความเข้าใจกับเขาเสียให้เรียบร้อยแล้วกลับมาเป็นเฟรินที่ร่าเริงน่า รักเช่นเดิมให้ได้.. ความรักของพวกนายไม่ใช่เกิดขึ้นอย่างฉาบฉวย อย่าให้ความรู้สึกชั่ววูบมาทำให้นายต้องทนทุกข์ไปตลอดชีวิตเลย”
คำ พูดก่อนจากไปของขอทานหนุ่มทำให้หัวขโมยสาวได้คิด หญิงสาวตระหนักได้ถึงผลของการกระทำอันไร้ซึ่งการไตร่ตรองอย่างถี่ถ้วน ทั้งที่เธอเคยมีประสบการณ์มาแล้ว ทั้งที่ผลของการกระทำของเธอทำให้สงครามครั้งที่ผ่านมาลุกลามบานปลายใหญ่โต มาแล้ว ทั้งที่เธอรู้อยู่แล้วว่าหากเธอหยุดคิดสักนิดเธอก็จะเข้าใจความจริงของ เรื่องราวทั้งหมด
แต่ถึงกระนั้นเธอก็ยังกระทำเช่นเดิมอีก..
อาจเป็นเพราะเธอยังเด็กนัก.. เธอจึงปล่อยอารมณ์ให้นำพาความคิด..
อาจเป็นเพราะเธอรักเขามากเหลือเกิน.. เธอจึงทนเห็นภาพเขาอยู่เคียงข้างหญิงอื่นไม่ได้
อาจเป็นเพราะเธอไม่คู่ควรกับเขา หรืออาจเป็นเพราะเธอได้กลายเป็นของเขาแล้ว.. เธอจึงกลัว..
กลัวว่าเขาจะไม่ใยดีเธอ.. กลัวว่าเขาจะไม่สนใจเธอ.. กลัวว่าเขาจะทอดทิ้งเธอ
หากแต่เมื่อฉุกคิดถึงเรื่องราวต่างๆ ที่เขาเพียรทำเพื่อเธอ..
ทั้งเรื่องที่เขายอมตายเพื่อให้เธอมีชีวิตรอด..
ทั้งเรื่องที่เขายอมทรยศแผ่นดินเกิด ทรยศบิดาที่แสนเคารพเพื่อพาเธอหนีกลับเดมอส..
ทั้งที่คำสาบานรักของเขายังก้องอยู่ภายใจหัวใจหัวขโมยผู้ไปไหนไม่รอด.. ‘รัก’ ‘รักมาก’ ‘รักมากที่สุด’
ทั้งที่เป็นเช่นนั้น..
เธอก็ยังระแวงเขา.. ระแวงว่าเขาจะไม่รัก.. ระแวงว่าจะถูกเขาทอดทิ้ง..
ระแวงในความรู้สึกของชายหนุ่มอันเป็นที่รัก..
“เฟริน”
เสียงทุ้มนุ่มที่คุ้นหูปลุกให้หัวขโมยสาวสะดุ้งขึ้นจากภวังค์ เสียงที่เรียกให้หญิงสาวเจ้าของชื่อต้องหันไปสบ
ชาย หนุ่มเจ้าของนัยน์ตาสีฟ้าสวยที่แสนโหยหา หากแต่เจ้าหล่อนยังไม่พร้อมที่จะเผชิญหน้าในเวลานี้ ร่างบางที่รู้สึกประหม่าค่อยๆ เขยิบถอยหนี ในขณะที่ร่างโปร่งกลับขยับเข้าใกล้
นัยน์ตาสีฟ้าใสจ้องมองมายังใบ หน้าหวานที่แม้เสียงสะอื้นไห้จะจางลงแต่ยังคงเต็มไปด้วยรอยคราบน้ำตา คราบน้ำตาที่เขาเป็นผู้ก่อให้ให้เกิดขึ้น คาโลสาวเท้าหวังเข้าไปเคียงข้างปลอบประโลมสาวน้อยเจ้าน้ำตา หากแต่ไม่ทันที่จะได้เข้าประชิด ร่างบางเป้าหมายกลับลื่นไถลตกลงกระแทกผิวน้ำแข็งผืนบางของสระน้ำใหญ่ให้แตก กระจายและจมลงสู่ใต้ผืนน้ำอันเย็นเหยียบ
~~เพล้ง~~ ~~ตูม~~
“เฟริน!!”
******************************************************************
หลัง จากที่ขอทานหนุ่มแยกตัวออกมาแล้วไม่ไกลจากบริเวณสระน้ำนัก เขาได้พบกับนักฆ่าเสธฝ่ายขวาที่กำลังวิ่งวุ่นตามหาคู่รักเจ้าปัญหาที่เขา เพิ่งแยกตัวจากมา
“โร.. นายเห็นเฟรินกับคาโลหรือเปล่า” นักฆ่าเอ่ยถามทันที
“เห็น.. ที่ริมสระน่ะ.. เกิดอะไรขึ้นงั้นหรือ ฉันเห็นเฟรินร้องไห้ ทะเลาะอะไรกับคาโลหรือเปล่า” ขอทานหนุ่มตอบรับพร้อมป้อนคำถามที่ติดค้างอยู่ภายในใจทันที
“ก็.. ไม่มีอะไรนักหรอก.. แค่เรื่องเข้าใจผิดกันนิดหน่อย.. คือว่า..” นักฆ่าหนุ่มเริ่มเล่าเรื่องราวตั้งแต่ที่เขาและหัวขโมยสาวที่ริอาจเปลี่ยน อาชีพเป็นเดอะดีเทคทีฟสะกดรอยสังเกตการณ์พฤติกรรมของเจ้าชายหัวหน้าป้อม กระทั่งไปพบเจ้าชายคนสำคัญกำลังเลือกซื้อแหวนอยู่กับแม่ค้าสาวขายแอปเปิ้ล
“คุณเป็นเพื่อนกับคุณชายท่านนั้นสินะคะ” เสียงหวานของแม่ค้าสาวกล่าวถามนักฆ่าที่ถูกรั้งตัวไว้
“ใช่แล้วทำไม.. เธอจะแก้ตัวให้เจ้านั่นหรือ” นักฆ่ากล่าวตอบอย่างโกรธกริ้ว
“แต่คุณกำลังเข้าใจผิดจริงๆ นะคะ ที่คุณคุณชายท่านนั้นเลือกซื้อแหวนเพื่อมอบให้ผู้หญิงที่เขารักนะคะ” แม่ค้าสาวกล่าวตอบทันที
“แล้ว ทำไมต้องเข้ามาเลือกซื้อกับเธอด้วยล่ะ” นักฆ่าถามต่ออย่างอดสงสัยไม่ได้ ซึ่งอาจคงเป็นเพราะภายในใจลึกๆ เขายังอยากจะเชื่อใจเพื่อนเจ้าชายผู้นี้ว่าจะไม่ทำร้ายน้ำใจเพื่อนสาวของ เขาก็เป็นได้
เมื่อ เห็นสหายหนุ่มของลูกค้ากิตติมศักดิ์อารมณ์เย็นลงแล้ว แม่ค้าสาวจึงเริ่มกล่าวอธิบาย “ดิฉันคงจะกล่าวถึงสาเหตุไม่ได้ เพราะเป็นเรื่องของคุณชายท่านนั้นกับผู้หญิงที่เขารัก แต่สำหรับเรื่องซื้อแหวน ดิฉันเห็นเป็นคนเสนอให้คุณชายท่านนั้นซื้อเองค่ะ ดิฉันเห็นว่าคุณชายท่านนั้นกำลังมีเรื่องที่จะต้องปรึกษากันตามลำพักกับกับ คนรักของเขาแต่ยังลำบากใจที่จะกล่าวออกไป ดิฉันจึงแนะนำให้ซื้อแหวนไปให้เป็นการนำทางค่ะ”
“แล้วไม่รู้หรือว่าพวกนั้นมีเรื่องอะไรที่ต้องปรึกษากัน” นักฆ่าถามต่ออย่างอยากรู้ หากแต่ใจหนุ่มนั้นสงบลงแล้ว
“ดิฉัน ไม่คิดจะละลาบละล้วงหรอกค่ะ ถ้าอย่างไรคุณชายลองไปถามเพื่อนคุณชายดูสิค่ะ” แม่ค้าสาวตอบอย่างอารมณ์ดีที่แก้ไขสถานการณ์ให้เพื่อนของลูกค้า กิตติมศักดิ์หายเข้าใจผิดได้แล้ว “อ้อ ฝากแอปเปิ้ลตะกร้านี้ไปให้คุณชายท่านนั้นด้วยได้ไม๊ค่ะ แกคงลืมไปว่าแกออกมาซื้อแอปเปิ้ล”
เพียง ได้เห็นแอปเปิ้ลตะกร้าใหญ่ นักฆ่าหนุ่มก็ยิ้มออกด้วยรู้แล้วว่าเจ้าชายหนุ่มเพื่อนรักออกมานอกโรงเรียน ทำไม “ได้สิ จะเอาไปฝากให้ถึงมือเลย”
“แอปเปิ้ลตะกร้านี้หรือ”
“อืม..” นักฆ่าเสธฝ่ายขวาตอบ “แล้วจะเอาไงดี เอาไปให้ตอนนี้ดีไม๊”
“อย่า เลย.. ให้พวกเขาคุยกันให้เรียบร้อยก่อนดีกว่า ส่วนแอปเปิ้ลนี่” ขอทานหนุ่มยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ “ถือเป็นค่าเหนื่อยที่พวกเราต้องวิ่งวุ่นก็แล้วกัน”
“นั่นสิ ฮ่า ฮ่า” คิลตอบรับทันที “งั้นเอาไปกินห้องนายดีกว่า ไปห้องฉันเดี๋ยวเจ้าเฟรินจะตามกลิ่นมาฉกเอา”
******************************************************************
apple เองจ้า
มารีไรท์ปรับขนาดตอนหน่อยอะค่ะ
22/8/2549
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น