ลำดับตอนที่ #3
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : บทที่ 2 เปลี่ยนแปลง
บทที่ 2 เปลี่ยนแปลง
อาทิตย์ยามเช้าค่อยๆ ปรากฎกายขึ้นจากขอบฟ้า ส่องแสงอันอบอุ่นขับไล่ความเย็บเหยียบยามค่ำคืนให้มลายสิ้น
นัยน์ ตาสีฟ้าของคนตื่นเช้าปรือขึ้นรับแสงอรุณที่สาดส่องผ่านผ้าม่านผืนใหญ่เข้า สู่ห้องพักหัวหน้าชั้นปี มือแกร่งถูกยกขึ้นกุมขมับของชายหนุ่มที่มีอาการค้างจากฤทธิ์สุราแรงที่กระดก ไป
แม้จะปวดศรีษะ หากแต่ความรู้สึกภายในใจกลับชุ่มชื่นด้วยความฝันอันแสนหวานในค่ำคืนที่ผ่านมา
ความฝันร่วมกับเธอคนนั้น คนที่เขารักมากที่สุด..
ฝันที่เหมือนจะเป็นจริง ด้วยรสสัมผัสยังตราตรึงติดอยู่ทุกส่วนของร่างกาย..
คาโลค่อยๆ ลุกขึ้นจากเตียงเพื่อไปอาบน้ำ เขาหวังว่าน้ำเย็นๆ จะช่วยบรรเทาอาการปวดศรีษะ หากแต่ทันทีที่ชายหนุ่มเลิกผ้านวมผืนใหญ่ที่ห่มกายออก ดวงตาสีฟ้าสวยต้องเบิกกว้าง
ร่างกายเขาเปลือยเปล่า.. เขานอนโดยไม่ได้สวมเสื้อผ้าสักชิ้น..
ผ้านวมผืนใหญ่ถูกดึงขึ้นคลุมร่างหนุ่มขี้อายทันที สายตาคู่งามเหลือบเห็นเสื้อผ้าที่กองอยู่บนพื้นปลายเตียง
เสื้อผ้าของเขา.. และ..
“อืม~~ หนาว~~”
เสียง หวานที่ดังขึ้นข้างหูให้ชายหนุ่มสะดุ้ง นัยน์ตาสีฟ้าค่อยๆ หันไปมองร่างบางของหญิงสาวที่นอนอยู่เคียงข้าง ผ้านวมที่เผยอออกด้วยชายหนุ่มกระชากปกคลุมร่างอันเปลือยเปล่าของตน เผยให้เห็นร่างบางของหญิงสาวข้างกาย ร่างของหญิงอันเป็นที่รัก เจ้าหญิงเฟลิโอน่า เกรเดเวล
ผิวเนียนขาวที่ต้องลมเย็นยาวเช้า ทำให้สาวขี้หนาวขยับตัวเข้าหาไออุ่นจากร่างข้างกายยิ่งขึ้น
ทันทีที่ร่างแกร่งรับรู้ถึงสัมผัสอันอ่อนนุ่มของร่างบางไร้อาภรณ์ที่เข้าแนบชิด คาโลรีบกระโจนลุกขึ้นจากเตียงทันทีราวต้องของร้อน
ใบหน้าขาวของชายหนุ่มขึ้นสีระเรื่อ พลางย้อนคิดถึงความฝันอันแสนหวานยามค่ำคืนที่ผ่านมา
“ไม่ใช่ความฝัน.. งั้นสินะ” ชายหนุ่มรำพึงกับตนเองเบาๆ
คาโลยืนนิ่ง นัยน์ตาสีฟ้าจ้องมองร่างบางของหญิงสาวที่นอนคุดคู้อยู่ภายใต้ผ้านวมผืนใหญ่ คราบน้ำตายังคงเหลือเปราะเปื้อนอยู่บนใบหน้าหวาน ชายหนุ่มเดินเข้าไปใกล้ มือแกร่งลูบไล้ไปยังเรือนผมสีน้ำตาลอย่างรักใคร่
“ฉันคงทำให้เธอเจ็บ ปวดมากสินะ.. ขอโทษด้วย” นัยน์ตาสีฟ้าหม่นลงชั่วครู่ ก่อนจะสุกใสแวววาวขึ้นทันที “แต่ตอนนี้เธอเป็นของฉันแล้ว และฉันจะไม่มีวันยอมให้เธอกลายเป็นของคนอื่นเด็ดขาด”
******************************************************************
อาหาร เช้าส่งกลิ่นหอมยั่วยวนให้ยอดนักกินแห่งบารามอสเริ่มรู้สึกตัว หญิงสาวที่ยังระบมจากบทรักของชายหนุ่มไม่หายเริ่มส่งเสียงร้องคราง “อูย~~ เจ็บ”
เสียงร้องที่ทำให้ชายหนุ่มรู้ว่าสุดที่รักตื่นแล้ว คาโลรีบวางถาดอาหารลงกับโต๊ะก่อนจะถลาไปช่วยพยุงร่างบางให้ลุกขึ้นนั่ง
“เป็นอย่างไรบ้าง ยังเจ็บตรงไหนหรือเปล่า” เสียงถามนุ่มหูหากแต่ไม่สามารถสร้างความพอใจให้หญิงสาวเสียสักนิด
ทันทีที่เฟรินลุกขึ้นนั่ง มือบางตบฉาดไปที่ใบหน้าขาวๆ ของชายหนุ่มคู่กรณี
“คนเลว!!” เสียงตวาดสั่นเทิ้ม นัยน์ตาสีน้ำตาลร้อนเผ่าให้น้ำน้อยไหลซึมออกมาอีกครั้ง
คา โลไม่ได้ตอบโต้หญิงสาวแต่ประการใด เขาเองก็รับรู้ได้ถึงความผิดที่เขาเป็นผู้กระทำ ชายหนุ่มยกมือขึ้นเช็ดน้ำตาที่หลั่งรินของหญิงสาว หากแต่ถูกสาวน้อยปัดออกอย่างไม่ใยดี “ไม่ต้องมาถูกตัวฉัน จะไปไหนก็ไปให้พ้น!!”
คาโลคุกเข่าลงข้างเตียง มือแกร่งจับมือบางที่พยายามสะบัดให้หลุดออกไว้แน่น “ขอโทษนะ.. ฉัน.. เอ่อ”
คำขอโทษนุ่มหูหากแต่กลับบันดาลโทสะให้กับผู้ฟังอย่างเหลือหลาย “ขอโทษงั้นหรือ!! นายทำฉันขนาดนั้นแค่ขอโทษงั้นหรือ”
“ฉันไม่ได้ตั้งใจนะ.. แต่ฉัน..” คาโลพยายามอธิบาย หากแต่ยังไม่ทันพูดจบหญิงสาวกลับสวนขึ้นกระทันหัน
“ ไม่ได้ตั้งใจงั้นสินะ.. นายจะว่าทั้งหมดเป็นเหตุสุดวิสัยงั้นสิ” หญิงสาวว่าต่ออย่างสุดแสนเจ็บใจ คำพูดที่ออกจากปากชายหนุ่มสุดที่รักช่างแสงใจนัก
“เฟริน!! ไม่ใช่นะ.. ฟังฉันพูดก่อน..” ชายหนุ่มพยายามอธิบาย หากแต่เสียงสะอื้นไห้กลับดังกลบ
เฟรินพ ยายามพยุงตัวลุกขึ้นด้วยความลำบาก แต่ก็ไม่ลืมคว้าผ้านวมผืนใหญ่คลุมร่างที่เปลือยเปล่าไว้ ใบหน้างามยังคงเต็มไปด้วยรอยน้ำแห่งความเจ็บช้ำ มือแกร่งที่ยื่นเข้าไปช่วยเหลือถูกปฏิเสธให้ต้องถอยห่าง
ชายหนุ่มได้ แต่ยืนมองด้วยความหดหู่ ทั้งที่เขาเองก็เป็นถึงนักเรียนดีเด่นของโรงเรียน ทั้งที่เขาสามารถทำข้อสอบได้คะแนนสูง แต่เพราะเหตุใดเขาถึงไม่สามารถแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นนี้ได้ ทั้งที่เขาทั้งรักทั้งหวงแหนหญิงสาวตรงหน้า แต่ทำไมเขาถึงปล่อยให้เจ้าหล่อนต้องทุกข์ใจเช่นนี้
อาจเพราะสวรรค์เป็นใจ ร่างบางที่ลุกขึ้นอย่างเก้ๆ กังๆ สะดุดผ้านวมผืนใหญ่ที่ดึงขึ้นคลุมกาย เซล้มไปทางที่ชายหนุ่มยืนนิ่ง
คา โลรับร่างของหญิงสาวไว้ได้ก่อนล้มลง กลิ่นกายหอมจากร่างบางลอยขึ้นกระทบโสตสัมผัสให้แช่มชื่น กลิ่นกายที่หอมหวานน่าพิสมัย กลิ่นที่เขาจำได้ไม่รู้ลืม
ทันทีที่ร่างบางของหญิงสาวถลาเข้าสู่อ้อมอกของชายหนุ่ม มือแกร่งรีบกระชับร่างบางไว้แน่น
สาว น้อยขี้งอนพยายามดิ้นหนีให้หลุดออกจากอ้อมอกอันแสนอบอุ่นนั้น หากแต่ชายหนุ่มกลับกระชับอ้อมกอดให้แน่นเข้า ริมฝีปากหนาเริ่มคลอเคลียผ่านไรผมสีน้ำตาลเรื่อยสู่ข้างหูบาง ก่อนจะกระซิบคำบอกรักที่เคยมัดใจสาวขี้งอนได้สำเร็จอีกหน
“รัก” อาการดิ้นเริ่มลดลง
“รักมาก” เสียงสะอื้นเริ่มเงียบหาย
“รักมากที่สุด” ใบหน้าหวานเริ่มขึ้นสีระเรื่อ
ทันที ที่คำบอกรักออกจากปากของชายหนุ่มสุดที่รัก อาการดิ้นอ่อนลงอย่างเห็นได้ชัด คงเหลือเพียงความเอียงอายของหญิงสาวที่ไม่ค่อยเห็นได้บ่อยนักจากเจ้าหญิงหัว ขโมยสองดินแดน
มือใหญ่ช้อนใบหน้าหวานขึ้นสบ นัยน์ตาสองคู่ส่งประสานบ่งบอกความนัยแห่งรักของกันและกันก่อนที่ชายหนุ่มจะ ก้มลง มอบจุมพิตอันแสนหวานให้แก่หญิงสาวสุดที่รัก จุมพิตแห่งรักนิรันดร จุมพิตสาบานรักแห่งคาโนวาล
รสจุมพิตอันแสนหวานและเนิ่นนานถูกกลบด้วยเสียงท้องร้องดังกึกก้องของหญิงสาวที่เริ่มร้องประท้วง
คาโลถอนใจดังเฮือกด้วยจนเกล้าต่อสาวน้อยนักกินสุดที่รัก ในขณะที่หญิงสาวเริ่มส่งสายตาออดอ้อน
ชาย หนุ่มจึงอุ้มหญิงสาวกลับขึ้นนั่งพักบนเตียงพร้อมยกถาดอาหารที่เตรียมไว้ให้ สาวน้อยนักกิน จากนั้นจึงค่อยพาหญิงสาวกลับไปพักผ่อนต่อที่ห้องพักของเจ้าหล่อน (ห้องของคาโลเป็นห้องรวมจ้า คาโลยังพักกับคิลนะ ส่วนเฟรินพักห้องเดี่ยว)
******************************************************************
ห้องอาหารดราก้อนเริ่มจอแจขึ้นอีกครั้งเมื่อชาวป้อมอัศวินที่เริ่มสร่าง(เมา ) จากงานฉลองทยอยลงมาในช่วงเวลาเย็น และที่สามารถเพิ่มเสียงฮือฮามากยิ่งขึ้นคือเจ้าชายน้ำแข็งหัวหน้าป้อมที่ ประคองสาวคนรักเข้ามาอย่างไม่เกรงสายตาประชาชีร่วมป้อม อีกทั้งยังเป็นบริกรส่วนตัว เสริ์ฟอาหารและน้ำมิได้ขาด ทั้งยังไม่มีการห้ามสาวน้อยนักกินที่แสนจะมูมมามให้ยุติ(การกิน) เช่นทุกครั้ง
“เกิดอะไรขึ้นเนี่ย” เสียงหนึ่งดังขึ้นจากโต๊ะอาหารของเหล่าทะโมนปีห้า
“ทุกทีคาโลไม่เคยบริการเฟรินขนาดนี้นี่นา” อีกเสียงหนึ่งขานรับ
“ทุกครั้งถ้าเฟรินกินมากเจ้าคาโลก็มักจะห้ามตลอด หรือถ้ากินไม่สมหญิงก็จะดุไม่ใช่หรือ”
“วันนี้ดูแปลกไปจริงๆ นะครับ”
“หรือว่าเมื่อวาน..”
“จริงด้วย.. เมื่อวานพวกเราให้เฟรินตามไปง้อเจ้าคาโลนี่นา”
“แล้วพวกเขาไปง้อกันยังไงคาโลถึงได้บริการเฟรินขนาดนี้เนี่ย”
เสียงวิพากษ์วิจารณ์คู่รักหนุ่มสาวดังกระหึ่มรอบโต๊ะเหล่าสมาชิกป้อมอัศวิน ปีห้า(คาโลกะเฟรินปลีกวิเวกแยกโต๊ะต่างหาก) กระทั่งเสียงสรุปขึ้นจากผู้รอบรู้ด้านบุรุษสตรีศาสตร์ นายนักรบผู้ชำนาญแห่งไนล์ ครื๊ด ธันเดอร์ เรียกให้สายตาทุกคู่รอบโต๊ะมองไปทางต้นเสียง “หรือว่า..”
“เมื่อคืนเฟรินก็ไม่ได้กลับมาที่งานเลี้ยง สงสัยพวกเขาไปง้อกันกลมทั้งคืนแหง๋” คำพูดมีเลศนัยชวนให้คิดลึก หากแต่ก็พอมีมูล
“แต่คาโลไม่เป็นคนแบบนั้นนี่นา” คำแก้ต่างให้เดอะไอซ์ปริ๊นซ์จากเจ้าแม่แห่งป้อม มาทิลด้า ซิลเวอร์
“ใช่ค่ะ คุณคาโลเป็นสุภาพบุรุษนะคะ คงไม่ล่วงเกินคุณเฟรินหรอกค่ะ” เจ้าหญิงแห่งคาโนวาล เรนอน ธีน็อทร่วมยืนยัน
“แต่เมื่อคืนทั้งสองคนก็ไม่ได้กลับเข้าไปในงานเลี้ยงจริงๆ นะครับ” นักบวชแห่งบารามอส ซีบิล สแวน ย้ำเหตุการณ์
“ถ้าอยากรู้ก็ต้องถามจากเจ้าตัวเท่านั้นแหละ” สาวน้อยน้องนุช แองเจลิน่า โรมานอฟ กล่าวสรุป
“แล้วจะให้ใครไปถามล่ะ” ทันทีที่คำถามหลุดจากปากของนักบวชแห่งกิลดิเรก กัส โทนิย่า สายตาของบุคคลรอบโต๊ะตรงดิ่งไปยังนักฆ่านัยน์ตาสีม่วงทันที
นักฆ่าหนุ่มยกมือชี้ที่ตนเองเป็นเชิงถาม ซึ่งได้รับการพยักหน้าเป็นคำตอบจากเหล่าทะโมนร่วมรุ่น
“เฮ้!! ทำไมต้องเป็นฉันล่ะ” นักฆ่าผู้ได้รับมอบหมายหน้าที่แย้งขึ้นทันที
“ก็เพราะนายสนิทกับพวกเขาสองคนที่สุดนี่นา” คำอธิบายอย่างสมเหตุผลของนายขอทานเสนาธิการตามด้วยการพยักหน้าของเหล่าทะโมน ทั้งหลายอีกครั้ง
“ไม่มีทาง” คำตอบหนักแน่นชัดถ้อยชัดคำดังขึ้นจากปากนักฆ่าหลังจากคำนวนค่าความเสี่ยงของ งานที่ได้รับเรียบร้อยแล้ว “ฉันยังไม่อยากถูกแช่แข็งหรอกนะ ถ้าพวกนายอยากรู้นักก็เข้าไปถามเองสิ”
คำตอบที่ทำให้เหล่าก๊วนร่วมโต๊ะฉุกคิด สำหรับเจ้าหัวขโมยปากเบาคงไม่เท่าใดนัก หากแต่เจ้าชายน้ำแข็งหัวหน้าป้อมนี่สิ คงต้องคิดสร้างประติมากรรมน้ำแข็งประดับป้อมอัศวินเป็นแน่หากมีผู้ใดคิดเข้า ไปละลาบละล้วงถึงความสัมพันธ์ระหว่างคุณท่านกะเจ้าหญิงหัวขโมยสุดที่รัก
บทสรุปที่ทำให้เหล่าก๊วนต่างตัดสินใจล่าถอยแม้ว่าภายในใจยังคงต้องการทราบถึงความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นนี้ก็ตามที
ถัดมาทางโต๊ะคู่สวีทข้าวใหม่ปลามัน (ในความคิดของเจ้าชายน้ำแข็งเดินได้)
อาหารชุดที่สามหมดลงด้วยฝีมือยอดนักกินแห่งบารามอส เจ้าชายนักรบจ้องมองไปยังจานอาหารที่ว่างเปล่าจนเกือบสะอาด (ท่าจะใช้ลิ้นช่วยทำความสะอาดนะเนี่ย) ก่อนจะมองกลับไปยังใบหน้าหวานของสาวคนรักที่เริ่มส่งสายตาออดอ้อนมาให้
เจ้าชายหนุ่มที่พอจะทราบความนัยน์ของสายตาหวานปิ้งที่ส่งมาจึงเอ่ยดักด้วย น้ำเสียงนุ่มอ่อนโยน “พอได้แล้ว.. ที่นายกินไปตะกี้เป็นชุดที่ 3 แล้วนะ กินมากเกินไปอาจป่วยได้นะ”
“ก็มันยังไม่อิ่มนี่นา” หญิงสาวแย้ง “ไม่รู้วันนี้เป็นอะไร หิวมากๆ เลย”
“แต่ที่นายกินเข้าไปก็มากกว่าของคนอื่นแล้วนะ” ชายหนุ่มโต้ (ท่าจะลืมคิดถึงความจุในกระเพาะของเจ้าหล่อน)
หญิงสาวจ้องมองชายหนุ่มคนรักเขม็ง ใบหน้างามเริ่มบูด แก้มขาวอมชมพูป่องอูม สาวงามเริ่มออกอาการงอนใส่
“ได้!!.. นายไม่ไปเอาให้ ฉันไปเองก็ได้” เฟรินลุกขึ้นจากโต๊ะทันทีที่พูดจบ หากเพียงแต่หญิงสาวเริ่มก้าวเดิน ใบหน้าหวานเริ่มออกอาการเจ็บปวด ร่างบางที่เหมือนจะไร้เรี่ยวแรงเริ่มเซทรุด เรียกให้เจ้าชายสุภาพบุรุษรีบถลาขึ้นประคองให้นั่งลงตามเดิม
“นายนั่งเฉยๆ เดี๋ยวฉันไปเอามาให้” คำสั่งเด็ดขาดตามสไตล์เจ้าชายน้ำแข็ง เรียกให้สาวคนรักอมยิ้มนิดๆ ด้วยรู้อยู่แล้วว่าอย่างไรเสียบริกรหนุ่มจำเป็นต้องไปเอาอาหารมาให้อีกอย่าง แน่นอน
“งั้นขอแอปเปิ้ลด้วยนะ” เสียงเพิ่มรายการอาหารทำให้เจ้าชายหนุ่มหันกลับไปมองสาวน้อยนักกินอีกครา “เอา 3 ลูกนะ”
รอยยิ้มหวานที่ส่งกลับมาทำให้ผู้มองรู้สึกหงุดหงิดใจมิใช่น้อย แต่จะทำอย่างไรได้ล่ะ ในเมื่อเขาตั้งใจไว้แล้วว่าจากนี้ไปเขาจะดูแลเธอผู้นี้ให้ดีที่สุด ดูแลเธอให้ดีกว่าที่ผ่านมา.. เพราะบัดนี้ เธอได้กลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของเขาแล้ว
**************************************************
apple เองจ้า
ขอตัดจบตอน 100% แค่นี้แล้วกันนะ ถ้าต่อไปจะเลยไปถึงอีกตอนที่วางไวอะ
แล้วจะรีบมาต่อตอนต่อไปนะจ๊ะ
14/6/2549
วันนี้ก็เพิ่มอีกนิด ประมาณ 35% แล้วมั้ง (อัพวันละนิดจิตแจ่มใสเน้อ)
[ทั้งที่ในความเป็นจริงมันจิ้นออกแค่นี้ต่างหาก ฮา]
13/6/2549
เพิ่มอีกประมาณ 10 อะนะ ก็เป็น 25% แล้วเน้อ
ลองเดากันสิว่าคาโลจะง้อเฟรินไง ฮิฮิ
12/6/2549
15% ก่อนเน้อ แล้วไว้ค่อยมาต่อ (แบบว่ากะดองต่อ 55+)
10/6/2549
อาทิตย์ยามเช้าค่อยๆ ปรากฎกายขึ้นจากขอบฟ้า ส่องแสงอันอบอุ่นขับไล่ความเย็บเหยียบยามค่ำคืนให้มลายสิ้น
นัยน์ ตาสีฟ้าของคนตื่นเช้าปรือขึ้นรับแสงอรุณที่สาดส่องผ่านผ้าม่านผืนใหญ่เข้า สู่ห้องพักหัวหน้าชั้นปี มือแกร่งถูกยกขึ้นกุมขมับของชายหนุ่มที่มีอาการค้างจากฤทธิ์สุราแรงที่กระดก ไป
แม้จะปวดศรีษะ หากแต่ความรู้สึกภายในใจกลับชุ่มชื่นด้วยความฝันอันแสนหวานในค่ำคืนที่ผ่านมา
ความฝันร่วมกับเธอคนนั้น คนที่เขารักมากที่สุด..
ฝันที่เหมือนจะเป็นจริง ด้วยรสสัมผัสยังตราตรึงติดอยู่ทุกส่วนของร่างกาย..
คาโลค่อยๆ ลุกขึ้นจากเตียงเพื่อไปอาบน้ำ เขาหวังว่าน้ำเย็นๆ จะช่วยบรรเทาอาการปวดศรีษะ หากแต่ทันทีที่ชายหนุ่มเลิกผ้านวมผืนใหญ่ที่ห่มกายออก ดวงตาสีฟ้าสวยต้องเบิกกว้าง
ร่างกายเขาเปลือยเปล่า.. เขานอนโดยไม่ได้สวมเสื้อผ้าสักชิ้น..
ผ้านวมผืนใหญ่ถูกดึงขึ้นคลุมร่างหนุ่มขี้อายทันที สายตาคู่งามเหลือบเห็นเสื้อผ้าที่กองอยู่บนพื้นปลายเตียง
เสื้อผ้าของเขา.. และ..
“อืม~~ หนาว~~”
เสียง หวานที่ดังขึ้นข้างหูให้ชายหนุ่มสะดุ้ง นัยน์ตาสีฟ้าค่อยๆ หันไปมองร่างบางของหญิงสาวที่นอนอยู่เคียงข้าง ผ้านวมที่เผยอออกด้วยชายหนุ่มกระชากปกคลุมร่างอันเปลือยเปล่าของตน เผยให้เห็นร่างบางของหญิงสาวข้างกาย ร่างของหญิงอันเป็นที่รัก เจ้าหญิงเฟลิโอน่า เกรเดเวล
ผิวเนียนขาวที่ต้องลมเย็นยาวเช้า ทำให้สาวขี้หนาวขยับตัวเข้าหาไออุ่นจากร่างข้างกายยิ่งขึ้น
ทันทีที่ร่างแกร่งรับรู้ถึงสัมผัสอันอ่อนนุ่มของร่างบางไร้อาภรณ์ที่เข้าแนบชิด คาโลรีบกระโจนลุกขึ้นจากเตียงทันทีราวต้องของร้อน
ใบหน้าขาวของชายหนุ่มขึ้นสีระเรื่อ พลางย้อนคิดถึงความฝันอันแสนหวานยามค่ำคืนที่ผ่านมา
“ไม่ใช่ความฝัน.. งั้นสินะ” ชายหนุ่มรำพึงกับตนเองเบาๆ
คาโลยืนนิ่ง นัยน์ตาสีฟ้าจ้องมองร่างบางของหญิงสาวที่นอนคุดคู้อยู่ภายใต้ผ้านวมผืนใหญ่ คราบน้ำตายังคงเหลือเปราะเปื้อนอยู่บนใบหน้าหวาน ชายหนุ่มเดินเข้าไปใกล้ มือแกร่งลูบไล้ไปยังเรือนผมสีน้ำตาลอย่างรักใคร่
“ฉันคงทำให้เธอเจ็บ ปวดมากสินะ.. ขอโทษด้วย” นัยน์ตาสีฟ้าหม่นลงชั่วครู่ ก่อนจะสุกใสแวววาวขึ้นทันที “แต่ตอนนี้เธอเป็นของฉันแล้ว และฉันจะไม่มีวันยอมให้เธอกลายเป็นของคนอื่นเด็ดขาด”
******************************************************************
อาหาร เช้าส่งกลิ่นหอมยั่วยวนให้ยอดนักกินแห่งบารามอสเริ่มรู้สึกตัว หญิงสาวที่ยังระบมจากบทรักของชายหนุ่มไม่หายเริ่มส่งเสียงร้องคราง “อูย~~ เจ็บ”
เสียงร้องที่ทำให้ชายหนุ่มรู้ว่าสุดที่รักตื่นแล้ว คาโลรีบวางถาดอาหารลงกับโต๊ะก่อนจะถลาไปช่วยพยุงร่างบางให้ลุกขึ้นนั่ง
“เป็นอย่างไรบ้าง ยังเจ็บตรงไหนหรือเปล่า” เสียงถามนุ่มหูหากแต่ไม่สามารถสร้างความพอใจให้หญิงสาวเสียสักนิด
ทันทีที่เฟรินลุกขึ้นนั่ง มือบางตบฉาดไปที่ใบหน้าขาวๆ ของชายหนุ่มคู่กรณี
“คนเลว!!” เสียงตวาดสั่นเทิ้ม นัยน์ตาสีน้ำตาลร้อนเผ่าให้น้ำน้อยไหลซึมออกมาอีกครั้ง
คา โลไม่ได้ตอบโต้หญิงสาวแต่ประการใด เขาเองก็รับรู้ได้ถึงความผิดที่เขาเป็นผู้กระทำ ชายหนุ่มยกมือขึ้นเช็ดน้ำตาที่หลั่งรินของหญิงสาว หากแต่ถูกสาวน้อยปัดออกอย่างไม่ใยดี “ไม่ต้องมาถูกตัวฉัน จะไปไหนก็ไปให้พ้น!!”
คาโลคุกเข่าลงข้างเตียง มือแกร่งจับมือบางที่พยายามสะบัดให้หลุดออกไว้แน่น “ขอโทษนะ.. ฉัน.. เอ่อ”
คำขอโทษนุ่มหูหากแต่กลับบันดาลโทสะให้กับผู้ฟังอย่างเหลือหลาย “ขอโทษงั้นหรือ!! นายทำฉันขนาดนั้นแค่ขอโทษงั้นหรือ”
“ฉันไม่ได้ตั้งใจนะ.. แต่ฉัน..” คาโลพยายามอธิบาย หากแต่ยังไม่ทันพูดจบหญิงสาวกลับสวนขึ้นกระทันหัน
“ ไม่ได้ตั้งใจงั้นสินะ.. นายจะว่าทั้งหมดเป็นเหตุสุดวิสัยงั้นสิ” หญิงสาวว่าต่ออย่างสุดแสนเจ็บใจ คำพูดที่ออกจากปากชายหนุ่มสุดที่รักช่างแสงใจนัก
“เฟริน!! ไม่ใช่นะ.. ฟังฉันพูดก่อน..” ชายหนุ่มพยายามอธิบาย หากแต่เสียงสะอื้นไห้กลับดังกลบ
เฟรินพ ยายามพยุงตัวลุกขึ้นด้วยความลำบาก แต่ก็ไม่ลืมคว้าผ้านวมผืนใหญ่คลุมร่างที่เปลือยเปล่าไว้ ใบหน้างามยังคงเต็มไปด้วยรอยน้ำแห่งความเจ็บช้ำ มือแกร่งที่ยื่นเข้าไปช่วยเหลือถูกปฏิเสธให้ต้องถอยห่าง
ชายหนุ่มได้ แต่ยืนมองด้วยความหดหู่ ทั้งที่เขาเองก็เป็นถึงนักเรียนดีเด่นของโรงเรียน ทั้งที่เขาสามารถทำข้อสอบได้คะแนนสูง แต่เพราะเหตุใดเขาถึงไม่สามารถแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นนี้ได้ ทั้งที่เขาทั้งรักทั้งหวงแหนหญิงสาวตรงหน้า แต่ทำไมเขาถึงปล่อยให้เจ้าหล่อนต้องทุกข์ใจเช่นนี้
อาจเพราะสวรรค์เป็นใจ ร่างบางที่ลุกขึ้นอย่างเก้ๆ กังๆ สะดุดผ้านวมผืนใหญ่ที่ดึงขึ้นคลุมกาย เซล้มไปทางที่ชายหนุ่มยืนนิ่ง
คา โลรับร่างของหญิงสาวไว้ได้ก่อนล้มลง กลิ่นกายหอมจากร่างบางลอยขึ้นกระทบโสตสัมผัสให้แช่มชื่น กลิ่นกายที่หอมหวานน่าพิสมัย กลิ่นที่เขาจำได้ไม่รู้ลืม
ทันทีที่ร่างบางของหญิงสาวถลาเข้าสู่อ้อมอกของชายหนุ่ม มือแกร่งรีบกระชับร่างบางไว้แน่น
สาว น้อยขี้งอนพยายามดิ้นหนีให้หลุดออกจากอ้อมอกอันแสนอบอุ่นนั้น หากแต่ชายหนุ่มกลับกระชับอ้อมกอดให้แน่นเข้า ริมฝีปากหนาเริ่มคลอเคลียผ่านไรผมสีน้ำตาลเรื่อยสู่ข้างหูบาง ก่อนจะกระซิบคำบอกรักที่เคยมัดใจสาวขี้งอนได้สำเร็จอีกหน
“รัก” อาการดิ้นเริ่มลดลง
“รักมาก” เสียงสะอื้นเริ่มเงียบหาย
“รักมากที่สุด” ใบหน้าหวานเริ่มขึ้นสีระเรื่อ
ทันที ที่คำบอกรักออกจากปากของชายหนุ่มสุดที่รัก อาการดิ้นอ่อนลงอย่างเห็นได้ชัด คงเหลือเพียงความเอียงอายของหญิงสาวที่ไม่ค่อยเห็นได้บ่อยนักจากเจ้าหญิงหัว ขโมยสองดินแดน
มือใหญ่ช้อนใบหน้าหวานขึ้นสบ นัยน์ตาสองคู่ส่งประสานบ่งบอกความนัยแห่งรักของกันและกันก่อนที่ชายหนุ่มจะ ก้มลง มอบจุมพิตอันแสนหวานให้แก่หญิงสาวสุดที่รัก จุมพิตแห่งรักนิรันดร จุมพิตสาบานรักแห่งคาโนวาล
รสจุมพิตอันแสนหวานและเนิ่นนานถูกกลบด้วยเสียงท้องร้องดังกึกก้องของหญิงสาวที่เริ่มร้องประท้วง
คาโลถอนใจดังเฮือกด้วยจนเกล้าต่อสาวน้อยนักกินสุดที่รัก ในขณะที่หญิงสาวเริ่มส่งสายตาออดอ้อน
ชาย หนุ่มจึงอุ้มหญิงสาวกลับขึ้นนั่งพักบนเตียงพร้อมยกถาดอาหารที่เตรียมไว้ให้ สาวน้อยนักกิน จากนั้นจึงค่อยพาหญิงสาวกลับไปพักผ่อนต่อที่ห้องพักของเจ้าหล่อน (ห้องของคาโลเป็นห้องรวมจ้า คาโลยังพักกับคิลนะ ส่วนเฟรินพักห้องเดี่ยว)
******************************************************************
ห้องอาหารดราก้อนเริ่มจอแจขึ้นอีกครั้งเมื่อชาวป้อมอัศวินที่เริ่มสร่าง(เมา ) จากงานฉลองทยอยลงมาในช่วงเวลาเย็น และที่สามารถเพิ่มเสียงฮือฮามากยิ่งขึ้นคือเจ้าชายน้ำแข็งหัวหน้าป้อมที่ ประคองสาวคนรักเข้ามาอย่างไม่เกรงสายตาประชาชีร่วมป้อม อีกทั้งยังเป็นบริกรส่วนตัว เสริ์ฟอาหารและน้ำมิได้ขาด ทั้งยังไม่มีการห้ามสาวน้อยนักกินที่แสนจะมูมมามให้ยุติ(การกิน) เช่นทุกครั้ง
“เกิดอะไรขึ้นเนี่ย” เสียงหนึ่งดังขึ้นจากโต๊ะอาหารของเหล่าทะโมนปีห้า
“ทุกทีคาโลไม่เคยบริการเฟรินขนาดนี้นี่นา” อีกเสียงหนึ่งขานรับ
“ทุกครั้งถ้าเฟรินกินมากเจ้าคาโลก็มักจะห้ามตลอด หรือถ้ากินไม่สมหญิงก็จะดุไม่ใช่หรือ”
“วันนี้ดูแปลกไปจริงๆ นะครับ”
“หรือว่าเมื่อวาน..”
“จริงด้วย.. เมื่อวานพวกเราให้เฟรินตามไปง้อเจ้าคาโลนี่นา”
“แล้วพวกเขาไปง้อกันยังไงคาโลถึงได้บริการเฟรินขนาดนี้เนี่ย”
เสียงวิพากษ์วิจารณ์คู่รักหนุ่มสาวดังกระหึ่มรอบโต๊ะเหล่าสมาชิกป้อมอัศวิน ปีห้า(คาโลกะเฟรินปลีกวิเวกแยกโต๊ะต่างหาก) กระทั่งเสียงสรุปขึ้นจากผู้รอบรู้ด้านบุรุษสตรีศาสตร์ นายนักรบผู้ชำนาญแห่งไนล์ ครื๊ด ธันเดอร์ เรียกให้สายตาทุกคู่รอบโต๊ะมองไปทางต้นเสียง “หรือว่า..”
“เมื่อคืนเฟรินก็ไม่ได้กลับมาที่งานเลี้ยง สงสัยพวกเขาไปง้อกันกลมทั้งคืนแหง๋” คำพูดมีเลศนัยชวนให้คิดลึก หากแต่ก็พอมีมูล
“แต่คาโลไม่เป็นคนแบบนั้นนี่นา” คำแก้ต่างให้เดอะไอซ์ปริ๊นซ์จากเจ้าแม่แห่งป้อม มาทิลด้า ซิลเวอร์
“ใช่ค่ะ คุณคาโลเป็นสุภาพบุรุษนะคะ คงไม่ล่วงเกินคุณเฟรินหรอกค่ะ” เจ้าหญิงแห่งคาโนวาล เรนอน ธีน็อทร่วมยืนยัน
“แต่เมื่อคืนทั้งสองคนก็ไม่ได้กลับเข้าไปในงานเลี้ยงจริงๆ นะครับ” นักบวชแห่งบารามอส ซีบิล สแวน ย้ำเหตุการณ์
“ถ้าอยากรู้ก็ต้องถามจากเจ้าตัวเท่านั้นแหละ” สาวน้อยน้องนุช แองเจลิน่า โรมานอฟ กล่าวสรุป
“แล้วจะให้ใครไปถามล่ะ” ทันทีที่คำถามหลุดจากปากของนักบวชแห่งกิลดิเรก กัส โทนิย่า สายตาของบุคคลรอบโต๊ะตรงดิ่งไปยังนักฆ่านัยน์ตาสีม่วงทันที
นักฆ่าหนุ่มยกมือชี้ที่ตนเองเป็นเชิงถาม ซึ่งได้รับการพยักหน้าเป็นคำตอบจากเหล่าทะโมนร่วมรุ่น
“เฮ้!! ทำไมต้องเป็นฉันล่ะ” นักฆ่าผู้ได้รับมอบหมายหน้าที่แย้งขึ้นทันที
“ก็เพราะนายสนิทกับพวกเขาสองคนที่สุดนี่นา” คำอธิบายอย่างสมเหตุผลของนายขอทานเสนาธิการตามด้วยการพยักหน้าของเหล่าทะโมน ทั้งหลายอีกครั้ง
“ไม่มีทาง” คำตอบหนักแน่นชัดถ้อยชัดคำดังขึ้นจากปากนักฆ่าหลังจากคำนวนค่าความเสี่ยงของ งานที่ได้รับเรียบร้อยแล้ว “ฉันยังไม่อยากถูกแช่แข็งหรอกนะ ถ้าพวกนายอยากรู้นักก็เข้าไปถามเองสิ”
คำตอบที่ทำให้เหล่าก๊วนร่วมโต๊ะฉุกคิด สำหรับเจ้าหัวขโมยปากเบาคงไม่เท่าใดนัก หากแต่เจ้าชายน้ำแข็งหัวหน้าป้อมนี่สิ คงต้องคิดสร้างประติมากรรมน้ำแข็งประดับป้อมอัศวินเป็นแน่หากมีผู้ใดคิดเข้า ไปละลาบละล้วงถึงความสัมพันธ์ระหว่างคุณท่านกะเจ้าหญิงหัวขโมยสุดที่รัก
บทสรุปที่ทำให้เหล่าก๊วนต่างตัดสินใจล่าถอยแม้ว่าภายในใจยังคงต้องการทราบถึงความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นนี้ก็ตามที
ถัดมาทางโต๊ะคู่สวีทข้าวใหม่ปลามัน (ในความคิดของเจ้าชายน้ำแข็งเดินได้)
อาหารชุดที่สามหมดลงด้วยฝีมือยอดนักกินแห่งบารามอส เจ้าชายนักรบจ้องมองไปยังจานอาหารที่ว่างเปล่าจนเกือบสะอาด (ท่าจะใช้ลิ้นช่วยทำความสะอาดนะเนี่ย) ก่อนจะมองกลับไปยังใบหน้าหวานของสาวคนรักที่เริ่มส่งสายตาออดอ้อนมาให้
เจ้าชายหนุ่มที่พอจะทราบความนัยน์ของสายตาหวานปิ้งที่ส่งมาจึงเอ่ยดักด้วย น้ำเสียงนุ่มอ่อนโยน “พอได้แล้ว.. ที่นายกินไปตะกี้เป็นชุดที่ 3 แล้วนะ กินมากเกินไปอาจป่วยได้นะ”
“ก็มันยังไม่อิ่มนี่นา” หญิงสาวแย้ง “ไม่รู้วันนี้เป็นอะไร หิวมากๆ เลย”
“แต่ที่นายกินเข้าไปก็มากกว่าของคนอื่นแล้วนะ” ชายหนุ่มโต้ (ท่าจะลืมคิดถึงความจุในกระเพาะของเจ้าหล่อน)
หญิงสาวจ้องมองชายหนุ่มคนรักเขม็ง ใบหน้างามเริ่มบูด แก้มขาวอมชมพูป่องอูม สาวงามเริ่มออกอาการงอนใส่
“ได้!!.. นายไม่ไปเอาให้ ฉันไปเองก็ได้” เฟรินลุกขึ้นจากโต๊ะทันทีที่พูดจบ หากเพียงแต่หญิงสาวเริ่มก้าวเดิน ใบหน้าหวานเริ่มออกอาการเจ็บปวด ร่างบางที่เหมือนจะไร้เรี่ยวแรงเริ่มเซทรุด เรียกให้เจ้าชายสุภาพบุรุษรีบถลาขึ้นประคองให้นั่งลงตามเดิม
“นายนั่งเฉยๆ เดี๋ยวฉันไปเอามาให้” คำสั่งเด็ดขาดตามสไตล์เจ้าชายน้ำแข็ง เรียกให้สาวคนรักอมยิ้มนิดๆ ด้วยรู้อยู่แล้วว่าอย่างไรเสียบริกรหนุ่มจำเป็นต้องไปเอาอาหารมาให้อีกอย่าง แน่นอน
“งั้นขอแอปเปิ้ลด้วยนะ” เสียงเพิ่มรายการอาหารทำให้เจ้าชายหนุ่มหันกลับไปมองสาวน้อยนักกินอีกครา “เอา 3 ลูกนะ”
รอยยิ้มหวานที่ส่งกลับมาทำให้ผู้มองรู้สึกหงุดหงิดใจมิใช่น้อย แต่จะทำอย่างไรได้ล่ะ ในเมื่อเขาตั้งใจไว้แล้วว่าจากนี้ไปเขาจะดูแลเธอผู้นี้ให้ดีที่สุด ดูแลเธอให้ดีกว่าที่ผ่านมา.. เพราะบัดนี้ เธอได้กลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของเขาแล้ว
**************************************************
apple เองจ้า
ขอตัดจบตอน 100% แค่นี้แล้วกันนะ ถ้าต่อไปจะเลยไปถึงอีกตอนที่วางไวอะ
แล้วจะรีบมาต่อตอนต่อไปนะจ๊ะ
14/6/2549
วันนี้ก็เพิ่มอีกนิด ประมาณ 35% แล้วมั้ง (อัพวันละนิดจิตแจ่มใสเน้อ)
[ทั้งที่ในความเป็นจริงมันจิ้นออกแค่นี้ต่างหาก ฮา]
13/6/2549
เพิ่มอีกประมาณ 10 อะนะ ก็เป็น 25% แล้วเน้อ
ลองเดากันสิว่าคาโลจะง้อเฟรินไง ฮิฮิ
12/6/2549
15% ก่อนเน้อ แล้วไว้ค่อยมาต่อ (แบบว่ากะดองต่อ 55+)
10/6/2549
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น