ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    (ฟิคหัวขโมยแห่งบารามอส) ก่อนจะเกิดเรื่องวุ่นๆของเฟรินและคาโล

    ลำดับตอนที่ #2 : บทที่ 1 เมา

    • อัปเดตล่าสุด 22 ส.ค. 49


    บทที่ 1  เมา



    การแข่งขันหมากกระดานเกียรติยศในปีนี้ยังคงความสนุกสนานเฉกเช่นทุกปีที่ผ่านมา  และด้วยความสามารถของเดอะเชสมาสเตอร์แห่งบารามอส  ทำให้ป้อมอัศวินคว้าตราพระราชามาครองได้เป็นปีที่ 3  ติดต่อกัน  (เมื่อสองปีก่อน  ปี 7  ป้อมอัศวินได้ครองตราพระราชา  ปีถัดมาปี 4  (รุ่นเฟริน) ได้ตำแหน่งชนะเลิศและได้ครองตราพระราชา)



    แม้เวลาจะล่วงเลยจนถึงเวลาค่ำ  ความฮึกเหิมในใจของเหล่าผู้ชนะยังไม่หมดสิ้น  เสียงพูดคุยถึงช่วงเวลาการแข่งขันอันดุเดือดยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่อง  โดยเฉพาะเหล่าผู้ครองตำแหน่งชนะเลิศที่กำลังเดินกลับขึ้นป้อมอัศวินหลังเวลาอาหารเย็น

    “ฮ่าฮ่า  พวกนายเห็นหน้าของพวกปราสาทขุนนางหรือเปล่า  หน้าบอกบุญไม่รับทั้งนั้นเลย”  เสียงพูดอย่างดีใจของหัวขโมยตัวป่วนประจำป้อม  เฟริน  เดอเบอโรว์  หรือ  เจ้าหญิงเฟลิโอน่า  เกรเดเวล  แห่งเดมอสและบารามอส  ดังลั่นทางเดินสู่ห้องนั่งเล่นประจำชั้นปีห้า  ป้อมอัศวิน

    “เห็นแล้ว  ก็พวกนั้นไม่เจียมนี่นา  ริอาจมาชนกะท่านครี๊ดผู้นี้”  นักรบแห่งไนล์  ครี๊ด  ธันเดอร์  ผู้ครองตำแหน่งเบี้ยที่สามารถเผด็จศึกควีนแห่งปราสาทขุนนางได้คุยโอ่ร่วมด้วยทันที  เพิ่มเสียงหัวเราะให้แก่เหล่าเพื่อนร่วมรุ่นที่เดินตามกันมาได้

    “แต่จะว่าไป..  ทั้งหมดเป็นเพราะแผนการเดินหมากของคุณเฟรินนะครับเนี่ย”  นักบวชแสนสุภาพแห่งบารามอส  ซีบิล  สแวน  กล่าว

    “แหง๋อยู่แล้ว  ระดับเชสมาสเตอร์แห่งบารามอสคนนี้ไม่มีใครสู้ได้อยู่แล้ว”  เฟรินอวดตัวต่อทันที

    “แล้วใครน๊า~~  ที่ร้องโอดครวญขอเปลี่ยนตัวไม่อยากเป็นผู้เดินหมากน่ะ”  แม่มดแห่งวิชท์  แองเจลิน่า  โรมานอฟ  สวนเข้า  ทำให้ผู้เดินหมากระดับเชสมาสเตอร์แห่งบารามอสต้องหน้ามุ่ย

    “คนมีดีก็ต้องเล่นตัวหน่อยสิ  ไม่งั้นคนอื่นจะเห็นค่าหรือไง”

    “จ้าจ้า..  งั้นปีหน้านายก็เป็นผู้เดินหมากอีกรอบแล้วกันนะ”  คำทิ้งท้ายของเจ้าแม่แห่งป้อม  มาทิลด้า  ซิลเวอร์  เดอะปริ๊นซ์เซสออฟอเมซอล  ก่อนเดินเข้าห้องนั่งเล่นเป็นคนแรก  เรียกให้คนเล่นตัวต้องอ้าปากค้าง

    “เฮ้ย~~  ได้ไง~~  ไหนว่าปีหน้าจะให้ฉันเป็นลงสนามเป็นเบี้ยธรรมดาไง”  เฟรินร้องประท้วง  “นี่~~”

    หากแต่ไร้ซึ่งความเห็นใจจากก๊วนเพื่อนที่เดินลอยหน้าเข้าห้องนั่งเล่นทีละคน  ครี๊ดเดินเข้ามาตบไหล่หญิงสาวเบาๆ

    “เอาน่า..  ทำใจเหอะ..  ไงก็ไม่มีใครยอมให้นายลงจากตำแหน่งคนเดินหมากอยู่แล้ว”  คำพูดที่ทำให้ความหงุดหงิดของหญิงสาวพุ่งสูงขึ้นอีก  หากแต่คำต่อมาของนายนักรบที่ก้าวเข้าสู่ห้องนักเล่นรวมของระดับชั้นปีห้ากลับสลายความหงุดหงินในใจของหัวขโมยสาวเสียสิ้น  “เฮ้..  พวกเรา!!  ได้เวลาฉลองกันแล้ว~~!!”



    เสียงเฮกระหึ่มจาก 18 ชีวิตสมาชิกชั้นปีห้าป้อมอัศวิน  ตอบรับเสียงร้องเปิดงานฉลองการชนะเลิศศึกหมากกระดานเกียรติยศของนักรบแห่งไนล์  ดังลั่นห้องนั่งเล่นประจำชั้นปีห้า  เฟรินรีบรี่เข้าไปจับจองที่นั่งข้างกองอาหารขบเคี้ยวที่เหล่าทะโมนช่วยกันจัดสรรขึ้นมาจากห้องอาหารดราก้อน  สุราชั้นเลิศที่ได้รับการเก็บ(ซ่อน) อย่างดีถูกนำขึ้นมาร่วมแจมในงานฉลองครั้งนี้ด้วยน้ำมือของสมาชิกสภาสูงแห่งป้อมอัศวิน

    “พวกนายเอาเหล้ามาจากไหน”  มาทิลด้าถามเสียงดุ  (ดื่มสุราของมึนเมาผิดกฎจ้า)

    “ฉันให้ทางบ้านส่งมาให้”  ครี๊ดตอบ  “ของชั้นดีเลยนะ  แรงมากด้วย  ฉันให้เตรียมไว้สำหรับงานฉลองครั้งนี้โดยเฉพาะนะเนี่ย”

    “แต่มันผิดกฎนะ”  เจ้าแม่แห่งป้อมว่า

    “หยวนเหอะน่า..  นานทีปีหนนะ”  เจ้าชายแห่งซาเรส  อาชูร่า  เอพริน  ส่งลูกอ้อนไปยังเจ้าแหม่แห่งป้อมอัศวิน

    “เพื่อโอกาสดีๆ เช่นนี้  ปล่อยให้พวกเราได้ฉลองกันเต็มที่เถอะน่า”  โครว์  อามสตรอง  รับลูกต่อ

    “คาโลยังไม่ว่าเลย  เธอก็ปล่อยๆ บ้างเถอะ”  เฟรินกล่าวย้ำพร้อมชี้ไปทางเจ้าชายน้ำแข็งแห่งคาโนวาล  คาโล  วาเนบลี  ที่ยังคงนิ่งเงียบ

    มาทิลด้าหันไปหาเจ้าชายหัวหน้าป้อมเพื่อขอความเห็นชอบ  หากแต่คำตอบที่ได้รับคือการพยักหน้าอย่างปลงๆ ของหัวหน้าป้อมที่คุมสมาชิกป้อมให้ปฏิบัติตามกฎไม่ได้  เรียกให้ผู้คุมกฎสาวต้องถอนใจตาม

    สุราชั้นดีถูกรินสู่แก้วที่ยื่นเข้ามารับจากเหล่าทะโมนประจำป้อม  น้ำสีอำพันส่งประกายสวยงามเชิญชวนให้ผู้พบเห็นได้ลิ้มลอง  เฟรินที่รับแก้วกลับมาเตรียมกระดกด้วยอารมณ์อันแสนชื่นมื่น  แต่ต้องมลายด้วยมือแกร่งของเจ้าชายพระคู่หมั้นที่ยื่นมาฉกแก้วสุราในมือหัวขโมยสาวไป

    “เอาคืนมา”  หัวขโมยที่ถูกขโมยแก้วสุราซึ่งหน้าเอ่ยทวง

    “นายห้ามดื่ม”  คำกล่าวสั้นๆ  แต่ได้ใจความของเจ้าชายยอดหอคอยงาช้าง

    “ทำไม”  คำถามพร้อมด้วยสายตาที่ไม่เป็นมิตรส่งกลับคืนเจ้าชายหัวหน้าป้อมที่ริอาจห้ามหัวขโมยดื่มสุรา

    ไม่มีคำตอบจากเจ้าชายดอกพิกุลร่วง  มือแกร่งที่ว่างยื่นออกเพื่อดึงสาวน้อยออกจากกลุ่มทะโมนขี้เมา  หากแต่หญิงสาวที่รู้ทันถอยห่าง  ตามด้วยเสียงแข็งกร้าวของหญิงสาวที่ดื้อดึง  “นายไม่มีสิทธิมาบังคับฉัน!!”

    “นายเป็นคู่หมั้นฉัน”  เสียงราบเรียบหากแต่นัยน์ตาสีฟ้าครุกกรุ่น

    “ก็แค่คู่หมั้น..  ยังถือว่าเป็นคนอื่น”  คำตอบอย่างลืมตัว  หากแต่ทำให้สติของคู่สนทนาขาดผึง

    “ฉัน..  เป็นแค่คนอื่นสำหรับนายสินะ”

    นัยน์ตาสีฟ้าที่หม่นลงและเสียงตัดพ้อที่ส่งกลับมาทำให้หัวขโมยปากเบาสะดุ้งเฮือก  “เอ่อ..”

    คาโลมองแก้วในมือที่บรรจุน้ำสีอำพันไว้เต็มแวบหนึ่ง  ก่อนจะกระดกเจ้าน้ำที่ว่าแรงรวดเดียวหมด  ท่ามกลางสายตาที่ตื่นตะลึงของเหล่าทะโมนประจำป้อม

    “เฮ้ย..  เหล้านั่นอย่างแรงเลยนะ”  ครื๊ดร้องอย่างตกใจ

    ทันทีที่ของเหลวสีอำพันไหลผ่านลำคอขาว  ความร้อนซู่จากฤทธิ์แอลกอฮอล์วิ่งพล่านทั่วร่างกาย  ส่งผลให้ใบหน้าขาวเปลี่ยนสีระเรื่ออย่างเห็นได้ชัด

    ~~เพล้ง~~

    แก้วเปล่าถูกทิ้งลงสู่พื้นห้องแตกกระจายตามแรงโน้มถ่วงของโลก  ตามด้วยเสียงตัดพ้อที่แสนเย็นชาจากเจ้าชายหัวหน้าป้อมก่อนเดินโซเซออกจากห้องนั่งเล่นไป  “นายอยากทำอะไรก็ตามใจ!!  ฉันจะไม่ยุ่งอีกแล้ว”

    บรรยากาศในห้องนั่งเล่นผิดไปจากเมื่อครู่อย่างเห็นได้ขัด  ความเงียบคลืบคลานเข้าปกคลุมงานเลี้ยงฉลองตำแหน่งชนะเลิศที่ควรจะสนุกครื้นเครงเสียสนิท  นัยน์ตาทุกคู่จ้องมองไปยังหัวขโมยสาวตัวก่อเหตุให้เจ้าตัวรู้สึกหนาวๆ ร้อนๆ

    “นายต้องไปของโทษคาโล”  เสียงหนึ่งพูดนำขึ้น  ตามด้วยเสียงสนับสนุนจากเหล่าทะโมนโดยรอบ

    “เฮ้ย..  แล้วทำไมฉันต้องไปขอโทษล่ะ  เจ้านั่นฉกแก้วเหล้าของฉันไปก่อนนะ”  หัวขโมยผู้ถูกรุมแย้งขึ้นทันที

    “แต่นายก็ทำให้ท่านหัวหน้าป้อมเราโกรธไม่ใช่หรือไง”  คิลอธิบาย

    “แต่ว่า..”  เฟรินรีบโต้  หากแต่กลับมีอีกเสียงดังขึ้นตัดบทหัวขโมยผู้ไม่ยอมรับความจริง

    “ไม่มีแต่..  ถ้านายไม่ไปทำให้คาโลหายโกรธ  เกิดเขาเปลี่ยนใจไม่ให้พวกเราดื่มขึ้นมา  พวกเราก็อดกันหมดสิ”  ครื๊ดย้ำพร้อมกับแนวร่วมขี้เหล้าที่พยักหน้าตาม

    “ไอ้..”  เฟรินรู้สึกอึ้งกับสิ่งที่ได้ยิน  นึกอยากกระโดดถีบเพื่อนนักรบตาเดียวอยู่ครามครัน  หากไม่เพราะถูกเพื่อนสาวจับตัวไว้และส่งออกนอกห้องนั่งเล่นของชั้นปี  คงได้มีการวางมวยระหว่างหัวขโมยกับนักรบเป็นโชว์ประดับงานฉลองเป็นแน่

    ทันทีที่หญิงสาวออกพ้นจากห้องนั่งเล่น  ประตูห้องที่ถูกล็อคจากภายในห้ามไม่ให้หัวขโมยสาวแอบย้อนกลับเข้าไปร่วมงาน  จากนั้นเสียงเฮฮาของงานเลี้ยงตามแบบฉบับป้อมอัศวินได้ดังขึ้นอีกครั้ง

    เฟรินที่ถูกเพื่อนฝูงกีดกันออกจากกลุ่ม  แม้ใจหนึ่งอยากจะกลับเข้าไปร่วมงานเลี้ยงใจจะขาด(แต่ก็ไม่สามารถทำได้)  อีกใจหนึ่งก็อดเป็นห่วงพระคู่หมั้นมาดมากที่เดินออกมาก่อนไม่ได้

    เพียงแค่คิด  ร่างกายก็ตอบสนอง  หญิงสาวเดินออกจากหน้าห้องนั่งเล่น  เรื่อยมาตามระเบียงกว้าง  และหยุดลงหน้าห้องพักของเจ้าชายมาดมากแห่งคาโนวาล


    ~~แอด~~

    เสียงประตูห้องเปิดออกโดยหญิงสาวผู้บุกรุก  หากแต่เจ้าของห้องหาได้ใส่ใจไม่  ชายหนุ่มยังคงนั่งนิ่งอยู่หน้าโต๊ะทำงานของเขา

    “คาโล”  เสียงหวานดังขึ้น  เรียกชายหนุ่มเจ้าของชื่อให้ตื่นจากภวังค์  คาโลขยับกายเล็กน้อยอย่างไม่ใส่ใจผู้มาเยือน

    ‘สงสัยยังงอนไม่หาย’

    เฟรินเดินเข้าประชิดชายหนุ่มขี้งอนจากทางด้านหลัง  สองมือพาดผ่านไหลกว้างอ้อมมาประสานกันอยู่บริเวณช่วงอกของชายหนุ่มที่นั่งนิ่ง  ศรีษะงามซบลงเคียงข้าง  ให้ปอยผมสีน้ำตาลเคลียอยู่ข้างๆ ใบหน้าขาวที่ขึ้นสีระเรื่อด้วยฤทธิ์น้ำเมาเบื้องหน้า

    “ขอโทษนะ”  เสียงขอโทษหวานหู  หากแต่ชายหนุ่มยังคงเงียบ  “ขอโทษที่พูดออกไปแบบนั้น..  แต่ที่ฉันพูดก็ถูกไม่ใช่หรือ  แม้ว่าตอนนี้เราเป็นคู่หมั้นหรือแต่งงานกันแล้วก็ตามที  เราไม่ควรละเมิดสิทธิ์ส่วนตัวของอีกฝ่ายไม่ใช่หรือ  เราควรมีอิสระที่จะทำอะไรก็ได้..  อีกอย่างนะ..  เรื่องทั้งหมดมันเกิดขึ้นก็เพราะนายมาฉกแก้วเหล้าของฉันไปไม่ใช่หรือ..  ฉันเป็นขโมยนะ  เหล้ากับขโมยมันห้ามกันได้ที่ไหนล่ะ..  นายรู้ไม๊..  พอนายออกมาแล้ว..”

    เสียงหวานน่าฟังเจี้อยแจ้วอยู่ข้างหู  หากแต่ชายหนุ่มที่ตกอยู่ภายใต้ฤทธิ์น้ำเมากลับฟังไม่รู้เรื่อง  สมองอันชาญฉลาดที่งงงวยพยายามจับประเด็นคำพูดที่ได้รับมาจากหญิงสาวยอดดวงใจผสานเป็นความนึกคิดของตนเอง

    “ก็แค่คู่หมั้น..  ยังถือว่าเป็นคนอื่น.. ขอโทษ..  เป็นคู่หมั้นหรือแต่งงานกันแล้วก็ตามที..  เราควรมีอิสระที่จะทำอะไรก็ได้..”

    ‘แต่งงานกันแล้ว..  จะทำอะไรก็ได้..’  ทันทีที่ได้ข้อสรุป  ดวงตาสีฟ้าที่หม่นมาตลอดตั้งแต่ออกจากห้องนักเล่นเริ่มโชนแสง

    คาโลลุกขึ้นจากโต๊ะทำงานพร้อมตวัดกายผลักร่างบางตรงหน้าเข้าลงสู่เตียงของเขา  (โต๊ะทำงานอยู่ปลายเตียงนอนจ้า)

    “เฮ้ย!!  นายจะทำอะไร”  เฟรินโวยวาย

    นัยน์ตาสีฟ้าสุกสกาวส่องประกายใสปิ้งไปให้หญิงสาวที่บัดนี้เริ่มรู้สึกร้อนๆ หนาวๆ  กับร่างสูงที่เคลื่อนเข้ามาใกล้

    “เป็นของฉันเถอะนะ”  เสียงตอบที่แสนนุ่มหู  แต่กลับทำให้จิตใจของหญิงสาวเต้นไม่เป็นส่ำ

    ร่างบางเริ่มกระเถิบถอยหนีพร้อมกับร่างสูงที่รุกเข้าใกล้ขึ้นเรื่อยๆ  “ยะ..  อย่าเล่นบ้าๆ นะ..”

    เสียงร้องขาดหายเมื่อชายหนุ่มกระโดดขึ้นคร่อมพร้อมฉกฉวยความหอมหวานจากริมฝีปากบาง  นัยน์ตาสีน้ำตาลเบิกกว้าง  ร่างบางเริ่มออกแรงดิ้นให้พ้นจากพันธนาการ  หากแต่ไม่เป็นผล  เมื่อพบว่าสิ่งแปลกปลอมเริ่มรุกไล่เข้าทางช่องปาก  เรี่ยวแรงที่เคยมีขาดหาย  คงเหลือเพียงความร้อนแรงที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

    ความหวานหอมที่ได้รับจากหญิงสาวเบื้องหน้าเหมือนเพิ่มเชื้อไฟของชายหนุ่มให้ลุกโชน  ร่างสูงที่ทาบทับเริ่มรุกไล่  มือแกร่งไล้โลมไปยังเรือนร่างบางภายใต้ร่มผ้าชุดลำลองของสาวคนรัก  ทรวงอกงามถูกขย้ำอย่างไร้ความปราณี


    บทเพลงแห่งรักที่ลุกโชนจนมิอาจหยุดยั้ง  นำพาซึ่งความสุขชั่วข้ามคืน  พร้อมเรื่องวุ่นๆ ที่กำลังเกิดขึ้นในไม่ช้านี้..


    ******************************************************************

    apple เองจ้า


    100% แล้วจ้า  สดๆ ร้อนๆ 
    (ที่ลงนี่เป็น Ver ธรรมดา  นะ  ถ้าต้องการ Ver เรท แบบสุดๆ เชิญหาติดตามได้ใน
    ~หลืบหอคอย ณ ห้องใต้ดิน~  (บอร์หอคอยผู้วิเศษ)  นะจ๊ะ

    6/6/2549


    10% ก่อนน๊า  แล้วที่เหลือจะตามมา  (เมื่อเค็มได้ที่  )

    4/6/2549
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×