ลำดับตอนที่ #2
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : บทที่ 1 เมา
บทที่ 1 เมา
การแข่งขันหมากกระดานเกียรติยศในปีนี้ยังคงความสนุกสนานเฉกเช่นทุกปีที่ผ่านมา และด้วยความสามารถของเดอะเชสมาสเตอร์แห่งบารามอส ทำให้ป้อมอัศวินคว้าตราพระราชามาครองได้เป็นปีที่ 3 ติดต่อกัน (เมื่อสองปีก่อน ปี 7 ป้อมอัศวินได้ครองตราพระราชา ปีถัดมาปี 4 (รุ่นเฟริน) ได้ตำแหน่งชนะเลิศและได้ครองตราพระราชา)
แม้เวลาจะล่วงเลยจนถึงเวลาค่ำ ความฮึกเหิมในใจของเหล่าผู้ชนะยังไม่หมดสิ้น เสียงพูดคุยถึงช่วงเวลาการแข่งขันอันดุเดือดยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะเหล่าผู้ครองตำแหน่งชนะเลิศที่กำลังเดินกลับขึ้นป้อมอัศวินหลังเวลาอาหารเย็น
“ฮ่าฮ่า พวกนายเห็นหน้าของพวกปราสาทขุนนางหรือเปล่า หน้าบอกบุญไม่รับทั้งนั้นเลย” เสียงพูดอย่างดีใจของหัวขโมยตัวป่วนประจำป้อม เฟริน เดอเบอโรว์ หรือ เจ้าหญิงเฟลิโอน่า เกรเดเวล แห่งเดมอสและบารามอส ดังลั่นทางเดินสู่ห้องนั่งเล่นประจำชั้นปีห้า ป้อมอัศวิน
“เห็นแล้ว ก็พวกนั้นไม่เจียมนี่นา ริอาจมาชนกะท่านครี๊ดผู้นี้” นักรบแห่งไนล์ ครี๊ด ธันเดอร์ ผู้ครองตำแหน่งเบี้ยที่สามารถเผด็จศึกควีนแห่งปราสาทขุนนางได้คุยโอ่ร่วมด้วยทันที เพิ่มเสียงหัวเราะให้แก่เหล่าเพื่อนร่วมรุ่นที่เดินตามกันมาได้
“แต่จะว่าไป.. ทั้งหมดเป็นเพราะแผนการเดินหมากของคุณเฟรินนะครับเนี่ย” นักบวชแสนสุภาพแห่งบารามอส ซีบิล สแวน กล่าว
“แหง๋อยู่แล้ว ระดับเชสมาสเตอร์แห่งบารามอสคนนี้ไม่มีใครสู้ได้อยู่แล้ว” เฟรินอวดตัวต่อทันที
“แล้วใครน๊า~~ ที่ร้องโอดครวญขอเปลี่ยนตัวไม่อยากเป็นผู้เดินหมากน่ะ” แม่มดแห่งวิชท์ แองเจลิน่า โรมานอฟ สวนเข้า ทำให้ผู้เดินหมากระดับเชสมาสเตอร์แห่งบารามอสต้องหน้ามุ่ย
“คนมีดีก็ต้องเล่นตัวหน่อยสิ ไม่งั้นคนอื่นจะเห็นค่าหรือไง”
“จ้าจ้า.. งั้นปีหน้านายก็เป็นผู้เดินหมากอีกรอบแล้วกันนะ” คำทิ้งท้ายของเจ้าแม่แห่งป้อม มาทิลด้า ซิลเวอร์ เดอะปริ๊นซ์เซสออฟอเมซอล ก่อนเดินเข้าห้องนั่งเล่นเป็นคนแรก เรียกให้คนเล่นตัวต้องอ้าปากค้าง
“เฮ้ย~~ ได้ไง~~ ไหนว่าปีหน้าจะให้ฉันเป็นลงสนามเป็นเบี้ยธรรมดาไง” เฟรินร้องประท้วง “นี่~~”
หากแต่ไร้ซึ่งความเห็นใจจากก๊วนเพื่อนที่เดินลอยหน้าเข้าห้องนั่งเล่นทีละคน ครี๊ดเดินเข้ามาตบไหล่หญิงสาวเบาๆ
“เอาน่า.. ทำใจเหอะ.. ไงก็ไม่มีใครยอมให้นายลงจากตำแหน่งคนเดินหมากอยู่แล้ว” คำพูดที่ทำให้ความหงุดหงิดของหญิงสาวพุ่งสูงขึ้นอีก หากแต่คำต่อมาของนายนักรบที่ก้าวเข้าสู่ห้องนักเล่นรวมของระดับชั้นปีห้ากลับสลายความหงุดหงินในใจของหัวขโมยสาวเสียสิ้น “เฮ้.. พวกเรา!! ได้เวลาฉลองกันแล้ว~~!!”
เสียงเฮกระหึ่มจาก 18 ชีวิตสมาชิกชั้นปีห้าป้อมอัศวิน ตอบรับเสียงร้องเปิดงานฉลองการชนะเลิศศึกหมากกระดานเกียรติยศของนักรบแห่งไนล์ ดังลั่นห้องนั่งเล่นประจำชั้นปีห้า เฟรินรีบรี่เข้าไปจับจองที่นั่งข้างกองอาหารขบเคี้ยวที่เหล่าทะโมนช่วยกันจัดสรรขึ้นมาจากห้องอาหารดราก้อน สุราชั้นเลิศที่ได้รับการเก็บ(ซ่อน) อย่างดีถูกนำขึ้นมาร่วมแจมในงานฉลองครั้งนี้ด้วยน้ำมือของสมาชิกสภาสูงแห่งป้อมอัศวิน
“พวกนายเอาเหล้ามาจากไหน” มาทิลด้าถามเสียงดุ (ดื่มสุราของมึนเมาผิดกฎจ้า)
“ฉันให้ทางบ้านส่งมาให้” ครี๊ดตอบ “ของชั้นดีเลยนะ แรงมากด้วย ฉันให้เตรียมไว้สำหรับงานฉลองครั้งนี้โดยเฉพาะนะเนี่ย”
“แต่มันผิดกฎนะ” เจ้าแม่แห่งป้อมว่า
“หยวนเหอะน่า.. นานทีปีหนนะ” เจ้าชายแห่งซาเรส อาชูร่า เอพริน ส่งลูกอ้อนไปยังเจ้าแหม่แห่งป้อมอัศวิน
“เพื่อโอกาสดีๆ เช่นนี้ ปล่อยให้พวกเราได้ฉลองกันเต็มที่เถอะน่า” โครว์ อามสตรอง รับลูกต่อ
“คาโลยังไม่ว่าเลย เธอก็ปล่อยๆ บ้างเถอะ” เฟรินกล่าวย้ำพร้อมชี้ไปทางเจ้าชายน้ำแข็งแห่งคาโนวาล คาโล วาเนบลี ที่ยังคงนิ่งเงียบ
มาทิลด้าหันไปหาเจ้าชายหัวหน้าป้อมเพื่อขอความเห็นชอบ หากแต่คำตอบที่ได้รับคือการพยักหน้าอย่างปลงๆ ของหัวหน้าป้อมที่คุมสมาชิกป้อมให้ปฏิบัติตามกฎไม่ได้ เรียกให้ผู้คุมกฎสาวต้องถอนใจตาม
สุราชั้นดีถูกรินสู่แก้วที่ยื่นเข้ามารับจากเหล่าทะโมนประจำป้อม น้ำสีอำพันส่งประกายสวยงามเชิญชวนให้ผู้พบเห็นได้ลิ้มลอง เฟรินที่รับแก้วกลับมาเตรียมกระดกด้วยอารมณ์อันแสนชื่นมื่น แต่ต้องมลายด้วยมือแกร่งของเจ้าชายพระคู่หมั้นที่ยื่นมาฉกแก้วสุราในมือหัวขโมยสาวไป
“เอาคืนมา” หัวขโมยที่ถูกขโมยแก้วสุราซึ่งหน้าเอ่ยทวง
“นายห้ามดื่ม” คำกล่าวสั้นๆ แต่ได้ใจความของเจ้าชายยอดหอคอยงาช้าง
“ทำไม” คำถามพร้อมด้วยสายตาที่ไม่เป็นมิตรส่งกลับคืนเจ้าชายหัวหน้าป้อมที่ริอาจห้ามหัวขโมยดื่มสุรา
ไม่มีคำตอบจากเจ้าชายดอกพิกุลร่วง มือแกร่งที่ว่างยื่นออกเพื่อดึงสาวน้อยออกจากกลุ่มทะโมนขี้เมา หากแต่หญิงสาวที่รู้ทันถอยห่าง ตามด้วยเสียงแข็งกร้าวของหญิงสาวที่ดื้อดึง “นายไม่มีสิทธิมาบังคับฉัน!!”
“นายเป็นคู่หมั้นฉัน” เสียงราบเรียบหากแต่นัยน์ตาสีฟ้าครุกกรุ่น
“ก็แค่คู่หมั้น.. ยังถือว่าเป็นคนอื่น” คำตอบอย่างลืมตัว หากแต่ทำให้สติของคู่สนทนาขาดผึง
“ฉัน.. เป็นแค่คนอื่นสำหรับนายสินะ”
นัยน์ตาสีฟ้าที่หม่นลงและเสียงตัดพ้อที่ส่งกลับมาทำให้หัวขโมยปากเบาสะดุ้งเฮือก “เอ่อ..”
คาโลมองแก้วในมือที่บรรจุน้ำสีอำพันไว้เต็มแวบหนึ่ง ก่อนจะกระดกเจ้าน้ำที่ว่าแรงรวดเดียวหมด ท่ามกลางสายตาที่ตื่นตะลึงของเหล่าทะโมนประจำป้อม
“เฮ้ย.. เหล้านั่นอย่างแรงเลยนะ” ครื๊ดร้องอย่างตกใจ
ทันทีที่ของเหลวสีอำพันไหลผ่านลำคอขาว ความร้อนซู่จากฤทธิ์แอลกอฮอล์วิ่งพล่านทั่วร่างกาย ส่งผลให้ใบหน้าขาวเปลี่ยนสีระเรื่ออย่างเห็นได้ชัด
~~เพล้ง~~
แก้วเปล่าถูกทิ้งลงสู่พื้นห้องแตกกระจายตามแรงโน้มถ่วงของโลก ตามด้วยเสียงตัดพ้อที่แสนเย็นชาจากเจ้าชายหัวหน้าป้อมก่อนเดินโซเซออกจากห้องนั่งเล่นไป “นายอยากทำอะไรก็ตามใจ!! ฉันจะไม่ยุ่งอีกแล้ว”
บรรยากาศในห้องนั่งเล่นผิดไปจากเมื่อครู่อย่างเห็นได้ขัด ความเงียบคลืบคลานเข้าปกคลุมงานเลี้ยงฉลองตำแหน่งชนะเลิศที่ควรจะสนุกครื้นเครงเสียสนิท นัยน์ตาทุกคู่จ้องมองไปยังหัวขโมยสาวตัวก่อเหตุให้เจ้าตัวรู้สึกหนาวๆ ร้อนๆ
“นายต้องไปของโทษคาโล” เสียงหนึ่งพูดนำขึ้น ตามด้วยเสียงสนับสนุนจากเหล่าทะโมนโดยรอบ
“เฮ้ย.. แล้วทำไมฉันต้องไปขอโทษล่ะ เจ้านั่นฉกแก้วเหล้าของฉันไปก่อนนะ” หัวขโมยผู้ถูกรุมแย้งขึ้นทันที
“แต่นายก็ทำให้ท่านหัวหน้าป้อมเราโกรธไม่ใช่หรือไง” คิลอธิบาย
“แต่ว่า..” เฟรินรีบโต้ หากแต่กลับมีอีกเสียงดังขึ้นตัดบทหัวขโมยผู้ไม่ยอมรับความจริง
“ไม่มีแต่.. ถ้านายไม่ไปทำให้คาโลหายโกรธ เกิดเขาเปลี่ยนใจไม่ให้พวกเราดื่มขึ้นมา พวกเราก็อดกันหมดสิ” ครื๊ดย้ำพร้อมกับแนวร่วมขี้เหล้าที่พยักหน้าตาม
“ไอ้..” เฟรินรู้สึกอึ้งกับสิ่งที่ได้ยิน นึกอยากกระโดดถีบเพื่อนนักรบตาเดียวอยู่ครามครัน หากไม่เพราะถูกเพื่อนสาวจับตัวไว้และส่งออกนอกห้องนั่งเล่นของชั้นปี คงได้มีการวางมวยระหว่างหัวขโมยกับนักรบเป็นโชว์ประดับงานฉลองเป็นแน่
ทันทีที่หญิงสาวออกพ้นจากห้องนั่งเล่น ประตูห้องที่ถูกล็อคจากภายในห้ามไม่ให้หัวขโมยสาวแอบย้อนกลับเข้าไปร่วมงาน จากนั้นเสียงเฮฮาของงานเลี้ยงตามแบบฉบับป้อมอัศวินได้ดังขึ้นอีกครั้ง
เฟรินที่ถูกเพื่อนฝูงกีดกันออกจากกลุ่ม แม้ใจหนึ่งอยากจะกลับเข้าไปร่วมงานเลี้ยงใจจะขาด(แต่ก็ไม่สามารถทำได้) อีกใจหนึ่งก็อดเป็นห่วงพระคู่หมั้นมาดมากที่เดินออกมาก่อนไม่ได้
เพียงแค่คิด ร่างกายก็ตอบสนอง หญิงสาวเดินออกจากหน้าห้องนั่งเล่น เรื่อยมาตามระเบียงกว้าง และหยุดลงหน้าห้องพักของเจ้าชายมาดมากแห่งคาโนวาล
~~แอด~~
เสียงประตูห้องเปิดออกโดยหญิงสาวผู้บุกรุก หากแต่เจ้าของห้องหาได้ใส่ใจไม่ ชายหนุ่มยังคงนั่งนิ่งอยู่หน้าโต๊ะทำงานของเขา
“คาโล” เสียงหวานดังขึ้น เรียกชายหนุ่มเจ้าของชื่อให้ตื่นจากภวังค์ คาโลขยับกายเล็กน้อยอย่างไม่ใส่ใจผู้มาเยือน
‘สงสัยยังงอนไม่หาย’
เฟรินเดินเข้าประชิดชายหนุ่มขี้งอนจากทางด้านหลัง สองมือพาดผ่านไหลกว้างอ้อมมาประสานกันอยู่บริเวณช่วงอกของชายหนุ่มที่นั่งนิ่ง ศรีษะงามซบลงเคียงข้าง ให้ปอยผมสีน้ำตาลเคลียอยู่ข้างๆ ใบหน้าขาวที่ขึ้นสีระเรื่อด้วยฤทธิ์น้ำเมาเบื้องหน้า
“ขอโทษนะ” เสียงขอโทษหวานหู หากแต่ชายหนุ่มยังคงเงียบ “ขอโทษที่พูดออกไปแบบนั้น.. แต่ที่ฉันพูดก็ถูกไม่ใช่หรือ แม้ว่าตอนนี้เราเป็นคู่หมั้นหรือแต่งงานกันแล้วก็ตามที เราไม่ควรละเมิดสิทธิ์ส่วนตัวของอีกฝ่ายไม่ใช่หรือ เราควรมีอิสระที่จะทำอะไรก็ได้.. อีกอย่างนะ.. เรื่องทั้งหมดมันเกิดขึ้นก็เพราะนายมาฉกแก้วเหล้าของฉันไปไม่ใช่หรือ.. ฉันเป็นขโมยนะ เหล้ากับขโมยมันห้ามกันได้ที่ไหนล่ะ.. นายรู้ไม๊.. พอนายออกมาแล้ว..”
เสียงหวานน่าฟังเจี้อยแจ้วอยู่ข้างหู หากแต่ชายหนุ่มที่ตกอยู่ภายใต้ฤทธิ์น้ำเมากลับฟังไม่รู้เรื่อง สมองอันชาญฉลาดที่งงงวยพยายามจับประเด็นคำพูดที่ได้รับมาจากหญิงสาวยอดดวงใจผสานเป็นความนึกคิดของตนเอง
“ก็แค่คู่หมั้น.. ยังถือว่าเป็นคนอื่น.. ขอโทษ.. เป็นคู่หมั้นหรือแต่งงานกันแล้วก็ตามที.. เราควรมีอิสระที่จะทำอะไรก็ได้..”
‘แต่งงานกันแล้ว.. จะทำอะไรก็ได้..’ ทันทีที่ได้ข้อสรุป ดวงตาสีฟ้าที่หม่นมาตลอดตั้งแต่ออกจากห้องนักเล่นเริ่มโชนแสง
คาโลลุกขึ้นจากโต๊ะทำงานพร้อมตวัดกายผลักร่างบางตรงหน้าเข้าลงสู่เตียงของเขา (โต๊ะทำงานอยู่ปลายเตียงนอนจ้า)
“เฮ้ย!! นายจะทำอะไร” เฟรินโวยวาย
นัยน์ตาสีฟ้าสุกสกาวส่องประกายใสปิ้งไปให้หญิงสาวที่บัดนี้เริ่มรู้สึกร้อนๆ หนาวๆ กับร่างสูงที่เคลื่อนเข้ามาใกล้
“เป็นของฉันเถอะนะ” เสียงตอบที่แสนนุ่มหู แต่กลับทำให้จิตใจของหญิงสาวเต้นไม่เป็นส่ำ
ร่างบางเริ่มกระเถิบถอยหนีพร้อมกับร่างสูงที่รุกเข้าใกล้ขึ้นเรื่อยๆ “ยะ.. อย่าเล่นบ้าๆ นะ..”
เสียงร้องขาดหายเมื่อชายหนุ่มกระโดดขึ้นคร่อมพร้อมฉกฉวยความหอมหวานจากริมฝีปากบาง นัยน์ตาสีน้ำตาลเบิกกว้าง ร่างบางเริ่มออกแรงดิ้นให้พ้นจากพันธนาการ หากแต่ไม่เป็นผล เมื่อพบว่าสิ่งแปลกปลอมเริ่มรุกไล่เข้าทางช่องปาก เรี่ยวแรงที่เคยมีขาดหาย คงเหลือเพียงความร้อนแรงที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
ความหวานหอมที่ได้รับจากหญิงสาวเบื้องหน้าเหมือนเพิ่มเชื้อไฟของชายหนุ่มให้ลุกโชน ร่างสูงที่ทาบทับเริ่มรุกไล่ มือแกร่งไล้โลมไปยังเรือนร่างบางภายใต้ร่มผ้าชุดลำลองของสาวคนรัก ทรวงอกงามถูกขย้ำอย่างไร้ความปราณี
บทเพลงแห่งรักที่ลุกโชนจนมิอาจหยุดยั้ง นำพาซึ่งความสุขชั่วข้ามคืน พร้อมเรื่องวุ่นๆ ที่กำลังเกิดขึ้นในไม่ช้านี้..
******************************************************************
apple เองจ้า
100% แล้วจ้า สดๆ ร้อนๆ
(ที่ลงนี่เป็น Ver ธรรมดา นะ ถ้าต้องการ Ver เรท แบบสุดๆ เชิญหาติดตามได้ใน
~หลืบหอคอย ณ ห้องใต้ดิน~ (บอร์หอคอยผู้วิเศษ) นะจ๊ะ
6/6/2549
10% ก่อนน๊า แล้วที่เหลือจะตามมา (เมื่อเค็มได้ที่ )
4/6/2549
การแข่งขันหมากกระดานเกียรติยศในปีนี้ยังคงความสนุกสนานเฉกเช่นทุกปีที่ผ่านมา และด้วยความสามารถของเดอะเชสมาสเตอร์แห่งบารามอส ทำให้ป้อมอัศวินคว้าตราพระราชามาครองได้เป็นปีที่ 3 ติดต่อกัน (เมื่อสองปีก่อน ปี 7 ป้อมอัศวินได้ครองตราพระราชา ปีถัดมาปี 4 (รุ่นเฟริน) ได้ตำแหน่งชนะเลิศและได้ครองตราพระราชา)
แม้เวลาจะล่วงเลยจนถึงเวลาค่ำ ความฮึกเหิมในใจของเหล่าผู้ชนะยังไม่หมดสิ้น เสียงพูดคุยถึงช่วงเวลาการแข่งขันอันดุเดือดยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะเหล่าผู้ครองตำแหน่งชนะเลิศที่กำลังเดินกลับขึ้นป้อมอัศวินหลังเวลาอาหารเย็น
“ฮ่าฮ่า พวกนายเห็นหน้าของพวกปราสาทขุนนางหรือเปล่า หน้าบอกบุญไม่รับทั้งนั้นเลย” เสียงพูดอย่างดีใจของหัวขโมยตัวป่วนประจำป้อม เฟริน เดอเบอโรว์ หรือ เจ้าหญิงเฟลิโอน่า เกรเดเวล แห่งเดมอสและบารามอส ดังลั่นทางเดินสู่ห้องนั่งเล่นประจำชั้นปีห้า ป้อมอัศวิน
“เห็นแล้ว ก็พวกนั้นไม่เจียมนี่นา ริอาจมาชนกะท่านครี๊ดผู้นี้” นักรบแห่งไนล์ ครี๊ด ธันเดอร์ ผู้ครองตำแหน่งเบี้ยที่สามารถเผด็จศึกควีนแห่งปราสาทขุนนางได้คุยโอ่ร่วมด้วยทันที เพิ่มเสียงหัวเราะให้แก่เหล่าเพื่อนร่วมรุ่นที่เดินตามกันมาได้
“แต่จะว่าไป.. ทั้งหมดเป็นเพราะแผนการเดินหมากของคุณเฟรินนะครับเนี่ย” นักบวชแสนสุภาพแห่งบารามอส ซีบิล สแวน กล่าว
“แหง๋อยู่แล้ว ระดับเชสมาสเตอร์แห่งบารามอสคนนี้ไม่มีใครสู้ได้อยู่แล้ว” เฟรินอวดตัวต่อทันที
“แล้วใครน๊า~~ ที่ร้องโอดครวญขอเปลี่ยนตัวไม่อยากเป็นผู้เดินหมากน่ะ” แม่มดแห่งวิชท์ แองเจลิน่า โรมานอฟ สวนเข้า ทำให้ผู้เดินหมากระดับเชสมาสเตอร์แห่งบารามอสต้องหน้ามุ่ย
“คนมีดีก็ต้องเล่นตัวหน่อยสิ ไม่งั้นคนอื่นจะเห็นค่าหรือไง”
“จ้าจ้า.. งั้นปีหน้านายก็เป็นผู้เดินหมากอีกรอบแล้วกันนะ” คำทิ้งท้ายของเจ้าแม่แห่งป้อม มาทิลด้า ซิลเวอร์ เดอะปริ๊นซ์เซสออฟอเมซอล ก่อนเดินเข้าห้องนั่งเล่นเป็นคนแรก เรียกให้คนเล่นตัวต้องอ้าปากค้าง
“เฮ้ย~~ ได้ไง~~ ไหนว่าปีหน้าจะให้ฉันเป็นลงสนามเป็นเบี้ยธรรมดาไง” เฟรินร้องประท้วง “นี่~~”
หากแต่ไร้ซึ่งความเห็นใจจากก๊วนเพื่อนที่เดินลอยหน้าเข้าห้องนั่งเล่นทีละคน ครี๊ดเดินเข้ามาตบไหล่หญิงสาวเบาๆ
“เอาน่า.. ทำใจเหอะ.. ไงก็ไม่มีใครยอมให้นายลงจากตำแหน่งคนเดินหมากอยู่แล้ว” คำพูดที่ทำให้ความหงุดหงิดของหญิงสาวพุ่งสูงขึ้นอีก หากแต่คำต่อมาของนายนักรบที่ก้าวเข้าสู่ห้องนักเล่นรวมของระดับชั้นปีห้ากลับสลายความหงุดหงินในใจของหัวขโมยสาวเสียสิ้น “เฮ้.. พวกเรา!! ได้เวลาฉลองกันแล้ว~~!!”
เสียงเฮกระหึ่มจาก 18 ชีวิตสมาชิกชั้นปีห้าป้อมอัศวิน ตอบรับเสียงร้องเปิดงานฉลองการชนะเลิศศึกหมากกระดานเกียรติยศของนักรบแห่งไนล์ ดังลั่นห้องนั่งเล่นประจำชั้นปีห้า เฟรินรีบรี่เข้าไปจับจองที่นั่งข้างกองอาหารขบเคี้ยวที่เหล่าทะโมนช่วยกันจัดสรรขึ้นมาจากห้องอาหารดราก้อน สุราชั้นเลิศที่ได้รับการเก็บ(ซ่อน) อย่างดีถูกนำขึ้นมาร่วมแจมในงานฉลองครั้งนี้ด้วยน้ำมือของสมาชิกสภาสูงแห่งป้อมอัศวิน
“พวกนายเอาเหล้ามาจากไหน” มาทิลด้าถามเสียงดุ (ดื่มสุราของมึนเมาผิดกฎจ้า)
“ฉันให้ทางบ้านส่งมาให้” ครี๊ดตอบ “ของชั้นดีเลยนะ แรงมากด้วย ฉันให้เตรียมไว้สำหรับงานฉลองครั้งนี้โดยเฉพาะนะเนี่ย”
“แต่มันผิดกฎนะ” เจ้าแม่แห่งป้อมว่า
“หยวนเหอะน่า.. นานทีปีหนนะ” เจ้าชายแห่งซาเรส อาชูร่า เอพริน ส่งลูกอ้อนไปยังเจ้าแหม่แห่งป้อมอัศวิน
“เพื่อโอกาสดีๆ เช่นนี้ ปล่อยให้พวกเราได้ฉลองกันเต็มที่เถอะน่า” โครว์ อามสตรอง รับลูกต่อ
“คาโลยังไม่ว่าเลย เธอก็ปล่อยๆ บ้างเถอะ” เฟรินกล่าวย้ำพร้อมชี้ไปทางเจ้าชายน้ำแข็งแห่งคาโนวาล คาโล วาเนบลี ที่ยังคงนิ่งเงียบ
มาทิลด้าหันไปหาเจ้าชายหัวหน้าป้อมเพื่อขอความเห็นชอบ หากแต่คำตอบที่ได้รับคือการพยักหน้าอย่างปลงๆ ของหัวหน้าป้อมที่คุมสมาชิกป้อมให้ปฏิบัติตามกฎไม่ได้ เรียกให้ผู้คุมกฎสาวต้องถอนใจตาม
สุราชั้นดีถูกรินสู่แก้วที่ยื่นเข้ามารับจากเหล่าทะโมนประจำป้อม น้ำสีอำพันส่งประกายสวยงามเชิญชวนให้ผู้พบเห็นได้ลิ้มลอง เฟรินที่รับแก้วกลับมาเตรียมกระดกด้วยอารมณ์อันแสนชื่นมื่น แต่ต้องมลายด้วยมือแกร่งของเจ้าชายพระคู่หมั้นที่ยื่นมาฉกแก้วสุราในมือหัวขโมยสาวไป
“เอาคืนมา” หัวขโมยที่ถูกขโมยแก้วสุราซึ่งหน้าเอ่ยทวง
“นายห้ามดื่ม” คำกล่าวสั้นๆ แต่ได้ใจความของเจ้าชายยอดหอคอยงาช้าง
“ทำไม” คำถามพร้อมด้วยสายตาที่ไม่เป็นมิตรส่งกลับคืนเจ้าชายหัวหน้าป้อมที่ริอาจห้ามหัวขโมยดื่มสุรา
ไม่มีคำตอบจากเจ้าชายดอกพิกุลร่วง มือแกร่งที่ว่างยื่นออกเพื่อดึงสาวน้อยออกจากกลุ่มทะโมนขี้เมา หากแต่หญิงสาวที่รู้ทันถอยห่าง ตามด้วยเสียงแข็งกร้าวของหญิงสาวที่ดื้อดึง “นายไม่มีสิทธิมาบังคับฉัน!!”
“นายเป็นคู่หมั้นฉัน” เสียงราบเรียบหากแต่นัยน์ตาสีฟ้าครุกกรุ่น
“ก็แค่คู่หมั้น.. ยังถือว่าเป็นคนอื่น” คำตอบอย่างลืมตัว หากแต่ทำให้สติของคู่สนทนาขาดผึง
“ฉัน.. เป็นแค่คนอื่นสำหรับนายสินะ”
นัยน์ตาสีฟ้าที่หม่นลงและเสียงตัดพ้อที่ส่งกลับมาทำให้หัวขโมยปากเบาสะดุ้งเฮือก “เอ่อ..”
คาโลมองแก้วในมือที่บรรจุน้ำสีอำพันไว้เต็มแวบหนึ่ง ก่อนจะกระดกเจ้าน้ำที่ว่าแรงรวดเดียวหมด ท่ามกลางสายตาที่ตื่นตะลึงของเหล่าทะโมนประจำป้อม
“เฮ้ย.. เหล้านั่นอย่างแรงเลยนะ” ครื๊ดร้องอย่างตกใจ
ทันทีที่ของเหลวสีอำพันไหลผ่านลำคอขาว ความร้อนซู่จากฤทธิ์แอลกอฮอล์วิ่งพล่านทั่วร่างกาย ส่งผลให้ใบหน้าขาวเปลี่ยนสีระเรื่ออย่างเห็นได้ชัด
~~เพล้ง~~
แก้วเปล่าถูกทิ้งลงสู่พื้นห้องแตกกระจายตามแรงโน้มถ่วงของโลก ตามด้วยเสียงตัดพ้อที่แสนเย็นชาจากเจ้าชายหัวหน้าป้อมก่อนเดินโซเซออกจากห้องนั่งเล่นไป “นายอยากทำอะไรก็ตามใจ!! ฉันจะไม่ยุ่งอีกแล้ว”
บรรยากาศในห้องนั่งเล่นผิดไปจากเมื่อครู่อย่างเห็นได้ขัด ความเงียบคลืบคลานเข้าปกคลุมงานเลี้ยงฉลองตำแหน่งชนะเลิศที่ควรจะสนุกครื้นเครงเสียสนิท นัยน์ตาทุกคู่จ้องมองไปยังหัวขโมยสาวตัวก่อเหตุให้เจ้าตัวรู้สึกหนาวๆ ร้อนๆ
“นายต้องไปของโทษคาโล” เสียงหนึ่งพูดนำขึ้น ตามด้วยเสียงสนับสนุนจากเหล่าทะโมนโดยรอบ
“เฮ้ย.. แล้วทำไมฉันต้องไปขอโทษล่ะ เจ้านั่นฉกแก้วเหล้าของฉันไปก่อนนะ” หัวขโมยผู้ถูกรุมแย้งขึ้นทันที
“แต่นายก็ทำให้ท่านหัวหน้าป้อมเราโกรธไม่ใช่หรือไง” คิลอธิบาย
“แต่ว่า..” เฟรินรีบโต้ หากแต่กลับมีอีกเสียงดังขึ้นตัดบทหัวขโมยผู้ไม่ยอมรับความจริง
“ไม่มีแต่.. ถ้านายไม่ไปทำให้คาโลหายโกรธ เกิดเขาเปลี่ยนใจไม่ให้พวกเราดื่มขึ้นมา พวกเราก็อดกันหมดสิ” ครื๊ดย้ำพร้อมกับแนวร่วมขี้เหล้าที่พยักหน้าตาม
“ไอ้..” เฟรินรู้สึกอึ้งกับสิ่งที่ได้ยิน นึกอยากกระโดดถีบเพื่อนนักรบตาเดียวอยู่ครามครัน หากไม่เพราะถูกเพื่อนสาวจับตัวไว้และส่งออกนอกห้องนั่งเล่นของชั้นปี คงได้มีการวางมวยระหว่างหัวขโมยกับนักรบเป็นโชว์ประดับงานฉลองเป็นแน่
ทันทีที่หญิงสาวออกพ้นจากห้องนั่งเล่น ประตูห้องที่ถูกล็อคจากภายในห้ามไม่ให้หัวขโมยสาวแอบย้อนกลับเข้าไปร่วมงาน จากนั้นเสียงเฮฮาของงานเลี้ยงตามแบบฉบับป้อมอัศวินได้ดังขึ้นอีกครั้ง
เฟรินที่ถูกเพื่อนฝูงกีดกันออกจากกลุ่ม แม้ใจหนึ่งอยากจะกลับเข้าไปร่วมงานเลี้ยงใจจะขาด(แต่ก็ไม่สามารถทำได้) อีกใจหนึ่งก็อดเป็นห่วงพระคู่หมั้นมาดมากที่เดินออกมาก่อนไม่ได้
เพียงแค่คิด ร่างกายก็ตอบสนอง หญิงสาวเดินออกจากหน้าห้องนั่งเล่น เรื่อยมาตามระเบียงกว้าง และหยุดลงหน้าห้องพักของเจ้าชายมาดมากแห่งคาโนวาล
~~แอด~~
เสียงประตูห้องเปิดออกโดยหญิงสาวผู้บุกรุก หากแต่เจ้าของห้องหาได้ใส่ใจไม่ ชายหนุ่มยังคงนั่งนิ่งอยู่หน้าโต๊ะทำงานของเขา
“คาโล” เสียงหวานดังขึ้น เรียกชายหนุ่มเจ้าของชื่อให้ตื่นจากภวังค์ คาโลขยับกายเล็กน้อยอย่างไม่ใส่ใจผู้มาเยือน
‘สงสัยยังงอนไม่หาย’
เฟรินเดินเข้าประชิดชายหนุ่มขี้งอนจากทางด้านหลัง สองมือพาดผ่านไหลกว้างอ้อมมาประสานกันอยู่บริเวณช่วงอกของชายหนุ่มที่นั่งนิ่ง ศรีษะงามซบลงเคียงข้าง ให้ปอยผมสีน้ำตาลเคลียอยู่ข้างๆ ใบหน้าขาวที่ขึ้นสีระเรื่อด้วยฤทธิ์น้ำเมาเบื้องหน้า
“ขอโทษนะ” เสียงขอโทษหวานหู หากแต่ชายหนุ่มยังคงเงียบ “ขอโทษที่พูดออกไปแบบนั้น.. แต่ที่ฉันพูดก็ถูกไม่ใช่หรือ แม้ว่าตอนนี้เราเป็นคู่หมั้นหรือแต่งงานกันแล้วก็ตามที เราไม่ควรละเมิดสิทธิ์ส่วนตัวของอีกฝ่ายไม่ใช่หรือ เราควรมีอิสระที่จะทำอะไรก็ได้.. อีกอย่างนะ.. เรื่องทั้งหมดมันเกิดขึ้นก็เพราะนายมาฉกแก้วเหล้าของฉันไปไม่ใช่หรือ.. ฉันเป็นขโมยนะ เหล้ากับขโมยมันห้ามกันได้ที่ไหนล่ะ.. นายรู้ไม๊.. พอนายออกมาแล้ว..”
เสียงหวานน่าฟังเจี้อยแจ้วอยู่ข้างหู หากแต่ชายหนุ่มที่ตกอยู่ภายใต้ฤทธิ์น้ำเมากลับฟังไม่รู้เรื่อง สมองอันชาญฉลาดที่งงงวยพยายามจับประเด็นคำพูดที่ได้รับมาจากหญิงสาวยอดดวงใจผสานเป็นความนึกคิดของตนเอง
“ก็แค่คู่หมั้น.. ยังถือว่าเป็นคนอื่น.. ขอโทษ.. เป็นคู่หมั้นหรือแต่งงานกันแล้วก็ตามที.. เราควรมีอิสระที่จะทำอะไรก็ได้..”
‘แต่งงานกันแล้ว.. จะทำอะไรก็ได้..’ ทันทีที่ได้ข้อสรุป ดวงตาสีฟ้าที่หม่นมาตลอดตั้งแต่ออกจากห้องนักเล่นเริ่มโชนแสง
คาโลลุกขึ้นจากโต๊ะทำงานพร้อมตวัดกายผลักร่างบางตรงหน้าเข้าลงสู่เตียงของเขา (โต๊ะทำงานอยู่ปลายเตียงนอนจ้า)
“เฮ้ย!! นายจะทำอะไร” เฟรินโวยวาย
นัยน์ตาสีฟ้าสุกสกาวส่องประกายใสปิ้งไปให้หญิงสาวที่บัดนี้เริ่มรู้สึกร้อนๆ หนาวๆ กับร่างสูงที่เคลื่อนเข้ามาใกล้
“เป็นของฉันเถอะนะ” เสียงตอบที่แสนนุ่มหู แต่กลับทำให้จิตใจของหญิงสาวเต้นไม่เป็นส่ำ
ร่างบางเริ่มกระเถิบถอยหนีพร้อมกับร่างสูงที่รุกเข้าใกล้ขึ้นเรื่อยๆ “ยะ.. อย่าเล่นบ้าๆ นะ..”
เสียงร้องขาดหายเมื่อชายหนุ่มกระโดดขึ้นคร่อมพร้อมฉกฉวยความหอมหวานจากริมฝีปากบาง นัยน์ตาสีน้ำตาลเบิกกว้าง ร่างบางเริ่มออกแรงดิ้นให้พ้นจากพันธนาการ หากแต่ไม่เป็นผล เมื่อพบว่าสิ่งแปลกปลอมเริ่มรุกไล่เข้าทางช่องปาก เรี่ยวแรงที่เคยมีขาดหาย คงเหลือเพียงความร้อนแรงที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
ความหวานหอมที่ได้รับจากหญิงสาวเบื้องหน้าเหมือนเพิ่มเชื้อไฟของชายหนุ่มให้ลุกโชน ร่างสูงที่ทาบทับเริ่มรุกไล่ มือแกร่งไล้โลมไปยังเรือนร่างบางภายใต้ร่มผ้าชุดลำลองของสาวคนรัก ทรวงอกงามถูกขย้ำอย่างไร้ความปราณี
บทเพลงแห่งรักที่ลุกโชนจนมิอาจหยุดยั้ง นำพาซึ่งความสุขชั่วข้ามคืน พร้อมเรื่องวุ่นๆ ที่กำลังเกิดขึ้นในไม่ช้านี้..
******************************************************************
apple เองจ้า
100% แล้วจ้า สดๆ ร้อนๆ
(ที่ลงนี่เป็น Ver ธรรมดา นะ ถ้าต้องการ Ver เรท แบบสุดๆ เชิญหาติดตามได้ใน
~หลืบหอคอย ณ ห้องใต้ดิน~ (บอร์หอคอยผู้วิเศษ) นะจ๊ะ
6/6/2549
10% ก่อนน๊า แล้วที่เหลือจะตามมา (เมื่อเค็มได้ที่ )
4/6/2549
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น