YONGSEO miniseries :: the FAULT in our STARS
You are too busy being you until you don't know how beautiful you are to me. You are too busy changing the world until you don't know just one smile from you changes my whole world. I LOVE YOU SEOHYUN
ผู้เข้าชมรวม
2,404
ผู้เข้าชมเดือนนี้
27
ผู้เข้าชมรวม
ข้อมูลเบื้องต้น
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
STATUS :: ON Releasing
23/06/2016 updated
24/9/2016 updated
..YS miniseries..
The FAULT in our STARS
Feat. Juniel
สิ่งมีชีวิตประกอบด้วยเซลล์และผลิตภัณฑ์ของเซลล์ ฉันว่าฉันได้ยินเรื่องนี้มานมนานแล้ว แล้วเซลล์ล่ะมาจากไหน เซลล์ก็มาจากเซลล์ใช่ไหม แล้วชีวิตล่ะมาจากไหน ชีวิตก็มาจากชีวิตไม่ใช่เหรอ แล้วดาวของเราล่ะมาจากไหน มีดาวที่ให้กำเนิดดวงดาวด้วยไหม หรือจากการตายของดาวดวงอื่นรึเปล่า จากฝุ่นผงและกลุ่มแก๊สที่ร้อนจัดแค่นั้นเหรอ
ขอโทษนะ ที่ฉันเอาแต่ถามคำถามแบบนี้ ความคิดของฉันก็เหมือนดวงดาวนั่นหล่ะ มันมากมายพร่างพราวจนฉันไม่สามารถจัดมันเป็นรูปเป็นร่างเหมือนกลุ่มดาวได้
มันอาจจะเป็นความผิดของจักรวาลที่สร้างฉันมาเป็นแบบนี้ มันมีความผิดพลาดในดวงดาวที่พร่างพราวไม่รู้จักจบสิ้นพวกนั้น มันมีความผิดพลาดข้างในตัวฉัน ความผิดพลาดของการกลายพันธุ์ข้างในเซลล์ของฉัน และนี่ก็คือสิ่งที่เป็นฉันกับสิ่งที่ฉันแบกรับอยู่.. มะเร็ง อโลฮ่า ฮัลเลลูย่าห์! ฟังดูพิเศษดีเหมือนกันนะ
ใช่ มันก็พิเศษอยู่หรอก การกลายพันธุ์เป็นสิ่งเริ่มต้นของความยุ่งเหยิง ความน่าเกลียด สัตว์ประหลาดน่าขนลุกอย่างเช่น เจ้าแพะตาเดียว เจ้าเหมียวแปดขา และ บลา บลา บลา แต่คุณต้องรู้ด้วยนะว่า โลกไม่ได้สร้างมาเพื่อเรา เราต่างหากที่ถูกสร้างมาเพื่อโลก และดูเหมือนโลกจะต้องการการกลายพันธุ์ ดังนั้นฉันจะแบกรับมันอย่างสง่างาม ชีวิตนี้เป็นชีวิตที่ดีมากนะ นั่นเป็นเพราะฉันมีพี่ชาย พี่คะ ฉันโอเค
"The Fault In Our Stars" by Troye Sivan
The weight
Of a simple human emotion
Weighs me down
More than the tank ever did
ความหนักอึ้ง..
ของความรู้สึกทั่วไปของมนุษย์น่ะ
มันทำให้ฉันแสนหนัก..
มากกว่ารถถังจะเคยทำเสียอีก
The pain
It's determined and demanding
To ache, but I'm okay...
ความเจ็บปวด
มันได้ถูกกำหนดแล้วและกำลังต้องการ
..ให้ฉันเจ็บปวด แต่ฉันก็ไม่เป็นไรนะ...
And I don't want to let this go
I don't want to lose control
I just want to see the stars with you
และฉันไม่อยากจะปล่อยวางแค่นี้
ฉันไม่อยากจะเสียการควบคุมไป
ฉันแค่อยากเห็นดวงดาวพร่างพราวกับเธอ
And I don't want to say goodbye
Someone tell me why
I just want to see the stars with you
และฉันไม่อยากเอ่ยคำลาเลย
ใครก็ได้บอกฉันที่ว่าทำไมกันล่ะ
ฉันก็แค่อยากเห็นดวงดาวพร่างพราวกับเธอ
You lost, a part of your existence
In the war, against yourself
Oh, the lights,
They light up in lights of sadness
Telling you, it's time to go
เธอสูญเสีย บางส่วนสำหรับการมีอยู่ของเธอ
ในสงคราม ที่สู้รบกับตัวเธอเอง
โอ แสงเหล่านั้น
พวกมันส่องสว่างขึ้นในแสงของความเศร้าโศก
บอกกับเธอว่า ถึงเวลาต้องไปแล้วล่ะ
Don't give it up just yet stay grand
For one more minute, don't give it up just yet
Stay grand
อย่าเพิ่งยอมแพ้แค่นี้ องอาจเข้าไว้
เพื่อเพียงอีกหนึ่งนาที อย่าเพิ่งยอมแพ้ไปก่อน
สง่างามอยู่อย่างนี้
And I don't want to say (don't want to say) goodbye
Someone tell me why (tell me why)
I just want to see the stars (the stars with you) with you
และฉันไม่อยากจะเอ่ยคำลา (ไม่อยากจะเอ่ย) คำลา
ใครก็ได้บอกฉันที่ว่าทำไมกันล่ะ
ฉันก็แค่อยากเห็นดวงดาวพร่างพราวกับเธอ
With you
กับเธอ
Talk ::
ถึงรีดเดอร์ ที่น่ารัก
เสิร์ฟฟิคเรื่องใหม่ให้เลี้ยวน๊า.. ^__^V
ฟิคเรื่องนี้ได้แรงบันดาลใจมาจากหนังสือ(อีกแล้ว)ที่ชื่อเดียวกัน และเนื้อหากับแนวของเรื่องก็แนวๆนั้น (The fault in our stars ของ จอห์น กรีน ไม่แน่ใจว่ามีเล่มแปลภาษาไทยไหม) อ้อ มีทำเป็นหนังด้วย กำลังจะเข้าฉายมิถุนานี้หล่ะ ไม่แน่ใจว่าเข้าไทยไหม วันไหน คือไม่ค่อยรู้อะไรร๊อกกก เสมอๆ
แต่หนังสือคือดีงาม ฮิตทั่วบ้านทั่วเมือง ว่ากันว่า เป็นหนังสือที่อ่านแล้วจะรู้สึกเจ็บมากกว่าเอาหนังสือฟาดใส่หน้าซะอีก (เอ่อ แต่ไม่ได้บอกว่าฟาดด้วยความแรงเท่าไหร่)
ขนาดนั้นไหม ให้ลองไปอ่านเอาเอง (สปอยล์ใส่ ตามเคย)
ก็คงเดาได้ว่าดราม่า คือเราไม่รู้เป็นไร ชอบอ่านดราม่าชีวิตรันทด
ตามเคย เอาดราม่ามาต้มมาม่าราดใส่โกกูม่า แล้วเสิร์ฟ
ออกตัวว่าคล้ายๆจะก็อปไอเดียเค้ามา แต่ว่าไม่ได้ตั้งใจละเมิดลิขสิทธิ์อะไร
เราแค่ชอบภาษาฉลาดๆ กับการผูกเรื่องและปม
ที่สำคัญคือมันเป็นเรื่องเกี่ยวกับมะเร็ง (ออกแนววิทย์+ปรัชญา)
สารภาพตรงนี้ว่าฝันมานานละว่าจะแต่งแนวนี้ (กึ่งๆชีวิต กึ่งวิทย์ฯ กึ่งๆปรัชญา) เพราะว่าเราเป็นเด็กวิทย์ฯที่บ้าปรัชญา ทฤษฎี (รู้กันไหมเนี่ย รู้แล้วก็อย่ากลัวนะ หรือหนีเรานะ ทุกวันนี้ก็ไม่มีใครคบแล้ว นั่งพูดอยู่แต่กับแมวเนี่ย วันๆ)
แต่แค่ฟังคำว่าวิทย์+ปรัชญาก็น่าเบื่อใช่ไหมล่ะ ก็เลยคิดว่าคงไม่มีใครอยากอ่าน (แต่งแล้วไม่มีคนอ่านมันก็นะ.. แต่แต่งแล้วมีคนอ่านแต่ไม่ยอมแสดงตัวนี้เสียใจกว่าอ่ะ T^T *ดร่าม่าใส่หน่อย 55*)
ก็เลยถือโอกาสที่เดี๋ยวนี้เรามีแฟนคลับบ้างแล้ว *จุดพลุ วิ่งไปกอด แล้วอุ้มแฟนๆมิตรรัก ส่งจุ๊บๆๆๆๆ*
รวมถึงแต่งให้มันเป็นยงซอ (งานถนัด) เพราะพอเป็นเรื่องยงซอแล้วเรามีแรงฮึด ไม่ดอง
คำเตือน 1 : ใครเคยอ่านฟิคเราแล้ว รู้สึกว่ามันอ่านยาก เรื่องนี้คงจะ x4 (หรือใครเห็นเป็นอย่างอื่นให้บอกนะ เราจะได้จัดเรท)
คำเตือน 2 : ใครรับเรื่องวิทย์ๆ ปรัชญาๆ ไม่ได้แม้แต่น้อย ไม่แนะนำให้อ่านนะ ซึ่งจริงๆเราว่ามันไม่เยอะนะ เป็นวิทย์แนวการแพทย์ กับปรัชญาเพ้อๆ(สไตล์เรา) ลองดูก็ไม่เสียหายนะคะ ออกตัวก่อนว่าไม่มีอะไรถูกผิด
เนื้อเรื่อง ::
เป็นฟิคเบาๆใสๆ(อีกแล้วเหรอ?) ดราม่าไม่มาก พระเอกไม่ตาย นางเอกไม่มีปม เจอกันที่ทุ่งโกกูม่า แล้วบรื้นนนน กลายเป็นโกกูม่าครั้นช์ ทานคู่กันกะมาม่านะครัชชช
ซึ่งที่กล่าวมาไม่จริงเลย ความจริงเป็นยังไงให้ไปตามหาในเรื่อง (อีกตามเคย)
มีจองยง มีจูเนียลก็ต้องนึกถึง พาโบ
ขอบอกแบบจริงจังว่า เรื่องนี้จองยงคือดีงาม (พักนี้หลงจองยง เอิ้กๆ ขอโทษนะ จองชิน)
ส่วนอิมเมจซอจูประมาณนั้น คาแรคเตอร์ ขอมุบมิบไว้ ให้ไปตามหาดู สมมติเอาว่าเซอร์ไพรส์! (เหรอ)
และถึงเราชอบแต่งมาม่า แต่รู้กันนะว่าเราเป็นแฟนแฮปปี้เอ็นดิ้ง
อีกอย่าง ตัวละคร และเนื้อหา ฉาก สถานที่ และสิ่งต่างๆที่อ้างนี่คือฟิคนะคะ ไม่มีเจตนาจะว่าร้ายหรืออะไรใคร
สุดท้ายอยากขอให้อ่านแล้วเม้นต์บอกกันหน่อยว่ามันโอเคไหม หรือภาษามันยากไป เราไม่ได้ไปต่อ หรือว่าอะไร ยังไง ทำไม ว่ากันไป
คือจะบอกว่าเวลาเข้ามาอ่านคอมเม้นต์เราต้องกลับไปอ่านเรื่องตอนนั้นๆด้วย หนึ่งคือจำไม่ได้ว่าแต่งอะไรไป อีกอย่างคือได้อารมณ์ว่ารีดเดอร์อ่านแล้วคิดยังไง ยิ่งอ่านคอมเม้นต์ ยิ่งได้เห็นจุดอ่อนจุดแข็งของตัวเอง จะได้เอาไปพัฒนา ได้โปรดนะคะรีดเดอร์ อ่านแล้วเม้นต์โหน่ยยยยยย น๊าๆๆๆๆ
ซึ้งใจรีดเดอร์ทุกคน เรื่องนี้คิดว่าจะตอบคอมเม้นต์ด้วย
ฝากด้วยนะคะ
รักนะ
ไรเตอร์ ป.ป่วย
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
Writer’s claim – This is a fan-fiction (of yongseo) inspired by the famous book on the same title “The fault in our stars” by John Green. This fan-fiction is sure having something to do with the mentioned book but not exactly in way of copyright infringement intended. I write this on the purpose of I,myself once having ever done a research in the cancer field and I felt those cancer thingies haunt me all the time, maybe not so close but not so far, every now and then since I’m a student on a molecular biology major, even I have never exposed to any cancer patients. But believe me I really want to fight back or be a part to put the effort on it. So I call this ‘my notification Letter of Intent’.
ผลงานอื่นๆ ของ apple-is-a ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ apple-is-a
ความคิดเห็น