มาเล่นเกมกัน เกมที่เดิมพันด้วยความย่อยยับ
รีวิวถึงลำดับตอนที่ 28
เพราะความผิดพลั้งอันเลวทรามในอดีตของเทพที่ทำให้ชีวิตของรัมภาเปลี่ยนไปตลอดกาล ใครจะคิดว่านางฟ้าแสนซื่อในตอนนั้นจะกลับมาพร้อมกับเกมที่เดิมพันด้วยความย่อยยับ แผลในจิตใจไม่สามารถรักษาให้หายได้ รัมภาได้เริ่มเกมการแก้แค้นขึ้น กับกลยุทธ์ทางธุรกิจ เล่ห์เหลี่ยมกลโกง ความทะเยอทะยาน และความดำมืดภายในจิตใจที่มนุษย์ทุกคนล้วนมี มีทางหรือที่เทพจะอยู่นิ่งให้รัมภาเดินหน้าไปฝ่ายเดียว แล้วเกมนี้จะเป็นอย่างไร ใครจะเป็นผู้ชนะ และใครที่จะเป็นผู้ย่อยยับไปต่อหน้าต่อตาของอีกฝ่าย
โครงเรื่อง
เป็นเรื่องราวดราม่าเชิงธุรกิจที่สะท้อนเบื้องลึกของจิตใจคน ผ่านความแค้น กลยุทธ์ต่างๆ นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายรักที่คู่หลักไม่ใช่พระ-นางเอก แต่ความสัมพันธ์ระหว่างตัวเอกทั้งสองคือความแค้นและการจองเวร นับว่าเป็นโครงเรื่องที่ไม่ค่อยเห็นในนิยายรักแบบไทย เพราะน้อยเรื่องนักจะสะท้อนประเด็นต่างๆ เกี่ยวกับจิตใจมนุษย์ออกมา ทั้งนี้จึงเรียกว่านิยายรักไม่ได้เต็มปากนัก เพราะนิยายเรื่องนี้ไม่ได้มีผลต่อการทำให้หัวใจเป็นสีชมพู แต่มันค่อยๆ ทำให้หัวใจของเราเป็นสีแดงดั่งดอกกุหลาบที่มีหนาม แต่การดำเนินเรื่องไม่ได้ทำให้ผู้อ่านเครียดจัด อ่านได้อย่างสบายๆ โครงเรื่องจึงโดดเด่นและแปลกใหม่พอสมควร
การดำเนินเรื่องค่อนข้างช้าไปนิดหนึ่งเนื่องด้วยโฟกัสคู่รองที่มีมากเกินไป ไม่ว่าจะเป็นคู่ของนิชฌานกับพิมพ์นภัส, รัมภากับคุณศิน หรือแม้แต่คู่ของเทพกับสุรนุช ที่เริ่มมีลางสังหรณ์ว่าแต่ละคู่อาจจะมีอะไรเกิดขึ้นมากกว่าความรักที่เรียบง่าย น่าจะโฟกัสที่ “เกม” การล้างแค้นมากกว่านี้สักนิด จะสะท้อนอารมณ์ของเรื่องออกมาได้ดียิ่งกว่านี้
ความสมจริงของเนื้อเรื่องทำได้ดีมาก นิยายเรื่องนี้ไม่ได้สร้างมาให้ “ผู้ถูกล่า” เป็นเป้านิ่ง ผู้ถูกล่านั้นพร้อมโต้ตอบผู้ล่าเสมอ ไม่มีใครรู้เท่าทันใคร ทั้งนี้ยังมีการวางปมปริศนาต่างๆ ทิ้งเอาไว้ให้ติดตาม จุดเด่นของปมคือมันทำให้เรื่องราวตื่นเต้นมากขึ้นทุกระดับ ไม่ว่าจะเป็นการสวมหน้ากาก หรือปัญหาต่างๆ ของแต่ละฝ่าย น่าติดตามพอสมควร
ตัวละคร
รัมภา – น้ำนิ่งไหลลึก เธอไม่ได้มีดีที่ความสวยงามราวกับนางฟ้าปีกขาว แต่ความงามของเธอเป็นดั่งดอกกุหลาบสีแดงโลหิตที่มีหนามแหลมที่พร้อมจะทิ่มแทงคนที่เธอจ้อง ซึ่งหนามแหลมของเธอไม่ใช่ความร้ายแรงอย่างไร้สติ แต่เป็นความฉลาดและเจ้าเล่ห์ เธอสามารถใช้คนอื่นๆ เป็นหมากในเกมของเธอได้อย่างเงียบเชียบและแนบเนียน เธออ่านใจคนออก เธอเป็นเจ้าแผนการที่ดี รู้จักใช้จุดอ่อนของคนอื่น แต่จุดเด่นของเธอไม่ได้มีแค่นี้ รัมภามีหลายมิติที่ส่งผลให้เธอมีชีวิตชีวา ใช่ว่าจะร้ายเพียงอย่างเดียว รัมภาก็มีจุดอ่อนเหมือนกับคนอื่นๆ เช่นอาการประสาทหลอน/สะดุ้งตกใจจากประสบการณ์เลวร้ายที่เผาไหม้ชีวิตเธอ และความเข้าอกเข้าใจผู้อื่นได้ดี มีความปราณีกับคนที่ควรปราณี ปฏิบัติตัวได้ดีกับคนที่ดีต่อเธอ ไม่ว่าอย่างไรรัมภาก็ยังเป็นนางฟ้าอยู่เสมอ
เทพ – เป็นตัวละครที่หาความจริงใจไม่ได้ เทพขอโทษรัมภาง่ายๆ สั้นๆ กับสิ่งที่ตนทำลงไปและมันทำลายชีวิตคนอื่น เขาดูเหมือนไม่ใส่ใจใครนอกจากตัวเอง เป็นตัวละครที่เห็นแก่ตัวในระดับกลางๆ เขาไม่ใช่คนเลวโดยขนานแท้ แต่เพราะราคะของเขาในอดีตทำให้เขามีตราบาปติดตัวและคิดว่าตนเป็นคนเลว ส่วนมากปัญหาของเทพเกี่ยวกับหน้าที่การงานในบริษัทที่ค่อนข้างมีแต่คนไม่จริงใจ เขาต้องระแวดระวังภัยอยู่ตลอดเวลาเกี่ยวกับสถานการณ์ของบริษัท มีบุคลิกที่เหมือนกับนักธุรกิจโดยทั่วไป หน้าที่ของเขาคือการปกป้องบริษัท และแน่นอน รวมถึงการเล่นเกมกับรัมภา ที่มีเรื่องพ่อเป็นตัวชักนำให้เขาก็แค้นรัมภาเช่นกันด้วย เขาไม่ยอมอยู่นิ่งๆ ให้อีกฝ่ายทำลายทุกอย่างที่เป็นของเขา
ตัวละครแต่ละตัวมีมิติและมีความสมเหตุสมผลในตัวเอง และมีแววว่าจะสามารถพลิกสถานการณ์หลายๆ อย่าง ไม่ว่าจะเป็นสุธาศิน ปารุจ สุรนุช หรือคู่รักใสๆ อย่างนิชฌานกับพิมพ์นภัส ที่สังหรณ์ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นมากกว่านี้ ตัวละครแต่ละตัวมีบุคลิกและความเป็นตัวเองสูง ผู้เขียนสามารถสะท้อนความรู้สึกนึกคิด อารมณ์ความรู้สึกของตัวละครต่างๆ ได้เป็นอย่างดี และตัวละครไม่มีตัวใดเลยที่ไม่ทำให้เรื่องราวอยู่กับที่ ยังความหวาดหวั่นบางอย่างต่อเรื่องที่น่าจะพลิกล็อค นับว่าตัวละครมีความโดดเด่นในตัวเองอย่างที่ควรจะเป็น
การบรรยาย – การใช้ภาษา
การบรรยายทำได้เห็นภาพและสื่อสารได้ครบถ้วน ด้วยภาษาไทยแท้ๆ ง่ายๆ แต่สละสลวย ไม่หรูหราจนอ่านยาก สื่ออารมณ์ออกมาได้ดี ไม่มีความผิดเพี้ยนหรือสับสนวกวนในเรื่องของลำดับเหตุการณ์
บทสนทนาทำได้เป็นธรรมชาติและมีจังหวะรับส่งที่ดี นอกจากนี้ยังไม่แหกออกจากความเป็นตัวเองของตัวละคร เข้ากับนิสัย เข้ากับสถานการณ์
คำผิดมีบ้างประปราย ส่วนมากเกิดจากการพิมพ์ตก แต่ที่เห็นผิดจริงๆ คือการใช้คำที่ยืมมาจากภาษาต่างประเทศ เช่นคำว่ารถมอเตอร์ไซค์ (Motorcycle) ผู้เขียนพิมพ์ผิดเป็นมอเตอร์ไซด์ (ตัวการันต์) หรือจะเป็นคำว่าแจ็คเก็ต (Jacket) พิมพ์ผิดเป็น แจคเกต (ต้องดูที่เสียงสั้นยาว ตรงกับคำภาษาอังกฤษหรือไม่) หรือจะเป็นแล็ปท็อป (Laptop) ที่ผู้เขียนพิมพ์ว่า แลปทอป
การใช้เครื่องหมายต่างๆ เช่นเครื่องหมายยมก (ๆ) ควรจะเว้นวรรคหลังทุกครั้ง หรือจะเป็นการใช้จุดไข่ปลา (...) ที่ใช้ได้เพียงสามจุด พบเห็นการใช้ผิดมากกว่าหรือน้อยกว่าสามจุดอยู่ นอกจากนี้ยังมีการเว้นวรรคระหว่างประโยคที่ไม่ได้จังหวะ เช่น ...เมื่อเดินผ่านพุ่มของมันเมื่อพ้นออกมาก็เป็นบ้าน ควรจะเป็น ...เมื่อเดินผ่านพุ่มของมัน เมื่อพ้นออกมาก็เป็นบ้าน และยังมีการพบเห็นบรรทัดเลื่อน (เปลี่ยนบรรทัดทั้งที่ยังไม่จบประโยค)
การเขียนภาษาอังกฤษที่เป็นชื่อเฉพาะ ควรจะใช้ตัวพิมพ์ใหญ่นำหน้าทุกวรรค เช่น Abcdef Ghijkl ไม่ใช่ abcdef ghijkl แม้จะเป็นจุดเล็กๆ ก็ควรใช้ให้ถูกต้อง
แก่นเรื่อง – ข้อคิด
มีหลายประเด็นที่นิยายเรื่องนี้สะท้อนออกมา ประเด็นหลักๆ คือความแค้นที่เป็นดั่งไฟที่จุดอยู่บนแท่งเทียน ถ้าไม่ดับ มันก็ยิ่งจะเผาเทียนให้หลอมละลายจมกองน้ำตาเทียนอยู่นั่นเอง, การกระทำที่ขาดสติเพียงครั้งเดียวอาจทำลายชีวิตผู้อื่นไปตลอดกาลและมันจะเป็นตราบาปตรึงใจผู้ทำไปตลอดกาล หรือประเด็นย่อยเกี่ยวกับความคึกคะนองของวัยรุ่น, การเห็นผู้อื่นเป็นผักปลา, เบื้องลึกของจิตใจมนุษย์ในสังคมที่มีการแข่งขัน, โลกนี้ไม่ได้สวยงามเสมอไป, เราดีไปใช่ว่าใครจะดีตอบ เป็นต้น นับว่าเป็นนิยายที่สะท้อนรสชาติชีวิตในอีกแง่มุมหนึ่งออกมาได้เป็นอย่างดี
0