แฟนตาซีแนวป่วนๆ น่ารัก
รีวิวถึงลำดับตอนที่ 9
เอลล่า กับโรงเรียนซิลวาเนีย
โครงเรื่อง (38/40)
การลำดับ (20/20)
การลำดับความใช้วิธีเรียงตามไทม์ไลน์ชัดเจนอยู่แล้ว เลยไม่ได้มีจุดบกพร่องอะไรค่ะ อันนี้ให้เต็มไว้ก่อนแล้วกัน อิอิ
ความสนุก (18/20)
พลอตแฟนตาซีน่าสนใจดีค่ะ ชอบตรงมีอุปกรณ์โน่นนี่เยอะแยะ ทั้งเครื่องย้ายมวลสาร ไฟฉายแสงจันทร์ กระเป๋ามิติ (และยังมีอีกหลายอย่าง) อ่านไปก็เพลินดี มีแทรกพวกอสูรในตำนานเข้ามาด้วย เหมือนได้ทำความรู้จักกับโลกเวทมนตร์ทีละน้อยๆ แต่เท่าที่ดู มันเหมือนเป็นแฟนตาซีที่ผสมเวทมนตร์กับไซไฟเข้าด้วยกัน บางทีก็มีอุปกรณ์เชิงเทคโนโลยีผ่านมา ไม่ได้มีแต่อุปกรณ์เวทมนตร์โบราณๆ เหมือนเรื่องอื่นๆ ทั่วไป ก็แปลกและน่าสนใจดีค่ะ แถมเป็นแฟนตาซีแบบกู๊ดมูด มีอารมณ์ขัน เลยคิดว่าเป็นแนวที่อ่านง่ายและเพลินดี แต่การดำเนินเรื่องเรื่อยๆ ทำให้ความสนุกมันไปเรื่อยๆ เช่นกัน ไม่ได้มีจุดพีคหรือจุดน่าสนใจในฉากไหนเป็นพิเศษ อาจเพราะเรื่องนี้ยังเขียนไม่กี่ตอนด้วย และยังไม่มีโอกาสได้เพิ่มปมหรือความน่าสนใจของตัวละครอื่นๆ ยังไงก็ขอหักคะแนนไว้สำหรับการพัฒนาในตอนต่อๆไปนะคะ
ตัวละคร (16/20)
เอลล่า ก่อนเลย นางเอกของเรามีบุคลิกที่มั่นๆ เฮี้ยวๆ ดูเป็นวัยรุ่นประมาณ 15-17 ปี มันทำให้บางทีก็รู้สึกนิดๆ ว่าตกลงนาง 25 จริงๆ ใช่ไหม คือวัย 25 นี่ค่อนข้างเป็นผู้ใหญ่แล้ว แต่การบรรยายของผู้เขียนทั้งการกระทำ คำพูดของเอลล่า ค่อนไปทางเด็กผู้หญิงอย่างชัดเจน ตัวละครเลยขาดความสมจริงและขาดมิติไป แม้ในเวลาต่อมา นางจะกลายมาเป็นเด็ก 15 ก็ตาม (อิอิ) ถ้าผู้อ่านส่วนใหญ่เป็นเด็กวัยรุ่น การบรรยายลักษณะตัวละครแบบนี้ไม่ค่อยมีปัญหา ตรงกันข้ามมันสนุกดีสำหรับวัยนี้ แต่ถ้าผู้อ่านเป็นผู้ใหญ่หน่อย เรื่องนี้อาจไม่ได้ตอบโจทย์นักอ่านรุ่นใหญ่เท่าไหร่ ถ้าหากผู้เขียนมีกลุ่มผู้อ่านอยู่ในใจค่อนข้างชัดแล้วก็โอเคค่ะ อาจเพิ่มความสมจริงโดยการปรับบุคลิกของเอลล่าให้นิ่งลงนิดนึง หรือไม่ก็ปรับลดอายุจริงให้เหลือประมาณ 20 ก็น่าจะโอเค เหตุผลใส่ได้สารพัด เช่น เรียนเก่ง พาสชั้น เลยจบเร็วตั้งแต่อายุยังน้อย อันนี้แค่ลองเสนอดูนะคะ แต่ท้ายที่สุด ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของผู้เขียนเลยจ้า
ส่วนซิล เราชอบเจ้าหนูตัวนี้ และยอมรับว่าขำตอนกลายเป็นหมา พลอตน่ารักดีค่ะ ชอบเวลาเอลล่ากับซิลคุยกัน ตัวละครนี้จัดเป็นตัวละครสมทบที่สร้างสีสัน เราชอบนะ เลยไม่ได้มีอะไรที่อยากให้ปรับปรุงเลย ส่วนตัวละครตัวอื่นบทบาทยังไม่ค่อยชัดเจน คงต้องรออ่านกันต่อไป
การใช้ภาษา (36/40)
ในส่วนของภาษาเราจะไม่ใช้วิธีให้คะแนนเต็มแล้วหักแต้มออกแล้วนะคะ จะขอให้คำแนนจาก 0 ไปเลย โดยดูจากความสามารถในการใช้ภาษาจ้า
ในส่วนของการเขียนและภาษาจัดว่าใช้ได้ การบรรยายต่างๆ แสดงให่้เห็นว่าผู้เขียนค่อนข้างมีคลังคำที่มากอยู่ และคำผิดตกหล่นแทบไม่มี อาจมีเรื่องของการเว้นวรรคที่ยังสามารถตัดแบ่งประโยคเพิ่มได้อีก เพื่อไม่ให้คนอ่านรู้สึกอึดอัดในประโยคที่ยาวเกินไปเวลาอ่านค่ะ
ยกตัวอย่าง “ไหนจะโบราณวัตถุในกระเป๋าซึ่งต้องใช้เครื่องย้ายมวลสารไปโผล่อีกซีกโลกเพื่อคุยค้าขายอย่างยากลำบากกว่าจะได้มา” จะเป็นได้ว่าประโยคนี้ค่อนข้างยาว ใช้สันธานและคำเชื่อมผูกสามประโยคเข้าด้วยกัน โดยไม่มีเว้นวรรคเลย พออ่านต่อกันโดยไม่มีวรรคให้เว้นจังหวะหายใจ ทำให้รู้สึกอึดอัดได้แม้อ่านในใจค่ะ ดังนั้น หากลองเว้นวรรคแบ่งประโยคสักหน่อยจะช่วยได้มาก
“ไหนจะโบราณวัตถุในกระเป๋า ซึ่งต้องใช้เครื่องย้ายมวลสารไปโผล่อีกซีกโลก เพื่อคุยค้าขายอย่างยากลำบากกว่าจะได้มา” <---- อ่านสบายขึ้นมาก
แต่ประโยคนี้ยังมีจุดไม่สมบูรณ์อยู่ตรงใช้เครื่องย้ายมวลสาร จากความเข้าใจของเราเอง เข้าใจว่าคำนี้คือคำนามคำเดียว ไม่ใช่วลี มีหน้าที่เป็นนาม
ในประโยคบอกว่า ใช้เครื่องย้ายมวลสารไปโผล่อีกซีกโลก กริยา ไป ในที่นี้ไม่ใช่กริยาของ เครื่องย้ายมวลสาร เพราะมัน ไม่ได้ไปเอง ดังนั้นต้องเดิมกริยาที่เครื่องนี้จะทำได้เข้าไป ยกตัวอย่าง
“ไหนจะโบราณวัตถุ ซึ่งต้องใช้เครื่องย้ายมวลสารพาไปโผล่อีกซึกโลก เพื่อเจรจาค้าขายอย่างยากเย็นกว่าจะได้มา”
จะเห็นว่าเราเติมกริยา พา เข้าไปในประโยค ให้เครื่องย้ายมวลสารมีการกระทำที่ถูกต้องจ้า
***หากในกรณีที่ผู้เขียนต้องการให้คำนามมีแค่คำว่า เครื่อง แล้ว ย้าย เป็นกริยา มวลสาร เป็นกรรม ก็ไม่ผิด แต่เท่าที่อ่านประโยคถัดๆ มา เราเข้าใจว่า เครื่องย้ายมวลสาร คือคำนามคำเดียวจ้า
คำซ้ำ เท่าที่อ่าน ผู้เขียนยังมีการใช้คำซ้ำๆ ในประโยคติดๆ กันอยู่ประปราย ซึ่งตอนเขียนคงไม่ทันสังเกต แต่หากอ่านทวนซ้ำ คิดว่าผู้เขียนคงจะเจอเองค่ะ ยกตัวอย่าง
ตอนนี้เจ๊แกหงุดหงิดเจ้าตัวเล็กนี่สุดๆ ถึงขั้นกระชากเจ้าตัวเล็กให้หลุดจากแขนที่เกาะอยู่จนมันร้องลั่น
อันนี้ซ้ำเป็นวลี แถมอยู่ใกล้กันมากๆ มันทำให้คนอ่านรู้สึกขัดๆ ไม่ลื่นไหลจ้าเอาออกแล้วหาสรรพนามแทน เพราะถ้าแทนด้วยสรรนาม เวลาใช้ช้ำจะรู้สึกติดขัดน้อยกว่าจ้า
ตอนนี้เจ๊แกหงุดหงิดเจ้าตัวเล็กนี่สุดๆ ถึงขั้นกระชากมันให้หลุดจากแขนที่เกาะอยู่จนมันร้องลั่น
เราเปลี่ยนสรรพนามเป็น มัน เพราะถึงซ้ำกับคำหลัง แต่ก็ไม่ดูน่าเกลียดเท่าไหร่ ส่วนคำว่า ที่เกาะอยู่ สามารถตัดออกได้โดยความหมายไม่เปลี่ยนค่ะ เพราะการกระชากบางอย่างออกจากแขน แปลว่ามันต้องเกาะติดกับแขนอยู่แล้ว ช่วยให้การบรรยายสั้นกระชับขึ้นด้วยค่ะ
คร่าวๆ ก็ประมาณนี้ค่ะ ยังไงอยากให้ผู้เขียนลองอ่านทวน หาพวกคำซ้ำ และลองตรวจเช็กเว้นวรรคดู ตรงบทบรรยาย ลองอ่านออกเสียง ถ้ารู้สึกอึดอัด หรือหายใจไม่ทันแปลว่าประโยคยาวเกินไป ควรหาจังหวะเว้นวรรค ที่เหลือคือเช็กพวกคำกริยา ว่าใช้ถูกกับคำนามข้างหน้ารึเปล่า ส่วนนี้ถ้าไม่แน่ใจเปิดเว็บราชบัณฑิต จะมีอธิบายให้ว่ากริยาต่างๆ ใช้อย่างไร น่าจะมีประโยชน์กับการเขียนจ้า
รวม (90/100) คะแนนสูงพอสมควรเลย หนึ่งคือภาษาของผู้เขียนค่อนข้างดีทีเดียว ไม่ได้สวยละเมียดละไม แต่ก็แทบไม่มีจุดบกพร่อง พลอตเรื่องน่าสนใจ เป็นแฟนตาซีน่าสนุก สำหรับเยาวชน เพียงแต่ยังฟันธงไม่ได้ 100% ว่าจะสนุกมากหรือไม่ เพราะเรื่องนี้ยังมีไม่กี่ตอน คงต้องเอาใจช่วยผู้แต่งสำหรับบทต่อๆ ไป จะรอดูพัฒนาการจ้า
0