คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : Away ๗ (ร้อยห้าสิบแล้วนะแก!)
เทารู้สึกตัวด้วยความปวดบริเวณศรีษะ สายพลาสติกใสๆคล้องอยู่ที่หลังหูอ้อมมาเกี่ยวที่จมูก เสียงเครื่องมือทางการแพทย์ดังออกมาเป็นระยะอย่าง
ไม่ค่อยน่าพิสมัย
'คลื่นไส้'
เพดานสีขาวค่อยๆเคลื่อนตัวเป็นวงกลม เทานึกไม่อยากทนกับอาการที่เป็นอยู่ แผ่นหลังบางพยายามยกขึ้นเพื่อตั้งตรง แต่น้ำหนักที่ทับอยู่บนแขน
ขวาทำให้ต้องทิ้งตัวลงบนเตียงชืดๆอีกครั้งนึง
'ต..ตื่นแล้วหรอ อย่าลุกพรวดพราดสิ' เทาตกใจแบบไม่ปิดบัง คนๆนี้ไม่ควรมาอยู่กับเค้าสิ!
'นี่คุณ!...'
'พึ่งตื่น ให้ตามหมอมั้ย'
'ทำไมคุณไม่กลับชิงเต่า?' เทายื้อให้แขนหลุดจากการเกาะกุม ถึงตอนนี้เค้าควรจะทำอะไรให้มันถูกต้องอย่างที่ควรจะเป็น
'ก็เธอป่วย จะให้ฉันไปไหน' เสี่ยวหมิงถอนหายใจใส่คนดื้อ ตั้งแต่ตื่นยังไม่หยุดดิ้นเลยนะ
'ผมไม่ตายแล้วนี่ไง คนที่คุณควรจะให้ความสำคัญอยู่ที่บ้านนู่น' เสี่ยวหมิงจัดแจงชันหมอนให้คนตัวเล็กที่ยังจับจ้องเค้าตาไม่กระพริบราวกับจะฆ่าจะ
แกงกัน
'ก็เคยบอกแล้วไงว่าเธอสำคัญที่สุด'
'แต่ตอนนั้นอะไรๆมันยังไม่เป็นแบบนี้!'ฟางเส้นสุดท้ายของคนตัวเล็กขาดลง ถึงตอนนี้คนๆนี้ก็ยังไม่เลิกโกหกเค้าด้วยตำแหน่งคนสำคัญอีกหรือ!?
'แล้วตอนนี้มันยังไง เธอเห็นฉันเป็นคนโลเลขนาดไหนห๊ะ หวางจือเทา!'
'เอ๊ะนี่ผมควรจะโกรธสิ!!!' เทาพลิกตัวกลับไปดึงหมอนที่ใช้พิงหลังมาโยนใส่ร่างสูงที่นั่งอยู่ข้างเตียงจนลืมไปว่าที่หลังมือมีเข็มเล็กๆคาอยู่เพื่อให้น้ำ
เกลือ
'โอ๊ย!' เสี่ยวหมิงรีบปัดหมอนใบโตออกแล้วกะโจนไปประคองมือขาวขึ้นมาเกลี่ยเบาๆอย่างปลอบประโลม
'ตัวแสบ เห็นมั้ยดื้อจนได้เรื่องเลย!' เทาเบะปากแล้วสะบัดหน้าหนี ใช่สิเป็นเด็กอะไรๆก็ผิดนี่!
'ถ้าจะดุก็ไม่ต้องจับ!' ประโยคที่เทากำลังจะสะบัดเสียงออกไป แต่ก็ต้องชะงักค้างเมื่อหลังมือที่พันด้วยผ้ากอชสีขาวถูกปลายจมูกโด่งไล้ไปมาเบาๆ
ลมอุ่นๆแทรกเข้ามาตามใยผ้าบางเบาเพื่อใช้แทนคำปลอบประโลม
'โอ๋ๆ ไม่เจ็บนะคะ'
สองชอยส์ที่ยากที่สุดของเทาตอนนี้ คือเลือกไม่ถูกว่าจะเกลียดหัวใจที่เผลอเต้นแรงไปกลับความอ่อนโยนจอมปลอม หรือจะเกลียดผู้ชายคน
หน้าที่ไม่ยอมเลิกหลอกกันซักที
'แกล้งทำเป็นห่วงกันแบบนี้ไม่เหนื่อยหรือครับ?' เสี่ยวหมิงขี้เกียจจะต่อความ
เพราะทุกสิ่งก่อนหน้านี้สอนเค้าไว้อย่างดีว่าการกระทำสำคัญกว่าคำพูดของตน
เพราะต่อไปนี้เค้าจะทำให้คนตัวเล็กเห็นเอง...
'เธออย่าเหนื่อยให้ฉันดูแลเสียก่อนแล้วกัน...'
หลังจากคุณหมอมาเช็คอาการทั่วไป ทุกๆอย่างอยู่ในสภาพปกติ น้องจากความดันที่ต่ำเล็กน้อย
เวลากว่า4ชั่วโมงค่อยๆเคลื่อนผ่านไป หลังจากมื้อเที่ยงแสนจืดชืด จือเทาก็หงุดหงิดงุ่นง่านเพราะไม่มีอะไรให้ทำ
'กลิ้งไปกลิ้งมาเดี๋ยวก็ตกเตียงจนได้' เทาพลิกตัวกลับมา มือเล็กง้างขึ้นสูงแต่ก็ไม่เร็วไปกว่าอีกคนเสียได้
'เดี๋ยวนี้กล้าตีฉันหรือ?'
'ก็คุณน่าตี!'
'วันนั้นยังบอกว่าฉันน่ารักอยู่เลย'
'ก็บอกแล้วไงว่าไม่เหมือนกัน'
'ก็มีแต่เธอนี่แล่ะที่ดื้อขึ้นทุกวัน' เทากัดฟันอย่างทำอะไรไม่ได้ ราวเหล็กที่ใช้กั้นเตียงผู้ป่วยถูกยกขึ้นมาเป็นไม้ตาย
'อย่ามาใกล้ผมนะ!'
'ราวเหล็กสูงสามนิ้วจะทำอะไรฉันได้?' เสี่ยวหมิงส่ายหน้าหน่ายๆคิดว่าใช้น้ำเย็นเข้าลูบคงดีกว่า
'เบื่อหรอ ฉันพาไปเดินเล่นเอามั้ย?' เทาตาวาวเกาะขอบเหล็กที่ตัวเองเป็นคนกั้น ไม่ปิดบังอารมณ์ดีใจเลยซักนิด
'ไป! ซื้อขนมด้วยนะ!' เสี่ยวหมิงหรี่ตาให้คนตัวเล็กลุ้นตาละห้อย
'ดื้อมั้ย?'
'ไม่ดื้อ!'
'โอเค งั้นจะซื้อให้ก็ได้'
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
ช็อคโกแลตและเวเฟอร์หลายบาร์ถูกแกะแบบไม่คิดว่าจะกินหมดหรือเปล่า
เสียงหัวเราะคิกคักดังสลับกับเสียงเคี้ยวจ๊อบแจ๊บเอาแต่ใจ โดยไม่รู้ว่ามีสายตาแสนรักทอดอ่อนมองอยู่ด้วยความหมั่นเขี้ยว
ล้อทั้งสองเลีเยวเข้าสู่โซนที่เทาไม่คุ้นเคย จำได้ว่าไม่เคยผ่านที่ตรงนี้
'ไม่กลับห้องหรอ?' เงยหน้าขึ้นไปถามคนเข็น เสี่ยวหมิงไม่ตอบ แต่พาวีลแชร์มาจอดอยู่หน้าห้องเด็กอ่อนที่ตกแต่งด้วยสีสันสดใส
'พามาดู...' เทาลดมือที่ถือช็อคโกแลตลงจนถึงตัก
ลืมไปเลยว่าสุดท้ายเค้าก็ต้องกลับไปชิงเต่า เพื่อมีลูกที่น่ารักแบบนี้ และมีครอบครัวที่อบอุ่น
'ฉันเคยเห็นเสี่ยวชุนตอนตัวเท่านี้...จนตอนนี้อยากเห็นน้องเสี่ยวชุนอีกซักคน' เทาเม้มปาก เอ่ยถามในสิ่งที่ทำให้ตัวเองเจ็บปวดที่สุดออกไป
'ก็สมใจแล้วไม่ใช่หรอครับ?' เสี่ยวหมิงยิ้มอย่างที่เทาไม่เข้าใจ คนคัวสูงเดินอ้อมมาข้างหน้าวีลแชร์ แล้วย่อตัวลงข้างๆ ฉวยมือบางๆไปกุมไว้ เทา
นั่งตัวแข็ง ที่คุณท่านยิ้มเพราะดีใจเรื่องลูก...มันก็ไม่แปลกเลยที่เทาจะร้องไห้
หากแต่...
'ยังหรอก...คนที่อยากได้เป็นแม่ของลูก ยังไม่ยอมเชื่อเลยว่าฉันรักเขา...'
'จะยังไม่เลิกหลอกกันจริงๆใช่มั้ยครับ...' เทามองตรงไปเด็กน้อยผิวซับสีชมพูที่กำลังบิดตัวด้วยท่าทางเกียจคร้าน ไม่ได้หันกลับมาสบตาอีกคน
ทำไมนะ? เรื่องแบบนี้ก็ยังไม่วายพูดออกมาทั้งๆที่ไม่จริง
'ไม่ได้ขอให้เธอเชื่อนี่...'เทาไม่ได้ผลักไสฝ่ามืออุ่น แต่กลับยึดมือของตนไว้กับตักแน่น
'จะหาว่าผมคิดไปเองหรือไง?' คนรอบจัดกว่าหัวเราะ ไม่ตอบคำถามแถมเปรยประโยคต่อมาหน้าตาเฉย
'เอาน่าอย่างน้อยเธอก็ไม่ใช่คนเดียวหรอกที่คิดไปเอง...'
ถ้าเทาจะคิดไปเองว่าเสี่ยวหมิงรัก เสี่ยวหมิงก็ขอคิดไปเองว่าคนตัวเล็กยังไม่เปลี่ยนใจไปจากตัวเองแล้วกันนะ...
ก็เจ๊ากันนี่?
.
.
.
.
.
.
.
.
.
สองทุ่มแล้ว หวางจือเทากลายร่างเป็นเด็กชายเทาเทาสองขวบอีดครั้ง
'ผมไม่กินโจ๊ก...จะกินพิซซ่า' ก็แค่คำอ้างโง่ๆเพื่อจะห่างจากตาแก่เจ้าเล่ห์นี่ซักแปปนึงก็ยังดีน่า
เทาสะกดลมหายใจเป็นคำว่าเค้ามีลูกแล้วมาเป็นร้อยครั้ง แต่จะมีประโยชน์อะไรเล่าเมื่อคนที่(โดนเข้าใจผิดว่า)ทิ้งลูกทิ้งเมียมา ยังนั่งพะเน้าพะนอเค้าไม่ห่าง
'พรุ่งนี้ได้มั้ยกินเป็นมื้อกลางวัน ดึกแล้วเดี๋ยวไม่ย่อยแล้วท้องจะอืด' เทาจิ๊ปากขัดใจมองอีกคนตาเขียวปั๊ด
'ไหนบอกจะดูแลไง คนไข้อยากกินอะไรก็ต้องหาให้สิ!' เลี้ยงเสี่ยวชุนยังงง่ายกว่าลูกแมวฤทธิ์เยอะ ใจเสี่ยวหมิงคิดอย่างนี้
ไม่ใช่ว่าเค้าไม่อยากตามใจ แต่บางเรื่องที่เกี่ยวกับสุขภาพของเจ้าตัวดีเค้าก็อยากให้ฟังเหตุผลกันบ้าง
'ก็ได้ๆ แต่ให้กินแค่ชิ้นเดียวนะ' เสี่ยวหมิงชูนิ้วชี้ขึ้นมาข้างหน้าคนป่วยเป็นข้อตกลงในการกินพิซซ่ามื้อดึกครั้งนี้
มือเล็กๆตะเกียกตะกายงัดนิ้วกลางที่เก็บอยู่รวมกับนิ้วอื่นๆขึ้นมารวมกับนิ้วชี้เป็นสองนิ้ว พลางยิ้มจนตาปิด
'สองชิ้นนะๆๆๆๆ' เสี่ยวหมิงลูบคางให้ใล้ความคิด เค้าชอบมองเวลาลูกแมวตัวนี้ขัดใจแต่ไม่กล้าอาละวาดเพราะกลัวอดของโปรด มันน่ารักอย่าบอก
ใครเชียว
'ถ้าสองชิ้นต้องกินสลัดนะ?' เสี่ยวหมิงรู้ดีว่าเทาไม่ถูกกับผักทุกชนิด พิซซ่าสองชิ้นแลกกับผักหนึ่งจานก็สมเหตสมผลแล่ะน่า
เทาครางหงิงแต่ก็ตอบตกลง
แผ่นหลังกว้างหันไปทางประตูเพื่อจะเดินออกไปจัดการหาของว่างมาให้คนตัวเล็ก เทาแอบแยกเขี้ยวใส่แผ่นกล้ามเนื้อภายใต้เสื้อเชิ้ตสีขาวตัวนั้น
'คอยดูนะจะกินแต่ทูน่าในสลัดแล้วเขี่ยผักทิ้งให้หมดเลย!'
เสี่ยวหมิงอมยิ้มกับท่าทางล้อหลอกของแมวดื้อ เทาคงคิดว่าปลอดภัยที่ทำหน้าทำตาใส่เค้าตอนที่หันหลัง...เด็กบ๊องเอ๊ย ทำไมไม่หัดดูนะ ว่าที่ประตูน่ะ เค้ามีกระจก!
.
.
.
.
เสี่ยวหมิงตีหลังมือขาวที่กำลังจะเนียนหยิบพิซซ่าชิ้นที่สามเข้าปาก คนตัวเล็กฟึดฟัด อ้าปากตามแผ่นแป้งที่กำลังลอยออกไปไกล
'อีกชิ้นนึงก็ไม่ได้!' เสี่ยวหมิงส่ายหัว ดีดหน้าผากเล็กเบาๆที่พูดไม่รู้ฟัง
'กินผักได้แล้ว ตามสัญญาไง' เทาทำหน้าแสยง ใครมันจะไปกินลง ผักเหม็นๆไม่มีน้ำสลัดราดเนี่ยนะ ฝันไปเถอะ แค่โบซัมมิคก็เหม็นเจียนจะอ้วก
แล้ว
เทานั่งก้มหน้าเขี่ยผักในกล่องพลาสติกอยู่หลายนาที จะขยับตัวไปไหนก็ไม่กล้าเพราะอีกคนเริ่มจะเอาจริง สังเกตได้จากอาการยืนกอดอกและไม่ล้อ
เล่นเลยซักนิด
แต่ในที่สุดก็นึกอะไรดีๆออก มือเล็กละจากส้อมไปหาแขนหนาๆที่ซ้อนกันอยู่แทน
'คุณท่าน~ เทาไม่อยากกิน~'
'....' แอบใจเสียเล็กๆที่ทุกอย่างยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง แต่สุดท้ายก็ทำใจดีสู้เสือเพื่อขอลดหย่อนผ่อนโทษอีกครั้ง
'คุณพี่~ หนูไม่อยากกิน น้าๆๆๆๆ'
เสี่ยวหมิงเหล่ตามิงด้วยไม่คิดว่าคนตัวเล็กจะมาไม้นี้ ขนาดยอมเรียกคุณพี่ไม่ต้องสืบเลยว่าเด็กคนนี้เลือกกินขนาดไหน
'ไม่ต้องเลย รีบๆกินจะได้หายไวๆ' เทาสะบัดตัวออกทันทีที่เสี่ยวหมิงยื่นคำขาด โต๊ะอาหารสำหรับผู้ป่วยถูกดันออกจากตัว แมวน้อยเริ่มพาลไม่เป็น
เรื่องอีกครั้ง
'ที่แท้ก็แค่อยากให้ผมรีบๆหายคุณจะได้หมดภาระแล้วกลับบ้านซักทีใช่มั้ยล่ะ?' เสี่ยวหมิงกุมขมับเพราะตามคนตรงหน้าไม่ทัน งอนวกกลับมาเรื่องนี้จนได้
'ไม่อยากให้ฉันกลับหรือไงล่ะ?' เทาหน้าเหวอที่โดนสวนกลับ เป็นจังหวะเดียวกันทีใบผักขมๆถูกยัดเข้ามาในปาก
'อุ๊บ 0x0' ช่องทางการระบายผักออกถูกปิดทับด้วยริมฝีปากคม ลิ้นอุ่นๆเบิกทางแกมบังคับจนผักที่ร่างบางแสนเกลียดล่วงผ่านลำคอไปได้
อิดออดจนได้เรื่องเลยมั้ยล่ะหวางจือเทา!?
'ใครว่าผักขม? หวานออก จริงมั้ยครับคุณ หวาง จือ เทา :D'
เทาเอาแต่ซุกตัวอยู่ใต้ผ้าห่มหลังเหตุอุกฉกรรจ์เมื่อครู่
'มีอะไรกันมานับครั้งไม่ถ้วน แค่นี้ทำไมต้องเขินด้วยห๊ะเทา!?....บ้า! แล้วเราคิดอะไรของเราวะ!?' ขาเตียงผู้ป่วยสั่นกุกกักๆๆๆจนเสี่ยวหมิงต้องเข้ามา
ดู เข้าใจอยู่หรอกว่าเขิน แต่ถ้าปล่อยไว้แบบนี้มีหวังได้กัดสายน้ำเกลือขาดแหง
ผ้าห่มสีขาวถูกเลิกขึ้น เทาที่กำลังชักดิ้นชักงอเป็นกุ้งชะงักค้าง
ใครสอนให้เข้ามาขัดตอนคนกำลังเขินห๊ะ!?
'เป็นอะไร?'
'ออกไปเลยนะหัวขโมย! จูบได้ไงยังไม่ได้ขอผมเลยนะ!'เสี่ยวหมิงยักไหล่ เอ่ยขอตามที่เทาประชดราวกับบ้าจี้ แล้วก็ก้มลงมาจูบเหมือนไม่เข้าใจว่า
การพูดเสียดสีคืออะไร
หรืออาจจะรู้แต่ไม่สน ก็ไม่แน่นะ..
เทาหน้าแดงยิ่งกว่าเดิม แล้วก็ต้องนึกเจ็บใจที่ตัวเองดันเป็นคนเปิดช่องให้เค้ามาฉวยโอกาสซะอย่างนั้น
'ก็เธอบอกให้ขอ แต่ไม่ได้บอกว่าต้องรอเธออนุญาตนี่'
นั่น!
ไฟในห้องมืดสนิท สดับรับฟังได้เพียงเสียงลมหายใจสม่ำเสมอของคนบนเตียง เสี่ยวหมิงเดินเข้าไปจัดผ้าห่มให้คลุมร่างน้อยๆจนถึงต้นคอเพราะ
อุณหภูมิที่ลดลง
จรดปลายจมูกคมลงบนพวงแก้มใส
เสี่ยวหมิงพึ่งเข้าใจว่าทำไมการจรดปลายจมูกลงแล้วสูดดมกลิ่นจากใครซักคนถึงเรียกว่าหอม....เพราะหวางจือเทา หอมจริงๆ
เสี่ยวหมิงเอี้ยวตัวกลับจะไปนอนบนที่ของตัวเอง แต่เสื้อที่ถูกขยุมไว้ด้วยกำปั้นน้อยๆ กลับเป็นสิ่งที่เหนี่ยวรั้งไว้ได้อย่างดี
.......มือข้างนี้เหนี่ยวรั้งร่างกาย
หากแต่เสียงๆนี้เหนี่ยวรั้งหัวใจ.........
'คุณ...คุณท่าน ฝันดี...'
หวางจือเทาดีดตัวตื่นขึ้นมาแต่เช้าเพื่อให้หมอตรวจรับอรุณ
อ้าปากกว้างเหมือนฮิปโปตอนหมอสั่ง
หันรีหันขวางให้หมอเช็คทุกซอกทุกมุมที่มีรอย(เคย)ช้ำ
พยักหน้าราวกับจะบอกหมอว่าไม่ต้องห่วงตอนโดนทวงถามเรื่องการกินยา
ไม่ต้องบอกก็รู้มั้งว่าอยากกลับบ้านแค่ไหน
'อ่าห์...ถ้าทุกอย่างปกติดีก็กลับไปพักผ่อนที่บ้านก็ได้ครับ' คุณหมอหนุ่มก้มลงจดบางอย่างในชาร์ตอาการ แล้วเงยหน้า
ขึ้นมาลงความคิดเห็นกับคนไข้เป็นภาษากลาง
จือเทาร้องเย่แบบไม่เก็บอาการแถมหันไปรัวกำปั้นเล็กๆใส่ลอนหน้าท้องของคนที่มายืนดูแลข้างเตียงด้วยไม่รู้จะเอา
อารมณ์ดีใจไปลงกับใคร
ถึงจะไม่ระคายผิวก็เถอะแต่ขอบ่นเลย
ว่า
หมั่นเขี้ยวมาก
ถ้าะครหลังข่าวจะมีฉากตบจูบเสี่ยวหมิงอยากให้ทุกคนลืมไปแล้วเปลี่ยนเป็นฉากต่อยกัดแทน
คนตัวเล็กนอนฮัมเพลงหงุงหงิงระหว่างรอให้ใครอีกคนไปดำเนินเรื่องค่าใช้จ่าย
ขนมกรุบกรอบที่ติดมากับห้องพักผู้ป่วยถูกแบะซองออกมาฟาดจนเรียบ โดยไม่สนใจราคาที่อัพจากมินิมาร์ทตาม
ท้องตลาดราวสามเท่า
'เอาเถอะไหนๆก็จ่ายค่ารักษาให้แล้วฝากจ่ายค่าขนมด้วยแล้วกันนะ คุณท่านต๋าㅇㅅㅇ'
'ค่ารักษาพยาบาล ในห้อง icu หนึ่งคืนและห้องพักฟื้นอีกสองคืน 500 ยูโร กับเมดโรงพยาบาลแจ้งมาว่ามีขนมถูกแกะอีก
หกห่อ รวม 512 ยูโรค่ะ' เสี่ยวหมิงเผลอมองไปยังลิฟท์โดยสารแล้วขบเขี้ยวใส่ประตูเหล็กของมันราวกับจะฝากให้ไปหยุดที่
ชั้น7ของตัวอาคารแล้วลากแมวตัวแสบที่คงนอนสะใจอยู่มาตีก้นให้เป็นรอยมือเสียให้เข็ด
ค่ารักษาสองหมื่นห้ากับค่าขนมหกร้อย
กะจะกินให้หน้ากลายเป็นมันฝรั่งทอดรสชีสหรือไงล่ะหวางจือเทา!
เสี่ยวหมิงลากตัวเองกลับมายังห้องพักคนไข้อีกครั้งเพื่อจะพาคนตัวเล็กกลับบ้านแต่แทนที่จะได้กลับเลยดันเจอแมวที่กำลัง
จะกลายร่างเป็นพะยูนนอนเกยอยู่ที่เดิม
แต่ผิดคาดเล็กน้อยที่คิดว่าจะได้เห็นแววตาสะใจปนชอบใจจากอีกคน กลับมีแต่แววตาขอความช่วยเหลือแบบหมดท่า
หึหึ
แมวอ้วน
'ทำไมยังไม่อาบน้ำล่ะหนู~' เสี่ยวหมิงแซวเสียงขึ้นจมูก ทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นอะไรทั้งสิ้น
'หนู...หนู กินเลย์ไปหกห่อ หนูลุกไม่ขึ้น คุณท่านช่วยด้วย T_T'
จากโรงพยาบาลถึงบ้านพุงน้อยๆยังไม่ได้เว้นว่างจากการตกเป็นเป้านิ่งของมือหนา
หยิกบ้าง ลูบบ้าง
มันใช่เรื่องหรอคุณท่าน!
เสี่ยวหมิงหยุดขำท่าทีฟึดฟัดของคนตัวเล็กเพราะเสียงโทรศัพท์ เบอร์ที่เทาจำได้ขึ้นใจเพราะขึ้นต้นด้วยเลขหมายของ
มณฑลบ้านเกิด
ก้านนิ้วยาวสไลด์หน้าจอเพื่อปฏิเสธสาย
เทาอดสมน้ำหน้าตัวเองไม่ได้เลย
อยู่กับน้อยใครจะติดต่อกับหลวง
จริงไหม?
'คุณท่าน...'
'หือ?'
'คุณท่านไม่พาเทากลับชิงเต่าหรอ?'
ไหนๆก็ได้สิทธิ์คิดไปเองแล้ว...ขอคิดว่าเค้าเลือกที่จะไม่ปล่อยตัวเองไปได้มั้ย?
ขอคิดว่าอย่างน้อยๆ..ก็จะไม่ต้องถูกทิ้งให้อยู่คนเดียวได้หรือเปล่า?
มือหนาที่ส่งผ่านความอบอุ่นให้แทรกผ่านเข้ามาเป็นคำตอบให้ทุกอย่างได้ดีเสมอ...
ทำไมถึงยอมโดนหลอก
ทำไมถึงยอมโง่ทั้งๆที่เค้ามีใครอีกมาก
มีแค่กลิ่นจางๆจากร่างกายที่คุ้นเคย เสียงลมหายใจทุ้มๆที่ชอบฟังจนผล็อยหลับ
แค่นี้ก็พอจะทำให้เทายอม โง่ แล้วล่ะ
หากทว่า...
'อยากอยู่กับหัวใจดวงที่สอง' เสียงทุ้มที่กังวานไปทั้งหัวใจ ล่องลอยยิ่งกว่าจินตนาการ
นี่มันเลยที่เทาฝันไว้มากไปจริงๆ...
ถ้าเทากำลังลอยอยู่ เทาภาวนาให้ไม่มีคนใจร้ายมาเจาะบอลลูนใบนี้ให้มันเร็วจนทำใจไม่ทัน...
'เทา พี่ไปซื้อของที่ซุปเปอร์แปปนึงนะคะ' คนตัวเล็กที่พึ่งยอมผ่อนฤทธิ์เพราะเจอคำหวานสกัดเข้มข้นหยอดใส่พยักหน้า
อย่างว่าง่าย ไม่ลืมคิดไปถึงเพื่อนขนมของโปรดที่เจ้าตัวกลัวว่าเพื่อนจะเหงาเพราะไม่มีใครซื้อจึงออเดอร์ไปอีกสามห่อใหญ่
ไม่ถึงสิบนาทีต่อมาเสียงออดก็ดังขึ้น
เทาคิดว่าคงเป็นคุณท่านตามเคย แปลกหน่อยก็ตรงที่คนรอบคอบอย่างคุณท่านจะลืมคีย์การ์ด
'ทำไมเร็วนัก...อ่ะ..คุณ'
'ไม่ได้เจอกันนานนะครับ'
'คุณเสี่ยวชุน!!!'
.
.
.
.
.
เสี่ยวหมิงกลับมาถึงห้องที่มีเสียงจากคนสองคน...
เห็นลูกชายตัวเองโผล่หน้ามาจากแนวไหล่ของอีกคนที่นั่งกอดออกเชิดหน้าสูง
รอขนมแค่ 15 นาที จากแมวกลายเป็นหมูตกมันเชียวหรือ?
เสี่ยวหมิงสืบเท้าไปใกล้ วางถุงขนมไว้ตรงหน้าคนตัวเล็ก เอ่ยชวนให้กินเสียงใจดี
'กินเร็วพี่ซื้อมาให้แล้ว~'
'เหอะ!' ว่าแล้วก็เดินตึงตังเข้าห้องนอนไป คนตัวสูงงงยิ่งกว่าเดิมที่ลูกชายตังดีทำหน้าตาเหมือนรู้อะไร แต่ตอนนี้สิ่งที่เค้าควรจะทำคือเดินตามคนตัวเล็กเข้าไปในห้องสิ...
สั่งฆ่าคนมาเป็นร้อย แค่นี้ทำไมต้องใจสั่นด้วยวะไอ้เสี่ยวหมิง!?
'คนดีรอพี่นานหรือ?'
'รอคุณพูดความจริงนานกว่าครับ'
'เห้~ เป็นอะไร?'
'เป็นคนโง่!'
เสี่ยวหมิงงงเป็นไก่ตาแตก รู้สึกได้ว่าอารมณ์โกรธฟาดงวงฟาดงาจากคนตรงหน้ามีอะไรบางอย่างเกี่นวพันกับรอยยิ้ม
แปลกๆของเจ้าลูกชาย
'คุณเสี่ยวชุนบอกผมหมดแล้วว่าแองเจลล่าไม่ได้ท้องแล้วคุณก็รู้แล้วด้วย นี่กะจะหลอกให้ผมรู้สึกผิดยันตายเลยใช่มั้ย
ครับ!?'
เสี่ยวหมิงไม่คิดว่าแผนสารภาพรักอันสวยหรูต้องมาพังเพราะความใจร้อนของคุณลูกชาย แต่ถึงยังไงก็มาถึงนี่แล้ว ก็คง
ต้องเดินหน้าพูดความจริงต่อไป
'พี่ไม่ได้ตั้งใจจะหลอก พี่แค่ยังไม่พร้อม..'
'ยังไม่พร้อมจะพูดถึงเรื่องที่คุณหลอกผมไว้น่ะหรือครับ?'
'ไม่ใช่..'
'ไม่ใช่แล้วมันยังไง แค่เล่นสนุก ใช้ผมเป็นตัวค่าเวลา แก้เบื่อ...'
'เพราะพี่รักหนู ได้ยินมั้ย!? พี่รักหนู!'
เหมือนวินาทีนั้นโลกหยุดหมุนที่คำว่ารัก แค่คำๆนั้นก็เพียงพอที่จะไม่ต้องฟังอะไรต่ออีก...
ไม่ใช่แค่หูอื้อ ตาทั้งสองก็พร่ามัว...
.
.
.
.
.
.
.
'ผมแค่จะมาบอกว่าแองเจลล่ากุเรื่องท้องขึ้นมา'
'แล้วอย่าโทษคุณพ่อเลยที่ไม่เคยบอกรักคุณ มันเป็นเพราะสัญญาที่เคยให้ไง้กับผใตอนคุณแม่เสีย...'
'เชื่อผมสิว่าคุณพ่อรักเทามาก..'
และอีกหลายอย่างที่คุณเสี่ยวชุนมากระซิบบอก
ไม่คิดว่าการเสี่ยง จะได้ผลคุ้มขนาดนี้
แผนของคุณเสี่ยวชุนไม่ซับซ้อนแต่มีชั้นเชิงนัก...
'ลองอาละวาดแล้วจี้จุดเรื่องที่คุณพ่อมองข้ามความรู้สึกของคุณสิ...หมดเปลือกยิ่งกว่าคนแพ้หมดท่าเสียอีก'
แต่ตอนนี้ขอเวลาไปเล่นตัวให้คุ้มกับที่รอมาซักหน่อย
ขอบคุณนะครับคุณเสี่ยวชุน คิ!
แบ๊คเค้าดีนักแล่ะ อย่าลืมติชมน้าเค้ารออ่านนน #ห้องลับน้องเทา
ความคิดเห็น