ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [EXO] TAO's secretz {alltaotaoall}

    ลำดับตอนที่ #14 : Away Special ๓ [๕๐%]

    • อัปเดตล่าสุด 5 ก.ค. 58


                จือเทารู้สึกตัวอีกทีเพราะกลิ่นอาหารหอมๆที่ปกติจะไม่ลอยมาถึงชั้นบนของตึกใหญ่ ร่างเล็กทำท่าจะพลิก

    ตัวเข้าหาแหล่งที่มาของกลิ่นที่แสนจะกระตุ้นรสสัมผัส เทาไม่อยากจะเข้าข้างตัวเองเลย แต่กลิ่นแบบนี้

     

     

    แพนเค้กราดน้ำผึ้งเพื่อนรักของเค้าแน่ๆ

     

     

     

    แต่แล้ว เทาก็พลิกตัวกลับไปไม่ได้ เพราะสัมผัสหนักๆที่ทิ้งลงมาตรงซอกคอ และผิวมือกร้านที่ปิดบังวิสัยการ

    มองเห็นอยู่บริเวณดวงตาทั้งสองข้าง

     

     

    'คนอะไรนอนเป็นตุเป็นตะ' เสียงของคุณท่านอยู่ข้างหูนี่เอง ไอร้อนห่างออกไปเพียงช่องว่างอากาศผ่าน สัมผัสที่คลอเคลียอยู่ข้างพวงแก้มนิ่มก็เริ่มแปลกไปตามกฎกายภาพของร่างกาย เทาจำได้ว่าครั้งล่าสุดที่ได้รับสัมผัสนี้คือเมื่อสามวันที่แล้ว

     

     

     

    คุณท่านไม่ยอมโกนหนวด

     

     

    'หนวดขึ้นแล้วฮะ...' เทาเอื้อนเสียงอ่อน จนเสี่ยวหมิงขำ ลูกแมวของเค้าไม่เคยชอบสัมผัสนี้ตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว แปลกอยู่อย่าง หากกิจกรรมตามท้องเรื่องเปลี่ยนจากการคลอเคลียอ้อยอิ่งรับอรุณเป็นความร้อนแรง เร้าอารมณ์ยามค่ำคืน คนตัวเล็กมีแต่แพ้ให้ปลายคางครึ้ม

    ไรเคราแบบนี้อย่างหมดท่า

     

     

    'รู้ได้ไง ยังไม่ลืมตามามองหน้าพี่เลยนะ' เสี่ยวหมิงพูดเย้า กะจะให้คนตัวเล็กตะเกียกตะกายแงะมือหนาของตนออกแล้วหันมายืนยันกับสิ่งที่ตนรู้สึก

    จะได้จับมอนิ่งคิสปิดปากซะให้เข็ด

     

     

    กลับกันเทาไม่ได้หันมาแย้ง มือบางดันโครงหน้าเข้มให้แนบเข้าหาพวงแก้มของตัวเอง เทาขยับหน้าเบาๆให้ผิวแก้มซึมซับรสสัมผัสสากๆ

     

     

     

    โดยที่เจ้าตัวไม่รู้เลยว่าใครอีกคนต้องสะกดอารมณ์แค่ไหนกับท่าทางออดอ้อนซึ่งไร้การปรุงแต่งแบบนี้

     

     

    'นี่ไง ไม่ได้โกน'เสี่ยวหมิงถอนหายใจแรง เพื่อห้ามตัวเองไม่ให้จับคนตรงหน้าขึ้นมาฟัดจนผิวเนื้ออ่อนระคายจนแดงเรื่อซะก่อน

     

     

     

    'งั้นโกนให้พี่นะ' เทาโอด โกนหนวดให้คุณท่านทีไร โฟมโกนหนวดไม่วายมาเลอะบนหน้าเทาด้วยทุกที เสี่ยวหมิงไม่สนใจท่าทางประท้วงน่ารักน่าชังนั่น สูดดมความหอมแรงๆจากกกหูขาว แล้วจับคนตัวเล็กให้นั่งพิงกับหัวเตียง ยอมละมือที่ปิดดวงตากลมโตทั้งสองข้างออกเพื่อไปเข็นสำหรับอาหารมาเอาใจเมียเด็กตัวน้อยถึงเตียง 

     

     

     

     

    'แพนเค้กจริงด้วยยยยยยย' เทายิ้มจนตาปิดเหมือนลูกแมวตอนเห็นปลาทู อะไรจะมีความสุขเท่าการเห็นเด็กกินยากชอบอาหารที่ตัวเองทำล่ะ จริงมั้ย?

     

     

     

     

    'คุณท่านมาทานด้วยกันสิฮะ' มื้อเช้าไม่ใช่วิสัยของเสี่ยวหมิงเลย รับทีไรแล้วกระอักกระอ่วนท้องแปลกๆ สำหรับเค้ากาแฟดำไม่ใส่น้ำตาลซักแก้วก็พอ

     

     

     

    'หนูทานเถอะ' เทาส่ายหน้าขวับ จัดแจงหั่นแป้งแพนเค้กเป็นชิ้นพอดีคำ นี่เทาอุตส่าห์เลือกตรงที่ไม่ค่อยโดนน้ำผึ้งแล้วนะ เทารู้คุณท่านไม่ชอบกินหวานๆ

     

     

     

    'อ้ามเร็วฮะะะะ' เสี่ยวหมิงอ้าปากรับเพราะ ปลายจมูกกลมๆที่รั้นขึ้นอ้อนนั่นหรอก รสชาติของน้ำพึ่งทำเอาเสี่ยวหมิงกุลีกุจอหาน้ำเปล่า แต่ก็นึกขึ้นได้ว่าไม่ได้หยิบติดขึ้นมาด้วย ทำแพนเค้กให้คนตัวเล็กเสร็จก็ยกขึ้นมาบนห้องนอนเลย

     

     

     

     

    จนสุดท้ายก็ต้องจำใจกลืนลงไป แล้วย้ายใบหน้าเหยๆเข้ามาหาซอกคอหอม สูดดมกลิ่นละมุนละไมให้พอคลายคลื่นเหียน ทำไมของหวานบนโลกไม่มีอะไรที่เป็นได้เหมือนเทาเลยนะ หวานแต่ก็ไม่เลี่ยน แถมยังมีกลิ่นหอมๆตัดให้ชื่นใจอีก ถ้าขนมอย่างอื่นให้รสสัมผัสได้ดีเท่าเทาป่านนี้เสี่ยวหมิงคงเป็นตาแก่ลงพุงไปแล้วอย่างไม่ต้องสงสัย

     

     

     

     

    มื้อเช้าผ่านไป ก็ถึงเวลาจัดการตัวเองของคุณท่านของบ้านเสียที เสี่ยวหมิงในชุดคลุมสีดำลายมังกรปักดิ้นทองแสดงถึงอำนาจในบ้าน นั่งไขว้ห้างอยู่บนขอบอ่างอาบน้ำเหลือบมุก มองคนตัวเล็กที่ตระเตรียมมีดโกน และโฟมโกนหนวดด้วยแววตาทอดอ่อน 

    'เทาบอกไว้ก่อนนะฮะ ถ้าคราวนี้คุณท่านทำหน้าเทาเลอะโฟมแม้แต่นิดเดียวคราวหน้าเทาจะไม่ทำให้แล้ว'

    ราวกับลูกแมวแยกเขี้ยวขู่ฟ่อ ไม่ได้เกรงใจมังกรที่ผงาดพาดเนื้อผ้าสีดำขลับที่ถูกตัดเย็บอย่างปราณีตสมกับเป็นหนึ่งในเครื่องใช้ประจำตำแหน่งประมุขของบ้านแม้เพียงนิด 

     

     

     

    เสี่ยวหมิงเงยคอ ให้ได้มุมถนัดสำหรับเทา เนื้อครีมสีขาวค่อยๆถูกปาดลงบนผิวกร้านทีละน้อย เทาเม้มปากในขณะที่กำลังเกลี่ยให้เนื้อโฟมเข้าถึงทุกส่วนของรูปคางเป็นสัน เทาลอบมองเส้นเอ็นข้างลำคอสีแทนที่มีไอเหงื่อเกาะอยู่ อยู่ใกล้แค่นี้จึงไม่แปลกที่เทาจะได้กลิ่นกรุ่นๆจากไอร้อนที่กรุออกมาจากร่างคร้ามแดดตรงหน้า

     

     

     

    ใครว่าคนเราจะร้อนแรงเวลาใส่น้ำหอม

    ไม่ได้อยู่ใกล้จนจมูกเฉียดคอแบบเทา ไม่รู้หรอก

     

     

    'ทะ เทาจะลงมีดโกนแล้วนะฮะ ห้ามคุณท่านขยับนะ!' เทาค่อยๆบรรจงไล้ปลายคมของใบมีดไปตามผิวกร้าน ให้กินเนื้อน้อยที่สุด

     

     

    เสี่ยวหมิงเห็นท่าทีขมักเขม้นแบบนั้น อดไม่ได้ที่จะฝังจมูกลงไปหาลำคอขาวเนียน ดาหน้ากดจมูกลงไปซ้ำแล้วซ้ำเล่า ไม่ต่างอะไรกับความต้องการที่เค้ามีให้ร่างตรงหน้าอย่างไม่สิ้นสุด

     

     

    'คุณท่าน!! เทาเลอะอีกแล้ว! โกนเองเลยฮะ!'

     

     

    อย่าห่วงเลยว่าหวางเสี่ยวหมิงจะไม่มีใครโกนหนวดให้ เพราะเดี๋ยวเจ้าตัวก็ใช้ลูกหน้านิ่งๆท้วงว่าที่ตกลงกันไว้ ไม่มีบอกว่าห้ามทำเทาเลอะที่คอ

     

     

    สุดท้ายก็จบที่อาบน้ำด้วยกันอยู่ดี คนตัวเล็กฮึดฮัดขลุกขลักอยู่ในอ้อมกอดที่มีหยดน้ำเกาะพราว แต่จะพยศไปก็เท่านั้น เพราะยิ่งดิ้นก็เหมือนยิ่งตอกย้ำ และบดเบียดเข้าหาความร้อนแรงของร่างหนาข้างหลังมากขึ้นเท่านั้น เปลวเพลิงที่พึ่งดับลงยังคงไม่คลายความร้อนและควัน ขืนอยู่ใกล้กันแบบนี้ แค่เชื้อเพลิงบางเบาก็สามารถเร่งให้ไฟรักกลับมาโหมกระหน่ำได้เหมือนเดิม

     

     

    'เป็นอะไร ไม่พูดไม่จาหืม'

     

    '....'

     

    'หนู'

     

    '....'

     

    'หนูคะ'

     

    'ฮึก...' หากเสี่ยวหมิงไม่ได้นั่งช้อนหลังบางอยู่แบบนี้ เป็นไปได้อย่างเดียวว่าต้องเห็นริมฝีปากสีสดเบะออกอย่างน่าตีที่สุด

     

    'หนูเป็นอะไร'

     

    'หนูอึดอัด ฮึก เอาออกไปเลย!' อ้าวเป็นงั้นไปอีก เสี่ยวหมิงเห็นท่าไม่ดีจึงรีบรวบอีกคนเข้ามากอดไว้ พร่ำคำปลอบประโลม

     

    และขอโทษข้างหูขาวนับครั้งไม่ถ้วน แล้วจึงค่อยๆถอนกายออกมา ผ้าขนหนูผืนนุ่มสีขาว ถูกนำมาห่อร่างสีขาวไม่ต่างอะไร

     

    กับผืนผ้าจนเป็นก้อนกลมๆ หลังจากจัดการตัวเองเสร็จแล้วคนเป็นพี่ช้อนก้อนผ้ากลมป๊อกขึ้นแนบอก แล้วค่อยๆทอดวางลง

     

    บนเตียบหลังใหญ่ เดินไปปลดเสื้อผ้าจากห้องแต่งตัวแบบ walk in closet แล้วเดินกลับมายืนมองอีกคนที่นอนตัว

    อ่อนพาดเตียง หู ตา แดง อยู่

     

    'ไม่ร้องแล้วเร็ว คนดี'  เสี่ยวหมิงแอบแปลกใจไม่น้อยที่จู่ๆเทาก็ไม่สบายตัวขึ้นมาเสียดื้อๆ ทั้งๆที่เค้าทะนุถนอมดวงใจตรงหน้าไม่ต่างอะไรกับปุยนุ่น

     

    'พี่แต่งตัวให้นะ' เทาพยักหน้างึก ให้คนเป็นพี่หมั่นเขี้ยว จับฝังจมูกลงที่แก้มแรงๆอยู่หลายที จนเทาร้องฮื้อถึงได้ผละออกไป

     

    แก้ปมผ้าขนหนูที่แผ่นอกบาง เพื่อที่จะได้เริ่มแต่งตัวให้ลูกแมวเปียกน้ำ ก่อนที่จะได้จับไข้จริงๆ

     

    ร่างขาวเปล่าเปลือย ถูกบรรจงทาด้วยแป้งเด็กกลิ่นหอมสบายจมูก เสี่ยวหมิงหมั่นเขี้ยวนัก ที่เลือกทาแป้งเด็กให้เพราะเห็นว่า

     

     

    ไม่สบายตัว ไม่คิดว่ากลิ่นที่ตามมาจะน่าดึงดูดยิ่งกว่าน้ำหอมแพงราคากลิ่นใดเสียอีก เทาเองก็ดูจะผ่อนคลายไม่น้อย ปลาย

     

     

    เท้าเล็กยกขึ้นเตะอากาศ เหมือนเด็กเล็กๆ เสี่ยวหมิงทอดสายตามองอ่อน สิ่งที่คิดเพียงอย่างเดียวคืออยากจะเก็บคนตรงหน้า

     

     

    ไว้กับอก เพียงแค่ชั่วห้วงหายใจเดียวก็ไม่อยากจะปล่อยให้คลาดสายตาไปไหน

     

    'แต่งตัวเสร็จแล้วหนูไปอยู่กะเสี่ยวชุนนะ วันนี้จะมีคนมาคุยธุระกับพี่ แล้วเดี๋ยวเย็นๆเราไปดูหนังตามที่หนูบอกกัน'

     

    เสี่ยวหมิงพูดกำชับตอนที่ติดกระดุมเสื้อเชิ้ตสีอ่อนให้เทาเป็นเม็ดสุดท้าย ร่างน้อยพอได้ยินคำว่าดูหนังเท่านั้นก็ยิ้มจนตาปิด

     

    แล้วยืดตัวขึ้นฝากรอยจูบไว้ที่แก้มสาก มือหนายื่นให้คนตัวเล็กใช้เกาะเป็นหลัก จนในที่สุดปลายเท้าเรียวก็หยัดลงบนพื้นพรมของห้องนอนใหญ่

     

    'ป่ะ เดี๋ยวพี่พาไปส่งที่ห้องเจ้าชุน'

     

    'อื้อ!'

     

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

     

    คุณชายของบ้านเห็นแม่เลี้ยงตัวน้อยมาหาถึงห้องก็ดีใจรีบปรี่เข้ามารับถึงหน้าห้อง จากนั้นกรรมสิทธิ์ในตัวเทาก็กลายเป็น.

     

    ของคุณเสี่ยวชุนไปด้วย ร่างโปร่งหอมแก้มคนเป็นพ่อเร็วๆ แล้วรีบดันหลังให้รุดเดินออกไปจากห้องของตนเสียที ราวกับว่า

    อดใจรอไม่ไหวแล้วที่จะได้เล่นกับเพื่อนเล่นของตนตามลำพัง

     

    'วันนี้คุณพ่อมีแขกหรอ' คุณเสี่ยวชุนเอ่ยถามพลางจูบมืออีกคนมาที่เตียง ชักชวนให้คนตัวเล็กดูโถแก้วใส่ขนมมากมายในห้องนอนของตน เทาหัวเราะแล้วพยักหน้าตอบ

     

    'อื้อ สงสัยธุระสำคัญ ถึงกับเปิดบ้านรับเนี่ย' เทาเอนตัวลงบนเตียงนุ่ม พลิกตัวเข้าหาชั้นวางโคมไฟตัวจ้อย พลันสายตาก็ไปสะดุดกับกล่องกำมะหยี่สีกรมเข้ม ราวกับถูกสิ่งๆนั้นดึงดูดให้เข้าหา เทาเอื้อมมือไปแตะกล่องรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสนั้นอย่างไม่รู้ตัว 

     

    'เทา! เทา!'

     

     

     

    'ฮ...ฮะ คุณเสี่ยวชุน?' 

     

     

     

    'ดูอะไรอยู่ เรียกตั้งนานแน่ะ อย่าบอกนะว่าคิดถึงคุณพ่อ พึ่งแยกกันได้ไม่ถึงห้านาทีดีเลยนะ' เทาไปต่อไม่ถูก ได้แต่หยิบกล่องกำมะหยี่เจ้ากรรมขึ้นมาให้คุณเสี่ยวชุนดู

     

    'อ๋อ ดูนาฬิกานี่เอง เทาก็สนใจพวกนาฬิกาด้วยหรอ'

     

    ....เปล่าเลย...เทาคิด เครื่องประดับชนิดนี้ไม่ใช่สิ่งที่เทาให้ความสนใจเลยแม้แต่นิด เทาคิดตลอดว่า มันไม่คุ้มค่าที่จะเอาเงินก้อนโตไปแลกกับเครื่องบอกเวลาความสามารถธรรมดาพรรค์นี้ หากแต่นาฬิกาเรือนสวยในมือนี้ ทำให้เทาหวนคิดถึงใครบางคน ใครที่ทำให้เทาคิดถึงจะขาดใจ

     

     

    'ต้องอูโบลท์ บิ๊กแบง สิ เทาเทาคอยดูนะ ซักวันเค้าจะซื้อให้ดู'

     

    'ซื้อให้เค้าดูทำไม เค้าไม่ได้อยากได้อย่างตัวซะหน่อย'

     

    'โถ่..ทำเป็นตื่นเต้นกับคำพูดเค้าซักหน่อยมั้ยล่ะ..'

     

    นาฬิกาเรือนนี้ของคุณเสี่ยวชุนหรอฮะ?'

     

    'อ๊ะ..อ๋อ ป่าวหรอก ชุนเดินชนผู้ชายคนนึงบนถนนน่ะ แล้วทำของเค้าตกแตก ก็เลยรับเอาไปซ่อมให้เป็นการขอโทษ' เทาพยักหน้าน้อยๆ

     

    'แล้วจะเอาไปคืนเจ้าของเค้าตอนไหนหรอฮะ?' คุณเสี่ยวชุนยู่ปาก ตอบด้วยคำตอบแบบเช้าชามเย็นชาม

     

    'ยังไม่รู้เลย...เจ้าของไม่ยอมให้ติดต่ออะไรด้วยซักอย่าง บอกแค่ว่าถ้าจะเอาไปคืนให้เอาไปวางไว้แถวๆที่ๆเดินชนกัน'

     

    นาฬิการาคาแพงขนาดนี้แต่เจ้าของกลับพูดถึงด้วยท่าทีไม่ใส่ใจเท่าไร ทำให้เทานึกทึ่งในตัวผู้ชายคนนั้นไม่น้อย….แต่จะเป็น

     

    อะไรไป สิ่งที่น่าสนใจไม่ได้อยู่ตรงนั้นนี่ เทาสนใจท่าทางขัดอกขัดใจจอบคุณชายเล็กของบ้านมากกว่า ยามที่ต้องพูดย้ำ

    ว่า ไม่มีช่องทางให้ติดต่อเจ้าของนาฬิกาได้อีก 

     

    'เค้าไม่ติดต่อก็ไม่ติดต่อสิ ทำไมคุณเสี่ยวชุนต้องอารมณ์เสียล่ะ หรือว่า..'

     

    'อ...อ่ะ..อะไรเล่าเทา!! ชุนเปล่า..เปล่าอยากเจอเค้าอีกครั้งซักหน่อย' เทากระพริบตาปริบปริบ แค่จะแซวเล่นๆแต่ไม่คิดว่า

     

    ปฏิกิริยาตอบกลับจะรุนแรงขนาดนี้ เทายิ้มเผล่ เอียงคอลงเล็กน้อย มองหน้าอีกคนด้วยท่าทาง(แกล้ง)จับผิด

     

    'เทาแค่จะบอกว่า หรือว่ากลัวไปวางทิ้งไว้แล้วนาฬิกาจะหาย :3'

    เทากับเสี่ยวชุนนั่งเล่นนอนเล่น ทอดตัวลงบนพื้นผิวบุนุ่มที่กระจายตัวจนแทบจะครบทุกตารางนิ้วของห้อง ยามบ่ายคล้อย

     

    อาหารกลางวันถูกสั่งให้ยกขึ้นมาตั้งสำรับถึงบนห้อง ทั้งที่แปลกใจเพราะมื้ออาหารควรจะดำเนินไปตามอย่างที่มันควรจะ

     

    เป็นในห้องอาหารใหญ่ แต่สุดท้ายคำถามมากมายก็ถูกกลืนลงคอไปพร้อมกับเสียงของสาวใช้ที่บอกว่าคุณท่านนังติดแขกอยู่

     

    ข้างล่าง และห้องอาหารไม่สะดวกจะใช้งาน

     

    'เทาจะไปดูหนังวันนี้หรอ?' ลูกเลี้ยงหน้าหล่อใช้ปลายส้อมชี้มาทางเทาพลางตั้งคำถาม เทาพยักหน้างึก แล้วจึงออกปาก

     

    ชวนอีกคนไปดูหนังด้วยกัน จริงๆดูหนังด้วยกันสามคนก็สนุกดี อย่างน้อยก็จะได้มีคนสนใจหนังไปพร้อมๆเทาบ้าง ไม่

     

    เหมือนใครอีกคนที่เข้าไปในโรงหนังแล้วมือต้องกลายเป็นปลาหมึก โอบได้เป็นโอบ ถือโอกาสที่คนตัวเล็กเสียงดังไม่ได้

     

    เก็บเกี่ยวกำไรจนชุ่มปอด ตลอดระยะเวลาสองชั่วโมงที่หนังฉาย พูดแล้วก็หมั่นไส้นัก ออกมาจากโรงหนังถามชื่อพระเอกจะ

     

    ตอบได้หรือเปล่าก็ไม่รู้ เพราะทุกหน่วยของระบบการรับรู้ของเจ้าของมือหนานั้นถูกตรึงไว้ที่เอวคอดๆที่นุ่มนิ่มน่าหยิกนั้น

     

    ทั้งหมด ทั้งๆที่ไม่ได้มีกะจิตกะใจจะดูหนังสักนิด แต่กลับเอ่ยปากชวนดูต่ออีกเรื่องหน้าตาเฉย คุณท่านนะคุณท่าน ถ้าตัวเทา

     

    ช้ำได้ จะช้ำให้ดูตรงนั้นเลยคอยดู!

     

    'คุณเสี่ยวไปดูด้วยกันมั้ยฮะ?' เสี่ยวชุนเบ้ปาก ส่งเสียงงุ้งงิ้งว่าถึงจะอยากไปแต่ถ้าต้องมานั้งล้อมหน้าล้อมหลังง้อคนแก่อีก

     

    คนฐานที่ไปขัดโอกาสสวีทกับแม่เลี้ยงตัวน้อย ก็ดูจะไม่คุ้มนัก คุณพ่อของเสี่ยวชุนไม่ใช่คนง้อง่ายเลย 

     

    'เทาไปกับคุณพ่อเถอะ เดี๋ยวถ้าครั้งไหนคุณพ่อไม่ว่างพาเทาไป ชุนจะไปด้วยนะ'

     

    .

    .

    .

    .

    ..

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

     

     

     

    หกโมงครึ่งแล้ว ธุระของคุณท่านกับแขกยังไม่มีท่าทีว่าจะคลี่คลายลง เด็กน้อยที่รอมานานห้าชั่วโมงเต็มๆ เริ่มออกอาการไม่

     

    สบายตัวอีกครั้ง เทาคลื่นไส้ ทำหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก เสี่ยวชุนเห็นท่าไม่ดีรีบเดินเข้ามาประคองไว้ก่อนที่คนตัวเล็กจะ

     

    หน้ามืดลงไปจริงๆ คำโกหกว่าตัวเองสบายดีถูกหยิบยกขึ้นมาใช้ เทาถามหาน้ำผลไม้รสเปรี้ยวซักแก้วเพื่อมาล้างอาการฝาด

     

    ขมในคอ เสี่ยวชุนนึกขัดใจกับนิสับหัวแข็งของคนตรงหน้านัก ฝืนตัวเองไม่พอ ยังจะยืนกรานลงไปห้องครัวด้วยตัวเอง ถึง

     

    จะฟึดฟัดใส่ แต่สุดท้ายก็เป็นเสี่ยวชุนเองที่ประคองเทาลงไปถึงห้องครัวจนได้

     

    'รอตรงนี้นะ เดี๋ยวชุนไปเทน้ำมาให้

     

    เสี่ยวชุนกลับมาพร้อมน้ำพันช์สีสวย คนตัวเล็กรับไปดื่มด้วยสีหน้าที่ผ่อนคลายลง

     

    'ขอบคุณนะฮะคุณเสี่ยวชุน' มือเรียวหยิกแก้มแม่เลี้ยงตัวเล็กแล้วเอ่ยบอกว่าตัวเองเต็มใจ

     

    'เย็นมากแล้วออกไปตามคุณพ่อกันมั้ย เดี๋ยวช่วงหัวค่ำรถจะติดนะ' เสี่ยวชุนหมายถึงนัดของคนเป็นพ่อกับแม่เลี้ยงตัวแสบ

     

    เทาใช้ปากงับขอบแก้วแล้วทำหน้าใช้ความคิด ก่อนที่หัวกลมๆจะผงกขึ้นลงเป็นสัญญาณว่าเห็นด้วยกับความคิดของคนน้อง

     

    เสี่ยวชุนคว้ามมือนุ่มนิ่มมาถือไว้ ก่อนจะออกแรงน้อยๆกระตุกแขนให้อีกคนเดินออกไปห้องรับแขกด้วยกัน

     

    ประตูไม้บานสง่าสักฉลุลายโบราณราวยุคราชวงศ์ถังเป็นสิ่งเดียวที่กั้นระหว่างคู่แม่เลี้ยงลูกเลี้ยงและเจ้าของอัครสถานแห่งนี้

     

    ไอเย็นจากเครื่องปรับอากาศข้างในแผ่ออกมาสัมผัสผิวบางๆของคนตัวเล็ก แต่เทาไม่ได้นึกเลยว่าเมื่อประตูบานใหญ่ถูก

     

    เลื่อนออก ภาพที่เทาเห็นจะทำให้เทาเย็นวาบไปทั้งตัว ไอเย็นที่ก็ขึ้นที่กลางอกเคลื่อนตัวไม่เกาะกินถึงหัวใจภายในเวลาอัน

     

    สั้น ทุกอย่างเกิดขึ้นรวดเร็วแต่ฝังร่องรอบร้ายลึกอย่างที่สุด

     

    'เทา...' มีเพียงเสียงหน่วยเดียวที่เกิดขึ้นท่ามกลางความเงียบงันทั้งหมด นักธุรกิจรูปร่างภูมิฐานมากมายกำลังนั่งอยู่บนชุด

     

    โซฟาบุหนังด้วยอริบาบถผ่อนคลาย โดยที่เจ้าของเสียงเองก็เป็นหนึ่งในนั้นเช่นกัน 

     

    เสี่ยวหมิงพยายามจะลุกขึ้นไปหาอีกคนที่ตอนนี้เปราะบางราวกับแก้วใส เปราะบางอย่างที่แม้แต่ลมแผ่วเบาก็ทำให้แตก

     

    ละเอียดได้ไม่ยาก แต่ทุกอย่างก็ดูจะยากและช้าเกินไปเสียหมด เมื่อมีมวลน้ำหนักของร่างกายอ้อนแอ้นที่ทาบทับลงมาบน

     

    หน้าขาและทวีความอึดอัดร้ายแรงด้วยวงแขนที่โอบรอบต้นคอของเค้าอยู่ เพราะสีหน้าปั้นยิ้มแฝงแววตาอิดโรย กำลังทำให้หัวใจมังกรดวงนี้บีบรัดตัวรุนแรงอย่างที่สุด!

     

     

    'ขอโทษที่เสียมารยาทครับ ไม่ทราบว่าคุณท่านจะมีแขก' เทาพูดเท่านั้นแล้วรีบพาตัวเองให้ออกห่างจากแผลเหวอะอย่างไวที่สุด

     

    แต่เสี่ยวชุนที่ตั้งรับรออยู่แล้วรีบประคองอีกคนออกมาทันที ประตูรถคันสวยถูกระชากออก แผ่นหลังสั่นเทาถูกดีนเข้าไปยังห้องโดยสาร ขาเรียวก้าวฉับอ้อมไปอีกฝั่งเพื่อตามเข้าไปในรถด้วยทันที

     

     

     

    แอสตันมาร์ตินคันสวยรีบทะยานออกจากประตูใหญ่ของบ้าน โดยที่มีแต่เสียงเครื่องปรับอากาศที่ทำหน้าที่ของมันเพียงเท่านั้น

     

     

    เสี่ยวชุนแอบชำเลืองมองร่างขาวข้างๆเป็นระยะ เทาไม่ได้ร้องไห้  ไม่เลย มีแต่สายตางว่างๆ ไม่สื่ออารมณ์ที่ทอดมองไปยังถนนข้างหน้าเท่านั้น เทานิ่งเสียจนเสี่ยวชุนกลัวเหลือเกินว่าเทากำลังเผชิญกับเข็มพันเล่มที่มองไม่เห็น

     

     

    โทรศัพท์ของเทาดังขึ้นหลายต่อหลายครั้ง แต่สุดท้ายเท่ก็กดปิดเครื่องทั้งๆที่ไม่ได้ก้มลงไปมองหน้าจอเลยด้วยซ้ำ

     

    ผ่านไปไม่นาน เหมือนคนต้นสายจะรู้แล้วว่าถูกปิดเครื่องหนี เสียงเรียกเข้าจึงย้ายมาอยู่ที่เครื่องของเสี่ยวชุนแทน 

     

    ดวงตาคมหรี่ลงเหมือนจะถามคนข้างๆว่ารับสายได้มั้ย เทาไม่ได้ตอบอะไร แต่เบนหน้าหนีแล้วมองออกไปนอกหน้าต่างแทน

     

    เสี่ยวชุนกดรับสายเกร็งๆ และเพียงเสียงแรกจากคนที่ปลายสาย ก็มากอจะทำให้เสี่ยวชุนรู้ว่าคนเป็นพ่อร้อนรนขนาดไหน

     

     

     

    'ครับคุณพ่อ...อยู่กับชุนครับ'

     

     

     

    (.....)

     

     

     

    'ครับ ชุนทราบ แต่ชุนไม่รู้ว่าเทาจะเข้าใจอย่างที่ชุนเจ้าใจมั้ย'

     

     

     

    (.....)

     

     

     

    'ครับ งั้นคุณพ่อถือสายแปปนึงนะฮะ' เสี่ยวชุนใช้มือข้างที่ไม่ได้ยังคับพวงมาลัยยื่นโทรศัพท์เครื่องสวยเจ้าไปแนบกับกกหู

     

    ขาว เทาทำท่าจะเบี่ยงตัวออก แต่สุดท้ายก็แพ้ให้กับความยาวจองช่วงตัวคุณเสี่ยวชุนอยู่ดี

     

     

     

    (.....)

     

     

     

    'แล้วยังไงครับถ้าให้ผมรออยู่บนห้องต่อ คุณจะบอกผมมั้ยว่าในห้องรับแขกคุณทำอะไรไปบ้าง'

     

     

     

    (.....)

     

     

     

    'ครับผมเข้าใจ คงสำคัญทั้งธุรกิจ ทั้งเธอคนนั้น'

     

     

     

    (.....)

     

     

    'จะคุยเรื่องธุรกิจกันต่อถึงดึกดื่นเลยก็ได้นะครับ ตอนผมขึ้นตึกจะได้เดินอ้อมไปอีกทางนึง คุณจะได้นั่งใกล้ๆผู้หญิงคนนั้นแบบไม่ต้องคิดถึงหน้าผม'

    (....)

     

     

     

    'นั่นไม่ใช่สิ่งที่ผมต้องรู้ครับ ผมรู้เท่าที่ผมเห็น แค่นี้นะครับ ไม่ค้องเสียเวลาโทรมาแล้วครับ' นิ้วเรียวกดปิดเครื่องอย่าง

     

    รวดเร็วทันทีที่วางสาย มีหลายความรู้สุกที่เสี่ยวชุนได้รับจากยทสนทนาเมื่อกี้ เทาพูดประชดคุณพ่อด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย ไม่

     

    มีแววสั่นเครือแฝงอยู่ซักนิด แต่มือขาวกลับต้องกดหน้าอกไว้ตลอดเวลา เหมือนทุกครั้งที่เทาแสร้งทำเป็นไม่ใส่ใจ แต่ใน

     

    ความเป็นจริง หัวใจดวงน้อยกลับเจ็บปวดในทุกๆคำพูดของตน

     

     

    พวงมาลัยหนังสีดำขลับหักเลี้ยวเข้าลานจอดรถของห้างสรรพสินค้าชั้นนำที่หนึ่ง

     

    คนขับจำเป็นจำเป็นเลือกจอดในมุมที่ลับตาคนที่สุด เพราะตอนนี้เทาไม่ต้องการอะไรมากไปกว่าที่เงียบๆ และโอกาสที่จะ

     

    ปลดปล่อยแรงกดมหาศาลในใจ เสี่ยวชุนปลดเข็มขัดนิรภัยออกแล้วหันเข้าหาคนตัวเล็กข้างๆที่ยังคงไม่พูดไม่จาอย่างเดิม

     

    เพียงแค่สัมผัสเบาๆที่หน้าขา และท่าทีเป็นห่วงเป็นใยจากคุณเสี่ยวชุน ก็มากพอที่จะทำให้เทาปล่อยโฮราวกับคนสิ้นสติ มือ

     

    น้อยๆยกขึ้นมากำเนื้อผ้าที่ปกคลุมช่วงอกข้างซ้ายจนสุดแรง เทาบีบ บีบเหมือนจะบอกมันว่าอย่าพึ่งหยุดเต้นตอนนี้

     

    เสี่ยวชุนไม่ได้ขอให้เทาหยุดร้องไห้ มือเรียวเพียงแค่ลูบแผ่นหลังบางขึ้นลง เสี่ยวชุนกลัวเหลือเกินว่าคนตรงหน้าจะร้องไห้

     

    จนหายใจไม่เป็นจังหวะ เพราะคล้อยหลังจากเรื่องที่อิตาลี่เมื่อไม่กี่เดือนก่อนเป็นต้นมา ระบบการหายใจของเทาก็กลับมา

     

    ทำงานได้ไม่เต็มร้อยเท่าเดิมนัก

     

    'เทา ใจเย็นๆนะค่อยๆหายใจนะ ค่อยๆหายใจ' เหมือนมีก้อนความรู้สึกมากมายขึ้นมาจุกที่คอ เทาใช้ความพยายามมากมาย

     

    จะปรับให้ตัวเองหายใจให้ทัน แต่ก็ดูเหมือนจะไม่เป็นผลเอาเสียเลย

     

    'เทาอย่าพึ่งคิดมากเลย เทายังไม่ได้ฟังคุณพ่ออธิบายเลยนะ

     

     

    จะให้เทาฟังอะไร ก็เทาเห็นมันอยู่เต็มตา

     

    ภาพที่มีผู้หญิงนุ่งน้อยห่มน้อยนั่งห้อยขากอดคออยู่บนหน้าตักคุณท่าน และเทาคงจะไม่รู้สึกอะไรซักนิด ถ้าสีหน้าของคุณท่านไม่ได้ประดับด้วยความสุขขนาดนั้น

     

    'เรื่องพวกนี้ชุนก็เห็นมาเยอะ สำหรับคนพวกนั้นไม่มีอะไรที่เค้าจะไม่มองเป็นธุรกิจหรอก...พวกเค้าทั้งสรรหาของมากมายมาวางเรียงตรงหน้าคุณพ่อเพื่อที่จะบรรลุข้อตกลงทางผลประโยชน์ร่วมกัน'

     

    '....' 

     

    'และของที่พวกเค้าสรรหามา บางทีก็ไม่พ้น...ผู้หญิง'

     

    'ถ้าอย่างนั้น เทาก็ต้องทนเห็นภาพแบบนี้ทักครั้งที่มีคนมาคุยธุรกิจกับคุณท่านงั้นสิ'

     

    'แต่เชื่อเถอะ คุณพ่อรับไว้พอเป็นมารยาทเท่านั้นแล่ะ คล้อยหลังพวกขี้สอพลอพวกนั้น ผู้หญิงที่ถูกส่งมาคุณพ่อก็จะปล่อย

     

    ไปทั้งหมด' เสี่ยวชุนทั้งโน้มน้าว ทั้งโอ๋ ทั้งปลอบคนตรงหน้า ถึงจะเรียกว่าโน้มน้าวก็เถอะ แต่เรื่องที่เค้าบอกเทาก็เป็นเรื่อง

    จริงนี่นา

     

    'หน่าาาา นะๆๆๆ ไม่ใช่ว่าคนแถวนี้อยากดูหนังหรอ ขึ้นไปดูกันเนอะ ป่ะๆ' เสี่ยวชุนโน้มคอแม่เลี้ยงตัวเล็กมาให้ซบกับอก

     

    ตัวเอง เทาไถจมูกแดงๆกับเสื้อของคนตรงหน้า เสียงสะอื้นยังพอมีให้ได้ยินเป็นระยะ

     

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

     

    เสี่ยวชุนใช้เวลาลูบหน้าลูบตา พึมพำคำโอ๋ ไม่ต่างอะไรกับเทาเป็นแมวตัวน้อยๆ จนผ่านไปพักใหญ่ เทาก็ยอมให้คนน้องจูงมือลงจากรถในที่สุด

     

    'เดี๋ยวไปดูรอบหนังก่อนดีกว่า ถ้าพอเหลือเวลาจะได้ไปทานข้าวกัน' เสี่ยวชุนพูดลอยๆตอนที่จูงคนพี่ขึ้นบันไดเลื่อน ตอนนี้

     

    เทาทำตัวเองให้ไร้ทิศไร้ทางเช่นเดียวกับปุยนุ่น โดนคนน้องลากไปทางไหน เทาก็ลอยตามไปแบบไม่มีแรงขัดขืนใดๆทั้งสิ้น

     

    เสี่ยวชุนจัดการจองตั๋วหนังเสร็จสรรพ หลังจากอนุมานว่าเทาอยากดูหนังเรื่องไหนเอาจากเสียงงุ้งงิ้งเหมือนคิตตี้หัดพูดภาษา

     

    คน ยิ่งเมื่อเจ้าตัวมุดจมูกแดงๆเข้าซ่อนกับคอเสื้อ ชื่อหนังที่เสี่ยวชุนได้ยินยิ่งอู้อี้และไม่ได้ศัพท์ขึ้นไปอีก

     

     

    'เอาเป็นว่า...ดูเรื่องนี้แล้วกัน...'

     

    เหลือเวลาอีกประมาณชั่วโมงนึงกว่าหนังจะเริ่ม เสี่ยวชุนพาเทามานั่งทานข้าวที่ร้านอาหารญี่ปุ่นที่เทาชอบ ซึ่งตอนแรกเทาก็

     

    ดูจะดีใจขึ้นมาหน่อย แต่สุดท้ายก็มานั่งทำหน้าพะอืดพะอมอย่างไร้เหตุผลอยู่ตรงข้ามเค้า เสี่ยวชุนสืบความได้ว่าเทาเวียนหัว

     

    แต่ไม่รู้ว่าทำไมเหมือนกัน เสี่ยวชุนคิดเอาเองว่าเทาเวียนหัวเพราะไม่สดชื่นถ้าได้ทานอาหารที่ชอบ ก็น่าจะทำให้อารมณ์ดี

     

    และอาการเวียนหัวก็จะหายไปเอง

     

    แต่สุดท้ายก็ไม่เป็นไปอย่างที่คิด เมื่อซาชิมิแซลมอนสีส้มสดยกมาเสิร์ฟ เทาก็ออกอาการพะอืดพะอมทันที 

     

    'คุณเสี่ยวชุน เทาไม่เอาอันนี้ เอาออกไปฮะ!' เสี่ยวชุนสะดุ้งตกใจทำอะไรไม่ถูก แม้ว่าจะเลื่อนจานวางชิ้นเนื้อปลาสดไปไกล

     

    อีกฝั่งของโต๊ะแล้วก็ตาม แต่อาการเทาก็ไม่มีท่าทีว่าจะดีขึ้น จนสุดท้ายเสี่ยวชุนก็ต้องยอมแพ้ และสั่งให้พนักงานมายกเซ็ตซา

     

    ชิมิออกไปทั้งหมด ยิ่งมองไปโต๊ะข้างๆที่มีอาหารมาวางอาการอยากอาเจียนของเทาก็หนักขึ้น จนสุดท้ายเสี่ยวชุนก็ยอมแพ้

     

    แล้วพาคนตัวเล็กออกมาหาที่นั่งข้างนอกในที่สุด

     

    'เทาดูไม่ค่อยโอเคเลย กลับบ้านก่อนมั้ย' เสี่ยวชุนประคองแม่เลี้ยงคนสวยมานั่งที่ม้านั่ง มือก็อาศัยโบรชัวจากร้านอาหาร

     

    ญี่ปุ่นมาเป็นพัดให้อีกคน เทาปฏิเสธอย่างไม่ต้องสงสัย ต่อให้ต้องนั่งทรมานกับอาการที่เป็นอยู่ เทียบกับ กลับบ้านไปเจอ

     

    หน้าคุณท่านตอนนี้ ความรู้สึกเทาเลือกอย่างแรกโดนปราศจากความลังเลใดๆทั้งหมด

     

    เสี่ยวชุนละสายตาจากเทาเพื่อที่จะมองหาร้านเครื่องดื่มเย็นๆให้เทาซักแก้ว

     

    แต่ไม่กี่วินาทีหลังจากนั้น ไม่ทันที่เสี่ยวชุนจะพูดอะไร ร่างโปร่งก็เห็นกับตาว่าร่างบางๆของแม่เลี้ยงตัวเอง กำลังทิ้งตัวลง

     

    ตามอย่างของคนหมดสติที่ไม่มีแรงประคองตัวต้านกับแรงโน้มถ่วงโลก และความคิดในหัวของเสี่ยวชุน ไม่มีอะไรจะเกิด

     

    ขี้นไวเท่ากับ เค้าต้องรีบเข้าไปประคองศรีษะเล็กก่อนที่จะกระแทกลงกับพื้น

     

     

     

     

    'เทา!!!'

     

     

     

    150% completed

    ฮี่ๆ เดี๋ยวลงสปอยตอนหน้าให้น้า มาดูเจ้าของนาฬิกาอูโบลท์กัน อิ____อิ

     



    คิดเห็นยังไงช่วยติดแท็ก #ห้องลับน้องเทา ด้วยนะก๊า

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×