ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Deceased Human บันทึกรักเขย่าหัวใจไวรัสมัมมี่

    ลำดับตอนที่ #3 : start

    • อัปเดตล่าสุด 13 พ.ย. 59


                ฉันไม่แน่ใจว่าควรที่จะเริ่มต้นแบบนี้นั้นถูกต้องแล้วหรือไม่ ฉันก้าวขาเดินไปบนพื้นหญ้าชื้นๆที่มีแต่เกล็ดน้ำแข็ง อะไรต่างๆบนโลกนี้ต่างพากันเปลี่ยนแปลงไปหมดแม้กระทั้งฤดูหนาวที่ยาวนานเกินกว่าปกติ เราเดินกันมาสามชั่วโมงแล้วโดยที่มีลุคเดินนำหน้าฉัน เขาสะพายกระเป๋าเป้ใบใหญ่ไว้ให้ ส่วนฉันถือแค่ปืนกับกระติกน้ำ แต่ก็ยังคงดูเหนื่อยกว่าเขาอยู่ดี ในลมหายใจของฉันเริ่มมีเสียงหอบออกมา มันค่อยๆดังขึ้นจนลุคต้องหันกลับมา เขาหยุดยืนทันทีจนฉันแทบจะสดุดเขาล้มลง

                หยุดทำไม” 

              ฉันถามเขาเบาๆ และต้องหยุดเดินตามเขา

                ผม..ได้ยิน...เสียง..คุณ...หอบ” 

              เขามองหน้าฉัน ก่อนที่เริ่มพูดออกมา

                แน่หล่ะ...เราเดินกันเร็วมาก จนจะเรียกว่าวิ่งอยู่แล้ว ฉันควรเหนื่อย ใช่มั้ย” 

              ฉันประชดเขา โดยที่ก็รู้ว่าเขาไม่มีทางตอบฉันทัน

                ผม..ไม่เถียง...แต่มันดังเกิน...ไป” 

                เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่เหมือนกับพี่ชายของฉันตอนที่กำลังดุฉันเวลาที่ฉันถามอะไรโง่ๆออกมา

                เยี่ยม....ฉันเหนื่อยไม่ได้ด้วย

                 ฉันตอบด้วยคำตอบเดียวกับที่เคยใช้กับโจนาทานตอนที่เขายังอยู่

                ไม่ใช่...แบบนั้น...พวกเขาจะได้ยินคุณ.....มัมมี่หน่ะ” 

                 แววตาของเขาบอกให้ฉันต้องเชื่อเขา และเขาก็ทำสำเร็จเสียด้วย

                ลุค...ถ้าอย่างงั้น ฉันควรจะต้องทำยังไง บอกฉันที

                “คุณต้องพัก...ก่อน...แต่ได้แค่แปปเดียว” 

                 แน่นอน...พ่อคนวุ่นวาย ขืนฉันพักนานคงโดยมัมมี่ทั้งฝูงกินหน่ะสิ  โอเค...ข้อนี้ฉันไม่เถียง

                “จะเช้าแล้วหรอฉันมองขึ้นฟ้าที่มีแต่แสงดาวสว่างจ้าแต่ยังมืดสนิท

                “อีก...สามชั่วโมง” 

                 ลุคตอบด้วยแววตาที่กังวลอย่างเห็นได้ชัด ทำให้ฉันรู้เลยว่าเขาห่วงใยฉันจริงๆ

                ฉันสัญญาว่าจะพักไม่นาน ฉันจะไม่เป็นตัวถ่วงของนายนะลุค” 

                 ฉันพูดพร้อมกับค่อยๆนั่งลงบนก้อนปูนที่หักออกมาจากอาคารด้านหลัง แผ่นปูนเย็นราวกับก้อนน้ำแข็ง แต่อย่างไรก็ตาม เราก็จุดไฟไม่ได้อยู่ดี

                คุณไม่ใช่ตัวถ่วง เจส...คุณไม่ใช่ ...อย่า...พูดถึงตัวเอง...แบบนั้น” 

                 ลุคมองไปรอบๆด้วยสัญชาตญาณของเขาก่อนทีจะนั่งลงช้าๆ ตรงหน้าฉัน ในสายตาของฉันเขาคือคนๆนึงเสียแล้ว

                ฉันเปิดกระติกที่มีน้ำอุ่นออกแล้วเทน้ำออกมาเล็กน้อย กินเพื่อแค่ประทังความหนาว ถึงตอนนี้หิมะจะยังไม่ตก แต่คงอีกไม่นานเกินรอ พอกินเสร็จ ฉันรีบปิดฝาทันทีเพื่อไม่ให้ความร้อนออก แต่...ใช่ ฉันลืมที่จะแบ่งเพื่อนร่วมทางของฉันไปเสียสนิทเลย

                ลุค นายอยากกินน้ำมั้ย หนาวรึป่าว

                “ไม่เป็นไร ผมไม่หิว..และ ..ไม่หนาวด้วย ร่างกายของ....ผม...ทนได้” 

                 เขาพยายามยิ้ม แต่กลับดูน่ากลัวเข้าไปอีก

                นายเป็นซุปเปอร์แมนรึไง” 

                 ฉันอยากหาเรื่องคุยเพื่อแก้หนาว เลยเลือกที่จะกวนประสาทเขาแทน

                ไม่..แน่นอน ฮ่าฮ่าฮ่า

                เอาเข้าไป ยิ้มเหมือนโจ๊กเกอร์เข้าไปอีก เขาพยายามได้ไม่เลวจิงๆ

                “นายยิ้มเหมือนกับคนเหล็กเลย ช่างเถอะ.....แต่ตอนนี้ฉันหนาว

                 ฉันพูดโดยที่มีไอออกจากปากเหมือนสูบบุหรี่

                ต้องกอดมั้ย” …….

                 น้ำเสียงของเขาดูใสซื่อเหลือเกิน เชื้อไวรัสมัมมี่ทำลายสมองของนายไปด้วยงั้นเหรอ

                “ไม่...ไม่...จริงๆ ฉันทนได้ ฉันแค่อยู่เฉยๆแล้ว อากาศก็เย็นขึ้น คือถ้าเราขยับ มันก็จะ.....ยังไม่ทันที่ฉันจะพูดจบ ลุคคว้ามือฉันมาไว้ที่มือของเขา ถุงมือของฉันชื้นหมดแล้ว เขาเอาถุงมือของฉันออก แล้วค่อยๆถูมือของเขากับมือของฉัน

                ดีขึ้นมั้ยอันที่จริงมันก็ไม่ได้แย่ แต่มือของเขาไม่ได้อุ่นเหมือนกับมือมนุษย์ทั่วไป ความร้อนบนมือของเขาเหมือนกับศพที่พึ่งตายหมาดๆ ยังอุ่นอยู่บ้าง แต่ก็ไม่ได้เย็นจนสัมผัสกับความอุ่นไม่ได้

                ดีสิ...ขอบคุณนะลุค ฉันคิดว่าฉันหายหอบแล้ว เราออกเดินทางกันต่อเลยดีมั้ย ก่อนที่จะเช้า

                “ใช่ เราต้อง....ออกจากเขตเมือง...และ...เข้าป่าให้ได้ก่อนเช้า

                 เขาพูดและพยายามยิ้มให้ฉันอีกครั้ง

                “นายรู้มั้ย ว่าเราต้องไปที่ไหนเขานิ่ง ทำหน้าเหมือนว่ากำลังคิดอะไรอยู่

                “.......ผมไม่....แน่ใจ....เหมือนกัน

                “ไม่เป็นไรหรอกลุค...ฉันเชื่อใจนาย

                “ขอบคุณ...ที่ไว้ใจผม

                “ก็พี่ชายฉันฝากให้นายดูแลฉันไม่ใช่หรอ....ฉันต้องไว้ใจนายสิเขายิ้มก่อนที่จะเดินไปที่เป้แล้วค่อยๆสะพายมันให้เสียงเบาที่สุด ฉันพยุงตัวเองให้ลุกขึ้น ท่ามกลางความเงียบ ฉันได้ยินเสียงปืนดังแว่วมาจากที่ไกลๆ แน่นอนว่ามันมาจากใจกลางเมือง ลุคขยับเข้ามาใกล้กับฉันจนตัวของเราติดกัน

                เราต้องรีบไปแล้ว มีคนอยู่นอกกำแพง ในเวลาแบบนี้พวกเขาไม่ควรออกมาฉันบอกลุคด้วยเสียงที่สั่นเพราะความหนาว

                ซ่อมกำแพงงั้นเหรอลุคตอบ

                ไม่ๆ พวกเขาต้องรีบซ่อมตั้งแต่กลางวันของเมื่อวาน ตอนนี้ไม่น่ามีอะไรที่จะต้องห่วงแล้วสำหรับกำแพงนั่น และที่ฉันหายไป พวกเขาคงไม่สงสัยอะไรหรอก ฉันคงอยู่ในบันทึกคนตายไปเรียบร้อยแล้วตั้งแต่เมื่อเช้า คู่อริของแม่ฉันคงลงชื่อฉันเสร็จเรียบร้อยตั้งแต่กำแพงนั่นถล่มแล้ว

                   ฉันพูดไปก็ถอนหายใจไปด้วย

                “มีบางอย่าง...ที่ผม...ต้องบอก

                “มีอะไรหรอลุค” 

              ฉันรู้สึกไม่ค่อยดีเลยที่เขาพูดแบบนั้น

                ผม....จะพา....คุณวิ่ง

                “หมายความว่ายังไง

                “พวกเขา...เป็นร้อย...อยู่ข้างล่าง...ในท่อเขาพูดพร้อมกับเอามือจุปาก

                พวกเขาจะไปไหน

                “ในเมือง เราต้องหนี....ไปจากที่นี่ ถ้าพวกเขา...เจอเรา...คุณตายแน่ยังไม่ทันที่ฉันจะได้พูดอะไรเขาเอื่อมมือลงมาจับที่มือของฉัน เขาค่อยๆกำมือของฉันไว้แน่น เขาหันกลับมาสบตากับฉัน และทันใดนั้น

                ไป...

                เขากระชากตัวออกวิ่งด้วยความเร็วระดับของเขา มันเร็วมาก ฉันทำเพียงแค่ก้าวขาตามให้ทันเท่านั้น เขาลากชั้นออกมาจนถึงย่านควีน อีกไม่นานคงออกจากเขตเมืองได้สำเร็จ แต่ตอนนี้รอบๆตัวของฉันเริ่มเห็นต้นไม้ขึ้นหนาทึบ มันเป็นรางที่ดีมากทีเดียว ตอนนี้ฉันสังเกตได้ว่าลุคยังคงวิ่งด้วยความเร็วเท่าเดิม

                จู่ๆเขาก็หยุดวิ่งจนฉันล้มลงไปกระแทกที่ตัวของเขา แต่เขารับฉันมาไว้พอดี

                “ลุค...เกิดอะไรขึ้นฉันร้องออกมาด้วยความกลัว

                มีบางอย่าง กำลังเคลื่อน.....มาหา...พวกเรา เราต้องหนี

                “พวกมัมมี่งั้นหรอ

                “อะไร....บางอย่าง.....ที่มัมมี่กลัว ผมคิดว่า...พวกในท่อ...หนี....พวกที่  จะมาหาเราฉันตกใจกับคำพูดของเขา ยังมีอะไรที่น่ากลัวกว่ามัมมี่อีกหรอ แล้วพวกนี้กำลังมุ่งหน้าเข้าเมือง คนของฉันทั้งหมดก็....

                คุณ....วิ่งไม่ทันหรอก.....ขี่หลังผม ....พวกเขา...ใกล้เราแล้วเขาก้มนั่งทันทีและกวักมือของฉันให้รีบขี่หลังของเขาโดยเร็ว ทันทีที่ฉันขี่หลังของเขา ลุครีบออกวิ่งทันที มันเร็วกว่าเมื่อกี้ไม่มาก แต่ก็เร็วกว่าที่ฉันวิ่งมากับเขาเมื่อก่อนหน้านี้ เขาเปลี่ยนเส้นทาง โดยวิ่งออกไปที่ด้านข้าง มีบ้านร้างหลังหนึ่ง ลุคกระโดดเข้าไปในบ้านร้างตรงรอยแตกของกำแพงด้านข้าง เขาใช้มือเปล่าๆฉีกแผ่นไม้ออก แล้วมอดเข้าไปในนั้นทันที เขาวางฉันลงแล้วหันหลังไปปิดแผ่นไม้ จากนั้นลุควิ่งนำฉันลงไปชั้นใต้ดิน น่าแปลกที่ไม่มีมัมมี่หลงเหลืออยู่แม้แต่ตัวเดียว สิ่งที่ไล่มัมมี่ไปได้ต้องหน้ากลัวมากจริงๆ อย่างที่เขาว่า

                เรามาในนี้ทำไม...อย่าบอกนะว่า..

                “ใช่....เราต้องหนี....ไปทาง....ท่อระบายน้ำ จนกว่า....จะหนี.....พวกข้างบนนี้พ้น

                ทันใดนั้น ปังงงงง!!!!!! ประตูด้านบนเปิดออกเสียงดังลั่น ฉันรีบวิ่งไปล็อกประตูทันที

                คุณ....มีปืนมั้ย

                “อยู่ในเป้ นี่เราเสียงดังได้แล้วหรอ นายจะเอาไปทำอะไร

                “ท่ออยุ่...ใต้เท้าของผม ตรงนี้ คุณยิงให้ทะลุ ผม....จัดการประตูเอง

                “ได้เลย นายคงไม่กังวลเรื่องเสียงแล้วสินะ” 

                 ฉันจึงรีบแกะเป้ออกอย่างไม่รีรอ พร้อมกับหยิบปืนกลออกมายิงไปที่พื้นไม้ไม่มียั้ง จนกระทั่งปูนบนท่อระบายน้ำค่อยๆแตกออก ส่วนลุครีบตรงเข้าไปที่เครื่องซักผ้าแล้วยกมันมาขวางประตูไว้จากนั้นก็เข้าไปขนตู้ เครื่องออกกำลังกายและอะไรต่อมิอะไรมากมายมาขวางเอาไว้ ฉันว่าคงไม่มีใครหน้าไหนเข้ามาได้แล้วหล่ะ เว้นก็แต่ซูเปอร์ฮีโร่

                ลุค มานี่เร็ว ฉันเจาะทะลุแล้ว เรารีบลงไปกันเถอะ

                “คุณฉีด....วัคซีนให้ผมหน่อย...ผมไม่รู้ว่า...ข้างหน้า...เราจะต้อง....เจอกับอะไร

                “ได้เลยลุค....ฉันอยากให้นายหายเร็วๆเหมือนกัน

                 ฉันพูดพร้อมกับหยิบวัคซีนออกมาจากกล่องแล้วรีบฉีดเข้าไปในแขนของเขา ลุคเงยหน้าขึ้นมามองฉันพร้อมกับยิ้ม

                ผมรู้

                “เรารีบลงไปกันเถอะ ฉันว่าพวกเขากำลังลงมาแล้วฉันได้ยินเสียงฝีเท้าที่เดินลงมาทางบันได

                ลุคกระโดดลงไปก่อน เขารับเป้ แล้วฉันจึงกระโดดลงไปตาม ข้างในนี้มืดมากแต่มีน้ำในท่อไม่มาก อากาศทั้งเหม็นและอับชื้น ฉันถือปืนไว้แน่น แต่เอามีดปลายกระบอกปืนแบบพิเศษของในค่ายมาติดตั้งแทน เพราะถ้าฉันยิงปืนในนี้ มีหวังสิ่งมีชีวิตทุกอย่างได้วิ่งกรูกันเข้ามาที่เราแน่

                ทันใดนั้น...ฉันได้ยินเสียงฝีเท้าที่เดินไม่เป็นจังหวะ มัมมี่ตัวนึงเดินตรงเข้ามาด้วยความหิวโหย ฉันวิ่งเข้าไปแทงสวนที่หัวเข้าอย่างจัง ฉันปล่อยร่างเขาให้นอนนิ่งบนพื้นไปแบบนั้น

                เราต้อง.....รีบแล้ว….พวกเขาอยู่...บนหัว....พวกเรา

                “โอเค...งั้นรีบเลย

                ลุคออกวิ่งโดยมีฉันตามไปติดๆ เขาพาชั้นวิ่งออกไปทางทิศตะวันออก เราวิ่งมาเรื่อยๆเจอมัมมี่ก็ฆ่าทิ้ง นับว่าโชคดีมากที่เราเจอไปแต่ 5 ตัว เหลืออีกแค่ 1 ชั่วโมงพระอาทิตย์จะขึ้น เราจึงเร่งฝีเท้าออกไป เรายังไม่รู้ว่าจุดที่สิ้นสุดท่อระบายน้ำนั้นจะพาเราไปที่ไหน แต่เราจะไม่ไปจนสุดทางอย่างแน่นอน แต่จะออกไปที่ไหนสักแห่งที่ใกล้กับป่า ลุคหยุดมองไปที่ฝาท่ออันหนึ่งที่กำลังสั้นไปมาจนเหมือนจะหลุดออก ทันใดนั้นลุคคว้าตัวฉันมาอุ้มแล้ววิ่งเต็มฝีเท้า ในขณะที่ฉันกำลังจะอ้าปากถาม่

                เงียบเขาพูดออกมาเพียงแค่คำเดียวขณะวิ่ง เขาวิ่งเร็วกว่าตอนที่พาฉันเข้าบ้านร้าง ฉันคิดว่านี่คงเต็มสปีดของเขาแล้ว ฉันได้ยินเสียงอะไรบางอย่างวิ่งตามเรามา แต่มันค่อยๆหายไปเป็นระยะ จนในที่สุดก็หายไปจนหมด แต่ลุคยังคงวิ่งต่อไปเรื่อยๆฉันรู้ว่าสัญชาตญาณยังสั่งเขาว่าห้ามหยุด ตอนนี้เราเริ่มห่างไกลออกมาจากจุดที่เริ่มต้นกระโดดลงมาสู่ท่อนี้มากขึ้นทุกที ฉันมองตรงไปข้างหน้าฝาท่ออันหนึ่งที่ปิดไม่สนิท จึงทำให้มีแสงลอดลงมา ลุคหยุดยืนไม่ห่างจากฝาท่อนั้น

                เราต้อง...ขึ้นไป...ข้างบน

                ไม่ เรายังขึ้นไปไม่ได้ ข้างบนต้องเป็นที่โล่งแน่ๆ แดดออกแล้วนะ ผิวของนายจะไหม้นะลุค

                “ผมไม่....อยากให้คุณ....ตายในนี้ คุณตาย....ไม่ได้

                ทันทีที่ลุคพูดจบ เขารีบปีนขึ้นไปตรงฝาท่อทันที เขาไม่รอช้าที่จะเสี่ยงเปิดฝาท่อนั้น และแล้ว.....แสงแรกของเช้าวันใหม่ส่องผ่านร่างของลุคเข้ามาในท่อน้ำอันสกปรกที่แสนจะมืดมิด จนฉันเองก็แทบจะหลับตาเพื่อไม่ให้เห็นภาพร่างกายที่โดนเผาไหม้ของลุคที่อยู่เบื้องหน้า แต่ในความเป็นจริงนั้น.......

                ลุค....

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×