Naruton&Chanaja
Naruton & Chanaja Have a Nightmare
ผู้เข้าชมรวม
400
ผู้เข้าชมเดือนนี้
1
ผู้เข้าชมรวม
Naruton & Chanaja
Have a Nightmare
Have a Nightmare
***เรื่องราวที่เกิดขึ้นเป็นเพียงจินตนาการของผู้เขียน เพื่อความบันเทิงของผู้อ่า น ไม่มีเจตนาร้ายหรืออ้างอิง ใครเพียงอย่างไร หากมีข้อผิดพลาดประการใด ผู้เขียนก็ขออภัย มาไว้ ณ ที่นี้ด้วย***
Jay Talk….
วันนี้คงเป็นวันที่ผมมีความสุขอีกวัน ไม่ใช่สิตั้งแต่เมื่อวานแล้วแหละ ก็หลังจากที่ไอ้ตี๋มาถึงห้อง ผมนี่ยิ้มไม่หยุดเลยครับ เห็นมันบอกว่ามาเอาเอกสารอะไรซักอย่างไปเป็นหลักฐานในการส่งรายชื่อ AFC ก่อนกลับมันเลยขอมาค้างกับผมซักคืน มาออดอ้นออเซาะผม บอกว่าคิดถึงนู่นนี่นั่น แต่ดูตอนนี้สิครับเล่นเกมยังไม่หยุดเลย นี่มันแปลว่าคิดถึงผมใช่ไหม เมื่อก่อนตอนผมเล่นเกมฟีฟ่าใหม่ๆ ไอ้ตี๋บอกว่าเกมไรไม่รู้ปัญญาอ่อน แต่ตอนนี้สิครับ ขนาดผมเรียกมานอนยังไม่ยอมลุก ผมหละเพลียกับคุณสามี อุ๊บบบ >< เพลียกับไอ้ตี๋นี่จริงๆ
“ต้นนอนเถอะ”
“………….”
“ต้นป่ะนอนกันดึกแล้ว” ผมพูดพร้อมดึงเสื้อมัน
“…………..” ยังเงียบและไร้เสียงตอบรับใดๆ
“เฮ้อออ ไม่กวนแล้วก็ได้”
ผมพูดขึ้น ก่อนเดินคอตกเหมือนตอนโดนมาเลยิงใน AFF เลยครับ นี่หรอคิดถึง…?
ผมตบหมอนเสียงดัง เพื่อหวังว่าจะให้อีกฝ่ายสนใจ แต่ไม่เลย ไอ้ตี๋ยังคงนิ่ง ผมเลยล้มตัวลงบนที่นอน แต่หัวแบนๆผมรู้สึกได้ว่าในปลอกหมอนเหมือนมีอะไรอยู่ในนั้น ผมเลยลุกขึ้น แล้วถอดปลอกหมอขึ้นมาดู…
Ton & Jay
มันเป็นแหวนทองพร้อมสลักชื่อผมและไอ้ตี๋พร้อมมีการ์ดเขียนว่า
“ เมื่อคุณได้อ่านการ์ดใบนี้แล้ว แสดงว่าคุณต้องคำสาป คุณจะต้องรักคนเขียนไปตลอดชีวิต ไม่มีทางแก้ไขได้ ^^ ”
ต้น.
ผมอ่านการ์ดเสร็จ เงยหน้าขึ้นมาพบกับผู้ชายตรงหน้าที่ยื่นช่อกุหลาบขาวมาให้ผม ผมรับช่อดอกไม้นั้นมาอย่างเต็มใจ ก่อนไอ้ตี๋จะพูดขึ้นว่า
“ช่อกุหลาบขาว มอบให้เจ้าสาวที่เป็นที่รักของผม”
ผมได้แต่ยิ้มอายๆจนไม่รู้จะพูดยังไงดี
“มา เดี๋ยวต้นสวมแหวนให้”
ไอ้ตี๋สวมแหวนให้ผม แล้วมันก็ให้ผมสวมแหวนให้มัน
“เราเป็นของกันและกันแล้วน่ะเจ”
พูดจบ ไอ้ตี๋ก็มอบสัมผัสอันแสนอบอุ่นไว้ที่หน้าผากผม ก่อนจะเปลี่ยนมาจุมพิตที่ปากเจ่อๆ แม้ว่าไม่ใช่ครั้งแรกที่ผมได้รับสัมผัสแบบนี้ แต่ครั้งนี้มันรู้สึกพิเศษกว่าครั้งไหนๆ กลิ่นน้ำหอมอ่อนๆที่ติดตัวไอ้ตี๋ กลิ่นสเปรย์ที่อยู่ในห้อง กลิ่นกุหลาบขาวที่วางอยู่ข้างๆ รวมไปถึงกลิ่นอายแห่งความรักของผมกับคนตรงหน้า ทำให้บรรยากาศตอนนี้เต็มเปี่ยมไปด้วยความสเน่หา ผมอยากให้เหตุการณ์มันมากไปกว่านั้น แต่…
เพล้งงงงงงงงงงงงงงง งงงงงงงงงง งงง !!
เสียงข้าวของหล่นจากมือบุคคลที่สามที่เดินเข้ามาในห้อง
“ยัยเยอะ”
ผมกับต้นอุทานออกมาพร้อมกันอย่างมิได้นัดหมาย เธอเข้ามายังไง และเธอเห็นอะไรบ้าง
“เตง มาทำไมอ่ะ แล้วเข้ามาได้ไง” ไอ้ต้นถามเธอ
“พ่อบอกให้เค้าเอากุญแจมาคืนเจอ่ะ เห็นบอกต้นลืมไว้ที่บ้าน แต่ไม่คิดว่าจะมาขัดจังหวะ”
“เยอะๆๆ” ผมวิ่งไปดึงแขนเธอและล็อคห้อง
“เตงฟังค้าก่อนน่ะ” ต้นพูดขึ้น แต่มิวายที่แฟนสาวเขา เธอตบหน้าต้นอย่างแรง
“ฟังเจกับต้นก่อนน่ะ มันไม่มีอะไรน่ะ” ผมพูด
“ไม่มีอะไรหรอเจ โอเค เราเชื่อ ฝากดูแลต้นด้วยน่ะ” เธอพูดขึ้นด้วยน้ำตา ก่อนจะหันไปบอกกับต้นว่า
“เราเลิกกันเหอะ”
ทันทีที่เธอหันหลัง ผมถือโอกาส คว้ามือเธอมาแล้วใช้มีดที่ผมเตรียมไว้ตอนที่เธอกับต้นคุยกันอยู่ แทงไปที่ท้องของเธอไม่ยั้งมือ ก่อนที่ผมจะทรุดตัวลงนั่งกับพื้น โยนมีดให้ห่างตัว และนั่งกุมหัว ผมรู้แค่ว่าคนอื่นรู้ว่าผมกับไอ้ตี๋เกินเลยกันไม่ได้ ผมไม่อยากให้ไอ้ตี๋เสียชื่อเสียง ผมทำอะไรลงไป
ไอ้ตี๋เดินเข้าไปเช้คลมหายใจเธอ แต่มันกลับส่ายหัว เป็นสัญญานว่าเธอสิ้นใจ แล้ว นั่นยิ่งทำให้ผมปล่อยโฮ ออกมาอีกรอบ ทำไมผมทำอะไรไม่คิด ผมได้แต่ตบหน้าตัวเอง ก่อนที่ไอ้ตี๋จะเข้ามากอดผม
“เจ เราหนีไปด้วยกันน่ะ”
“ต้นหนีไปกับเจไม่ได้ ต้นต้องอยู่ที่นี่”
“เจไปไหนต้นก็ไปด้วย”
พูดจบไอ้ตี๋ก็คว้าแขนผม ให้ลุกขึ้นและวิ่งออกไปจากห้อง…
รถเก๋งสีขาวคันสวย แล่นออกจากคอนโดแถวหัวหมากออกมาได้ซักพัก ผมรู้สึกเหมือนมีคนตามก่อนจะหันหลังไปดูพบว่าเป็นรถของเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังตามผมอยู่
“ต้นตำรวจ”
ผมพูดขึ้นก็ที่ไอ้ตี๋จะเร่งความเร็วขึ้น ตอนนี้ความรู้สึกหลายอย่างถาโถมเข้ามาในจิตใจของผม รวมไปถึงความกลัว ตอนนี้มันมีอยู่ในใจผมอย่างล้นเปี่ยม รถตำรวจสองคันกำลังขับตมหลังรถหลังผมมาเรื่อยๆ ก่อนที่จะได้ยินเสียงปืนดังขึ้นหนึ่งนัด
ปั๊งงงง !!
รถเก๋งของผมและไอ้ตี๋เสียหลักลงข้างทาง ยังไม่ทันที่ผมจะตั้งตัวรถตำรวจก็มาจอดแนบข้าง และลงมาล้อมที่ผม
“คุณชนาธิปครับ เราขอเชิญคุณไปให้ปากคำที่โรงพัก ในข้อหาคดีฆ่าคนตายด้วยครับ”
“ไม่ๆๆๆๆ ผมไม่ได้ทำ ผมไม่ไป” น้ำตายังคงไหลอาบแก้มผมไม่หยุด ผมส่ายหัวและปฎิเสธ
“เจ้าหน้าที่พบอาวุธตกอยู่ในที่เกิดเหตุ และมีรอยนิ้วมืออยู่ ยังไงก็ไปว่ากันในชั้นศาลน่ะครับ”
“ต้นเจไม่ไปน่ะต้น” ผมจับมือต้นไว้แน่น ก่อนที่ตำรวจจะมาดึงตัวผมออกจากไอ้ตี๋ ผมมองดูไอ้ตี๋ที่ยืนอยู่ตรงที่เดืมตรงนั้น และภาพมันก็ค่อยๆเลือนราง จางหาย ค่อยๆลับตาไป ในที่สุด…
03.34 น
เฮ้ยยยยยย!! เจ เป็นไรว่ะ
ผมตกใจตื่นเพราะเสียงไอ้ตี๋โวยวาย แต่ก็นั่นแหละครับหลังจากผมเรียกสติกลับมาได้ผมก็มองไปรอบๆห้อง ตบหน้าตัวเอง ตบหัวไอ้ตี๋จนมันต้องร้อง โอ้ยยย ออกมา
“มึงเป็นเชี่ยไรค่ะคุณเมีย” ไอ้ตี๋เรียกสติผม
“ป่าวค่ะสามี เค้าแค่ฝันร้าย” ผมเกาหัวแกรกๆ
“นี่วันนี้เรามีความสุขกันขนาดนี้ยังจะฝันร้ายอีกหรอคะ ไหนเล่ามาซิ ฝันว่าไร”
“แหะๆ ช่างมันเถอะ ป่ะๆนอนต่อกันเถอะ” ผมพูดปัดๆไป ก่อนจะซุกหัวลงบนแผ่นอกอันแสนอบอุ่น อันมีผมเป็นเจ้าของ สงสัยผมเคลิ้มไปหน่อยตอนที่ไอ้ตี๋จูบ จนไม่รู้ว่า ผมกับมันไปถึงสวรรค์ชั้นไหนแล้ว หลับตอนไหนยังไม่รู้ ตื่นมานี่ผมเพลียเลยครับ 5555
เอาจริงๆน่ะ ถึงแม้ว่าผมอยากเป็นเจ้าของไอ้ตี๋แต่เพียงผู้เดียว แต่มันคงไม่ใช่วิธีอย่างในฝันแน่นอน ผมดูเหมือนนางมารร้ายในละครหลังข่าวเกินไป อันที่จริงความรัก มันก็ไม่ใช่การครอบครองเสมอไปหรอกเนาะแค่ได้รัก ก็มีความสุขมากแล้ว ผมรู้ดีว่า “ความสัมพันธ์ที่ไม่ชัดเจน มันมีเสน่ห์และมีความสุขตอนแรกๆ และหักมุมแบบเจ็บๆตอนท้ายๆ” แต่ยังไงผมก็ยอมเจ็บเพื่อให้หัวใจผมมีความสุข พรุ่งนี้ต้นต้องกลับบุรีรัมย์แล้ว ผมต้องใช้เวลาที่อยู่ด้วยให้คุ้มค่าที่สุด
เจรักต้นน่ะค่ะ ฝันดีที่รัก
The and
ปล… ขอบคุณที่ตามอ่านจนจบเรื่องน่ะค่ะ อาจจะติดขัดอะไรก็ขอโทษด้วย ตอนนี้คิดถึงคู่นี้มากเลย ชักจะห่างกันเกินไปแล้วน่ะ แต่เค้าก็ยังคงความจิ้นไว้แบบเงียบๆน่ะ รองเท้าคงเท้าคู่มาตลอด ของใช้ส่วนตัวงี้ นี่กะจะคู่กันทุกอย่างเลยช่ะ ? อิอิ แซวซะเลยคิดถึงมากกก ไงก็ฝากติชมด้วยน่ะค่ะ ขอบคุณค่ะ ^^
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ผลงานอื่นๆ ของ apapatwaranat ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ apapatwaranat
ความคิดเห็น