คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : ปิ๊งรักยัยตัวจิ๋ว ตอนที่ 7 วันเด็ก(รักกัน)
เมื่อได้ยินเสียงคุณพ่อพูดจบเจ้าชายน้อยกับนางฟ้าตัวน้อยก็ตะโกนดีใจพร้อมกัน เย้เย้! ก็วันเด็กปีนี้...คุณพ่อและคุณแม่จะพาไปเที่ยวทะเล ไปก่อกองทราย คราวที่แล้วที่ไปซองกี้ไปคนเดียวไม่มีน้องสาวตัวเล็กไปด้วย ตอนนี้มีน้องสาวแล้ว ต้องสนุกมากๆ แน่ๆเลย
“พี่ซองกี้ค่า พี่ซองกี้ พี่ซองกี้ชวนพี่วานนี่ไปด้วยสิคะ จะได้ก่อปราสาททรายกันสนุกน๊า” ท่าทางออดอ้อนพี่ชายของน้องสาวตัวจิ๋วน่ารักจริงๆ จนคุณพ่อคุณแม่แอบยิ้ม เพราะจริงๆแล้วคุณแม่แอบไปชวนวานนี่และคุณแม่ของวานนี่เรียบร้อยก่อนหน้านี้แล้ว
“ไม่รู้จะได้หรือเปล่านะน้องมัซโซะ ถ้าวานนี่ไปคุณแม่ของวานนี่ก็ต้องไปด้วยนะ” ซองกี้อธิบายเหตุผลให้ตัวจิ๋วฟัง
“อ่า...เหรอคะ” สีหน้าเศร้าสลดลงทันใด...
“แต่ว่า...คุณแม่ของพี่วานนี่อนุญาตให้พี่วานนี่ไปนะลูก” เสียงคุณแม่เหมือนเสียงสวรรค์เลยจริงๆ น้องมัซโซะยิ้มกว้างได้อีกครั้ง
“จริงเหรอค๊าคุณแม่” น้องมัซโซะดีใจกระโดดโลดเต้น ซะยิ่งกว่ารู้ว่าจะได้ไปซะอีก...
ที่บ้านของวานนี่...เมื่อวานนี่รู้ว่าวันเด็กปีนี้จะได้ไปเที่ยวทะเล ก็ดีใจไม่แพ้อีกสองคนที่จะได้ไปด้วยกัน แถมรีบจะไปเก็บกระเป๋าและเตรียมของเล่นจะไปเล่นกับเพื่อนรักและน้องสาวตัวเล็กอีกด้วย
“จะขนไปเยอะขนาดนี้เลยเหรอวานนี่” คุณแม่มองดูความตื่นเต้นของหนุ่มน้อยด้วยความเอ็นดู
“ช่ายครับ...เพราะว่าจะได้เล่นกับซองกี้ตอนอยู่ที่ชายหาดไงครับ ผมเตรียมการณ์อย่างเรียบร้อย” วานนี่ทำหน้าตามุ่งมั่น
“แล้วไม่ได้เตรียมไปให้น้องมัซโซะด้วยเหรอลูก” คุณแม่แอบพูดแซว ทั้งๆที่เห็นวานนี่เตรียมกระดาษเยอะแยะ ท่าทางจะวาดตุ๊กตาไปให้นางฟ้าน้อยแน่ๆเลย
“เอ่อ...คือว่า ผมจะวาดตุ๊กตากระดาษให้น้องมัซโซะเล่นหน่ะครับ น้องมัซโซะคงไม่ชอบเล่นหุ่นยนต์” วานนี่ทำท่าเขินอาย
“ดีแล้วหล่ะ...ถ้าเก็บของเสร็จแล้วก็นอนซะนะลูก เดี๋ยวตื่นสายอดไปนะ” หลังจากพูดจบคุณแม่ก็เดินออกจากห้องไป ปล่อยให้วานนี่ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่คนเดียว
เช้าตรู่วันรุ่งขึ้น...คุณแม่และวานนี่ออกเดินทางไปที่บ้านของซองกี้...แต่เช้า เพื่อจะได้ไม่เป็นการเสียเวลาในการพักผ่อนวันเด็กปีนี้ วานนี่ยิ้มแย้มดีใจ จับมือคุณแม่แน่นและกระโดดไปพร้อมๆกับร้องเพลง
“มาแล้วเหรอวานนี่...มาเช้าจังเลย...คุณแม่เพิ่งจัดตะกร้าเสร็จเองอ่ะ สวัสดีครับคุณน้า” หลังจากทักทายเพื่อนแล้วก็หันไปสวัสดีคุณแม่ของวานนี่
“เย้ เย้ เย้ พี่วานนี่มาแล้ว” น้องมัซโซะวิ่งตะโกนมาแต่ไกล และแล้ว...ตุ๊บ!!!
“อะ อะ อ่าว....มัซโซะ!” วานนี่ตกกะใจทำตาเกือบจะทลนออกมา และวิ่งไปหาน้องมัซโซะที่ล้มตุ๊บอยู่ตรงสนามหน้าบ้าน
“อิอิ พี่วานนี่มาเร็วจังเลย มัซโซะเพิ่งแต่งตัวเสร็จคะ วันนี้มัซโซะแต่งตัวเองด้วย เพราะคุณแม่จัดตะกร้าอาหารอยู่” น่าแปลกที่น้องมัซโซะไม่ร้องไห้เลยสักนิด แต่กลับยิ้มดีใจอยู่
“เจ็บหรือเปล่ามัซโซะ” พี่วานนี่ถามด้วยความเป็นห่วง รู้สึกจะเป็นห่วงมากกว่าพี่ชายจริงๆซะอีกนะเนี่ยะ
“ไม่เจ็บคะ...หญ้านุ่มคะ” ยิ้มแป้นอีกเหมือนเดิม
“น้องมัซโซะเดินไม่ระวังเลย เดี๋ยวหน้าทิ่มพื้นแล้วหมดสวยพี่ไม่รู้ด้วยน๊า” ซองกี้เดินมาจูงมือน้องสาวแล้วพูดเล่นด้วยความรัก
“แล้วถ้ามัซโซะไม่สวยพี่ซองกี้จะรักมัซโซะหรือเปล่าคะ” สายตาอยากรู้ของน้องสาวส่งมาถึงพี่ชายที่จูงมืออยู่
“รักสิจ้ะ...ไม่รักน้องสาวแล้วจะรักใครหล่ะ จริงไหมวานนี่... อืม...มัซโซะต้องสวัสดีคุณแม่ของพี่วานนี่ด้วยนะ” ซองกี้สอนน้อง
“สวัสดีค่ะคุณแม่ของพี่วานนี่” ยิ้มหวานให้...แววตาใสซื่อทำให้คุณแม่ของวานนี่เอ็นดูเด็กน้อยมัซโซะจนต้องอุ้มขึ้นมาหอมแก้ม
“สวัสดีจ้า สาวน้อย...วันนี้แต่งตัวซะสวยเลยนะจ้ะ” คุณแม่ของวานนี่พูดแซวจนน้องมัซโซะอายม้วนต้วน
หลังจากพูดคุยกันพอหอมปากหอมคอแล้ว ทุกคนก็ออกเดินทางเพื่อไปเที่ยวที่ทะเล หลังจากรถออกไปได้ไม่นาน ซองกี้ก็งัดขนมออกมากินเล่น พร้อมทั้งแบ่งให้น้องสาวและเพื่อนรักกิน และเล่นของเล่นที่เตรียมมากันอย่างสนุกสนาน
“มัซโซะ หนูกินนมหน่อยไม๊ลูก หัวเราะเยอะไปแล้วนะ เดี๋ยวจะเหนื่อยนะลูก” คุณแม่หันมาถามน้องมัซโซะที่เอาแต่หัวเราะทั้งๆที่ตัวเองไม่ได้เล่น แต่ดูพี่ๆเค้าเล่นก็สนุกใหญ่แล้ว
“ไม่ทานคะคุณแม่ มัซโซะยังไม่หิวเลย” ปากก็ตอบ...แต่ตาก็ยังมองความสนุกสนานที่อยู่ตรงหน้า
“งั้นเอาไว้ถึงทะเลหนูต้องกินนะลูก” คุณแม่ให้ข้อตกลงกับมัซโซะ เพราะยังเด็กอยู่ต้องทานนมเยอะๆ จะได้โตไวไว
“ซองกี้...ฉันว่าเราเปลี่ยนมาเล่นตุ๊กตากระดาษนี่บ้างดีกว่านะ” วานนี่แอบเห็นน้องมัซโซะมองตาปริบๆ อยากจะเล่น...แต่หุ่นยนต์คงไม่เหมาะกับเด็กผู้หญิง วานนี่ก็เลยพยายามชวนซองกี้ให้เล่นตุ๊กตากระดาษ
“หือ? นายเล่นแบบนี้ด้วยเหรอวานนี่” ซองกี้ทำหน้าสงสัย...เพราะไม่เคยเห็นเพื่อนเล่นอะไรแบบนี้มาก่อน
“ก็...เพิ่งทำมาหน่ะ ทำให้มัซโซะเล่น” เสียงพูดค่อยๆ อ่อมแอ่มของวานนี่ ที่กลัวเพื่อนรักจะรู้ทัน...
“อ่อ...งั้นนายก็เล่นกับมัซโซะเถอะนะ อันนี้ฉันไม่ค่อยถนัดอ่ะ เดี๋ยวฉันจะนั่งดูแล้วกัน” ซองกี้ปฏิเสธ ทำให้วานนี่และน้องมัซโซะต้องเล่นตุ๊กตากระดาษที่วานนี่ทำขึ้นมากันสองคน
“มัซโซะให้พี่วานนี่เป็นเจ้าชายนะคะ...พี่ซองกี้เล่นด้วยกันไม่ได้เหรอคะ ให้พี่ซองกี้เป็นปีศาจอ่ะคะ” น้องมัซโซะยัดเยียดตุ๊กตากระดาษที่คล้ายๆกับตัวร้ายของเรื่องให้กับซองกี้
“มัซโซะ...ทำไมให้พี่เป็นปีศาจหล่ะ อย่างพี่ต้องเป็นเจ้าชายสิ” ซองกี้ทำหน้ามุ๋ยที่เห็นน้องสาวยัดเยียดตัวปีศาจกระดาษให้
“ไม่ได้หรอกนะคะ พี่วานนี่ต้องเป็นเจ้าชายคะ พี่ซองกี้เป็นไม่ได้คะ” หน้าตาจริงจังแบบไร้เดียงสา ทำให้ผู้ใหญ่ที่นั่งอยู่อดยิ้มไม่ได้เลยจริงๆ
พวกเราทุกคนเดินทางมาถึงทะเลแสนสวยกันเรียบร้อยแล้ว เด็กๆต่างกระโดดโลดเต้นที่ได้เห็นน้ำทะเลและคลื่นที่สาดซัดเข้าหาฝั่งซองกี้และวานนี่วิ่งนำหน้าเกือบจะไปถึงน้ำทะเลแล้ว ส่วนน้องมัซโซะตัวเล็กขาสั้นก็วิ่งเต๊าะแต๊ะตามไป
“โอ้โห...วานนี่ ทะเลกว้างอะไรขนาดนี้อ่ะ...ว๊าววววววววว” เสียงซองกี้ดังลั่นเลย ซองกี้และครอบครัวไม่ได้มาเที่ยวทะเลนานมากแล้ว มาครั้งที่แล้วซองกี้ยังเด็กกว่านี้อยู่มาก
“ใช่เลย...” ว่าแล้ววานนี่ก็สูดลมหายใจเข้าเต็มปอด
“เอ๊ะ...แล้วมัซโซะไปไหนเนี่ยะ เมื่อกี้วิ่งตามมาไม่ใช่เหรอ” ซองกี้หันซ้ายหันขวาหาน้องสาวของตัวเอง
“จ๊ะเอ๋!!! มัซโซะอยู่นี่คะ” เสียงแหลมเล็กดังขึ้น พร้อมกับเสียงหัวเราะที่แกล้งพี่ชายตัวเองได้สำเร็จ
“นี่แกล้งพี่เหรอมัซโซะ” ซองกี้หยิกแก้มทั้งสองข้างของน้องมัซโซะเบาๆด้วยความหมั่นไส้
“อะโอย...พี่ซองกี้เป็นปิศาจชอบแกล้งเจ้าหญิงอย่างมัซโซะ แบร่” มัซโซะทำท่าแลบลิ้นใส่พี่ชาย
“ไปดีกว่า...เตรียมเปลี่ยนชุดมาเล่นน้ำ มัซโซะคุณแม่เรียกแล้วไปเร็วๆ จะได้รีบมาเล่นน้ำไง ดีเปล่า” ซองกี้บอกน้องสาวเมื่อเห็นคุณแม่โบกมือเรียกอยู่หน้าที่พัก
“ก็ได้คะ...ไปเก็บของก่อน แล้วค่อยมาเล่น พี่วานนี่เคยมาเที่ยวทะเลไม๊คะ” น้องมัซโซะเงยหน้าขึ้นมาถามพี่วานนี่
“เคยมาสิ...มัซโซะเพิ่งมาครั้งแรกสินะ ตื่นเต้นหรือเปล่าหละ” เห็นท่าทางของมัซโซะแล้วไม่ต้องถามก็รู้...ว่าตื่นเต้นมากๆ
“ตื่นเต้นมากๆเลยคะ เคยเห็นแต่ในทีวีที่คุณพ่อชี้ให้ดู ทะเลสวยจริงๆด้วยคะ กว้างงงงงงงงงงงมากๆเลยคะ” มัซโซะเอามือน้อยๆกวาดรอบตัวให้ดูเหมือนว่ามันกว้างมากๆ
“เราไปกันเถอะมัซโซะ มัซโซะขี้โม้ ฮ่าๆๆๆ” ซองกี้แอบแหย่น้องมัซโซะเล่น ทำเอาน้องมัซโซะหน้างอ เดินหันหลังและวิ่งไปหาคุณแม่ทันที
“ฮ่าๆๆๆ ขำชะมัดเลย น้องมัซโซะตั้งแต่โตมาแล้วพูดได้เนี่ยะ พูดมากแล้วก็ชอบขี้งอนด้วยนะวานนี่” ซองกี้พูดต่อไปให้วานนี่ฟัง แต่ดูท่าทางวานนี่จะทำหน้านิ่วคิ้วขมวด...
“นายแกล้งน้อยทำไมอ่ะซองกี้ ดูสิน้องมัซโซะวิ่งไปแล้ว ร้องไห้ไปฟ้องคุณแม่แน่ๆเลย” วานนี่ยังชะเง้อด้วยความเป็นห่วง
“ไม่มีทางหรอก อย่างมัซโซะอ่ะ...ไม่มีทางฟ้องพ่อกับแม่หรอก มัซโซะไม่ใช่เด็กขี้ฟ้องสักกะหน่อย เมื่อก่อนดูนายไม่เห็นจะเข้าข้างมัซโซะเลยนี่น่า” ซองกี้แอบเห็นหน้าวานนี่และแววตาที่ดูเปลี่ยนไป ตอนนี้ห่วงใยน้องมัซโซะมากขึ้นกว่าแต่ก่อน
หลังจากเปลี่ยนชุดเรียบร้อยแล้ว ผู้ใหญ่ทุกคนก็จัดเตรียมข้าวของในการสังสรรค์ปาร์ตี้กันในเย็นนี้ไว้อย่างเรียบร้อย เด็กๆ ช่วยกันถือมาคนละไม้คนละมือ มาไว้ที่จุดที่จะทำอาหารกินกันที่ชายทะเล ตอนนี้เด็กๆใจจดจ่อกับทะเลอันกว้างใหญ่ จึงช่วยกันยกของมาอย่างรวดเร็ว
“หมดแล้วใช่ไหมจ้ะซองกี้” คุณแม่ถามพลางหันไปดูว่าของที่เตรียมมา เตรียมมาครบเรียบร้อยแล้ว
“ใช่ฮะ พวกเราลงน้ำได้หรือยังฮะคุณแม่” ซองกี้ทำสีหน้าและแววตาตื่นเต้น จะได้วิ่งลงน้ำทะเลกันสักที
“ได้แล้วจ้ะ ซองกี้ ดูน้องมัซโซะดีๆนะลูก อย่าไปเล่นลึก เดี๋ยวน้องมัซโซะจะจมน้ำนะ” คุณแม่ยังพูดรั้งท้าย แต่คงเป็นแค่ได้ยินเสียงแว่วๆเท่านั้น เพราะว่าเด็กๆพากันวิ่งไปจนจะสุดพื้นที่เขตทรายแล้ว
น้องมัซโซะที่อยู่ในชุดของทูพีชสีชมพูน่ารัก นั่งอยู่ที่หาดทราย...ยังไม่ค่อยกล้าที่จะลงไปนัก เห็นพี่ซองกี้และพี่วานนี่ กำลังจะลงไปเล่น แต่ใจยังกล้าๆกลัว
“มัซโซะลงมาสิ เล่นน้ำสนุกน๊า” ซองกี้กวักมือเรียกน้องมัซโซะและตะโกนเสียงดัง แต่ก็ไม่ยอมขึ้นมารับมัซโซะเพราะกำลังสนุกและสดชื่นกับน้ำทะเล
“งั้น...เดี๋ยวฉันไปรับมัซโซะแล้วกันนะ คงไม่กล้าลงมา” วานนี่เดินขึ้นจากน้ำและเดินไปใกล้ๆน้องมัซโซะ
“พี่วานนี่...” ทำเสียงเศร้า ทำตาละห้อย... ก็ไม่กล้าลงไปคนเดียวนี่น่า
“ไปกันเถอะ น้ำทะเลหน่ะ เย็นมากๆเลย จริงๆแล้ว...” วานนี่นึกแผนแก้แค้นตอนเด็กๆขึ้นมา ตอนที่น้องมัซโซะปุ้งใส่หน้า แล้วก็ยิ้มที่มุมปาก
“ไปกันคะ” น้องมัซโซะยิ้มแป้นทำท่าดีใจ
“จริงๆแล้ว...น้ำทะเลอร่อยมากเลยรู้ไหม ตอนครั้งก่อนพี่เคยกินเข้าไป อร่อยมากๆเลย แต่กินเยอะไม่ได้นะ” ในการคิดแก้แค้น ก็ยังเป็นห่วง กลัวว่าน้องมัซโซะจะกินเข้าไปเยอะ
“จริงเหรอค่ะ...ดีจัง งั้นมัซโซะจะไปชิมเดียวนี้หล่ะคะ” พูดไม่ทันขาดคำ น้องมัซโซะก็เอามือน้อยๆกวักน้ำขึ้นมาอึกเล็กๆ เข้าปากไป
“มัซโซะ!” เสียงพี่ซองกี้ดังลั่น เพราะตกใจที่เห็นน้องกำลังกินน้ำทะเลอันเค็มปี๋...
“แหวะ!!! ไม่เห็นอร่อยเลย แต่เอ...หรือว่าพี่วานนี่ชอบรสชาติแบบนี้กันนะ” น้องมัซโซะผู้อ่อนต่อโลก นึกไม่ถึงว่านั่นคือแผนการของวานนี่
“มัซโซะ กินน้ำทะเลทำไมกันหล่ะ” ซองกี้รีบขึ้นจากน้ำมาถาม เห็นมัซโซะยิ้มแย้ม ก็เลยทำให้งงไปกันใหญ่
“ก็...พี่วานนี่บอกว่าอร่อยนี่คะ มัซโซะเลยลองชิมดู แต่ไม่นึกว่าพี่วานนี่ชอบเค็มๆแบบนี้ น่าแปลกจัง” มัซโซะไม่คิดจะชิมน้ำทะเลอีก เพราะมันเค็มและไม่ได้อร่อยแบบนั้นเลย
หลังจากเด็กๆเล่นน้ำกันเสร็จแล้ว เหนื่อยและอ่อนเพลีย ก็ขึ้นมาหาอาหารอร่อยๆ ที่คุณพ่อคุณแม่จัดเตรียมไว้ให้อย่างเรียบร้อย
“วานนี่ ฉันถามจริงๆ” ซองกี้หันไปหันมา เห็นว่าน้องมัซโซะไม่อยู่แถวๆนั้น
“มีอะไรเหรอซองกี้” วานนี่ทำหน้าแปลกใจ
“นาย...แกล้งมัซโซะใช่ไหม ที่ให้ชิมน้ำทะเลหน่ะ” ซองกี้ถามข้อสงสัยในทันที
“ฮ่าๆๆๆๆ” วานนี่หัวเราะดังลั่น
“ใช่สิ...ก็ตอนเด็กๆ มัซโซะเคยผายลมใส่หน้าฉัน ฉันเลยแก้แค้นสักกะหน่อย” วานนี่ทำหน้าพอใจมากที่ทำได้สำเร็จ
“ไม่ใช่นะวานนี่ มัซโซะคิดว่า นายหน่ะชอบกินรสชาติแบบนั้นต่างหาก ไม่ได้คิดว่านายแกล้งเลย” พอได้ยินดังนั้น วานนี่ก็ทำหน้าเจือนลง...คิดแล้วก็ไม่น่าแกล้งน้องมัซโซะเลย เพราะน้องมัซโซะไม่รู้เรื่องอะไรสักนิด คิดได้ดังนั้นวานนี่ก็รีบลุกพรวดพราดออกไป
“ไปไหนหนะวานนี่” ไม่ทันซะแล้ว วานนี่ไวอย่างกับลม
มัซโซะกำลังนั่งกินไก่ทอดแสนอร่อยและยังมีขนมอยู่ในมืออีกหลายชิ้น เมื่อเห็นพี่วานนี่ ก็ยิ้มให้และส่งขนมในมือให้พี่วานนี่กินด้วยกัน
“กินด้วยกันไหมคะพี่วานนี่” เสียงแหลมเล็กดังขึ้น
“ไม่หรอก มัซโซะกินเถอะ เมื่อตอนนี้พี่ขอโทษนะ” วานนี่ไม่ปล่อยให้โอกาสช้าไปกว่านี้
“ขอโทษทะมายเหยอค่ะ พี่วานนี่ทำอะไรผิดเหยอคะ” มัซโซะกินไก่ทอดไปด้วยพูดไปด้วย
“ก็ที่ให้มัซโซะกินน้ำทะเลไง จริงๆแล้วพี่อยากจะแกล้งมัซโซะหนะ” มัซโซะหยุดเคี้ยว กระดูกไก่เล็กยังคาอยู่ที่ปาก
“อ่า...เหยอคะ...แย่จัง” มัซโซะทำตาแดงๆเหมือนจะร้องไห้ ที่รู้ว่าพี่ชายที่ตัวเองรักแกล้งให้ชิมน้ำทะเล
“ขอโทษนะ เราดีกันนะ” หลังจากพูดเสร็จวานนี่ก็ยกนิ้วก้อยขึ้นมาชูเอาไว้อยู่อย่างนั้น
“ก็ได้คะ...มัซโซะไม่โกรธพี่วานนี่ก็ได้ แต่ก็ดีเหมือนกันนะคะ มัซโซะก็รู้ว่าน้ำทะเลมันเค็มและไม่อร่อย จะได้ไม่ต้องไปกินมันอีก” รอยยิ้มที่หน้าเกิดขึ้นอีกครั้ง
ความคิดเห็น