คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : ปิ๊งรักยัยตัวจิ๋ว ตอนที่ 1 ลืมตาดูโลก
ณ โรงเรียนอนุบาลแห่งหนึ่ง เสียงเด็กๆ กำลังยกเก้าอี้ขึ้นบนโต๊ะ และเตรียมตัวรอเจอหน้าคุณพ่อคุณแม่ของตัวเอง เด็กน้อยคนหนึ่งยกเก้าอี้ขึ้นและยิ้มอย่างมีความสุข ใบหน้ารอคอยการมารับของผู้เป็นพ่อ หลังจากจัดโต๊ะตัวเองเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็วิ่งปรู๊ดดดดด ออกมารอที่ริมรั้ว ชะเง้อมองผู้เป็นพ่อของตัวเอง
“ซองกี้ ซองกี้...ทำไมวันนี้รีบจังเลยอ่ะ ไปเล่นกันที่หลังโรงเรียนเถอะ” เด็กน้อยหิวกระเป๋าสะพายไว้ข้างหลังส่งเสียงเรียกเพื่อนอย่างเจื้อแจ้ว
“ไม่ได้หรอกวานนี่...วันนี้นะ พ่อจะมารับเร็วหน่อย เล่นกับนายไม่ได้หรอกนะวานนี่” ยังชะเง้อมองอยู่
“โธ่...ทำไมหล่ะ ไปเล่นกันเถอะซองกี้ ไปเล่นกันเถอะ” วานนี่ยังไม่เลิกตื้อ จนได้ยินเสียงคุณครูร้องเรียกซองกี้
“ซองกี้ คุณพ่อมาแล้ว...กลับบ้านได้แล้วจ้ะ” วานนี่ทำหน้าจ๋อย...ที่เห็นเพื่อนต้องกลับบ้านจริงๆ จนผู้เป็นพ่อต้องเข้ามาคุยด้วย
“วานนี่...วันนี้ลุงขอพาซองกี้กลับบ้านก่อนนะ วันนี้ซองกี้จะต้องไปดูน้องที่โรงพยาบาล” คุณพ่อของซองกี้บอกเหตุผลที่จะต้องมารับซองกี้เร็วในวันนี้
“น้องเหรอฮะคุณลุง” วานนี่ทำหน้าสงสัย
“ใช่แล้วหล่ะวานนี่ ตอนนี้ซองกี้มีน้องสาวแล้วนะ น้องสาวของซองกี้เพิ่งเกิดวันนี้เองนะ” วานนี่หันไปมองหน้าที่ยิ้มแย้มของซองกี้ ท่าทางซองกี้จะมีความสุขกับการได้น้องสาวคนนี้มากๆ
“เหรอฮะคุณลุง...ผมอยากไปดูน้องสาวของซองกี้ด้วยจังเลย วันนี้ผมก็ไม่มีเพื่อนเล่นเลย” วานนี่ทำหน้าเศร้า ความจริงแล้ว ไม่ได้อยากไปดูน้องสาวของซองกี้หรอก เพียงแต่ว่าต้องอยู่รอคุณแม่ถึงเย็นโดยที่ต้องเล่นคนเดียวต่างหาก
“เอาไว้น้องสาวออกจากโรงพยาบาลแล้ว วานนี่ค่อยไปเล่นกับน้องดีกว่านะครับ วันนี้ลุงต้องพาซองกี้ไปก่อนนะ” หน้าเริ่มเศร้าขึ้น
“วานนี่...วานนี่ เอาไว้เดี๋ยวพอกลับถึงบ้านแล้ว เราไปเจอกันที่สนามเด็กเล่นที่บ้านก็ได้นะ เดี๋ยวจะเล่าให้ฟังว่าน้องสาวของฉันหน่ะ น่ารักหรือเปล่า ไปก่อนนะ” และแล้วซองกี้ก็โบกมือบ้ายบาย
เย็นวันนั้นวานนี่ต้องนั่งเล่นที่สนามเด็กเล่นคนเดียวเนื่องจากไม่มีใครเล่นด้วยเลย นั่งเหงาอยู่คนเดียว อยู่ดีๆ ก็มีเครื่องบินกระดาษบินเข้ามาหล่นใส่หัว วานนี่ยืนขึ้นโกรธก็โกรธ พยายามมองหาต้นตอของเครื่องบินกระดาษทันที
“ใครหน่ะ ใครหน่ะ ออกมาเดี๋ยวนี้นะ” วานนี่ตะโกนเสียงดัง
“อ่า...ฉันขอโทษ กระดาษโดนหัวนายใช่ม๊า” เด็กผู้ชายตัวเล็กคนหนึ่งวิ่งเข้ามาตามหาเครื่องบินกระดาษของตัวเอง คำพูดขอโทษและท่าทีที่ยิ้มตาหยี ทำให้ดูน่าหมั่นไส้
“นายเองหน่ะเหรอ...ทำไมถึงเอากระดาษนี่มันชนหัวฉันหล่ะ” วานนี่โกรธ เนื่องจากวันนี้เหงาไม่มีเพื่อนเล่นแล้ว ยังจะโดนคนเอากระดาษมาชนใส่หัวตัวเองอีก
“อ่า...ฉันบอกแล้วง่า ว่าขอโทษ ขอโทษ ฉันชื่อมินมิน มาเล่นด้วยกันไหมหล่ะ” ยิ้มตาหยีเหมือนเดิม พร้อมกับยื่นมือออกมาเชื่อมสัมพันธไมตรี
“เล่นกับนายงั้นเหรอ” วานนี่เริ่มคิดว่าดีเหมือนกัน วันนี้ก็ไม่มีซองกี้แล้วนี่น่า
“ใช่หน่ะสิ เล่นพับกระดาษ แล้วมาดูสิว่า...ใครจะพับเครื่องบินบินได้สูงกว่ากัน” วานนี่และมินมิน เริ่มสนิทกันมากขึ้น หลังจากได้เล่นพับกระดาษอย่างสนุกสนาน จนคุณแม่ของทั้งคู่มารับ
ที่บ้านของวานนี่เตรียมอาหารแสนอร่อยไว้ให้ลูกชายคนเดียวของบ้าน อันเป็นที่รักของคนในบ้าน วานนี่ถึงบ้านรีบเอากระเป๋าไปเก็บ รีบล้างหน้าล้างมือให้สะอาด และรีบมานั่งจุมปุกอยู่ที่โต๊ะอาหารก่อนใคร
“อะไรกันลูก หิวเหรอครับเนี่ยะ” คุณพ่อที่เพิ่งวางกระเป๋าทำงานที่พนักพิงของโซฟา หันมามองลูกชายด้วยความเอ็นดู
“ฮะ ป๊ะป๋า...ผมหน่ะหิวจะแย่อยู่แล้ว ถ้าผมไม่ได้กินตอนนี้ ผมต้องไส้ขาดแน่ๆเลยฮะ” พูดเป็นเล่นไปตามประสาเด็กๆ
“งั้น...ป๊ะป๋าล้างมือก่อนนะ แล้วเดี๋ยวเราลุยกันเลย” คุณพ่อและคุณแม่พร้อมกันที่โต๊ะอาหารของบ้าน และเริ่มลงมือกินข้าว
“คุณแม่ฮะ วันนี้ซองกี้มีน้องฮะ” วานนี่พูดลอยๆขึ้นมา ทำให้คุณพ่อคุณแม่ที่นั่งอยู่ทำหน้างงๆ
“อะไรนะวานนี่ ซองกี้มีน้อง” คุณแม่อยากให้วานนี่พูดอธิบายความหมายให้มากขึ้นอีกสักหน่อย
“ใช่ฮะ คุณลุงพ่อของซองกี้บอกว่า วันนี้น้องของซองกี้เพิ่งเกิด อยู่ที่โรงพยาบาลฮะ ถ้าออกมาเมื่อไหร่ให้ผมไปเยี่ยมได้” ในขณะที่เล่าก็ยังตักข้าวคำโตเข้าปากตลอดเวลา
“อ่อ...สงสัยซองกี้คงจะดีใจที่วันนี้ได้น้อง ก็เลยไม่ได้มาเล่นกับวานนี่ใช่ไหมลูก” คุณแม่พูดด้วยท่าทางเอ็นดู
“ใช่เลยฮะ แต่ไม่เป็นไรหรอกฮะ ผมกับซองกี้นัดกันไว้แล้ว ว่าจะไปเล่นที่สนามเด็กเล่นตรงนี้ฮะ คุณแม่พาผมไปนะฮะ” เสียงออดอ้อนดังขึ้น จนทำให้ผู้เป็นแม่อดขำไม่ได้
“ได้สิ แต่ว่า...ต้องกินให้อิ่มก่อนนะ แล้วเราค่อยไปกันนะ...”
วันนั้นวานนี่ได้เล่นกับซองกี้อย่างชุ่มปอดรวมถึงฟังเรื่องราวของน้องสาวของซองกี้ ที่เพิ่งเกิดด้วย ซองกี้สัญญาว่าวันอาทิตย์นี้จะให้วานนี่ไปเล่นกับน้องสาวที่เพิ่งเกิดใหม่ด้วย
วันอาทิตย์ที่รอคอยมาถึง...ซองกี้จูงมือวานนี่ เพื่อเดินเข้าไปที่ห้องกระจกบานใหญ่ มีเด็กตัวเล็กๆนอนอยู่ในนั้นเต็มไปหมด จนดูไม่รู้เลยว่าใครเป็นใคร
“อ่า...นั่นไงๆ วานนี่ น้องสาวของฉัน” ซองกี้ชี้ให้ดูเด็กผู้หญิงคนหนึ่งที่หอด้วยผ้าขนหนูสีขาว นอนอยู่ในเตียงเด็ก
“นั่นเหรอน้องสาวของนายอ่ะซองกี้” วานนี่พยายามเขย่งดู แต่ดันเกิดมาตัวเล็ก เลยมองเห็นแค่เพียงแว๊บเดียว
“เห็นหรือยังหล่ะวานนี่ น้องสาวของฉันนะ ตัวเล็ก แก้มยุ้ย แล้วก็น่ารักมากๆเลยนะรู้หรือเปล่า” ซองกี้ภูมิใจในฐานะพี่ชาย
“เหรอ...นายรักน้องมากๆเลยสินะซองกี้” วานนี่ทำหน้างอเหมือนจะโดนแย่งเพื่อนเล่นไป
“ใช่แล้วหล่ะ อีกหน่อย...อาจจะอยู่เล่นด้วยกันตอนเย็นๆไม่ได้แล้วนะ เพราะว่าต้องรีบกลับมาดูน้อง” ซองกี้ยังแสดงความรักอันยิ่งใหญ่ของพี่ชาย ออกมาให้เห็นจนวานนี่หมั่นไส้
“เสียดายจัง...น้องสาวของนายชื่ออะไรเหรอซองกี้” วานนี่อยากรู้ชื่อเจ้าตัวแสบ ที่แย่งเอาเพื่อนเล่นของเขาไปต่อหน้าต่อตา
“อ่อ...ชื่อมัซโซะ...แปลกใจหล่ะสิที่ชื่อเป็นแบบนี้...คุณพ่อบอกว่า น้องหน่ะ...ได้จากทูตสวรรค์ที่ญี่ปุ่น ตอนไปเที่ยวญี่ปุ่นเมื่อปีก่อน” ซองกี้กำลังพูดประสาเด็ก นั่นหมายถึงว่า ตอนที่คุณพ่อกับคุณแม่ไปฮันนีมูนที่ญี่ปุ่นก็เลยได้เด็กผู้หญิงคนนี้มา เลยตั้งชื่อให้ออกแนวเด็กญี่ปุ่น
“ญี่ปุ่นเหรอ...อยากไปเที่ยวอีกจัง...เมื่อไหร่น๊าป๊ะป๋ากับคุณแม่จะพาไปอีก” วานนี่ยังนึกถึงครั้งก่อนที่ได้ไปเที่ยวเล่นที่ญี่ปุ่นอย่างสนุกสนาน
“ฮ่าๆ นายชอบประเทศญี่ปุ่นเหรอ” ซองกี้หัวเราะชอบใจ
“อะ อ่าว...พยาบาลจะพาน้องสาวของนายไปไหนหล่ะ” วานนี่ทำหน้าแปลกใจและตื่นเต้น
“อ่อ...คงพาไปหาคุณแม่ ไปกันเถอะ” พูดจบซองกี้ก็จับมือวานนี่วิ่งตัวปลิวไปที่ห้องพักของคุณแม่ทันที
ที่ห้องพักคุณแม่ คุณแม่กำลังอุ้มเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆอยู่ในอ้อมอก ซองกี้วิ่งเข้ามายืนเกาะขอบเตียงอยู่ไม่ห่าง รวมถึงวานนี่ด้วย เพราะนี่เป็นโอกาสที่จะได้แตะตัวและเล่นกับน้องสาวสักที
“คุณแม่ฮะ มัซโซะยิ้มให้ผมด้วยฮะ” ซองกี้ดีใจเมื่อเห็นน้องสาวยิ้ม แม้ว่าจริงๆแล้ว จะไม่ได้ยิ้มให้ตัวเองก็ตาม
“ใช่จ้ะลูก วานนี่...อยากดูมัซโซะใกล้ๆไหม น้องมัซโซะน้องสาวของซองกี้ไง” คุณแม่ของซองกี้ยื่นเด็กตัวเล็กๆ มาที่หน้าของเด็กชายทั้งคู่ ซองกี้ยิ้มแก้มปริ ที่เห็นน้องสาวชัดๆ อาการเห่อน้องสาวปรากฏอย่างเห็นได้ชัดเจนทำให้ผู้ใหญ่ที่อยู่รอบๆขำ
“วานนี่...มัซโซะตัวนิ่มจังเลย นายแตะดูสิ” ซองกี้เอามือไปจับมือน้องสาว และชวนให้วานนี่จับมือน้องสาวด้วย
“น้องสาวนายจะเจ็บหรือเปล่า...” วานนี่ค่อยๆเอามือไปจับ ทันใดนั้น...มัซโซะสาวน้อย ก็ร้องลั่นออกมา ทำให้วานนี่ตกใจ ถอยออกไปสองเก้า
“มัซโซะ มัซโซะ ทำไมเหรอ ไม่ชอบวานนี่เหรอ” ซองกี้ยังจับมือน้องสาว และมัซโซะก็เงียบลง ราวกับรู้ว่าพี่ชายกำลังจับมืออยู่
“ทำไมน้องนายต้องร้องไห้ด้วย” วานนี่หน้าเสีย ทำให้ผู้ใหญ่หลายๆคนอดขำไม่ได้
ความคิดเห็น