คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ตอนที่ 2 เพื่อนคนใหม่
"ขอกาแฟถ้วยนึงครับ"ผมสั่งพนักงานในร้าน
"ขอเป็นชุดอาหารเช้าที่นึงค่ะ"แล้วเธอก็สั่งอาหารต่อจากผม หันแล้วมาทางผม "ยังไม่ได้ทานข้าวเช้ามาเลยอะ ขอเสียมารยาทหน่อยนะค่ะ"มารยาทสุดยอดเลยอะ
"คุยกับผมไม่ต้องมีมารยาทก็ได้นะครับ แล้วเธอชื่ออะไรดหลอ"ผมถามชื่อเธอเพราะคิดว่ามันคงเป็นการเริ่มต้นคุยที่ดีที่สุดแล้วมั้งครับ
"ชื่อเจนนี่ บูสตัน ค่ะ"
โหชื่ออย่างหลูอ่ะ
"เอ......ชื่อแบบนี้ เสดงว่าเป็นคนต่างชาติเหลอ หน้าไม่ยักเหมือน"
"ค่ะ เป็นลูกครึ่งออสเตเรียอะค่ะ แม่เป็นคนออสเตเรีย" อือ ลูกครึ่งนี่เองเหลอนี่ ถึงว่าชื่อแปลกๆ "แต่เรียกสั้นๆว่า เจนดีกว่านะ"
"อือ...ครับ ถึงว่าล่ะน่าตาน่ารักเชียว เป็นลูกครึ่งนี่เอง"
"ไม่จริงหลอก อย่าโม้ดิ"ทำไมน้า เวลาเธอเขินก็ยังหน้ารักได้ขนาดนี้นะ คนดูดีทำอะไรก็ดูดีไปหมดเลย
"ฮ่าๆๆ พูดจริงครับ แล้วเจนมีแฟนยังครับ หน้าตาอย่างนี้สงสัยมีแล้วแน่เลย"
"ไม่มีหลอก พึ่งกลับมาจากต่างประเทศ เลยยังไม่ได้เจอใครเลยแล้วจะให้มีแฟนได้ยังไงละ"แล้วเธอก็ทำท่าเขิน เอไม่มีแฟนยังงี้เราก็ยังพอมีโอกาศละสิ ฮิๆๆ
"ครับ เอ...งั้นก็แสดงว่า เจนพึ่งกลับมาต่างประเทศได้ไม่นานก็เกือบตายเลยเหลอเนี่ย ฮ่าๆๆๆ"
"อือ ใช่คิกๆ แต่ก็ดีนะที่เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นอะ เลยทำให้เรามีเพื่อนคนแรก ตั้งแต่กลับมายังไม่มีเพื่อนเลย งั้นเออ........แปปนึงนะค่ะ เธอยังไม่ได้แนะนำตัวเลยนะ"เออว่ะ ลืมสนิดเลย เฮ้ยคุยมาตั้งนานแล้วพึงนึกออกเหลอเนี่ย
"ขอโทดครับ ผมชื่อแฮ็คครับ ขอโทดนะ ที่ลืมแนะนำตัวไป"
"ไม่เป็นไรค่ะ เจนก็ลืมถามเหมือนกัน แฮะๆ"
"อือ แล้วไงต่อครับ"
"อ๋อ ก็งั้นแฮ็กก็มาเป็นเพื่อนกับเรานะ"
"ด้วยความยินดีครับ"หรือจะเป็นมากกว่านั้นก็ได้นะ เเต่ผมก็พูดได้แค่ในใจเท่านั้นเอง
"แล้วเหตุการณ์เป็นยังไงเหลอ เล่าให้ฟังหน่อยสิ"
"ได้ ตอนนั้นนะ ผมเดินอยู่อ่ะแล้วไม่รู้มีอะไรโดนใจทำให้ผม หันไปหาตรงที่เจนยืนอยู่นะแล้ว........."ผมก็เล่าเรื่องให้เธอฟังแบบถึงพริกถึงขิง แบบจริงปนโม้ไป เเล้ว เจนก็เป็นผู้ฟังที่ดีมากเลย เช่น ถึงเวลาตื่นเต้นเธอก็กลั้นหายใจตาม เวลาโล่งอกเธอก็ถอนหายใจตาม เป็นการเล่าเรื่องที่ผมมีความสุขที่สุดเท่าที่ผมเคยเล่ามาเลยครับ
"นี่รู้ไหม ตอนที่รถมันเข้ามาใกล้....ตอนที่แฮ็คตะโกนบอกเรานั้นแหละ ตอนนั้นเรากลัวมากเลย"แล้วเธอก็ตัวสั่นนิดนึงแล้วก็เล่าต่อ "ตอนนั้น ภาพที่เราเห็นในหัวเป็นใบหน้าของคนๆนึง แฮ็ครู้รึป่าวว่าเป็นใคร"
"อือ.....ไม่รู้อะ"ผมลองพยายามคิดแล้วก็คิดไม่ออกเลยอะ
"คือ...เราเห็นหน้าพ่อแม่ของเรา เหมือนเวลามันผ่านไปช้ามากเลย เราเห็นทุกๆฉากที่เราได้ทำอะไรต่างๆร่วมกับพ่อแม่ของเรา พอเป็นอย่างนั้นแล้ว เราก็คิดว่าเราจะตายไม่ได้ เเต่ด้วยตัวของเราเองคงทำไม่ได้ เลยมีอัศวินม้าขาวมาช่วยจนได้นะ คิกๆ"
"ฮ่าๆๆ อืมนี่แหละมั้งที่เค้าเรียกว่า ช่วงเวลาแห่งความเป็นความตาย เราจะสามารถเห็นภาพคนที่เรารักที่สุด ทั้งชีวิตเรารักใครมากที่สุด คิดถึงมากที่สุด และโหยหาที่สุด เราก็สามารถเห็นคนๆนั้นได้ครับ"ที่พูดไปความจริงผมก็ไปอ่านเจอในเว็บมา เห็นว่ามันน่าสนใจเลยจำไว้ "เฮ้อ....อยากอยู่ในช่วงเวลาอย่างนั้นบ้างจังเลย เผื่อคนที่ผมคิดถึง อาจเป็นเจนก็ได้นะ" ผมแซวเธอ เธอก็ตอบผมหน้าแดงๆว่า
"บ้า"แล้วเราก็หยอกเล่นกันซักแปปแล้วก็เข้าเรื่องใหม่
"แล้วพ่อแม่แฮ็คทำอาชีพอะไรเหลอ"เธอถามสีหน้าซื่อๆ แบบที่อยากจะรู้คำตอบ ผมก็มีสีหน้าเศร้าแวปนึง แล้วก้ตีสีหน้าเฉยๆตามปกติ
"คือ พ่อแม่ของผมเค้าไม่อยู่แล้ว"ผมเห็นเธอเอามือปิดปากแล้วทำสีหน้าสำนึกผิด "ท่านประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ตั้งแต่ผมยังอายุแค่ 9 ขวบครับ"
"ง่า เจนขอโทดนะ เราไม่ได้ตั้งใจถาม คือ...เราไม่รุอะ" เธอทำหน้าสำนึกผิกมาที่เลย แล้วก็ส่งสายตาเป็นคำขอโทษมาให้ผม
"ไม่เป็นไรครับ ผมชินแล้วที่ผมโดนถามอย่างนี้อะ ไม่ต้องคิดมากหลอก"เห็นเธอยิ้มก็จริง เเต่ผมก็ยังคงเห็นสายตาสำนึกผิดอยู่ดี สงสัยยังคิดมากอยู่ "แล้วพ่อแม่เจนทำงานอะไรอะครับ"
"ทำงานในบริษัท ซอฟแวของ in search ค่ะ"
"อ๋อ บริษัท in search นี่เอง" in search in
"ห่ะ.....บริษัท in search นะเหลอครับ"
"ค่ะ ใช่ค่ะ ทำไมเหลอ" ชิบหายละ ก็จะทำไมอีกละ ก็บริษัทนี้อะ ผมพึ่งจะแฮ็คไปเอาเงินมามากโขอยู่เหมือนกัน ดันมาเจอลูกสาวเข้าให้ โชคชะตาเล่นตลกอะไรอยู่ว่ะเนี่ย
"ป่าวครับ ไม่เป็นไร แค่ประหม่าเท่านั้นเอง ที่ได้มานั้งคุยกับลูกสาวของ บริษัทที่ผมใช้ซอฟแวอยู่อะเหะๆๆ" ผมพูดเสียงสั่น พยายามทำให้ไม่เกิดพิรุธมากที่สุด แต่มันคงอาจไม่เป็นอย่างที่ผมคิด
"ไม่ต้องเกร็งก็ได้ ทำตัวตามปกติเถาะ"แล้วเธอก็ทำหน้าประมาณว่า ไม่ได้เป็นคนใหญ่คนโตขนาดนั้นซักหน่อย
"อือ ก็ได้"ผมพออ่านหน้าเธอออก เลยเกาหัวเพื่อให้ดูเป็นธรรมชาติ เล้วก็คิดในใจว่า วันนี้เราคงต้องเอาเงินไปคืนแล้วละสิ จากนั้นผมก็นั่งคุยกับเธอ ต่อไปอีกซักพักแล้วจึงดูเวลา อ้าว....ผมไม่มีนาฬิกานี่น่า
"เออ แล้วตอนนี้กี่โมงแล้วครับ"
"อือ 10 โมงกว่าๆค่ะ"แล้วเธอก็นั่งคิดแปปนึง "เราต้องรีบไปละ มื้อนี้เจนเลี้ยงเองนะค่ะ"แล้วเธอก็เดินไปอีกนิดนึง แล้วก็หยิบปากกามาจดอะไรไม่รู้บนกระดาษ "นี่เบอร์โทรของเจนเองไงก็จะได้โทรคุยกันได้ไง"
"ขอน้อมรับด้วยความเต็มใจครับ"แล้วผมก็หยิบกระดาษของเทอมาเก็บไว้แล้วนำกระดาษของผมมาจดเบอร์ไปให้เช่นกัน "งั้น ไงก็โทรมาหาผมด้วนนะ แล้วผมจะโทรไปหาเองนะ บายครับ"
"บายค่ะ"แล้วเธอก็เดินหันหลังไป แล้วก็หันกลับมาอีกทีโบกมือให้ผม ผมก็โบกมือกลับเช่นกัน แล้วเธอก็ขึ้นรถคันหลูที่จอดอยู่ข้างๆ แล้วรถคันนั้นก็แล่นไปจนลับตา ผมถึงเดินไปที่มอร์เตอร์ไซของผม แล้วก็ตรงดิ่งกลับบ้าน วันนี้ผมรู้สึกสบายใจเป็นพิเศษ ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร หรือที่เค้าบอกว่าพอได้เกือบตายจริงๆแล้วทุกอย่างก็กลายเป็นเพียงเรื่องเล็กไปหมด.......หรืออาจเป็นเพราะ เจนยอมเป็นเพื่อนกับผมเลยทำให้ผมรู้สึกว่า เป็นก้าวแรกที่ผมจะทอดบันไดรักให้เธอกระมั้ง
ความคิดเห็น