ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [S FIC] WONKYU's story

    ลำดับตอนที่ #3 : sf. The Story of Us.

    • อัปเดตล่าสุด 23 ก.ค. 54


    The Story of Us.

    wonkyu.

    Theam Song -The Story Of Us



      

     

                เสียงกริ่งหน้าประตูร้านกาแฟสั่นไหวไปมาอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะค่อยๆ เงียบหายไป พร้อมๆ กับร่างเล็กที่ก้าวเข้าในตัวร้าน รอยยิ้มสุขสว่างทำเอาลูกค้าวัยมหาลัยที่กำลังนั่งดื่มกาแฟยามบ่ายถึงกับนิ่งงัน หญิงวัยกลางคนผู้ดำรงตำแหน่งเจ้าของร้านยิ้มตอบรับ ก่อนจะทักทายด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล

     

                “เธอที่ติอต่อจะทำงานที่ร้านใช่ไหม”

     

                “ครับ...ขอโทษที่มาสาย พอดียุ่งๆ นิดหน่อยนะครับ” เขาตอบพลางก้มหัวขอโทษเล็กน้อย แน่นอนว่าหญิงเจ้าของร้านไม่ได้กล่าวโทษอะไร ซ้ำยังดึงมือบางให้นั่งลงที่หน้าเคาน์เตอร์ชำระเงิน ดวงตาที่ขุ่นมัวไปตามวัยมองลอดผ่านแว่นสายตาตรงไปยังลูกชายคนโตที่เอาแต่ฟุบหน้านอนหลับสบาย ไม่สนใจผู้มาใหม่เลยแม้แต่น้อย

     

                “ตาซีวอน!!!” เธอว่าพลางส่งมือตีลงบนไหล่แน่นเนื้อของลูกชายเสียงดังอั่ก เด็กหนุ่มที่นั่งอยู่ตรงข้ามหลุดเสียงหัวเราะออกมาหน่อยๆ พลางจังหวะเดียวกับที่ชายหนุ่มตัวโตสะดุ้งตื่นจากความฝันเพราะฝ่ามืออรหันต์ของผู้เป็นแม่...

     

                “คะ คร้าบบบบบบ แม่~

     

                “อู้อีกแล้วนะเรา...เสียหน้าแม่จริงๆ” ซีวอนยู่หน้าเมื่อเห็นแม่ต่อว่าเขาต่อหน้าสาวๆ ในร้านอีกตามเคย หากไม่ทันจะได้ป้อสาวทางสายตา ดวงตาคู่คมก็เผอิญสบเข้ากับเจ้าของใบหน้าหวานเสียก่อน... เรียวปากสีแดงอิ่มระบายยิ้มอ่อน พร้อมกับดวงหน้าที่เอียงคอมองเขา...

     

                แม่งโคตรน่ารัก!!!!

     

                “น่ารัก...” บ่นพึมพำเสียงเบา หากก็ดังพอที่คนโดนจ้องจะได้ยิน เด็กหนุ่มแย้มยิ้มจนตาหยี สร้างภวังค์ขั้นสูงสุดเสียจนคนมองแทบคลั่ง!

     

                “ขอบคุณที่ชมเรานะ” แน่ะ! มีขอบคุณที่ชมด้วย ~ น่ารักอะไรแบบนี้!

     

                “อะแฮ่ม! จะมองคยูฮยอนเขาอีกนานไหมจ้ะ พ่อลูกชาย!” คุณนายชเวว่าเสียงเขียวพลางหยิกใบหูพ่อลูกชายไปสักที หากก็เท่านั้น พอซีวอนได้ยินชื่อของคนตรงหน้า ก็สะบัดหูหลุดออกจากฝ่ามือของคุณนายชเว ยืดตัวตรง ตระเตรียมการแนะนำตัวเต็มที่...

     

                “ชื่อ ซีวอน สินะ ยินดีที่ได้รู้จัก เราชื่อ คยูฮยอน จะมาทำงานที่ร้านกาแฟกะบ่ายน่ะ” คนน่ารักว่าพลางส่งยิ้มหวานเป็นการตบท้าย คุณนายชเวมองใบหน้าเคลิบเคลิ้มของลูกชายแล้วก็ได้แต่ส่ายหัว พอเห็นท่าจะหนัก เธอจึงจัดการตบแผ่นหลังกว้างเข้าให้เต็มเหนี่ยว เผื่อจิตใจจะได้อยู่กับเนื้อกับตัวเสียบ้าง

     

                “คยูฮยอน...ตามน้ามาหลังร้านหน่อยสิจ้ะ น้าจะได้สอนงานเธอน่ะ”

     

                “ครับ” ว่าแล้ว คุณแม่คนสวยก็จัดการดึงมือคน(โคตร)น่ารักเดินไปหลังร้านกาแฟ เหลือทิ้งเพียงพ่อหนุ่มตัวโตที่ยังเพ้อไม่หาย

     

                ตั้งแต่วันนี้ไป... ชเว ซีวอน คนนี้ จะช่วยคุณแม่ทำงานอย่างเต็มที่แล้วล่ะ ไม่อู้หลับแน่นอน เดี๋ยวมีคนมาจีบคนน่ารักแซงหน้า ซวยรับประทานหัวแน่ๆ!

     

     

    เรื่องก็เป็นแบบนี้แหละครับ...คยูฮยอน(ของผม) เข้ามาทำงานที่ร้านกาแฟของแม่ผมวันนี้เป็นวันที่สามแล้ว เขามักชวนผมคุยโน้นคุยนี้ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องการเรียน ที่ดูเหมือมผมจะคุยกับเขาไม่ค่อยรู้เรื่องเท่าไหร่

     

    แน่สิ! คยูฮยอนน่ะ เรียนบริหาร ส่วนผมเรียนวิศวะ เข้ากันดีไหมล่ะครับ? -.-

     

    “นี่...ซีวอน มีพี่น้องไหม?” จู่ๆ คนน่ารักก็ถามผม พลางเจ้าตัวก็ยกแขนขึ้นค้ำคาง จ้องผมที่นั่งอยู่อีกด้านหนึ่งของเคาน์เตอร์ โอ้ย~ อย่าจ้องแบบนี้ได้ไหมครับ... เวลาผมมองตาโตๆ ของเขาทีไร ใจมันเตลิดทุกที...

     

    “มีสิ มีน้องสาวคนหนึ่ง ตอนนี้เรียนอยู่โรงเรียนประจำน่ะ แล้วคยูฮยอนล่ะครับ” พอผมถามเขากลับ คยูฮยอนก็ยิ้ม(อีกแล้ว) ดีนะครับ...ช่วงนี้เป็นช่วงที่ลูกค้าไม่มากนัก ถ้าเกิดมีคนเห็นเขาแจกยิ้มเยอะแบบนี้ คงได้หลงเสน่ห์ชนิดไม่เป็นอันทำอะไรแน่ๆ อีกอย่าง ผมอยากให้คยูฮยอนยิ้มแบบนี้ให้ผมคนเดียวหนิครับ ~

     

    “เรามีพี่ชายฝาแฝดน่ะ อ้อ...เราลืมบอกซีวอนไปว่าเราเป็นลูกครึ่งจีนน่ะ แม่เราเป็นคนจีน ส่วนพ่อเราเป็นคนเกาหลี เราเพิ่งย้ายมาเรียนทีนี่ไม่กี่เดือนนี้เอง”

     

    พี่ชายฝาแฝด? แล้วจะน่ารักเหมือนกันไหมเนี้ย?

     

    “ชักอยากเห็นหน้าพี่ชายฝาแฝดของคยูฮยอนแล้วสิ”

     

    “อยากเห็นทำไม ก็หน้าเหมือนเรานี่แหละ” คยูฮยอนตอบพลางยิ้มขำ ผมก็ถามแปลกๆ ฝาแฝดก็ต้องหน้าเหมือนกันอยู่แล้ว... แต่จะว่าอย่างนั้นเถอะ ฝาแฝดก็คนละคนนี่ครับ... จะไปเหมือนกันทุกอย่าง ก็คงเป็นไปไม่ได้

     

    “ต้องมีสักจุดที่ต่างกันสิ ใช่ไหมครับ” ว่าพลางผมก็เลื่อนมือชี้ที่ดวงตาของเขา ไล่ลงมาที่จมูก แตะลงที่ริมฝีปาก คยูฮยอนจ้องหน้าผมนิ่งๆ พลางพวงแก้มขาวๆ ก็ค่อยๆ ระเรื่อสีขึ้น

     

    RRRRRRR

     

    เสียงเรียกเข้ามือถือของคยูฮยอนดังขึ้น เราทั้งสองถึงได้ผละออกจากกัน คยูฮยอนหยิบโทรศัพท์จากกระเป๋ากางเกงพลางเปิดฝาพับรับสายด้วยน้ำเสียงกระตือรือร้น อดไม่ได้ที่ผมจะคิดว่าใครเป็นเจ้าของสายที่ว่า...

     

    คยูฮยอนคุยกับปลายสายด้วยภาษาจีน พลางระบายยิ้มไม่ปดปิด เมื่อเจ้าตัววางสายแล้ว ก็หันมามองหน้าผมพลางกระพริบตาปริบๆ

     

    อย่ามองผมแบบนี้ ขอร้อง~ น่ารักไม่ไหวแล้วเถอะ!

     

    “กุยเซียนจะมาหาเราที่ร้าน...ซีวอนคงได้เจอพี่ชายฝาแฝดเราแล้วล่ะ” คยูฮยอนบอกผมแบบนั้น อ่า... ให้ตายเถอะ ถ้ามีเกิดพี่ชายฝาแฝดคยูฮยอนมาที่ร้านจริงๆ ผมไม่ต้องแอดมิดเข้าไอซียูเลยหรอครับ คนน้องน่ารักขนาดนี้ คนพี่มาคงคูณกำลังร้อยอ่ะครับ ตายๆๆๆ งานนี้ ชเว ซีวอน ตายแน่~ TT~TT

     

    “คยูฮยอนจ้ะ มาช่วยน้าหลังร้านหน่อยเร็ว...” เสียงคุณแม่เรียกคยูฮยอนที่กำลังจะกลับมานั่งที่เคาน์เตอร์อีกครั้งหลังจากเขาเดินออกไปคุยโทรศัพท์ใกล้ๆ กับประตูร้าน คนน่ารักเบิกตาโพลง พลางวิ่งฉิวไปหลังร้านทันทีที่ได้ยินเสียงของแม่ผม ผมมองตามแผ่นหลังเล็กๆ นั้นแล้วก็ได้แต่ถอนหายใจ...

     

    แม่คร้าบบบบ~ แม่ได้ลูกสะใภ้ดีแสนดีก็งานนี้แหละ ~

     

                คยูฮยอนหายไปหลังร้านราวๆ ครึ่งชั่วโมงจนผมที่อยู่หน้าร้าน แอบงีบหลับไปพอควร จนเมื่อกระดิ่งหน้าร้านดังกรุ้งกริ้งเป็นสัญญาณว่ามีลูกค้าเข้าร้าน ผมซึ่งตอนนี้ ขยันขันแข็งเป็นลูกที่ดี จึงยืดตัวตรงกะจะกล่าวทักทายลูกค้าเต็มที่ ทว่า...

     

                ผู้ชายที่เดินเข้ามาในร้าน...พร้อมๆ กับผู้หญิงหุ่นนางแบบ หน้าโคตรจะเหมือนคนน่ารักของผมเลยเถอะ!!!

     

                “คยูฮยอนล่ะ” เขาถามผมเสียงเข้ม สิ่งที่ผมตระหนักได้ในเวลานี้คือ คนๆ นี้ แน่นอนว่าต้องเป็นพี่ชายฝาแฝดของคยูฮยอนแน่ๆ ไอ้ทีแรก...ผมก็คิดว่าพวกเขาจะเหมือนกับราวกับแกะ แต่ที่ไหนได้...ความเหมือนที่ว่า ตั้งอยู่บนความแตกต่างชัดๆ!!

     

                พี่ชายคยูฮยอน ตัวสูงพอๆ กับผมนะ แตกต่างจากคยูฮยอนที่ตัวเท่าไหล่ผมเท่านั้น คยูฮยอนมีเส้นผมสีน้ำตาลสว่าง ส่วนพี่ชายเขาผมสีดำสนิทแถมยังตัดสั้นเปิดหน้าผากอีกต่างหาก คยูฮยอนมีแววตาที่มองเท่าไรก็ไม่เบื่อเพราะตากลมๆ น่ะมันหวานเสียจนนึกละเมอ แต่พี่ชายเขาแค่จะมองหน้ายังขนลุกเลยครับ!!! มาดมาเฟียสุดๆ ส่วนสาวที่ยืนแนบกาย ดูก็รู้ว่าแฟนแหงๆ -.-

     

                “กูถามว่าคยูฮยอนอยู่ไหน มึงได้ยินกูไหม?” นั่นไงครับ ขึ้นกูมึง แตกต่างกันสุดขั้ว!!!

     

                “กุยเซียนนา!!!” หญิงสาวที่ยืนข้างๆ ชายหนุ่มตรงหน้าผมสะกิดแขนแฟนของเธอพลางก้มหัวขอโทษผมเล็กน้อย

     

                “ขอโทษด้วยนะคะ เขาเป็นคนใจร้อนน่ะ” เธอพูดกับผมด้วยภาษาเกาหลีสำเนียงจีน ดูท่า...เธอจะไม่ใช่คนเกาหลี... ผมยิ้มรับพลางส่ายหน้าไม่ถือสา

     

                “ไม่เป็นไรครับ อ้อ...คยูฮยอนเขาอยู่หลังร้าน...”

     

                “เฮีย! เจ๊วิค!!!” จู่ๆ เสียงหวานก็ดังลั่นมาแต่ไกลก่อนร่างเล็กของคยูฮยอนจะกระโดดกอดพี่ชายฝาแฝดของตัวเอง ก่อนจะเปลี่ยนไปโผกอดหญิงสาวข้างๆ พี่ชายตัวเอง คยูฮยอนในเวลานี้ โคตรจะน่ารักอ่ะครับ... แค่ตอนยิ้มให้ผมก็โลกหยุดหมุนพอแล้ว แต่พออยู่กับพี่ชายเท่านั้นแหละครับ ออร่ากระจ่างมาก! ให้ตาย~

     

                “มึงมองน้องกูทำหอกอะไร!!! อยากแดกส้นตีนหรอ?” ไม่วายโดนพี่ชายฝาแฝดของคยูฮยอนแยกเขี้ยวใส่ ผมทำหน้างงๆ ก่อนคนน่ารักจะออกโรงช่วยผม คยูฮยอนตีแขนพี่ชายตัวเองแรงๆ พลางเดินอ้อมเคาน์เตอร์มายืนข้างๆ ผม

     

                ถึงผมอยากอยู่ใกล้คยูฮยอนมากขนาดไหน...แต่ตอนนี้ พี่คุณจะฆ่าผมแล้วนะ -..-

     

                “เฮีย! คนนี้น่ะ ลูกชายเจ้าของร้านกาแฟที่ผมทำงานอยู่นะ ไปว่าเขาแบบนั้น ผมโดนไล่ออกทำไง” คยูฮยอนส่งเสียงแว้ดๆ ใส่พี่ชาย แน่นอนว่ากุยเซียนทำสีหน้าไม่ไว้วางใจผม ก่อนจะเบนสายตากลับไปจ้องมองใบหน้าของน้องชายตัวเอง

     

                “ไล่ออกก็ดี จะได้ไม่ต้องโดนมองจนแทบทะลุแบบนี้”

     

                “เจ๊วิค...เฮียไปกินรังแตนมาป่ะ โมโหอยู่ได้...” คยูฮยอนหันไปขอความเห็นจากแฟนพี่ชายตัวเอง เธอยิ้มขำเล็กน้อย ผมที่ยืนอยู่ตรงนั้นรู้สึกเหมือนจะเป็นส่วนเกิน ถึงได้กะว่าจะเดินกลับไปหลังร้าน รักษามารยาท มาฟังคนในครอบครัวเขาคุยกัน ไม่ค่อยจะเข้าท่าเท่าไร

     

                “ซีวอนไปไหน...อยู่กับเรานี่แหละ” น่าน น่านไง! คนน่ารักผู้ไม่รู้เรื่องอะไร หาเรื่องให้ผมงานงอกซะงั้น ดวงตาที่ไม่ค่อยต่างจากคยูฮยอน จ้องผมเขม็งพลางตบมือลงบนเคาน์เตอร์เสียงดังปัง

     

                “คยูฮยอน...” เขาคำรามชื่อคยูฮยอนเสียงเข้ม หากเจ้าของชื่อกลับเอียงคอมองหน้าพี่ชาย กระพริบตาปริบ แถวบ้านผม เค้าเรียกว่า...ลอยหน้าลอยตาครับ ทำแบบนี้

     

                “อะไร... ทำไม? เฮียเป็นพี่ผมแค่หกนาทีอย่าวางอำนาจมากได้ป่ะ”

     

                “เฮียไม่ชอบคนเจ้าชู้ที่ชอบมองคนอื่นจนตาวาว พวกผู้ชายแบบนี้ มันเหี้...”

     

                “พูดอย่างกับตัวเองไม่เคยเจ้าชู้ ใช่ไหมครับ เจ๊วิค” ผมรู้นะครับว่ากุยเซียนจะพูดอะไร โธ่~ ผู้ชายที่ชอบมองคนน่ารักไม่ได้เจ้าชู้เสมอไปนะครับ...

     

                คยูฮยอนตอกหน้าพี่ชายเสียจนเจ้าตัวนิ่งอึ้งไปเลย แน่นอนว่าแฟนสาวของเขาก็ร่วมผสมโรงด้วย

     

                “กว่าจะปราบได้ก็เหนื่อยแทบแย่แน่ะ...กุยเซียนทีหลังจะพูดอะไรน่ะ ดูตัวเองก่อนนะค่ะ...” เธอว่ากลั้วหัวเราะ นั่นทำให้พี่ชายของคยูฮยอนดูเหมือนจะเพิ่มรังสีอำมหิตเป็นสองเท่าตัว

     

                ผมซึ่งไม่ไม่บทพูดเลย กลับโดนรังสีเข้าให้เต็มๆ

     

                “เฮีย เจ๊วิค...นี่ ซีวอน อย่างที่บอกว่าเป็นลูกชายเจ้าของร้านกาแฟที่ผมกำลังทำงานอยู่” ผมส่งยิ้มให้กับบุคคลทั้งสองที่ยืนอยู่ตรงข้ามผม ทว่า...ยิ้มได้ไม่เท่าไหร่ก็หุบยิ้มเพราะสายตาพี่ชายคยูฮยอนเพ่งผมเสียจนนึกเสียวสันหลัง

     

                “ซีวอน... นี่พี่ชายฝาแฝดเรา ชื่อ กุยเซียน แล้วก็ เจ๊วิคตอเรีย ว่าที่พี่สะใภ้เราน่ะ” วิคตอเรียระบายยิ้มเขิน ส่วนกุยเซียนน่ะหรอครับ... จ้องผมจนแทบจะฉีกร่างกันอยู่แล้ว ~

     

                “เฮียคิดว่าจะอยู่เกาหลีอีกสักสองเดือนแล้วค่อยกลับจีนดีกว่า...” จู่ๆ เขาก็เปรยขึ้นมาซะเฉยๆ คยูฮยอนหรี่ตามองพี่ชายตัวเองเล็กน้อย ให้ผมเดานะ... อยู่กันท่าผมชัวร์!!!

     

                “อ้าว...อยู่ทำไม ผมอยู่ได้ ไม่เห็นต้องมีเฮียอยู่ด้วยเลย...” คนน่ารักของผมโพล่งพูดขึ้น ผมแอบยิ้มในความตรงไปตรงมาของเขา กุยเซียนขมวดคิ้วตึงพลางตอบกลับเสียงดังฟังชัด

     

                “จะอยู่...หวงน้องเว้ย!!!

     

                “เสียมารยาทอ่ะเฮีย -3-” เป็นอีกครั้งที่คยูฮยอนตีแขนพี่ชายตัวเองป้าบใหญ่ กุยเซียนลูบแขนตัวเองที่เพิ่งถูกน้องชายตีเข้าให้ พลางส่งสายตาเชือดเฉือนไม่หยุดหย่อน

     

                “ท่าทางจะอยู่แล้ววุ่นวาย พี่ว่าพี่พากุยเซียนกลับดีกว่า...”

     

                “ดีเลย เจ๊วิค เอาเฮียกลับไปเลย...” สองสาว(?) เขาเออออกันสองคน แขนข้างหนึ่งโดนวิคตอเรียลากออกจากเคาน์เตอร์ ส่วนคยูฮยอนก็รีบปรี่เข้าไปดุนหลังพี่ชายให้ออกจากนอกร้านเสีย หากก่อนที่ทั้งสามจะแยกกัน กุยเซียนก็ดึงคนน่ารักของผมเข้าไปกอดแล้วก็ แล้วก็... หอมแก้ม ~

     

                ใช่ครับ ไม่พอ...เขายังอุตส่าห์หันมาเลิกคิ้วใส่ผมอีก

     

                อย่าให้ถึงตาผมนะ...ไม่ใช่แค่หอมแก้มนะ ขอบอก !!!

     

                “ถ้ามึงคิดจะจีบน้องกู ข้ามศพกูไปก่อนล่ะกัน!” เขาตะโกนบอกผมเสียงดัง จากที่คยูฮยอนจะส่งยิ้มให้พี่ชายตัวเอง ถึงได้เปลี่ยนเป็นตีแขนเข้าให้ตามสเต็ป...

     

                คยูฮยอนเดินกลับเข้ามาร้านด้วยใบหน้าบึ้งตึง ร่างเล็กๆ ทิ้งตัวนั่งลงที่เก้าอี้หน้าเคาน์เตอร์ ผมลอบมองใบหน้าหวานๆ นั่นอยู่เป็นพัก จนเจ้าตัวเงยหน้าขึ้นมองผมพลางกระพริบตาจ้องหน้าผมกลับซะอย่างนั้น

     

                “ซีวอนจะจีบเราจริงๆ หรอ?” พระผู้เป็นเจ้า... คยูฮยอนถามผมแบบนี้ จะให้ผมตอบแบบไหนล่ะ...

     

                “อืม แล้วคยูฮยอนจะว่าผมไหม...ถ้าผมจะจีบคยูฮยอนจริงๆ น่ะ” ชเว ซีวอน คนนี้ชายชาตรีอยู่แล้วครับ จะจีบเขาก็บอกกันตรงๆ แบบนี้แหละ... สิ่งที่รับกลับมาคือ ปากอิ่มแดงระบายยิ้มเล็กน้อย พลางเจ้าตัวก็แสร้งมองไปทางอื่น... เขินผมล่ะสิ~

     

                “จะจีบก็จีบดิ ใครว่า...”

     

                พี่ชายฝาแฝดของคุณไง ที่จ้องจะฆ่าผมอยู่รอมร่อน่ะ !

     

               

                วันนี้กุยเซียนเข้ามาในร้านกาแฟโดยปราศจากสาวสวยอย่างเมื่อวันก่อน เขานั่งลงที่หน้าเคาน์เตอร์ พลางดึงร่างของน้องชายให้นั่งลงบนหน้าตักตัวเอง ผมซึ่งยืนมองอยู่ก็ถึงกับอึ้งไปเล็กๆ ไอ้คุณว่าที่พี่เขยครับ...มองหน้าผมแบบนี้ เอามีดมาแทงกันเลยดีกว่า... สายตาแบบนี้ โคตรอาฆาต!

     

                “เฮีย...ยุ่งจังเลย...ให้ตาย” คยูฮยอนบ่นอุบ กระนั้นก็ยังยอมนั่งบนหน้าตักพี่ชายตัวเองอยู่ดี

               

    “เดี๋ยวนี้หัดดื้อกับเฮียแล้วหรอ?”

     

    “เปล่าดื้อ แต่เฮียวางอำนาจต่างหาก!” ผมชักสงสัยแล้วสิ ว่านี่มันฟิควอนคยูหรือ2คยูกันแน่ -..-

     

    “คยูฮยอนจ้ะ มาชวนน้าหน่อยเร็ว” แม่ผมอีกตามเคยที่เรียกคยูฮยอนให้เข้าไปที่หลังร้าน เวลานี้กุยเซียนถึงได้วางท่าส่งสายตาโคตรของโคตรน่ากลัวใส่ผมที่จนได้... ผมกลืนน้ำลายลงคอด้วยความยากลำบาก แต่อย่าหาว่าอย่างนั้นอย่างนี้เลยครับ ผมใช้ความใจดีสู้เสือ ถึงได้ยืนตัวตรงเคารพธงชาติไม่กระดิกตัวไปไหนเลยสักก้าว

     

    “มึงคิดจะจีบน้องกูใช่ไหม”

     

    “ครับ” ผมตอบไปแบบแมนๆ กุยเซียนพยักหน้ารับพลางกอดอกหรี่ตามองผมเหมือนกับแสกนหาไวรัสยังไงยังงั้น

     

    “มึงชอบคยูฮยอนเพราะอะไร...”

     

    “ก็...ไม่มีเหตุผลมากมายหรอกครับ...ผมแค่ชอบที่คยูฮยอนเป็นคยูฮยอน” เหมือนคำตอบของผมสร้างความพึงพอใจให้เขาเพียงเล็กน้อย กุยเซียนถึงได้เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยพลางพรูลมหายใจเฮือกใหญ่

     

    “เหตุผลใช้ได้...กูเคยเจอแต่ไอ้เหตุผลที่น้องกูน่ารักอย่างนั้นอย่างนี้...มึงก็ยังพอมีหัวคิดล่ะนะ”

     

    ตกลงเขาชมผมหรือด่าผมครับ...หาคำตอบให้ผมที = =

     

    เราทั้งคู่เงียบไปสักพัก คยูฮยอนก็เดินออกมาจากหลังร้านพร้อมส่งยิ้มให้ผมตามปกติ เจ้าตัวเดินไปเสิร์ฟเค้กในลูกค้าก่อนจะเดินกลับมานั่งมองบรรยากาศแปลกๆ ที่จู่ๆ ก็ปะทุขึ้นซะอย่างนั้น

     

    “วันนี้ผมต้องอยู่เรียนสูตรเค้กจากคุณแม่ของซีวอน เฮียกลับก่อนเลยก็ได้นะ เดี๋ยวให้ซีวอนไปส่งก็ได้” กุยเซียนขมวดคิ้วตึง พลางตวัดตาดุๆ มองผมซึ่งยังไม่ทันจะได้ขยับตัวเลยสักมิล...

     

    “ไม่กลับ จะอยู่เฝ้า...”

     

     

    แล้วผลก็เป็นดังที่เห็น...

     

                ราวๆ สามทุ่มผมก็โดนกุยเซียนส่งสายตาอำมหิตอีกรอบ หลังจากเรียนทำเค้กเสร็จคยูฮยอนก็เหนื่อยถึงขั้นเลื้อยลงไปหนุนนอนตักพี่ชายฝาแฝดของตัวเองแล้วเผลอหลับไปเสียดื้อๆ สองพี่สองนั่งอยู่ที่โซฟาขนาดเล็กในมุมสุดของตัวร้าน ส่วนผมซึ่งกำลังใช้ไม้ม๊อบถูกพื้นทำความสะอาดก็ได้แต่นึกเสียวสันหลังเป็นพักๆ จะเล่นอะไรผมอีกครับ ไอ้คุณว่าที่พี่เขย ~

     

                “คยูฮยอนเคยเกือบตายมาสองครั้ง...ฉะนั้นมันคงไม่ผิดที่ฉันไม่อยากให้ใครมาดูแลน้องนอกจากฉันคนเดียว” ผมชะงักมือที่จับไม้ถูพื้นแล้วหันหลังมามองใบหน้านิ่งเฉยของเขา ฝ่ามือคู่นั้นลูบกลุ่มผมสีน้ำตาลของคยูฮยอนพลางเจ้าตัวก็ค่อยๆ เล่าในสิ่งที่ผมเห็นว่า...บางทีถ้าเขาไม่ไว้ใจ เขาไม่มีทางจะพูดกับผมแน่...

     

                “แค่ตอนเกิด คยูฮยอนก็แทบไม่รอดเพราะร่างกายไม่แข็งแรงแล้ว แค่นี้นายก็พอจะรู้นะว่าสาเหตุที่ฉันหวงน้อง...เพราะคยูฮยอนร่างกายไม่แข็งแรงมาตั้งแต่เด็ก...”

     

                “แล้วครั้งที่สองล่ะครับ” ใจกล้ามากครับ ที่ผมกล้าถามเขา กุยเซียนไม่มองหน้ามองระหว่างพูด เอาแต่มองใบหน้ายามหลับใหลของน้องชายเพียงอย่างเดียว

     

                “วันเกิดของพวกเราเมื่อสองปีก่อน คยูฮยอนโรคหอบกำเริบถึงขั้นต้องเข้าไอซียู...ปัจจุบันคยูฮยอนก็ยังไม่หายดี...แต่ไอ้ตัวเล็กมันดื้อ ฉันถึงได้ยอมปล่อยให้คยูฮยอนมาที่เกาหลีเพื่อมาเรียนมหาลัยที่นี่และทำงานที่ร้านนี้ ทั้งๆ ไม่ยักจะจำเป็นตรงไหน”

               

                “ผมคิดว่าบางที... ผมก็อาจดูแลคยูฮยอนได้ดีไม่น้อยไปกว่าคุณเหมือนกัน...”

     

                วันนั้นเป็นวันที่ผมกับกุยเซียนคุยกันมากประโยคที่สุด... หลังจากวันนั้น ดูเหมือนเขาจะขยันมาเฝ้าคยูฮยอนน้อยลง หรืออาจตั้งใจเปิดทางให้ผมก็ไม่รู้นะครับ สองเดือนผ่านไป กุยเซียนก็กลับจีนไปตามที่ตัวเองเคยลั่นวาจาไว้ แน่นอนว่าถึงตอนนี้แล้ว ผมเลยเดินหน้าจีบคนน่ารักของผมชนิดไม่ต้องเกรงกลัวอำนาจเบื้องบน...

     

                คยูฮยอนเดินเข้ามาร้านพร้อมสะพายกระเป๋าใบเล็กๆ ลักษณะเหมือนอูคุเรเร่ เขาหันมายิ้มให้ผมเล็กน้อยพลางวางกระเป๋าที่ว่าลงที่หน้าเคาน์เตอร์

     

                “ซีวอนเล่นอูคุเป็นไหม?” เขาถามผมพลางระบายยิ้มเต็มมองแก้ม ผมซึ่งเล่นกีต้าร์เป็นอยู่แล้วถึงได้พยักหน้ารับ เพราะเรื่องเทคนิคการเล่นเจ้าเครื่องดนตรีสองชิ้นนี้ ถึงจะมีจุดต่างกันบ้าง แต่ก็ไม่ได้มากถึงขั้นเล่นกันคนละแบบ...

     

                “เป็น...ทำไมหรอ? จะให้ผมสอนหรอ?”

     

                “เราเล่นเป็นอยู่แล้ว แค่ถามเฉยๆ น่ะ แล้วก็อยากให้ฟังเท่านั้นว่ามันดีพอรึยัง...” ว่าแล้วเจ้าตัวก็หยิบอูคุเรเร่ออกจากกระเป๋า จับเครื่องดนตรีสีไม้เข้มให้ถนัดมือ พลางเจ้าตัวก็ค่อยๆ วางปรายนิ้วลงบนสายแล้วบรรเลงเพลงออกมาโดยปราศจากท่าทีเคอะเขิน...

     

    I used to think that one day we'd tell the story of us,
    And how we met
    And how the sparks flew instantly
    And people would say they're the lucky ones
    ฉันเคยคิดว่าสักวันเราจะได้พูดคุยกันเกี่ยวกับเรื่องราวของเรา
    ว่าเราเจอกันได้ไง
    และทำไมถึงปิ๊งคุณทันทีที่เห็น
    และผู้คนก็บอกว่าเราเป็นคู่ที่โชคดี
    I used to know my place was the spot next to you,
    Now I'm searching the room for an empty seat
    Cause lately I don't even know what page you're on
    ฉันเคยรู้ว่า ที่ของฉันแค่อยู่ถัดไปจากคุณ
    และตอนนี้ ฉันก็หาห้องที่ยังมีที่นั่งว่างอยู่
    เพราะเร็วๆนี้ ฉันไม่รู้ว่าคุณอยู่ที่หน้าไหน

    Oh, a simple complication, Miscommunications lead to far love,
    So many things I wish that you knew
    So many walls that I can't break through
    โอ ความยุ่งยากอย่างชัดเจน การสื่อสารที่ผิดพลาด นำไปสู่รักเกินเอื้อม
    หลายสิ่งหลายอย่าง ที่ฉันหวังว่าคุณรู้
    กำแพงที่ฉันไม่สามารถข้ามผ่านมันไปได้
    Now I'm standing alone in a crowded room
    And you're not speaking
    And I'm dying to know
    Is it killing you
    Like it's killing me
    And I don't know what to say since a twist of fate, when it all broke down
    And the story of us looks a lot like a tragedy now
    ตอนนี้ฉันยืนอยู่อย่างโดดเดี่ยวในห้องที่เต็มไปด้วยผู้คน
    และคุณก็ไม่พูดไม่จา
    และฉันก็วิตกมากที่จะรู้
    มันจะฆ่าคุณ
    เหมือนกับที่มันจะฆ่าฉันไหมนะ
    และฉันไม่รู้ว่าจะพูดอะไรตั้งแต่โชคชะตามันบิดเบี้ยวในตอนที่ทุกอย่างมันพังทลายลง
    และตอนนี้เรื่องราวของเรามันชั่งเหมือนกับโศกนาฏกรรม

     

     

                “เพราะไหม?” คยูฮยอนถามผมทันทีที่เล่นจบเพลง ผมซึ่งเข้าสู่ห้วงภวังค์ไปเป็นที่เรียบร้อยถึงกับสะดุ้งเพราะแรงกระตุกแขนเสื้อ เลยเผลอจ้องใบหน้าหวานๆ ที่ตวัดตาผมเหมือนต่อว่ากันกลายๆ ที่ไม่ตอบคำถามเจ้าตัวสักที

     

                “เพราะ...เพราะมากเลย” แทนทีคยูฮยอนจะยิ้ม ดันทำหน้ามุ่ยซะอย่างนั้น อ้าว... ผมชักตามอารมณ์เขาไม่ทันแล้วนะครับ - -

     

                “เราเล่นผิดตั้งเยอะ...เพราะได้ไง” น่าน...โดนเหวี่ยงจนได้ เมื่อกี้ทำหน้าเหมือนจะดุผมถ้าไม่ยอมชม แต่พอชมเจ้าตัวเล่นไม่เชื่อกันเสียดื้อๆ

     

                “เพราะจริงๆ ไม่เชื่อกันซะงั้นเลย”

     

                “ซีวอนไม่ตั้งใจฟัง” ไม่ตั้งใจที่ไหนล่ะครับ ผมจ้องหน้าเขาจนแทบจำทุกรายละเอียดได้แล้วมั้งครับ...

     

                “ตั้งใจฟังสิ...”

     

                “แต่เราก็เล่นผิด”

     

                “งั้นหลังร้านปิด เดี๋ยวผมสอนเล่นให้เก่งไปเลยเอาไหม?” ผมซึ่งจนปัญญาจะเถียงกับคยูฮยอน เลยโพล่งความคิดดนสดไปซะ วินาทีแรกคนน่ารักขมวดคิ้วมองผมเล็กน้อย ทว่าวิต่อมาเจ้าตัวก็พยักหน้ารับรัวๆ ประจวบเหมาะกับที่แม่ผมเรียกคยูฮยอนไปเรียนทำเค้กที่หลังร้านตามเคย

     

     

                ถึงว่าล่ะทำไม พี่ชายฝาแฝดของคยูฮยอนถึงได้บอกว่า คยูฮยอนน่ะดื้อ...

     

                ผมสอนเขาเล่น แต่เขาไม่ยอมรับคำสอนของผมเลยอ่ะครับ!!!!

     

                ชั่วโมงกว่าแล้วที่เรานั่งโต้เถียงเกี่ยวกับอูคุเรเร่เจ้าปัญหา จนกระทั่งผมถอดใจยอมแพ้ ตามใจคนน่ารักชนิดแลกแจกแถม... ทุกอย่างจบลงที่เรานั่งอยู่ที่เคาน์เตอร์ที่ประจำ แต่วันนี้ คยูฮยอนเป็นฝ่ายย้ายมานั่งข้างๆ ผมเองนะ ไม่ได้นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามตามปกติ

     

                “กุยเซียนเป็นคนซื้ออูคุเรเร่ให้เราในเมื่อวันเกิดเมื่อสองปีที่แล้ว” คยูฮยอนพูดขึ้นพลางหยิบอูคุลูกรักขึ้นมาลูบแล้วลูบอีก มองมันเหมือนเป็นสิ่งมีชีวิตที่ต้องการให้เจ้าของดูแลอย่างถึงที่สุด ผมนึกทวนคำพูดของคยูฮยอนพลางนึกไปถึงคำพูดของพี่ชายเขาขึ้นมา

     

                “สองปีที่แล้ว...งั้นหรอ?”

     

                “อื้ม...แต่เราไม่ได้ซื้อของขวัญให้กุยเซียนหรอก...เพราะตอนนั้นเราอยู่ห้องไอซียู” คยูฮยอนเล่าไปก็เริ่มดีดสายอูคุเล่นไปพลาง เพราะอย่างนี้สินะ คยูฮยอนถึงได้รักเจ้าอูคุเรเร่ตัวนี้นัก...

     

                ผมนั่งมองเสี้ยวหน้าของคยูฮยอนแล้วก็เหมือนอะไรบางอย่างมันสั่งให้ผมหมุนเก้าอี้ที่คยูฮยอนนั่งอยู่ให้หันมาเผชิญหน้ากับผมตรงๆ ดวงตาคู่โตเบิกโพลงขึ้นเล็กน้อย พวงแก้มระบายสีแดงจัดขึ้นฉับพลัน

     

                “จะเป็นอะไรไหม? ถ้าผมอยากดูแลคุณจริงๆ ดูแลในแบบที่คนรักเค้าทำกันน่ะ”

     

                “.......” คยูฮยอนไม่ตอบผม มีเพียงรอยยิ้มที่ประดับอยู่ที่ริมฝีปากอิ่ม ผมขยับหน้าข้าไปใกล้พลางแต้มจูบเบาๆ ลงบนกลีบปากนั่น เรียวหน้าเล็กถูกฝ่ามือของผมประคองไว้ไม่ปล่อย เสียงอู้อี้จากลำคอเป็นสัญญาณให้ผมเข้าใจว่า... คนน่ารักตอบรับผมกลับด้วยเกลียวลิ้นที่สอดเข้ามาอย่างกล้าๆ กลัวๆ เช่นกัน...

     

                “เราเป็นแฟนซีวอนแล้วนะ ^^

     

     

                คนน่ารักของผม ~ >.<

     

               

    บทส่งท้าย

     

     

                “ห่าเอ้ย! รายงานกูแม่งทุกอย่าง แม้แต่เรื่อง... ชิบหาย!!! ไอ่ควาย” กุยเซียนกรอกเสียงลงสายโทรศัพท์ทางไกลของว่าที่น้องเขยที่โทร. มารายงานความเคลื่อนไหวทุกอย่างที่เกิดขึ้น

     

                เขากำลังหัวเสียเพราะเรื่องที่ซีวอนรายงาน โคตรจะน่าโมโห!

     

                “คยูฮยอนเหนื่อยแล้วก็หลับไปแล้วครับ ผมสาบานได้ว่าครั้งหน้าหรือครั้งไหนก็จะไม่ทำให้คยูฮยอนโรคหอบกำเริบแน่~

     

                เข้าใจหัวอกคนเป็นพี่ไหมครับ ว่าซีวอนโทร.มารายงานว่ามันงาบน้องผมไปแล้ว!!!

     

     

                ไอ้เวร - -*

     

     

     

                End* 
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×