ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [SF.PROJECT] Evil's Story. : WONKYU

    ลำดับตอนที่ #20 : [SF] Fantastic baby. | HBD Choi Siwon | 100%

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.24K
      3
      16 พ.ค. 55

     Fantastic Baby.

     


    music : หน้าที่ของหัวใจ (ชิน)

    และก้อนเนื้อที่เรียกว่าหัวใจ

    หน้าที่ตอนนี้เอาไว้ใช้ก็คือรักเธอ...

    เรื่องของเรา ปล่อยให้เป็นเรื่องของหัวใจ

    ความรักต่อไปจากนี้

    อยากเพียงให้ใจที่มีถูกใช้กับเธอทั้งใจ

    ทุกคืนวัน ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของหัวใจได้รักเธอ

           ชเว ซีวอนไม่เคยคิดจะไว้ใจใคร...ก็อย่างที่รู้ๆ กันอยู่ คนในองค์กรที่เป้าหมายมีเพียงสิ่งเดียวคือการฆ่า...ฆ่าหนึ่งชีวิตที่องค์กรต้องการกำจัด...ไอ้การจะเปิดใจไว้ใจใครง่ายๆ มันเป็นเรื่องน่าตลกสิ้นดี...ทุกวันนี้ เวลาที่กำลังดำเนินไปล้วนอยู่บนความไม่แน่นอน...วันหนึ่งนักฆ่าอย่างเขาอาจกลายเป็นเหยื่อก็เป็นได้ ใครจะไปรู้...

                องค์กรมืดที่ไม่มีชื่อเรียก หากแต่เป็นอันรู้ดีในหมู่นักฆ่า...องค์กรที่รับคำสั่งจากเบื้องบน เบื้องบนที่ไม่รู้ว่าเป็นใคร บอสใหญ่ที่ไม่เคยเปิดเผยตัว หรือแม้กระทั่งนักฆ่าที่ใช้ชีวิตประหนึ่งบุคคลทั่วไปทั้งที่แท้จริงแล้วพวกเขาซ่อนมือที่เปรอะเลือดมาแล้วนักต่อนัก...

                ชเว ซีวอนคือหนึ่งในนั้น...เขาไม่รู้ว่าตัวเองมาอยู่ ณ จุดๆ นี้ได้เช่นไร...

                ก้าวแรกที่เหมือนประตูเปิดสู่โลกแห่งความตาย...เขาไม่มีสิทธิเลือก วินาทีนั้นขอแค่ได้กำจัดหนึ่งชีวิต ไม่สิ...ต้องบอกว่าเป็นเศษมนุษย์ที่พรากชีวิตอันบริสุทธิ์ของคนทั้งครอบครัว...แน่นอนว่าเมื่อก้าวเข้ามาแล้ว คำว่า ถอยหลัง มันคงไม่มีความหมาย...เสียงลั่นไกอันเงียบเชียบ กลิ่นคาวเลือดกลายเป็นของเคยชินสำหรับชายหนุ่มในคราบทนายหนุ่มอย่างปฏิเสธไม่ได้...

                เพื่อนในองค์กรที่เขารู้จักมีเพียงกี่ราย...และที่เป็นเช่นนั้น ก็เพราะคนทั้งสองรวมถึงเขามีชะตากรรมเดียวกัน...ชะตากรรมที่เลือกไม่ได้กับการเป็นนักฆ่าโดยสมบูรณ์

                ปาร์ค จองซูที่อยากจะแก้แค้นใครบางคนที่ทำให้น้องสาวต้องกลายเป็นคนสติไม่สมประกอบ...

                คิม จองฮุน ชายหนุ่มที่รักภรรยามากกว่าสิ่งใด แต่กลับต้องมาสูญเสียหล่อนเพราะเหตุการณ์อัปยศ

                เขาไม่รู้สาเหตุที่แน่ชัดเกี่ยวกับเบื้องหลังของคนทั้งสอง หากแต่เมื่ออยู่บนโลกแห่งความเป็นจริง โลกที่ไม่มีคำสั่งจากบอส...พวกเขาเป็นเพื่อนรักและทำงานในสายงานด้านคดีความคล้ายๆ กัน...เขาซึ่งเป็นทนายความ ปาร์ค จองซู ที่มีหน้าที่การงานมั่นคงเป็นถึงอัยการ และคิม จองฮุน สารวัตรหนุ่มไฟแรง...

                ไม่น่าเชื่อสินะว่าคนอย่างพวกเขาจะมีอีกด้านที่น่ากลัวคือกุมชะตากรรมของชีวิตที่ไม่รู้ว่าจะถูกส่งมาถึงมือพวกเขาเมื่อไหร่...

     

              ฉันคิดว่าพวกเรากำลังมีปัญหา...

                เสียงนุ่มทุ้มจากปากของคิม จองฮุนทำให้สมาชิกในบ้านลดสายตาที่กำลังจดจ่อกับงานของตัวเองไปยังร่างของเพื่อนสนิท...ร่างกำยำในชุดตำรวจสีฟ้ามีร่องรอยของการต่อสู้เล็กน้อย พวกเขาจะไม่แปลกใจอะไร ถ้าหากในอ้อมแขนของ คิม จองฮุนกำลังพยุงร่างไร้สติของใครไว้อยู่...

                ร่างโปร่งผิวขาวซีด กลุ่มผมสีดำขลับ ใบหน้ามีรอยฟกช้ำเล็กน้อย...รูปร่างไม่ได้ผอมบางถึงขั้นคนป่วยแต่กระนั้นร่างที่ดูเหมือนแทบจะไม่มีแรงยืนก็อดไม่ได้ที่จะทำให้ ปาร์ค จองซูปรี่เข้าไปช่วยเพื่อนรักอีกแรง...

                เว้นเสียแต่ ชเว ซีวอน ที่นั่งนิ่งมองเพื่อนตัวสูงทั้งสองช่วยกันพยุงร่างของเด็กหนุ่มมายังกลางห้องรับแขก ร่างขาวจัดที่ค่อยๆ ถูกวางลงบนโซฟาอย่างเบามือ...

                คนคนนี้น่ามอง...แต่เขาไม่ไว้ใจ

                คิดยังไงถึงได้พาเขามาที่นี่ ชเว ซีวอนเอ่ยถามเสียงนิ่ง ดวงตาของเพื่อนสนิททั้งสองสบกันเพียงนิดก่อนคนต้นเรื่องจะเอ่ยตอบ...

                ฉันรู้จักเขาดี ซีวอน...เด็กคนนี้น่ะเป็นเด็กในร้านอาหารที่มาส่งข้าวที่สถานีอยู่บ่อยๆ ฉันไปเจอเขาตอนที่กำลังจะถูกสามีเจ้าของร้านข่มเหงน่ะ

                แล้วนายก็พามาดูแลเพราะสงสารเด็กนี่? เขาย้อนถาม คิม จองฮุนพยักหน้ารับ...เอาสิ...เอาเข้าไป คิม จองฮุนมีพื้นนิสัยเป็นคนอ่อนโยนเป็นทุนเดิม แม้จะแข็งกร้าวขึ้นเล็กน้อยหลังจากเข้ามาอยู่ในองค์กรก็ตาม เขามองภาพเพื่อนสนิทอีกคนที่หาผ้าขนหนูชุบน้ำมาซับใบหน้าซีดขาวแล้วจึงถอนหายใจ...

                ก็เป็นกันเสียอย่างนี้ เขาเป็นเสียงส่วนน้อย จะไปสู้อะไรได้...

                เด็กคนนี้ชื่ออะไรหรือ? พวกเราจะได้เรียกชื่อเขาถูกตอนที่เขาฟื้นขึ้นมาน่ะ จองซูไม่ได้วางมือจากการใช้ผ้าผืนเล็กซับไปตามเรียวหน้าไล่มาถึงลำคอขาว เขาเอ่ยปากถามพลางระบายยิ้มบางเบา...

                คยูฮยอน...โจ คยูฮยอน

     

     

              คอนโดฯหรูใจกลางเมือง ห้องราคาแพงที่กินเนื้อที่เต็มหนึ่งชั้นของตึกไม่ใช่ที่พักพิงประจำของสามหนุ่ม...หากแต่เป็นที่พบปะและพูดคุยกันเรื่องงานเป็นพิเศษ...หน้าต่างมีหูประตูมีช่อง ไอ้ครั้นจะให้พวกเขาคุยงานเรื่ององค์กรตามสถานที่อื่นมันก็คงเป็นไปไม่ได้และนั่นก็เหมือนกันการขุดหลุมฝังตัวเอง...

    เช้าวันแรกที่มีสมาชิกในบ้านเพิ่มขึ้นมาอีกคน...คิม จองฮุนฝากฝังให้เขาดูแลเด็กหนุ่มเป็นดิบดีก่อนจะรีบออกไปที่ สน. ตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชาการ...ส่วน ปาร์ค จองซูก็ต้องออกไปเยี่ยมน้องสาวที่โรงพยาบาล...แหงล่ะว่าคงมีแต่ ชเว ซีวอนที่ว่างงานจากการว่าความ...ชายหนุ่มปรายสายตาจากหน้าจอโทรทัศน์แอลซีดีมายังร่างโปร่งภายใต้ชุดเสื้อเชิ้ตตัวหลวมของ คิม จองฮุน...ตั้งแต่ตื่นมาเจ้าตัวก็ยังไม่ปริปากพูดกับใคร กะอีแค่ขยับตัวยังเหมือนยากลำบากราวกับกลัวว่าถ้าขืนขยับปลายก้อยสักนิดจะโดนใครเขมือบ...ทนายหนุ่มถอนหายใจพรูใหญ่พลางหันมาจ้องเจ้าของร่างขาวจัดให้เสียเต็มตา โจ คยูฮยอนนั่งขดตัวอยู่ข้างๆ เขาและคอยแต่จะกระเถิบตัวออกห่าง... แต่ก็นั่นแหละ โซฟาแคบออกจะตายไป...ขยับตัวนิดเดียวเด็กหนุ่มเจ้าของดวงตาสีดำขลับก็ตัวติดอยู่ที่อีกด้านของโซฟาแล้ว...

    ฉันไม่ใช่สัตว์ประหลาด... ชเว ซีวอนคิดว่าเขาพูดด้วยน้ำเสียงนิ่งเอาการ...อีกครั้งที่เขาต้องถอนหายใจ...โจ คยูฮยอนขยับตัวหนีเหมือนเป็นปฏิกิริยาคุ้นเคย กระนั้นก็ยังสู้อุตส่าห์ช้อนสายตามองอย่างหวาดๆ จะพูดได้หรือยัง? หรือเป็นใบ้?

    ไม่ได้เป็น... ชายหนุ่มยกยิ้มเพียงนิดพลางจ้องมองใบหน้ากลมขางที่จู่ๆ ก็ยอมเปิดปากพูดจนได้...ชเว ซีวอนกำลังนั่งมองเด็กหนุ่มที่ทำใจสู้ตวัดตามองเขากลับเช่นกัน แน่นอนว่าดวงตาคู่นั้นฉายแววตื่นตระหนกอยู่เพียงเล็กน้อยก่อนจะแปรเปลี่ยนเป็นภาพสะท้อนของเขา ดวงตาสีดำดูนิ่งไม่ไหวติงแม้เขาจะแกล้งเล่นเกมส์จ้องตากับเจ้าตัวอยู่ก็ตาม... ภายใต้ภาพลักษณ์ที่เหมือนลูกนกปีกหักบางทีก็ดูมีเสน่ห์น่ามองไปอีกแบบ...

    ไปทำอิท่าไหน...ทำไมถึงได้...

    ตาลุงนั่นมันตัณหากลับ...

    ชเว ซีวอนขมวดคิ้วตึง...เด็กคนนี้พูดน้อยต่อยหนักใช่เล่นเลยล่ะ เขาเฝ้ามองแววตากลมใสที่เอาแต่ทอดมองมือตัวเองที่กำลังกำหมัดแน่น เส้นเลือดที่แขนปูดขึ้นตามโทสะอย่างเห็นได้ชัด ทนายหนุ่มทำได้เพียงผ่อนลมหายใจพลางเอื้อมมือไปตบบ่านั้นเบาๆ ซีวอนกะจะลุกไปเตรียมอาหารมื้อเที่ยงทว่าจู่ๆ ร่างในชุดเชิ้ตโคร่งกลับโผเข้ากอดเขาเต็มรัก ซ้ำยังซุบใบหน้าลงบนไหล่ ไม่มีเสียงสะอื้นหรอก มีเพียงการกอดรัดที่แนบแน่น...แน่นเหมือนหวังให้เขาเป็นที่พึ่ง

    ชเว ซีวอนไม่รู้จะทำเช่นไร...นานมากแล้วที่ไม่เคยมีใครกอดเขาแบบนี้ ทนายหนุ่มยกแขนที่ทิ้งไว้ข้างลำตัวขึ้นโอบร่างโปร่งบางอย่างเก้ๆ กังๆ พลางลูบแผ่นหลังบางนั่นโดยไม่ได้กล่าวปลอบใจอะไร เขาฟังเสียงลมหายใจสม่ำเสมอของอีกฝ่าย ระยะความใกล้ชิดที่มากเสียจนรับรู้ได้ถึงเส้นผมนิ่มที่คลออยู่ข้างแก้ม... 

    ขอบคุณมากนะครับ...ถึงคุณจะเย็นชาไปหน่อยก็เถอะ แต่ผมก็ชอบคุณมากๆ เลยนะ

    ...เด็กบ้านี่...

     

    น่าแปลกที่คิม จองฮุนแวะเวียนมาเยี่ยมคยูฮยอนเพียงแค่ไม่กี่วันก็ทำได้เพียงฝากฝังเด็กตัวขาวไว้กับเขาเช่นเคย... เห็นว่าหมอนั่นมีงานด่วนจากทั้งกองบัญชาการ และทั้งจากบอสใหญ่ ไอ้ครั้นจะเอ่ยปากว่าทำไมไม่ส่งเด็กนี่กลับบ้านไปเสีย คำตอบที่ได้ก็คือ โจ คยูฮยอนไม่มีบ้าน...อาศัยอยู่ที่ร้านอาหาร...ฉะนั้นจะส่งเนื้อไปเข้าปากเสืออีกรอบ มันคงไม่ใช่เรื่อง...

    งานหลักของ ชเว ซีวอน จึงจบอยู่ที่ต้องดูแล โจ คยูฮยอน อ้อ...บางทีเขาก็มีงานมีการทำนะ แต่บังเอิญว่าการว่าความมันค่อนข้างจะเว้นระยะห่าง เพื่อนรักทั้งสองถึงได้มอบหมายหน้าที่อันใหญ่หลวงให้เขา แน่นอนว่าปฏิเสธไม่ได้...ใจอ่อนรึเปล่า? ไม่เลย...เขาก็แค่เกรงใจเพื่อนสนิท ชเว ซีวอนยังไม่ไว้ใจเด็กที่ไม่มีที่มาแน่ชัดอย่างคยูฮยอน... คิม จองฮุนเองก็ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าแท้จริงแล้ว โจ คยูฮยอนเป็นลูกเต้าเหล่าใคร มีญาติพี่น้องหรือไม่...ทั้งที่บอกว่ารู้จักกันดี แต่กลับไม่รู้รายละเอียดเกี่ยวกับเด็กหนุ่มคนนี้เลย...

    ถ้าเกิดวันใดวันหนึ่งเด็กคนนี้แว้งกัดกันขึ้นมา...มีหรือที่เขาจะปล่อยไปง่ายๆ

     

    ฉันเพิ่งซื้อนมมา อย่าลืมให้เหมียวคยูดื่มล่ะ ;)’ from P.Jungsoo

     

    ชเว ซีวอนมองกระดาษโพสอิทหน้าตู้เย็นหลังใหญ่พลางเบนสายตาไปยังเหมียวคยูที่ว่า...จองซูเขียนโพสอิทค้างไว้แบบนี้ นั่นก็แสดงว่าหมอนี่เพิ่งได้รับงานจากบอสใหญ่มาเช่นกัน...น่าประหลาดที่เขา...กลับไม่ได้รับคำสั่งจากบอสใหญ่ดังเช่นคนอื่น...

    โจ คยูฮยอนนั่งแหมะอยากลางห้องนั่งเล่น ในมือคู่เรียวมีหนังสือนิยายสืบสวนสอบสวนเล่มหนาที่สงสัยเจ้าตัวคงไปค้นเจอในห้องของใครสักคนมาอ่านฆ่าเวลา...วันๆ หนึ่งของ โจ คยูฮยอนคงหนีไม่พ้น นั่ง นอน อ้อน หรือไม่ก็หยิบจับทำงานบ้านเล็กๆ น้อยๆ นั่นก็เพราะที่คอนโดมีแม่บ้านคอยประจำอยู่แล้ว ในช่วงแรกคยูฮยอนจะเกรงใจสายตาแกมดุของ ชเว ซีวอนเสมอ...และนั่นก็ทำให้เจ้าตัวไม่คอยกล้าเข้าใกล้เขามากนัก แต่หลังจากที่โดนทั้งจองฮุน และจองซู ไซโครว่าจริงๆ แล้ว เขามันเป็นพวกหน้ายักษ์ใจดี...ไอ้ท่าทีหวาดๆ เหมือนลูกนกปีกหักก็ไม่ยักจะมีให้เห็น...

    คุณซีวอนชอบมองผมแปลกๆ

    ฉัน? อีกครั้งที่ทนายหนุ่มเลิกคิ้วมองไอ้เด็กตากลมที่ชอบช้อนสายตามองเขาเหมือนเป็นสัตว์ประหลาด เขาชี้นิ้วเข้าหาตนเองพลางจ้องมองเรียวหน้าน่ารักที่เอาแต่พยักหน้าหงึกหงัก อ้อ...ทีใจกล้าหน่อย ก็พูดจาโจมตีเขาได้เสมอ... ชเว ซีวอนระบายยิ้มมุมปากพลางแย่งหนังสือนิยายออกมาจากมือเรียวขาว ครั้งเด็กปากดีตั้งท่าจะโต้ตอบ เขาถึงได้เลื่อนหนังสือเล่มหนาไปวางแปะลงบนศีรษะทุย ไม่วายจะเคาะสันหนังสือลงกลางกระหม่อมอย่างหมั่นเขี้ยว...

    จะฟ้องพี่จองฮุนกับพี่จองซู!!” คยูฮยอนหันมาขู่ฟ่อ...เขาถึงได้จ้องดวงตาสีดำขลับนิ่ง บางทีเขาก็แค่คิดว่าคยูฮยอนน่ะเก่งใช่เล่น เก่งที่ซ่อนดวงตาไม่ให้สั่นระริกเมื่อยามได้สบตากันตรงๆ ชายหนุ่มกดยิ้มเล็กน้อยเมื่อพวงแก้มขาวกลับขึ้นสีระเรื่อ...ชเว ซีวอนก็ไม่ใช่เด็กแล้วนะ แต่ทำไมบางครั้งเขาถึงนึกสนุกเมื่อได้เห็นดวงตาโตๆ เหลือบมองโน่นนี่ไปมาเหมือนหาจุดพักสายตาไม่ได้ เมื่อแพ้ทางตัวเอง...คยูฮยอนก็เป็นฝ่ายกลับมานั่งก้มหน้างุดเงียบปากไปโดยปริยาย

    ไอ้ผู้ร้ายในคราบลูกแมว

    อย่าให้เขาได้รู้เชียวว่าภายใต้ดวงตาคู่โตนั้นซ่อนอะไรไว้อยู่...เพราะถ้าเขารู้ เขาไม่ปล่อยโจ คยูฮยอนไปไหนได้ง่ายๆ แน่!!

    อ้อ...คุณซีวอนครับ เมื่อเช้าคุณแม่บ้านฝากซองนี่มาให้คุณ

    ชเว ซีวอนรับซองเอกสารที่ว่ามาถือในมือ...เขาทราบดีว่าเอกสารในซองไม่ได้เกี่ยวกับการว่าความหรืออย่างใด...แต่มันเป็นคำสั่งจากบอสใหญ่...กับคนที่ให้ซองเอกสารมา ดูท่าจะสนใจใช่ย่อย... ทนายหนุ่มยื่นมือไปเขกมะเหงกเป็นรางวัลให้ไอ้เด็กตากลมที่เอาแต่ทำปากยื่นปากยาว บ่นกระปอดกระแปดไปตามประสาพลางหมุนปลายเท้ากลับไปยังห้องนอนส่วนตัว...

    ชั่วครู่หนึ่ง...เพียงไม่กี่วินาที ชายหนุ่มพิจารณารูปถ่ายเพียงใบเดียวที่อยู่ในซองคำสั่งจากองค์กร...

    หนึ่งชีวิตที่เขาต้องกำจัด...คือคนที่อยู่กับเขาในเวลานี้...

     

    ...โจ คยูฮยอน?

     

    กฎขององค์กรคือการดำเนินงานตามคำสั่งภายในหนึ่งเดือน...ผู้รับคำสั่งมีสิทธิพิจารณาและวางแผนในการกำจัดเหยื่อให้เงียบที่สุดและไม่มีผลโดยตรงต่อองค์กร แต่นักฆ่าไม่มีสิทธิเลือกว่าจะไม่ฆ่าใคร...เพราะถ้าไม่ปฏิบัติตามคำสั่ง ตัวนักฆ่าเองนั่นแหละที่จะกลายเป็นเหยื่อซะแทน... ชเว ซีวอนทอดสายตามองรูปถ่ายเพียงใบเดียวที่ถูกวางคั่นระหว่างเอกสารว่าความบนโต๊ะทำงาน เขาถอนหายใจแผ่วเบา กับตอนนี้แล้วเขาไม่รู้แน่ใจชัดว่าเหตุใดเด็กคนนี้ถึงได้เป็นเป้าหมายขององค์กร...องค์กรไม่เคยมีคำสั่งฆ่าผู้บริสุทธิ์ แล้วทำไมจู่ๆ โจ คยูฮยอนถึงได้ถูกส่งมาถึงมือเขาราวกับเรื่องบังเอิญ...แปลก...เขาแปลกใจที่เรื่องทุกอย่างมันบังเอิญเสียจนไม่น่าเชื่อ

    เพื่อนสนิทของเขาทั้งสองมีงานจากองค์กรพร้อมๆ กัน ทั้งยังเป็นงานที่ต้องออกนอกตัวเมืองโซล แต่เขากลับรับงานนี้มา...เขาแค่ไม่เข้าใจและสับสน...

    บางทีมันอาจเกิดความผิดพลาด

    บอสครับ...ผมคิดว่าองค์กรอาจส่งนกมาให้ผมผิดตัว ชายหนุ่มเลือกที่จะต่อสายตรงไปยังบอสใหญ่...การติดต่อกับบอสไม่ใช่เรื่องแปลก นักฆ่ามีสิทธิพูดคุยกับบอสได้เสมอ ฉะนั้นชเว ซีวอนจึงไม่ลังเลที่จะเอ่ยถามด้วยคำพูดตรงไปตรงมา เขาได้ยินเสียงหัวเราะเบาๆ จากปลายสายตามด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือก...ชายหนุ่มหยิบรูปถ่ายที่บันทึกภาพเจ้าของรอยยิ้มน่ารักขึ้นมามองในระดับสายตาก่อนจะกำมันแน่นเมื่อคำสั่งจากบอสไม่ใคร่จะเข้าหูเขานัก...

    กำจัดนกตัวนั้นทิ้งเสีย ก่อนที่มันจะปีกกล้าขาแข็ง แล้วฆ่าคุณซะเอง ชเว ซีวอน

    หรือนี่จะเป็นครั้งแรกที่เขากล้าขัดคำสั่งบอส...

     

    ไม่มีเหตุผลอะไรที่เขาจะมองว่า โจ คยูฮยอนคือหนึ่งชีวิตที่องค์กรสมควรกำจัด...

    ไม่เลยสักนิด...

    คุณซีวอนครับ คือว่าผมกินไอ้นี่ได้ใช่ไหม?

    ชายหนุ่มปรายตามองเด็กหนุ่มตัวขาวที่หยิบถุงขนมถุงใหญ่ออกมาจากตู้เย็นพลางระบายยิ้มแป้นเป็นเชิงออดอ้อนและขอร้องไปในตัว...และเมื่อเขาพยักหน้ารับไอ้ลูกแมวตัวแสบก็แสดงสีหน้าดีใจเต็มเปี่ยมก่อนจะวิ่งตึงตังมานั่งแหมะอยู่หน้าจอโทรทัศน์แอลซีดี เขาเอื้อมมือไปดึงถุงขนมเจ้ากรรมที่กำลังจะตกเป็นเหงื่อความตะกละของโจ คยูฮยอน และนั่นก็ทำให้เด็กหนุ่มหน้ามุ่ยทำปากคว่ำ ร้องเสียงกระเง้ากระงอดไม่ขาดสาย ก็ไหนว่าให้กินแล้วไง...งกอ่ะ!”

    ตะกละแล้วยังมาทำพูด เขาทำเสียงดุ...จ้องใบหน้ากลมขาวนิ่ง ร่างโปร่งนั่งกอดเข่าอยู่บนพื้นในขณะที่เขานั่งอ่านเอกสารอยู่บนโซฟาตัวยาว ชเว ซีวอนติดนิสัยชอบนั่งมองพิจารณาท่าทีของมนุษย์ตั้งแต่เป็นทนายความ มนุษย์ทุกคนเมื่อแสดงสีหน้าท่าทางใดออกมาล้วนมาจากการกลั่นกรองของจิตใจเสมอ...การจับสังเกตเช่นนี้ทำให้เขารู้พิรุธฝ่ายตรงข้ามจากการว่าความในศาลทุกครั้งไป แต่แปลกที่ไม่ว่าโจ คยูฮยอนจะแสดงท่าทีเช่นใดออกมา เขากลับมองไม่เห็นถึงความเสแสร้งที่มีอยู่เลยแม้แต่น้อย...หรือเขาจะถูกหลอกด้วยท่าทีใสซื่อกัน?

    คุณซีวอน...เอาขนมคืนมาเลยนะ ไม่ได้ว่าเปล่า คยูฮยอนกระเถิบตัวจากพื้นพรมหน้าจอโทรทัศน์พลางขยับตัวเข้ามาใกล้ เรียวหน้าน่ารักวางเกยอยู่บนหัวเข่าของเขาพลางกระพริบตาปริบจ้องถุงขนมไม่วางตา ชายหนุ่มนึกถอนหายใจอยู่เป็นพักพลางเลื่อนฝ่ามือมาดีดนิ้วลงที่ปลายจมูกรั้น ผลที่ได้คือใบหน้าที่ยุ่งเหยิงยิ่งกว่าเก่า ดวงตากลมสีดำขลับมองค้อนเพียงนิดพลางงับเขี้ยวลงบนมือของเขาโดยไม่ทันจะได้ตั้งตัว

    ให้ตายสิ... สุดท้ายก็ต้องส่งถุงขนมคืนเจ้าของ(?) ทนายหนุ่มนิ่งมองคนตัวบางที่หันมามองค้อนเขาหนึ่งทีพลางหันหลังกลับไปสนใจรายการเกมโชว์ในโทรทัศน์ต่อ...

    กำจัดนกตัวนั้นทิ้งเสีย ก่อนที่มันจะปีกกล้าขาแข็ง แล้วฆ่าคุณซะเอง ชเว ซีวอน

    คำพูดของบอสใหญ่ลอยเคว้งอยู่ในหัวเมื่อยามที่เขายังคงทอดสายตามองแผ่นหลังบาง เจ้าตัวไม่ทุกข์ร้อนใดๆ ซ้ำยังไม่ระคายว่าชะตากรรมของตนเองตกอยู่ในกำมือของใคร ชเว ซีวอนกดยิ้มให้กับตัวเองเมื่อนึกขึ้นได้ว่าที่เขากำลังเป็นอยู่ตอนนี้มันพิลึกเป็นบ้า...เขากำลังลังเลที่ต้องฆ่าเหยื่อจากองค์กรทั้งที่เมื่อก่อนเขาไม่คิดจะสืบสาวราวเรื่องว่าคนๆ นั้นมีเบื้องหลังร้ายกาจเช่นไร ขอเพียงเขาได้ทำตามคำสั่งและงานสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี เขากำลังคิดว่าองค์กรทำงานผิดพลาดทั้งที่ความเป็นจริงแล้ว องค์กรนั้นรอบคอบเสมอ... เขากำลังคิดว่า โจ คยูฮยอน ไม่มีความผิดใดๆ ที่สมควรจะต้องได้รับลูกกระสุนจากเขา... และแน่นอน เขากำลังคิดว่า โจ คยูฮยอนเป็นสิ่งมหัศจรรย์ที่ทำให้เขา...มีความคิดที่เปลี่ยนไปราวกับพลิกฝ่ามือ

               

                คือ...ผมขอนอนด้วยได้ไหม?

                ชายหนุ่มไม่ได้ตอบรับเสียงนั้น เขาเพียงพยักหน้าและนั่นก็คงทำให้ โจ คยูฮยอนดีใจเอาการ...เพราะนอกจากเจ้าตัวจะเผยยิ้มเผล่แล้ว ไอ้ลูกแมวตัวแสบยังแบกเอาผ้าห่มกับหมอนใบโตวิ่งดุ้กดิ้กมายืนเคว้งอยู่ข้างเตียง ชั่วครู่หนึ่งที่เจ้าตัวแอบเบ้ปากเล็กน้อยเมื่อเขาไม่ยอมขยับตัวเพื่อให้พื้นที่บนเตียงแก่ผู้ขออาศัย...จะด้วยความหน้ามึนหรืออย่างไร ชเว ซีวอนไม่รู้หรอก เขารู้เพียงว่าทั้งหมอนทั้งผ้าห่มหล่นตุ้บใส่เขา ตามด้วยร่างขาวจัดที่ทิ้งตัวลงนอนข้างๆ เด็กตัวจุ้นหันมามองค้อนเขาเหมือนเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ พลางทำปากคว่ำตาขวางเมื่อยามที่เขาเอาแต่นอนนิ่งไม่ยินดีที่มีสมาชิกร่วมเตียง

                ขาดความอบอุ่นหรือไงชเว ซีวอนพูดไปตามประสา ผลที่ได้คือดวงตาสีดำนั่นดูหมองลงพิกล...เขาหันมาปรายตามองร่างโปร่งที่กระเถิบตัวเข้ามาชิดทีละนิดพลางผ่อนลมหายใจเหนื่อยหน่าย...ทนายหนุ่มคิดว่าตนคงไปพูดจี้จุดไอ้ลูกแมวเข้าโดยไม่ได้ตั้งใจ ความเงียบจึงกลายเป็นคำตอบที่ชัดเจน... ขอโทษที่พูดแบบนั้น

                แต่มันก็เป็นความจริงนะครับอีกคนพูดด้วยน้ำเสียงฟังดูเหมือนปลอบใจตัวเอง เขาส่ายหน้าให้กับความอึดอัดที่ก่อตัวคุกรุ่นอยู่รอบตัวก่อนจะจับพลิกร่างขาวจัดให้เข้ามาแนบชิดอก สองแขนโอบร่างนั้นเข้ามากอดพลางถอนหายใจหนักๆ อีกสักที...ชเว ซีวอนไม่แน่ใจเท่าไหร่นักว่าทำไมถึงอยากจะดึงร่างไอ้ลูกแมวเข้ามากอด เขาเองไม่ใช่คนชอบกอดใครหรอก...เพราะส่วนตัวชายหนุ่มก็ยังไม่ทราบด้วยซ้ำว่าการกอดมันทำให้คนเรารู้สึกดีขึ้นมาได้อย่างไร...แต่อย่างน้อยการกอดก็คงทำให้ไอ้เด็กขี้งอนหลับไปโดยที่เขาไม่ต้องพูดจาปลอบโยนอะไรอีก...

    เคยได้ยินไหม...ว่าการเก็บสัตว์เล็กๆ ที่กำลังอ่อนแอไร้ที่พึ่งมาเลี้ยงมันก็เหมือนกับการสร้างพันธะทางจิตใจ เจ้าของจะรักและไม่คิดจะทอดทิ้งในเมื่อสัตว์เล็กๆ ที่ว่ายังไม่สามารถยืนได้ด้วยขาของตนเอง...ต่อให้ใครคิดทำร้ายมันมากเท่าไหร่...เจ้าของนั่นแหละ คือคนเดียวที่คิดจะปกป้องมันอย่างถึงที่สุด...

    ชเว ซีวอนไม่อยากจะรู้สึกเช่นนั้น เพราะในเมื่อเขายังมีหน้าที่จากองค์กรค้ำคออยู่...

    โจ คยูฮยอนคงไม่รู้ว่าใต้หมอนของทนายหนุ่มมีอาวุธสีเงินวาวที่สามารถลั่นไกปลิดชีวิตผู้คนได้อย่างเงียบเชียบ หากมันก็ยังนอนนิ่งอยู่เช่นนั้น ตราบใดที่ฝ่ามือใหญ่ยังคงโอบกอดร่างนิ่มไว้ไม่ยอมปล่อย...

               

     

                โจ คยูฮยอน...อายุ 19 ปี...ไม่มีประวัติที่แน่ชัดเกี่ยวกับครอบครัว... รู้สึกเด็กนี่เพิ่งจะเข้ามาที่โซลได้ไม่ถึง 2 ปีด้วยซ้ำ แต่ก็อย่างที่บอก ไอ้พวกที่ไม่มีประวัติครอบครัวแน่ชัดนี่แหละ มันงูพิษดีๆ ทั้งนั้น นอกจากประวัติการศึกษาแล้วก็ไม่มีอะไรที่บ่งบอกที่มาที่ไปของเด็กคนนี้ได้เลย ฉันว่านายต้องระวังตัวหน่อยแล้วล่ะ

    อี ทงเฮ เพื่อนร่วมสำนักงานทนายความเอ่ยเล่าประวัติของโจ คยูฮยอนได้อย่างคล่องแคล่วจากเอกสารที่ชายหนุ่มนักสืบสามารถหาข้อมูลมาได้เพียงนิด ทนายหนุ่มรับเอกสารการศึกษาในนาม โจ คยูฮยอนมาอ่านรายละเอียดคราวๆ ก็รู้เพียงว่าเด็กนี้น่าจะมีภูมิลำเนาอยู่ที่ต่างจังหวัด และดูท่าจะเป็นเด็กหัวดีพอสมควร...ชั่วครู่ที่เขาปรายตามองใบหน้าคมคายของเพื่อนนักสืบ หมอนั่นเลิกคิ้วยียวนพลางปล่อยเสียงหัวเราะออกมาพอเป็นพิธีกระนั้นก็ยังอุตส่าห์กลั้นยิ้มไว้เสียเต็มประดา

    อี ทงเฮก็เป็นนักฆ่าขององค์กรเช่นกัน...ฉะนั้นเขาจึงไม่จำเป็นต้องใช้ท่าทีกวนประสาทของนักสืบตรงหน้าอ่านความในใจให้วุ่นวาย...

    อี ทงเฮกำลังยิ้มเยาะเขาชัดๆ

    เรื่องตลก?

    เปล่า...ฉันก็แค่คิดว่าที่นายกำลังเป็นอยู่มันแปลกพิลึก อย่างกับคุณชเว ซีวอนเวอร์ชั่นปรับปรุงใหม่...

    ยุ่งหน่า... เขาบอดปัดพลางเก็บเอกสารลงซองน้ำตาล ทนายหนุ่มฟังเสียงหัวเราะแผ่วตามด้วยเสียงถอนหายใจเฮือกใหญ่ของอี ทงเฮอีกครั้ง...กลิ่นบุหรี่ที่กำลังถูกจุดและควันสีขาวลอยคลุ้งไปทั่วห้องทำงานโดยฝีมือของนักสืบหน้าทะเล้น ทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบ อีกครั้งที่เขาคิดไม่ผิดว่าอี ทงเฮจะเอ่ยสิ่งใด

    ให้ฉันทำงานนี้เองดีไหม? ดูเหมือนว่านายจะลำบากใจน่าดูที่ต้องฆ่าลูกแมวหน้าตาน่ารักอย่าง โจ คยูฮยอนน่ะ

    งานของฉัน ฉันจัดการเองได้...ขอบคุณที่ช่วยเรื่องข้อมูล

    นายก็เป็นซะอย่างนี้... ถ้าเกิดวันหนึ่งลูกแมวที่ว่าดันเป็นลูกเสือขึ้นมา ระวังเถอะ...นายนั่นแหละที่จะถูกฉีกเนื้อจนไม่เหลือความเป็นราชสีห์รูปถ่ายโจ คยูฮยอนถูกเปลวจากไฟแช็กสีเงินแผดเผาโดยฝีมือของนักสืบหนุ่ม อี ทงเฮกำลังตักเตือนเขาในทางอ้อม...กฎของนักฆ่าคือการห้ามไว้ใจ และห้ามใจอ่อนกับเหยื่อ แต่สิ่งที่ชเว ซีวอนกำลังทำ ล้วนตรงข้ามกับวิถีของนักฆ่าทั้งนั้น จิตใต้สำนึกของทนายหนุ่มที่เคยเย็นชากำลังถูกหนุ่มน้อยเจ้าของรอยยิ้มน่ามองกัดกินพื้นที่ในหัวใจทีละนิด เศษซากรูปถ่ายตกลงสู่พื้นไม้ชั้นดีเหลือเพียงกลิ่นไหม้เจือจาง อี ทงเฮเลิกคิ้วตามวิสัยให้แก่เพื่อนร่วมงานพลางสาวเท้าเอื่อยเฉื่อยจากไปโดยไร้ซึ่งคำพูดใดๆ...มีเพียงสัญลักษณ์นิ้วมือเป็นการบอกอำลา...

    นิ้วชี้ นิ้วกลาง นิ้วนาง สามนิ้วที่ชูขึ้นติดกัน...สัญลักษณ์แห่งความตาย...

    อี ทงเฮ อาจกำลังปรามาส ชเว ซีวอนอยู่ในใจ...

    นักฆ่าผู้แข็งแกร่ง...บางทีก็อาจตายด้วยเหตุผลง่ายๆ ฟังไม่ขึ้นหู

    รักงั้นหรือ? ไม่สมกับชเว ซีวอนเลยสักนิด...

     

    จะว่าไป...เขารู้สึกว่าตัวเองมันเสียสมดุลเป็นบ้า...

    เขาไม่ชอบเดินตลาดจับจ่ายพวกอาหารสดหรืออะไรประเภทนั้น เขาไม่ชอบการมาเดินเตร็ดเตร่ไปตามตรอกตลาดเล็กๆ ที่มีเสียงแม่ค้าพ่อขายตะโกนโหวกเหวกไปมา...แต่ชเว ซีวอนกลับตามใจไอ้เด็กลูกแมวที่ออดอ้อนครั้นอยู่คอนโดฯได้อย่างร้ายกาจ โจ คยูฮยอนบ่นอุบว่าในตู้เย็นแทบจะไม่มีอะไรเหลือ หยิบจับอะไรมาทำมื้อเย็นก็ไม่ได้ ถึงได้ลงทุนเข้ามาคลอเคลียทนายหนุ่มเจ้าของดวงตาคมดุเสียจนอีกฝ่ายนึกใจอ่อน บอกปัดๆ ว่าให้รีบจ่ายรีบซื้อ...

    เอาเจ้านี่ไหมครับ?

    คยูฮยอนหยิบเอาปลาหมึกยักษ์ที่ยังคงดิ้นมีชีวิตยื่นส่งมาให้ราวกับมันเป็นตุ๊กตาหมีขนปุย ซ้ำยังแกล้งส่งมาใกล้ระยะใบหน้า ซีวอนเหลือกตามองหนุ่มน้อยที่ดูท่าจะสนุกกับการเอาปลาหมึกตัวหนืดวางบนมือคู่เรียว เขาส่ายหน้าให้กับความสนุกบนความเหนื่อยหน่ายของเด็กตัวขาวพลางเอื้อมมือไปดึงต้นแขนให้ออกจากร้านขายอาหารทะเลเสียก่อนเจ้าปลาหมึกที่ว่าจะเลื้อยตัวเองมาไต่อยู่บนหัวของเขาเสียก่อน ข้าวของพะรุงพะรังบ่งบอกได้อย่างชัดเจนว่าความตะกละของคยูฮยอนช่างร้ายกาจไม่ต่างจากนิสัย พอก้าวพ้นร้านหนึ่งมาได้ เจ้าตัวก็ปรี่ไปอีกร้านเสมอ...

    ตะกละชะมัด!!

    คุณซีวอน...เมื่อไหร่พี่จองฮุนกับพี่จองซูจะกลับมาล่ะ ไม่เห็นหน้าพวกพี่เค้ามาเกือบสองอาทิตย์แล้วนะ เสียงบ่นกระปอดประแปดอดไม่ได้ที่เขาจะหันมามองเด็กหนุ่มที่กำลังเลือกผักสีเขียวลงตะกร้าสานของทางร้าน แม่ค้าในวัยกลางคนแย้มยิ้มกว้างก่อนเธอจะช่วยคยูฮยอนเลือกผักที่น่าจะมีรสชาติหรือสภาพที่ดีที่สุด...ชเว ซีวอนรู้ดีว่าการที่สองคนนั้นหายไปเกือบสองอาทิตย์นั้นก็เพราะงานขององค์กร...ยิ่งคยูฮยอนย้ำเรื่องช่วงเวลามากเท่าไหร่...ทุกอย่างก็ดูเหมือนตอกย้ำให้เขาคิดตรึกตรองถึงหน้าที่ที่ได้รับ...

    นั่นก็แสดงว่า...เขาก็เหลือเวลาอีกไม่มากเช่นนั้น...

    เวลาที่ต้องตัดสินใจว่าจะเลี้ยงลูกแมวตัวนี้ต่อไปหรือไม่?

    ทำไมถึงไม่เรียกฉันอย่างที่เรียกสองคนนั้นบ้าง... คยูฮยอนระบายยิ้มเสียจนแก้มดันดวงตาจนกลายเป็นเส้นโค้ง เสียงหัวเราะคิกคักตามด้วยการที่เจ้าตัวทำเป็นหูทวนลมกลายเป็นเรื่องน่าหงุดหงิดชะมัดที่ชเว ซีวอนเคยสัมผัส...คยูฮยอนหยุดมือที่เลือกซื้อผักก่อนจะหันมาสบตาเขาเป็นเชิง จ่ายตังค์สิแล้วก็เอาแต่อมยิ้มไม่พูดจา...

    น่าจับมาตีก้นจริง!

    มันดูห่างเหินใช่ไหมล่ะ...อิจฉาหรอ? ปากดีเป็นบ้า เด็กคนนี้... ทนายหนุ่มผ่อนลมหายใจหนักๆ ให้กับความเจ้าเล่ห์เจ้ากลที่แฝงอยู่ภายใต้ดวงตาสีดำขลับ เขาดูสูญเสียความเป็นตัวเองชอบกลเวลาอยู่ต่อหน้าเด็กไม่ประสีประสา ชเว ซีวอนทำได้เพียงแค่ถอนใจระงับอารมณ์งุ่นง่านในอก ก่อนจะเอื้อมมือไปรั้งเด็กหนุ่มให้ออกจากร้านขายผักก่อนที่อาจุมม่าในร้านจะทำสายตาอ้อล้อเขาไปมากกว่านี้...

    สนุก? เขาหันมาทำเสียงเข้มใส่คนที่กำลังกลั้นหัวเราะ ใบหน้าหวานส่ายไปมาพลางระบายยิ้มเสียจนเห็นฟันเรียงครบ 32 ซี่...ชักน่าหมั่นเขี้ยวเกินไปแล้ว!

    งั้นเรียกก็ได้...พี่ซีวอน...พอใจหรือไง ที่แท้ก็กลัวว่าตัวเองจะแก่ล่ะสิ จริงๆ อายุอย่างคุณเป็นน้าผมยังได้เลยนะ

    สงสัยจะอยากกลายเป็นแมวจรจัดซะล่ะมั้ง คนแถวนี้น่ะ ฝ่ามือหนายกขึ้นหยิบแก้มขาวแรงๆ ยังผลให้โจ คยูฮยอนทำปากเบ้พลางคว่ำตามองเขาเอาเรื่อง เรียวมือขาวยกขึ้นหยิบแก้มเขาคืนซ้ำยังออกแรงเสียจนเขาเองจำต้องปล่อยมือจากแก้มนิ่มอย่างช่วยไม่ได้ ...จริงๆ แล้วเรื่องอายุอะไรนั่น คนอย่างเขาไม่ซีเรียสเสียด้วยซ้ำ...เขาแค่ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงถูกเรียกชื่อเหมือนคนห่างเหินทั้งที่อยู่ร่วมชายคามาร่วมสองอาทิตย์ ชายหนุ่มจับจ้องดวงตาคู่โตที่ทำเป็นใจสู้สบกับเขาตรงๆ แล้วก็เป็นอย่างทุกครั้ง...หนุ่มน้อยก้มหน้างุดไม่วายจะทำปากบ่นขมุบขมิบ

    ใจร้ายชะมัดเลย...ก็เป็นแบบนี้ ถ้ามีเขี้ยวหน่อยก็ยักษ์ดีๆ นี่เอง...

    น่าแปลกที่จู่ๆ ชเว ซีวอนกลับรู้สึกถึงสายตาใครอื่นที่เพ่งตรงมายังจุดที่พวกเขายืนอยู่...เขาละสายตาจากใบหน้าสีระเรื่อพลางสอดส่ายสายตาไปยังฝูงคนที่กำลังเดินตลาดกันขวักไขว่ เสียงฟู่วคล้ายอะไรแหลกอากาศผ่านหูชั่วครู่ก่อนเขาจะรู้ตัวว่ากระสุนปริศนาพุ่งผ่านเฉียดพวกเขาไปเพียงนิด        ไม่รอช้าชายหนุ่มคว้าข้อมือบางพลางสาวเท้าวิ่งออกจากตัวตลาดโดยพลัน...แน่นอนว่าสิ่งที่เขาคาดไม่ผิดนัก เสียงฟู่วผ่านไปอีกนัดและอีกนัด...หลักฐานของลูกกระสุนผ่านลำปืนเก็บเสียงก็คือรอยถากบนกำแพงอิฐ เขาได้ยินเสียงคยูฮยอนร้องอุทานออกมาแผ่วเบาก่อนจะรู้สึกถึงเรียวมือที่เกี่ยวนิ้วเขาไปกอบกุมอย่างแน่นหนา...

    พี่ครับ...!!” เสียงเรียกขาดห้วงไปชั่วครู่ สีแดงของเลือดย้อมเปรอะเสื้อยืดสีอ่อนบริเวณต้นแขนสร้างความเดือดดาลให้แก่ชายหนุ่มอยู่มากโข...ถึงจะเป็นเพียงเพราะกระสุนถากเนื้อ แต่จุดประสงค์ของเจ้าของกระสุนไม่ได้หวังให้มันเพียงแค่เฉียดแขนแน่ นี่เป็นเพียงการข่มขู่ที่หวังให้เหยื่อตื่นกลัว...อีกครั้งที่เขาสาดสายตามองไปรอบบริเวณ...ผู้คนกำลังแตกตื่นที่ร่างของเด็กหนุ่มทรุดลงกับพื้นพร้อมด้วยสีแดงของเลือดที่หยดลงบนพื้นสีหม่น ชเว ซีวอนเพ่งสายตาไปยังกลุ่มคนหรือแม้กระทั่งมุมตึกก็พบเพียงความวุ่นวายชุลมุน ไร้ซึ่งวี่แววของผู้ก่อเหตุ...ไวและเงียบเชียบราวกับล่องหนได้ วิธีการกำจัดเหยื่ออีกรูปแบบหนึ่งขององค์กร...

    ให้ฉันทำงานนี้เองดีไหม? ดูเหมือนว่านายจะลำบากใจน่าดูที่ต้องฆ่าลูกแมวหน้าตาน่ารักอย่าง โจ คยูฮยอนน่ะ

    หรือนี่จะเป็นฝีมือของ อี ทงเฮ!

     

     

    ชเว ซีวอนหัวเสียขึ้นทุกที...

    เขาติดต่อใครไม่ได้...ดูเหมือนเขากำลังโดนกดดัน...คำถามที่ไม่มีคำตอบเกิดขึ้นในใจสารพัด เด็กหนุ่มที่มีผิวขาวเป็นทุนเดิมบัดนี้ดูซีดขึ้นอย่างน่าประหลาดใจ เพียงแค่โดนกระสุนถากเจ้าตัวยังเป็นได้ถึงขนาดนี้ แล้วถ้า...กระสุนที่ว่าทะลุร่างโปร่งบางเข้าล่ะ...เขาไม่อยากนึกภาพกลิ่นคาวหรือเลือดจำนวนมหาศาลที่ไหลเปรอะจนอาจย้อมร่างนี้ให้กลายเป็นสีแดง เขาใจอ่อนมากเกินไปจริงๆ... พันธะทางจิตใจของเขามันมากขึ้นทุกที เขารู้สึกเหมือนโดนมือที่มองไม่เห็นบีบหัวใจจนเจ็บจุก แค่เพียงมองใบหน้าของคนป่วยที่กำลังหลับพริ้มไม่รู้เรื่อง เขายิ่งตัดใจทำงานขององค์กรไม่ได้...

    แปลกที่รู้สึกแบบนี้

    แปลกที่ความรู้สึกน่าอัศจรรย์เกิดกับคนๆ นี้เพียงคนเดียว

    ฝ่ามือหนาเอื้อมหยิบอาวุธสีเงินที่นอนแน่นิ่งอยู่ภายใต้หมอนใบโตมาแรมเดือน...ดวงตาคู่คมจ้องมองเสี้ยวหน้าหวานสลับกับเครื่องปลิดชีพ ปลายปากกระบอกแนบลงบนหน้าผากมนขาว ทนายหนุ่มแค่ลองหลับตานึกภาพเมื่อยามเหนี่ยวไก...ใช่ เขาทำไม่ได้ ชายหนุ่มลืมตาขึ้นอีกคราก็พบกับดวงตาคู่โตที่ปรือมองเขาพร้อมด้วยหยาดน้ำใสที่ไหลผ่านช่วงหางตา ไม่มีเสียงสะอื้นมีเพียงดวงตาที่ทอดมองเขามากเท่าไหร่ก็ยิ่งสร้างความเจ็บหน่วงมากขึ้นเท่านั้น

    ถ้าเป็นคุณ...ผมก็ยอมนะครับ ยอมผมให้คุณฆ่าผมโดยไม่ร้องขออ้อนวอนใดๆรอยยิ้มวาดผ่านดวงหน้าขาวจัด เขาลดปลายกระบอกปืนลงในระยะที่ปลอดภัย พลางวางฝ่ามือลงบนข้างแก้มนิ่ม ก่อนจะใช้นิ้วหัวแม่มือไล่เกลี่ยน้ำตาที่กำลังร่วงผ่านพวงแก้มอย่างแผ่วเบา เขายิ้มตอบให้กับลูกแมวปากดี...บางที...หน้าที่ของหัวใจมันคงสำคัญกว่าหน้าที่อื่นเป็นไหนๆ

    ฉันทำไม่ได้...และไม่มีวันทำ

    น้ำตาหยดสุดท้ายไหลผ่านดวงตาเมื่อเด็กหนุ่มหลับตารับสัมผัสที่เรียวปาก...รสจูบบางเบาที่ค่อยๆ เด่นชัดขึ้น อบอุ่นใจอย่างประหลาดเมื่อครั้นที่ถูกช่วงชิงอากาศหายใจ แต่ทุกอย่างมันนุ่มละมุนเหมือนได้ลิ้มรสขนมหวาน ชเว ซีวอนแนบลำตัวเข้าหาร่างโปร่งบางพลางรั้งศีรษะเล็กให้ประชิดช่วงหายใจและรับความต้องการเขาได้อย่างถนัดถนี่ กลีบปากนิ่มถูกรุนรานโดยการละเมียดแต้มสัมผัส ใช้เวลาเพียงไม่นานความหวานซ่านก็แตะเข้าที่ปลายลิ้นของชายหนุ่มอย่างที่ใคร่อยาก เขากอดรั้งร่างที่กำลังสั่นระริกพลางป้อนจูบที่ไม่หนักหน่วงมาก แต่มันก็สามารถทำให้หนุ่มน้อยรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นขี้ผึ้งเมื่อยามโดนลนไฟ

    อื้อ... ทนายหนุ่มคิดไม่ผิดเมื่อยามที่เรียวปากของเขาต้องเนื้อผิวขาวบริเวณลำคอระหง ร่างโปร่งบางส่งเสียงร้องอื้ออึงในลำคอราวกับอึดอัดกับสิ่งที่เขากำลังทำ เจ้าของดวงตาสีชาไล่สายตามองเรียวหน้าขาวที่กำลังสุกปลั่ง เรียวปากอิ่มแดงน่ามอง เขากดยิ้มเป็นการปลอบโยนพลางแนบเรียวปากไปยังปลายจมูกรั้น

                “ไม่ต้องกลัว เขาเกลี่ยไล้เส้นผมสีเข้มที่ปรกเรียวหน้าขาวซีด ชเว ซีวอนมองภาพรอยยิ้มน่ารักอย่างนึกถนอม...ทุกอย่างที่กำลังจะเกิดขึ้น เขารู้ดีว่ามันเสี่ยง...เขาไม่เคยคิดว่าหน้าที่ขององค์กรมันไม่สำคัญ แต่สำหรับโจ คยูฮยอนแล้ว หน้าที่ขององค์กรมันเพียบไม่ได้เลย เวลานี้เขาแค่ขอยอมให้หัวใจทำตามสิ่งที่เรียกร้อง และเมื่อนาฬิกาตีบอกเวลาที่แท้จริง...เขาเองก็ยินดีพร้อมรับผลตอบแทนจากองค์กรมืดที่เขาภักดีมาตลอดหลายปี...ชีวิตเขาน่ะหรือ ไม่ว่าจะได้ขึ้นสวรรค์หรือตกดิ่งสู่ห้วงลึกของนรก...มันไม่สำคัญเลย

                ชีวิตของ โจ คยูฮยอน ต่างหาก...ที่เปรียบเหมือนของมีค่าสำหรับ ชเว ซีวอน

                สรรพางค์ทั้งหมดทั้งมวลบิดเร้าไปตามไฟอารมณ์ อาภรณ์หลายชิ้นตกสู่พื้นเตียงอย่างไม่ไยดี...ร่างกายแนบชิดแทบไม่มีช่องว่าง ลมหายใจรินรดแผดผิวเสียจนเกือบมอดไหม้ ใบหน้าหวานผินมองไปเสี้ยวหน้าคมที่กำลังปรนเปรอร่างเสียจนทุกอณู ฝ่ามือบางยกขึ้นปิดเรียวปากเพื่อกลั้นเสียงครางน่าอับอาย ดวงตาสีชาทอดมองราวกับไฟเย็น...ไฟที่ปลุกเร้าทุกส่วน แต่กลับสามารถทำให้เด็กหนุ่มนิ่งราวกับถูกสะกด เรียวขาเบนองศาไปตามธรรมชาติประกอบกับร่างสูงใหญ่ที่แทรกตัวกดทับเพื่อหาพื้นที่ เรียวปากคมจรดลงบนหลังมือขาวก่อนจะรั้งเรียวนิ้วขึ้นมาจุมพิตอย่างรักใคร่ แลตาสบตา...หนุ่มน้อยเผยรอยยิ้มบางเบาพลางเปิดรับทุกการกระทำที่กำลังจะเกิดขึ้น

                ความเจ็บที่แล่นไปทั่วร่างเกิดขึ้นเพียงชั่วขณะก่อนจะแปรเปลี่ยนเป็นความรู้สึกระคนเจ็บที่แยกไม่ออกระหว่างความสุขสม ปากอิ่มหอบหายใจอยู่ชั่วครู่ก่อนจะถูกปิดทับด้วยรสจูบพะเน้าพะนอ ร่างกายส่วนล่างกำลังตอดรับและหลอมรวมกับชายหนุ่มได้อย่างประหลาด ความคับแน่นเป็นเพียงอุปสรรคเล็กน้อยที่ผู้นำเกมส์ลิ้มรสก่อนเขาจะอาศัยแรงรักค่อยๆ แนบชิดป้อนสู่ร่างบางทีละน้อย และนั่นก็ทำให้เสียงครางเครือแว่วแผ่วไม่ขาดปาก

                อ่า อ๊า... เด็กหนุ่มไม่เหลือความเป็นตัวเองเมื่อร่างกายสั่นคลอนไปตามจังหวะรักที่ถี่เร่งขึ้นจนช่องทางรักร้อนผ่าวไปหมด ร่างทั้งร่างกำลังเบาหวิว ยอดอกถูกปากชื้นครอบครองทั้งยังหยอกเอินให้เขารู้สึกทรมานและห้วนคืนสู่ความสุขได้อย่างน่าฉงน แม้แขนอีกข้างจะยังเจ็บเพราะพิษกระสุนถากเนื้อ แต่คยูฮยอนกลับยกมันขึ้นโอบร่างกำยำที่กำลังกอดเขาอย่างแนบแน่น ฝ่ามือรั้งไหล่หนาไว้มั่น ดวงตาเหม่อมองความมืดมิดของห้องหากภาพที่เด่นชัดคือดวงตาสีชาที่กำลังเปล่งประกายอย่างสื่อความหมาย ความรู้สึกของเขาถูกผู้ชายคนนี้ตรึงแน่น ทั้งร่างกายและจิตใจ...ทุกอย่างของ โจ คยูฮยอนกลายเป็นของ ชเว ซีวอน...ชีวิตนี้...เขายอมให้คนๆ นี้โดยไม่มีข้อกังขาใดๆ แล้ว...

               

     

    ผลั่ว!!

    แรงส่งปะทะเนื้อแก้มของนักสืบหนุ่มเสียจนหน้าหัน หยดเลือดสีแดงเปรอะข้างมุมปาก อี ทงเฮใช้หลังมือปาดเอาร่องรอยแรงหมัดจากชเว ซีวอนก่อนจนเค้นเสียงหัวเราะเย้าอารมณ์โมโหของอีกฝ่ายเสียจนแตะขีดสุด และอีกครั้งที่หมัดหนักๆ กระแทกเข้าใบหน้า...เสียงหอบหายใจถี่รัวของทนายหนุ่มบ่งบอกได้อย่างแน่ชัดว่าตอนนี้ ชเว ซีวอนไม่รับรู้สิ่งใดนอกจากความโกรธที่แล่นพล่านไปทั่วกาย

    นายจะฆ่าเขาหรือไง!!!” ชายหนุ่มตะคอกสุดเสียง เส้นเลือดบนลำคอปูดโปนให้ได้เห็นถึงความโกรธจัดที่มีมากอย่างน่าประหลาด ทนายหนุ่มผู้เยือกเย็นและรักษาท่ามาตลอดกลับต้องมาเดือดเป็นไฟเพียงเพราะลูกแมวจรจัดตัวเล็กๆ ที่องค์กรมืดต้องการกำจัดอย่างนั้นน่ะหรือ?

    ฉันแค่ช่วยนายให้ตัดสินใจง่ายขึ้น...ว่าจะเก็บลูกแมวไว้ หรือฆ่ามันทิ้งซะ อี ทงเฮไม่ยี่หระต่อดวงตาอันเกรี้ยวกราด เขายกยิ้มมุมปากพลางจุดบุหรี่ชิมรสขมปร่าทั้งที่ริมฝีปากเปรอะคราบเลือดและมันก็บวมพอที่จะทำให้รอยยิ้มของเขามันดูเหยเกไปบ้าง นักสืบหนุ่มปรายตามองเจ้าของร่างสูงใหญ่ที่ไม่วายจะยืนกำหมัดส่งสายตาโกรธขึงมาอย่างไม่ลดละ บอสเสี้ยมสอนพวกเขาเหล่านักฆ่าเสมอเรื่องพันธะทางจิตใจ มันเกิดขึ้นง่ายแต่ทำลายมันยาก...ชเว ซีวอนกำลังเป็นเช่นนั้น...

    และท่าทาง...จะไม่ยอมตัดพันธะนี้ง่ายๆ เสียด้วย...

    อย่ายุ่งเรื่องนี้...เพราะฉันจะฆ่านายแน่!!”

    ตามสบายวะเพื่อน...ฉันพร้อมรับกระสุนจากนายเสมอ ชเว ซีวอน...อ้อ อีกอย่าง ท่าทางนายคงเป็นพวกความจำไม่ดีซะล่ะมั้ง ถึงได้ลืมอะไรง่ายๆ

    ห้องทำงานของนักสืบหนุ่มตกอยู่ในความเงียบงันหลังจากต้อนรับแขกผู้มาเยือนเพียงไม่ถึงสิบนาที ซ้ำเจ้าของห้องยังได้รับของฝากเป็นหมัดหนักๆ เสียเต็มสองแก้ม เขาทิ้งมวนบุหรี่ที่มอดไปได้ไม่ถึงครึ่งสู่แก้วกาแฟที่เขานั่งดื่มค้างไว้ในทีแรก...ชายหนุ่มเจ้าของใบหน้าคมคายทรุดตัวนั่งลงบนเก้าอี้หนังสีเข้ม ดวงตาคู่เรียวจดจ้องไปยังเอกสารอีกฉบับที่ถูกเก็บซ่อนไว้ใต้หนังสือนิยายเล่มหนา...

    ประวัติส่วนตัว โจ คยูฮยอน...ลูกชายเพียงคนเดียวของ โจ ฮวังฮี...

    นักธุรกิจที่ถูกเหยี่ยวหนุ่มจากองค์กรมืดปลดชีพ...

     

    ...โชคดี ชเว ซีวอน...

     

     

    ทุกอย่างเหมือนความฝัน...

    ทุกอย่างราวกับภาพมัว...

    ไม่ว่าเขาเรียกร้องสิ่งใด...เอาแต่ใจมากขนาดไหน...รอยยิ้มบางเบาและรสจูบหอมหวานคือคำตอบ...ชายหนุ่มตรึงเรียวแขนที่เพิ่งจะหายดีจากรอยกระสุนถากครั้นนั้นไว้กับผนังห้อง เรียวปากกดจูบไล่ไปตามซอกคอขาวซ้ำแล้วซ้ำเล่า ตอกย้ำว่าเขาไม่ต้องการให้ใครครอบครองร่างของลูกแมวขี้อ้อน เสียงครางผะแผ่วเมื่อยามที่เขาแนบลำตัวเข้าไปหา หรือแม้แต่การมอบรสรักเสียจนไฟในกายปะทุเดือด โจ คยูฮยอนตามใจเขาเสมอ...และทุกครั้ง รอยยิ้มและคำพูดแผ่วกระซิบมักทำให้ชายหนุ่มเผยยิ้มพึงใจอย่างปิดไม่มิด

    ผมรัก...พี่นะ

    ครับ สุดที่รัก...

    พรุ่งนี้วันเกิดพี่ซีวอน...อ๊ะ อื้ออออ กายบางหลุดเสียงครางเมื่อยามที่เขาแทรกตัวในคราเดียว ฝ่ามือหนารั้งเรียวขาให้เกี่ยวเข้ากับช่วงเอว เสี้ยวหน้าหวานผินเบือนไปทางอื่นก่อนจะถูกเขาใช้จมูกกดไล้ไปตามพวงแก้ม เขาต้อนลูกแมวด้วยวิธีนี้...สุดท้ายดวงตากลมโตจึงหันมาสบเขาทั้งที่วาวตาฉ่ำเยิ้มได้อย่างยั่วเย้า ริมฝีปากอิ่มแดงเผยอพูดกับเขาด้วยความยากลำบากเอาการ พี่อยู่กับผมนะ...อ๊า

    ก็เป็นเสียแบบนี้ลูกแมวตัวขาว...นับวันกลับยิ่งช่างอ้อน แถมยังร้ายกาจขึ้นทุกที...

     

     

    เคยได้ยินไหม...ว่าเมื่อเราถูกปลุกจากความฝันแล้ว...

    ความจริงมันจะฆ่าเราให้ตายอย่างทรมาน...

    ชเว ซีวอนไม่มั่นใจนักว่าที่ๆ เขายืนอยู่ตรงนี้ คือความฝันหรือความจริง เขาทอดสายตามองเจ้าของร่างโปร่งบางที่นั่งกอดเข่าอยู่บนพื้นหน้าจอโทรทัศน์แอลซีดี เสื้อเชิ้ตตัวโคร่งหรือแม้แต่กางเกงนอนล้วนเป็นของๆ เขาทั้งนั้น ดวงตาคู่โตจับจ้องไปยังรายการเกมส์โชว์ในยามเช้าอย่างไม่คลาดสายตา แวบหนึ่งในความทรงจำที่มันกำลังจะถูกปิดตาย...ชายหนุ่มเลิกคิ้วมองอากัปของลูกแมวในปกครอง หัวสมองของเขากำลังตีกันให้วุ่น...

    แผ่นหลังบอบบางเช่นนี้...การนั่งกอดเข่าเช่นนี้...

    เขาคิดว่ามันคุ้นตามากทีเดียว...

    ตามสบายวะเพื่อน...ฉันพร้อมรับกระสุนจากนายเสมอ ชเว ซีวอน...อ้อ อีกอย่าง ท่าทางนายคงเป็นพวกความจำไม่ดีซะล่ะมั้ง ถึงได้ลืมอะไรไปง่ายๆ

    โจ คยูฮยอน...

    โจ งั้นหรือ?

     

    ปีศาจ

    ภาพของเด็กชายที่นั่งคู้ตัวอยู่มุมลึกของห้องทำงานกว้างขวาง ดวงตาคู่โตบวมช้ำจากการร้องไห้ฮัก เรียวปากเอ่ยกล่าวประโยคนั้นซ้ำไปซ้ำมา ชายหนุ่มปรายสายตามองเด็กที่ว่าเพียงชั่วครู่สลับกับมองร่างอาบเลือดสีแดงฉานผู้ซึ่งอาจเป็นบิดาของเด็กตัวบาง...เหยื่อที่องค์กรส่งมาถึงมือเขา ชายนักธุรกิจมืดที่นับวันก็ยิ่งสร้างอิทธิพลและระรานการทำงานของเครือองค์กร

    แท้จริงแล้ว... กฎขององค์กรไม่มีการฆ่าผู้บริสุทธิ์ที่เห็นเหตุการณ์ เขาจึงทำได้เพียงกรอกเม็ดยากล่อมประสาทให้เด็กชายค่อยๆ หลับตาลงพร้อมเสียงสะอื้นแผ่วเบา แววตาคู่กลมที่จ้องมองเขาอย่างไม่วางตาปรือหลับลงอย่างว่าง่าย ยาที่จะสามารถทำให้เจ้าลูกแมวน้อยลืมภาพเหตุการณ์อันน่าสะพรึงไปได้เมื่อยามลืมตาตื่น

     

                “หวังว่าพี่คงจะจำได้...นะครับ

                ไม่จริงน่า...

                ชเว ซีวอนไม่อาจบรรยายสีหน้าของตนเองในเวลานี้ว่ามันน่าตลกเพียงใด เขานิ่งราวกับโดนสาป เสียงนุ่มหูของโจ คยูฮยอนไม่ได้ปลุกเขาจากภาพความพร่ามัวในอดีตเลยสักนิด...หัวใจของเขามันเย็นวาบไปหมด...เขาทอดสายตามองร่างโปร่งที่ค่อยๆ หยัดตัวลุกขึ้นจากพื้น พลันดวงตาคู่คมก็สบเข้ากับกระบอกปืนคู่ใจที่ยามนี้กลับไปอยู่ในอุ้งมือเรียวบาง โจ คยูฮยอนระบายยิ้มบางเบาไม่ต่างจากนางฟ้าที่มักยิ้มปลอบสัตว์เดรัจฉานจากขุมนรก ปลายอาวุธสีเงินค่อยๆ ถูกยกขึ้นและหากเขาเดาไม่ผิด...ตำแหน่งที่อีกฝ่ายตั้งใจจะให้กระสุนทะลุผ่านก็คือ...อกข้างซ้าย

                คยูฮยอน...ปากของเขามันหนักและยากจะกลั่นกรองคำพูดใดๆ ภาพหนุ่มน้อยที่กำลังเล็งปลายกระบอกปืนมายังเขาซ้ำดวงตาคู่สวยกลับปริ่มไปด้วยน้ำตามันสร้างความเจ็บหน่วงอย่างถึงที่สุด...มือคู่เรียวปราศจากอากัปสั่นกลัวซ้ำมันยังดูมาดมั่น ขอเพียงแค่ลั่นไก...ทุกอย่างย่อมไม่มีการผิดพลาด

                ผมรักพี่นะ แต่ยิ่งรักมากก็ยิ่งแค้นมาก...ขอบคุณนะครับที่ดูแลผมมาเสมอ และสิ่งที่พี่ทำมันช่วยอะไรไม่ได้สักนิดกับชีวิตของผมที่ขาดพ่อ หรือแม่ที่ตรอมใจไปอีกคน...การเป็นนักฆ่าของพี่มันทำให้ชีวิตคนชั่วมันหายไปก็จริง...แต่ขอให้รู้ไว้ ว่าสำหรับผม พ่อคือคนดี...พ่อไม่เคยฆ่าใคร อย่างที่พี่ฆ่าเขา...

                ขอโทษ...ชายหนุ่มคิดเสมอว่าการขอโทษคือสิ่งที่มนุษย์ทุกคนพึงกระทำ กระนั้นก็ตามมันกลับไม่ได้ช่วยซ่อมแซมจิตใจของเขาเลยแม้แต่น้อย...ยิ่งนางฟ้าของเขายิ้มมากเท่าใด ความผิดยิ่งตอกย้ำเสียจนเจ็บจุก

                ไม่เป็นไรหรอกครับ...ผมรักคุณนะ ชเว ซีวอน

    ชเว ซีวอน รู้ดีว่าจะเกิดอะไรขึ้น...กระสุนของเขาเอง ปืนของเขาเอง เขาจะไม่รู้อย่างไรว่ารสชาติความตายจากอาวุธประจำกายของตนมันเป็นเช่นไร...ขอเพียงหลับตา รอให้ทุกอย่างเงียบลง เขาก็พร้อมที่จะยอมให้คนที่รักมากที่สุด ทำแต่ใจปรารถนา...

     

    สุขสันต์วันเกิดนะครับ ที่รักของผม...

     

    ปัง!!

     

     

    นิ้วเรียวยาวไล้ไปตามโครงหน้าหล่อจัด...สิ้นซึ่งลมหายใจ...เด็กหนุ่มทรุดตัวลงนั่งข้างร่างสูงใหญ่ที่มีเพียงเลือดแดงฉานย้อมกาย โจ คยูฮยอนแนบใบหน้าลงบนอกแกร่งที่ไร้การหายใจ เรียวปากแย้มยิ้มดั่งนางฟ้าองค์น้อย...ฝ่ามือหนาที่เคยอบอุ่นถูกกอบกุมโดยมือคู่เรียว ปลายนิ้วก้อยรั้งเกี่ยวนิ้วอันเย็นเฉียบของทนายหนุ่ม...ริมฝีปากอิ่มแดงแต้มจุมพิตเป็นครั้งสุดท้าย...

    ที่รักครับ...เราจะได้อยู่ด้วยกันแล้วนะ...รักคุณที่สุดเลย...สัญญานะว่าคุณจะไม่ทำร้ายผมอีก...ชเว ซีวอนที่รักของผม...

    ปลายกระบอกอาวุธรูปร่างเรียวงามแนบลงข้างขมับ...

    หยดน้ำตาร่วงเผาะสู่ผิวแก้ม...ครั้งสุดท้าย ท้ายที่สุด ตราบชั่วนิรันดร์

     

    ปัง!!

     

     

    The End

    Talk*

    มันสั้นและตัดฉับมากๆ TT^TT #แจกอาวุธ ครั้งแรกที่แต่งฟิคแนวนี้ ทรมานเหลือเกิน

    รักทุกคน หนูหมดคำพูด Orz

    HBD พ่อขราอีกครั้ง แอนด์ HBD to meeee ><
    #ดิทคำผิด

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×