คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : sf. (my) Satan
แสงไฟจราจรสีแดงฉานส่องสว่างเป็นสัญญาให้รถราทุกคันต้องหยุดนิ่ง ดวงตาคมจ้องมองไปยังท้องถนนเบื้องหน้าด้วยใบหน้านิ่งเฉยไร้อารมณ์เย็นชาราวกับหิมะต้นฤดูหนาวที่กำลังตกโปรยปรายลงมาอย่างไม่ขาดสาย
1 อาทิตย์กับการหยุดนิ่งอยู่กับที่ ไม่ยุ่งเกี่ยวกับงานในบริษัท ช่างไร้ความหมายสำหรับตัวเขาเสียเหลือเกิน สู้เอาเวลานี้ไปนั่งดื่มในคลับข้ามวันข้ามคืนเสียไม่ดีกว่าหรือ มือหนาเคาะจังหวะตามเพลงคลาสสิกที่เปิดคลอเบาๆในตัวรถ ดวงตาคมยังคงกวาดมองไปรอบบริเวณจนเมื่อ...
ร่างผายผอมในชุดคนไข้สีขาวสะอาดเรียกให้สายตาคมกริบต้องหยุดนิ่งและจ้องมองค้างไว้เสียอย่างนั้น ใบหน้าขาวจัดตัดกับริมฝีปากสีแดงอิ่ม เส้นผมสีดำสนิทยาวระคอ ร่างบอบบางที่พร้อมจะล้มลงกับพื้นได้ตลอดเวลา กำลังก้าวเดินไปตามทางม้าลายที่เริ่มมีหิมะปกคลุม เท้าขาวไร้ซึ่งรองเท้าหรือสิ่งปกป้องแตะสัมผัสกับพื้นคอนกรีตเย็นเฉียบ ดวงตากลมโตที่แลดูเลื่อนลอยค่อยๆ ปิดเปลือกตาลงช้าๆ ก่อนร่างทั้งร่างจะล้มลงทั้งยืน
ไม่รอช้าชายหนุ่มร่างสูงที่จับจ้องร่างนั้นอยู่นานสองนานก็รีบเปิดประตูรถยนต์คันหรู โอบอุ้มพยุงร่างเล็กบางไว้แนบอก รับรู้ถึงอุณหภูมิของร่างบางที่ค่อยๆ มลายหายไปเรื่อยๆ ราวกับร่างตรงหน้ากำลังจะหมดสิ้นซึ่งลมหายใจ ชายหนุ่มถอดเสื้อโค้ทตัวใหญ่คลุมร่างบางที่สวมใส่เพียงชุดคนไข้บางๆ หวังจะสามารถสร้างความอบอุ่นและยื้อชีวิตของร่างบางเอาไว้ได้
“ถ้าเธอคือนางฟ้ามาโปรดซาตานอย่างฉันจริงๆ ฉันก็ขอให้พระเจ้าช่วยคลุมครองและรั้งชีวิตของนายเอาไว้ด้วยเถิด”
เสียงรำพันที่ร่างบางได้ยินมาตลอดช่วงความฝัน คิดและใคร่ครวญกับตนเองอยู่เสมอ ซาตาน ที่ว่าคือใคร ถ้าเขาคนนั้นคือซาตานจริงๆ เหตุใดจึงต้องมาช่วยชีวิตเขาเอาไว้ด้วย
...ซาตานมีหน้าที่พรากชีวิตมิใช่หรือ?
แผ่นเปลือกตาหนักอึ้ง คอยแต่จะฝืนเปิดขึ้นอยู่เสมอ ดวงตากลมทอดมองไปยังเพดานสีขาวสะอาดตา สายระโยงระยางที่วาดผ่านตัว ทำเอาเจ้าตัวต้องขมวดคิ้วเข้าหากันด้วยความเอาแต่ใจ มือบางยื่นไปดึงสายน้ำเกลือออกจากมือขาว รู้สึกรำคาญเครื่องช่วยหายใจที่โยงผ่านจมูกรั้นอย่างบอกไม่ถูก มือเรียวยกขึ้นเตรียมจะดึงสายช่วยชีวิตออก ประจวบเหมาะกับที่ชายหนุ่มร่างสูงเปิดประตูเข้ามาในห้องพักคนไข้ด้วยสีหน้าแตกตื่น เอื้อมมือหนามาฉุดรั้งข้อมือของเขาเอาไว้แน่น
“จะทำอะไร!” น้ำเสียงทุ้มเอ่ยด้วยท่าทางร้อนรน ดวงตาคมดูวาวโรจน์จนร่างบางรู้สึกกลัวอย่างบอกไม่ถูก
“ผมแค่รำคาญมัน ดึงมันออกไม่ได้หรอ” ตอบน้ำเสียงอ่อย ทำเอาสีหน้าของชายหนุ่มแสดงออกถึงความเป็นห่วงเสียเต็มประดา นั้นทำให้เด็กหนุ่มจำต้องถอนหายใจละมือจากสายเครื่องช่วยหายใจอย่างเสียไม่ได้
“ไม่ได้นะครับ...นางฟ้าต้องนอนพักอยู่นิ่งๆ ตอนนี้ร่างกายของนางฟ้าไม่แข็งแรง ห่วงตัวเองบ้างสิครับ”
“นางฟ้า?...” เด็กหนุ่มเอ่ยด้วยสีหน้างุนงง ยกนิ้วชี้มาที่ตัวเองอย่างไม่เชื่อนัก นางฟ้างั้นหรอ? ผู้ชายคนนี้ดูหนัง ดูละครมากไปหรือเปล่า?
“นายคือนางฟ้า ส่วนฉันคือ...ซาตาน” ถ้าเป็นน้ำเสียงราบเรียบบวกกับใบหน้านิ่งเฉยแล้วละก็ เด็กหนุ่มยอมรับเลยล่ะ ว่าคนตรงหน้าเหมาะกับคำว่า ซาตาน จริงๆ แต่ไม่มีทาง ซาตานที่ไหนจะดูอ่อนโยนเสียขนาดนี้...
“ผมว่าคุณ...ไม่เห็นเหมือนซาตานตรงไหน”
“ซาตานยังไงก็คือซาตานอยู่วันยังค่ำ สีดำก็คือสีดำไม่มีทางเปลี่ยนเป็นสีขาวบริสุทธ์ได้หรอก”
“คุณพูดอะไรแปลกๆ ผมไม่เข้าใจ” ใบหน้าหวานตอนนี้ดูง้ำงอเสียจนน่าเอ็นดูในสายตาของชายหนุ่ม มือหนาเอื้อมมาไล้แก้มขาวผ่อง พลางระบายยิ้มอย่างที่ไม่เคยทำมาก่อน
“นางฟ้าขี้สงสัยจังนะครับ”
“แล้วซาตานที่ไหน เขาใจดีแบบนี้ล่ะ...ให้ตายยังไงคุณก็ไม่ใช่ ซาตาน จริงๆนะ” ท่าทางไร้เดียงสาของคนตรงหน้า ทำเอาชายหนุ่มรู้สึกถึงหัวใจที่ด้านชากำลังเต้นผิดจังหวะ ยิ่งมือเรียวขาวยกขึ้นประคองใบหน้าคมคาย สำรวจจ้องมองใบหน้าของเขาราวกับกำลังหาคำตอบบางอย่างแล้วล่ะก็ น้ำแข็งที่เกาะกุมหัวใจมันก็ค่อยๆ ถูกหลวมละลายจนน่าแปลกใจ
“คุณชื่ออะไร?” จู่ๆ ร่างบอบบางตรงหน้าก็โพล่งถามขึ้นมา ใบหน้าคมหลุบมองต่ำ ก่อนจะเอ่ยชื่อเสียงเรียงนามอย่างระมัดระวัง ระวังไม่ให้เด็กหนุ่มตรงหน้าต้องตกใจ หรือนึกผลักไส
“ซีวอน...ชเว ซีวอน”
“คุณคือซาตาน…!”
.
.
.
.
.
“ความจำยังไงดีอยู่หนิ...โจ คยูฮยอน นึกว่าจะลืมชื่อซาตานอย่างฉันไปซะแล้วสิ” ไวเท่าความคิด มือบางยกขึ้นผลักอกแกร่งที่ตอนแรกเจ้าตัวยอมเข้าไปรับความอบอุ่นอย่างลืมตัว ไม่น่าเชื่อ ว่าเพียงแค่ท่าทีอ่อนโยนและน้ำเสียงนุ่มนวลแค่เสี้ยวนาทีจะสามารถหลอกให้ตัวเขาเข้าไปหลงในภวังค์ของผู้ชายอันตรายแบบนี้ได้ ถึงแม้จะไม่เคยเห็นหน้าคล้าตาชายหนุ่มตรงหน้ามาก่อน แต่ชื่อเสียงเรียงนามของคนๆ นี้ก็ทำเอาร่างบางอยากจะผลักไสคนตรงหน้าเสียให้พ้นๆ
“เลว” เด็กหนุ่มเอ่ยน้ำเสียงสั่นพลางกระถดตัวหนีซาตานตัวร้ายที่จ้องจะทำลายตัวเขาให้แหลกคามือ ใบหน้านิ่งสนิทกลับมาสู่ชายตรงหน้าอีกครั้ง รอยยิ้มจริงใจเมื่อครู่ เป็นเพียงการแสดงหลอกเด็กเท่านั้น
“พูดแบบนี้ไม่ดีเลยนะครับ นางฟ้า” รอยยิ้มเหยียดถูกวาดลงบนริมฝีปากคม ร่างสูงใหญ่ตรงหน้าไม่ได้แม้แต่จะขยับกายไปไหน เพียงแค่อยู่นิ่งๆ เฉยๆ ความกลัวหวาดหวั่นก็ถูกถ่ายโอนไปยังร่างผอมบางตรงหน้าได้อย่างไม่น่าเชื่อ เขาหัวเราะหึในลำคอพลางก้มตัวลงไปหาร่างบางที่คอยแต่จะปัดป้องซาตานอย่างเขาให้ออกห่างตัวมากที่สุด
“ไอ้สารเลว ฉันเกลียดนาย เกลียด เกลียด เกลียด!!!”
“แสดงว่ายังมีแรงเหลืออีกเยอะล่ะสิ ถึงได้ยังมีแรงมาด่าฉันฉอดๆ” คยูฮยอนรู้สึกถึงแรงกระชากเจ็บจนกระดูกแทบร้าว ร่างทั้งร่างถูกซาตานตัวร้ายดึงมาประชิดตัว ลมหายใจร้อนๆ รินรดอยู่บริเวณแก้มเนียน ข้อมือบางถูกบีบแน่นจนเริ่มแดงช้ำ ท่ามกลางความหวาดกลัวที่กำลังถาโถมใส่ร่างบางเสียเต็มประดา หารู้ไหมว่า...ซาตานตรงหน้ากำลังเจ็บปวดถึงอย่างที่สุด...
…ซาตานไม่ควรคู่กับนางฟ้า...
“คำว่า รัก ของซาตานอย่างฉัน มันคงไม่มีความหมายสำหรับนายใช่ไหม” ถามคำถามเสียดแทงจนผู้รับฟังอดจะเอะใจไม่ได้ ใบหน้าคมคายแม้นมีรอยยิ้มร้ายกาจประดับอยู่ก็ตาม หากแต่ดวงตาคมกลับสะท้อนภาพแต่นางฟ้าองค์น้อยแต่เพียงผู้เดียว ซ้ำยังสะท้อนถึงความเจ็บปวดที่แอบซ่อนเล่น ยากที่ใครจะหยั่งรู้
“ไม่…ไม่เลย...ไม่มีเลยจริงๆ”
“ฮึ”
“คนเลวๆ อย่างนายน่ะ มีสิทธิจะพูดคำว่ารักด้วยหรอ? ไร้หัวใจอย่างนาย...รักคนอื่นเป็นด้วยหรือไง” ยิ่งตะคอกเสียงใส่คนตรงหน้าเท่าไหร่ แรงบีบที่ข้อมือก็ยิ่งทวีคูณราวกับซาตานตัวร้ายกำลังจะบีบกระดูกของเขาให้ค่อยๆ แหลกสลายเป็นชิ้นๆ
“จะตายแล้วยังปากดีอีก...หนีออกมาจากโรงพยาบาลคิดหรือไง ว่ารอดพ้นเงื้อมมือฉันได้” เอ่ยน้ำเสียงเย็นชาพลางจ้องมองร่างบางตรงหน้าด้วยสายตาดูถูกดูแคลง เด็กหนุ่มตรงหน้าคือเบี้ยตัวสุดท้ายบนกระดานหมาก ฉะนั้นเขาจึงไม่นึกเสียเวลาที่จะออกตามหา...ไม่น่าเชื่อว่าจะเจอตัวง่ายขนาดนี้...
“ถ้าหนีออกมาแล้วต้องมาเจอคนชั่วๆ อย่างนายฉันขอนอนตายในโรงพยาบาลดีกว่า”
“อยากตายนักใช่ไหม...นายได้ตายสมใจอยากแน่นางฟ้า แต่คงไม่ใช่ตอนนี้” กล่าวจบมือหนาก็เอื้อมไปดึงสายเครื่องช่วยหายใจออกจากตัวร่างบาง คยูฮยอนพยายามเบี่ยงตัวหนีเงื้อมมือซาตานเท่าที่แรงจะมี เพราะร่างกายที่ป่วยหนักมาตั้งแต่เด็ก เขาจึงไม่มีแรงมากพอที่จะสู้รบปรบมือกับพละกำลังมหาศาลของร่างสูงได้ ทว่ากลิ่นยาฉุนแสบจมูกจากผ้าเช็ดหน้าผืนเล็กๆ ก็ถูกทาบทับที่จมูกรั้นด้วยฝีมือของซาตานไร้หัวใจ ชั่ววินาทีสติที่ตั้งใจจะปัดป้องการกระทำทั้งหลายก็ค่อยๆ สาบสูญไป สำนึกสุดท้ายได้ยินเพียงถ้อยคำแผ่วเบาแต่สามารถทำร้ายซึ่งจิตใจอย่างถึงที่สุด
“ความรักไม่เคยมีบัญญัติในพจนานุกรมของฉัน จำไว้ซะด้วย...นางฟ้า”
ดวงหน้าหวานแลดูเหม่อลอยทอดมองไปยังนอกบานหน้าต่างกระจกบานใหญ่ เกล็ดหิมะยังคงตกโปรยปรายจากท้องฟ้ายามค่ำคืน หัวสมองว่างเปล่าไม่รู้จะคิดใคร่ครวญอะไร ก็ในเมื่อจะขยับตัวหนีไปไหนก็ไม่ได้ เพราะเพียงแค่จะก้าวไปไหน ดวงตาคมกริบก็คอยแต่จะจ้องมองการกระทำทุกฝีก้าว สู้นั่งอยู่เฉยๆ ไม่ต่อปากต่อคำกัน ดูท่าทีว่าซีวอนจะทำอะไรต่อไป คงเป็นสิ่งเดียวที่เขาสามารถทำได้ในตอนนี้
“เพิ่งจะเคยเห็นนางฟ้าปีกหัก” นั่งอยู่เฉยๆ ก็แล้วยังไม่วายโดนจิกกัดอีกจนได้ คยูฮยอนไม่คิดจะสนใจคำพูดของซีวอน เพียงแค่ทำหูทวนลมเม้มริมฝีปากแน่น ไม่รู้ไอ้บ้านี้ต้องการอะไรจากเขากันแน่ นอกจากจะพามาอยู่ในห้องคอนโดกว้างๆ แบบนี้แล้วยังมานั่งกวนประสาทไปวันๆ ไม่มีงานมีการทำหรือไง
“ไม่มีอะไรทำหรือไง...พล่ามอยู่ได้” กล่าวน้ำเสียงเรียบดวงตากลมยังคงฉายแววนิ่งสนิทไม่ได้มีอารมณ์ฉุนเฉียวดังคำพูด คนพูดยังคงนั่งหันหลังให้ไม่ยอมหันมามองผู้ชายนิสัยเสีย ก็ถ้าไม่ใส่ใจซะอย่าง...คนแบบนี้พูดดีๆ ก็ไม่ได้ ด่าเข้าหน่อยก็ไม่สะทกสะท้านสักเท่าไหร่หรอก
“ฉันหยุดพักร้อน... ก็เลย...มีเวลามานั่งดูนางฟ้านั่งหน้าหงิกบินหนีไปไหนไม่ได้ยังไงล่ะ”
“นายนี่ยังไง...เป็นบ้าหรือเปล่า”
“แล้วมีคนบ้าที่ไหนมานั่งดูแลคนป่วยอย่างนายล่ะ...คิดซะบ้างสิ มาอยู่กับฉันอาการนายมันก็ดีขึ้นเรื่อยๆ บุญคุณน่ะหัดสำนึกบ้าง”
“เหอะ! บุญคุณงั้นหรอ...ให้ฉันกัดลิ้นตัวเองตายดีกว่าไหม ดีกว่าต้องมานั่งซาบซึ้งกับบุญคุณของนายน่ะ”
“งั้นก็กัดซะสิ...อยากตายก็เชิญ...ฉันไม่ห้ามก็ดีจะได้ไม่ต้องมาเสียเวลานั่งป้อนข้าวป้อนยา” ฟังถึงแค่นั้น คยูฮยอนก็รู้สึกเหมือนอุณหภูมิในร่างกายกำลังเดือดดาลเต็มที่ ผู้ชายอะไรปากเสียหาซึ่งใครจะเปรียบหยาบคายถึงที่สุด ตั้งใจจะหันไปสู้ประจันหน้ากันสักยกแต่ทว่าร่างสูงใหญ่ที่ยืนอยู่ในระยะประชิด ร่างทั้งร่างปะทะเข้ากับอกแกร่งด้วยความไม่ตั้งใจ เรียวหน้าหวานเงยขึ้นสบเข้ากับใบหน้าคมคาย รู้สึกถึงลมหายใจอุ่นๆ ที่รินรดอยู่บริเวณหน้าผากมน มือบางบกขึ้นเตรียมจะผลักไสคนตรงหน้าให้ออกห่าง แต่คงช้ากว่ามือหนาที่ยกขึ้นบีบที่ข้อมือบางไว้เสียแน่น
“ปล่อย!!!” คยูฮยอนร้องขึ้นเมื่อรู้สึกถึงสายตามีเลศนัยที่จ้องมองมาอย่างไม่หวังดี แต่ดูเหมือนสิ่งที่เขาพยายามทำอยู่จะไร้ผล
“ถ้าไม่ปล่อยล่ะ...มีปัญหาไหม” ว่าพลางกดยิ้มเหยียดที่มุมปาก ออกแรงเพียงนิดร่างบอบบางตรงหน้าก็ถูกเขาโอบรัดไว้ทั้งร่าง แรงขัดขืนของคนตัวเล็กตรงหน้าไม่ได้ทำให้เรี่ยวแรงมหาศาลของเข้าลดหลั่นลงไป มีเพียงสายตาแข็งกร้าวเท่านั้นที่สามารถถูกส่งผ่านมายังตัวเขาได้…อยากจะใจดีให้มากกว่านี้ อยากจะเป็นคนดีในสายตาของร่างบางเสียบ้าง แต่อย่างว่าล่ะนะ...ถูกมองว่าเป็นคนเลวตั้งแต่ยังไม่เจอหน้ากัน ที่เขาทำๆ อยู่ก็เกือบจะไร้ความหมาย ใจอ่อนไม่ทำอะไรรุนแรงก็นับว่าโชคดีสำหรับนางฟ้าองค์น้อยมากแล้ว
“ทำไมนายต้องมาทำอย่างนี้กับฉันด้วย...นายจะไม่สนใจฉันทิ้งให้ฉันตายอยู่กลางถนนก็ได้ นายจะปล่อยให้ฉันนอนรอความตายอยู่ในโรงพยาบาลก็ได้ ฉันไม่เข้าใจนาย... พอนายยื้อชีวิตฉันไว้ได้ นายก็อาศัยความอ่อนโยนของนายมาทำให้ฉันต้อง...เกลียด...เกลียดนายที่มาทำดีกับฉัน เกลียดตัวเองที่ต้องอ่อนแอให้นายมาสงสาร” เอ่ยน้ำเสียงสั่นเครือ ดวงตากลมคลอปริ่มไปด้วยน้ำใสๆ ที่พร้อมจะไหลอาบแก้มได้เสมอ มือหนายกขึ้นไล้แก้มขาวพลางเช็ดน้ำตาที่กำลังจะกลิ้งไหลลงจากตาใส สายตาที่มักมองคนอื่น ด้วยท่าทีหยิ่งผยองกลับถูกปรับให้อ่อนลง เพียงเพราะรู้สึกใจหายที่เห็นนางฟ้าตรงหน้าร้องไห้เสียน้ำตาเพราะตัวเขาเอง
“จะร้องไห้ทำไม...ที่ฉันทำไปก็เพราะ...ตัวนายเอง...ฉันไม่อยากให้นางฟ้าองค์สุดท้ายของฉันต้องมาตายไปต่อหน้า เข้มแข็งซะ...ถ้าเกลียดฉันมาก ก็คิดซะว่านายต้องมีชีวิตอยู่ต่อไป เพื่อตัวนายเอง” กล่าวจบก็คลายมือที่บีบข้อมือขาวจัด ก่อนจะดึงร่างบางเข้าสู่อ้อมแขนกว้าง ความอบอุ่นแผ่ซ่านไปทุกอณู รอยยิ้มบางเบาถูกวาดลงบนใบหน้าหวาน ถึงแม้จะเป็นอ้อมกอดของคนที่ตัวเองตั้งแง่ผลักไสมาตลอด แต่ก็นับว่าคนๆ นี้สามารถถ่ายทอดความอบอุ่นให้แก่เขาอย่างที่ไม่เคยได้จากใครมาก่อน จะเป็นไปได้หรือเปล่าที่ซาตานตัวร้ายคนนี้จะกลับมาเป็นมนุษย์ธรรมดาๆ อย่างคนอื่นเขาเสียที
“ซาตานอย่างนายใจดีกับคนอื่นเขาเป็นด้วยหรอ” คยูฮยอนกล่าวน้ำเสียงอู้อี้ ใบหน้าหวานแนบชิดอยู่กับอกแกร่งอยู่อย่างนั้น ได้ยินเสียงหัวเราะน้อยๆ จากเจ้าของอ้อมกอด เสียงหัวเราะจริงใจที่ไม่ได้เค้นจากอารมณ์เหยียดหยามคนอื่น
“เฉพาะนางฟ้าองค์เดียวเท่านั้นแหละ” ว่าน้ำเสียงราบเรียบพลางก้มลงมองใบหน้าหวานที่เอาแต่ซุกอยู่อกหนาของเขา ไม่รู้ว่าอะไรมาดลใจถึงได้พินิจจ้องมองใบหน้าของร่างบางนั้นอยู่นาน เข้าใจดีว่าคนๆ นี้คือคนที่เขาตามหาตัวมาตลอดช่วงที่ผ่านมา แต่เหตุใดภาพของใครอีกคนถึงได้ลอยมาทับซ้อนเรียวหน้าขาวจัดนี้ได้ ราวกับคนๆ เดียวกันยังไงยังงั้น...
…ตลกน่าซีวอน...เป็นไปไม่ได้หรอก...
แล้วก็ไม่รู้ว่าอะไรมาดลใจเขาเข้าอีก ถึงได้โน้มหน้าจนจมูกโด่งสัมผัสเข้ากับจมูกรั้น คนตัวบางแม้จะมีทีท่าหวาดกลัวอยู่ไม่น้อย แต่ก็กลับไม่ได้ขัดขืนแต่อย่างใด ค่อยๆ หลับตาพร้อมรับริมฝีปากคมที่แต้มจูบบางเบาลงบนกลีบปากนุ่ม มือใหญ่ยกขึ้นเกลี่ยเส้นผมนิ่มที่ปรกปิดเรียวหน้าหวานก่อนจะไล้สัมผัสมายังลำคอขาว วางมือลงบนเอวบางไว้นิ่งๆ เพราะไม่อยากทำอะไรไปมากกว่านี้ แค่นี้ตัวเขาก็เตลิดไปรสสัมผัสนุ่มนวลมากพอแล้ว ร่างบางเองก็ไม่เข้าใจตัวเองทั้งที่เกลียดคนตรงหน้าจนเข้าไส้ แต่ยอมให้ผู้ชายนิสัยเสียจูบเข้าจนได้ แม้ในหัวสมองจะร้องห้ามสักเท่าไหร่ แต่ดูเหมือนไอ้เจ้าก้อนเนื้อในอกซ้ายมันจะไม่ยอมรับฟังเอาเสียเลย นอกจากจะเต้นแรงผิดจังหวะแล้วยังเอาแต่ร้องตะโกนบอกให้เขาตอบรับรสจูบนั้นอีกต่างหาก...
...ช่างทรยศกันจริงๆ...เจ้าหัวใจบ้าเอ้ย!
“…ฉันหายใจไม่ทัน” ร้องห้ามด้วยท่าทางเหนื่อยหอบ ประโยคดังกล่าวได้ผลชะงักงัน คนตัวโตยอมถอนจูบออกอย่างรวดเร็วพลางลูบหน้าลูบตาเขาเสียยกใหญ่
“ขอโทษ...นายกำลังป่วยอยู่”
“อย่าทำแบบนี้อีกนะ” เอ่ยเพียงเท่านั้นเจ้าตัวก็ผละออกจากอ้อมแขนแกร่ง หมุนตัวเองเดินหนีเข้าไปในห้องนอน ทิ้งให้ซีวอนต้องยืนมองแผ่นหลังบางนิ่ง...ในหัวได้แต่สงบสติอารมณ์ที่เผลอทำบ้าบอ
...หยุดบ้าได้แล้วน่า...
ทันทีที่ก้าวเข้ามาในห้องนอน เรียวปากเผลอยกยิ้มบางเบา จะดีแค่ไหน...ถ้าหากซาตานตัวร้ายนิสัยแย่จะเปลี่ยนตัวเองกลับมาเป็นมนุษย์ใจดี ไม่สิ...เทพบุตรก็คงไม่ยาก...คนๆ นี้ถึงจะปากร้าย แต่ถ้าลองมองข้ามไป สนใจเพียงแค่ความอ่อนโยนที่คนตัวสูงพยายามส่งมอบมาให้เขาแล้ว คนๆนี้ ก็คงไม่ได้เลวร้ายขนาดนั้น
...จะหลงเชื่อมันหรอ...คยูฮยอน...เลิกใจอ่อนได้แล้ว…
จู่ๆ เสียงในความคิดก็ดังขึ้นในภวังค์ ดูเหมือนความคิดในสมองกับหัวใจมันจะไปกันละทาง สวนทางกันจนเขาเริ่มสับสน
...ลืมไปแล้วหรอ...ว่ามันทำอะไรเอาไว้บ้าง...
...ใครคือคนที่ทำให้พ่อแม่ต้องเกลียดนาย...
...ใครคือคนที่ทำให้คนที่นายรักที่สุดต้องตายไป...
...ใครคือคนที่ทำให้นายต้องมาเป็นแบบนี้...
...เลิกงี่เง่าสักที...ลืมตาเผชิญหน้ากับโลกแห่งความเป็นจริงได้แล้ว...
...ทุกอย่างที่นายเห็น...มันเป็นเพียงแค่ภาพลวงตา...
“คยูฮยอน...” เสียงทุ้มเอ่ยปลุกร่างบางเบาๆ เพราะเกรงใจหากคนตัวเล็กต้องมาตื่นจากนิทรากลางดึกแบบนี้ สงสัยเพราะเมื่อหัวค่ำสติชักหลุดลอยถึงได้ลืมเอายาให้ร่างบางทาน นางฟ้าตัวน้อยเอาแต่นอนลูกเดียว จะปลุกทีก็เลยต้องใช้เวลากันหน่อย
“คยูฮยอน...ได้ยินเสียงฉันไหม...ตื่นมาทานยาก่อน” เอ่ยอีกครั้งพลางยื่นมือใหญ่แตะสัมผัสที่แก้มผ่อง สักพักร่างบางก็เริ่มรู้สึกตัว ส่งเสียงงัวเงียก่อนเปลือกตาบางจะค่อยๆ เปิดขึ้น
เพล้ง!
มือบางยกขึ้นปัดทั้งถาดยาทั้งแก้วน้ำจนตกลงแตกกระจายกับพื้น ดวงตาหวานบัดนี้วาวโรจน์ไปด้วยความโกรธแค้นที่คับแน่นอยู่ในอก การกระทำของร่างบางดังกล่าวทำเอาซีวอนถึงกับนิ่งอึ้งไปพักใหญ่ เมื่อตั้งสติได้เขาก็ต้องกลับมาใช้มาดเดิมๆ อีก
“เป็นบ้าอะไรอีก” ซีวอนร้องเสียงดังแต่นั้นก็ไม่ได้ทำให้คยูฮยอนรู้สึกหวาดกลัวหรือสะทกสะท้าน มีเพียงดวงตาเท่านั้นที่ส่งความโกรธแค้นมาให้แก่ร่างสูงใหญ่
“ไม่ต้องมาเสียเวลาเสแสร้งหรอก...ฉันจะไม่มีวันไว้ใจนายเหมือนกับ...”
“ทงแฮ” ซีวอนเอ่ยสวนทันควัน...แน่ล่ะ ก็ในเมื่อคยูฮยอนคือน้องชายต่างแม่ของทงแฮ เจ้าตัวน่ะรักพี่ชายต่างแม่ยิ่งกว่าอะไรดี แต่สุดท้ายแล้ว ด้วยฝีมือของเขาเองที่ทำให้ครอบครัวของคยูฮยอนต้องมาแตกแยก
“ใช่พี่ทงแฮ...นายทำให้เขาต้องฆ่าตัวตาย นายทำให้พ่อแม่คิดว่าพี่ทงแฮฆ่าตัวตายเพราะฉัน ทั้งที่จริงๆ แล้วต้นสายปลายเหตุที่แท้จริงมันก็คือนาย...”
“เกลียดฉันเพราะเหตุผลแค่นี้งั้นหรอ?” กล่าวน้ำเสียงเหยียดพลางกระตุกรอยยิ้มร้ายที่มุมปาก การกระทำของคนตัวสูงทำเอาคยูฮยอนยิ่งรู้สึกบันดาลโทสะเอาไปใหญ่ ...ซาตานชัดๆ! คนแบบนี้!
“นายรู้ไหมว่าก่อนที่พี่ทงแฮจะตายเขาเขียนอะไรไว้ในไดอารี่” คยูฮยอนเงียบไปพักหนึ่ง มือบางถูกกำเข้าหากันจนรู้สึกเจ็บ ประโยคทุกประโยคที่ทงแฮเขียนไว้ในสมุดไดอารี่หน้าสุดท้ายพร้อมรอยคราบน้ำตาที่หยดลงบนหน้ากระดาษขาว เขาจำมันได้แม่น
“เขาเขียนว่า...พี่ขอโทษที่ไม่รู้ว่าน้องของพี่กำลังเจ็บปวดเพราะความรัก...ซีวอนเขารักนายไม่ใช่พี่...เขารักนายมากนะคยูฮยอน...พี่เป็นพี่ที่แย่จริงๆ เรื่องแค่นี้พี่ก็ไม่รู้ว่าตัวเองกำลังเป็นมารความรักของพวกนาย...ถ้าเป็นอย่างนี้แล้ว...พี่ก็คงต้องยอมถอย...พี่อยากให้นายมีความสุขนะคยูฮยอน...หัวใจของพี่...พี่ฝากนายดูแลด้วยล่ะ...” น้ำตาที่ตั้งใจว่าจะร้องให้มันหมดๆ ไปตั้งแต่รู้ว่าพี่ชายที่ตัวเองรักที่สุดต้องตายเพราะเรื่องบ้าบอพรรค์นี้ แต่ตอนนี้มันกลับไหลอาบแก้มเสียจนหยุดไม่ได้ มือเรียวยกขึ้นทาบทับที่อกเสื้อข้างซ้าย รู้สึกถึงเสียงหัวใจที่เต้นถี่จนควบคุมไม่ได้ รู้สึกเจ็บปวดไปทั้งใจ...เพราะผู้ชายคนเดียว...ทำให้เขาต้องสูญเสียทุกสิ่งทุกอย่าง ดวงตากลมตวัดมองร่างสูงที่ยังคงทำทีท่าไม่รู้สึกรู้สา ถ้าตอนนี้เขาจะฆ่าใครสักคน...มันจะผิดหรือเปล่า?
“เพราะฉันป่วยเป็นโรคลิ้นหัวใจรั่วมาตั้งแต่เด็ก...พี่ทงแฮเขาคิดว่าถ้าหากฉันเสียใจมากๆ จะพาลป่วยหนักไปมากกว่าเก่า...เขาทำเพื่อฉันทุกอย่าง...ไม่สิ...เขาอาจจะทำเพื่อนายมากกว่าฉันก็ได้...เพราะความเห็นแก่ตัวของนาย เพราะความนึกสนุกของนาย ทำให้เรื่องบ้าบอนี้เกิดขึ้น ทุกอย่างมันเป็นเรื่องเข้าใจผิด นายกุมันขึ้นเพราะนายหมดรักจากพี่ทงแฮ...นายถึงได้หาข้ออ้างที่จะเลิกกับพี่ทงแฮ เหตุผลที่จะทำให้นายดูเป็นคนดีมากที่สุด...นายถึงลากฉันเข้าเป็นเกี่ยวด้วย ทั้งๆที่ฉันไม่เคยรู้จักนายมาก่อน ไม่เคยรู้ด้วยซ้ำว่านายเป็นใคร...เป็นอะไรกับพี่ทงแฮ...นายโกหกพี่ทงแฮว่านายรักฉัน นายอยากดูแลฉันเพราะว่าฉันเป็นโรคหัวใจ...แล้วสุดท้าย...”
“หยุดพูดได้แล้ว” ซีวอนตะคอกเสียงใส่คยูฮยอนเพื่อให้เจ้าตัวหยุดตะเบ็งเสียงใส่เขา แต่นั้นก็เหมือนจะไร้ประโยชน์
“ทนฟังความเลวของตัวเองไม่ได้หรือไง!!!...แล้วนายรู้ไหมสุดท้ายแล้ว...หัวใจที่ฉันกำลังใช้อยู่ หัวใจที่กำลังเต้นอยู่ในตอนนี้มันก็คือหัวใจของพี่ทงแฮ...จิตใต้สำนึกของฉันมันสั่งให้เกลียดนาย...แต่เพราะพี่ทงแฮเขาฝากหัวใจของเขาไว้กับตัวฉัน...ฉันถึงต้องรักนาย...ทั้งๆ ที่ฉันอยากจะฆ่านายให้ตายๆ ไปซะ!!!” ตอนนี้แล้วคยูฮยอนไม่รู้ว่าจะเรียกร้องอะไรอีก...ร่างบางทรุดลงบนพื้น มือบางยังคงกำอยู่ที่อกเสื้อ เสียงสะอึกสะอื้นที่ดังออกมาคนตัวเล็ก ทำเอาคนหัวใจเย็นชาอย่างซีวอนถึงกับรู้สึกกระตุกวูบที่หัวใจ เสียงร้องไห้ที่ฟังดูแล้วอยากจะกลั้นเสียงเอาไว้เพราะไม่อยากให้คนเลวๆ อย่างตัวเขาได้ยิน ร่างสูงย่อตัวลงกับพื้น ดวงตาคมได้แต่มองนิ่งไปยังร่างบางที่สะอื้นจนตัวสั่น มือใหญ่เอื้อมไปหวังจะลูบกลุ่มผมนุ่ม เพียงเพราะต้องการจะปลอบประโลมให้ร่างบางนิ่งและหยุดร้องไห้เสียที
เรื่องวุ่นวายทุกอย่างที่เกิดขึ้นเขายอมรับว่าตัวเองผิดและความผิดดังกล่าวก็ไม่น่าอภัยเอาเสียเลย เขาทำให้ใครบางคนต้องสูญเสียชีวิต...ทำให้ใครบางคนต้องสูญเสียเส้นทางชีวิตที่สวยงาม...ทำให้ใครบางคนต้องจมปรักอยู่กับความเศร้าที่ถาโถมเข้าใส่อย่างไม่ปราณี
แต่ก็เพราะเขาไม่ใช่คนดีอะไร...เพียงแค่จะชดใช้สิ่งที่ทำผิดลงไปจึงเป็นเรื่องยากอย่างที่เขาเองก็อธิบายไม่ถูก...ต้องให้มาดูแลใครแล้ว...ซีวอนไม่เคยคิดและไม่เคยทำ...ไม่น่าเชื่อว่าเพียงแค่เห็นหน้าของนางฟ้าองค์น้อย...หัวใจที่มันด้านชา... ยะโสโอหังมาตั้งแต่ไหนแต่ไรกลับเต้นตอบรับเสียจนน่าอาย รู้สึกดีและยากจะดูแลคนๆ นี้ให้ดีที่สุด ก็แค่เป็นคนพูดหวานๆ ไม่เป็น โอ้ใครไม่เก่ง ถึงได้แสดงท่าทีแบบนั้นออกไป...
...มันน่าโมโหจริงๆ เลย ชเว ซีวอน กับอีแค่ดูแลนางฟ้าองค์สุดท้ายก็ตัวเองก็ทำไม่ได้
“ฉันขอโทษ...” เอ่ยน้ำเสียงนิ่งพลางวาดแขนขึ้นโอบกอดร่างบางไว้แนบอก แรงขัดขืนที่คนตัวเล็กกำลังต่อต้านไม่ได้ทำให้เขาอยากจะคลายอ้อมกอดนี้เลยแม้แต่น้อย
“โกหก...”
“เชื่อฉันสักครั้งจะได้ไหม”
“ไม่...ฉันจะไม่มีวันหลงเชื่อนาย...นายมันใจร้าย...นายไม่เคยมีความจริงใจให้กับคนอื่น...นายมันไม่เคยมีความรักถึงได้รักใครไม่เป็น...นายคือซาตานอย่างที่ฉันคิดไว้ไม่มีผิดจริงๆ อื้อ...” เรียวปากที่ร้องตะเบ็งเสียงใส่ผู้ชายนิสัยแย่ในตอนแรกกลับถูกปิดกั้นเสียงไว้แค่ในลำคอเพราะริมฝีปากคมที่ทาบทับลงมา มือใหญ่ยกขึ้นประคองเรียวหน้าหวานไม่ให้คนตัวบางปฏิเสธจุมพิตครั้งนี้ได้ ทั้งที่พยายามปัดป้องและดันอกแกร่งให้ออกห่างมากที่สุดก็ตาม แต่ก็ไม่สามารถต้านทานแรงมหาศาลของคนตัวโตนี้ได้ ไหนจะเสียงหัวใจที่มันเรียกร้องคนตรงหน้านี้อีก...เรี่ยวแรงจึงค่อยๆ หมดลงเรื่อยๆ กลีบปากที่เม้มปิดแน่นในตอนแรกกลับเผลอเปิดโอกาสให้ร่างสูงได้เก็บเกี่ยวความอ่อนหวานในโพรงปากนุ่ม ลิ้นร้อนเกี่ยวกระหวัดลิ้นเล็กที่พยายามหลีกหนีรสจูบของคนที่เขาเกลียดมากที่สุด แต่ดูเหมือนร่างกายกับหัวใจกำลังเดินทางสวนกัน เจ้าตัวถึงได้ยอมให้คนตรงหน้าได้จูบเขาจนพอใจ รู้สึกว่าตัวเองถูกอุ้มจนลอยขึ้นจากพื้นทั้งที่ริมฝีปากยังคงแนบชิดกันอยู่ ร่างทั้งร่างถูกวางลงบนเตียงนุ่มอย่างเบามือแผ่นหลังเอนราบหลังกับเตียงเพราะแรงโถมน้ำหนักของร่างสูง หัวสมองยังคงมีสติครบครั้นอยากจะปฏิเสธอยากจะขัดขืนจนใจแทบขาด
“หยุดทำบ้าๆ กับฉันสักที” เอ่ยน้ำเสียงแห้งผากพร้อมกับน้ำตาที่กำลังปริ่มเต็มหน่วยตา มือบางยกขึ้นจิกเล็บลงบนลำแขนแกร่ง แต่ก็เหมือนจะไร้ผล...เพราะร่างสูงกลับมองใบหน้าเขานิ่ง...ไม่มีเสียงพูดคุยตอบรับ
“คยูฮยอน...ฉันขอโทษ” ทั้งที่คำพูดแบบนี้ช่างไร้ความหมายสำหรับคยูฮยอนอย่างถึงที่สุด แต่หัวใจกลับเต้นถี่จนตัวเขากลัว...กลัวว่าจะยอมใจอ่อนเหมือนกับทงแฮ
พยายามใช้แรงเฮือกสุดท้ายเท่าที่มีอยู่ มือเรียวยกขึ้นดันอกแกร่งแต่ก็ไร้ผล ในเมื่อใบหน้าคมโน้มลงมาใกล้ก่อนจะใช้ริมฝีปากคมบดเบียดและจูบย้ำๆ ซ้ำๆ อย่างเอาแต่ใจ มือใหญ่กดเรียวแขนให้แนบลงบนเตียงปิดกั้นแรงขัดขืนทุกวิถีทาง ดวงตากลมใสตวัดมองร่างสูงด้วยสายตาแข็งกร้าว แต่กลับต้องนึกแปลกใจเมื่อดวงตาที่จ้องมองเขาอยู่นั้น ฉายแววไร้ความเจ้าเล่ห์อย่างครั้งก่อนๆ ดูอ่อนลงอย่างเห็นได้ชัด ยิ่งจ้องมองกลับมากเท่าไหร่ หัวใจก็ยิ่งเต้นระส่ำจนควบคุมไม่ได้ เผลอไผลปิดเปลือกตารับจูบครั้งนี้ ยอมให้เรียวปากคมไล้สัมผัสตั้งแต่ข้างแก้ม คางมน ลำคอขาว ยอมให้มือของซาตานตัวร้ายค่อยๆ แหวกคอเสื้อตัวบางให้กว้างออก นิ้วเรียวสะกิดเม็ดกระดุมทีละเม็ดเพราะแน่ใจแล้วว่าร่างบางนิ่งไม่ขัดขืน มืออีกข้างที่ว่างจึงสอดโอบรัดเอวคอด ดึงเสื้อสีขาวๆ บางๆ ให้หลุดออกจากนางฟ้าองค์น้อยเสีย ผิวกายขาวละเอียดราวกับปุ้ยนุ่นเผยกระจ่างให้เขาได้เชยชม มือหนาลากผ่านเรียวขายาวที่สั่นเกร็ง ความคิดในหัวสมองกำลังเตลิดเปิดเปิงเพียงเพราะเห็นเรียวหน้าหวานกำลังทรมานเพราะสัมผัสของเขา ร่างบางเริ่มกัดปากอิ่มของตัวเองจนเริ่มแดงช้ำ มือขาวจิกเล็บลงบนผ้าห่มเพราะความรุ่มร้อนในกายกำลังถาโถม ร่างสูงแย้มยิ้มพอใจก่อนจะค่อยๆ ต่อสัมผัสเพื่อให้ร่างบางทรมานน้อยมากที่สุด
เรียวขาเปลือยเปล่าค่อยๆ ถูกแยกออกช้าๆ ใบหน้าหวานคอยแต่จะเหยเกขึ้นเรื่อยๆ เมื่อรับรู้ถึงสัมผัสแปลกใหม่ที่ถูกส่งมอบมาจากร่างสูง ผิวกายร้อนที่ถูกแตะสัมผัสกันโดยปราศจากเสื้อผ้าอาภรณ์ยิ่งทำให้หัวใจของคนตัวเล็กเต้นถี่ รู้สึกถึงลมหายใจอุ่นๆ ที่รินรดอยู่บนหน้าผากมน มือบางเริ่มออกแรงจิกลงบนแผ่นหลังกว้าง ทรมานแต่แปลกที่หัวใจกลับเต้นตอบรับการกระทำของซาตานตรงหน้าเสียจนเริ่มหยุดไม่ได้
...หัวใจคนเรามันห้ามกันไม่ได้จริงๆ ฉันคงต้องยอมนายใช่ไหม…ซีวอน...
...พี่ทงแฮหัวใจของพี่มันยอมใจอ่อนเอง
...หรือเพราะว่า ผมรักซาตาน...เข้าแล้วจริงๆ
เพียงแค่จะขยับตัวก็รู้สึกเจ็บร้าวไปทั้งสะโพก เรียวหน้าหวานบิดเบี้ยวไม่น่ารักเพราะได้กลิ่นคาวเลือด รอยคราบแดงคล้ำที่ยังแสดงเด่นชัดบริเวณต้นขาขาวและผ้าปูที่นอนสีขาวสะอาดยิ่งได้เห็นก็ยิ่งนึกโมโหตัวเอง ถึงแม้เขาจะยอมให้เรื่องพรรค์นี้มันก็เกิดขึ้น แต่เพราะอะไรล่ะ เขาถึงต้องยอมแบบนี้...
...หัวใจมันสั่งการสินะ
ดวงตากลมกวาดมอบรอบห้องนอนก็พบเพียงความว่างเปล่า ซาตานนิสัยเสียไม่รู้ว่าหายตัวไปไหน ก้าวขายาวลงจากเตียงนุ่มก่อนจะพยุงตัวเองเข้าไปในห้องน้ำ รู้สึกรำคาญตัวเองอย่างบอกไม่ถูก ถ้าได้อาบน้ำสักหน่อยก็คงช่วยให้สดชื่นขึ้นบ้าง
ก้าวออกจากห้องน้ำไม่เท่าไหร่ก็ต้องนึกหงุดหงิดอีกครั้ง เสื้อผ้าที่ใส่เมื่อคืนหมอนั่นคงเอาไปส่งซักแหงๆ หายไปหมดเลย...แล้วเขาจะใส่อะไรล่ะ...คิดได้ดังนั้นก็จัดการเปิดตู้เสื้อผ้าที่อยู่ใกล้ๆ ไม่ได้จะนึกถือวิสาสะอะไรหรอก...แต่จะให้เอาอะไรมาใส่เล่า...ให้เอาผ้าห่มมาคลุมตัวเดี๋ยวอีตานั่นก็จะทำเรื่องบ้าๆ อีก มือเรียวพยายามควานหาเสื้อที่คิดว่าตัวเล็กและเขาจะสามารถใส่ได้ แต่ก็ต้องเบ้หน้ายิ่งกว่าเก่าในเมื่อตู้เสื้อผ้าหลังโตนี้มีแต่เสื้อไซส์ใหญ่ๆ ทั้งนั้น คิดตัดใจจะหาเสื้อพอดีตัวมือเรียวจึงคว้าเอาเสื้อเชิ้ตตัวใหญ่ๆ มาใส่มันซะเลย ยุ่งยากนักเชียว...เดี๋ยวค่อยไปโวยวายกับซีวอนก็ได้...ร้องตะเบ็งเสียงใส่หน่อยก็คง
...เรียบร้อยมั้ง (?)
แสงสว่างที่ส่องลอดมาจากภายนอกห้องนอนทำให้คยูฮยอนรู้ว่า ไอ้คนตัวสูงๆ ยักษ์ๆ คงนั่งหายใจทิ้งอยู่ในนั้นอย่างไม่ต้องสงสัย ครั้นจะเปิดประตูห้องนอน มือเรียวก็หยุดชะงักไว้เพียงเท่านั้น ซีวอนกำลังนั่งอยู่บนโซฟาตัวยาวในห้องรับแขกแถมกำลังคุยอยู่กับใครสักคน คยูฮยอนออกแรงผลักประตูให้กว้างออกเพียงนิดพลางจ้องมองไปยังบุคคลปริศนาให้เห็นหน้าคล้าตาชัดที่สุด ทั้งที่ไม่ใช่คนชอบยุ่งเรื่องชาวบ้าน แต่เพราความสงสัยเขาจึงจำต้องยอมเป็นคนเสียมารยาทสักพัก
“ไหนล่ะซีดี” เสียงของใครอีกคนเอ่ยขึ้นพลางยื่นมือมารับแผ่นซีดีบางอย่างจากร่างสูง ทันทีที่มือใหญ่ส่งแผ่นซีดีนั้นไป เสียงหัวเราะเหยียดก็ดังขึ้นจากเรียวปากหวาน
“จบเรื่องแล้วใช่ไหม”
“คงงั้น...ซีวอนฉันถามหน่อยสิ...นังเด็กนั้นมันเป็นยังไงบ้าง...”
...นังเด็กนั้นงั้นหรอ?
“ไม่ตายก็ดีขนาดไหนแล้ว...อ่อนแอขี้โรคขนาดนั้น ฉันใจดีขนาดไหนแล้วที่ไม่รุนแรงจนตายคาอกไปซะก่อน”
“นายจะทำให้มันตายๆ ไปฉันก็ไม่ว่าหรอกนะ”
“ใจร้ายไปมั้ง...นั่นมันน้องของนายเองนะ ทงแฮ”
…ไม่จริง!!!!
แค่คำพูดไม่กี่ประโยคก็ทำเอาคยูฮยอนถึงกับทรุดลง ใครที่ว่าไม่ใช่คนไกลตัวที่ไหน...พี่ชายคนเดียวที่เขารักมากที่สุด...พี่ชายที่คิดว่าตายไปเพราะตัวเขา กำลังนั่งยิ้มร้าย สะใจที่เห็นเขาต้องถูกหลอกซ้ำแล้วซ้ำอีก
…พี่ทำอย่างงี้ได้ยังไง?
“โง่ๆ อย่างมัน...ฉันจะไปสงสารทำไม...ทำเป็นป่วยเป็นโรคลิ้นหัวใจรั่ว ทำตัวเป็นเด็กไร้เดียงสาอ่อนต่อโลก...ฉันล่ะหมั่นไส้...พ่อแม่โอ้มันจะตายไป...ฉันอยากจะเห็นหน้ามันจริงๆ ถ้านังเด็กขี้โรคมันรู้ว่าโลกแห่งความเป็นจริงมันเป็นยังไง...อ๋อ...ถ้ารู้ว่าตัวเองได้เป็นนางเอกหนังโป๊โดยไม่ได้ตั้งใจ มันคงจะ...ช็อคจนเป็นบ้า...ไม่สิ...คงหัวใจวายตายแหงๆ” ใบหน้าหวานๆ ช่างไม่เหมาะกับความคิดและคำพูดเลวร้ายเอาซะเลย รอยยิ้มร้ายคอยแต่จะผุดขึ้นทั้งจากเรียวปากทั้งจากดวงตาใสซื่อ แต่ว่า...ทงแฮคงพูดจุดจบของตัวเขาผิดไปหน่อย...ไอ้อาการช็อคหรืออะไรนั้น ไม่ได้เกิดขึ้นกับร่างบางเลยแม้แต่น้อย รู้สึกถึงเลือดในกายกำลังพุ่งพล่าน น้ำตาไม่มีไหลออกมาแม้แต่หยดเดียว คยูฮยอนไม่ได้รู้สึกเสียใจ...แค่…
...แค้นใจมากกว่า!
“พี่ทงแฮ...!!!” ร้องเรียกชื่อพี่ชายของตัวเองสุดเสียงพลางก้าวออกมายืนประจันหน้ากับร่างเพรียวบางที่เอาแต่นั่งไขว้ห้างมองเขาด้วยสายตาเย้ยหยัน
“คยูฮยอน...” ซีวอนก็ตกใจไม่แพ้กันที่จู่ๆ คยูฮยอนก็โผล่พรวดเข้ามาแบบนี้ ถึงได้ร้องเรียกชื่อร่างบางออกไปแบบนั้น สิ่งที่ได้รับกลับมามีเพียงสายตาว่างเปล่าของคนตัวเล็กเท่านั้น
“นายมันซาตานจริงๆ ซีวอน...ฉันผิดหวังที่เชื่อนาย”
“ไม่ต้องไปว่าซีวอนเขาหรอก...คยูฮยอนน้องรัก...นายน่ะมันโง่เองที่หลงเชื่อซีวอนเค้า...โง่ที่ยังคิดว่าฉันคือพี่ชายที่แสนดี...โง่...โง่เสียไม่มี” ว่าพลางยื่นนิ้วเรียวไปผลักหน้าผากมนอย่างสะใจ คยูฮยอนไม่ได้ตอบโต้อะไรทงแฮ จะมีก็แต่...รอยยิ้มที่ค่อยๆ เผยบนเรียวหน้าหวานใส
“ใครกันแน่ที่โง่...พี่ทงแฮ...พี่นั้นแหละที่ยังโง่...โง่ดักดาน...”
“นังเด็กบ้า!!! แกมีสิทธิอะไรมาว่าฉันฮะ!!!” คำพูดเสียดแทงของคยูฮยอนเล่นเอาทงแฮถึงกับปรี๊ดแตก ...เด็กนี้มันกล้าดียังไง...
“คยูฮยอนเขาพูดถูกนะทงแฮ”
“ซีวอน!!!”
ทงแฮกำลังอยู่ในสถานะโมโห อารมณ์เดือดพล่านจนถึงมากที่สุด ก็ในเมื่อจู่ๆ ซีวอนผู้ร่วมมือในแผนการครั้งนี้กลับเอนเอียงไปทางน้องชายของเขาเอง แถมยังดึงตัวคยูฮยอนในนั่งลงบนหน้าตักเสียอีก ...นี้มันเกิดเรื่องบ้าอะไรกัน!
“อะไรกันซีวอน...ได้กับนังเด็กนี้แค่ครั้งเดียว...ก็ติดใจมันแล้วหรอ?”
“เปล่า...ฉันนะถูกใจนางฟ้าองค์น้อยมาตั้งนานแล้วล่ะ ทงแฮ” ว่าพลางยกมือใหญ่ไล้สัมผัสลงบนแก้มเนียนของคนตัวเล็กบนหน้าตัก คยูฮยอนส่งยิ้มหวานให้แก่ซีวอนก่อนจะหันกลับมาจ้องมองใบหน้าของทงแฮด้วยสายตาผู้ชนะ
“พี่ควรจะรู้เอาไว้นะว่าผมกับซีวอนเรารู้จักกันดี...แถมเรายัง...คบกันมาตั้ง 5 ปีแล้วด้วย ใช่ไหม ตัวใหญ่”
“ถูกแล้วครับตัวเล็ก”
…เสียหน้า...ความรู้สึกเดียวที่ทงแฮกำลังรู้สึก นอกจากจะอึ้งกับการกระทำของบุคคลทั้งสองที่ส่งสายตาหวานซึ้งให้กันแล้ว ทงแฮยังรู้สึกอยากจะร้องตะโกนใส่หน้านังน้องชายตัวดีอีกเสียด้วย
...นี่มันหักหน้ากันชัดๆ
“นี่หมายความว่า...”
“หัวใจของผมที่มันอ่อนแอมาตั้งแต่เด็ก ผมก็ได้รับการเปลี่ยนถ่ายมาตั้งแต่ 2 ปีที่แล้วเพราะพ่อของซีวอนเป็นคุณหมออยู่ที่อเมริกา ผมถึงได้รับสิทธิเปลี่ยนหัวใจเร็วกว่ากำหนด เห็นไหมล่ะว่าเรารักกันมากขนาดไหน ซีวอนถึงได้ทำทุกอย่างเพื่อผม...แล้วพี่ล่ะ แทนที่จะเอาเวลาที่พี่มาทำเรื่องไร้สาระแบบนี้ สู้เอาไปดูแลพี่ฮันคยองไม่ให้เขานอกใจพี่ดีกว่าไหม?” ว่าพลางซุกหน้าลงบนอกแกร่ง เอาเรียวหน้าหวานมุดแผ่นอกของคนตัวสูงจนพอใจ แขนเรียววาดขึ้นโอบรอบคอของร่างสูง ก่อนจะหันมายิ้มร้ายให้แก่ทงแฮอีกครั้ง
“นังน้องตัวแสบ”
“พี่ทงแฮ พี่ลองนึกดูดีๆ สิว่าผมเรียนคณะอะไร” คยูฮยอนว่าน้ำเสียงทะเล้นพลางส่งสายตาใสซื่อยั่วอารมณ์โกรธของทงแฮให้พุ่งสูงขึ้น
“นิเทศศาสตร์ สาขาการแสดง!!!”
“ถูกต้องแล้วครับ...แหม...การแสดงแค่นี้เบาะๆ ยิ่งได้แสดงกับพระเอกในชีวิตจริงแล้วล่ะก็ มันก็ยิ่งสมจริงเข้าไปใหญ่...”
“นังเด็ก…”
“จะว่านางฟ้าของฉันไปถึงไหนทงแฮ แค่นายโขกสับคยูฮยอนมาตั้งแต่เด็กๆ ฉันก็รับไม่ได้พอแล้ว นายยังจะเอาอะไรอีก...” ซีวอนเอ่ยน้ำเสียงเรียบ กระตุกยิ้มที่มุมปากก่อนฝ่ามือหนาจะยกขึ้นลูบกลุ่มผมนิ่มอย่างเบามือ...จากที่ฟังคยูฮยอนเล่าเรื่องทุกอย่างให้เขารับรู้ตลอดช่วงเวลาที่คบกัน ทงแฮน่ะ...แม่มดชัดๆ หน้าฉากทำเป็นพี่ชายใจดี แต่พอลับหลังแล้วล่ะก็...ทั้งรังแก ทั้งโขกสับนางฟ้าองค์น้อยๆ ของเขาสารพัด ก็อย่างที่รู้กัน เพราะคยูฮยอนป่วยเป็นโรคลิ้นหัวใจรั่ว พ่อแม่ถึงได้ดูแลและโอ้คยูฮยอนจนทงแฮรู้สึกอิจฉา ถึงได้พยายามสร้างเรื่องโกหกครั้งใหญ่ ดึงเขาเข้าไปเป็นตัวละครด้วย โดยที่ไม่นึกเอะใจเลยว่า เขาเป็นคนรักของคยูฮยอนมาตั้งแต่คนตัวเล็กยังเรียนไม่ทันจบไฮสคูลด้วยซ้ำ
“ฉันจะเอาเลือดหัวมันออก” ว่าเสียงสูงหวังจะยื่นมือไปจิกผมคนตรงหน้าให้หายแค้นเสียหน่อย แต่ก็โดนมือหนาคว้าข้อมือเอาไว้เสียก่อน ดวงตาคมกำลังวาวโรจน์จนน่ากลัว
“พอได้แล้วทงแฮ...ออกไปซะ...ส่วนซีดีนะเอาไปดูเล่นแก้โง่ก็แล้วกัน”
“ซีวอน!!! นายหักหลังฉัน ไอ้เลว!!!”
“อย่ามาว่าตัวใหญ่ของผมนะ...ไปๆ ชิ่วๆ ออกไปเลยไป อยู่ไปก็รกห้องคนอื่นเขา” คยูฮยอนเอ่ยเยาะเย้ยพลางยกมือเรียวโบกไล่ทงแฮให้ออกจากห้องคอนโดซะ ร่างเพรียวได้แต่ส่งเสียงฮึดฮัดในลำคอก่อนจะก้าวตึงตังออกจากห้องไป แถมด้วยเสียงหัวเราะเบาๆ ของคยูฮยอนเป็นการส่งแขก
“ให้มันรู้กันไปสิ...ว่าคนเราก็สู้คนเป็นเหมือนกัน อ๊ะ...ตัวใหญ่” หัวเราะคิกคักได้ไม่เท่าไหร่ก็ถูกแขนแกร่งดึงเข้าไปกอดจากทางด้านหลังเสียเต็มตัว คางได้รูปวางลงบนไหล่ลาดก่อนจะเอ่ยน้ำเสียงกระซิบที่กกหู
“ตัวเล็ก...ตัวใหญ่อุตส่าห์ลาพักร้อนมาตั้งอาทิตย์แน่ะ นี่ผ่านไปไม่กี่วันเอง...เหลือเวลาอีกตั้งเยอะจะทำอะไรดีนะ?”
“ตัวเล็กจะไปรู้เหรอ...ไม่รู้ไม่ชี้” อ่า~ หน้ากำลังร้อนจนแทบระเบิดแล้วนะ...ตัวใหญ่ มือบางยกขึ้นลูบแก้มขาวที่ร้อนจัดจนรู้สึกได้ ดีนะไม่ได้มองหน้ากันตรงๆ ไม่งั้นมีหวังโรคหัวใจกำเริบกันพอดี
“ช่วยตัวใหญ่คิดหน่อยสิ...” ว่าไม่ว่ากล่าวกลับโน้มหน้าลงมาขโมยหอมแก้มขาวเสียเต็มปอด
“ไม่รู้...เค้าไม่รู้กับตัวใหญ่แล้ว” ถึงจะพูดอย่างนั้นก็เถอะ จะดีดตัวเองออกจากร่างสูงก็ไม่ได้แล้วแถมอีกมือที่ว่างของซาตานตัวร้ายกลับค่อยๆ เลิกชายเสื้อเชิ้ตตัวใหญ่ที่ตอนแรกยาวคลุมเข่าให้สูงขึ้นจนเผยให้เห็นเรียวขาขาว
“จับนางฟ้ากินดีกว่า!!!”
...ซาตานไม่ควรคู่กับนางฟ้า...
...แต่ถ้าเป็นซาตานรูปหล่อที่ชื่อ ชเว ซีวอน กับนางฟ้าตัวแสบอย่าง โจ คยูฮยอนแล้วล่ะก็...
...เหมาะสมและคู่ควรกันเห็นๆ...
The End*
ความคิดเห็น