ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [BB+WG+SJ] Nervous Love [จบแล้ว]

    ลำดับตอนที่ #8 : ตอนที่ 7 : Wedding Dress

    • อัปเดตล่าสุด 22 เม.ย. 54


    มินซอนเยกำลังหวาดกลัว..
     
    ตอนนี้…เธอนั่งอยู่ในรถลีมูซีนคันหรูที่กำลังแล่นไปอย่างช้าๆบนถนนอันพลุกพล่านของกรุงโซล เพื่อจะไปงานแต่งงานของตัวเอง..
     
    มันก็คงจะไม่ผิดปกติอะไร หากเธอไม่ได้นั่งอยู่ข้างผู้ชายคนนี้..
     
    ร่างโปร่งที่นั่งข้างๆซอนเยเวลานี้..อยู่ในชุดสูทสีขาวที่เข้ากันอย่างยิ่งกับผมสีทองของเขา และเข้ากันอย่างที่สุดกับชุดที่ซอนเยกำลังสวมอยู่..
     
    ชุดเจ้าสาว..
     
    เหมือนแบบที่เธอเคยไปเลือกไว้กับดงเฮไม่มีผิด..เหมือนจนซอนเยอดคิดไม่ได้ว่า..มีการเตรียมการกันไว้มานานแล้วหรืออย่างไร..
     
    แล้วที่เขาจะพาเธอไปงานแต่ง..จะมีจุดประสงค์อะไร?
     
    “คงไม่ได้คิดที่จะหนีหรอกนะ?”
     
    เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นคนตัวเล็กเริ่มจะลอกแลก ซอนเยส่ายหน้า
     
    “เปล่า..ไม่ได้คิด..”
     
    หญิงสาวตอบพลางมองมือของจียงที่ซุกไว้ในกระเป๋าเสื้ออย่างหวาดหวั่น..
     
    เธอจำได้แม่นยำว่า…เขาเก็บมีดพับไว้ตรงกระเป๋าเสื้อข้างนั้น..
     
    และจากท่าทางที่เห็นนี่..ดูเหมือนจะพร้อมที่จะเอามันออกมาใช้ได้ทุกเมื่อเสียด้วย..
     
    “อย่าห่วงเลยน่า..ชั้นไม่พาเธอไปส่งที่อื่นหรอก รับรองว่าจะไปส่งให้ถึงบันไดโบสถ์เลยล่ะ ”
     
    จียงพูดยิ้มๆ..หากแต่เป็นยิ้มที่ดูไม่น่าไว้ใจสักนิด..ความวิตกกังวลของซอนเยยิ่งเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ..
     
    จากรอยยิ้มและสายตาแบบนั้น..
     
    เธอบอกกับตัวเองได้เลยว่า..ทุกอย่างมันคงไม่จบลงแค่ที่ “บันไดโบสถ์” แน่..
     
    แต่จะจบลงที่ไหน ซอนเยก็ไม่สามารถจะคาดเดาการตัดสินใจของผู้ชายคนนี้ได้..
     
    คนอย่างเขา..ทำได้ทุกอย่างแน่ๆ..
     
    ไม่เว้นแม้แต่..
     
    ฆ่าเธอ..
     
    “ถ้ายังไม่เชื่อชั้น ก็ถามแดซองดูแล้วกัน นายจะพาซอนเยไปส่งถึงโบสถ์แน่ใช่ไหม แดซอง”
     
    จียงแกล้งร้องถามแดซอง ทำให้เจ้าตัวที่ขับรถอยู่ต้องตอบอย่างเสียไม่ได้
     
    “ครับ..”
     
    เสียงติดกังวลแบบนั้นทำให้ซอนเยอดที่จะมองเขาผ่านกระจกส่องหลังไม่ได้..
     
    ใบหน้าอ่อนโยนแบบนั้น เหมือนเธอเคยเห็นที่ไหนมาก่อน..
     
    แต่ก็คงจะนานเหลือเกิน..นานเสียจนจำไม่ได้..
     
    “ถามอะไรหน่อยได้มั้ย..”
     
    เสียงหวานๆเอ่ยขึ้นเบาๆ ตาคมของจียงจึงมองมาที่เธออย่างสนใจ..
     
    น้ำเสียงนั้นเต็มไปด้วยความกลัวที่ซ่อนไว้ยังไงก็ไม่มิด
     
    แถมตอนที่พูด..ก็ไม่ยอมมองมาที่เขาแม้แต่น้อย..
     
    กลัวตายเป็นเหมือนกันหรือ..มินซอนเย?
     
    “ก็ถามสิ”
     
    เสียงอนุญาตเรียบๆ ทำให้ซอนเยตัดสินใจเอ่ยคำถามออกมาในที่สุด
     
    “นายเป็นใคร..แล้วนาย..ทำอย่างนี้ทำไม..”
     
    ทันทีที่จบคำถามนั้น รอยยิ้มก็ผุดขึ้นที่มุมปากของคนตัวสูงกว่าแวบหนึ่ง
     
    “เหตุผลน่ะ..สักวันเธอก็จะรู้เอง ไม่ต้องรีบร้อนถามหรอก”
     
    ร่างโปร่งว่าพลางโน้มใบหน้าเข้ามาหาจนซอนเยต้องถอยหนี..ทั้งที่เธอเองก็นั่งแทบจะติดประตูรถอยู่แล้ว..
     
    “ส่วนคำถามแรกน่ะ.. มีคำตอบให้ก็ได้”
     
    มือเรียวยกขึ้นมาจับปลายผมของเธอแล้วหมุนเล่นเบาๆ หน้าคมผุดรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ที่ทำเอาซอนเยแทบจะหยุดหายใจลงเสียตรงนั้น..
     
    “ชั้นชื่อ..จียง..จำเอาไว้ให้ดีล่ะ..”
     
    *
    *
    *
     
    “เยอึน..ซอนเยมาหรือยัง?”
     
    เสียงทุ้มๆของดงเฮทำให้เยอึนที่ยืนกระวนกระวายอยู่หน้าโบสถ์ถึงกับสะดุ้งเฮือก เธอค่อยๆหันมาเผชิญหน้ากับเขาก่อนจะยิ้มกลบเกลื่อน
     
    “ยังเลย..คงยังไม่เสร็จมั้ง..”
     
    “นี่มันเลยเวลามาครึ่งชั่วโมงแล้วนะ ปกติซอนเยก็ไม่ใช่คนมาสายแบบนี้ มีปัญหาอะไรหรือเปล่า?”
     
    คำถามตรงๆนั้นทำให้เยอึนทำหน้าไม่ถูก..ไม่รู้จะตอบอย่างไรดี..ก็ไม่ว่าจะพูดอะไรไปตอนนี้ มันก็คือคำโกหกทั้งนั้น..
     
    เจ้าสาวมาสายทั้งๆที่ญาติคนอื่นๆมากันครบแบบนี้..ใครบ้างจะไม่สงสัย
     
    ยิ่งคนฉลาดอย่างลีดงเฮด้วยแล้ว..โกหกเขาได้ไม่นานแน่ๆ
     
    “คุณเฮอิน ใจเย็นๆสิคะ”
     
    “ไม่เย็นแล้วค่ะคุณจองซุก ชั้นรอลูกสาวคุณมาครึ่งชั่วโมงแล้วนะคะ และชั้นก็จะไม่รออีกต่อไปแล้วด้วย ชั้นจะล้มเลิกงานแต่งงาน!”
     
    เสียงของคุณนายลีที่ดังก้องโบสถ์เรียกความสนใจจากแขกในงานได้เป็นอย่างดี คุณนายปาร์คจองซุกถึงกับหน้าถอดสี
     
    “โธ่..คุณเฮอิน..อย่าเสียงดังสิคะ”
     
    “ไม่ต้องกลัวอายหรอกค่ะคุณจองซุก ยังไงหลังจากวันนี้ไปเค้าก็ต้องเอาไปพูดกันอยู่แล้วว่างานแต่งนี้มันล่ม! ล่มเพราะเจ้าสาวไม่มางาน!!”
     
    “แม่ครับ ใจเย็นๆครับ”
     
    เยอึนมองตามดงเฮที่เข้าไปปลอบแม่ตัวเองแล้วถอนใจ หญิงสาวอาศัยจังหวะนั้นเดินเลี่ยงออกไปด้านนอกโบสถ์ทันที
     
    “ซอนเย…เธอไปอยู่ที่ไหนนะ..”
     
    หญิงสาวพึมพำกับตัวเองอย่างกลุ้มใจ..ถ้าซอนเยจะหนีงานแต่งไปเธอก็ไม่ว่า..แต่การที่หนีไปโดยไม่บอกพี่สาวอย่างเธอนี่สิ..มันไม่ใช่วิสัยของซอนเยเลยสักนิด..
     
    “พี่เยอึนคะ”
     
    เสียงหวานๆที่คุ้นหูทำให้เยอึนเงยหน้าขึ้นทันที และพอเห็นเจ้าของเสียงที่ยืนอยู่ตรงหน้า เยอึนก็ยิ้มกว้างออกมาอย่างดีใจ
     
    “ซอนเย!!!”
     
    ร่างเล็กโผเข้ากอดพี่สาวแน่นด้วยความดีใจไม่แพ้กัน อยากจะบอกออกไปเหลือเกินว่าต้องเจออะไรมาบ้าง..แต่เรื่องที่เจอมันเลวร้ายเกินกว่าจะบอกให้ใครรับรู้ได้..
     
    และถ้าบอกให้เยอึนรู้..อาจจะเกิดอันตรายขึ้นกับพี่สาวเธออีกคนก็ได้..
     
    “เธอหายไปไหนมาทั้งคืนน่ะฮึ จะหนีงานแต่งทำไมไม่บอกพี่ดีๆ พี่จะได้ช่วย ทำแบบนี้พี่เป็นห่วงนะรู้มั้ย ”
     
    “คือชั้น…”
     
    “เอาล่ะๆ ช่างมันเถอะ ไม่ต้องอธิบายอะไรแล้ว .. ตกลงเธอจะแต่งงานกับดงเฮใช่มั้ย”
     
    “ค่ะ..”
     
    “ถ้างั้นก็เข้าไปข้างในเถอะ..ตอนนี้วุ่นวายกันใหญ่แล้ว”
     
    เยอึนว่าพร้อมกับจูงมือน้องสาวให้เดินเข้าไปในงาน ซอนเยกระชับผ้าคลุมไหล่ไว้แน่น..อดหันไปมองที่หน้าโบสถ์อีกครั้งไม่ได้..
     
    รถลีมูซีนคันนั้นหายไปแล้ว…
     
    *
    *
    *
     
    “ซอนเย!!”
     
    ทันทีที่หญิงสาวก้าวเข้ามาในโบสถ์ ดงเฮก็โผเข้ากอดเธอด้วยความดีใจ เยอึนจึงต้องปล่อยมือน้องสาวออกอย่างจำใจ
     
    และเมื่อคลายมือออก…เยอึนก็สะดุดเข้ากับอะไรบางอย่าง..
     
    แผลที่ข้อมือเล็กๆนั่น..มาจากไหน??
     
    “พี่คิดแล้วว่าซอนเยต้องมา พี่ดีใจจริงๆที่เห็นเธอ.. ดีใจจริงๆ..ดีใจจริงๆ..”
     
    ดงเฮพร่ำพูดคำเดิมซ้ำๆอย่างปลื้มปีติ เขากอดร่างเล็กแน่นจนเจ้าตัวรู้สึกเจ็บไปหมด..
     
    ร่องรอยที่จียงกระทำไว้ ทั้งกายและใจ…มันยังคงฝังลึกอยู่ทุกส่วนในร่างกายของเธอ..
     
    จะให้กอดกับ “เจ้าบ่าว” อย่างดงเฮได้อย่างไร?
     
    “เอาเป็นว่างานนี้ไม่ยกเลิกนะคะ คุณเฮอิน”
     
    ปาร์คจองซุกเอ่ยเสียงหวานอย่างสมใจ..คุณนายลีเฮอินได้แต่นิ่ง..มองลูกชายที่กอดซอนเยไว้แน่นแล้วถอนใจออกมาเบาๆ
     
    “บอกบาทหลวงเริ่มพิธีได้เลยค่ะ”
     
    ดงเฮยิ้มกว้างออกมาอย่างดีใจ แต่ไม่เท่ากับคุณนายปาร์คจองซุกที่ฉีกยิ้มกว้างแทบจะถึงใบหู หล่อนหันไปบอกบาทหลวงที่นั่งอยู่มุมหนึ่งของโบสถ์ด้วยเสียงเจื้อยแจ้ว
     
    “คุณพ่อคะ เริ่มพิธีได้เลยค่ะ”
     
    *
    *
    *
    *
     
    “ลีดงเฮ..ลูกจะรับผู้หญิงคนนี้เป็นภรรยาของลูก จะปกป้อง ดูแล และรักเธอเพียงผู้เดียวตลอดไปหรือไม่”
     
    ในขณะที่เสียงของบาทหลวงดังก้องไปทั้งโบสถ์แห่งนั้น..ดงเฮก็เอาแต่จ้องมองซอนเยด้วยสายตาที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความรักอย่างมากมาย..มากจนซอนเยรู้สึกละอายใจ..
     
    ทั้งที่รู้ดีว่าเธอไม่ใช่เจ้าสาวที่บริสุทธิ์สำหรับเขาอีกแล้ว..
     
    แต่เธอจะทำให้งานนี้ล่มไม่ได้..
     
    เธอปฏิเสธดงเฮไม่ได้..
     
    “ตลอดชีวิตของผม..ผมไม่เคยรักใครเท่าเธอมาก่อน..และผมก็คิดว่า..ผมคงไม่สามารถรักใครได้มากเท่านี้อีกแล้ว..ผมขอรับเธอเป็นภรรยา ด้วยหัวใจทั้งหมดที่ผมมีครับ”
     
    สิ้นคำพูดของดงเฮ บรรดาแขกเหรื่อก็พากันปรบมือเสียงดังกึกก้อง เสียงเป่าปากอย่างชอบใจดังไปทั่วทั้งโบสถ์ ในขณะที่ปาร์คเยอึนก็ได้แต่หันไปมองน้องสาวอย่างเป็นห่วง..
     
    ตอนนี้..ซอนเยไม่เหมือนเจ้าสาวที่กำลังมีความสุขเลยแม้แต่น้อย..
     
    “แล้วลูกล่ะ มินซอนเย จะยอมรับผู้ชายคนนี้เป็นสามี จะซื่อสัตย์ ดูแล และเป็นภรรยาที่ดีของเขาหรือไม่??”
     
    บาทหลวงหันมาเอ่ยถามซอนเยบ้าง หญิงสาวนิ่งงันไปเมื่อได้รับคำถามที่แสนหนักอึ้งแบบนั้น..
     
    ตาคู่สวยหันไปสบสายตาที่อ่อนโยนของดงเฮ ปากเรียวเม้มเข้าหากันแน่น..
     
    เมื่อจะเอ่ยประโยคนี้ออกไป..
     
    ซอนเยก็รู้ดีว่า..เธอกำลังจะทำบาปอย่างมหันต์..
     
    บาปที่เธอไม่สามารถหลีกเลี่ยงมันได้..
     
    “รับค่ะ..”
     
    เสียงปรบมือดังขึ้นทั้งโบสถ์อีกครั้ง ดงเฮยิ้มกว้างออกมาด้วยหัวใจที่เปี่ยมสุข..โดยที่ไม่รู้เลยว่า..ในหัวใจของซอนเยกำลังเต็มเปี่ยมไปด้วยความทุกข์อย่างมากมาย..
     
    “เมื่อลูกทั้งสองยอมรับกันและกันเช่นนี้แล้วก็ย่อมเป็นเรื่องที่น่ายินดี..แสดงว่าทั้งคู่ยินยอมที่จะใช้ชีวิตคู่ร่วมกันฉันสามีภรรยาแล้วจริงๆ..มีใครในที่นี้ประสงค์จะคัดค้านการแต่งงานครั้งนี้หรือไม่?”
     
    เมื่อบาทหลวงถามจบ..ทั้งโบสถ์ก็เงียบกริบราวกับนัดกันไว้ คุณนายปาร์คจองซุกเอ่ยออกมาเสียงแจ๋ว
     
    “ไม่คัดค้านค่า”
     
    “ถ้าอย่างนั้น..” บาทหลวงอมยิ้มนิดๆ ก่อนจะปิดพระคัมภีร์ในมือลง ในขณะที่ดงเฮยิ้มกว้างให้ซอนเยอย่างเป็นสุข “พ่อขอประกาศว่า..”
     
    “ผมขอคัดค้านครับ!”
     
    *
    *
    *

    ใครที่คิดว่าจีจะใจดีขนาดมาส่งมินถึงโบสถ์แล้วกลับบ้านอย่างเรียบร้อยล่ะก็..
     
    บอกได้คำเดียวว่า “ฝันไปเถอะ” :p 555+
     
    เปาลิม. “จองซุก” คือชื่อแม่ของเยจริงๆเลยนะคะ ตัวจริงเค้าไม่ใช่แบบนี้หรอก อันนี้มันเป็นแค่ฟิคค่ะ (เล่นถึงบุพการีของเยกันเลยทีเดียว เค้าขอโทษนะเฮียT^T)
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×