ลำดับตอนที่ #8
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : ตอนที่ 7 : Wedding Dress
มินซอนเยกำลังหวาดกลัว..
ตอนนี้
เธอนั่งอยู่ในรถลีมูซีนคันหรูที่กำลังแล่นไปอย่างช้าๆบนถนนอันพลุกพล่านของกรุงโซล เพื่อจะไปงานแต่งงานของตัวเอง..
มันก็คงจะไม่ผิดปกติอะไร หากเธอไม่ได้นั่งอยู่ข้างผู้ชายคนนี้..
ร่างโปร่งที่นั่งข้างๆซอนเยเวลานี้..อยู่ในชุดสูทสีขาวที่เข้ากันอย่างยิ่งกับผมสีทองของเขา และเข้ากันอย่างที่สุดกับชุดที่ซอนเยกำลังสวมอยู่..
ชุดเจ้าสาว..
เหมือนแบบที่เธอเคยไปเลือกไว้กับดงเฮไม่มีผิด..เหมือนจนซอนเยอดคิดไม่ได้ว่า..มีการเตรียมการกันไว้มานานแล้วหรืออย่างไร..
แล้วที่เขาจะพาเธอไปงานแต่ง..จะมีจุดประสงค์อะไร?
“คงไม่ได้คิดที่จะหนีหรอกนะ?”
เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นคนตัวเล็กเริ่มจะลอกแลก ซอนเยส่ายหน้า
“เปล่า..ไม่ได้คิด..”
หญิงสาวตอบพลางมองมือของจียงที่ซุกไว้ในกระเป๋าเสื้ออย่างหวาดหวั่น..
เธอจำได้แม่นยำว่า
เขาเก็บมีดพับไว้ตรงกระเป๋าเสื้อข้างนั้น..
และจากท่าทางที่เห็นนี่..ดูเหมือนจะพร้อมที่จะเอามันออกมาใช้ได้ทุกเมื่อเสียด้วย..
“อย่าห่วงเลยน่า..ชั้นไม่พาเธอไปส่งที่อื่นหรอก รับรองว่าจะไปส่งให้ถึงบันไดโบสถ์เลยล่ะ ”
จียงพูดยิ้มๆ..หากแต่เป็นยิ้มที่ดูไม่น่าไว้ใจสักนิด..ความวิตกกังวลของซอนเยยิ่งเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ..
จากรอยยิ้มและสายตาแบบนั้น..
เธอบอกกับตัวเองได้เลยว่า..ทุกอย่างมันคงไม่จบลงแค่ที่ “บันไดโบสถ์” แน่..
แต่จะจบลงที่ไหน ซอนเยก็ไม่สามารถจะคาดเดาการตัดสินใจของผู้ชายคนนี้ได้..
คนอย่างเขา..ทำได้ทุกอย่างแน่ๆ..
ไม่เว้นแม้แต่..
ฆ่าเธอ..
“ถ้ายังไม่เชื่อชั้น ก็ถามแดซองดูแล้วกัน นายจะพาซอนเยไปส่งถึงโบสถ์แน่ใช่ไหม แดซอง”
จียงแกล้งร้องถามแดซอง ทำให้เจ้าตัวที่ขับรถอยู่ต้องตอบอย่างเสียไม่ได้
“ครับ..”
เสียงติดกังวลแบบนั้นทำให้ซอนเยอดที่จะมองเขาผ่านกระจกส่องหลังไม่ได้..
ใบหน้าอ่อนโยนแบบนั้น เหมือนเธอเคยเห็นที่ไหนมาก่อน..
แต่ก็คงจะนานเหลือเกิน..นานเสียจนจำไม่ได้..
“ถามอะไรหน่อยได้มั้ย..”
เสียงหวานๆเอ่ยขึ้นเบาๆ ตาคมของจียงจึงมองมาที่เธออย่างสนใจ..
น้ำเสียงนั้นเต็มไปด้วยความกลัวที่ซ่อนไว้ยังไงก็ไม่มิด
แถมตอนที่พูด..ก็ไม่ยอมมองมาที่เขาแม้แต่น้อย..
กลัวตายเป็นเหมือนกันหรือ..มินซอนเย?
“ก็ถามสิ”
เสียงอนุญาตเรียบๆ ทำให้ซอนเยตัดสินใจเอ่ยคำถามออกมาในที่สุด
“นายเป็นใคร..แล้วนาย..ทำอย่างนี้ทำไม..”
ทันทีที่จบคำถามนั้น รอยยิ้มก็ผุดขึ้นที่มุมปากของคนตัวสูงกว่าแวบหนึ่ง
“เหตุผลน่ะ..สักวันเธอก็จะรู้เอง ไม่ต้องรีบร้อนถามหรอก”
ร่างโปร่งว่าพลางโน้มใบหน้าเข้ามาหาจนซอนเยต้องถอยหนี..ทั้งที่เธอเองก็นั่งแทบจะติดประตูรถอยู่แล้ว..
“ส่วนคำถามแรกน่ะ.. มีคำตอบให้ก็ได้”
มือเรียวยกขึ้นมาจับปลายผมของเธอแล้วหมุนเล่นเบาๆ หน้าคมผุดรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ที่ทำเอาซอนเยแทบจะหยุดหายใจลงเสียตรงนั้น..
“ชั้นชื่อ..จียง..จำเอาไว้ให้ดีล่ะ..”
*
*
*
“เยอึน..ซอนเยมาหรือยัง?”
เสียงทุ้มๆของดงเฮทำให้เยอึนที่ยืนกระวนกระวายอยู่หน้าโบสถ์ถึงกับสะดุ้งเฮือก เธอค่อยๆหันมาเผชิญหน้ากับเขาก่อนจะยิ้มกลบเกลื่อน
“ยังเลย..คงยังไม่เสร็จมั้ง..”
“นี่มันเลยเวลามาครึ่งชั่วโมงแล้วนะ ปกติซอนเยก็ไม่ใช่คนมาสายแบบนี้ มีปัญหาอะไรหรือเปล่า?”
คำถามตรงๆนั้นทำให้เยอึนทำหน้าไม่ถูก..ไม่รู้จะตอบอย่างไรดี..ก็ไม่ว่าจะพูดอะไรไปตอนนี้ มันก็คือคำโกหกทั้งนั้น..
เจ้าสาวมาสายทั้งๆที่ญาติคนอื่นๆมากันครบแบบนี้..ใครบ้างจะไม่สงสัย
ยิ่งคนฉลาดอย่างลีดงเฮด้วยแล้ว..โกหกเขาได้ไม่นานแน่ๆ
“คุณเฮอิน ใจเย็นๆสิคะ”
“ไม่เย็นแล้วค่ะคุณจองซุก ชั้นรอลูกสาวคุณมาครึ่งชั่วโมงแล้วนะคะ และชั้นก็จะไม่รออีกต่อไปแล้วด้วย ชั้นจะล้มเลิกงานแต่งงาน!”
เสียงของคุณนายลีที่ดังก้องโบสถ์เรียกความสนใจจากแขกในงานได้เป็นอย่างดี คุณนายปาร์คจองซุกถึงกับหน้าถอดสี
“โธ่..คุณเฮอิน..อย่าเสียงดังสิคะ”
“ไม่ต้องกลัวอายหรอกค่ะคุณจองซุก ยังไงหลังจากวันนี้ไปเค้าก็ต้องเอาไปพูดกันอยู่แล้วว่างานแต่งนี้มันล่ม! ล่มเพราะเจ้าสาวไม่มางาน!!”
“แม่ครับ ใจเย็นๆครับ”
เยอึนมองตามดงเฮที่เข้าไปปลอบแม่ตัวเองแล้วถอนใจ หญิงสาวอาศัยจังหวะนั้นเดินเลี่ยงออกไปด้านนอกโบสถ์ทันที
“ซอนเย
เธอไปอยู่ที่ไหนนะ..”
หญิงสาวพึมพำกับตัวเองอย่างกลุ้มใจ..ถ้าซอนเยจะหนีงานแต่งไปเธอก็ไม่ว่า..แต่การที่หนีไปโดยไม่บอกพี่สาวอย่างเธอนี่สิ..มันไม่ใช่วิสัยของซอนเยเลยสักนิด..
“พี่เยอึนคะ”
เสียงหวานๆที่คุ้นหูทำให้เยอึนเงยหน้าขึ้นทันที และพอเห็นเจ้าของเสียงที่ยืนอยู่ตรงหน้า เยอึนก็ยิ้มกว้างออกมาอย่างดีใจ
“ซอนเย!!!”
ร่างเล็กโผเข้ากอดพี่สาวแน่นด้วยความดีใจไม่แพ้กัน อยากจะบอกออกไปเหลือเกินว่าต้องเจออะไรมาบ้าง..แต่เรื่องที่เจอมันเลวร้ายเกินกว่าจะบอกให้ใครรับรู้ได้..
และถ้าบอกให้เยอึนรู้..อาจจะเกิดอันตรายขึ้นกับพี่สาวเธออีกคนก็ได้..
“เธอหายไปไหนมาทั้งคืนน่ะฮึ จะหนีงานแต่งทำไมไม่บอกพี่ดีๆ พี่จะได้ช่วย ทำแบบนี้พี่เป็นห่วงนะรู้มั้ย ”
“คือชั้น
”
“เอาล่ะๆ ช่างมันเถอะ ไม่ต้องอธิบายอะไรแล้ว .. ตกลงเธอจะแต่งงานกับดงเฮใช่มั้ย”
“ค่ะ..”
“ถ้างั้นก็เข้าไปข้างในเถอะ..ตอนนี้วุ่นวายกันใหญ่แล้ว”
เยอึนว่าพร้อมกับจูงมือน้องสาวให้เดินเข้าไปในงาน ซอนเยกระชับผ้าคลุมไหล่ไว้แน่น..อดหันไปมองที่หน้าโบสถ์อีกครั้งไม่ได้..
รถลีมูซีนคันนั้นหายไปแล้ว
*
*
*
“ซอนเย!!”
ทันทีที่หญิงสาวก้าวเข้ามาในโบสถ์ ดงเฮก็โผเข้ากอดเธอด้วยความดีใจ เยอึนจึงต้องปล่อยมือน้องสาวออกอย่างจำใจ
และเมื่อคลายมือออก
เยอึนก็สะดุดเข้ากับอะไรบางอย่าง..
แผลที่ข้อมือเล็กๆนั่น..มาจากไหน??
“พี่คิดแล้วว่าซอนเยต้องมา พี่ดีใจจริงๆที่เห็นเธอ.. ดีใจจริงๆ..ดีใจจริงๆ..”
ดงเฮพร่ำพูดคำเดิมซ้ำๆอย่างปลื้มปีติ เขากอดร่างเล็กแน่นจนเจ้าตัวรู้สึกเจ็บไปหมด..
ร่องรอยที่จียงกระทำไว้ ทั้งกายและใจ
มันยังคงฝังลึกอยู่ทุกส่วนในร่างกายของเธอ..
จะให้กอดกับ “เจ้าบ่าว” อย่างดงเฮได้อย่างไร?
“เอาเป็นว่างานนี้ไม่ยกเลิกนะคะ คุณเฮอิน”
ปาร์คจองซุกเอ่ยเสียงหวานอย่างสมใจ..คุณนายลีเฮอินได้แต่นิ่ง..มองลูกชายที่กอดซอนเยไว้แน่นแล้วถอนใจออกมาเบาๆ
“บอกบาทหลวงเริ่มพิธีได้เลยค่ะ”
ดงเฮยิ้มกว้างออกมาอย่างดีใจ แต่ไม่เท่ากับคุณนายปาร์คจองซุกที่ฉีกยิ้มกว้างแทบจะถึงใบหู หล่อนหันไปบอกบาทหลวงที่นั่งอยู่มุมหนึ่งของโบสถ์ด้วยเสียงเจื้อยแจ้ว
“คุณพ่อคะ เริ่มพิธีได้เลยค่ะ”
*
*
*
*
“ลีดงเฮ..ลูกจะรับผู้หญิงคนนี้เป็นภรรยาของลูก จะปกป้อง ดูแล และรักเธอเพียงผู้เดียวตลอดไปหรือไม่”
ในขณะที่เสียงของบาทหลวงดังก้องไปทั้งโบสถ์แห่งนั้น..ดงเฮก็เอาแต่จ้องมองซอนเยด้วยสายตาที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความรักอย่างมากมาย..มากจนซอนเยรู้สึกละอายใจ..
ทั้งที่รู้ดีว่าเธอไม่ใช่เจ้าสาวที่บริสุทธิ์สำหรับเขาอีกแล้ว..
แต่เธอจะทำให้งานนี้ล่มไม่ได้..
เธอปฏิเสธดงเฮไม่ได้..
“ตลอดชีวิตของผม..ผมไม่เคยรักใครเท่าเธอมาก่อน..และผมก็คิดว่า..ผมคงไม่สามารถรักใครได้มากเท่านี้อีกแล้ว..ผมขอรับเธอเป็นภรรยา ด้วยหัวใจทั้งหมดที่ผมมีครับ”
สิ้นคำพูดของดงเฮ บรรดาแขกเหรื่อก็พากันปรบมือเสียงดังกึกก้อง เสียงเป่าปากอย่างชอบใจดังไปทั่วทั้งโบสถ์ ในขณะที่ปาร์คเยอึนก็ได้แต่หันไปมองน้องสาวอย่างเป็นห่วง..
ตอนนี้..ซอนเยไม่เหมือนเจ้าสาวที่กำลังมีความสุขเลยแม้แต่น้อย..
“แล้วลูกล่ะ มินซอนเย จะยอมรับผู้ชายคนนี้เป็นสามี จะซื่อสัตย์ ดูแล และเป็นภรรยาที่ดีของเขาหรือไม่??”
บาทหลวงหันมาเอ่ยถามซอนเยบ้าง หญิงสาวนิ่งงันไปเมื่อได้รับคำถามที่แสนหนักอึ้งแบบนั้น..
ตาคู่สวยหันไปสบสายตาที่อ่อนโยนของดงเฮ ปากเรียวเม้มเข้าหากันแน่น..
เมื่อจะเอ่ยประโยคนี้ออกไป..
ซอนเยก็รู้ดีว่า..เธอกำลังจะทำบาปอย่างมหันต์..
บาปที่เธอไม่สามารถหลีกเลี่ยงมันได้..
“รับค่ะ..”
เสียงปรบมือดังขึ้นทั้งโบสถ์อีกครั้ง ดงเฮยิ้มกว้างออกมาด้วยหัวใจที่เปี่ยมสุข..โดยที่ไม่รู้เลยว่า..ในหัวใจของซอนเยกำลังเต็มเปี่ยมไปด้วยความทุกข์อย่างมากมาย..
“เมื่อลูกทั้งสองยอมรับกันและกันเช่นนี้แล้วก็ย่อมเป็นเรื่องที่น่ายินดี..แสดงว่าทั้งคู่ยินยอมที่จะใช้ชีวิตคู่ร่วมกันฉันสามีภรรยาแล้วจริงๆ..มีใครในที่นี้ประสงค์จะคัดค้านการแต่งงานครั้งนี้หรือไม่?”
เมื่อบาทหลวงถามจบ..ทั้งโบสถ์ก็เงียบกริบราวกับนัดกันไว้ คุณนายปาร์คจองซุกเอ่ยออกมาเสียงแจ๋ว
“ไม่คัดค้านค่า”
“ถ้าอย่างนั้น..” บาทหลวงอมยิ้มนิดๆ ก่อนจะปิดพระคัมภีร์ในมือลง ในขณะที่ดงเฮยิ้มกว้างให้ซอนเยอย่างเป็นสุข “พ่อขอประกาศว่า..”
“ผมขอคัดค้านครับ!”
*
*
*
ใครที่คิดว่าจีจะใจดีขนาดมาส่งมินถึงโบสถ์แล้วกลับบ้านอย่างเรียบร้อยล่ะก็..
บอกได้คำเดียวว่า “ฝันไปเถอะ” :p 555+
เปาลิม. “จองซุก” คือชื่อแม่ของเยจริงๆเลยนะคะ ตัวจริงเค้าไม่ใช่แบบนี้หรอก อันนี้มันเป็นแค่ฟิคค่ะ (เล่นถึงบุพการีของเยกันเลยทีเดียว เค้าขอโทษนะเฮียT^T)
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น