คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : Chapter 5 Just a deep kiss
“มินซอนเย...?”
คิมยูบินพึมพำออกมาเบาๆ เมื่อเห็นหน้าของดาวเด่นคนนั้นถนัดตา....ในขณะที่ท็อปเหลือบมองภรรยาสาวเล็กน้อยเมื่อได้ยินเธอเอ่ยชื่อมินซอนเยออกมาอย่างคุ้นเคย
ถึงซอนเยจะดูเปลี่ยนไปมาก ทั้งรูปร่างที่ดูบอบบางขึ้นและบุคลิกความเป็นผู้หญิงเปรี้ยวแบบที่ยูบินไม่เคยเห็น แต่ฟันกระต่ายคู่นั้นก็ทำให้เธอจำได้อย่างแม่นยำ....
น้องรหัสของเธอสมัยมหาวิทยาลัยนี่เอง.....
มินซอนเยเดินฝ่ากองทัพนักข่าวเข้ามาในงานท่ามกลางสายตานับร้อยคู่ที่มองมาอย่างสนใจ หญิงสาวตัดสินใจเดินเลี่ยงไปด้านข้างที่เป็นมุมค็อกเทลเพื่อจะหาโต๊ะวีไอพีที่ควอนจีฮยอนโทรบอกไว้ แต่แล้วก็ได้เจอกับคนรู้จักคนหนึ่งแบบไม่คาดคิด
“พี่แทยัง!!”
“อ้าว...ซอนเย มาได้ไงเนี่ย...”
ดงยองเบทักกลับพร้อมกับมองคนตรงหน้าอย่างดีใจ ซอนเยเป็นรุ่นน้องของเขาสมัยที่ยังเรียนมหาวิทยาลัย แถมยังเคยเป็นน้องรหัสของยูบินด้วย ทำให้เขาสนิทกับเธอมากเป็นพิเศษ แต่เพราะซอนเยต้องไปเรียนต่อเมืองนอกกะทันหันก็เลยทำให้เขาไม่ได้เจอเธอมาหลายปีจนกระทั่งตอนนี้
แทยังมองร่างบางแล้วต้องยอมรับว่า....เธอเปลี่ยนไปมากจนเขาจำแทบไม่ได้
“ชั้นทำงานบริษัทนี้น่ะค่ะ แล้วนี่พี่แทยังเปิดร้านของตัวเองแล้วใช่มั้ยคะเนี่ย สุดยอดไปเลย”
คนผมสั้นว่าพร้อมกับยิ้มตาหยี แทยังหัวเราะก่อนยัดนามบัตรของร้านใส่มือเธอ
“พี่มารับจ๊อบพิเศษเฉยๆ ที่อยู่ร้านพี่จริงๆอยู่ในนี้ ว่างเมื่อไหร่อย่าลืมไปอุดหนุนล่ะ”
“ไม่พลาดแน่นอนค่ะ ขนมฝีมือพี่แทยังน่ะขั้นเทพอยู่แล้ว.....แล้วนี่พี่ยูบินมางานนี้หรือเปล่าคะ”
ซอนเยถามถึงพี่รหัสคนสวยของเธอ แทยังยิ้มบางๆ พยักเพยิดไปที่โต๊ะวีไอพีที่อยู่เกือบหน้าสุด
“นั่งอยู่นั่นไง ผมสีน้ำตาลน่ะ”
ซอนเยมองตามสายตาแทยังไปแล้วก็เจอกับยูบินอย่างที่เขาบอกจริงๆ แต่นอกจากพี่รหัสที่ไม่ได้เจอกันมาหลายปีแล้ว เธอยังเจอกับคนสำคัญบางคนอีกด้วย....
ควอน จียง....
กำลังนั่งอยู่กับผู้หญิงหน้าตาสะสวยคนหนึ่งที่ซอนเยรู้ดีว่าเป็นหนึ่งในคอลเลกชั่นของเขา แต่ที่เด่นไม่แพ้จียงกับกยูริเห็นจะเป็นชายหนุ่มรูปงามที่นั่งข้างยูบินคนนั้นนั่นเอง.....
“นั่นสามีพี่ยูบินหรือเปล่าคะ”
ซอนเยถามแทยังถึงผู้ชายในชุดสูทสีดำสนิทคนนั้น แทยังแค่นยิ้ม
“ใช่ จำได้ใช่มั้ย พี่ท็อปคนนั้นไง....ชเว ซึงฮยอน ตอนที่เธออยู่ปีหนึ่งเค้าเรียนปีสามคณะบริหาร”
“แหม...จำได้สิคะ จะลืมคนนี้ไปได้ยังไงกัน”
ซอนเยพูดพร้อมกับยิ้มเช่นกัน ท็อปเป็นคนที่ยูบินแอบชอบตั้งแต่แรกเห็น แต่ไม่ว่าจะยุส่งยังไงพี่รหัสของเธอก็ไม่ทำอะไรมากไปกว่าการแอบมองเขาทุกวัน
.แต่เธอก็ไม่รู้เหมือนกันว่าหลังจากเธอไปเรียนต่อที่อเมริกาแล้วมันเกิดอะไรขึ้น
ทำไมจู่ๆ ยูบินถึงได้แต่งงานกับท็อป....
แต่ถึงเธอจะไม่รู้ที่มาที่ไป แต่เธอรู้แน่นอนว่ายูบินแต่งงานเพราะความรัก แต่สำหรับท็อปเธอไม่แน่ใจเลยว่าแต่งเพราะความรักเหมือนกันไหม
.เพราะตลอดเวลาที่เธอติดตามข่าวของจียง มันก็มักจะมีข่าวของท็อปแถมมาด้วยเสมอ
ข่าวนอกใจภรรยา....พี่รหัสของเธอ....ไปสวีตกับผู้หญิงชุดแสคสีแดงคนนั้น....
แทฮรา นางแบบชื่อดังของเกาหลี...
“พี่เดาว่าเธอคงรู้เหมือนกับทุกคนสินะ....ว่ายูบินต้องเจออะไรมาบ้าง”
แทยังพูดเสียงเรียบเฉยแต่แววตาฉายแววเคืองแค้น ร่างเล็กที่ยืนฟังอยู่กระตุกยิ้มมุมปากเล็กน้อย
“ผู้ชายทำได้ฝ่ายเดียวมันก็ไม่สนุกสิคะ”
“ยิ้มแบบนี้คิดจะทำอะไรอีกล่ะ”
เจ้าของร้านเบเกอรี่หนุ่มดักคออย่างรู้ทัน ก็สมัยที่เรียนมหาวิทยาลัย ซอนเยเป็นตัวแสบอันดับหนึ่งเลยล่ะ ยิ้มแบบนี้ทีไร..ได้เรื่องทุกที...
“เอาเถอะค่ะ เดี๋ยวพี่แทยังก็รู้เองแหละ งั้นชั้นไปก่อนนะคะ”
“จ้ะ แล้วเจอกันนะ”
“ค่ะ^^”
มินซอนเยยิ้มให้รุ่นพี่อีกครั้งก่อนจะหยิบแก้วเครื่องดื่มเดินตรงไปที่โต๊ะ จีฮยอนยิ้มกว้างให้ว่าที่ลูกสะใภ้แบบสามร้อยหกสิบองศา ในขณะที่จียงมองเธออย่างอึ้งๆ.... ร่างบางนั่งลงที่เก้าอี้ว่างข้างกยูริก่อนจะทักทายทุกคนในโต๊ะด้วยน้ำเสียงสดใส
“สวัสดีค่ะทุกคน ขอโทษที่มาสายนะคะ”
“ไม่เป็นไรจ้ะลูก ถ้ามาช้าแล้วสวยขนาดนี้เลทอีกสักครึ่งชั่วโมงแม่ก็รอด๊าย
. นี่หนูซอนเยค่ะคุณฮยองมิน คู่หมั้นของตาจี ^O^”
คำแนะนำแบบออกนอกหน้าของแม่ทำให้จียงเบ้ปากหน่อยๆ มองคนผมสั้นที่วันนี้สวยกินขาดด้วยแววตาพิจารณา....ให้ตายเถอะ พอมานั่งข้างกันแบบนี้มันเห็นได้ชัดเลยว่ากยูริแพ้แบบไม่มีทางสู้....
ชั้นประเมินเธอต่ำไปจริงๆ ยัยเด็กตัวแสบ....
“สวัสดีค่ะพี่ยูบิน....”
มินซอนเยเอ่ยทักยูบินหลังจากมองกันอยู่นานแล้ว คนผิวแทนยิ้มตอบอย่างดีใจ
“หวัดดีจ้ะซอนเย....”
“ไม่เจอกันนานยังสวยเหมือนเดิมเลยนะคะ ชั้นคิดถึงพี่ยูบินมากเลย เดี๋ยวชั้นโทรหานะคะ”
คนผมสั้นพูดพร้อมกับยิ้มอย่างรู้กัน ท็อปกับจียงสบตากันด้วยความแปลกใจที่เป้าหมายทั้งสองคนรู้จักกันมาก่อน....ดูท่าจะสนิทกันเสียด้วย.....
“คนที่มาสายสุดก็มาแล้ว....งั้นก็ทานอาหารกันเลยดีกว่านะครับ”
จียงเอ่ยปากในฐานะเจ้าของงานแต่ก็ไม่วายจิกกัดซอนเยด้วยในที หญิงสาวกระตุกยิ้มเล็กน้อยอย่างรู้ทันและไม่สะทกสะท้านอะไรทั้งสิ้น ร่างบางเริ่มภารกิจกวนประสาทจียงด้วยการตักอาหารให้ทุกคนในโต๊ะอย่างเป็นมิตร แต่กลับเว้นไม่ยอมตักให้บางคนด้วยความจงใจ
“ทำไมไม่ตักให้ครบคน”
จียงเอ็ดเบาๆ ด้วยความเกรงใจแม่แต่ก็ไม่พอใจที่ซอนเยทำแบบนี้ต่อหน้าแขก แกล้งไม่ตักให้เขา กยูริ ท็อป และแทฮราเสียอย่างนั้น.....หญิงสาวยิ้มหวานซ่อนเลศนัยก่อนจะตอบเขาด้วยน้ำเสียงใสซื่อ
“บางทีเราก็ต้องคิดเหมือนกันนะคะ ว่าอะไรมีค่าพอ...และอะไร....ไม่มี”
ควอนจีฮยอนแอบยิ้มเล็กน้อยอย่างถูกใจ.....หญิงวัยกลางคนชำเลืองมองลูกชายตัวดีกับเพื่อนจอมวางแผนของเขาด้วยความสะใจ ท็อปกับจียงหน้าชาไปเลย.....ให้มันได้อย่างนี้สิมินมินของแม่...
“แล้วคุณซอนเยเอาอะไรมาตัดสินล่ะคะว่าอะไรมีค่าหรือไม่มีค่า....ถ้าวัดจากตัวของคุณเอง ชั้นว่ามันคงไม่น่าเชื่อถือสักเท่าไหร่....”
แทฮราเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงอ่อนหวานแต่แววตาซ่อนเลศนัยไม่แพ้กัน ตอนนี้เธอรู้แล้วว่าผู้หญิงคนนี้พูดกระทบมาถึงเธอด้วย...
พวกเดียวกับยูบินงั้นสินะ....
คิดว่าเธอจะอยู่เฉยๆให้เล่นงานฝ่ายเดียวหรือไง....ไม่มีทางเสียหรอก....
“มินมินคิดว่าทุกคนรู้ดีอยู่แล้วนะคะว่าอะไรมีค่าหรือไม่มีค่า บางทีแค่มองตาเปล่าก็รู้แล้ว จริงมั้ยคะพี่ท็อป”
คำถามของหญิงสาวทำให้คนที่เก็บอาการเก่งถึงกับออกอาการอึ้งให้เห็น เขาหันไปสบตาจียงที่เหวอไม่แพ้กันก่อนจะพยักหน้ารับ
“ครับ....บางที....”
“บางทีจริงๆนะคะ เพราะหลายครั้งก็มีคนโง่พอที่จะเห็น ‘กรวด’ ดีกว่า ‘เพชร’ ได้เหมือนกัน”
ซอนเยหันไปมองแทฮราก่อนจะมาหยุดที่ยูบินในคำว่า “กรวด” กับ “เพชร” ควอนจีฮยอนยิ้มกว้างกว่าเดิม ในขณะที่ท็อปรู้สึกเหมือนถูกตบจนหน้าชา จียงเองก็ไม่ต่างกันนัก เพราะทุกถ้อยคำมันกระแทกเขาแบบไม่มีทางหลีกเลี่ยง ชายหนุ่มรีบเอ่ยขัดขึ้นมาก่อนที่จะเสียท่าไปมากกว่านี้
“มินมินคงจะอิ่มแล้วใช่มั้ยครับ ดีเหมือนกัน พี่มีเรื่องสนุกๆให้ทำ”
“เรื่องอะไร”
ผู้เป็นมารดาถามขึ้นทันทีเพราะรู้ว่าลูกชายตัวดีคิดจะเอาคืนซอนเยแน่ๆ จียงยิ้มมุมปาก ลุกขึ้นเดินไปที่หน้าเวทีก่อนจะประกาศผ่านไมค์
“ระหว่างที่รอวงออเคสตร้า....ผมมีโชว์สุดพิเศษจะมาเสนอทุกท่านครับ”
เสียงฮือฮาจากแขกดังไปทั่วงาน จียงหันมาสบตาซอนเยแล้วยิ้มมุมปากอีกครั้ง หญิงสาวเม้มปากแน่น เริ่มรู้แล้วว่าเขากำลังคิดจะทำอะไร....
ตอนที่ยังเด็กมาก เธอต้องขึ้นไปร้องเพลงในงานวันเกิดของควอนจีฮยอน และจียงก็แกล้งเธอจนฉี่ราดคาเวที....ทำให้เธอกลายเป็นคนตื่นเวทีมาตลอด จับไมค์เป็นไม่ได้...สั่นไปทั้งตัวแทบทุกครั้ง....
และเขาก็คงรู้จุดอ่อนข้อนี้ดี ถึงได้...
“ขอเชิญคุณมินซอนเยขึ้นมาร้องเพลงด้วยครับ^^!!”
เสียงปรบมือดังกระหึ่มกึกก้องไปทั่วงาน.... ควอนจีฮยอนหน้าซีด รู้แล้วว่าลูกชายตัวดีคิดจะทำอะไร...นี่กะจะให้อับอายกันทั้งประเทศเลยหรือไงเนี่ย...
“หนูมินมิน
”
หญิงวัยกลางคนท้วงอย่างเป็นห่วงเมื่อเห็นจียงเดินมาส่งไมค์ให้ซอนเยด้วยใบหน้าท้าทาย ยูบินเองก็มองน้องรหัสด้วยความเป็นห่วงเหมือนกัน...ซอนเยเคยบอกเธอว่ากลัวไมค์นี่นา...
“ดีเหมือนกันค่ะ มินมินกำลังอยากร้องเพลงอยู่พอดี”
คนผมสั้นยิ้มให้เขาแล้วรับไมค์ไปด้วยสีหน้าร่าเริง จียงนั่งลงที่เดิม มองร่างบางเดินขึ้นเวทีอย่างรู้ทัน....
ปกปิดอาการไปก็เท่านั้นแหละ.....ทำไมชั้นจะไม่รู้ว่าเธอทนได้ไม่นานหรอก....
“สวัสดีค่ะ ชั้นชื่อมินซอนเย เป็นคู่หมั้นพี่จียงค่ะ”
แค่ประโยคแรกที่เอ่ยขึ้นมาก็ทำให้ทั้งงานฮือฮาอย่างถูกใจ นักข่าวบางคนหันมาถ่ายรูปกยูริกับจียง ชายหนุ่มหน้าชา มองร่างบางบนเวทีอย่างไม่อยากเชื่อสายตา....
แค่ตอนแรกเท่านั้นแหละน่า....
“ที่จริงชั้นกลัวไมค์มากเลยนะคะ อีกอย่างชั้นร้องเพลงไม่เพราะด้วย....แต่ครั้งนี้ชั้นจำเป็นต้องขึ้นมาจริงๆ ค่ะ เพราะพี่จียง คุณกยูริ พี่ท็อป แล้วก็คุณแทฮรา ขอร้องชั้นมาว่าอยากฟังเพลงนี้ม๊ากมาก”
มินซอนเยเว้นวรรค หันมายิ้มร้ายกาจให้จียง.....ชายหนุ่มเม้มปากแน่น.....
ไม่จริงน่า
นี่เขาเสียท่ายัยตัวแสบนี่อีกแล้วเหรอ
“เพลงนี้ทุกคนคงรู้จักกันดีนะคะ ชื่อเพลง ‘นรกในใจ’ ค่ะ ^^”
*
*
*
“เพลงนี้มันร้องยังไงนะซอนมี”
โซฮีถามเพื่อนที่ยืนดูอย่างสนใจอยู่ข้างๆ ตอนนี้ขนมอะไรก็หยุดทำกันหมดแล้ว ทุกคนสนใจหญิงสาวที่อยู่บนเวทีนั้นมากกว่า
“จำไม่ได้เหมือนกัน แต่ชั้นชอบนะ ชื่อมันน่ากลัวดี....”
ซอนมีว่าพร้อมกับจ้องคนสวยบนเวทีนั้นอย่างใจจดใจจ่อ อินโทรเพลงขึ้นแล้ว มินซอนเยเริ่มร้องท่อนแรกออกมา...
“ชั้นรู้....ว่าเธอมีคนของเธออยู่....
เธอรู้....ว่าชั้นเป็นคนของใคร....”
หญิงสาวหยุดยิ้มเล็กน้อย ก่อนจะร้องท่อนต่อไปอย่างใจเย็น
“แต่ว่าเรา....ก็มารักกัน....เรามันหน้าไม่อาย....”
ประโยคสุดท้ายเน้นหนักจนจียงสะดุ้ง กยูริกับแทฮราเริ่มมองไปรอบๆด้วยความอาย ในขณะที่ท็อปได้แต่ขยับตัวอย่างอึดอัด มินซอนเยยิ้มนิดๆ ก่อนจะร้องต่อโดยไม่มีอาการสั่นแม้แต่น้อย
“ยิ่งคิดยิ่งเหมือนผู้ร้ายต้องหลบต้องซ่อนทำ
ความหวาน....ที่มันขโมยของเขามา
ไม่ช้า....ต้องถึงเวลาใช้กรรม
ต่อให้เรารักกันเท่าไหร่ มันก็ไม่ชอบธรรม....
เรียกร้องอะไรสักครั้งไม่ได้...จริงไหม???”
หญิงสาวหันมาที่โต๊ะวีไอพีเหมือนถามใครสักคนในนั้น ในขณะที่ควอนจีฮยอนแอบยิ้ม....
แหม...มันสะใจเธอดีจริงๆ....
“สมควรหยุดตรงนี้ให้พอกันที....เถอะนะ....เรื่องร้ายที่ทำกันมา ให้ถือว่า ‘เวร’ ดลใจ”
ร่างบางเดินมาที่โต๊ะวีไอพีพร้อมกับย้ำคำว่า ‘เวร’ หนักๆ อีกครั้ง แทยังที่ยืนดูอยู่อมยิ้ม ในขณะที่แสงแฟลชจากนักข่าววูบวาบไม่หยุด จียงยกมือขึ้นตบหน้าผากตัวเองเบาๆ....
บ้าเอ๊ย....
“ช่วยกันดับไฟเผาที่ลามใจเรา ให้ปวดร้าวทุรนทุราย....”
เสียงร้องที่ไพเราะของซอนเยทำให้จียงพ่นลมหายใจพรืด....ยัยเด็กบ้านี่เลิกกลัวไมค์ตั้งแต่เมื่อไหร่ นอกจากไม่กลัวแล้วยังร้องเพลงเพราะเสียด้วย....
เขาประเมินมินซอนเยต่ำเกินไปจริงๆ!!
“กรรมที่ทำความ‘เลว’ลงไป... ชดใช้ด้วยการตรอมใจก็สมควร...”
มินซอนเยร้องท่อนนั้นจนจบแล้วยืนโยกเบาๆตามเพลงอย่างอารมณ์ดี จียงรีบลุกขึ้นแย่งไมค์จากเธอแล้วประกาศสั้นๆ
“วงออเคสตร้ามาแล้ว แสดงต่อได้เลยครับ”
เสียงปรบมือดังกราวไปทั้งห้อง ท็อปถอนใจออกมาเบาๆ ทำให้ยูบินที่นั่งข้างๆ เผลอยิ้ม....ยังร้ายกาจเหมือนเดิมเลยนะมินซอนเย...ทำเอาคนเก็บอาการเก่งอย่างท็อปถอนใจได้ขนาดนี้....เธอยังเป็นน้องรหัสจอมแสบอยู่จริงๆ
“เพราะมากเลยหนูมินมินของแม่ ร้องเพลงเพราะขนาดนี้ไปเป็นนักร้องเลยดีกว่านะลูก ออดิชั่นเข้าเจวายพีเลยดีม๊ายยย >O<”
ควอนจีฮยอนชมอย่างออกนอกหน้าเมื่อว่าที่ลูกสะใภ้เดินกลับมาที่โต๊ะ จียงมองผู้เป็นมารดาอย่างเคืองๆ ทำให้ลูกชายตัวเองขายหน้าแท้ๆ ยังไม่วายจะชื่นชมกันอีกนะ....
“เพลงเนื้อหาดีมากกว่าค่ะ จริงมั้ยคะพี่จี^^+”
มินซอนเยหันไปถามคู่หมั้นหนุ่มหน้าตาเฉย จียงกัดฟันกรอด มองคนผมสั้นที่ยักคิ้วให้เขาด้วยแววตาเคืองแค้น
เขาจะจัดการยัยเด็กสารพัดพิษคนนี้ยังไงดีนะ!!
*
*
*
งานเลี้ยงยังดำเนินต่อไปอย่างราบรื่น จะผิดปกติไปนิดก็ตรงที่โต๊ะวีไอพีด้านหน้าสุดนั้นมีที่ว่างหนึ่งที่
. ควอนจียงมองคนผมสั้นที่ย้ายมานั่งข้างเขาด้วยแววตาหมั่นไส้ จัดการจนกยูริทนไม่ไหวหนีกลับบ้านไปยังไม่พอ เธอยังย้ายมานั่งข้างเขาให้นักข่าวถ่ายรูปหน้าตาเฉยอีกต่างหาก....
ยัยตัวแสบ....เรื่องอะไรที่จะทำให้เธอสะทกสะท้านได้บ้างเนี่ย...
“ไข่ปลาค่ะพี่ยูบิน อร่อยมากกกก ^^”
มินซอนเยตักอาหารให้พี่รหัสพร้อมกับยกนิ้วการันตี คนผิวแทนยิ้มขำๆ กับความขี้เล่นของน้องรหัส ในขณะที่ท็อปมองรอยยิ้มของภรรยาอย่างแปลกใจ....
ก็เขา...ไม่เคยเห็นยูบินยิ้มมากขนาดนี้มาก่อน....ยิ้มจนตาปิดแบบนี้ มันทำให้เธอเหมือนเปลี่ยนไปเป็นคนละคน
“ท็อปคะ กุ้งน่ากินจังเลยค่ะ”
แทฮราพูดเสียงออดอ้อนขึ้นมา ทำให้ร่างสูงที่เผลอมองยูบินอยู่กะพริบตาถี่ๆ ก่อนจะหันมาตักกุ้งให้เธอ แทฮรายิ้มมุมปากเล็กน้อยขณะที่มองยูบินอย่างเยาะเย้ย มินซอนเยเงยหน้ามองรอยยิ้มนั้นแล้วรู้สึกหมั่นไส้ขึ้นมากะทันหัน...
ผู้หญิงคนนี้ร้ายกาจกว่าที่เธอคิด ทั้งๆที่ตกเป็นเป้าสายตาของนักข่าวแต่เธอก็ไม่ได้แคร์ ยังคงทำตัวเหมือนเป็นภรรยาของท็อป ทั้งที่ภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายของเขาก็นั่งอยู่ทนโท่....
ขออีกสักหน่อยเถอะน่า.....
“คุณอาอึนยองโชคดีจังเลยนะคะที่มีสามีน่ารักๆ แบบคุณลุงฮยองมิน น่าอิจฉาจังเลยค่ะ”
มินซอนเยเริ่มปฏิบัติการเมื่อเห็นฮยองมินแขกผู้ใหญ่ที่นั่งร่วมโต๊ะตักอาหารให้ภรรยาอย่างเอาใจ ทั้งสองได้แต่ยิ้มอย่างเขินๆ จียงกับท็อปมองตากันอย่างเริ่มไม่ชอบมาพากล
“น่าอิจฉาอะไรกัน ลุงก็แค่ทำตามหน้าที่สามีที่ดีน่ะลูก”
“สามีที่ดีต้องเอาใจภรรยาแบบนี้แหละค่ะ จริงมั้ยคะคุณแม่^^”
มินซอนเยหันไปถามความเห็นจากควอนจีฮยอน รายนั้นยิ้มหวานกลับมาทันที
“ใช่จ้ะหนูมินมิน แต่ผู้ชายบางคนที่เอาใจคนอื่นมากกว่าแฟนตัวเองเนี่ย เค้าก็เรียกว่าสามีที่เล...”
“คุณจียงครับ”
ออแกไนเซอร์ที่เข้ามาทักจียงทำให้สองหนุ่มหายใจเฮือกออกมาพร้อมกัน มินซอนเยอมยิ้ม สบตาควอนจีฮยอนอย่างขำๆ จียงจิกเธอด้วยสายตาก่อนจะหันไปคุยกับคนที่มาช่วยชีวิตพวกเขาไว้เมื่อสักครู่นี้
“ว่าไง”
“ตอนนี้ใกล้จะปิดงานแล้ว ให้เราเปิดฟลอร์เลยมั้ยครับ”
“โอเค เปิดฟลอร์แล้วก็ใช้เพลงตามรายชื่อที่ส่งไปนะ”
“ได้เลยครับ”
ออแกไนเซอร์โค้งรับก่อนจะเดินไปจัดการงานต่อที่เวที ไม่นานนักเสียงเพลงช้าก็ดังขึ้น ควอนจีฮยอนหันมาส่งยิ้มหวานให้ลูกชาย
“ตาจี...”
“ฮะ?”
จียงขานรับงงๆ มองรอยยิ้มของมารดาก่อนจะเริ่มขมวดคิ้ว...
“พาน้องไปเปิดฟลอร์สิลูก...”
คำพูดแสนอ่อนหวานนั้นเคลือบมาด้วยคำสั่งเชิงเผด็จการในที จียงถอนใจเซ็งๆ หันมามองคนผมสั้นที่ทำตาโตรอเขาอยู่ก่อนจะพูดลอดไรฟันเบาๆ
“จะนั่งทำตาโตหาอะไร ลุกสิ”
มินซอนเยคลายยิ้มออกมาเล็กน้อย จียงลุกขึ้นยืนด้วยใบหน้าซังกะตาย ซอนเยสอดแขนของตัวเองเข้ากับแขนของเขาก่อนจะหันมาพูดกับยูบินยิ้มๆ
“พี่ยูบินมาเปิดฟลอร์เป็นเพื่อนมินมินหน่อยสิคะ”
ยูบินมองใบหน้าสวยของน้องรหัสอย่างเหวอๆ คนผิวแทนหันมามองท็อป เขายังคงนั่งนิ่งอยู่ แต่ระดับมินซอนเยแล้ว....ไม่มีทางปล่อยให้นิ่งแบบนี้ได้นานแน่....
“พี่ท็อปไม่คิดจะทำหน้าที่ ‘สามีที่ดี’ บ้างเหรอคะ”
ควอนจีฮยอนยิ้มออกมา มองท็อปที่อึ้งไปนานก่อนจะค่อยๆลุกขึ้นด้วยแววตาพอใจเป็นที่สุด คิมยูบินลุกขึ้นยืนอย่างลังเล ในขณะที่แทฮราจ้องเธอด้วยแววตาที่ลุกเป็นไฟ
“ไปได้แล้ว ยัยตัวแสบ”
จียงก้มลงกระซิบข้างหูของคู่หมั้นด้วยน้ำเสียงดุๆ มินซอนเยเลิกคิ้วกวนๆ แต่ก็ยอมเดินตามเขาไปที่ฟลอร์แต่โดยดี ท็อปและยูบินเดินตามทั้งสองไปหยุดที่ลานกว้างหน้าเวที....ควอนจีฮยอนหันไปมองนักดนตรีแล้วดีดนิ้วเปาะ เสียงเพลงจังหวะโรแมนติกถูกบรรเลงขึ้นทันที...
คู่ของจียงและซอนเยเริ่มเต้นรำกันแล้ว แต่ยูบินยังคงยืนนิ่งสนิท ไม่กล้าแม้แต่จะแตะเนื้อต้องตัวผู้ชายตรงหน้า ท็อปมองเธออย่างหงุดหงิด
“จะยืนอีกนานมั้ย รีบทำให้มันเสร็จๆไปสักทีสิ”
“ค่ะ....”
คนผิวแทนรับคำเบาๆ เอื้อมมือไปโอบรอบคอเขาอย่างขลาดๆ ท็อปวางมือลงบนเอวคอดแล้วรั้งร่างบางเข้ามาชิด ทำให้ใบหน้าสวยขยับเข้ามาอยู่ห่างจากเขาเพียงแค่คืบ...ทั้งคู่สบตากันในระยะที่ใกล้จนได้ยินเสียงลมหายใจของอีกฝ่าย และมันก็ทำให้ยูบินใจสั่นระรัว...
หน้าคมเมินหนีไป....ก่อนจะทั้งสองจะเริ่มเต้นรำตามจังหวะของเพลงอย่างงดงาม...
เสียงชื่นชมจากแขกในงานถึงความเหมาะสมกันของคู่สามีภรรยาดังขึ้นประปราย แทฮราเม้มปากแน่น แทบจะระงับความริษยาที่มันพลุ่งพล่านขึ้นมาไม่ไหว....
ไม่มีทาง...
ชั้นไม่เปิดโอกาสให้เธอทำแบบนี้ได้บ่อยๆแน่...คิมยูบิน...ฝันไปเถอะ...
ในขณะที่โต๊ะค็อกเทลก็กำลังสนใจเหตุการณ์นี้อยู่เช่นกัน ซึงรีกับซอนมีสงบศึกกันชั่วคราว เอาเวลามามองสองคู่ที่ฟลอร์แบบตาไม่กะพริบ โซฮีหันมามองเจ้านาย ร่างสูงของดงยองเบยืนกอดอกนิ่ง ตาเรียวเล็กคู่นั้นมองฟลอร์ด้วยแววตาที่ยากจะคนนอกจะอ่านออก แต่สำหรับอานโซฮีแล้ว....เข้าใจดี....
“อยากเต้นกับพี่ยูบินบ้างล่ะสิเฮีย”
คนแก้มป่องดักคออย่างรู้ทัน ดงยองเบเมินหน้าหนีจากฟลอร์พร้อมกับปฏิเสธทันที
“อย่ามาทำเป็นรู้ดีหน่อยเลยน่า”
ในขณะที่คู่ของท็อปและยูบินกำลังอยู่ในความอึดอัดที่คนอื่นมองไม่เห็น แต่คู่ของจียงและซอนเยกลับตรงกันข้าม ทั้งที่กำลังเต้นรำในเพลงช้าที่แสนจะโรแมนติกอยู่แท้ๆ แต่บรรยากาศของทั้งสองคนกลับคุกรุ่นเหมือนอยู่ในสงครามครั้งใหญ่
“เธอนี่ชอบยุ่งเรื่องของชาวบ้านไม่เปลี่ยนเลยนะ”
จียงเปิดศึกแขวะขึ้นมาทันทีหลังจากเต้นรำกันไปได้สักพัก มินซอนเยยักไหล่กวนๆ
“ช่วยไม่ได้ค่ะ เพื่อนพี่จีอยากทำตัวไม่เหมาะสมเอง มินมินต้องปกป้องพี่รหัสของตัวเอง”
“ใครเป็นพี่รหัสเธอ?”
“ก็ภรรยาที่พี่ท็อปพยายามทำให้เธออับอายขายหน้านี่ไงคะ”
มินซอนเยพูดด้วยน้ำเสียงที่ดังขึ้นเล็กน้อย....พูดก็พูดเถอะนะ หน้าตาของท็อปก็ดูดี ไม่ได้เลวร้ายอะไรเลย แต่ทำไมถึงใจร้ายไส้ระกำกับคนดีๆอย่างยูบินได้ลงคอก็ไม่รู้...
เธอดูออกว่ายูบินรักท็อปมาก และก็คงเจ็บมากเหมือนกัน เพราะซอนเยรู้นิสัยยูบินดีว่าไม่ชอบมีเรื่องกับใคร ทำให้เธอถูกกระทำอยู่ฝ่ายเดียวเสมอ... และนั่นก็คือเหตุผลสำคัญที่ทำให้วันนี้เธอทนอยู่เฉยๆไม่ได้...
อย่างน้อยก็วันนี้วันหนึ่ง ที่เธอสามารถทำให้ยูบินมีโอกาสใช้เวลากับคนที่เธอรัก....ทั้งที่โอกาสนี้มันควรจะมีมาตั้งนานแล้ว
“เธอไม่รู้เรื่องอะไรอย่ามายุ่งหน่อยเลย”
จียงขัดขึ้นด้วยน้ำเสียงปรามๆ คนผมสั้นยิ้มเยาะ
“ชั้นไม่รู้หรอกค่ะว่าเรื่องที่พี่จีว่าหมายถึงอะไร แต่ที่ชั้นเห็นก็คือผู้ชายสองคนที่หน้าที่การงานก็ออกจะสูงส่ง แต่กลับไม่ให้เกียรติภรรยาและคู่หมั้นของตัวเอง....ถ้าให้เกียรติเพศแม่ไม่เป็นกันจริงๆ อย่างน้อยก็น่าจะรู้จักอายบ้างนะที่ควงผู้หญิงคนอื่นมาดูถูกกันแบบนี้”
“หุบปากเดี๋ยวนี้นะมินซอนเย!”
จียงคำรามในลำคอพร้อมกับกระชากร่างบางมากอดแน่นขึ้นจนปลายจมูกแทบจะชนกัน ตาคมจ้องเธออย่างไม่พอใจ แต่ก็ไม่สามารถข่มดวงตาคู่สวยนั้นให้ยอมแพ้ได้เลย ทั้งคู่ฟาดฟันกันด้วยสายตาแบบไม่ยอมลดละ แต่แสงแฟลชจากกล้องของบรรดานักข่าวกลับวูบวาบขึ้นเรื่อยๆ
“อย่าเข้ามาใกล้นักสิคะ เดี๋ยวปากชนกันจะได้ล้างด้วยแอลกอฮอล์อีกนะ”
คนผมสั้นขู่ด้วยน้ำเสียงกวนประสาท จียงแค่นหัวเราะ รั้งเอวบางให้ชิดเขามากขึ้นพร้อมกับกระซิบด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบาแต่เน้นหนักทุกถ้อยคำ
“เลิกเสแสร้งด้วยคำพูดกับท่าทางหวานๆนี่สักที ชั้นไม่ได้โง่พอที่จะไม่รู้ทันคนอย่างเธอหรอกนะ รู้เอาไว้ด้วยว่าชั้นกับไอ้ท็อปก็ไม่ได้คิดจะดูถูกผู้หญิงหรอก ถ้าไม่บังเอิญว่าผู้หญิงที่ว่านั่นเป็นเธอกับคิมยูบิน คนที่เข้าหาพวกชั้นเพราะหวังอะไรต่อมิอะไรที่ไม่ใช่แค่ความรัก! ท็อปกำลังจะหาทางออกจากคุกที่ยูบินขังมันไว้ด้วยทะเบียนสมรส ส่วนชั้น....ก็จะทำทุกวิถีทางที่จะไม่ติดคุกไปกับเธอ!!”
มินซอนเยแค่นหัวเราะบ้าง มองผู้ชายตรงหน้าด้วยแววตาที่ดุเดือดไม่แพ้กัน
“เหรอคะ....พี่คงไม่รู้สินะว่ายิ่งพี่พูดแบบนี้มากเท่าไหร่ ชั้นก็ยิ่งอยากเอาชนะ....ชั้นจะทำทุกวิถีทางเหมือนกัน ให้พี่ติดคุกไปกับชั้น!!!”
“มินซอนเย!!”
จียงคำรามในคออย่างสุดทน ซอนเยจ้องเขาด้วยแววตาท้าทาย ใช่...เธอเป็นพวกชอบเอาชนะ แต่สำหรับกรณีนี้ มันไม่ใช่แค่อยากเอาชนะ แต่เธออยากจะสั่งสอนให้ผู้ชายคนนี้รู้สำนึกเสียบ้างว่า ผู้หญิงไม่ใช่เพศที่จะดูถูกกันได้ง่ายๆ
“เริ่มจากอะไรก่อนดีล่ะ....อะไรนะที่จะทำให้ความฮอตของคาสโนว่าอย่างพี่มันตกลงไป....”
ควอนจียงจ้องดวงตามีเลศนัยคู่นั้นอย่างฉงน แต่ยังไม่ทันจะได้คิดอะไร ร่างบางก็โน้มคอเขาลงมาใกล้เสียก่อน...
ดวงตาของมินซอนเยเต็มเปี่ยมไปด้วยความต้องการเอาชนะ น้ำเสียงหวานกระซิบถ้อยคำข้างหูของเขา ก่อนที่ริมฝีปากนุ่มจะสัมผัสเรียวปากร้อนเบาๆ และดึงจียงให้กลืนหายไปกับรสจูบที่หวานกว่าที่เขาคาดคิด....
“เริ่มจากข่าวจูบกับคู่หมั้นก่อนเป็นไง....”
*
*
*
*
จะใส่รูปประกอบฟิคก็ไม่ได้ เพลีย - -"
ความคิดเห็น