ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [BB+WG] Bad Boy’s Hunter

    ลำดับตอนที่ #4 : Chapter 4 หักหน้า

    • อัปเดตล่าสุด 31 มี.ค. 55



    วันต่อมา....

     

    ประตูห้องทำงานที่ถูกเปิดออกทำให้จียงละสายตาจากกองเอกสารมามองผู้มาเยือน และพอเห็นว่าเป็นใครเขาก็เลิกคิ้วเล็กน้อย

     

    มีอะไรฮยอนซึง

     

    แฟ้มรายงานงบประมาณของงานเลี้ยงขอบคุณลูกค้าอาทิตย์นี้ครับ

     

    เลขาหนุ่มพูดพร้อมกับวางแฟ้มกองใหญ่ลงบนโต๊ะ จียงหยิบมาพลิกดูพลางถามเสียงปกติ

     

    แล้วนี่ยัยเด็กนั่นหายไปไหนซะล่ะ

     

    ยัยเด็กไหนครับ

     

    ฮยอนซึงถามหน้างง จียงเหลือบมองเลขาจอมซื่อแวบหนึ่งก่อนจะก้มลงสนใจเอกสารต่อ

     

    ยัยเด็กน้ำมูกยืดมินซอนเยนั่นไง

     

    อ๋อ....ก็อยู่นี่แหละครับ

     

    จริงเหรอ?

     

    จียงเงยหน้าขึ้นถามย้ำอย่างไม่อยากจะเชื่อหูตัวเอง ยัยเด็กซอนเยเนี่ยนะจะมาทำงานเฉยๆโดยไม่เข้ามากวนประสาทเขา ฮยอนซึงพยักหน้าพร้อมกับยิ้มปลื้มๆ

     

    ใช่ครับ คุณมินมินมาทำงานตั้งแต่เมื่อเช้านี้แล้ว แต่งานผมยุ่งเธอก็เลยช่วยน่ะครับ ตอนนี้เธอก็ช่วยเคลียร์เรื่องประสานงานกับฝ่ายบุคคลอยู่ครับ คุณมินมินเรียนรู้งานได้เร็วมากเลย แถมยังเข้ากับพนักงานคนอื่นได้ดีมากด้วยนะครับ ตอนนี้ทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกันเลยว่าอิจฉาเจ้านายที่สุดที่ได้คู่หมั้นเพอร์เฟคท์แบบนี้.....

     

    พอๆ หยุดชื่นชมยัยนั่นสักที ชั้นฟังแล้วคลื่นไส้

     

    จียงขัดขึ้นพลางวางปากกาลงอย่างหงุดหงิด ฮยอนซึงเลยจำเป็นต้องเงียบเสียง เลขาหนุ่มมองเจ้านายอย่างไม่เข้าใจ ในสายตาของเขาซอนเยก็น่ารักดีนี่นา ทั้งเก่งทั้งสวยขนาดนี้ ทำไมเจ้านายเขาถึงทำท่ารังเกียจเธอได้ลงคอนะ

     

    ตั้งใจทำงานเหรอ...ไม่มีทางหรอก

     

    จียงพึมพำอย่างครุ่นคิด หลังจากวันนั้นที่แม่เขาพาซอนเยมาป่วนถึงห้องทำงาน เขาก็ไม่ได้เจอยัยเด็กนั่นอีกเลย อันที่จริงต้องบอกว่าเขาเองแทบไม่ได้เจอใครเลยมากกว่า เพราะต้องเตรียมการเรื่องงานเลี้ยงขอบคุณลูกค้าที่จะมาถึงในสัปดาห์นี้ ทำให้เขางานยุ่งจนต้องสั่งอาหารมากินในห้อง.....ก็เลยไม่รู้เลยสักนิดว่าตอนนี้ยัยเด็กแสบนั่นกำลังครอบงำพนักงานของเขาอยู่อย่างเงียบๆ

     

    ฮยอนซึง

     

    ครับ!”

     

    เลขาหนุ่มที่ทำท่าจะหลับทั้งยืนอยู่แล้วสะดุ้งเฮือกขึ้นมาขานรับแทบไม่ทัน จียงไม่ได้สนใจอาการของลูกน้อง เพราะตอนนี้เขากำลังคิดอะไรบางอย่าง....

     

    ไปเรียกยัยนั่นมาหาชั้นหน่อยซิ

     

    *

    *

    *

     

    หลายนาทีผ่านไป....

     

    แอ๊ด....

     

    เสียงประตูที่ถูกเปิดออกไม่ได้ทำให้จียงที่กำลังจดจ่อกับเอกสารเงยหน้าขึ้นมาสักนิด ร่างบางเดินมานั่งลงบนเก้าอี้ตรงข้ามกับเขา แต่ก็ไม่สามารถทำให้เขาสนใจได้อยู่ดี มินซอนเยกระตุกยิ้มเล็กน้อยอย่างรู้ทัน ร่างบางทำท่าจะลุกขึ้นเดินออกไป คนฟอร์มจัดถึงยอมส่งเสียงออกมาได้

     

    จะไปไหน

     

    ก็พี่จีไม่มีเรื่องคุย มินมินก็จะออกไปทำงานต่อสิคะ

     

    คนผมสั้นว่าพร้อมกับยิ้มหวานให้เขา จียงมองรอยยิ้มที่น่าจะกระชากหัวใจผู้ชายได้ไม่ยากอย่างครุ่นคิด ตาคมเลื่อนลงมามองการแต่งตัวแบบชุดสูทที่มีสไตล์ของเธอแล้วก็ต้องยอมรับว่า ยัยเด็กนี่เปลี่ยนแปลงตัวเองไปแบบสิ้นเชิงจริงๆ

     

    มองแบบนั้น ถ้าเป็นปลากัดคงท้องไปแล้วนะคะ

     

    มินซอนเยกระเซ้าพร้อมกับยื่นหน้าเข้ามายิ้มยั่ว จียงเบ้ปาก

     

    ชั้นไม่ได้มองเพราะพิศวาสเธอสักนิด อย่าหลงตัวเองไปหน่อยเลย ในสายตาชั้นเธอมันก็ยัยเด็กน้ำมูกยืดคนเดิมนั่นแหละ

     

    มินมินไม่ได้พูดอะไรเลยนะคะ พี่จีร้อนตัวไปเองหรือเปล่า ^^”

     

    ร่างบางพูดพร้อมกับยิ้มขำๆ แต่จียงมองแล้วรู้สึกเหมือนถูกกวนประสาท ชายหนุ่มหน้าบึ้งขึ้นมาทันที

     

    ใครอนุญาตให้เธอเรียกชั้นว่าพี่ ที่นี่ที่ทำงานนะ ชั้นเป็นเจ้านาย เธอเป็นลูกน้อง ไม่มีการนับญาติอะไรทั้งนั้น แล้วก็เลิกแทนตัวว่ามินมินสักที มันไม่ได้น่ารักอย่างที่เธอคิดเลยสักนิด!!”

     

    จียงพูดรัวเป็นชุดแบบไม่สนใจความรู้สึกอีกฝ่ายแม้แต่น้อย ปกติเขาไม่เคยปากจัดแบบนี้กับผู้หญิงคนไหนเลย แต่สำหรับยัยเด็กแสบนี่คงต้องยกเว้นกันสักหน่อยแล้วล่ะ....

     

    เขาไม่ยอมให้ผู้หญิงคนนี้มาจองจำเขาไว้ด้วยทะเบียนสมรสแน่ เขาต้องทำทุกวิถีทางเพื่อไล่เธอออกไปจากชีวิต....ให้เร็วที่สุด!!

     

    โอเคค่ะ เรียกอะไรก็ได้ มินมินไม่ซีเรียสหรอกค่ะพี่จี^^”

     

    มินซอนเย!!”

     

    ตกลงว่าเรียกมินมินมามีเรื่องด่วนอะไรหรือเปล่าคะ

     

    หญิงสาวเปลี่ยนเรื่องกะทันหันแบบไม่ปล่อยโอกาสให้จียงได้โมโห ชายหนุ่มยักไหล่

     

    เปล๊า....ชั้นก็แค่อยากจะเช็กดูว่าเธอมาทำงานจริงอย่างที่ฮยอนซึงบอกหรือเปล่า

     

    ทำจริงๆสิคะ เพียงแต่ไม่อยากมากวนพี่จีเท่านั้นเอง ได้ข่าวว่ากำลังมีงานเลี้ยงใหญ่^^”

     

    มินซอนเยว่าพร้อมกับยิ้มมุมปากเล็กน้อย ทำเอาควอนจียงชะงักกึก....

     

    ว่าแล้วไง....

     

    ยัยเด็กนี่ทำตัวสงบได้ไม่นานหรอก มันต้องมาแผนใหญ่ตามมาอีกแน่ๆ….

     

    นี่เธออย่าบอกนะว่า...

     

    มินมินจะเข้าร่วมงานด้วยไงคะ^O^”

     

    ชั้นไม่อนุญาต!!!”

     

    จียงค้านเสียงแข็งขึ้นมาทันควัน.....งานเลี้ยงใหญ่ต่อหน้าแขกเหรื่อระดับลูกค้าวีไอพีมากมาย แถมด้วยกองทัพนักข่าวอีกเป็นร้อยแบบนี้ จะปล่อยให้มินซอนเยเข้าร่วมงานพร้อมกับแม่ของเขาไม่ได้แน่

     

    พี่จีไม่ให้ก็ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวมินมินไปบอกคุณแม่ให้^O^”

     

    อย่าเอาคุณแม่มาขู่ชั้นนะ ยังไงชั้นก็ไม่ให้เธอเข้าร่วมงานนี้หรอก ชั้นจะสั่งให้การ์ดทุกคนโยนตัวเธอออกไปจากงานแน่ๆ ไม่เชื่อก็ลองดู!”

     

    ควอนจียงงัดไม้แข็งมาขู่ทั้งที่รู้ว่าทำได้ยาก เพราะแบ็คอัพของซอนเยก็คือแม่แท้ๆของเขามีอำนาจสั่งมากกว่าเขาเสียอีก และก็ดูเหมือนว่าคนผมสั้นจะรู้ความจริงข้อนี้เป็นอย่างดี เธอถึงยิ้มให้เขาได้อย่างไม่สะทกสะท้านเลยสักนิด

     

    ไม่เป็นไรหรอกค่ะ มินมินลองแน่^^!!”

     

    *

    *
    *

     

    ชเวซึงฮยอนเหลือบมองคนข้างกายที่ดื่มเอาๆ โดยไม่สนใจผู้หญิงที่คลอเคลียอยู่ข้างกายเลยแม้แต่น้อยด้วยความแปลกใจ การที่คนอย่างเขาไม่สนใจเด็กสาวๆที่มาออดอ้อนอยู่รอบตัวเวลาดื่มมันไม่แปลกเท่าไหร่หรอก แต่ถ้าเป็นจียงไม่สนใจนี่สิ.....ออกจะผิดปกติไปสักหน่อย

     

    แกเป็นอะไรหรือเปล่า

     

    ชายหนุ่มถามขึ้นด้วยแววตาสงสัย จียงสาดเหล้าเข้าลำคอวาบหนึ่งก่อนจะตอบห้วนๆ

     

    เครียดนิดหน่อยว่ะ

     

    เรื่องคู่หมั้นล่ะสิ

     

    อย่ามาเรียกยัยเด็กนั่นว่าคู่หมั้นนะ ชั้นไม่ชอบ ฟังแล้วขนลุกแปลกๆ

     

    จียงพูดพร้อมกับรินน้ำสีอำพันลงแก้วอีกรอบ ท็อปยิ้มน้อยๆ

     

    ได้ข่าวว่าสวยอยู่ไม่ใช่เหรอ

     

    ไม่ใช่สวยอยู่หรอก แต่สวยมากเลยล่ะ เปลี่ยนไปเป็นคนละคนจนชั้นจำแทบไม่ได้

     

    จียงบอกด้วยสีหน้าครุ่นคิด.ใช่.....ถ้าเขาเจอคนหน้าตาแบบนี้ บุคลิกแบบนี้....และไม่ได้ชื่อว่า มินซอนเยเขาก็คงหลงเธอได้ไม่ยากเหมือนที่แม่ของเขาหรือพนักงานคนอื่นๆ เป็นอยู่ แต่สำหรับกรณีนี้ตัดหน้าตาทิ้งออกไปได้เลย เขาไม่อยากแต่งงานกับใคร ไม่ว่าจะสวยหยาดฟ้ามาดินแค่ไหนก็ตาม เขาไม่อยากให้ใครเข้ามาบงการชีวิต โดยเฉพาะกับยัยเด็กตัวแสบคนนี้....ไม่มีทาง....

     

    ชั้นนึกว่าแกชอบคนสวยทุกคนซะอีก

     

    ท็อปกระเซ้าพร้อมรอยยิ้มเล็กน้อยอีกเช่นเคย จียงเบ้ปาก

     

    ชั้นไม่ชอบผูกมัดแกก็รู้ ยิ่งกับยัยคุณหนูมินมินนี่แล้วยิ่งไม่มีทาง

     

    อย่าเผลอก็แล้วกัน

     

    ชั้นไม่เผลอหรอกเว้ย ขนาดแกนอนเตียงเดียวกันมาเป็นปีแถมแสนดีขนาดนั้นยังไม่เผลอเลย ชั้นไม่หลวมตัวไปยุ่งกับยัยเด็กนั่นแน่นอน

     

    จียงพูดอย่างมั่นใจพร้อมกับยกแอลกอฮอล์เข้าปากอีกครั้ง ท็อปนิ่งไปนิดหนึ่งเมื่อคิดถึงคน แสนดีของจียงขึ้นมา ในขณะที่ชายหนุ่มอีกคนวางแก้วลงบนโต๊ะแล้วเอนตัวลงกึ่งนั่งกึ่งนอนกับโซฟา

     

    ท็อป....งานเลี้ยงพรุ่งนี้แกจะไปกับใคร

     

    แทฮรา

     

    ชเวซึงฮยอนตอบเสียงเรียบเฉย ไร้ความรู้สึกใดๆทั้งในคำพูดและแววตานั้น แต่ทำให้จียงนิ่งอึ้งไปถนัดตา รู้สึกสงสารยูบินขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้

     

    แต่ชั้นส่งการ์ดเชิญเป็นชื่อแกกับยูบินนะ

     

    แล้วไง แทฮราไปในฐานะแขกของชั้น หรือแกจะไม่อนุญาต

     

    ท็อปย้อนถามเสียงเรียบเช่นเคย จียงถอนใจเฮือก

     

    เออ...ชั้นไม่กล้าขัดพระทัยแกหรอก ก็แค่สงสารเมียแต่งของแกที่ต้องไปร่วมงานที่มีแต่คนซุบซิบนินทา แล้วนี่แกไม่กลัวแม่แกรู้หรือไงวะ

     

    ชั้นสั่งคนทางนั้นปิดข่าวได้

     

    ร่างสูงตอบหน้านิ่งเฉย ตอนนี้แม่ของเขาไปเคลียร์งานที่ฝรั่งเศส และนั่นก็คือเหตุผลที่ช่วงนี้เขากล้าใช้แทฮราทำตัวเป็นข่าวให้ยูบินเห็นอยู่ทุกวัน เพราะลูกน้องของแม่ที่นั่นปิดข่าวจากเกาหลีได้แน่นอน และถ้าวันนึงยูบินทนไม่ไหวจนขอหย่าขึ้นมา แม่ก็ว่าอะไรเขาไม่ได้แล้ว เพราะมันเป็นความต้องการของลูกสะใภ้คนโปรดของแม่เอง

     

    เขาอยากหย่าให้เร็วที่สุด ไม่อยากทนอยู่กับคนหน้าไหว้หลังหลอกแบบนี้ คนที่ต่อหน้าเขาทำเป็นแสนดี แต่ที่แท้ก็หวังแค่ทรัพย์สมบัติของครอบครัวเขาเท่านั้น

     

    ชั้นว่าแผนนี้แรงใช้ได้ว่ะ ยูบินอาจถึงขั้นถอดใจเลยก็ได้.....อืม....จะว่าไปแล้วแผนแกก็เวิร์คดีนะ

     

    จียงเกาคางตัวเองเบาๆ อย่างใช้ความคิด ท็อปสบตาเขาอย่างรู้ทัน

     

    ไม่สงสารซอนเยบ้างหรือไง

     

    ยัยนั่นไม่ใช่เมียชั้นเหมือนแกกับยูบินนี่หว่า อีกอย่างนะ แผนเลวๆแบบนี้ไม่เหมาะกับยูบินหรอก เหมาะกับยัยตัวแสบนี่มากกว่า

     

    จียงอ้างพร้อมกับยิ้มแววตาแพรวพราว ท็อปส่ายหน้าเบาๆ

     

    แล้วใครจะไปกับแก

     

    ควอนจียงคลี่ยิ้มเจ้าเล่ห์

     

    แกถามผิดแล้วเทมป์ แกต้องถามว่า ชั้นจะไปกับใครมากกว่า

     

    *

    *

    *

    *

     

    วันต่อมา....

     

    เงาในกระจกสะท้อนภาพของหญิงสาวผิวสีแทนในชุดราตรีสีดำสนิท ผมสีน้ำตาลเข้มถูกดัดเป็นลอนเบาๆ ปล่อยสยายไปถึงกลางหลัง น่าแปลกที่ชุดของเธอไม่ได้เซ็กซี่อะไรมากนัก แต่เมื่อมาอยู่บนเรือนร่างนี้แล้วกลับน่าดูอย่างบอกไม่ถูก คิมยูบินเอื้อมมือไปหยิบลิปสติกขึ้นมาเติมปาก....เป็นเวลาเดียวกันกับเสียงรถที่ดังขึ้นหน้าบ้าน

     

    พี่ท็อป....

     

    คนผิวแทนยิ้มกว้างด้วยความดีใจ....เธอไม่ได้หวังว่าเขาจะมารับไปงานเลี้ยง แต่ตอนนี้เขากลับมารับอย่างไม่น่าเชื่อ ถึงมันจะเป็นไปตามหน้าที่ทางสังคม แต่ยูบินก็ยังอดดีใจไม่ได้อยู่ดี

     

    ร่างบางพาตัวเองไปที่รถอย่างรวดเร็ว หญิงสาวเปิดประตูรถออกมาด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม...แต่เมื่อเห็นคนที่อยู่ในรถนั้น รอยยิ้มของเธอก็จางหายไป...

     

    นอกจากท็อปแล้ว...ยังมีคนอยู่ในรถอีกคน

     

    ...แทฮรา...

     

    สวัสดีค่ะคุณยูบิน ไม่เจอกันนานเลยนะคะ

     

    หญิงสาวในชุดแสคสีแดงสดคลายยิ้มหวานให้เธอ แต่กลับทำให้ยูบินหนาวเยือกไปถึงขั้วหัวใจ หญิงสาวค่อยๆหันไปมองร่างสูงที่นั่งหน้าเรียบเฉยอยู่หลังพวงมาลัย เขาเหลือบมองเธอแวบหนึ่ง

     

    ขึ้นรถสิ

     

    ค่ะ...

     

    ยูบินตอบรับเสียงแผ่ว ร่างบางก้าวขึ้นไปนั่งข้างหลังเงียบๆ ในขณะที่แทฮราเอนหัวลงมาซบไหล่ท็อปอย่างออดอ้อน

     

    รีบไปกันเถอะค่ะ ชั้นหิวจะแย่อยู่แล้ว

     

    อืม....

     

    ท็อปยิ้มให้เธอบางๆ ก่อนจะขับรถออกไป ยูบินได้แต่นั่งเงียบเพราะไม่รู้จะพูดอะไร...อีกอย่างก็คือไม่อยากพูด....กลัวน้ำตามันจะไหลออกมา....

     

    วันนี้คุณยูบินสวยจังเลยนะคะ

     

    คำทักทายของหญิงสาวที่นั่งด้านหน้าทำให้ยูบินเงยหน้าขึ้นมายิ้มให้เธอเศร้าๆ

     

    ขอบคุณค่ะ….”

     

    ชั้นพูดจากใจจริงเลยนะคะเนี่ย....ดูเรียบร้อยแต่ก็เซ็กซี่ในเวลาเดียวกัน คุณเห็นด้วยมั้ยคะท็อป

     

    คราวนี้แทฮราหันไปถามความเห็นจากคนข้างๆ ชายหนุ่มเหลือบมองกระจกส่องหลัง เห็นคนผิวแทนกำลังมองมาที่เขาด้วยแววตาที่เศร้าจับใจ.....

     

    เสแสร้ง...ก็แค่นั้น.....

     

    ก็ดี...ถนัดเรื่องสร้างภาพอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ

     

    คำพูดเรียบเฉยนั้นทำให้ยูบินสะอึกอึ้ง.....รอยยิ้มปรากฏขึ้นที่มุมปากของแทฮราแวบหนึ่ง

     

    แหม....คุณก็พูดเกินไป คนเรามันก็สร้างภาพทั้งนั้นแหละค่ะ และถ้าคุณยูบินสร้างภาพจริงๆ อย่างที่เค้าว่า ชั้นนับถือเลยนะคะเนี่ย.....ตอแหลได้เก่งสุดๆ....

     

    หญิงสาวพูดไปหัวเราะไปเหมือนเป็นเรื่องที่ขำเสียเต็มประดา ท็อปเหลือบมองยูบินทางกระจกส่องหลังอีกครั้ง....

     

    และเขาก็ได้เห็นเพียงแต่ร่างบางที่นั่งนิ่ง....ไม่พูดอะไรออกมาเลยสักคำ...

     

    เธอรู้ดีว่าการยอมแต่งงานของเธอมันเลวร้ายในสายตาของท็อป....เขาคงจะมองเธอเป็นแค่ผู้หญิงคนหนึ่งที่ยอมทำทุกอย่างเพื่อแลกกับเงิน...

     

    แต่เขาจะรู้ไหม....ว่าเธอไม่ได้แต่งงานกับเขาเพราะเงิน....

     

    ท็อปคะ เลิกงานนี้อย่าลืมไปส่งด้วยนะ

     

    แทฮราอ้อนขึ้นเบาๆ เมื่อเห็นว่ารถกำลังติดไฟแดง หญิงสาวเอนหัวไปซบไหล่เขาอีกครั้ง ท็อปยิ้มน้อยๆ

     

    คุณมากับผม จะให้ผมไปส่งใครล่ะ

     

    คุณนี่น่ารักที่สุดเลย

     

    แทฮราทำเสียงร่าเริงพร้อมกับประทับจูบลงบนริมฝีปากของชายหนุ่มอย่างหนักหน่วง คิมยูบินสะดุ้งเฮือก....เมินหน้าหนีภาพตรงหน้าออกไปนอกกระจก....ขอบตาร้อนผ่าวได้เพียงไม่นาน น้ำตาก็หยดลงมา....

     

    ท็อปสนองตอบคนตรงหน้าเบาๆ ตาคมตวัดไปมองคนข้างหลังอีกครั้งก่อนจะหันไปขับรถต่อตามเดิม แทฮราเหลือบมองยูบินอย่างสะใจ แน่นอนว่าร่างบางที่เงียบงันอยู่ตรงนั้นร้องไห้ออกมาแล้ว....ถึงจะไม่มีเสียงใดๆเล็ดลอดออกมา แต่จิตใจก็คงบอบช้ำแสนสาหัส....

     

    เจ็บให้พอนะ คิมยูบิน ....

     

    เจ็บให้พอ เจ็บให้สำนึก แล้วก็ยอมหย่ากับท็อปสักที!

     

    *

    *

    *

     

    รถคันหรูของท็อปจอดลงที่หน้าโรงแรมระดับห้าดาวอันเป็นสถานที่จัดงาน ร่างสูงก้าวลงจากรถพร้อมกับแสงแฟลชวูบวาบของนักข่าว ใบหน้าคมไม่แสดงอารมณ์ใดๆออกมาสักนิด เขาเดินอ้อมไปเปิดประตูรถด้านหน้า...ที่นั่งข้างคนขับของเขา.....

     

    แทฮราโปรยยิ้มหวานก่อนจะก้าวลงมาท่ามกลางเสียงฮือฮาของนักข่าว หลายคนหันไปถ่ายรูปยูบินที่เปิดประตูรถลงมาเองด้วยใบหน้าเศร้าๆ

     

    ไปกันเถอะ

     

    ท็อปก้มลงกระซิบข้างหูของคู่ควง หญิงสาวยิ้มรับก่อนจะคล้องแขนเขาเดินเข้าไปในงานอย่างหน้าชื่นตาบาน ไม่ได้แคร์แสงแฟลชที่สว่างขึ้นวูบแล้ววูบเล่าเลยแม้แต่น้อย ยูบินเดินตามไปเงียบๆ รู้สึกได้ถึงสายตาของนักข่าวและแขกเหรื่อในงานที่มองมาที่เธอเป็นตาเดียวกัน

     

    โต๊ะเราอยู่นั่นใช่ไหมคะ ไปกันเลยดีกว่าค่ะ ชั้นหิวจะแย่อยู่แล้ว

     

    แทฮราพูดพร้อมกับแนบแก้มลงกับไหล่ชายหนุ่มอย่างอ้อนๆ ยูบินมองตามทั้งสองคนที่เดินไปนั่งร่วมโต๊ะกับผู้ใหญ่แล้วถอนใจออกมา ตัดสินใจเดินเลี่ยงไปอีกมุมหนึ่งของงาน.... ที่มุมค็อกเทล แทยัง ซอนมี โซฮี และซึงรีกำลังวุ่นวายอยู่กับการเตรียมของว่างให้แขกเหรื่อ ยูบินเดินมาหยุดที่หน้าโต๊ะ แทยังเงยหน้าขึ้นมองเธอแล้วยิ้มให้

     

    ว่าไง เพิ่งมาเหรอ

     

    ใช่....ท่าทางจะยุ่งกันน่าดูเลยนะ

     

    หญิงสาวพูดพร้อมกับยิ้มตอบเขา....แทยังมองรอยยิ้มตรงหน้า รู้สึกได้ถึงความเศร้าที่แฝงอยู่ในนั้น

     

    ก็ไม่เท่าไหร่หรอก มีซึงมาช่วยก็เลยพอไหว

     

    แทยังว่าพร้อมกับมองไปที่ซึงรีและซอนมีที่กำลังเปิดศึกวิวาทกันอยู่ระหว่างทำขนม ยูบินคลายยิ้มกว้างขึ้น

     

    ซึงรีน้องนายน่ะเหรอ โตเป็นหนุ่มแล้วหน้ายังไม่เปลี่ยนเลยนะเนี่ย

     

    แทยังยิ้มออกมานิดหนึ่งเมื่อเห็นคนผิวแทนอารมณ์ดีขึ้น โซฮีหอบถาดขนมมาวางที่โต๊ะด้วยใบหน้าเหนื่อยจัด คนแก้มป่องยิ้มกว้างให้ยูบินทั้งที่แก้มยังเปื้อนแป้ง แทยังเอื้อมมือไปเช็ดออกให้พร้อมกับเอ็ด

     

    วางเบาๆหน่อยสิ เดี๋ยวขนมหกหมดชั้นตัดเงินเดือนนะ

     

    โซฮีทำหน้าหงิกใส่กับคำขู่ของเจ้านาย แต่แก้มกลมกลับเป็นสีแดงระเรื่อขึ้นมา ทว่าแทยังก็ไม่ได้สังเกตเห็นเลยแม้แต่น้อย….

     

    สายตาของเขามองแค่คนผิวแทน…ด้วยความเป็นห่วงจับใจ…

     

    ท่าทางจะยุ่งจริงๆ ให้ชั้นช่วยมั้ย

     

    ยูบินเสนอตัวขึ้นมาหน้าตาเฉย....แทยังกับโซฮีมองเธอหัวจรดเท้าแล้วถามขึ้นเกือบจะพร้อมกัน

     

    ชุดนี้เนี่ยนะ?”

     

    ชุดไหนก็ทำได้หมดแหละ อย่าลืมสิว่าชั้นกินเค้กร้านนี้บ่อยจนทำได้หมดแล้ว นี่ถ้าไม่ติดว่านายไม่มีเงินจ่ายชั้นสมัครทำงานที่ร้านไปแล้วนะเนี่ย

     

    คำพูดของยูบินทำให้คนตาตี่ทั้งสองหัวเราะออกมา หญิงสาวระบายยิ้ม รับถุงมือจากโซฮีมาใส่ แต่ยังไม่ทันได้ทำอะไรก็มีเสียงของใครบางคนดังขึ้นเสียก่อน

     

    คิมยูบิน

     

    น้ำเสียงทุ้มที่เอ่ยชื่อเธออย่างห่างเหินนั้นทำให้ยูบินชะงักกึก หันไปมองเจ้าของเสียงด้วยความหวั่นใจ ชเวซึงฮยอนยืนหน้าเรียบเฉยอยู่หน้าโต๊ะค็อกเทล เขากวาดตามองทั้งหมดก่อนจะเอ่ยเสียงเรียบ

     

    คุณฮยองมินอยากเจอเธอ

     

    ค่ะ....เดี๋ยวชั้นจะไป...

     

    อย่านานนักล่ะ ให้ผู้ใหญ่รอมันเสียมารยาท

     

    คำพูดนั้นเหมือนจะเหน็บเธออยู่ในที ยูบินนิ่งสนิท....หญิงสาวถอดถุงมือออกก่อนจะเดินตามเขาไปเงียบๆ โซฮีหันมามองแทยัง เห็นสายตาที่มองตามไปแล้วก็นึกรู้ได้ทันที

     

    คนนี้เหรอเฮีย....

     

    มันนั่นแหละ

     

    แทยังตอบเรียบๆ ก่อนจะหันไปทำขนมต่อ ทำให้อานโซฮีได้แต่เงียบงัน.....คนแก้มป่องหันไปมองยูบินอีกครั้ง เห็นนั่งลงที่โต๊ะวีไอพีที่มีผู้ใหญ่อีกหลายคนนั่งอยู่ แต่ถึงแม้เธอจะนั่งข้างชเวซึงฮยอนผู้เป็นสามี แต่ทั้งคู่กลับดูห่างเหินกันเหลือเกิน คนที่คุยกับท็อปบ่อยกว่ากลับกลายเป็นผู้หญิงในชุดแสคสีแดงที่นั่งขนาบข้างอีกคน....คนที่โซฮีเดาได้ไม่ยากเลย...

     

    แทฮราแน่ๆ....

     

    ในโต๊ะนั้นนอกจากจะมีท็อป ยูบิน และแทฮราแล้ว จียงก็นั่งอยู่ด้วย ข้างกายของเขาคือสาวสวยไฮโซคนหนึ่งซึ่งเป็นคนที่เขา เลือกมาประชันซอนเยในคืนนี้ ส่วนอีกข้างก็คือควอนจีฮยอนผู้เป็นแม่ที่นั่งหน้างอเป็นม้าหมากรุกด้วยความไม่พอใจลูกชาย หญิงวัยกลางคนมองท็อปกับแทฮรา หันมามองจียงกับกยูริอีกต่อหนึ่ง.... ก่อนจะถอนใจออกมาอย่างหงุดหงิด

     

    ไอ้เด็กพวกนี้มันอะไรกัน อีกคนนึงก็แต่งงานแล้ว อีกคนนึงก็มีคู่หมั้นอยู่แล้ว ยังจะกล้าควงผู้หญิงคนอื่นเข้ามาในงานต่อหน้านักข่าวอีกเหรอ

     

    นี่ถ้าไม่ติดว่านี่เป็นงานของบริษัทล่ะก็....หล่อนจะอาละวาดให้พังกันไปข้างเลยคอยดู....

     

    นักข่าวเค้าฮือฮาอะไรกันคะนั่น...

     

    คุณหญิงคนหนึ่งในโต๊ะทักขึ้นเมื่อเห็นแสงแฟลชวูบวาบผิดปกติที่หน้างาน ทั้งหมดหันไปมองเป็นตาเดียวกัน ในขณะที่ควอนจีฮยอนคลายยิ้มมุมปากเล็กน้อย...

     

    มาแล้วสินะ....

     

    ควอนจียงเหลือบมองรอยยิ้มมีเลศนัยของมารดาอย่างสงสัย…เขาไม่อยากเดาเลยว่าคนที่เข้ามาใหม่เป็นใคร เพราะคำตอบมักจะเป็น...

     

    “มินซอนเย...?

    *
    *
    *

    ทูบินปวดตับพอหรือยัง??

    ถ้ายังไม่พอ เรามีต่อ 555555

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×