คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : Chapter 3 ขโมย / เผชิญหน้ากับคู่หมั้น
*
*
*
เวลาเช้ามืด ในร้านเบเกอรี่ของแทยัง
ร่างบางของลีซอนมีเดินโซเซออกมาจากห้องน้ำด้วยความง่วงเต็มทน เพราะวันนี้เธอมีสอบทำให้เด็กสาวตัดสินใจนอนค้างที่ร้านที่อยู่ใกล้โรงเรียนมากกว่า แต่การอ่านหนังสือดึกไปหน่อยเมื่อคืนนี้ก็ทำให้สภาพของเธอดูไม่ดีนัก
“ฮ้าวววว”
ซอนมีอ้าปากหาวกว้างๆอีกรอบก่อนจะตัดสินใจไม่ขึ้นไปนอนบนห้องชั้นบนแล้ว ร่างบางซุกตัวลงบนโซฟาในร้านแล้วเริ่มหลับพร้อมเสียงกรนเบาๆ อีกครั้ง ทำให้ไม่ได้ยินเสียงกดกริ่งที่ดังมาจากหน้าร้านเลยแม้แต่น้อย เด็กหนุ่มที่ยืนกดกริ่งอยู่หน้าร้านทำหน้ามุ่ย มองเข้าไปในร้านที่มืดสนิทอย่างสงสัย
“ทำไมเงียบอย่างนี้เนี่ย หรือพี่แทยังจะไม่อยู่นะ.....โทรถามสักหน่อยดีกว่า”
ลีซึงฮยอนกดโทรออกหาพี่ชายร่วมสายเลือด ไม่นานนักปลายสายก็รับด้วยน้ำเสียงอารมณ์ดี
(ว่าไงไอ้แพนด้า ถึงไหนแล้วเนี่ย)
“ผมอยู่หน้าร้านพี่แล้วครับ ตอนนี้พี่อยู่ในร้านหรือเปล่า”
ซึงรีตอบพร้อมกับพยายามมองไปข้างใน ปลายสายตอบมาอย่างตกใจ
(ถึงแล้วเหรอ ทำไมเร็วจังเลยเนี่ย ตอนนี้ชั้นเพิ่งออกมาจากคอนโดเองว่ะ....แล้วนี่แกกดกริ่งดูหรือยัง มีคนอยู่ในร้านคนนึงนะ)
“กดจนมือหงิกแล้วครับ ไม่เห็นมีใครออกมาสักคน”
ซึงรีพูดอย่างเซ็งๆ สภาพร้านเงียบแบบนี้คงไม่มีใครอยู่แล้วล่ะ จะให้เขาไปหาพี่ที่คอนโดก็คงยาก กว่าจะมาร้านนี้ได้ยังหลงทางแทบแย่
(สงสัยซอนมีจะไปโรงเรียนแล้วมั้ง....งั้นเอางี้นะ แกเห็นกระถางต้นไม้ที่วางอยู่หน้าร้านมั้ย)
“กระถางไหนล่ะพี่ มีเป็นสิบเลยเนี่ย”
เด็กหนุ่มว่าพร้อมกับเกาหัวแกรกๆ แทยังจึงอธิบายต่อ
(กระถางที่สองจากซ้ายมือน่ะ ลองยกกระถางออกดูสิ)
ซึงรีทำตามคำสั่งของพี่ชายแล้วก็ต้องตาโตเมื่อเห็นกุญแจวางอยู่ใต้กระถางหนึ่งดอก เขาลองใช้เปิดประตูดูก็เปิดได้จริงๆ แทยังถามมาตามสาย
(เป็นไง เปิดได้มั้ย)
“ได้ครับ ยังชอบเล่นซ่อนหาเหมือนเดิมนะพี่”
(มันแน่นอนอยู่แล้ว งั้นเดี๋ยวแกเข้าไปรอในนั้นก่อนแล้วกันนะ พี่กำลังขับรถไปหา)
“ครับพี่”
ซึงรีกดตัดสายก่อนจะเปิดประตูเข้าไปข้างใน ข้างในร้านมืดมากจนเขามองอะไรไม่เห็น ซึงรีพยายามคลำทางหาสวิตช์ไฟอย่างทุลักทุเล จนในที่สุดเขาก็เจอมันอยู่ข้างเสา ยังดีที่สวิตช์ไฟเป็นสีเหลืองสว่างทำให้เขามองเห็นได้ในความมืด
“อยู่นี่เอง หาตั้งนาน”
ซึงรีพึมพำอย่างดีใจ ร่างสูงเดินตรงไปที่สวิตช์ทันที และคงจะถึงแล้วหากไม่สะดุดขาของใครบางคนจนล้มลงไปบนโซฟา ซอนมีเบิกตาโพลงอย่างตกใจเมื่อรู้สึกได้ว่ามีร่างสูงใหญ่ของใครบางคนนอนทับตัวเธออยู่ ในขณะที่ซึงรีเองก็ตกใจไม่แพ้กัน เพราะนอกจากจะทับร่างบางทั้งตัวแล้ว ริมฝีปากของเขาก็ดันไปชนกับปากนุ่มๆของคนตรงหน้าเข้าพอดี
“กรี๊ดดดดดดดดดด!!!”
“เฮ่ย!!!”
ซึงรีร้องออกมาเมื่อเด็กสาวกรีดร้องเสียงดังแถมยังถีบเขาจนกระเด็นไปชนผนังร้าน ซอนมีลุกพรวดขึ้นเช็ดปากอย่างเอาเป็นเอาตาย หญิงสาวมองซึงรีที่ยังนั่งจุกอยู่กับพื้นแล้วชี้หน้าเขาทันที
“แกเป็นใคร เข้ามาในร้านนี้ทำไม แกเป็นโจรใช่มั้ย คิดจะมาปล้นร้านนี้ใช่มั้ย หรือว่าที่จริงแล้วแกไม่ได้หวังเงิน อ๋อ....เข้าใจแล้ว นี่แกคิดจะปล้ำชั้นใช่มั้ย เห็นชั้นอยู่ในร้านคนเดียวก็เลยจะปล้ำชั้นใช่มั้ย ไอ้ชั่ว!!!”
เด็กสาวใส่เป็นชุดพร้อมกับหันไปคว้าแจกันบนโต๊ะขึ้นมาเงื้อตั้งท่าหวดเต็มเหนี่ยว ซึงรีที่กำลังนั่งจุกอยู่ตาเหลือก รีบถีบตัวเองให้พ้นจากรัศมีขว้างของเธอทันที
“เพล้งงงง!!!”
“ยัยบ้า นี่กะจะฆ่ากันเลยเหรอ!”
เด็กหนุ่มโวยวายเมื่อเห็นสภาพของแจกันที่ถูกขว้างไปมุมห้อง นี่ถ้าเกิดเขาหลบไม่ทันแจกันนั่นต้องมาหยุดอยู่ที่หัวเขาแน่ๆ
“ก็ใช่น่ะสิ ตีงูมันต้องตีให้ตาย ตีผู้ร้ายอย่างแกก็ต้องเอาให้เลือดสาดเหมือนกัน ย๊ากกกก!!!”
ซอนมีเงื้อด้ามไม้กวาดขึ้นมาอีกรอบ ซึงรีรีบลุกขึ้นยื้อไม้กวาดไว้ เด็กสาวพยายามดึงไม้ออกจากมือเขาแต่ก็สู้แรงไม่ได้ ซึงรีเองถึงจะพยายามแย่งไม้มาแต่ซอนมีก็ไม่ปล่อยมาง่ายๆ เหมือนกัน
“ฟังชั้นก่อนสิ ชั้นไม่ใช่ผู้ร้ายนะ เธอกำลังเข้าใจผิด”
“เชื่อก็ฟายแล้วไอ้โจรโรคจิต ถ้าไม่ใช่ผู้ร้ายแกจะบุกมาปล้ำชั้นทำไม!!”
ซอนมีแว้ดๆ ใส่เขาพร้อมกับพยายามดึงไม้คืน ซึงรียื้อไม้กลับพร้อมกับอธิบายพัลวัน
“ชั้นเป็นน้องชายพี่แทยังเพิ่งมาจากกวังจู จะมาเรียนมหาลัยที่นี่ แล้วเมื่อกี้ที่ชั้นล้มทับเธอชั้นก็ไม่ได้ตั้งใจ ชั้นแค่คลำหาสวิตช์ไฟแล้วสะดุดขาเธอล้มลงไปแค่นั้นเอง ชั้นไม่ใช่ผู้ร้ายนะ ไม่ใช่โรคจิตด้วย!!!”
ขาดคำของซึงรี ซอนมีก็ออกแรงดึงไม้กวาดออกมาได้สำเร็จ ร่างบางเซไปชนผนัง ในขณะที่ซึงรีที่แย่งไม้กวาดอยู่ก็เซถลามาชนเธอด้วย ชนไม่ชนเปล่า....มือเขาดันไปหยุดอยู่ที่หน้าอกของเธอเข้าพอดี....
“กะ....”
ซอนมีหลุดปากออกมาได้คำเดียว เด็กสาวตาเบิกโพลงด้วยความตกใจ ในขณะที่ซึงรีมองมือตัวเองแล้วค่อยๆเงยหน้าขึ้นมองซอนมีด้วยดวงตาที่เบิกกว้างไม่แพ้กัน....
ซวยแล้วไง....
“กรี๊ดดดดดดดดดดดดด!!! แก
แก
ไอ้โรคจิต แกตาย!!!!”
“ชั้นไม่ได้ตั้งใจนะ!!”
ซึงรีพูดออกมาได้แค่นั้นก็ต้องหลบไม้กวาดพัลวัน ซอนมีไล่ฟาดเขาไปรอบร้านด้วยความแค้นสุดขีด โดนบ้างไม่โดนบ้างแต่เด็กสาวก็ไม่ยอมลดละ ร่างสูงกระโดดแผล็วขึ้นไปบนโซฟาอย่างว่องไวทำให้ไม้กวาดฟาดผิดไปลงที่โซฟาแทน แต่ซอนมีไวกว่าที่คิด เธอเหวี่ยงไม้กวาดมาที่ก้นของเขาเต็มแรง
“ป้าบ!!”
“โอ๊ย!! ยัยบ้า หยุดนะ ชั้นแสบก้นไปหมดแล้วรู้มั้ย!!”
“รู้สิ ไม่รู้จะทำเรอะ!!”
ลีซอนมีตวาดแว้ดแล้วเริ่มฟาดไม้กวาดอีกชุดใหญ่ ซึงรีหลบอย่างชุลมุนก่อนจะคว้าไม้กวาดได้แล้วกระชากโยนทิ้งไปอีกทาง เด็กหนุ่มหอบแฮ่ก ตวาดกลับอย่างสุดทน
“ก็บอกว่าไม่ได้ตั้งใจๆ จะเอาอะไรนักหนาฮะ คิดว่าชั้นอยากจับของเธอนักหรือไง!”
“ว่าไงนะ!!!”
เมื่อพูดไปแล้วซึงรีถึงรู้ว่าความซวยกำลังมาเยือนเขาอีกรอบ เพราะตอนนี้เด็กสาวร่างเล็กเอวบางตรงหน้าเริ่มองค์ลงอีกแล้ว
“เปล่า....เปล่า....คือชั้นหมายถึงชั้นไม่ได้...”
“วันนี้ถ้าแกไม่เจ็บตัวอย่ามาเรียกชั้นว่าติ๋มอีกเลย ไอ้โรคจิต!!”
“อะไรติ๋มๆนะ?”
ซึงรีสงสัยได้แค่นั้นก็ต้องตาเหลือกอีกหนเพราะร่างบางทะยานเขาถีบเขาแบบไม่ให้ตั้งตัว ร่างสูงใหญ่ของเด็กหนุ่มกระเด็นไปอัดโซฟาดังลั่น แต่เขาก็ไม่มีเวลาจุกได้นานนักเพราะร่างเล็กกระโจนขึ้นมาคร่อมเขาแล้วฟาดหมอนใส่หน้าไม่ยั้ง
“ตายแน่ ตายแน่!!”
“ชั้นไม่ได้ตั้งใจจริงๆนะ โอ๊ย!! พอเถอะ ชั้นไม่ได้ตั้งใจจริงๆ ชั้นไม่ใช่โรค....โอ๊ย!!!”
ซึงรีพยายามอธิบายแต่คราวนี้เด็กสาวไม่สนใจฟังเขาแล้ว เอาแต่ฟาดหมอนใส่เขาไม่หยุด ถึงหมอนนี่จะนุ่มแต่พอถูกฟาดเข้าหลายๆครั้งแบบไม่ได้ตั้งตัวหน้าของซึงรีก็เริ่มแดงเถือก ชีวิตของเขาคงจะจบสิ้นลงไปในอีกไม่นานนี้หากไม่บังเอิญว่าแทยังเดินเข้ามาเสียก่อน
“นี่มันอะไรกันเนี่ย ซอนมี เธอทำอะไรฮะ!!”
“หนูกำลังจับไอ้โรคจิตค่ะเฮีย มันบุกเข้ามาในร้านเราไม่พอยังจะปล้ำหนูอีก จับมันส่งตำรวจเลยเฮีย!!”
เด็กสาวฟ้องพร้อมกับหยุดฟาดหมอนใส่เขา ทำให้แทยังเห็นหน้า ‘ไอ้โรคจิต’ ได้ชัดๆ
“ไอ้ซึง!!!”
*
*
*
ซึงรีที่อยู่ในสภาพใบหน้าแดงเถือก หัวหูยุ่งเหยิงแถมมีปุยนุ่นติดเต็มไปหมดกำลังนั่งประคบน้ำแข็งอยู่ที่โซฟา ในขณะที่ซอนมียังไม่อยากจะเชื่อคำบอกเล่าของเจ้านาย
“ไอ้นี่อ่ะนะ น้องเฮีย?”
“ก็ใช่น่ะสิ นี่น้องชายแท้ๆของเฮียเอง มันเพิ่งมาจากกวังจูจะมาเรียนมหาลัยในโซลน่ะ”
แทยังพยายามอธิบายในขณะที่ซึงรีพยักหน้าหงึกๆ เป็นการยืนยัน ซอนมีทำหน้าตื่นตระหนก
“นี่เฮียมีน้องเป็นโรคจิตเหรอ!!!”
“โธ่เอ๊ย ไม่ใช่หรอก มันไม่ได้เป็นโรคจิตวิตถารอะไรทั้งนั้นแหละ”
เจ้าของร้านเบเกอรี่หนุ่มพูดยิ้มๆ ในขณะที่ผู้เป็นน้องชายยืนยันต่ออย่างเอาเป็นเอาตาย
“จริงๆนะ ชั้นแค่บังเอิญสะดุดขาเธอล้มเท่านั้นเอง แล้วอีกเรื่องนึง....ชั้นก็ไม่ได้ตั้งใจเหมือนกัน ชั้นแย่งไม้กวาดกับเธอแล้วตอนที่เธอดึงชั้นไม่ได้ตั้งตัวน่ะ ก็เลย....”
“พอแล้วๆ ไม่ต้องพูด!!!”
ซอนมีขัดขึ้นหน้าแดงก่ำ เริ่มรู้แล้วว่ามันเป็นเรื่องเข้าใจผิดจริงๆ แต่เธอก็ยังโกรธนายขอบตาดำคนนี้อยู่ดี มีอย่างที่ไหนเจอกันครั้งแรกก็มาขโมยจูบแรกของเธอไป แถมยัง.....
“แล้วนี่ตกลงแกทำอะไรซอนมี เค้าถึงคิดว่าแกเป็นโรคจิตแบบนี้”
แทยังหันไปถามน้องชายอย่างสงสัย ชายหนุ่มอึ้งไปนิดหนึ่ง หันไปมองสายตาข่มขู่ของเด็กสาวตัวเล็ก แววตานั้นเหมือนกำลังจะบอกเขาว่าถ้าพูดออกไปเขาตายแน่ ซึงรีหันมาสบตาพี่ชายที่มีเครื่องหมายคำถามลอยอยู่ก่อนจะตอบอย่างอึดอัด
“ไม่มีอะไรหรอกครับ ก็แค่...”
“แอ๊ดดดดดด”
เสียงประตูร้านเปิดเหมือนระฆังช่วยชีวิต ทั้งหมดหันไปมองหน้าร้านเป็นตาเดียวกัน คนที่เพิ่งเปิดประตูเข้ามาอยู่ในชุดนักเรียนมัธยมปลายเต็มยศแต่ใบหน้ายังง่วงตลอดเวลา อานโซฮีมองทุกคนในร้านแล้วถามขึ้นเสียงง่วงไม่แพ้ใบหน้า
“มีไรกันง่ะ....”
*
*
*
รถเบนซ์คันหรูแล่นมาจอดที่หน้าบริษัทที่ติดป้ายขนาดใหญ่ไว้ว่า “ควอน คอร์เปอเรชั่น”
ร่างสูงในชุดเสื้อเชิ้ตสีขาวตัวเดียวตัดกันอย่างสิ้นเชิงกับผมสีทองอ่อนของเขาก้าวลงมาจากรถพร้อมกับคว้าสูทสีดำอีกตัวขึ้นมาพาดบ่า ยามที่หน้าบริษัทโค้งให้จนหัวแทบติดพื้น จียงโค้งตอบยิ้มๆ แล้วเดินเข้าไปในบริษัทด้วยรอยยิ้มเหมือนเช่นทุกวัน
พนักงานที่กำลังวุ่นวายกับงานของตัวเองต่างพากันหยุดโค้งให้เขาตลอดทาง สาวๆหลายคนได้แต่แอบกรี๊ดเบาๆ ตามหลังในความเท่ของกรรมการผู้จัดการใหญ่คนนี้....จนกระทั่งมาถึงหน้าห้องทำงานของตัวเอง จียงก็ต้องแปลกใจกับท่าทางลุกลี้ลุกลนของเลขาหน้าห้อง
“มีอะไรหรือเปล่าฮยอนซึง ทำไมนายทำหน้าแปลกๆแบบนั้นล่ะ”
เลขาหนุ่มหน้าหวานยิ้มแหยๆให้เขาพร้อมกับส่ายหน้าไปมา จียงขมวดคิ้วอย่างไม่เข้าใจแต่ก็ไม่อยากเซ้าซี้ ชายหนุ่มเปิดประตูเข้าไปในห้องแล้วก็ต้องแปลกใจรอบที่สองเมื่อเห็นมารดาของตนนั่งเฉิดฉายอยู่บนเก้าอี้ทำงาน
“แม่...มีธุระอะไรกับผมเหรอฮะ”
“อ้าวตาจี...วันนี้มาทำงานแต่เช้าเลยนะจ๊ะ”
ควอนจีฮยอนหันมามองหน้าห้องแล้วทักทายเสียงหวานพร้อมกับโปรยยิ้มให้ลูกชาย จียงมองหน้าแม่แปลกๆ
“ตกลงมีอะไรหรือเปล่าฮะ...”
ชายหนุ่มถามพลางพยายามคิด...การที่จู่ๆแม่ของเขาจะมายิ้มหวานปานจะกลืนกินให้แบบนี้ ถ้าไม่มีเรื่องตามมาก็คงจะแปลกไปหน่อย...หญิงวัยกลางคนยิ้มหวานอีกครั้งก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่ต่างจากรอยยิ้มเลย
“มีสิ....ที่แกบอกแม่ว่าวันนั้นแกไปรับหนูมินมินไม่ได้เพราะมันมีแอ็กซิเดนท์ใช่ม้า....ตอนนี้แม่ก็เลยช่วยแก้ปัญหาให้แกไง....”
“แก้ปัญหายังไงฮะ”
จียงถามพร้อมกับมองไปรอบห้องอย่างระแวงขึ้นมาทันที ผู้เป็นแม่ยิ้มอย่างรู้ทันก่อนจะปรบมือขึ้นมาสามครั้ง
“หนูมินมิน เข้ามาได้แล้วจ้า~~”
ขาดคำของมารดา จียงก็ต้องสะดุ้งเฮือกเมื่อได้ยินเสียงเปิดประตูดังมาจากข้างหลัง ชายหนุ่มหันขวับไปมองผู้มาเยือนทันที และเมื่อเห็นหน้ากันชัดๆ ชายหนุ่มก็เบิกตากว้าง
“เธอ....!!!”
*
*
*
*
“เธอ....!!!”
เสียงอุทานอย่างตกใจของชายหนุ่มไม่ได้ทำให้ซอนเยตกใจไปด้วย หญิงสาวยิ้มหวานให้เขาก่อนจะทักทายเสียงอ่อนโยน
“สวัสดีค่ะพี่จียง”
ชายหนุ่มมองผู้หญิงตรงหน้าอย่างไม่อยากจะเชื่อสายตา....นี่ยัยเด็กซอนเยจริงๆเหรอเนี่ย.....เด็กที่หัวเถิกๆ น้ำมูกยืดตลอดเวลาคนนั้นน่ะนะ.....แล้วทำไมตอนนี้ถึงได้...
จียงมองรองเท้าส้นสูงราคาแพงคู่นั้น ไล่มาถึงเรียวขาสวย เอวบางๆ รับกับหน้าท้องแบนราบภายใต้สูทสีหวาน จนกระทั่งมาหยุดที่ใบหน้าเรียวสวยกับผมบ๊อบเทซอยสั้น...ผู้หญิงคนนี้สวยขนาดที่ดาราบางคนยังต้องอายเลยล่ะ...
“ไม่ได้เจอกันนานเลยนะคะ พี่เปลี่ยนไปเยอะเลยนะ”
มินซอนเยว่าพร้อมกับยิ้มหวานซ่อนเลศนัยให้เขาอีกรอบ จียงมองสายตาคู่นั้นแล้วก็รู้ทันทีว่า....ยัยเด็กซอนเยกลับมาหนนี้ไม่ธรรมดาซะแล้ว ถึงขั้นแกล้งทำเป็นไม่รู้จักเขาที่สนามบินเพื่อแก้แค้นขนาดนั้น งานนี้เขาเจอศึกหนักแน่ๆ
“ไม่เจอกันนานที่ไหนกัน ยัยเด็กขี้โกหก”
ควอนจียงว่าเข้าให้....ถ้าเป็นยัยเด็กซอนเยคนเก่าเจอคำนี้เข้าไปก็คงจะโวยวายแล้วหาทางเอาคืนเขาแบบโง่ๆ แต่ตอนนี้ร่างบางตรงหน้ากลับกระตุกยิ้มหวานเหมือนได้รับคำชม
“อ้าว....ก็ไม่ได้เจอกันตั้งสิบปี ไม่นานเหรอคะ”
“นั่นสิตาจี ทำไมไปว่าน้องอย่างนั้นล่ะฮะ ปากหะมาเหมือนเดิมนะแกน่ะ”
ผู้เป็นมารดากัดจิกลูกชายแบบไม่ไว้หน้าเพื่อปกป้องว่าที่สะใภ้คนโปรด จียงเบ้ปาก หันมาพูดกับซอนเยอีกครั้งด้วยน้ำเสียงที่เบากว่าเดิม
“อย่าคิดว่าสวยขึ้นนิดหน่อยแล้วชั้นจะใจอ่อนกับเธอนะ ยังไงชั้นก็ไม่มีวันยอมแต่งงานกับตัวแสบอย่างเธอแน่ ยัยเด็กน้ำมูกยืด!!”
“เกมนี้มันต้องดูกันยาวๆค่ะ...พี่จี
.”
ร่างบางตอบด้วยรอยยิ้มเชือดเฉือนไม่แพ้กัน หญิงสาวเดินเข้าไปหาควอนจีฮยอนแล้วตรงเข้ากอดว่าที่แม่สามีอย่างออดอ้อน
“คุณแม่ขา....”
“อะไรจ๊ะมินมินของแม่ ^O^”
จียงมองท่าทางอ่อนหวานของมารดาแล้วเบ้ปาก....ทีลูกตัวเองล่ะด่าเอาๆวันละสามเวลาหลังอาหาร แต่กับคนนี้เอาอกเอาใจกันตั้งแต่เด็กยันโต...มรดกจะยกให้เขาหรือเปล่าเนี่ย....
“มินมินลืมบอกคุณแม่ไปว่ามินมินเพิ่งกลับมาจากเรียนจบ....ก็เลยยังหางานทำไม่ได้เลยค่ะ”
หญิงสาวว่าพร้อมกับทำตาปริบๆ ทำเอาหญิงวัยกลางคนแทบจะใจละลาย
“งั้นเหรอลูก...เอางี้ดีมั้ย หนูก็ลองมาทำงานที่....”
“งานที่บริษัทตัวเองก็มีทำไมไม่ทำ”
จียงขัดขึ้นกลางอากาศ มินซอนเยหันขวับมาจ้องหน้าเขาแล้วหันกลับไปอ้อนควอนจีฮยอนต่อ
“ก็มีอยู่หรอกค่ะ แต่มินมินไม่อยากเข้าไปบริหารงานทั้งที่ยังไม่เคยทดลองงานมาก่อนเลย มินมินอยากลองทำงานตำแหน่งเล็กๆดูบ้างน่ะค่ะ ”
“คนทำความสะอาดห้องน้ำเป็นไง เล็กพอดีเลยนะ”
จียงขัดขึ้นอีกรอบ เลยถูกผู้เป็นแม่ถลึงตาใส่อย่างไม่พอใจ
“หยุดปากหะมาเดี๋ยวนี้นะตาจี....เอายังงี้แล้วกันนะหนูมินมิน เดี๋ยวหนูลองทำงานเป็นเลขาของพี่จีเค้าดูก่อน...แล้วยังไงก็ค่อยขยับขยายกันอีกทีนะลูกนะ”
“ไม่ได้นะครับ ผมไม่ให้เป็น!!!”
ชายหนุ่มคัดค้านขึ้นมาเสียงแข็ง ซอนเยทำหน้าเศร้า ควอนจีฮยอนเห็นว่าที่ลูกสะใภ้คนโปรดทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ก็เลยหันมาทำเสียงแข็งกว่าใส่ลูกชาย
“ทำไมจะไม่ได้!! ถึงแกจะเป็นกรรมการบริหาร แต่อย่าลืมนะว่าชั้นถือหุ้นสูงที่สุด!!”
“จะเป็นได้ไงล่ะครับ ผมมีฮยอนซึงเป็นเลขาอยู่แล้วนะ”
“ไม่เป็นไร ให้หนูมินมินทำงานช่วยฮยอนซึงไปด้วยก็ได้ นะลูกนะ ตกลงตามนี้นะ”
หญิงวัยกลางคนหันมาลูบหัวมินซอนเยอย่างเอ็นดู จียงหน้าเหวอที่เห็นแม่เปลี่ยนน้ำเสียงกะทันหัน ในขณะที่หญิงสาวยังไม่เลิกทำหน้าเศร้า
“จะดีเหรอคะ...ก็พี่จีเค้าไม่อนุญาต....”
“ยังไงก็ต้องอนุญาต ว่าไงตาจี จะอนุญาตหรือไม่อนุญาต พูดมาให้น้องได้ยินซิ!!”
มินซอนเยลุกขึ้นมายืนทำท่าลุ้นคำตอบของเขา จียงมองเธออย่างหมั่นไส้ ก่อนจะหันไปมองสายตาโหดๆของมารดาอีกต่อหนึ่ง ชายหนุ่มถอนใจเฮือก
“เออ อนุญาต!!”
“ว้าว! พี่จีใจดีที่สุดเลยค่ะ มินมินรักพี่จีที่สุดในโลกกก....เลย!”
ร่างบางว่าพร้อมกับเขย่งตัวขึ้นหอมแก้มเขา จียงอ้าปากค้าง ในขณะที่ควอนจีฮยอนกรี๊ดออกมาอย่างถูกใจ
“หนุ่มสาวสมัยนี้ช่างแสดงความรักต่อกันได้น่ารักน่าชังที่ซู้ด.....งั้นสวีตกันไปก่อนแล้วกันนะจ๊ะ แม่ไปกินข้าวก่อนดีกว่า”
“มินมินก็ยังไม่กินข้าวเหมือนกันค่ะ เดี๋ยวมินมินไปกินข้าวเป็นเพื่อนคุณแม่ก่อนนะคะ”
มินซอนเยพูดพร้อมกับเดินมาเกาะแขนว่าที่แม่สามี หญิงวัยกลางคนมองจียงที่ยังเหวออยู่แล้วหันมามองสายตาวิ้งๆ ของเด็กสาวตรงหน้าอีกที
“เอางั้นก็ได้จ้ะ งั้นแม่ไปก่อนนะจ๊ะตาจี เดี๋ยวพรุ่งนี้จะส่งน้องมาช่วยงานน้า~”
จียงกะพริบตาถี่ๆ อย่างได้สติ ชายหนุ่มหันมามองแม่กับซอนเยที่กำลังเดินออกไป คนผมสั้นหันมาขยิบตาให้เขาแล้วกระตุกยิ้มเล็กน้อยอย่างผู้ชนะ
“ยัย....ยัย...ยัยเด็กน้ำมูกยืด!!”
จียงด่าไม่ออก ชายหนุ่มยกแขนเสื้อขึ้นเช็ดแก้มอย่างเอาเป็นเอาตาย
“ฮยอนซึง!!”
“ครับบอส!!”
“ออกไปซื้อสำลีกับแอลกอฮอล์มาให้ชั้นเดี๋ยวนี้!!!”
“อะ...เอามาทำไมครับ”
ฮยอนซึงพูดพร้อมกับมองเจ้านายอย่างไม่เข้าใจ จียงทุบโต๊ะปัง
“เอามาฆ่าเชื้อ!!!”
*
*
*
*
แดอึนรออีกสองสามตอนค่ะ คู่นี้อาจจะมาช้าหน่อย แต่จะออกมาแบบไหนต้องรอดู ^^
ทูบินตอนหน้ามาแล้ว มาแบบปวดตับด้วย -..-
ความคิดเห็น