ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [BB+WG] Bad Boy’s Hunter

    ลำดับตอนที่ #2 : Chapter 2 สาเหตุของการแต่งงาน / รักข้างเดียว

    • อัปเดตล่าสุด 24 มี.ค. 55


    ก๊อกๆๆ

     

    จียงกระแทกมือลงไปบนประตูไม้บานใหญ่แล้วยืนพิงผนังอย่างเซ็งๆ รอจนกระทั่งประตูเปิด แทฮราชะโงกหน้ามายิ้มให้เขา

     

    เข้ามาเลยค่ะคุณจียง ตอนนี้ท็อปอาบน้ำอยู่

     

    จียงขมวดคิ้วนิดหนึ่งเมื่อได้ยินคำบอกเล่านั้น ชายหนุ่มมองแทฮราที่ยังอยู่ในชุดเสื้อคลุม รู้ทันทีว่าสองคนนี้ทำอะไรตอนที่เขายังมาไม่ถึง ร่างสูงเดินเข้าไปนั่งที่โซฟาพร้อมกับก้มลงมองนาฬิกา

     

    วันนี้จะไปไหนกันเหรอคะ

     

    หญิงสาวถามพร้อมกับนั่งลงบนโซฟาอีกตัว ยกขาขึ้นไขว่ห้างอย่างจงใจ จียงมองเพียงแวบเดียวก็ไม่ได้ใส่ใจอีก เพราะคาสโนว่าอย่างเขาย่อมรู้มารยาของผู้หญิงพวกนี้ดี

     

    ที่จริงแล้วเขาสามารถทำอะไรแทฮราก็ได้ถ้าเขาต้องการ เพราะเธอเปิดทางให้เขาอยู่ตลอดเวลา และท็อปก็ไม่ได้แคร์เธอเท่าใดนัก ที่ลงทุนซื้อคอนโดนี้ให้ก็เพราะต้องการใช้เธอเป็นเครื่องมือเร่งเวลาหย่าก็เท่านั้น แต่จียงก็ไม่มีทางยุ่งกับผู้หญิงของเพื่อนเด็ดขาด โดยเฉพาะผู้หญิงที่มีเล่ห์เหลี่ยมแบบแทฮรา

     

    ท็อปรู้ดีว่าแทฮราเป็นนางแบบดัง และเรื่องของเธอเป็นที่สนใจของนักข่าว เพราะฉะนั้นตั้งแต่แต่งงานกับยูบิน เขาจึงมาหาเธอบ่อยๆ เพื่อให้มีข่าวออกไป....และแน่นอน...เพื่อให้ยูบินรับรู้ จะได้ตัดสินใจหย่าขาดกับเขาเสียที

     

    แต่ยูบินก็ทำให้จียงทึ่ง เพราะเธอทนอยู่ได้เป็นปี โดยไม่โวยวายด่าทออะไรท็อปเลยสักคำ...

     

    ผู้หญิงอะไร....ความอดทนสูงชะมัด...

     

    แกมาช้านะจียง

     

    ท็อปทักเสียงเรียบขณะที่เดินมานั่งข้างๆ เพื่อน จียงยิ้มเล็กน้อย

     

    ถ้าชั้นมาเร็ว แกก็คงไม่ได้    อาบน้ำหรอก

     

    แล้ววันนี้จะไปไหนกันดีล่ะ

     

    ท็อปถามพลางกลัดกระดุมเสื้อที่เหลือจนเรียบร้อย แทฮรารีบเสนอขึ้นทันที

     

    ทำไมไม่ดื่มกันที่นี่เลยล่ะคะ

     

    ไม่ดีกว่าครับ วันนี้ผมมีเรื่องปรึกษาท็อปเป็นการส่วนตัว

     

    จียงพูดเสียงเรียบแล้วหันมาสบตาท็อป หน้าคมยิ้มมุมปากอย่างรู้ทัน

     

    งั้นไปที่เดิมแล้วกัน

     

    *

    *

    *

    ว่าไงนะ คู่หมั้นเหรอ?

     

    ท็อปทวนคำอย่างตกใจเมื่อได้ยินคำบอกเล่าของเพื่อน จียงพยักหน้าอย่างหงุดหงิด ท็อปยกแก้วขึ้นดื่มด้วยใบหน้าครุ่นคิด

     

    แล้วแกเห็นหน้าเค้าหรือยัง

     

    ยังไม่เห็น ชั้นไปรับที่สนามบินแล้วเกิดเรื่องนิดหน่อยก็เลยไม่ได้เจอกัน แต่พรุ่งนี้ยังไงแม่ชั้นก็ต้องบังคับให้เจอกันแน่ และที่สำคัญนะ ชั้นพนันไว้ตรงนี้เลยว่าอีกไม่นานแม่ชั้นต้องบังคับให้แต่งงานกับยัยนั่นแน่ๆ

     

    จียงพูดเสียงดังขึ้นทุกทีตามอารมณ์ แต่ท็อปไม่ได้เดือดร้อนตามไปด้วย เขายังคงนิ่งเฉยเช่นเคย

     

    ถ้าแกไม่ยอมแม่แกจะทำอะไรได้

     

    แกพูดเหมือนไม่รู้จักแม่ชั้นเลยนะเทมป์

     

    จียงพูดพร้อมกับกระดกน้ำสีอำพันในแก้วเข้าปากอีกรอบ ท็อปมองเพื่อนด้วยแววตาเห็นใจขึ้นมานิดๆ

     

    แล้วแกจะทำยังไงต่อ

     

    ชั้นก็จะทำทุกวิถีทางให้ยัยนั่นถอดใจน่ะสิ แกก็รู้ว่าคนอย่างชั้นไม่มีทางแต่งงานกับใคร โดยเฉพาะกับยัยเด็กซอนเยน้ำมูกยืดนั่น

     

    ชายหนุ่มร่างเล็กกว่าพูดด้วยดวงตาหมายมาด ท็อปมองน้ำสีอำพันในแก้วที่สะท้อนแสงไฟวูบวาบของผับแล้วเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยเช่นเดิม

     

    จริงของแก....การแต่งงานแบบไม่เต็มใจก็เหมือนการตกนรกทั้งเป็น

     

    เงาในแก้วคริสตัลเรียกภาพในอดีตให้ย้อนกลับมาในหัวของชเวซึงฮยอนอีกครั้ง ย้อนกลับไปวันนั้น...วันที่เขาได้รู้ข่าวบางอย่างจากผู้เป็นแม่...

     

    แกต้องแต่งงานกับหนูยูบิน นี่เป็นคำสั่งของแม่

     

    แต่งเพื่อให้เค้ามาสูบเลือดสูบเนื้อจากครอบครัวเราน่ะเหรอครับ แม่ก็รู้ไม่ใช่เหรอว่าตระกูลคิมกำลังจะล้มละลาย

     

    ก็เพราะตระกูลคิมจะล้มละลายนี่แหละแม่ถึงต้องบังคับให้แกแต่ง เหลืออีกปีเดียวหนูยูบินก็จะเรียนจบมหาวิทยาลัยแล้ว ถ้าไม่แต่งกับแก น้องก็ต้องติดร่างแหไปกับพ่อแม่เค้าด้วย แม่ไม่ได้บังคับให้แกอยู่กับน้องไปตลอดชีวิตนะท็อป แค่แต่งรอเวลาจนกว่าตระกูลคิมเค้าจะกอบกู้กิจการได้แล้วค่อยหย่าก็ยังไม่สาย แต่ตอนนี้เราต้องช่วยเค้าก่อน แม่ไม่มีวันยอมทิ้งเพื่อนรักของแม่เด็ดขาด

     

    แต่คุณแม่ครับ....

     

    แกขัดใจแม่ไม่ได้หรอกท็อป แกก็น่าจะรู้นะว่าเป็นเพราะอะไร

     

    ท็อปเม้มปากแน่นเมื่อคิดถึงประโยคนี้ขึ้นมา....ใช่.....เขาขัดใจแม่ไม่ได้ เพราะแม่เขาเป็นโรคหัวใจที่พร้อมจะกำเริบขึ้นมาได้ทุกเมื่อ อีกอย่างแม่ของยูบินก็เป็นเพื่อนรักกับแม่ของเขามาตั้งแต่สมัยยังสาว

     

    แต่ก็นั่นแหละ....มันยุติธรรมตรงไหนกันที่จะต้องให้เขาถูกจองจำด้วยใบทะเบียนสมรสตั้งหลายปี เพื่อช่วยตระกูลที่ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับเขาเลยสักนิด

     

    อย่างน้อยเมียแกก็สวยนะ แต่ยัยเด็กซอนเยนี่...ฮึ้ยยย ไม่อยากจะคิด โตขึ้นมาจะสยองแค่ไหนกัน

     

    สวยแต่หิวเงินแบบนั้นน่ะเหรอ

     

    ท็อปพูดเยาะๆ เมื่อคิดถึงคนผิวแทนที่บ้าน...คนที่พยายามทำดีกับเขาตลอดเวลา ตีหน้าเศร้า ทำตัวให้น่าสงสาร... ทำราวกับว่าเขาไม่รู้จุดประสงค์ของเธอ

     

    คิดว่าเขาหลอกง่ายหรือยังไงกัน....

     

    ยังไงก็เถอะ แกต้องช่วยชั้น ชั้นรู้ว่าเรื่องทำตัวเลวให้หญิงเห็นเนี่ยแกถนัด

     

    จียงเอ่ยพลางตบบ่าเพื่อนแรงๆ แววตาเป็นประกายมุ่งมั่น...ใช่แล้ว...วิธีการของท็อปมันอาจจะไม่ได้ผลกับผู้หญิงที่มีความอดทนสูงอย่างยูบิน แต่สำหรับยัยเด็กซอนเยนี่....

     

    ชั้นเชื่อขนมกินได้เลยว่าอีกไม่นานยัยนั่นจะต้องยอมแพ้ ขอให้คุณแม่ถอนหมั้นกับชั้น ชัวร์!!! ”

     

    *

    *

    *

     

    ดึกมากแล้ว...

     

    ร่างเล็กบางของเด็กสาวที่กำลังง่วนกับการเก็บโต๊ะชะงักกึกเมื่อเห็นรถสีคุ้นตาแล่นมาแต่ไกล อานโซฮีทำตาโตก่อนจะวิ่งหน้าตั้งเข้าไปในร้านพร้อมกับตะโกนเสียงดัง

     

    เฮีย! เฮีย! ”

     

    เสียงเรียกที่เน้นสูงไปหน่อยทำให้ชายหนุ่มที่นั่งอยู่ในร้านสะดุ้งเฮือกอย่างตกใจ เจ้าของทรงผมอันเป็นเอกลักษณ์นั้นเงยหน้าจากการคิดบัญชีขึ้นมาโวยลูกน้องทันที

     

    บอกกี่ครั้งแล้วว่าเวลาเรียกเฮียอย่าขึ้นเสียงสูง ขนลุกทุกทีเลยเนี่ย โหวกเหวกโวยวายทำไม มีอะไรฮะ

     

    เจ้าของร้านเบเกอรี่รูปหล่อว่าพลางลุกขึ้นถอดผ้ากันเปื้อน โซฮีชี้มือไปที่หน้าร้าน

     

    พี่ยูบินมาน่ะเฮีย!!”

     

    หา!!!”

     

    แทยังร้องออกมาดังลั่นด้วยความตกใจ ตาคมมองไปที่นาฬิกาแล้วโกยแน่บไปที่หน้าร้านทันที มาดึกๆ แบบนี้ ทะเลาะกับไอ้นั่นมาอีกแหงๆ..

     

    โซฮีมองตามหลังเจ้านายไปแล้วถอนใจเบาๆ

     

    ทีงี้ล่ะวิ่งเร็วจังนะ..แอบรักเค้าข้างเดียวมันก็เจ็บแบบนี้แหละเฮีย...

     

    แทยังวิ่งมาถึงหน้าร้านพร้อมกับที่ยูบินก้าวลงจากรถพอดี ตาคมสวยมองไปรอบร้านอย่างแปลกใจ แต่กระนั้นแทยังก็ไม่วายสังเกตเห็น...รอยแดงช้ำที่ตานั่น...

     

    ร้องไห้มาอีกแล้วสินะ...

     

    ยังไม่ปิดร้านอีกเหรอแทยัง

     

    ยังเลย วันนี้คนเยอะน่ะ...แล้วนี่เธอ...

     

    เหนื่อย...นอนไม่หลับ...ขอนมปั่นสักแก้วได้มั้ย...

     

    *

    *

    *

     

    ดงยองเบกลับมานั่งคิดบัญชีอยู่ที่เคาน์เตอร์ แต่สายตาก็ยังไม่วายชำเลืองมองไปทางโต๊ะที่ยูบินกับซอนมีพนักงานอีกคนของร้านกำลังนั่งคุยกันอยู่ นมปั่นในแก้วที่ยูบินถืออยู่หมดไปแล้ว แต่ดูเหมือนสองสาวจะยังไม่หมดเรื่องคุยกันสักที ซอนมีน่ะไม่แปลกหรอกที่จะโม้เก่ง แต่ยูบินนี่สิ..ทำไมไม่กลับบ้านซะที...

     

    พี่ยูบิน จะเที่ยงคืนแล้วนะ กลับบ้านไปนอนเหอะ

     

    ซอนมีเตือนขึ้นมาเมื่อเห็นว่ารุ่นพี่สาวยังอิดออดไม่ยอมกลับเสียที ยูบินทำหน้ามุ่ย

     

    อยู่ต่ออีกหน่อยไม่ได้เหรอ ทำไมวันนี้เก็บร้านเร็วจังล่ะ

     

    พรุ่งนี้ชั้นกับซอนมีต้องสอบน่ะค่ะ เฮียเลยปิดร้านเร็วหน่อย

     

    โซฮีพูดพร้อมกับวางเค้กรสส้มลงตรงหน้ายูบิน เด็กสาวนั่งลงข้างรุ่นพี่คนสวย ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้แม้ว่าจะถูกสายตาดุๆ ของแทยังมองมาอย่างไม่พอใจที่เรียกเขาว่าเฮียแถมยังขึ้นเสียงสูงอีกต่างหาก

     

    ยูบินยิ้มบางๆ กับบรรยากาศภายในร้านที่ดูเหมือนเด็กเสิร์ฟทั้งสองคนจะไม่เกรงใจเจ้าของร้านเอาเสียเลย  เรียกชื่อล้อเลียนเหมือนว่าแทยังอายุมาก ทั้งที่จริงอายุก็ไม่ได้ห่างจากพวกเธอเท่าไหร่นัก

     

    ฝีมือโซฮีนี่สุดยอดเหมือนเดิมเลยนะ

     

    คนผิวแทนพูดพร้อมกับยกนิ้วโป้งให้ โซฮียิ้มแก้มป่องได้ไม่นานก็มีเสียงจิกกัดลอยมาจากเคาน์เตอร์

     

    ถ้าชั้นไม่สอนก็ทำไม่ได้ร้อก...

     

    คนหน้ากลมหันไปจ้องเจ้านายตาเขียว แทยังถลึงตาสู้อย่างไม่ยอมแพ้ ในขณะที่ซอนมีที่นั่งคั่นกลางพอดีได้แต่มองทั้งสองไปมาด้วยใบหน้าเอ๋อๆ ยูบินหัวเราะ

     

    ก็เพราะแบบนี้ไงชั้นถึงชอบมานั่งร้านนาย สบายใจดี^^”

     

    แทยังยิ้มตอบคนผิวแทนแบบอัตโนมัติ อานโซฮีแลบลิ้นใส่เขาอย่างรู้ทันระคนหมั่นไส้ ชายหนุ่มเดินมาวางกาแฟร้อนลงข้างๆเค้ก แล้วพูดกับเพื่อนรักด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน

     

    กินแก้วนี้แล้วก็กลับไปได้แล้ว จะได้ไม่ง่วงตอนขับรถ

     

    ขอบใจจ้ะ ^^”

     

    คิมยูบินเอ่ยพร้อมกับยิ้มให้ ซอนมีเห็นคนผิวแทนหันไปกินกาแฟ เลยหยิบช้อนขึ้นมาตักเค้กส้มกินอย่างเอร็ดอร่อย ในขณะที่โซฮีพูดขึ้นลอยๆ

     

    จะนอนไม่หลับมากกว่าน่ะซี คิดยังไงเอากาแฟให้กินตอนดึกๆ

     

    เป็นเด็กเป็นเล็กอย่ามายุ่ง ทำแก้มบวมไปวันๆอย่างเธอจะไปรู้อะไร

     

    รู้สิ!! รู้แบบที่เฮียคิดไม่ถึงก็แล้วกัน

     

    คนแก้มป่องพูดพร้อมกับยืดตัวนิดๆ มองไปที่ยูบินอย่างมีเลศนัย แทยังเห็นท่าไม่ดีเอื้อมมือไปผลักหัวเธอเบาๆ แต่ทำเอาร่างบางแทบหัวทิ่ม

     

    อย่ามาทำตัวแก่แดด ไปเก็บจานช่วยซอนมีได้แล้ว ยูบิน เดี๋ยวชั้นไปส่งที่รถนะ

     

    โอเคๆ

     

    คนผิวแทนพยักหน้ายิ้มๆ ในขณะที่แทยังหันไปขยี้หัวโซฮีผลักออกไปอีกรอบ คนแก้มป่องจับผมตัวเองแล้วทำหน้ามุ่ย หันมามองซอนมีรายนั้นก็มองกลับงงๆด้วยสภาพที่เค้กยังเลอะปาก เด็กสาวจึงหันไปมองคนทั้งสองที่เดินออกไปคุยกันนอกร้านอย่างสนใจ

     

    ทะเลาะกันอีกหรือเปล่า

     

    แทยังถามขึ้นด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง ยูบินหันมายิ้มบางๆให้เขา

     

    ก็นิดหน่อยน่ะ ไม่มีอะไรหรอก

     

    วันนี้วันครบรอบแต่งงานไม่ใช่เหรอ

     

    แทยังถามเสียงแปร่งๆ ในขณะที่ยูบินทำตาโต

     

    ว้าว....จำได้ด้วยเหรอ ใช่แล้วล่ะ...วันนี้วันครบรอบ...ก็เลยมีปัญหานิดหน่อย

     

    คนผิวแทนสลดลงไปอีกครั้ง แทยังมองคนตรงหน้าด้วยความรู้สึกอึดอัดใจ อยากจะกอดปลอบ อยากจะทำให้คนตรงหน้ามีความสุขมากกว่านี้ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้เลยสักอย่าง....แม้แต่พูดออกไปว่ารัก เขาก็ยังไม่มีสิทธิ์จะทำได้เลย....

     

    ทำได้แค่ยืนดูอยู่ใกล้ๆ.....แบบนี้...

     

    มีปัญหาอะไรก็บอกได้นะ...

     

    ชั้นต้องบอกอยู่แล้ว นายเป็นเพื่อนชั้นนี่.....งั้นชั้นกลับก่อนนะ...อย่ารังแกโซฮีมากนักล่ะ

     

    คนผิวแทนกระเซ้าเพื่อนยิ้มๆ แทยังยิ้มตอบอย่างอบอุ่น มองตามร่างบางที่ก้าวขึ้นไปประจำที่นั่งคนขับ ยูบินยิ้มให้เขาอีกครั้งก่อนจะขับรถออกไป ชายหนุ่มถอนใจออกมาเฮือกใหญ่

     

    น่าสงสารเนอะ....เค้าให้ได้แค่เพื่อนอ่ะ

     

    เสียงเล็กๆข้างตัวทำให้แทยังหันขวับมาที่ต้นเสียงทันที....นึกว่าใครที่ไหน ที่แท้ก็ไอ้ซาละเปาจอมกวนประสาทนี่เอง....

     

    แล้วยุ่งอะไรกับเรื่องของเจ้านายฮะ เดี๋ยวปั๊ดไล่ออกซะเลยนี่

     

    ดงยองเบว่าพลางใช้นิ้วชี้จิ้มหน้าผากแคบของเธอแรงๆ จนร่างบางเซไปนิดหน่อย อานโซฮีทำแก้มป่องสู้

     

    เห็นพูดว่าจะไล่ออกมาเป็นปีละ ไม่เห็นไล่จริงๆ สักที ไม่กล้าล่ะเซ่ กลัวไม่มีคนทำงานให้ใช่มั้ยล่า ~”

     

    ถ้าไล่จริงๆ เดี๋ยวจะหนาว...ลองดูสักทีมั้ยฮึ??

     

    เจ้าของร้านว่าพร้อมกับยกมือขึ้นกอดอก โซฮีกระตุกคิ้วนิดหนึ่ง

     

    เฮีย ถามไรหน่อยดิ

     

    ไม่ต้องมาเปลี่ยนเรื่อง...

     

    แอบรักเค้าข้างเดียวนี่มันเจ็บมากป่ะ

     

    เด็กสาวถามอย่างแก่แดดเกินตัว แทยังอึ้งไปครู่ใหญ่ก่อนจะทำหน้าดุกลบเกลื่อน

     

    ถามทำไม ไปแอบรักใครที่ไหนล่ะ

     

    ก็ถามดูเฉยๆ เห็นมองตามพี่ยูบินแบบนี้มาเป็นปีละ

     

    อานโซฮีว่าพร้อมกับยกมือขึ้นกอดอกรอคำตอบบ้าง แทยังสบตาตี่ๆคู่นั้นที่มีแววอยากรู้เต็มทนแล้วยื่นมือไปโยกหัวเธอแรงๆ

     

    ลองแอบรักดูบ้างสิ เดี๋ยวก็รู้เองแหละ

     

    คนแก้มป่องเงียบไป มองตามแผ่นหลังกว้างนั้นจนสุดสายตาจึงค่อยระบายลมหายใจออกมาเบาๆ

     

    ถ้าเป็นยังงั้น....ตอนนี้ชั้นก็คงรู้แล้วล่ะ....

     

    *

    *

    *

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×