ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [BB+WG] Bad Boy’s Hunter

    ลำดับตอนที่ #13 : Chapter 13 คนที่เรา ‘รัก’

    • อัปเดตล่าสุด 8 พ.ค. 55


    หิมะหยุดตกแล้ว..

     

    ร่างสูงของชเวซึงฮยอนยืนอยู่เกือบประชิดหน้าต่างกระจก....ตาคมมองออกไปที่ทิวทัศน์ข้างนอก...คอนโดใจกลางเมืองแห่งนี้เห็นถนนแทบทุกสายในโซลได้อย่างชัดเจน....ไอเย็นของหิมะจับที่กระจกเป็นวงใหญ่ และทำให้ชายหนุ่มเอื้อมมือขึ้นมาแตะมันผ่านกระจกที่หนาทึบ....

     

    เขานอนไม่หลับ....

     

    ยังหาเหตุผลที่มาอยู่ที่นี่ไม่ได้....

     

    ที่จริงวันนี้เค้าไม่ได้เจาะจงจะมาที่นี่ด้วยซ้ำ...ตอนแรกคิดแค่ว่าจะไปดื่มกับจียง ไปที่ไหนก็ได้ที่ไม่ใช่ที่บ้าน....

     

    เมื่อก่อนเขาไม่กลับบ้าน...เพราะไม่อยากอยู่กับผู้หญิงคนนั้น แต่วันนี้ เขาไม่อยากกลับบ้าน เพราะเขา กลัวที่จะต้องอยู่กับผู้หญิงคนนั้น....

     

    กลัวว่าจะเป็นเหมือนคืนนั้น....ที่เขาเกือบจะเผลอทำอะไรพลาดไป..

     

    และตอนนี้ แม้ว่าจะมาหาแทฮราเพื่อลืมมัน แต่เขาก็ยัง....ลบทุกสัมผัสนั้นออกไปจากหัวไม่ได้เลย...

     

    มันจะเป็นแบบนี้ต่อไปไม่ได้....เขาไม่ควรจะมีความรู้สึกอะไรต่อผู้หญิงแบบนั้น....แม้จะน้อยนิดสักเพียงใดก็ไม่ได้...

     

    เขาต้องรีบ....ลบมันออกไป....

     

    ทำไมตื่นเร็วจังล่ะคะ....

     

    หญิงสาวในชุดผ้าขนหนูผืนเดียวก้าวเข้ามากอดชายหนุ่มจากข้างหลัง.....ท็อปเหลือบมองเงาของเธอผ่านกระจกก่อนจะตอบเสียงเรียบ

     

    ไม่ง่วง....

     

    ถ้าไม่ง่วง....งั้นก็...ไม่ต้องนอนสิคะ

     

    นางแบบสาวเย้าด้วยน้ำเสียงมีเลศนัย มือเรียวดึงร่างสูงให้หันมาเผชิญหน้ากับเธอแล้วไล้ต่ำลงมาที่เสื้อคลุม ก่อนจะปลดมันออกได้โดยง่ายเพราะเขาเพิ่งจะสวมใส่มันไปไม่นานนัก หญิงสาวลูบไล้แผงอกของเขาก่อนจะเลื่อนมือขึ้นประคองใบหน้าคมมาประทับจูบโดยที่เขาไม่ตอบสนอง แต่ก็ไม่ได้ขัดขืนอะไรสักนิด....

     

    ผ้าขนหนูสีขาวถูกปลดให้ร่วงลงที่พื้น....ก่อนที่ร่างสูงจะถูกเบียดไปจนชิดผนัง..

     

    สงสัยพรุ่งนี้...ชั้นต้องไปทำงานสายอีกแน่ๆเลย...

     

    *

    *

    *

    *

    *

    ผมกลับก่อนนะพี่ มีรายงานต้องทำน่ะ

     

    ซึงรีพูดพร้อมกับถอดผ้ากันเปื้อนแขวนไว้ที่ล็อกเกอร์ ดงยองเบที่กำลังนั่งเหม่อลอยอยู่หน้าเตาอบพยักหน้าเบาๆ

     

    เออ...

     

    แล้วพี่จะเก็บร้านกับใครอ่ะ ยัยเด็กแสบนั่นก็กลับไปก่อนแล้ว

     

    ผู้เป็นน้องชายถามด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง แทยังส่ายหน้า

     

    ไม่เป็นไรหรอก โซฮีก็อยู่....

     

    ใครว่าชั้นจะอยู่ล่ะ

     

    เสียงของคนแก้มป่องดังขึ้นพร้อมกับเจ้าตัวที่เดินมาถอดเสื้อกันเปื้อนเช่นกัน แทยังขมวดคิ้ว

     

    หมายความว่าไง ทำไมจะไม่อยู่

     

    ชั้นจะกลับบ้านไปทำโจทย์ฟิสิกส์ข้อนี้ให้เสร็จ ตอนนี้ลูกค้าก็จะหมดแล้ว อีกอย่างพี่ยูบินก็อยู่ด้วย เฮียกับพี่ยูบินก็เก็บร้านกันไปสองคนแล้วกันนะ

     

    ลืมไปหรือเปล่าว่าเธอเป็นลูกน้อง ไม่มีสิทธิ์มาบงการชีวิตเฮีย

     

    แทยังเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงไม่พอใจที่โซฮีทำเหมือนจะบีบบังคับให้เขาสารภาพรักกับยูบินในคืนนี้ให้ได้ ในขณะที่ซึงรีมองทั้งคู่อย่างไม่เข้าใจว่าพูดเรื่องอะไรกันอยู่...ทำไมต้องซีเรียสขนาดนี้ด้วย....

     

    ชั้นไม่ได้บงการ...ชั้นก็แค่เปิดโอกาสให้ เฮียจะคว้าไว้หรือเปล่าก็เรื่องของเฮีย

     

    อานโซฮีพูดเสียงเรียบเฉย คว้ากระเป๋าของตัวเองมาสะพายแล้วเดินออกไปเลย ซึงรีมองตามเธออย่างงงๆ แต่พี่ชายของเขากลับเม้มปากแน่นขึ้น....ในหัวสมองสับสนด้วยความคิดสองฝั่งที่ยังทะเลาะกันไม่รู้จบ....

     

    โอกาสเหรอ....

     

    เขาควรจะคว้ามันไว้หรือเปล่าล่ะ...

     

    *

    *

    *

    *

    แทยัง....แก้วนี่ไว้ตรงไหนเหรอ

     

    เสียงของคนผิวแทนทำให้แทยังที่กำลังเช็ดโต๊ะอย่างเหม่อลอยสะดุ้งเล็กน้อย คิมยูบินยกถาดแก้วที่ล้างแล้วให้เขาดูด้วยสายตาเป็นเชิงถามซ้ำ ชายหนุ่มจึงตั้งสติตอบเธอออกไป

     

    ตู้สีเขียวด้านซ้ายน่ะ

     

    อ๋อ....งั้นชั้นเรียงเลยแล้วกันนะ

     

    ยูบินพูดพร้อมกับเดินหายไปข้างหลังร้าน ทิ้งให้แทยังหายใจเฮือกแล้วเฮือกเล่าอย่างคิดไม่ตก....ตอนนี้ทั้งร้านเหลือเขากับยูบินแค่สองคน...โอกาสแบบนี้ไม่ค่อยมีบ่อยนัก อีกอย่าง....คำพูดของโซฮีก็กังวานในหัวเขาไม่รู้จบ

     

    เขาเป็นคนเดียวที่จะดูแลยูบินได้....

     

    เขาอาจจะทำให้ยูบินดีกว่าที่เป็นอยู่ตอนนี้ก็ได้....

     

    เช็ดได้กี่โต๊ะแล้วเนี่ย....วันนี้ดูนายเหม่อลอยนะ

     

    คนผิวแทนเดินออกมาถามพร้อมกับคว้าผ้าไปเช็ดโต๊ะอีกมุมหนึ่ง แทยังยิ้มออกมาบางๆ

     

    ชั้นติดมาจากเธอมั้ง...

     

    ยูบินหัวเราะเบาๆ เช็ดโต๊ะต่อโดยไม่ว่าอะไร แทยังยิ้มกว้างขึ้นอีกนิดด้วยความใจชื้น....นั่นสินะ.....เขาอาจจะทำให้ยูบินดีกว่าที่เป็นอยู่ตอนนี้ก็ได้....ถ้าเธอสบายใจที่ได้อยู่กับเขาแบบนี้....

     

    แต่ถ้าเขาพูดคำนั้นออกไป....

     

    มันจะดีกว่าตอนนี้จริงๆน่ะหรือ....

     

    เสร็จแล้ว...งั้นชั้นกลับก่อนนะ ชักจะง่วงแล้วล่ะ

     

    อืม...เดี๋ยวไปส่งที่รถ

     

    แทยังว่าพร้อมกับถอดผ้ากันเปื้อนพาดไว้ที่เคาน์เตอร์ เขาหยิบแก้วคาปูชิโนร้อนที่เหลืออยู่แก้วสุดท้ายบนโต๊ะยื่นให้เธอ ยูบินรับไปจิบแล้วส่งยิ้ม

     

    อะไรกัน....ทำงานตัวเป็นเกลียวได้ค่าจ้างแค่นี้เองเหรอ

     

    แค่นี้อะไร แก้วนี้น่ะแพงนะจะบอกให้

     

    เพื่อนเรานี่งกจริงๆ

     

    คนผิวแทนพูดกลั้วหัวเราะ เดินไปหยิบกระเป๋าแล้วเดินออกมาข้างนอกร้าน แทยังเดินตามมาเงียบๆ จนถึงที่รถ เสียงโทรศัพท์ของยูบินก็ดังขึ้น แทยังมองหญิงสาวหยิบโทรศัพท์มาเปิดดู...ก่อนที่ใบหน้าที่เคยยิ้มแย้มของเธอจะค่อยๆ เปลี่ยนไป....แล้วน้ำตาก็ค่อยๆ หยดลงมา....

     

    ยูบิน เป็นอะไร!!”

     

    ดงยองเบร้องเรียกเธออย่างตระหนก....ยูบินส่ายหน้าเบาๆ แต่น้ำตาไม่ยอมหยุดไหล หญิงสาวจะปิดโทรศัพท์แต่ช้ากว่าแทยัง เขาแย่งมันมาจากมือของเธอเพื่อดูให้เห็นกับตาว่าอะไรกันแน่ที่ทำให้เธอร้องไห้...

     

    แล้วภาพที่เห็นก็ทำให้แทยังกัดฟันกรอด...

     

    ท็อป....กับนางแบบคนนั้น....

     

    บนเตียง....

     

    แค่รูปเดียวก็น่าจะเพียงพอแล้ว ไม่จำเป็นที่เขาจะต้องเลื่อนไปอ่านข้อความข้างล่างที่แนบมาด้วย....ว่าผู้หญิงคนนั้นส่งมาเยาะเย้ยยูบินว่าอะไร....

     

    แทยัง....ขอคืนเถอะนะ....

     

    ร่างบางขอร้องเสียงแตกพร่า....ดงยองเบไม่ตอบ เขากดลบรูปนั้นทิ้งแล้วเงยหน้าขึ้นจ้องดวงตาคู่สวยที่ตอนนี้มีแต่คราบน้ำตา....

     

    เมื่อไหร่เหรอยูบิน...เมื่อไหร่ที่เธอจะขึ้นมาจากนรกขุมนี้สักที....

     

    คงไม่มีวันนั้นหรอก....

     

    ยูบินเอ่ยด้วยรอยยิ้มขมขื่นใจ.....ดงยองเบเม้มปากแน่น.....ความโมโหมันพลุ่งพล่านจนทนอยู่เฉยๆไม่ได้อีกแล้ว

     

    เธอรักมัน.....แล้วมันเคยรักเธอบ้างหรือเปล่า....ทำไมเธอต้องไปทนทุกข์ทรมานกับคนที่ไม่ได้รักเธอด้วย

     

    นายก็รู้ดีนี่ว่าเพราะอะไร....

     

    รู้สิ...ทำไมชั้นจะไม่รู้....เธอรักมันมาตั้งแต่แรกเจอ...เธอแอบมองมันทุกวันที่อยู่มหาลัยเดียวกัน เธอยอมแต่งงานกับมันทั้งที่มันไม่ได้รักเธอ แถมเธอยังยอมให้มันทำร้ายจิตใจ เหยียดหยาม ดูหมิ่นเธอสารพัด....เพียงเพราะเธอรักมัน แต่มันไม่ได้รักเธอเลยสักนิด!!”

     

    แทยัง....

     

    ยูบินเรียกชื่ออีกคนอย่างตกใจ....ชายหนุ่มถอนใจออกมาหนักๆ เพื่อรวบรวมสติที่พลุ่งพล่านของตัวเอง....และเหมือนว่าความกล้าหาญที่จะพูดอะไรบางอย่าง มันก็เริ่มจะมากขึ้นทุกทีแล้ว...

     

    ทำไมเธอต้องฝังใจกับคนที่ไม่ได้รักเธอด้วย...

     

    “..............................”

     

    คนที่รักเธอ...ก็มีตั้งมากมาย...ทำไมเธอถึงไม่เคยมอง...

     

    คำพูดนั้นทำให้ยูบินใจหายวาบ....หญิงสาวสบตาที่สื่อความหมายของเขาอย่างตกใจ.....เมื่อก่อน เธอไม่เคยเอะใจที่ได้เห็นสายตาแบบนี้ แต่ตอนนี้เมื่อเธอได้เห็นมันพร้อมๆกับคำพูดแบบนี้....

     

    มันทำให้เธอ....เข้าใจทุกอย่างได้ชัดเจน...

     

    เราบังคับหัวใจตัวเองไม่ได้หรอกนะแทยัง....

     

    หญิงสาวสูดลมหายใจลึก....มองเพื่อนสนิทที่ยืนตรงหน้าเธอด้วยแววตาจริงจัง....

     

    บางครั้ง....เราก็อาจจะรักคนที่เราไม่ควรรัก....ถึงมันจะทำให้เราเจ็บแค่ไหน แต่เราก็ไม่มีทางเลิกรักเค้าได้....แต่บางคนที่เราควรรัก ถึงเราจะพยายามสักแค่ไหน ถ้าเราไม่รัก....เราก็คงรักเค้าไม่ได้....ชั้นคิดว่านายคงเข้าใจความรู้สึกชั้นดี...

     

    แทยังนิ่งอึ้งไป.....ไม่พูดอะไรออกมาสักคำ....

     

    ดวงตาคมเบือนหน้าหนีจากแววตาจริงจังนั้น....เพราะรู้แล้วว่าหมดหวังโดยสิ้นเชิง...

     

    นายเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของชั้น....

     

    มือเรียวเอื้อมมาแตะไหล่เขาเบาๆ ราวกับกำลังจะปลอบโยน....

     

    และมันจะเป็นแบบนี้...ตลอดไป....

     

    *

    *

    *

    *

    ดึกแล้ว.

     

    เด็กร่วมห้องตัวแสบของลีซึงฮยอนกำลังหลับฝันดี แต่เด็กหนุ่มกลับต้องมานั่งจดจ่ออยู่กับหน้าจอคอมพิวเตอร์ท่ามกลางความมืด....ซึงรีละมือจากการพิมพ์รายงานมาตบยุงที่แขนตัวเองก่อนจะมองไปเขตข้างๆ ด้วยอาการลุกลี้ลุกลน....

     

    ทำไงดีวะเนี่ย....

     

    ซึงรีบ่นพึมพำ ตัดสินใจลุกขึ้นยืนเพราะปวดฉี่จนชักจะนั่งไม่ติดที่ ร่างสูงค่อยๆ ย่องไปแง้มม่านดู แล้วก็ได้เห็นซอนมีกำลังนอนกอดตุ๊กตาเอเลี่ยนของเธอโดยมีเจ้าแมงโก้มานอนข้างๆ เสียงกรนเบาๆจากร่างเล็กทำให้ซึงรีนึกกระหยิ่มในใจ....ค่อยๆ เดินข้ามเขตตรงไปที่ห้องน้ำ แล้วปิดประตูลงกลอนอย่างเงียบเชียบ....

     

    เมี้ยว...

     

    แมงโก้กระดิกตัวทันทีเมื่อได้ยินเสียงประตูปิดลงเบาๆ การเคลื่อนไหวของแมวน้อยทำให้ซอนมีรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาด้วย....เด็กสาวมองเจ้าตัวขนปุยตรงหน้าเธออย่างงัวเงีย...

     

    มีอะไรอ่ะแมงโก้...หิวข้าวเหรอ...

     

    ซอนมีถามสัตว์เลี้ยงตัวโปรดด้วยน้ำเสียงสะลึมสะลือ แมงโก้ไม่ตอบแต่กระโดดลงจากเตียงเดินไปที่หน้าห้องน้ำ เด็กสาวลุกขึ้นนั่งขยี้ผมตัวเองอยู่ครู่หนึ่งก็ค่อยๆลุกเดินไปที่ห้องน้ำ เป็นเวลาเดียวกันกับที่ประตูถูกเปิดออก ซึงรีเดินมาหยุดตรงหน้าซอนมีโดยไม่เห็นเธอ ชายหนุ่มก้มลงรูดซิปกางเกงนอนของตัวเอง ในขณะที่ซอนมีก็มองตามสายตาเขาไปโดยอัตโนมัติ....

     

    แล้วภาพที่เห็นจะจะคาตา....ก็ทำเอาเด็กสาวหายง่วงเป็นปลิดทิ้ง.....

     

    กรี๊ดดดดดดดดดดดดด!!!”

     

    เฮ้ย!!!”

    ซึงรีร้องขึ้นมาด้วยเมื่อเงยหน้ามาเห็นซอนมีในระยะประชิด เด็กหนุ่มก้มลงมองซิปที่ยังรูดไม่เสร็จของตัวเองแล้วรีบเอามือบังไว้ เผ่นหนีด้วยความเร็วสูงสุดไปที่เขตตัวเองทันที

     

    ไม่...ไม่....ชั้นต้องฝันร้ายแน่ๆ ม่ายยยยยยยยย~~”

     

    ชั้นไม่ได้ตั้งใจนะ คือชั้นปวดฉี่ ชั้นก็เลยต้องข้ามเขต...

     

    ข้ามมาโชว์ปิกาจูตัวเองน่ะเหรอ สุดท้ายนายก็เป็นโรคจิตจริงๆด้วย ชั้นคิดไว้ไม่ผิดเลย อ๊ากกกก พรุ่งนี้ชั้นจะเป็นตากุ้งยิงมั้ยเนี่ย TOT”

     

    ก็บอกแล้วไงว่าชั้นไม่ได้ตั้งใจ เธอก้มลงมาดูเองต่างหาก!!”

     

    ซึงรีเถียงคำไม่ตกฟาก แต่หน้าก็แดงก่ำแข่งกันกับซอนมี แต่รายนั้นนอกจากหน้าจะแดงแล้วยังขยี้ตาตัวเองไม่หยุด

     

    แล้วใครให้นายรูดซิปหลังเปิดประตูห้องน้ำกันล่ะ!! แย่แน่ๆ ชั้นต้องฝันร้ายแน่ๆเลยอ่ะ มันติดตาเลยอ่ะ....อ๊ากกกก

     

    ซอนมีล้มตัวลงนอนแล้วยกตุ๊กตาเอเลี่ยนขึ้นมาปิดหน้าตัวเอง ซึงรีมองเธออย่างระแวดระวัง รีบรูดซิปของตัวเองให้เรียบร้อยแล้วถอนใจออกมาอย่างโล่งอก....

     

    *

    *

    *

    *

     

    แม้จะมืดค่ำจนเวลากำลังจะเดินทางสู่เช้าของวันใหม่ แต่ที่ถนนหน้าร้านเบเกอรี่ที่เงียบสงบนั้น ก็ยังมีรถสกูตเตอร์สีดำคันเล็กๆ แล่นมาจอดที่หน้าร้าน คนขับถอดหมวกออกวางลงที่หน้าตะแกรงรถ มองเข้าไปในร้านที่เงียบสงัดอย่างไม่แน่ใจ...

     

    หลังจากบอกให้แทยังสารภาพรักกับยูบินไปแล้ว เมื่อกลับไปถึงบ้าน....เธอก็นอนไม่หลับ....

     

    ไม่รู้ทำไมจิตใจถึงได้ร้อนรุ่มจนต้องขับรถออกมาที่ร้านตอนเวลาดึกดื่นแบบนี้....แค่อยากมาดูให้แน่ใจว่าทุกคนกลับไปหมดแล้วจริงๆ....โดยเฉพาะ.....

     

    เฮีย....

     

    โซฮีพึมพำออกมาเบาๆ เมื่อเห็นร่างที่คุ้นตากึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่ม้าหินอ่อนอีกตัวที่ห่างจากร้านไปพอสมควร...คนแก้มป่องรีบวิ่งเข้าไปหาเขา และพอเข้าใกล้เธอก็ต้องผงะหน้าหนี

     

    กลิ่นเหล้าคลุ้งเลย....อย่าบอกนะว่าไปผับตรงนั้นมา....

     

    โซฮีบ่นพึมพำเมื่อคิดถึงผับที่เธอขี่รถผ่านมาเมื่อครู่ เด็กสาวค่อยๆ ประคองเขาให้ขึ้นมานั่งพิงพนัก แทยังปรือตามองคนตรงหน้าแล้วเอ่ยชื่อเธอออกมา...

     

    โซฮี...

     

    ใช่....ชั้นเอง...นี่มันเกิดอะไรขึ้นน่ะ เฮียกินเหล้าทำไม

     

    เฮอะ...ยังจะมาถามอีกเหรอ

     

    แทยังแค่นหัวเราะเบาๆ พยายามจะลุกขึ้นแต่เพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ทำให้เขาซวนเซ โซฮีถลาไปประคองปีกเอาไว้ แต่กลับถูกสะบัดออกอย่างไม่ไยดี

     

    ปล่อย....อย่ามายุ่งได้มั้ย...

     

    ชั้นคงไม่ยุ่งหรอก ถ้าเฮียไม่ไปกินเหล้าจนหมดสภาพแบบนี้ แค่จะเดินกลับร้านยังไม่ถึงเลย...มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่....

     

    ก็เพราะเธอเป็นแบบนี้ไง....ยุ่ง....ยุ่งไปทุกเรื่อง...แล้วเป็นไง....สะใจเธอหรือยัง.....ยูบินปฏิเสธชั้นแล้ว...ความลับที่ชั้นเก็บมาหลายปีมันพังหมดแล้ว....เพราะความเจ้ากี้เจ้าการของเธอนั่นแหละ!!”

     

    แล้วทำไมเฮียต้องมาโทษชั้นฝ่ายเดียวล่ะ!!”

     

    โซฮีขึ้นเสียงอย่างไม่ยอมแพ้ เธอไปบังคับเขาให้ชอบยูบินหรือไง เธอก็ไม่ได้อยากให้เขาเจ็บแบบนี้สักหน่อย....

     

    แทยังหัวเราะในลำคอ จ้องหน้าคนแก้มป่องก่อนจะย้ำทีละคำอย่างชัดเจน

     

    อย่ามายุ่งกับชีวิตชั้นอีก....อย่ามาบงการชีวิตชั้น....ชีวิตชั้นพังหมดแล้วก็เพราะลูกน้องอย่างเธอ....

     

    ได้....เอาอย่างนั้นก็ได้....

     

    อานโซฮียิ้มเยาะตัวเอง น้ำตาพานจะไหลเอาดื้อๆ เมื่อตอนนี้ความหวังดีของเธอถูกตีค่าให้เหลือเพียงแค่นี้....

     

    คิดว่าเธออยากจะรักเขาข้างเดียวแบบนี้หรือไง...

     

    เฮียพูดเองนะ...ต่อไปชั้นจะไม่ยุ่งกับชีวิตเฮียอีกเลย....คอยดู...

     

    แทยังเม้มปาก...มองรถสกูตเตอร์ที่แล่นออกไปด้วยความเร็วผิดปกติแล้วค่อยๆ ทรุดนั่งลงที่ม้าหินอ่อนตามเดิม ชายหนุ่มระบายลมหายใจออกมา ปล่อยให้ฤทธิ์แอลกอฮอล์เข้าไปควบคุมสติจนมืดลงไปอีกครั้ง....

     

    ดงยองเบหมดสติไปได้เพียงไม่นาน รถสกูตเตอร์คันเดิมก็แล่นมาจอดที่เดิม....คนเดิมบนรถถอดหมวกกันน็อคออก เดินมาหยุดตรงหน้าเขา ใบหน้ากลมยังเต็มไปด้วยคราบน้ำตา....

     

    อานโซฮีเข้าไปประคองร่างที่หนักกว่าเธอมากขึ้นมาอย่างทุลักทุเล เด็กสาวมองใบหน้าคมที่หลับสนิทแล้วเอ่ยคำแก้ตัวออกมาทั้งที่อีกฝ่ายไม่ได้ยิน...

     

    เห็นแก่ภาพลักษณ์ของร้านหรอกนะ....ถ้าไม่กลัวว่าจะมีคนมาเห็นนอนหมดสภาพอยู่ข้างถนนล่ะก็....ชั้นจะไม่ยุ่งกับเฮียเลย....คอยดู....

     

    *

    *

    *

    *

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×