คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #13 : Chapter 13 คนที่เรา รัก
หิมะหยุดตกแล้ว
..
ร่างสูงของชเวซึงฮยอนยืนอยู่เกือบประชิดหน้าต่างกระจก....ตาคมมองออกไปที่ทิวทัศน์ข้างนอก...คอนโดใจกลางเมืองแห่งนี้เห็นถนนแทบทุกสายในโซลได้อย่างชัดเจน....ไอเย็นของหิมะจับที่กระจกเป็นวงใหญ่ และทำให้ชายหนุ่มเอื้อมมือขึ้นมาแตะมันผ่านกระจกที่หนาทึบ....
เขานอนไม่หลับ....
ยังหาเหตุผลที่มาอยู่ที่นี่ไม่ได้....
ที่จริงวันนี้เค้าไม่ได้เจาะจงจะมาที่นี่ด้วยซ้ำ...ตอนแรกคิดแค่ว่าจะไปดื่มกับจียง ไปที่ไหนก็ได้ที่ไม่ใช่ที่บ้าน....
เมื่อก่อนเขาไม่กลับบ้าน...เพราะไม่อยากอยู่กับผู้หญิงคนนั้น แต่วันนี้ เขาไม่อยากกลับบ้าน เพราะเขา ‘กลัว’ ที่จะต้องอยู่กับผู้หญิงคนนั้น....
กลัวว่าจะเป็นเหมือนคืนนั้น....ที่เขาเกือบจะเผลอทำอะไรพลาดไป..
และตอนนี้ แม้ว่าจะมาหาแทฮราเพื่อลืมมัน แต่เขาก็ยัง....ลบทุกสัมผัสนั้นออกไปจากหัวไม่ได้เลย...
มันจะเป็นแบบนี้ต่อไปไม่ได้....เขาไม่ควรจะมีความรู้สึกอะไรต่อผู้หญิงแบบนั้น....แม้จะน้อยนิดสักเพียงใดก็ไม่ได้...
เขาต้องรีบ....ลบมันออกไป....
“ทำไมตื่นเร็วจังล่ะคะ....”
หญิงสาวในชุดผ้าขนหนูผืนเดียวก้าวเข้ามากอดชายหนุ่มจากข้างหลัง.....ท็อปเหลือบมองเงาของเธอผ่านกระจกก่อนจะตอบเสียงเรียบ
“ไม่ง่วง....”
“ถ้าไม่ง่วง....งั้นก็...ไม่ต้องนอนสิคะ”
นางแบบสาวเย้าด้วยน้ำเสียงมีเลศนัย มือเรียวดึงร่างสูงให้หันมาเผชิญหน้ากับเธอแล้วไล้ต่ำลงมาที่เสื้อคลุม ก่อนจะปลดมันออกได้โดยง่ายเพราะเขาเพิ่งจะสวมใส่มันไปไม่นานนัก หญิงสาวลูบไล้แผงอกของเขาก่อนจะเลื่อนมือขึ้นประคองใบหน้าคมมาประทับจูบโดยที่เขาไม่ตอบสนอง แต่ก็ไม่ได้ขัดขืนอะไรสักนิด....
ผ้าขนหนูสีขาวถูกปลดให้ร่วงลงที่พื้น....ก่อนที่ร่างสูงจะถูกเบียดไปจนชิดผนัง..
“สงสัยพรุ่งนี้...ชั้นต้องไปทำงานสายอีกแน่ๆเลย...”
*
*
*
*
*
“ผมกลับก่อนนะพี่ มีรายงานต้องทำน่ะ”
ซึงรีพูดพร้อมกับถอดผ้ากันเปื้อนแขวนไว้ที่ล็อกเกอร์ ดงยองเบที่กำลังนั่งเหม่อลอยอยู่หน้าเตาอบพยักหน้าเบาๆ
“เออ...”
“แล้วพี่จะเก็บร้านกับใครอ่ะ ยัยเด็กแสบนั่นก็กลับไปก่อนแล้ว”
ผู้เป็นน้องชายถามด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง แทยังส่ายหน้า
“ไม่เป็นไรหรอก โซฮีก็อยู่....”
“ใครว่าชั้นจะอยู่ล่ะ”
เสียงของคนแก้มป่องดังขึ้นพร้อมกับเจ้าตัวที่เดินมาถอดเสื้อกันเปื้อนเช่นกัน แทยังขมวดคิ้ว
“หมายความว่าไง ทำไมจะไม่อยู่”
“ชั้นจะกลับบ้านไปทำโจทย์ฟิสิกส์ข้อนี้ให้เสร็จ ตอนนี้ลูกค้าก็จะหมดแล้ว อีกอย่างพี่ยูบินก็อยู่ด้วย เฮียกับพี่ยูบินก็เก็บร้านกันไปสองคนแล้วกันนะ”
“ลืมไปหรือเปล่าว่าเธอเป็นลูกน้อง ไม่มีสิทธิ์มาบงการชีวิตเฮีย”
แทยังเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงไม่พอใจที่โซฮีทำเหมือนจะบีบบังคับให้เขาสารภาพรักกับยูบินในคืนนี้ให้ได้ ในขณะที่ซึงรีมองทั้งคู่อย่างไม่เข้าใจว่าพูดเรื่องอะไรกันอยู่...ทำไมต้องซีเรียสขนาดนี้ด้วย....
“ชั้นไม่ได้บงการ...ชั้นก็แค่เปิดโอกาสให้ เฮียจะคว้าไว้หรือเปล่าก็เรื่องของเฮีย”
อานโซฮีพูดเสียงเรียบเฉย คว้ากระเป๋าของตัวเองมาสะพายแล้วเดินออกไปเลย ซึงรีมองตามเธออย่างงงๆ แต่พี่ชายของเขากลับเม้มปากแน่นขึ้น....ในหัวสมองสับสนด้วยความคิดสองฝั่งที่ยังทะเลาะกันไม่รู้จบ....
โอกาสเหรอ....
เขาควรจะคว้ามันไว้หรือเปล่าล่ะ...
*
*
*
*
“แทยัง....แก้วนี่ไว้ตรงไหนเหรอ”
เสียงของคนผิวแทนทำให้แทยังที่กำลังเช็ดโต๊ะอย่างเหม่อลอยสะดุ้งเล็กน้อย คิมยูบินยกถาดแก้วที่ล้างแล้วให้เขาดูด้วยสายตาเป็นเชิงถามซ้ำ ชายหนุ่มจึงตั้งสติตอบเธอออกไป
“ตู้สีเขียวด้านซ้ายน่ะ”
“อ๋อ....งั้นชั้นเรียงเลยแล้วกันนะ”
ยูบินพูดพร้อมกับเดินหายไปข้างหลังร้าน ทิ้งให้แทยังหายใจเฮือกแล้วเฮือกเล่าอย่างคิดไม่ตก....ตอนนี้ทั้งร้านเหลือเขากับยูบินแค่สองคน...โอกาสแบบนี้ไม่ค่อยมีบ่อยนัก อีกอย่าง....คำพูดของโซฮีก็กังวานในหัวเขาไม่รู้จบ
เขาเป็นคนเดียวที่จะดูแลยูบินได้....
เขาอาจจะทำให้ยูบินดีกว่าที่เป็นอยู่ตอนนี้ก็ได้....
“เช็ดได้กี่โต๊ะแล้วเนี่ย....วันนี้ดูนายเหม่อลอยนะ”
คนผิวแทนเดินออกมาถามพร้อมกับคว้าผ้าไปเช็ดโต๊ะอีกมุมหนึ่ง แทยังยิ้มออกมาบางๆ
“ชั้นติดมาจากเธอมั้ง...”
ยูบินหัวเราะเบาๆ เช็ดโต๊ะต่อโดยไม่ว่าอะไร แทยังยิ้มกว้างขึ้นอีกนิดด้วยความใจชื้น....นั่นสินะ.....เขาอาจจะทำให้ยูบินดีกว่าที่เป็นอยู่ตอนนี้ก็ได้....ถ้าเธอสบายใจที่ได้อยู่กับเขาแบบนี้....
แต่ถ้าเขาพูดคำนั้นออกไป....
มันจะดีกว่าตอนนี้จริงๆน่ะหรือ....
“เสร็จแล้ว...งั้นชั้นกลับก่อนนะ ชักจะง่วงแล้วล่ะ”
“อืม...เดี๋ยวไปส่งที่รถ”
แทยังว่าพร้อมกับถอดผ้ากันเปื้อนพาดไว้ที่เคาน์เตอร์ เขาหยิบแก้วคาปูชิโนร้อนที่เหลืออยู่แก้วสุดท้ายบนโต๊ะยื่นให้เธอ ยูบินรับไปจิบแล้วส่งยิ้ม
“อะไรกัน....ทำงานตัวเป็นเกลียวได้ค่าจ้างแค่นี้เองเหรอ”
“แค่นี้อะไร แก้วนี้น่ะแพงนะจะบอกให้”
“เพื่อนเรานี่งกจริงๆ”
คนผิวแทนพูดกลั้วหัวเราะ เดินไปหยิบกระเป๋าแล้วเดินออกมาข้างนอกร้าน แทยังเดินตามมาเงียบๆ จนถึงที่รถ เสียงโทรศัพท์ของยูบินก็ดังขึ้น แทยังมองหญิงสาวหยิบโทรศัพท์มาเปิดดู...ก่อนที่ใบหน้าที่เคยยิ้มแย้มของเธอจะค่อยๆ เปลี่ยนไป....แล้วน้ำตาก็ค่อยๆ หยดลงมา....
“ยูบิน เป็นอะไร!!”
ดงยองเบร้องเรียกเธออย่างตระหนก....ยูบินส่ายหน้าเบาๆ แต่น้ำตาไม่ยอมหยุดไหล หญิงสาวจะปิดโทรศัพท์แต่ช้ากว่าแทยัง เขาแย่งมันมาจากมือของเธอเพื่อดูให้เห็นกับตาว่าอะไรกันแน่ที่ทำให้เธอร้องไห้...
แล้วภาพที่เห็นก็ทำให้แทยังกัดฟันกรอด...
ท็อป....กับนางแบบคนนั้น....
บนเตียง....
แค่รูปเดียวก็น่าจะเพียงพอแล้ว ไม่จำเป็นที่เขาจะต้องเลื่อนไปอ่านข้อความข้างล่างที่แนบมาด้วย....ว่าผู้หญิงคนนั้นส่งมาเยาะเย้ยยูบินว่าอะไร....
“แทยัง....ขอคืนเถอะนะ....”
ร่างบางขอร้องเสียงแตกพร่า....ดงยองเบไม่ตอบ เขากดลบรูปนั้นทิ้งแล้วเงยหน้าขึ้นจ้องดวงตาคู่สวยที่ตอนนี้มีแต่คราบน้ำตา....
“เมื่อไหร่เหรอยูบิน...เมื่อไหร่ที่เธอจะขึ้นมาจากนรกขุมนี้สักที....”
“คงไม่มีวันนั้นหรอก....”
ยูบินเอ่ยด้วยรอยยิ้มขมขื่นใจ.....ดงยองเบเม้มปากแน่น.....ความโมโหมันพลุ่งพล่านจนทนอยู่เฉยๆไม่ได้อีกแล้ว
“เธอรักมัน.....แล้วมันเคยรักเธอบ้างหรือเปล่า....ทำไมเธอต้องไปทนทุกข์ทรมานกับคนที่ไม่ได้รักเธอด้วย”
“นายก็รู้ดีนี่ว่าเพราะอะไร....”
“รู้สิ...ทำไมชั้นจะไม่รู้....เธอรักมันมาตั้งแต่แรกเจอ...เธอแอบมองมันทุกวันที่อยู่มหาลัยเดียวกัน เธอยอมแต่งงานกับมันทั้งที่มันไม่ได้รักเธอ แถมเธอยังยอมให้มันทำร้ายจิตใจ เหยียดหยาม ดูหมิ่นเธอสารพัด....เพียงเพราะเธอรักมัน แต่มันไม่ได้รักเธอเลยสักนิด!!”
“แทยัง....”
ยูบินเรียกชื่ออีกคนอย่างตกใจ....ชายหนุ่มถอนใจออกมาหนักๆ เพื่อรวบรวมสติที่พลุ่งพล่านของตัวเอง....และเหมือนว่าความกล้าหาญที่จะพูดอะไรบางอย่าง มันก็เริ่มจะมากขึ้นทุกทีแล้ว...
“ทำไมเธอต้องฝังใจกับคนที่ไม่ได้รักเธอด้วย...”
“..............................”
“คนที่รักเธอ...ก็มีตั้งมากมาย...ทำไมเธอถึงไม่เคยมอง...”
คำพูดนั้นทำให้ยูบินใจหายวาบ....หญิงสาวสบตาที่สื่อความหมายของเขาอย่างตกใจ.....เมื่อก่อน เธอไม่เคยเอะใจที่ได้เห็นสายตาแบบนี้ แต่ตอนนี้เมื่อเธอได้เห็นมันพร้อมๆกับคำพูดแบบนี้....
มันทำให้เธอ....เข้าใจทุกอย่างได้ชัดเจน...
“เราบังคับหัวใจตัวเองไม่ได้หรอกนะแทยัง....”
หญิงสาวสูดลมหายใจลึก....มองเพื่อนสนิทที่ยืนตรงหน้าเธอด้วยแววตาจริงจัง....
“บางครั้ง....เราก็อาจจะรักคนที่เราไม่ควรรัก....ถึงมันจะทำให้เราเจ็บแค่ไหน แต่เราก็ไม่มีทางเลิกรักเค้าได้....แต่บางคนที่เราควรรัก ถึงเราจะพยายามสักแค่ไหน ถ้าเราไม่รัก....เราก็คงรักเค้าไม่ได้....ชั้นคิดว่านายคงเข้าใจความรู้สึกชั้นดี...”
แทยังนิ่งอึ้งไป.....ไม่พูดอะไรออกมาสักคำ....
ดวงตาคมเบือนหน้าหนีจากแววตาจริงจังนั้น....เพราะรู้แล้วว่าหมดหวังโดยสิ้นเชิง...
“นายเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของชั้น....”
มือเรียวเอื้อมมาแตะไหล่เขาเบาๆ ราวกับกำลังจะปลอบโยน....
“และมันจะเป็นแบบนี้...ตลอดไป....”
*
*
*
*
ดึกแล้ว
.
เด็กร่วมห้องตัวแสบของลีซึงฮยอนกำลังหลับฝันดี แต่เด็กหนุ่มกลับต้องมานั่งจดจ่ออยู่กับหน้าจอคอมพิวเตอร์ท่ามกลางความมืด....ซึงรีละมือจากการพิมพ์รายงานมาตบยุงที่แขนตัวเองก่อนจะมองไปเขตข้างๆ ด้วยอาการลุกลี้ลุกลน....
“ทำไงดีวะเนี่ย....”
ซึงรีบ่นพึมพำ ตัดสินใจลุกขึ้นยืนเพราะปวดฉี่จนชักจะนั่งไม่ติดที่ ร่างสูงค่อยๆ ย่องไปแง้มม่านดู แล้วก็ได้เห็นซอนมีกำลังนอนกอดตุ๊กตาเอเลี่ยนของเธอโดยมีเจ้าแมงโก้มานอนข้างๆ เสียงกรนเบาๆจากร่างเล็กทำให้ซึงรีนึกกระหยิ่มในใจ....ค่อยๆ เดินข้ามเขตตรงไปที่ห้องน้ำ แล้วปิดประตูลงกลอนอย่างเงียบเชียบ....
“เมี้ยว...”
แมงโก้กระดิกตัวทันทีเมื่อได้ยินเสียงประตูปิดลงเบาๆ การเคลื่อนไหวของแมวน้อยทำให้ซอนมีรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาด้วย....เด็กสาวมองเจ้าตัวขนปุยตรงหน้าเธออย่างงัวเงีย...
“มีอะไรอ่ะแมงโก้...หิวข้าวเหรอ...”
ซอนมีถามสัตว์เลี้ยงตัวโปรดด้วยน้ำเสียงสะลึมสะลือ แมงโก้ไม่ตอบแต่กระโดดลงจากเตียงเดินไปที่หน้าห้องน้ำ เด็กสาวลุกขึ้นนั่งขยี้ผมตัวเองอยู่ครู่หนึ่งก็ค่อยๆลุกเดินไปที่ห้องน้ำ เป็นเวลาเดียวกันกับที่ประตูถูกเปิดออก ซึงรีเดินมาหยุดตรงหน้าซอนมีโดยไม่เห็นเธอ ชายหนุ่มก้มลงรูดซิปกางเกงนอนของตัวเอง ในขณะที่ซอนมีก็มองตามสายตาเขาไปโดยอัตโนมัติ....
แล้วภาพที่เห็นจะจะคาตา....ก็ทำเอาเด็กสาวหายง่วงเป็นปลิดทิ้ง.....
“กรี๊ดดดดดดดดดดดดด!!!”
“เฮ้ย!!!”
ซึงรีร้องขึ้นมาด้วยเมื่อเงยหน้ามาเห็นซอนมีในระยะประชิด เด็กหนุ่มก้มลงมองซิปที่ยังรูดไม่เสร็จของตัวเองแล้วรีบเอามือบังไว้ เผ่นหนีด้วยความเร็วสูงสุดไปที่เขตตัวเองทันที
“ไม่...ไม่....ชั้นต้องฝันร้ายแน่ๆ ม่ายยยยยยยยย~~”
“ชั้นไม่ได้ตั้งใจนะ คือชั้นปวดฉี่ ชั้นก็เลยต้องข้ามเขต...”
“ข้ามมาโชว์ปิกาจูตัวเองน่ะเหรอ สุดท้ายนายก็เป็นโรคจิตจริงๆด้วย ชั้นคิดไว้ไม่ผิดเลย อ๊ากกกก พรุ่งนี้ชั้นจะเป็นตากุ้งยิงมั้ยเนี่ย TOT”
“ก็บอกแล้วไงว่าชั้นไม่ได้ตั้งใจ เธอก้มลงมาดูเองต่างหาก!!”
ซึงรีเถียงคำไม่ตกฟาก แต่หน้าก็แดงก่ำแข่งกันกับซอนมี แต่รายนั้นนอกจากหน้าจะแดงแล้วยังขยี้ตาตัวเองไม่หยุด
“แล้วใครให้นายรูดซิปหลังเปิดประตูห้องน้ำกันล่ะ!! แย่แน่ๆ ชั้นต้องฝันร้ายแน่ๆเลยอ่ะ มันติดตาเลยอ่ะ....อ๊ากกกก”
ซอนมีล้มตัวลงนอนแล้วยกตุ๊กตาเอเลี่ยนขึ้นมาปิดหน้าตัวเอง ซึงรีมองเธออย่างระแวดระวัง รีบรูดซิปของตัวเองให้เรียบร้อยแล้วถอนใจออกมาอย่างโล่งอก....
*
*
*
*
แม้จะมืดค่ำจนเวลากำลังจะเดินทางสู่เช้าของวันใหม่ แต่ที่ถนนหน้าร้านเบเกอรี่ที่เงียบสงบนั้น ก็ยังมีรถสกูตเตอร์สีดำคันเล็กๆ แล่นมาจอดที่หน้าร้าน คนขับถอดหมวกออกวางลงที่หน้าตะแกรงรถ มองเข้าไปในร้านที่เงียบสงัดอย่างไม่แน่ใจ...
หลังจากบอกให้แทยังสารภาพรักกับยูบินไปแล้ว เมื่อกลับไปถึงบ้าน....เธอก็นอนไม่หลับ....
ไม่รู้ทำไมจิตใจถึงได้ร้อนรุ่มจนต้องขับรถออกมาที่ร้านตอนเวลาดึกดื่นแบบนี้....แค่อยากมาดูให้แน่ใจว่าทุกคนกลับไปหมดแล้วจริงๆ....โดยเฉพาะ.....
“เฮีย....”
โซฮีพึมพำออกมาเบาๆ เมื่อเห็นร่างที่คุ้นตากึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่ม้าหินอ่อนอีกตัวที่ห่างจากร้านไปพอสมควร...คนแก้มป่องรีบวิ่งเข้าไปหาเขา และพอเข้าใกล้เธอก็ต้องผงะหน้าหนี
“กลิ่นเหล้าคลุ้งเลย....อย่าบอกนะว่าไปผับตรงนั้นมา....”
โซฮีบ่นพึมพำเมื่อคิดถึงผับที่เธอขี่รถผ่านมาเมื่อครู่ เด็กสาวค่อยๆ ประคองเขาให้ขึ้นมานั่งพิงพนัก แทยังปรือตามองคนตรงหน้าแล้วเอ่ยชื่อเธอออกมา...
“โซฮี...”
“ใช่....ชั้นเอง...นี่มันเกิดอะไรขึ้นน่ะ เฮียกินเหล้าทำไม”
“เฮอะ...ยังจะมาถามอีกเหรอ”
แทยังแค่นหัวเราะเบาๆ พยายามจะลุกขึ้นแต่เพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ทำให้เขาซวนเซ โซฮีถลาไปประคองปีกเอาไว้ แต่กลับถูกสะบัดออกอย่างไม่ไยดี
“ปล่อย....อย่ามายุ่งได้มั้ย...”
“ชั้นคงไม่ยุ่งหรอก ถ้าเฮียไม่ไปกินเหล้าจนหมดสภาพแบบนี้ แค่จะเดินกลับร้านยังไม่ถึงเลย...มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่....”
“ก็เพราะเธอเป็นแบบนี้ไง....ยุ่ง....ยุ่งไปทุกเรื่อง...แล้วเป็นไง....สะใจเธอหรือยัง.....ยูบินปฏิเสธชั้นแล้ว...ความลับที่ชั้นเก็บมาหลายปีมันพังหมดแล้ว....เพราะความเจ้ากี้เจ้าการของเธอนั่นแหละ!!”
“แล้วทำไมเฮียต้องมาโทษชั้นฝ่ายเดียวล่ะ!!”
โซฮีขึ้นเสียงอย่างไม่ยอมแพ้ เธอไปบังคับเขาให้ชอบยูบินหรือไง เธอก็ไม่ได้อยากให้เขาเจ็บแบบนี้สักหน่อย....
แทยังหัวเราะในลำคอ จ้องหน้าคนแก้มป่องก่อนจะย้ำทีละคำอย่างชัดเจน
“อย่ามายุ่งกับชีวิตชั้นอีก....อย่ามาบงการชีวิตชั้น....ชีวิตชั้นพังหมดแล้วก็เพราะลูกน้องอย่างเธอ....”
“ได้....เอาอย่างนั้นก็ได้....”
อานโซฮียิ้มเยาะตัวเอง น้ำตาพานจะไหลเอาดื้อๆ เมื่อตอนนี้ความหวังดีของเธอถูกตีค่าให้เหลือเพียงแค่นี้....
คิดว่าเธออยากจะรักเขาข้างเดียวแบบนี้หรือไง...
“เฮียพูดเองนะ...ต่อไปชั้นจะไม่ยุ่งกับชีวิตเฮียอีกเลย....คอยดู...”
แทยังเม้มปาก...มองรถสกูตเตอร์ที่แล่นออกไปด้วยความเร็วผิดปกติแล้วค่อยๆ ทรุดนั่งลงที่ม้าหินอ่อนตามเดิม ชายหนุ่มระบายลมหายใจออกมา ปล่อยให้ฤทธิ์แอลกอฮอล์เข้าไปควบคุมสติจนมืดลงไปอีกครั้ง....
ดงยองเบหมดสติไปได้เพียงไม่นาน รถสกูตเตอร์คันเดิมก็แล่นมาจอดที่เดิม....คนเดิมบนรถถอดหมวกกันน็อคออก เดินมาหยุดตรงหน้าเขา ใบหน้ากลมยังเต็มไปด้วยคราบน้ำตา....
อานโซฮีเข้าไปประคองร่างที่หนักกว่าเธอมากขึ้นมาอย่างทุลักทุเล เด็กสาวมองใบหน้าคมที่หลับสนิทแล้วเอ่ยคำแก้ตัวออกมาทั้งที่อีกฝ่ายไม่ได้ยิน...
“เห็นแก่ภาพลักษณ์ของร้านหรอกนะ....ถ้าไม่กลัวว่าจะมีคนมาเห็นนอนหมดสภาพอยู่ข้างถนนล่ะก็....ชั้นจะไม่ยุ่งกับเฮียเลย....คอยดู....”
*
*
*
*
ความคิดเห็น