คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #11 : Chapter 11 หวงก้าง / First Touch?
“ท่านประธานอยู่ในห้องไหมคะ”
คนผมสีแดงที่ถือแฟ้มด้วยหน้าตาท่าทางรีบร้อนทำให้เลขาหน้าห้องเงยหน้าขึ้นมองเธอเล็กน้อย....มีปากกาทัดหูอยู่ด้วย....ท่าทางจะธุระด่วนจริงๆนะเนี่ย....
“อยู่ค่ะ แต่ว่าผู้จัดการคะ...”
“ขอบคุณมากค่ะ ขออนุญาตเข้าไปนะคะ”
ปาร์คเยอึนพูดเองเออเองเสร็จสรรพแล้วเคาะประตูสองทีก่อนจะเปิดเข้าไปเลย หญิงสาวร่างสูงเดินจ้ำพรวดๆไปนั่งลงที่โต๊ะหน้าท่านประธานพร้อมกับวางแฟ้มลงด้วยท่าทางกระตือรือร้นตามลักษณะนิสัย
“ท่านประธานคะ โปรเจคท์ใหม่เรียบร้อยแล้วค่ะ”
ร่างสูงที่หันหลังให้เธออยู่หันมามองต้นเสียงงงๆ แต่ปาร์คเยอึนงงยิ่งกว่าเมื่อได้เห็นว่าท่านประธานของเธอดูเปลี่ยนไป....ผมสีขาวหายไป...มีแต่ผมสีดำสนิทและใบหน้าหล่อเหลาที่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน....
“คุณยูชอน!!”
“คุณเยอึนนั่นเอง....มีอะไรหรือเปล่าครับ”
ยูชอนถามพร้อมกับยิ้มแบบที่ทำให้เยอึนเขินขึ้นมาอย่างไม่มีเหตุผล เขาจำชื่อเธอได้ด้วย!! สงสัยจำจากป้ายชื่อวันนั้นสินะ.....หญิงสาวยกมือขึ้นเกาแก้มตัวเองเบาๆ กลบเกลื่อนอาการอาย ก่อนจะตอบออกไปเก้อๆ
“คือ....ชั้นมีโปรเจคท์ใหม่มาเสนอท่านประธานน่ะค่ะ แล้วนี่...”
“เดือนนี้คุณพ่อมีธุระด่วนเลยให้ผมมารักษาการแทนก่อนน่ะครับ....นี่เหรอครับโปรเจคท์ของคุณ เกี่ยวกับอะไรบ้างพอจะบอกผมได้ไหม”
ยูชอนพูดพร้อมกับนั่งลงอ่านแฟ้มของเธอ เยอึนยิ้มเขินๆ ก่อนจะเริ่มอธิบายแบบร่ายยาวตามที่เธอถนัด
“แผนทำการตลาดที่จีนน่ะค่ะ ที่จริงท่านประธานอนุมัติโปรเจคท์นี้แล้วนะคะ แต่ว่าท่านเห็นว่ามีข้อบกพร่องนิดหน่อยก็เลยให้ชั้นไปแก้ไข ที่ชั้นทำรายละเอียดมาให้ก็คือตรงงบประมาณน่ะค่ะ พอเราใช้แรงงานที่นั่นแทนก็สามารถลดงบประมาณค่าจ้างลงไปได้มาก อีกอย่างการทำการโฆษณาที่จีนก็ต้องเสียงบเยอะเหมือนกัน เราก็เลยคิดว่าน่าจะใช้งบตรงส่วนนี้แทน......”
“โอเคครับ โอเค เดี๋ยวรายละเอียดอื่นๆ ผมจะศึกษาเอง แล้วเรียกคุณมาทีหลังถ้ามีปัญหา ขอบคุณมากนะครับ”
ชายหนุ่มรีบตัดบทยิ้มๆ ก่อนที่ผู้จัดการสาวจะอธิบายยาวมากไปกว่านี้ เยอึนยิ้มเขินๆ อีกรอบ หญิงสาวทำท่าจะลุกขึ้น แต่เสียงทุ้มๆนั้นก็ดังขึ้นเสียก่อน
“จะไปไหนล่ะครับ”
“อ้าว....ก็กลับไปทำงานต่อไงคะ.....ก็คุณบอกว่า....”
“ตอนนี้มันจะพักเที่ยงแล้วนะครับ คุณไม่คิดจะกินข้าวก่อนเหรอ”
ปาร์คยูชอนเอ่ยพร้อมกับมองเธอด้วยรอยยิ้ม แต่เหมือนว่าเยอึนก็ยังไม่เข้าใจในสิ่งที่เขาพูดอยู่ดี
“กินสิคะ ที่โรงอาหารของบริษัทเรานี่แหละค่ะ อาหารอร่อยแถมยังให้เยอะกว่าที่อื่นด้วย”
“ผมเพิ่งกลับมาจากญี่ปุ่น...ยังไม่ค่อยรู้จักร้านอาหารดีๆในเกาหลีเท่าไหร่ คุณเยอึนช่วยแนะนำหน่อยได้ไหมครับ”
ประโยคต่อมาทำให้ปาร์คเยอึนหน้าแดงแจ๋.....มองชายหนุ่มรูปหล่อตรงหน้าที่ยิ้มให้เธอด้วยความเขินถึงขีดสุด....คนผมแดงค่อยๆ พยักหน้าตอบเบาๆ ไม่ปล่อยโอกาสนี้ให้หลุดลอยไปอยู่แล้ว
“งั้นไปกันเลยนะครับ ผมหิวแล้ว”
ยูชอนพูดยิ้มๆ ลุกขึ้นเดินนำไปที่ประตู เยอึนเดินตามเขาไปทั้งที่หน้ายังแดงลามไปถึงใบหู แต่ทว่าจู่ๆ ยูชอนก็หยุดกึก หันมามองหน้าเธอด้วยใบหน้านิ่งๆ
“มีอะไรเหรอคะ...”
เยอึนถามพร้อมกับลูบหน้าตัวเองงงๆ ยูชอนคลายยิ้มออกมาเล็กน้อย เอื้อมมือไปหยิบปากกาที่ทัดหูเธอออกมายัดใส่มือหญิงสาวก่อนจะพูดเสียงสุภาพ
“เรียบร้อยแล้ว....ไปได้แล้วครับ”
*
*
*
*
“เฮีย กาแฟโต๊ะหกสามแก้ว”
เสียงเล็กๆของคนแก้มป่องที่บอกออเดอร์มาทำให้ดงยองเบที่กำลังง่วนกับการตกแต่งกาแฟขมวดคิ้วเล็กน้อย เงยหน้ามองเด็กเสิร์ฟคนสวยที่ตอนนี้ยืนปาดเหงื่อหน้าแดงด้วยความเหนื่อยล้า
“นั่นมันโต๊ะประจำไอ้แดไม่ใช่เหรอ สั่งไปทำไมหลายแก้ว”
“วันนี้พี่แดซองพากิ๊กมาสองคน”
คำตอบของอานโซฮีทำให้แทยังถึงกับหน้าเหวอ....ปกติพามาวันละคนก็ไม่ซ้ำกันสักวันอยู่แล้ว วันนี้พามาสองคนเลยเหรอ....มันจะเทพไปไหนเรื่องผู้หญิงเนี่ย....
“สวยๆทั้งนั้นเลยนะเฮีย หุ่นแต่ละคนงี้....สะบะละฮึ่มมากอ่ะ พี่แดซองนี่สุดยอดจริงๆ ไปสอยมาจากไหนก็ไม่รู้”
“ไม่ตบกันในร้านเราแน่นะ”
แทยังถามอย่างเป็นห่วงสวัสดิภาพของร้านตัวเอง อานโซฮีส่ายหัวดิกๆ
“ไม่หรอก ชั้นดูยังไงพี่แดซองก็น่าจะเอาอยู่นะ”
“ให้มันเอาอยู่จริงๆแล้วกัน”
แทยังว่าพร้อมกับส่งกาแฟให้โซฮีไปเสิร์ฟโต๊ะอื่นก่อน เด็กสาวถือถาดกาแฟเดินผ่านโต๊ะที่แดซองนั่งหัวเราะอยู่กับสาวๆของเขาแล้วอดยิ้มไม่ได้ คนแก้มป่องเอื้อมมือจะเปิดประตูร้านเพื่อไปเสิร์ฟโต๊ะข้างนอก แต่ประตูถูกผลักเข้ามาเสียก่อน
“อ้าวพี่เยอึน มากินมื้อเที่ยงเหรอ”
เด็กสาวทักทายคนผมแดงด้วยน้ำเสียงสดใส เยอึนพยักหน้าเบาๆ มองไปรอบร้านหาโต๊ะว่าง
“มีโต๊ะว่างบ้างมั้ยเปา...เอ่อ....สองที่นะ”
ปาร์คเยอึนเสริมต่อท้ายเมื่อเห็นโซฮีหันไปมองยูชอนที่ยืนข้างเธออย่างสงสัย เด็กสาวชี้มือไปที่มุมในสุดของร้านทันที
“โต๊ะห้าโน่นแน่ะพี่เยอึน จะสั่งอะไรก็ไปบอกเฮียเลยนะ”
“ขอบใจจ้ะ เอ่อ....คุณยูชอน....ตกลงกินร้านนี้ไหมคะ”
“โอเคเลยครับ แต่งร้านได้น่ารักดี”
ยูชอนพูดยิ้มๆ พร้อมกับทำท่าผายมือให้ เยอึนหัวเราะเบาๆ ก่อนจะเดินนำเขาไปที่โต๊ะ โซฮียืนมองตามทั้งสองคนด้วยความงุนงงสงสัย....อย่าบอกนะว่านี่เป็นแฟนพี่เยอึนน่ะ...เร็วไปหน่อยมั้งเนี่ย....
“ตายล่ะ!! แย่แล้ว!!”
จู่ๆ คนแก้มป่องก็อุทานออกมาอย่างตกใจเมื่อคิดอะไรขึ้นมาได้ โต๊ะห้าว่าง...มันอยู่ติดกับโต๊ะหกที่พี่แดซองนั่งนี่นา....
เธอชักเป็นห่วงสวัสดิภาพของร้านนี้ซะแล้วสิ...
*
*
*
*
“โต๊ะนี้ใช่ไหมครับ”
ยูชอนถามพร้อมกับพลิกป้ายที่โต๊ะดู...แต่ตอนนี้ผู้จัดการคนสวยไม่อยู่ในสภาวะที่จะตอบคำถามเขาได้ซะแล้ว เพราะสายตาดุๆของเธอกำลังจับจ้องอยู่ที่โต๊ะหกแบบตาไม่กะพริบ....
ไอ้แด...มีผู้หญิงนั่งขนาบข้างสองคน....
กำลังป้อนขนมเค้กแบบที่เรียกว่า....ปากถึงปาก....
ฮึ่มมมม....
“ชอบนักล่ะสิ....ไอ้เรื่องป้อนด้วยปากเนี่ย...”
ปาร์คเยอึนบ่นงึมงำด้วยความโมโหแบบไม่มีเหตุผล ยูชอนที่นั่งลงแล้วหันมามองเธองงๆ
“คุณเยอึนว่าอะไรนะครับ”
ชื่อของเยอึนที่ถูกเรียกด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำนั้นทำให้แดซองที่กำลังสำราญกับสาวๆชะงักกึก เขาหันมาประสานสายตากับเยอึนพอดี คนผมแดงเมินหน้าหนีแล้วนั่งลงตรงข้ามยูชอน ในขณะที่เพื่อนตัวแสบของเธอลุกพรวดขึ้นยืนจนสาวทั้งสองคนพากันงง
“มากับใครวะเนี่ย....”
แดซองพึมพำพร้อมกับพยายามเขย่งตัวมองข้ามฉากไม้ที่กั้นโต๊ะไว้อย่างร้อนใจ....เป็นจังหวะเดียวกับที่ยูชอนหันมามองเขาอย่างงงๆ พอดี คังแดซองหน้าเครียดขึ้นมาทันที...
ผู้ชาย....หล่อซะด้วย...
หวังว่าคงจะไม่ใช่....
“คุณยูชอนจะกินอะไรสั่งได้เลยนะคะ”
เสียงอ่อนๆของเยอึนทำให้แดซองหน้าเครียดขึ้นกว่าเดิม....ไอ้หมอนั่นจริงๆด้วย....หล่อกว่าที่คิดตั้งเยอะแน่ะ แถมยังถึงขั้นมากินข้าวด้วยกันแบบนี้อีก...
ไม่ได้การแล้ว....ต้องทำอะไรสักอย่าง...
“พี่แดซองจะไปไหนเหรอคะ”
สาวๆทั้งสองคนถามขึ้นทันทีเมื่อเห็นแดซองจะก้าวขาออกไป ชายหนุ่มตอบโดยไม่มองหน้าพวกเธอสักนิด
“พี่เจอเพื่อนสนิทน่ะ รอพี่แป๊บนึงนะเดี๋ยวมา ถ้ารอไม่ได้ก็กลับไปก่อนได้เลย”
พูดแค่นั้นชายหนุ่มก็เดินฉับๆไปที่โต๊ะทันที สาวทั้งสองคนมองหน้ากันด้วยอาการอึ้งกิมกี่ ในขณะที่ยูชอนเริ่มชวนเยอึนคุยอย่างเป็นกันเอง
“ร้านนี้อะไรอร่อยบ้างเหรอครับ”
“ก็ทุกอย่างที่คุณยูชอนสั่งนั่นแหละค่ะ เพื่อนชั้นมันทำอาหารเก่ง ชงกาแฟยิ่งสุดยอดยังงี้เลย”
คนผมแดงพูดพร้อมกับยกนิ้วโป้งให้เป็นการยืนยัน ยูชอนอมยิ้มอย่างเอ็นดู
“ที่แท้ก็ร้านเพื่อนนี่เอง...คิดค่าโฆษณาบ้างไหมครับเนี่ย”
“แหม....ไม่มีแบบนั้นหรอกค่ะ...แค่กินฟรีนิดๆหน่อยๆเท่านั้นเอง”
ยูชอนหัวเราะออกมากับคำพูดของเธอ ทำให้เยอึนหัวเราะตามอย่างเขินๆ แต่แล้วเวลาแห่งความสุขก็หมดลงเพราะร่างสูงของแดซองที่นั่งลงบนเก้าอี้ข้างเยอึนหน้าตาเฉย
“คุยเรื่องอะไรกันเหรอ ท่าทางจะสนุกดีนะ ขอผมคุยด้วยคนสิ”
ปาร์คยูชอนมองชายหนุ่มตรงหน้าเขาอย่างงงๆ ในขณะที่เยอึนแทบจะแยกเขี้ยวงับหัวเพื่อนจอมแสบ แดซองยังคงทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ได้อย่างแนบเนียน
“เอ่อ....คุณยูชอนคะ นี่คือ..”
“ผมชื่อคังแดซอง เป็นเพื่อนสนิทม้ากมากของไอ้ปาร์คมันครับ”
คนผมทองตอบตัดหน้าแบบไม่เกรงใจ เยอึนยิ้มแหยๆให้เจ้านายก่อนจะหันมาจ้องแดซองด้วยสายตาเหมือนอยากจะกินเลือดกินเนื้อ เป็นเวลาเดียวกับที่แทยังเอาอาหารมาเสิร์ฟพอดี....แดซองมองสลัดในจานที่ถูกเลื่อนมาหาเยอึนแล้วเริ่มปากเสียทันที
“วันนี้แกกินสลัดเหรอ....แปลกดีนะ ปกติชั้นเห็นแกกินแต่พวกสเต็กเนื้ออะไรแบบนี้ หรือแกอยากจะลดหุ่น??”
เยอึนไม่ตอบคำถามแต่แยกเขี้ยวใส่เขาแทน ยูชอนเลิกคิ้วอย่างสนใจ
“คุณเยอึนชอบกินสเต็กเนื้อเหรอครับ ผมก็ชอบเหมือนกัน....ยิ่งมันเยอะๆยิ่งดี อร่อยที่สุด”
คำพูดของยูชอนทำให้เยอึนหันมายิ้มให้เขาอย่างเขินๆ แดซองรีบขัดการประสานสายตาของทั้งคู่ทันที
“เหมือนว่าคุณยูชอนจะชอบอะไรหลายๆอย่างเหมือนเยอึนนะครับ...เอ....แล้วคุณยูชอนอาบน้ำบ่อยไหมครับ”
“ก็ทุกวันนะครับ...ทำไมเหรอ”
ยูชอนถามกลับอย่างไม่เข้าใจ แดซองยิ้มกว้าง
“ถ้างั้นก็ไม่เหมือนไปแล้วหนึ่งอย่าง....เพราะปาร์คมันอาบน้ำน้อยมากถึงมากที่สุด เห็นเป็นผู้หญิงยิงเรืออย่างนี้ก็เถอะครับ ซกมกมากกกก วันนั้นมันทำสีผมมา แล้วมันก็ไปวิ่งจ๊อกกิ้ง แล้วก็เข้านอนเลยทั้งที่ไม่ได้อาบน้ำ คุณยูชอนว่าเรื่องนี้ตลกดีไหมล่ะครับ ฮ่าๆๆๆ”
แดซองหัวเราะนำอย่างเป็นสุข ยูชอนทำหน้าไม่ถูก หันไปมองเยอึนที่ตอนนี้แทบจะแทรกแผ่นดินหนีอยู่แล้ว
“ก็....โอเคครับ”
“ผมอยากให้คุณไปเห็นห้องนอนมันมากเลย คุณจะต้องทึ่งในความซับซ้อนยิ่งกว่าเขาวงกต ก่อนจะไปถึงเตียงคุณต้องกระโดดข้ามกองขยะอย่างน้อยสามครั้ง แล้วก็อย่าคิดว่ามันจะทำความสะอาดนะครับ ไม่มีทางซะหรอก มีแต่ผมนี่แหละต้องไปทำความสะอาดห้องให้มัน เพื่อนผมมันไม่ค่อยมีความเป็นแม่ศรีเรือนเท่าไหร่น่ะครับ แม้แต่ความเป็นผู้หญิงมันยังไม่ค่อยจะมีเลย ถ้าคิดจะคบกับมันคุณคงต้องทำใจว่า...”
“ขอตัวไปเข้าห้องน้ำก่อนนะคะ”
เยอึนขัดขึ้นพร้อมกับลุกขึ้นเดินจ้ำพรวดๆออกไปด้วยใบหน้าแดงก่ำ...แดซองมองตามร่างนั้นไปแล้วหน้าเครียดขึ้นมาทันที....รู้ดีว่าตอนนี้เยอึนต้องโกรธเขามากแน่ๆ...
แต่....ถ้าเขาไม่ทำแบบนี้....เขาก็ต้องเสียเธอไปน่ะสิ....
“ผมไม่รู้หรอกนะว่าคุณทำแบบนี้เพื่ออะไร แต่ถ้าคุณต้องการให้ผมรังเกียจเยอึน ผมว่าคุณคิดผิดแล้ว....ผมชอบผู้หญิงติดดินแบบเยอึน ยิ่งทั้งสวยและทำงานเก่งแบบนี้ผมยิ่งชอบมากขึ้น...ผมคิดว่าผมรับได้ในทุกเรื่องที่คุณพูดมา ขอตัวก่อนนะครับ”
ยูชอนลุกขึ้นโค้งลาอย่างสุภาพแล้วเดินตามเยอึนออกไป ผ่านโซฮีกับซอนมีที่ยืนมองเหตุการณ์ตาปริบๆ ซอนมีหันไปยิงคำถามใส่เจ้านายทันที
“ทำไมพี่แดซองต้องทำแบบนั้นด้วยล่ะเฮีย ไม่เป็นสุภาพบุรุษเลย เอาเรื่องพี่เยอึนมาแฉแบบนี้...”
“ถ้าเราหวงใครสักคนมากๆ เราอาจจะลืมความเป็นสุภาพบุรุษไปก็ได้นะ”
แทยังพูดเรียบๆ มองไปที่แดซองที่กำลังนั่งเครียดอยู่อย่างเข้าใจ โซฮีขมวดคิ้วมุ่น....
“หวง....หวงพี่เยอึนน่ะเหรอ....เฮียหมายความว่าไง”
“ไม่ใช่แค่หวงนะ.....มันจะเก็บไว้เป็นของมันคนเดียวเลยล่ะ”
แทยังพูดเรียบๆอีกครั้งแต่ทำให้อานโซฮีอ้าปากหวอ หันมามองซอนมีที่อึ้งไม่แพ้กัน....มิน่าล่ะถึงได้หาเรื่องพี่เยอึนตลอดเวลา ไหนจะเรื่องขโมยจูบนั่นอีก....
โซฮีมองร่างสูงที่ยังนั่งนิ่งอย่างคิดไม่ตกด้วยความเห็นใจ....เข้าใจดีว่าการที่ต้องหวงใครสักคนทั้งที่เขาไม่ใช่ของเรามันทรมานขนาดไหน
แล้วพี่เยอึน...จะรู้บ้างหรือเปล่านะ....
*
*
*
ค่ำแล้ว...
คิมยูบินเดินเช็ดผมตัวเองออกมาจากห้องน้ำ คนผิวแทนชะงักไปนิดหนึ่งเมื่อเห็นร่างสูงยืนหน้านิ่งเฉยอยู่ข้างเตียง ตาคมมองมาที่เธอแวบเดียวก็เมินหนีไป หญิงสาวมองร่างสูงที่นอนลงบนเตียงโดยเว้นที่ว่างให้เธอครึ่งหนึ่งแล้วยิ้มออกมาเศร้าๆ....
“ฝันดีนะคะ....”
ยูบินพูดเสียงเบาเหมือนพูดกับตัวเองเสียมากกว่า หากแต่ในห้องที่เงียบงันนี้เสียงของเธอกลับดังพอที่จะทำให้อีกคนได้ยินอย่างชัดเจน ชเวซึงฮยอนลืมตาขึ้นช้าๆ เมื่อรู้สึกได้ถึงน้ำหนักของร่างบางที่นอนลงข้างๆ เขา.... นอนข้างกัน....แต่หันหลังให้กันเหมือนทุกคืนที่ผ่านมา....
น่าแปลกที่คนนอนอยู่บนเตียงเดียวกันมาร่วมปี...จะห่างเหินราวกับไม่เคยรู้จักกันมาก่อนได้ถึงเพียงนี้...
ยูบินไม่อาจข่มตาให้หลับลงได้ ดวงตาคู่สวยเหม่อมองผนังอย่างคิดหนัก....ไม่รู้ว่าหลังจากที่ชเวอึนจองกลับฝรั่งเศสไปแล้วจะเกิดอะไรขึ้นอีกไหม...มันจะร้ายแรงกว่าที่เป็นอยู่นี้หรือเปล่า....
แต่ที่จริงเธอก็ไม่ควรจะกลัวอะไรสินะ เพราะมันคงไม่มีอะไรเลวร้ายไปกว่าทุกวันนี้อีกแล้วล่ะ....
ร่างบางผ่อนลมหายใจเบาๆ ระบายความกลัดกลุ้ม พยายามข่มเปลือกตาให้ปิดลง แต่แล้ว...หญิงสาวก็ต้องลืมตาขึ้น เมื่อได้ยินเสียงการเคลื่อนไหวจากคนข้างๆ ...คนที่ไม่เคยแม้แต่จะขยับเข้ามานอนใกล้ๆ คนนั้น...
แต่ตอนนี้ยูบินกลับรู้สึกเหมือนว่าเขากำลัง.....พลิกตัวหันหน้ามาหาเธอ....
คนผิวแทนนิ่งลังเลอยู่ครู่หนึ่งก็ต้องตาเบิกกว้างเมื่อรู้สึกได้ว่ามืออุ่นๆคู่นั้นวางทาบลงมาบนเอวของเธอ ร่างบางขยับจะหนีโดยอัตโนมัติ แต่แล้วเธอก็ต้องตัวแข็งทื่อเมื่อได้ยินเสียงกระซิบดังขึ้นที่ข้างหู...
“หันหน้ามาหาชั้นเดี๋ยวนี้...ในนี้มีกล้องวงจรปิด....”
คิมยูบินอึ้งไปกับคำบอกเล่านั้น....หญิงสาวลังเลได้ไม่นานเพราะมือแกร่งรั้งเอวเธอเป็นเชิงเร่งเร้า คนผิวแทนตัดสินใจพลิกตัวไปหาเขาตามคำสั่ง....และพอหันไปยูบินก็รู้สึกเหมือนตัวเองกำลังฆ่าตัวตายทางอ้อม เพราะจมูกของเธอเฉี่ยวปลายจมูกคมๆนั่นไปนิดเดียว แถมตอนนี้เธอก็ถูกสะกดไว้ด้วยดวงตาสีนิลนั้นจนถอนตัวไม่ขึ้น....
หยุด....หยุดสักที....
ใครก็ได้ช่วยหยุดเสียงหัวใจบ้าๆ นี่ทีเถอะ....
“ใครเป็นคนติดกล้องนี่ แม่ชั้นกำลังแอบดูเราอยู่ใช่มั้ย”
ชเวซึงฮยอนถามเสียงไม่พอใจ แต่ลมหายใจอุ่นๆที่เป่ารดอีกคนกลับทำให้ยูบินหน้าแดงซ่าน....
“ชั้นไม่ทราบค่ะ...”
“อย่าให้ชั้นรู้แล้วกันว่าเธอมีส่วนรู้เห็นด้วย”
ชายหนุ่มกระซิบเสียงดุ ตาคมที่มองมาอย่างคาดโทษนั้นทำให้ยูบินทั้งหวั่นไหวและเจ็บปวดในคราเดียวกัน....
“ชั้นไม่ทราบจริงๆค่ะ”
“หยุดพูดแล้วก็นอนเงียบๆไปซะ....ชั้นไม่อยากให้คุณแม่เปลี่ยนใจอยู่ที่นี่ต่อหลายๆวัน”
เจ้าของร่างสูงตาคมพูดเสียงเรียบแต่กลับไม่ยอมหลับตา ยังคงมองมาที่เธออย่างเย็นชาเช่นเดิม ทำให้ยูบินต้องเป็นฝ่ายหลับตาเสียเองเพราะไม่อาจทนสู้สายตาคู่นั้นได้ไหว....สายตาที่กำลังทำให้หัวใจเธอเต้นแรงจนจะระเบิดเป็นจุณอยู่แล้ว....
เวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ไม่รู้....แต่ยูบินมั่นใจว่า....คืนนี้เธอหลับไม่ลงแน่ๆ....
ตราบใดที่ยังมีลมหายใจอุ่นๆ รดหน้าอยู่แบบนี้.....ตราบใดที่หัวใจของเธอยังเต้นแรงอยู่แบบนี้...
เธอต้องตายก่อนแน่ๆ....
เสียงร่างสูงที่ขยับตัวอีกครั้งทำให้ยูบินลืมตาขึ้น ตาคู่สวยเบิกกว้างกว่าเดิมเมื่อพบว่าตอนนี้ใบหน้าหล่อเหลานั้นขยับมาใกล้เธอมากขึ้น.....มากจนหญิงสาวสามารถเห็นเงาของตัวเองในแววตานั้นได้ชัดเจน...
เธอ...ต้องตายก่อนแน่ๆ....
“อยู่เฉยๆ....”
เสียงทุ้มต่ำกระซิบเบาๆ และทำให้ยูบินตัวแข็งทื่อเหมือนถูกสาป....ทำได้แค่ปล่อยให้ริมฝีปากร้อนนั้นแนบรสสัมผัสเข้ามาโดยไร้เรี่ยวแรงจะขัดขืน....และไม่นานนัก รสจูบนั้นก็เปลี่ยนเป็นหนักหน่วงจนหญิงสาวรู้สึกราวกับว่าร่างกายจะแตกเป็นเสี่ยงๆ
จูบ.....
เธอกำลังจูบ....กับเขา....ชเวซึงฮยอน.....
เธอไม่ได้ฝันไปใช่ไหม....
สติของยูบินถูกก่อกวนให้เบลอด้วยเรียวลิ้นที่ซุกซนไล่ต้อนหาความหวานจากเรียวปากของเธอ ไอเย็นเฉียบจากเครื่องปรับอากาศถูกทดแทนด้วยความร้อนจากฝ่ามือแกร่งที่สอดเข้าไปใต้สาบเสื้อ มันค่อยๆปลดกระดุมออกจากข้างในแล้วไล้ผ่านหน้าท้องแบนราบจนยูบินสะดุ้งเฮือก...
ร่างสูงละสัมผัสจากริมฝีปากหวานก่อนจะเปลี่ยนไปหาความหอมจากซอกคอสีแทนเนียนสนิท....ริมฝีปากของเขาทำให้เกิดรอยแดงนับไม่ถ้วนบนซอกคอสีน้ำผึ้งนั้น เรียวลิ้นสร้างร่องรอยในทุกที่ที่มันผ่านไป...ละต่ำลงมาจนเกือบจะถึงเนินอก....
“ฟึ่บ!!”
จู่ๆร่างสูงก็ผละออกจากกลิ่นกายที่หอมหวานแบบไม่มีเหตุผล ยูบินลุกพรวดขึ้นกระชับเสื้อที่กระดุมฉีกขาดไว้แน่น ร่างบางกระถดตัวไปจนชิดขอบเตียง....กะพริบตาถี่ๆ เพื่อรวบรวมสติที่มันกระเจิดกระเจิงไปหมด....ก่อนจะมองมาที่ผู้เป็นสามีอย่างไม่เข้าใจ....
ทำไม...
ทำไมถึงได้....
“ชั้นทำเพื่อให้คุณแม่ปิดกล้อง
ชั้นทนหายใจร่วมกับเธอทั้งคืนไม่ได้....ชั้นขยะแขยง”
ร่างสูงพูดเสียงเรียบเฉย....ใช้ผ้าเช็ดตัวปิดเลนส์กล้องที่มุมห้องเอาไว้ก่อนจะคว้าหมอนเดินตรงไปที่โซฟา ยูบินมองร่างสูงที่วางหมอนลงบนโซฟาแล้วถอนใจออกมาเบาๆ ระบายความตื่นกลัวและรอยร้าวที่ซ่อนอยู่ในใจให้หมดไปเสียที...
ชเวซึงฮยอนนอนลงบนโซฟามุมห้องนั้นแล้ว....ตาคู่คมหันมามองเธออีก....และมันก็ยังคงเป็นแววตาที่ยูบินไม่อาจจะเข้าใจได้เหมือนเช่นเคย....
“แล้วก็อย่าคิดเข้าข้างตัวเองว่าชั้นพิศวาสเธอเด็ดขาด....เพราะมัน....ไม่มีทาง....”
*
*
*
*
ความคิดเห็น