ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [BB+WG] Love is hot รักทะลุองศา [จบแล้ว]

    ลำดับตอนที่ #11 : Chapter 10 Our date

    • อัปเดตล่าสุด 15 ธ.ค. 54


    โรงภาพยนตร์ที่ตั้งอยู่ในห้างสรรพสินค้านี้เต็มไปด้วยนักเรียนมากมาย หลายคนโดดเรียนภาคบ่ายเพียงเพื่อมาดูหนัง และแน่นอนว่าเมื่อกัปตันทีมบาสคนดังแห่งอินซองปรากฏตัวพร้อมกับจูงมือเชียร์ลีดเดอร์คนสวยมาด้วย ทุกสายตาก็จับจ้องไปที่พวกเขาทั้งสองแทบจะทันที…
     
    แต่ดูเหมือนว่าคนที่อึดอัดกับสายตาเหล่านี้ จะมีแต่คิมยูบินคนเดียวเท่านั้นเอง เพราะคนที่เดินนำหน้าเธอนั้นกำลังลากเธอไปที่ช่องขายตั๋วอย่างไม่รู้ร้อนรู้หนาวเลยสักนิด...
     
    คงจะควงผู้หญิงมาเดินบ่อยจนชินล่ะสิ..
     
    เอาสองใบครับ”
     
    ชเวซึงฮยอนบอกคนขายตั๋วด้วยรอยยิ้ม ชายหนุ่มล้วงกระเป๋าออกมาจ่ายเงินโดยใช้มือข้างซ้ายที่ว่างอยู่ ส่วนอีกมือก็จับข้อมือยูบินไว้แน่นไม่ยอมปล่อย ทำให้คนผิวแทนยิ่งหงุดหงิดหนักเข้าไปอีก
     
    นี่!”
     
    เสียงที่เจือแววขุ่นเคืองนั้นทำให้ท็อปหันไปมองเธอด้วยใบหน้ากวนๆ
     
    เธอเรียกใคร ?”
     
    ปล่อยมือได้แล้ว ชั้นอึดอัด”
     
    เสียงสะบัดๆ ที่มาพร้อมใบหน้าไม่สบอารมณ์นั้นทำให้ท็อปยิ่งนึกสนุก จะว่าโรคจิตก็ได้นะ... แต่การยั่วให้คนแบบคิมยูบินเสียงดังขึ้นเรื่อยๆ ได้เนี่ย... มันเป็นอะไรที่ทำให้มีความสุขชะมัด...
     
    ชั้นถามเธอทำไมไม่ตอบ เมื่อกี้เธอเรียกใคร?”
     
    เรียกนาย...ให้ปล่อยมือชั้นได้แล้ว”
     
    คิมยูบินพยายามกดเสียงให้นิ่งเพราะรู้ตัวว่ากำลังถูกยั่วโมโห ท็อปยิ้มกวนๆ ใส่เธออีกรอบ
     
    ชั้นมีชื่อ แล้วก็ไม่ได้ชื่อนี่...กรุณาเรียกให้ถูกด้วย”
     
    ชเว ซึงฮยอน ปล่อยมือชั้นได้แล้ว ชั้นรำคาญ!”
     
    คราวนี้คนผิวแทนเสียงดังขึ้นอย่างหงุดหงิด คนตัวสูงอมยิ้มนิดๆ บีบมือเธอแน่นขึ้นก่อนจะพูดเสียงยียวน
     
    ปล่อยไม่ได้ เดี๋ยวเวลาเข้าไปในโรงหนังเค้าจะปิดไฟ ชั้นกลัวหาเธอไม่เห็น”
     
    นี่!”
     
    ไปดูหนังกันเหอะ แล้วก็จับมือชั้นไว้แน่นๆ ล่ะ เรื่องนี้เห็นเค้าบอกว่าน่ากลัวจะตาย เดี๋ยวเธอกรี๊ดออกมาไม่รู้ตัวแล้วจะหาว่าชั้นไม่เตือนนะ ^^”
     
    *
    *
    *
     
    แฮ่!!!!”
     
    กรี๊ดดดดดดดดด!!!”
     
    เฮ้ยยยยยยยย!!”
     
    เสียงเอฟเฟกต์ประกอบภาพยนตร์ที่แสนจะน่ากลัวดังขึ้นพร้อมกับเสียงกรี๊ดลั่นโรงหนัง แต่นั่นก็ไม่ทำให้คิมยูบินรู้สึกรำคาญได้เท่ากับคนข้างๆ เธอคนนี้เลยสักนิด ผู้ชายบ้าอะไรเนี่ย... ทำไมเวลาฉากน่ากลัวออกมาทีไร ต้องเขยิบมากอดเธอไว้ทุกที
     
    นี่ เอาหน้านายออกไปห่างๆ ไหล่ชั้นได้มั้ย มันหนัก!!”
     
    ไม่เอาอ่ะ เดี๋ยวไอ้นั่นมันก็โผล่ออกมาอีก”
     
    ชเวซึงฮยอนพูดโดยไม่ยอมยกหน้าขึ้นจากไหล่ยูบินสักนิด ไม่เพียงแค่หน้าที่ไม่ยอมเงยขึ้น แขนทั้งสองข้างก็เกาะไหล่เธอแน่นยังกับเด็กน้อยหวงแม่ไม่มีผิด ดีนะที่ได้นั่งแถวหน้าสุดกันแค่สองคน ไม่งั้นคนอื่นคงคิดว่าเธอกำลังทำอะไรไม่ดีกับเขาอยู่แน่ๆ
     
    แล้วทีเมื่อกี้ล่ะทำเป็นบอกเธอให้จับมือไว้แน่นๆ แล้วทำไมตอนนี้ไม่ยอมเงยหน้าขึ้นดูจอล่ะ... นายป๊อดเอ๊ย...
     
    รู้ว่าตัวเองกลัวผี แล้วจะดูหนังผีทำไม”
     
    คนผิวแทนเอ่ยลอยๆ แต่ทำให้ท็อปเงยหน้าขึ้นจ้องเธอทันที
     
    ใครกลัว? พูดให้ดีๆ นะยัยดำ! ”
     
    ถ้าไม่กลัวก็เอามือกับหน้านายออกไปจากไหล่ชั้นสักทีสิ!”
     
    ไม่ออก จะซบอยู่แบบนี้แหละ เธอมีปัญหาอะไรมั้ย ?”
     
    ชายหนุ่มพูดพลางยักคิ้วอย่างท้าทาย คิมยูบินเบ้ปาก ยกมือทั้งสองข้างขึ้นดันหัวเขาออกสุดแรงเกิด การต่อสู้แบบไม่มีเสียงในโรงหนังมืดๆ เริ่มขึ้นทันที คนผิวแทนพยายามจะผลักท็อปออกไปห่างๆ แต่เขากลับทำทุกวิถีทางที่จะกอดไว้แน่นๆ การยื้อยุดของคนสองคนจึงรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ จนท็อปแทบจะเบียดยูบินตกเก้าอี้
     
    “หน็อย...คิดจะสู้เหรอ…”
     
    คนผิวแทนกัดปากแน่น เงื้อหมัดเล็กๆ จะชกหน้าเขา แต่คนตัวสูงเบี่ยงตัวเพียงนิดเดียวก็หลบได้ง่ายๆ มือที่แข็งแรงราวกับคีมเหล็กจับมือทั้งสองข้างของยูบินล็อกไว้อย่างรวดเร็ว ในขณะที่มือข้างที่ว่างก็โอบเอวเธอไว้แน่นจนหญิงสาวหมดหนทางจะไป คิมยูบินหอบหายใจถี่ๆ มองอีกคนอย่างเคืองแค้น
     
    เธอแพ้ชั้นแล้ว ยัยเข้ม...จะทำโทษยังไงดีเนี่ย ~”
     
    ชเวซึงฮยอนว่าพลางกระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้นอีกจนยูบินแทบจะดิ้นไม่ออก นี่ถ้าไม่มีที่วางแขนเก้าอี้กั้นไว้ มีหวังเธอได้นั่งบนตักเขาแน่…
     
    ปล่อยเดี๋ยวนี้นะ”
     
    คนผิวแทนพูดลอดไรฟันอย่างขู่ๆ เมื่อรู้สึกว่าเขากอดเธอแน่นเกินไปแล้ว ท็อปไม่ตอบอะไร แต่มองเลยไปที่รอยแดงจางๆ ตรงซอกคอ ที่มันปรากฏให้เห็นเพราะคอเสื้อที่ร่นลงไปจากการต่อสู้เมื่อกี้นี้
     
    นี่..”
     
    ปล่อย!!”
     
    รู้สึกว่ารอยที่คอเธอมันจะจางไปนิดนะ”
     
    คำพูดของท็อปทำให้ยูบินสะดุ้งทันที ร่างบางรีบรวบคอเสื้อไว้แน่นแล้วหันมาจ้องเขาอย่างดุๆ ชนิดที่อีกคนรู้สึกได้ในความมืด
     
    ถ้ามันจางเกินไป...เดี๋ยวคนอื่นก็ไม่รู้ว่าเธอมีเจ้าของแล้วน่ะสิ งั้นก็ต้อง...”
     
    หยุดความคิดชั่วๆ ของนายไปเลยนะ!!!”
     
    หญิงสาวตวาดเสียงดังด้วยความลืมตัวทันที เสียงอันดังของเธอทำให้คนที่นั่งใกล้ๆ ชะโงกหน้ามองเป็นตาเดียวกัน คิมยูบินมองไปรอบๆ ก่อนจะหันมามองตัวต้นเหตุที่หัวเราะคิกอย่างพออกพอใจ
     
    นาย..ไอ้...”
     
    ยอมให้ชั้นกอดแต่แรกก็สิ้นเรื่องแล้ว ยัยดำ!”
     
    ท็อปกระซิบกระซาบก่อนจะซบหน้าลงที่ไหล่เธออีกรอบ สองแขนตวัดมากอดเอวหญิงสาวอย่างรวดเร็ว ยูบินขยับตัวเบาๆ เพราะไม่กล้าทำอะไรอีก ได้แต่เข่นเขี้ยวด้วยความแค้น
     
    แฮ่!!”
     
    เสียงเอฟเฟกต์ที่ดังกระหึ่มพร้อมกับภาพน่ากลัวที่จอทำให้ท็อปสะดุ้งนิดๆ แล้วมาลงเอยด้วยการกอดเธอแน่นขึ้นอีก คนผิวแทนพ่นลมหายใจเฮือกใหญ่อย่างสะกดอารมณ์เต็มที่..
     
    นิ่งไว้ก่อน..คิมยูบิน..นิ่งไว้ก่อน..
     
    แฮ่!!”
     
    แล้วเมื่อไหร่..หนังบ้านี่จะจบสักทีนะ!!!!
     
    *
    *
    *
     
    หนังสือเล่มหนาถูกปิดลงเบาๆ ชานซองนวดขมับตัวเองแล้วหันไปมองที่ระเบียงของหอพัก ร่างสูงของเพื่อนรักยังคงยืนอยู่ตรงนั้น พร้อมด้วยขวดเบียร์ที่ถือไว้ตั้งแต่กลับจากโรงเรียนมา ไม่ยอมปล่อยเสียที..
     
    ตอนแรกเบียร์มันก็เต็มขวดอยู่หรอก แต่ตอนนี้น่ะ... ใกล้จะหมดขวดแล้ว...
     
    “แทค เดี๋ยวชั้นไปหาซื้ออะไรกินก่อนนะ แกจะเอาอะไรหรือเปล่า”
     
    “ขอเบียร์สักสองสามขวดแล้วกัน”
     
    อ๊กแทคยอนพูดเรียบๆ แต่ทำให้ชานซองถอนใจเฮือก
     
    “พรุ่งนี้แกจะไปโรงเรียนไหวมั้ยเนี่ย กินเป็นขวดๆ ขนาดเนี้ย..”
     
    “ไม่ต้องไปก็ดี”
     
    น้ำเสียงเจือความเจ็บปวดนั้นทำให้ชานซองพูดไม่ออก ได้แต่ตบไหล่เพื่อนเบาๆ
     
    “อีกขวดเดียวพอนะเพื่อน ถือว่าชั้นขอร้องก็แล้วกัน”
     
    แทคยอนไม่ตอบอะไร ชานซองมองเพื่อนครู่หนึ่งแล้วหันหลังเดินออกไป แต่ทว่าแค่เพียงดึงประตูเปิด เขาก็ต้องอึ้งไปพักหนึ่งกับภาพที่เห็น
     
    ปาร์ค..โบมิ..
     
    ยืนอยู่หน้าประตูห้องเขาตั้งแต่เมื่อไหร่?
     
    “แทคอยู่มั้ย”
     
    “อยู่…ชั้นกำลังจะไปซื้อของพอดี เธอคุยกับมันไปก่อนละกันนะ”
     
    เด็กหนุ่มพูดแล้วก็เบี่ยงตัวให้ ชานซองมองตามปาร์คบอมที่เดินเข้าไปข้างใน แล้วปิดประตูลงเบาๆ
     
    บางที…รักคนที่เค้ารักเราอาจจะดีกว่าก็ได้..
     
    หวังว่าแทคยอนจะเข้าใจความหวังดีของเขาก็แล้วกัน…
     
    ปาร์คบอมเดินมาหยุดมองร่างสูงที่ระเบียง เห็นเขากำลังยกเบียร์หยดสุดท้ายเข้าปาก ก่อนจะวางขวดเบียร์ลงที่โต๊ะอย่างเซ็งๆ
     
    เดี๋ยวนี้นายดื่มของพวกนี้แล้วเหรอ อ๊กแทคยอน”
     
    น้ำเสียงหวานๆ ที่คุ้นหูทำให้แทคยอนหันมามองต้นเสียงทันที และเมื่อที่เห็นว่าเป็นเธอจริงๆ เขาก็เมินหน้าหนี
     
    เธอเข้ามาได้ยังไง”
     
    เพราะความหลงไม่ลืมหูลืมตาของนาย..มันกำลังทำให้นายใกล้จะเป็นบ้าแล้วนะ รู้ตัวบ้างมั้ย”
     
    ประโยคถัดมาไม่ตรงกับคำถามเท่าไหร่ แต่จงใจจะตำหนิเขาตรงๆ แทคยอนหันขวับมามองอีกฝ่ายทันที
     
    แววตาของปาร์คบอมสับสน...
     
    เจ็บปวด..ร้าวราน แต่ก็แฝงไว้ด้วยความรัก ความเป็นห่วง
     
    แต่ในยามนี้ แทคยอนไม่ต้องการมัน…
     
    มันไม่เกี่ยวอะไรกับเธอ เราไม่ใช่แฟนกันอีกแล้ว”
     
    ไม่เกี่ยวเหรอ ทั้งๆ ที่นายเลิกกับชั้นเพื่อที่จะไปทนเจ็บปวดแบบนี้น่ะเหรอ นายรักผู้หญิงคนนั้น รักมากจนยอมเป็นตัวสำรองของเค้าได้อย่างนั้นน่ะเหรอ หยุดงี่เง่าสักทีเถอะแทคยอน นายไม่เห็นหรือไงว่าเค้ากับพี่ท็อปรักกัน !!”
     
    เชียร์ลีดเดอร์สาวหวานขึ้นเสียงดังด้วยความโมโห แต่อะไรก็ไม่ทำให้แทคยอนเจ็บได้มากเท่าประโยคสุดท้าย เขากระชากไหล่เธอเข้ามาหาด้วยดวงตาที่ลุกวาวทันที
     
    หยุดพูดคำนั้นเดี๋ยวนี้นะ พี่ยูบินไม่ได้รักใคร ไม่มีใครเป็นตัวสำรองอะไรทั้งนั้น !!”
     
    ไม่ได้รักเหรอ...นายพูดว่าเค้าไม่ได้รักพี่ท็อปเหรอ”
     
    ปาร์คบอมพูดแล้วหัวเราะขื่นๆ แต่ทำให้คนตรงหน้ายิ่งขบกรามแน่นเข้าไปอีก
     
    นายแน่ใจนะว่านายดูไม่ออกว่าผู้หญิงคนนั้นน่ะ หลงรักพี่ท็อปเข้าแล้วจริงๆ !”
     
    หุบปากนะ!!!”
     
    แทคยอนตะโกนลั่นอย่างเจ็บปวด แต่คนตรงหน้าเขาก็เจ็บไม่แพ้กัน น้ำตาหยดแล้วหยดเล่าไหลออกจากดวงตาสวยไม่ยอมหยุด
     
    ชั้นรักพี่ยูบิน ไม่ว่าเค้าจะให้ชั้นอยู่ในฐานะอะไร ชั้นก็รักเค้า และชั้นจะไม่มีทางยอมแพ้แผนชั่วๆ ของพวกเธอสองคนแน่ ชั้นจะแย่งพี่ยูบินกลับมาให้ได้ เธอคอยดูก็แล้วกัน !!!”
     
    *
    *
    *
    *
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×