คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : ๕. Im here America! {1st day at school}
สวัสดีๆ ตอนนี้เราอยู่ที่ อเมริกา ได้ 2 เดือนเต็มๆ แล้ว
แต่ตอนนี้ เราจะมาเล่าเรื่องวันแรกที่โรงเรียน เอาง่ายๆ คือ โรงเรียนเรา เปิดวันที่ 5 สิงหา แล้วแบบ ก่อนเปิดเทอมประมาณสองวัน โฮสต์มัมก็พาเราไปลงวิชาที่จะเรียน เราลงทั้งหมด 7 วิชา ก็คือ
1. Choir (Vocal Fusion) – ร้องเพลงประสานเสียง อ่านว่า ควาย-เอ้อ นะ **ย้ำเลย
2. English 10
3. Algebra - Enrichment - คณิต
4. Theatre Arts – ภาพยนตร์
5. Algebra 1- คณิต
6. Chem Phy ICP – วิทย์
7. World history – ประวัติศาสตร์
โอเค.. และนี่ก็เป็นวิชาที่เราเลือกเรียนทั้งหมด เรียนแบบนี้ เดิมๆ ซ้ำๆ ทุกวัน
เริ่มเรียน 7:30 น. และ เลิกเรียน 14:30 น.
ในวันแรกที่โรงเรียนจะบอกว่าไปโรงเรียนเช้ามาก ประมาณ 6 โมงเกือบ 7 โมง คือตอนนั้นก็ยังไม่ค่อยมีนักเรียนมาเลยอ่ะ โฮสเราก็พาเราไปที่ล็อคเกอร์แล้วให้เราลองเปิด
แล้วเอาของ(สมุด+แฟ้ม) ไปเก็บก่อน สรุปว่าเราเปิดยังไงก็เปิดไม่ได้ให้โฮสลองก็แล้ว
สุดท้ายก็เลยต้องลงไปที่ห้องทะเบียน เพื่อไปแจ้งเรื่องล็อคเกอร์ พอแจ้งปุ๊ปก็จะมีลุงคนนึง ท่าทางดูใจดีมาก
มาช่วยราเปิดล็อคเกอร์ ตอนแรกเค้าก็จะนำทางเรากลับไปที่ล็อคเกอร์เพราะเรายังไม่คุ้นทางเท่าไหร่ จากนั้นก็เอากุญแจมาไขให้ พอไขเสร็จเค้าก็บอกให้เราเอาของใส่ไว้ในล็อคเกอร์
เราก็ใส่ๆ ไป แล้วพอใส่เสร็จลุงก็บอกเราว่าเดี๋ยวจะดูล็อคเกอร์ให้ว่ามีปัญหาอะไร เธอจะไปไหนก็ได้ ไม่ต้องรอ เราก็แบบ โอเคๆ แล้วเดินออกมาจากตรงนั้น
เดินมาได้ซักพัก ก็รู้สึกว่าจะหลง อารมณ์แบบ เหี้ยยยยยยยยยยยย…
นี่กูอยู่ที่ไหน กรี๊ดดดดดดด คนเริ่มเยอะขึ้นเรื่อยๆ เราก็เริ่มลนละ โทษตัวเองในใจทุกฝีก้าวว่า กูไม่น่าเดินออกมาเล๊ยยยย อิโง่วววว อิบัดซบบบบ
แล้วเราก็ตัดสินใจเดินตามทางไปเรื่อยๆ ทางไหนดูคุ้นๆ คือเดินหมดอ่ะ คือเข้าใจอารมณ์คนหลงทางต่างประเทศปะแก พูดไม่ออกบอกใครไม่ได้ ฮือออ
ระหว่างเดินเราก็กดโทรศัพท์หาโฮสเลย แต่แบบดันนึกขึ้นมาได้ โฮสบอกว่าลืมเอาโทรศัพท์มา กรี๊ดดด บรรลัยไปสิคะงานนี้ คิดๆ ดูอีกเราเลยส่งข้อความบอกโฮสต์บรา มันก็หายไปไหนไม่รู้เพราะเราแยกมากับโฮสต์มัม เราพิมพ์ไปว่า เราหลงทาง สุดท้ายมันก็ไม่ตอบเรา ไอ้ฟ๊าคคคค ไม่ได้ช่วยอะไรเล๊ย เปลืองเงินค่าส่งอีก
และแล้วความลนของเราก็ยิ่งทวีความขึ้นหลังจากที่เราได้ยินเสียงออดดัง...
กรี๊ดดดดดด พอออดดังเท่านั้นแหละเธอเอ๋ย ทางเดินตอนนี้จากที่มีฝรั่งหัวดำหัวทองเดินยั๊วเยี๊ยะ เต็มไปหมดมาก่อน กลายเป็นป่าช้าไปแล้ว ..
ทุกคนหายเข้าห้องเรียนภายในชั่วพริบตาเดียว แล้วเราก็ช็อคมาก เพราะเราไม่รู้จะทำยังไงต่อดี แต่ในความซวยของเราก็ยังพอมีเรื่องดีๆ อยู่บ้าง เพราะ ทางเดินตอนนี้ยังพอมีนักเรียนใหม่ที่อาจจะหลงทางเป็นเพื่อนเรา
และสิ่งที่เรามีติดตัวก็คือ กระเป๋า + กระเป๋าดินสอ + ตารางเรียนสีขาว ที่ตอนนี้ยับยู่ยี่ไปหมด เพราะเรากำไว้แน่นมาก
แล้วแบบเราก็เลยรวบรวมความกล้าเดินไปหาอาจารย์ผู้หญิงคนนึง แล้วถามว่าห้องเรียน Choir อยู่ที่ไหน คือแบบ ยื่นตารางเรียนให้ดูเลยอ่ะตอนนั้น กลัวสายมาก โฮสเฮิสนี่ไม่หาและ ต้องเข้าห้องก่อนให้ได้
ครูคนนั้นก็อ๋อ แล้วแบบนางก็ชี้ทางบอกเรา เราก็โอเคขอบคุณค่ะ แล้วจากนั้นก็เดินมาตามทางที่เค้าบอก
เดินมาซักพัก ได้ยินเสียงคนเรียกชื่อเรา เราก็แบบหันซ้ายหันขวา หันไปหันมา กรี๊ดดดด โฮสมัม ฮือ ในที่สุดดดดด อ๊ากกก ไม่หลงแล้ว TTTTTT
และแบบพอเจอกันโฮสใช่ปะ นางก็ถามว่าไปไหนมา เราก็บอกตามตรงเลยว่าหลง แล้วโฮสมัมก็บอกวันนี้วันแรก ถ้าเข้าเลทคุณครูจะไม่ว่า แต่ถ้าเป็นวันต่อๆ ไปให้พยายามเข้าตรงเวลา
พอโฮสมัมส่งเราที่ห้องปุ๊ป นางก็จากไปพร้อมสายลม เราก็เดินเข้าห้องมาเลยคนเดียว
เดินเข้ามาปุ๊ป ฝรั่งทุกคนหันมามองเรากันหมด พร้อมอาจารย์ที่ยิ้มให้อย่างเป็นมิตร
ทำตัวไม่ถูกเลยพูดขอโทษไป ทีนึง แล้ว แสร้งไปยืนกับเพื่อนคนอื่นๆ ที่ทำแถวหน้ากระดานก่อนหน้านั้นแล้ว
คาบแรกผ่านไปแบบ งงๆ คือไม่ได้ทำอะไรเลย ก็ได้แฟ้มดำมาอันนึงไว้เก็บเนื้อหาต่างๆ กับ เนื้อเพลง
คือทั้งคาบ ต้องแนะนำตัวกันทั้งห้อง ไล่เรียงมาเรื่อยๆ จนถึงเรา เราก็แนะนำตัวว่าเราเป็น นักเรียนแลกเปลี่ยนมาจากไทย ชื่อ บลาๆ เป็น ซอฟฟอมอร์(เกรด 10 หรือ ม.4)
เสร็จหมดทุกคน ออดก็ดัง
เออนี่ เอาจริงๆ ใครมาโม้ให้ฉันฟังก่อนหน้านี้ยะว่า ฝรั่งตื่นเต้นที่ได้เจอนักเรียนแลกเปลี่ยน คือแบบจากประสบการณ์ตรง พวกนางหน้าเฉยมากกก แบบ หรอ มึงเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนแล้วไงหรอ ไรประมาณนี้อ่ะ เราก็แอบเฟล ไม่ตื่นเต้นกันเลยหรอ ถ้าที่ไทยคงไม่แบบนี้อ่ะ ถ้ามีนักเรียนแลกเปลี่ยนมาที่ห้องคงจะแบบรีบแย่งกันคุยเลย 5555555
คาบต่อไป ภาษาอังกฤษ เรากลับไปที่ล็อคเกอร์ไม่ได้เพราะไม่รู้ทาง แล้วแบบ ก็เดินถามทางครูแถวนั้นเหมือนเดิม เดินมาถึงที่หมายแบบทุลักทุเล และเลทอีกต่างหาก
ไม่ได้เรียนอะไรมากก็พูดกฏห้องและ แนะนำตัว อีกตามเคย คาบนี้เราเดินเข้ามาเห็นที่นั่งว่าง เราก็นั่งเลย พอนั่งปุ๊ป มองรอบตัว
โอ้ยยย ชะนีฝรั่งหัวทองคือนั่งเป็นแก๊งจ้า แล้วนางนัดกันย้อมผมสีเดียวกันมารึเปล่า คือตาฟ้า ผมโทนเดียวกันประมาณ 4-5 คน เราก็หันหลังไปยิ้มแหยๆ ให้ พวกนางก็ยิ้มกลับมานิดหน่อย
จริงๆ วันแรก แทบไม่ได้เรียนอะไรมาก ส่วนใหญ่พูดกฎห้อง ห้ามเลท ห้ามเคี้ยวหมากฝรั่ง ห้ามขออนุญาตเข้าห้องน้ำ (อันนี้มีบางคาบนะ ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องห้ามเคี้ยวหมากฝรั่งในห้องมากกว่า) พอเรียนคาบเช้าเสร็จ.. เอิ่ม ก็คือคาบเช้า 4 คาบใช่มะ เรียนเสร็จ ก็เดินไปที่โรงอาหาร ซึ่งตอนแรกเราไม่รู้จักใครเลยไม่รู้จะนั่งไหนด้วย เห็นเค้าต่อแถวกันเป็น 4-5 แถว เราก็แบบสุ่มๆ เข้าเอา ก็ไปต่อท้ายแถวๆ นึง พอแถวเลื่อนเรื่อยๆ เราก็มองซ้ายมองขวา ยิ้มให้คนนั้นคนนี้บ้าง ซักพักก็หันไปเจอโฮสบรา(ชื่อย่อ ต.แล้วกัน) มันก็ถามเราว่าเป็นไงอะไรอย่างงี้ เราก็แบบ ก็ดี ซักพักมันก็คุยกับคนที่ต่อแถวถัดจากเรา แล้วแนะนำเราว่า นี่ พาขวัญนักเรียนแรกเปลี่ยนจากไทย นางก็แบบ
โอ้ ฮายยยยย ฉันชื่อ #@$!#U@$)@!$ (นางพูดชื่อตัวเองเร็วมากกกกกกฟังไม่ทัน) ถามมาจากไทยหรอ เป็นยังไงบ้าง ชอบที่นี่มั้ย ที่ประเทศเธอกับที่นี่ต่างกันยังไง เธอมีใครนั่งด้วยรึเปล่า
อันนี้เราตอบยัง ขอนั่งด้วยได้มั้ย นางก็บอกได้ๆๆ มานั่งด้วยกัน จากนั้นแถวก็เลื่อนเรื่อยๆ ในขณะที่เราสองคนคุยกันอยู่ คือแบบในใจตอนนั้นนี่แบบโล่งขึ้นมาทันที รู้สึกโชคดีมากที่มีเพื่อนมาคุยด้วย
ทีนี้เราจะพูดถึงเรื่องโรงอาหารนะ โรงอาหารโรงเรียนนี้ไม่ได้ใหญ่อะไรมาก ก็คือโรงเรียนนี้มี นักเรียน 1,200 คนค่ะ มีร้านค้าแค่ 5 ร้าน แล้วก็พอต่อแถวก็ต้องหยิบอาหารที่เราจะกินมาไว้บนถาดด้วย โรงเรียนเราเค้ามีนโยบาย อาหาร+ผัก/ผลไม้+นม ค่ะ คืออาหารแต่ละมื้อต้องหยิบให้ครบ 3 อย่างนี้ ถึงแม้ว่าเราจะไม่กินก็ตาม
ตอนแรกเราก็แบบ เหยยยย กูไม่กินนม แต่จะให้กูหยิบทำไม๊ ตอนนี้ก็ยังไม่เข้าใจ แต่แบบเริ่มเปลี่ยนนิสัยแล้วค่ะ จากไม่กินนมเลยตอนอยู่ที่ไทยตอนนี้ก็กลายเป็น ดื่มทุกวัน โดยเฉพาะนมช็อคโกแลตนะของโปรด 555555555555
ถ้าพอจำได้ลางๆ อาหารมื้อแรกที่เรากินที่โรงเรียนก็คือ.. อะไรซักอย่างคล้ายๆ มันบด,บิสกิตมผลไม้ และ เนื้อไก่(?) ไม่เอานมอ่ะ ถึงแม้โฮสจะย้ำก่อนหน้านั้นแล้วก็เหอะว่าถึงไม่ดื่มก็ให้หยิบ แต่แบบนิสัยของคนไทยอ่ะเนอะ ไม่แดกก็ไม่หยิบ เปลืองของ เสียดาย คือเราไม่แตะมันบดเลย แล้ว บิสกิต อ่ะกินเข้าไปแล้วมันสากลิ้นแปลกๆ เราก็กินนิดนึง
อ้อ พอเราหยิบอาหารมาไว้บนถาดเสร็จก็จะเป็น ป้าคนนึงนั่งอยู่เค้าเตอร์พร้อมคอมพิวเตอร์ มีหน้าที่คีย์อาหารและคิดตังค์ คือตอนแรกเราไม่รู้ว่าต้องทำยังไงเห็นคนข้างหน้าสแกนนิ้วมืออะไรอย่างงี้ด้วย เราก็เริ่มแบบ เหี้ย สแกนอะไรวะ ทำไมกูไม่ได้สแกนแบบคนอื่นเค้าห๊า
แล้วพอถึงตาเรา นางก็ให้เราสแกนนิ้วมือ เราก็เลยสแกน ปรากฏว่า มันไม่ยอมอ่าน เราก็แบบ ทำหน้างง ป้าเลยบอกว่า ถ้างั้นบอกนามสกุลมา เราก็บอก Prathxxxx จากนั้นป้าก็แบบ อึ้ง แล้วบอกว่านามสกุลเรายาวมาก 55555555555
พอคิดตังค์เสร็จ เราก็เดินออกมาหาที่นั่ง ซึ่งเพื่อนก่อนหน้านั้นที่ชวนเราไปนั่งด้วยก็เดินตามออกมาติดๆ เรามารู้ชื่อทีหลังก็คือ เคลซี่
เคลซี่นำทางเราไปนั่งกับ เดอะแก๊งของนาง ซึ่งมีแต่ผู้ชาย 5555555555555 เราก็เซย์ฮาย พวกนั้นก็แบบ โอ้ ฮาย เป็นยังไงบ้าง อะไรอย่างนี้
เคลซี่ก็บอกว่านี่ พาขวัญเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนมาจากไทย จากนั้นทุกคนก็ทักทายเราแล้วแนะนำชื่อตัวเอง ซึ่ง อารมณ์ตอนนั้นแบบ กูจำม่ายล่ายยยยยยย พวกมึงพูดกันเร็วมากกกกกกก ให้กูยกโทรศัพท์ขึ้นมาอัดวิดีโอพวกมึงมั้ย กูจะได้จำชื่อพวกมึงได้ 55555555555555555
แล้วแบบ เคลซี่ ก็ถามเราว่าอาหารเป็นไง เราก็บอก ดีนะ (ตอแหลลลล มึงแดกได้ไม่ถึง 20/100 ของอาหารทั้งหมด)
จากนั้นเราก็ถามนางว่าเรียนอยู่เกรดอะไร นางก็บอกว่า เกรด 12 ซึ่งเทียบกับ ม.6 บ้านเรา
โอ้พระเจ้า นี่ ม.6 ?? อมกกกกก ตอนแรกนึกว่ารุ่นเดียวกัน คือนางสูงเท่าเราเลยอ่ะ ดูตัวเล็กกว่าเราด้วยซ้ำนะ
รู้สึกดีมากกกกกก เราสามารถเรียกรุ่นพี่ว่า เพื่อน ได้อ่ะ นี่คือข้อดีของการเรียน High school ที่ อเมริกา จริงๆ 55555555
พอกินเสร็จปุ๊ป ซักพักออดดัง ในขณะที่ทุกคนกำลังกินกันอยู่จู่ๆ ก็ลุกพรวดแล้วก็เดินไปเทอาหารลงขยะ ต่อด้วยการเดินออกจากโรงอาหารอย่างรวดเร็ว แต่ยังดีที่ เคลซี่ยังไม่ลืมเรา
นางบอกกับเราว่าต้องไปแล้ว เจอกันใหม่นะ จากนั้นนางก็บ๊ายบาย แล้วก็หายไปเลย จากนั้นเราก็แบบ ทำยังไงต่อดี เห็นคนอื่นเทแล้วก็ตามน้ำเลยแล้วกัน ผลไม้ก็ยังไม่กิน กูเทหมดละเวลานี้ จากนั้นเราก็เดินไปที่ล็อคเกอร์ตัวเอง ซึ่งกว่าจะมาถึงได้ เดินหลงอยู่นานสองนาน เปิดจ้ะเปิดดดดด
พยายามเปิดเอง ก็เปิดไม่ได้อีก ซักพักมีเพื่อนผู้หญิงคนนึงเดินมา โอ้ ซาร่า ใช่เธอจริงๆ หรือนี่ กรี๊ดดดดดดด (นางชื่อ ซาร่า จริงๆ อิอิ)
มาบอกเล่าประวัติและภูมิลำเนาของซาร่าให้ฟังคร่าวๆ นะคะ ก่อนจะเปิดเทอม 1 วัน โฮสมัมทำการหาเพื่อนคนแรกให้เรา โดยการโทรไปหานางแล้วโทรนัดไปกินไอติมกัน ซึ่งตอนแรกเราก็ไม่รู้จักนางหรอก พอคุยไปคุยมา ก็รู้จักเลย 555555
วันนั้นไปกินไอติมกัน ต่างคนต่างไม่พูดอะไรมาก แต่ อิโฮสบรา เราอ่ะ มันเป็นพวกพูดมาก แล้วก็คนรู้จักเยอะมากกกก แบบ เดินๆ อยู่งี้ อ้าวไงเพื่อน เดินไปซักพัก เฮ้ เพื่อน หวัดดี จ่ะ เยอะมาก จ่ะ แล้วแบบมันก็ชวนเราสองคนคุย จากนั้น ซาร่าก็เริ่มคุยกับเราบ้าง ตอนแรกเราก็แบบ สงสัยว่า เอ โฮสบรากับ ซาร่านี่เป็น แฟน กันมั้ยวะ แลดูสนิทกันมาก มีแกล้งกันนู่นนี่ สรุปนางก็ไม่ใช่ บอกมีแฟนอยู่แล้ว ก่อนจะกลับบ้านเราขอเบอร์แล้วก็เฟสซาร่าไว้ แล้วพอถึงบ้านปุ๊ปก็แอดนางปั๊ปเลย
กลับมาที่ อิเหี้ยล็อคเกอร์ นะคะ พอเจอซาร่าปุ๊ป นางก็แบบ ถามว่า เป็นยังไงเป็นล็อคเกอร์ไม่ได้หรอ เดี๋ยวช่วยนะ เราก็แบบ กรี๊ดดดด ขอบคุณมากกกก เราก็ยื่นรหัสล็อคเกอร์ให้นางดูเลย นางก็แบบหมุนๆๆๆ แป๊ปเดียว เสร็จ อิหรรมหมา นี่แกจะเทพไปแล้วนะ TT จากนั้นเราก็เอาเอาแฟ้มเก็บแล้วก็..เดิมๆ หาห้องเรียน -__-
คือจะบอกว่าวันแรกอ่ะ เข้าเลททุกคาบ เปิดล็อคเกอร์ไม่ได้ทั้งวัน พอมัมมารับที่โรงเรียนแล้วถามว่าเป็นไงบ้าง เราก็ตอบไปตามที่เราเจอมา
จบละ พิมพ์ยาวมากกกกกกกกกก ขอโทษที่หายไปนานหลายเดือน TT
คือแบบยุ่งมาก (ทอแหหหหหหห แกขี้เกียจต่างหาก) เดี๋ยวว่างอีกจะมาลงเพิ่มน้า
ตอนนี้ เราเปิดเทอมแล้ว แต่ว่าปิดเทอมของที่นี่คือ 1 อาทิตย์ ย้ำ! 1 อาทิตย์ หรือ ปิดเทอม ที่เรียกว่า Fall break นั่นเอง ก็ไม่มีอะไรมาก ไปเที่ยว Washington DC. มา อิอิ ^^
ความคิดเห็น