คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : EP1 – วางแผนกำจัดไอ้โรคจิต
ม.ปลายปีหนึ่ง ห้อง B เริ่มมีการส่งสายตาเครียดผสมหวาดกลัว
เมื่ออาจารย์ประจำวิชาภาษาอังกฤษอย่างอาจารย์เยอึนบอกว่า จะให้นักเรียนจับกลุ่มทำงานร่วมกัน
พวกเขากลัวที่อาจารย์จะเป็นคนกำหนดเพื่อนร่วมกลุ่มให้!
พวกเขากลัวว่าจะได้ไอ้โรคจิตอย่างกันต์พิมุกต์มาอยู่ด้วย!
“ยูค...” ยองแจหันมาสะกิดแขนเพื่อนสนิท น้ำเสียงที่ใช้เรียกจะร้องไห้รอมร่อ เพราะรู้อยู่แก่ใจว่างานกลุ่มในครั้งนี้เกิดขึ้นเพราะอะไร
และรู้ด้วยว่าไอ้โรคจิตจะต้องไปอยู่กลุ่มไหน
ก็แน่ล่ะ!...งานกลุ่มครั้งนี้ประธานนักเรียนอย่างอิมแจบอมเป็นคนอยู่เบื้องหลังนี่!
“เอาน่า มันไม่แย่นักหรอก” ยูคยอมลูบหัวปลอบ เขารู้ว่ายองแจกลัว แต่เรื่องนี้มันเลี่ยงไม่ได้
ทั้งหมดมันเป็นมติของพี่ๆในกลุ่ม ให้พวกเขาตีซี้ลากไอ้โรคจิตไปอยู่กลุ่มประธานนักเรียน
แล้วกระชากหน้ากากให้มันแสดงตัวตนด้านร้ายออกมา ผู้อำนวยการจะได้ไล่มันออกไป
แล้วนักเรียนในโรงเรียนนี้จะได้อยู่อย่างสงบไม่ต้องหวาดระแวงมันอีก!
“กลุ่มต่อไป ยูคยอม ยองแจ กันต์พิมุกต์ เกาหลีสองคนต่างชาติหนึ่งคงทำงานด้วยกันได้นะ
พวกเธอสองคนดูแลเพื่อนด้วยล่ะ” อาจารย์สาวเอ่ยเสียงนิ่ง
ยองแจอยากหวีดร้อง ในขณะที่เพื่อนร่วมชั้นคนอื่นๆต่างถอนหายใจอย่างโล่งอกที่ไอ้โรคจิตมีกลุ่มอยู่ไปแล้ว
หลังเลิกเรียนยูคยอมกับยองแจซุบซิบกันอยู่พักหนึ่ง
ก่อนจะตัดสินใจเดินไปที่โต๊ะของกันต์พิมุกต์ ในเมื่อพี่ๆสั่งมาน้องๆอย่างพวกเขาก็ต้องทำตาม
“กันต์พิมุกต์”
“…..” คนถูกเรียกไม่ได้เงยหน้าขึ้นมาจากหนังสือภาษาแปลกๆ
ทำให้คนเรียกหันไปมองหน้าเพื่อนแล้วพยักพเยิดหน้าเกี่ยงกันอีกครั้ง
“กันต์พิมุกต์ รู้ใช่ไหมว่าพวกเราอยู่กลุ่มเดียวกัน””
“ใช่ๆ
ฉันกับยองแจเลยจะชวนนายไปทำงานกลุ่มด้วยกัน แบบว่านายรู้ใช่ไหมว่ามันยาก
เราต้องเริ่มไวๆ...เอ่อ...วันนี้นายว่างหรือเปล่า?”
“....” คนถูกถามไม่ตอบ แต่กลับหยิบปากกาขึ้นมาเขียนบางอย่างบนกระดาษโน้ตแผ่นเล็กๆ
“แกร่ก....แกร่ก...” ไม่มียามไหนที่ทำให้ยองแจรู้สึกว่าเสียงปากกาถูกลากบนกระดาษ มันน่าสะพรึงขนาดนี้มาก่อนเลย
บอกได้คำเดียวว่าอยากออกห่างหมอนี่ให้เร็วที่สุด!
“แจไม่เป็นไรน่า...” ยูคยอมเอื้อมมือไปบีบเอวเพื่อนเบาๆ
ให้รู้ว่าไม่ต้องกลัวเพราะยังไงเขาก็อยู่ข้างๆ
ในขณะเดียวกันอีกคนที่ถูกรังเกียจเก็บปากกาลงกระเป๋า และเดินออกไปจากห้องไม่พูดไม่จาอะไรสักคำ
“เฮ้! เดี๋ยวก่อนสิ!” ยูคยอมตะโกนเรียก แต่ยองแจสะกิดให้หันกลับมามองที่โต๊ะ
“ไอ้โรคจิตมันทิ้งโน๊ตเอาไว้อ่ะยูค”
“ไหนอ่านสิ”
“มันบอกว่า
งานจะทำเองและใส่ชื่อเราสองคนลงไป แค่นั้นอ่ะ” เมื่อสรุปใจความที่เพื่อนบอกได้
คนตัวโตก็ขมวดคิ้วเข้าหากันทันที!
“ไม่ได้นะแจ แบบนี้มันจะผิดแผน
ไปเร็วเราต้องตามมันไป!”
“งื้ออออ...ไม่ตามได้ไหมเนี่ย!” ถึงจะไม่อยากตาม แต่ก็ไม่สามารถขัดขืนแรงหมี(ควาย)ของเพื่อนตัวโตได้
ต้องออกวิ่งตามแรงดึงของอีกฝ่ายไปอย่างจำใจ!
ทั้งคู่วิ่งตามกันต์พิมุกต์ออกมาจากห้อง แต่หมอนั่นเดินเร็วชะมัด
แค่เวลาเพียงนิดเดียวก็หายไปจากระเบียงทางเดินเสียแล้ว
“หมอนั่นมันหายไปไหนอ่ะยูค?”
“อยู่ด้วยกันจะรู้ไหมล่ะ?”’
“เอาไงดีอ่ะ จะบอกพี่ๆว่าไงดี?”
“บอกไปตรงๆนั่นแหละว่าวันนี้เราลากมันไปหาไม่ได้
แล้วพรุ่งนี้เราค่อยเริ่มกันใหม่”
“เอาตรงๆนะยูค
แจรู้สึกไม่ดีเลยอ่า...กลัวอ่ะ ยูคจำตอนมันย้ายมาวันแรกได้ป่ะ ยังติดตาอยู่เลยอ่ะ” คนตัวเล็กกว่าพูดด้วยสีหน้าจะร้องไห้อีกครั้ง
“อืม ไม่ว่าใครที่ได้เห็น ก็คงลืมไม่ลงเหมือนกันนั่นแหละ”
วันแรกที่กันต์พิมุกต์มาเรียนก็มีข่าวกระจายไปทั่ว
ถึงวีรกรรมที่ทำให้ถูกย้ายมา ตอนแรกพวกเขาก็ไม่อยากจะเชื่อ แต่พี่ชายที่หมอนั่นทำให้ตาบอดเคยเรียนที่นี่
เพื่อนๆของพี่ชายหมอนั่นแค้น ที่เพื่อนต้องกลายเป็นคนพิการ
เลยเข้าไปหาเรื่อง พวกพี่ๆในกลุ่มของเขาเตรียมจะเข้าไปห้าม
หากแต่ช้าไป!
หมอนั่นเอารามยอนร้อนๆควันโขมงยัดปากรุ่นพี่คนนั้นหน้าตาเฉย! เล่นเอาคนถูกยัดร้องโหยหวนลั่นโรงอาหาร!
“กินซะปากจะได้ไม่ว่างเสือก” น้ำเสียงเยือกเย็นทำเอาคนที่ได้ยินพากันขนลุก ไม่มีเมตตา
ไม่มีท่าทีรู้สึกผิดออกมาจากกันต์พิมุกต์เลยสักนิด!
แล้วหลังจากนั้นรุ่นพี่คนนั้นก็ถูกพาส่งโรงพยาบาล
เนื่องจากกินของร้อนเกินไป ทำให้ปากเป็นแผลพุพอง
ซึ่งเรื่องนั้นก็ไม่มีใครกล้าเอาเรื่อง
เพราะผู้อำนวยการพูดหน้าตาเฉยว่ากันต์พิมุกต์ป้องกันตัวเอง
นักเรียนทุกคนเลยไม่กล้าหือ เพราะรู้ว่าเงินของกันต์พิมุกต์หนาพอจะทำให้ผู้อำนวยการมองไม่เห็นถูกเห็นผิดได้! หนำซ้ำประพฤติกรรมเหมือนคนแอบจิตทำให้นักเรียนทุกคนต่างพากันกลัว!
“ลาออกจากกรรมการนักเรียนตอนนี้ทันไหมอ่ะยูค?”
“ไม่เอาน่าแจ ยูครู้ว่ามันน่ากลัว แต่พวกพี่ๆไม่ปล่อยให้เราเป็นอะไรหรอกน่า
เงียบๆนะยูคโทรบอกพวกพี่ๆก่อน” ใช่ว่ายูคยอมไม่กังวลแต่ยังไงพวกพี่ๆเลือกที่จะเดินหน้าแล้ว
เขาก็ต้องสนับสนุน เพื่อให้ผลมันออกมาดีอย่างที่หวังกันไว้
มาร์ควางสายจากยูคยอมรุ่นน้องคนสนิท สองคนนั้นโทรมารายงาน
ว่าวันนี้ลากไอ้โรคจิตไปที่ห้องคณะกรรมการนักเรียนไม่ได้
และบางทีนี่อาจจะเรียกว่าโชคเข้าข้าง เพราะเขาดันเห็นไอ้โรคจิตนี่เดินลงบันไดมาพอดี
นักเรียนคนอื่นๆที่กำลังจะเดินสวนกับหมอนั่น ต่างสะดุ้งโหยงแล้วพากันหลบอย่างรวดเร็ว
จนมาร์คอดนึกเคืองผู้อำนวยการไม่ได้ ที่นิ่งเฉยซะจนเด็กนักเรียนคนอื่นเดือดร้อนแบบนี้!
“ฉันจะต้องกำจัดนายให้ได้
กันต์พิมุกต์” มาร์คไม่ชอบความวุ่นวาย
ไม่ชอบจุ้นเรื่องชาวบ้าน
แต่เขาไม่ชอบมากกว่าที่โรงเรียนมันมีบรรยากาศย่ำแย่จนไม่น่าเรียนขนาดนี้
สองเท้าของร่างสูงเดินตามไปอย่างเงียบเชียบ ไม่ให้คนด้านหน้ารู้ตัว
จนในที่สุดหมอนั่นก็เข้าไปในคอนโดหรู ที่อยู่ไม่ห่างจากโรงเรียนสักเท่าไหร่นัก
“หึ! โลกมันกลมจริงๆ” เจ้าตัวหัวเราะในลำคอ บางทีโลกมันก็กลมจนน่ากลัว
เพราะที่นี่ก็เป็นคอนโดของเขาเหมือนกัน!
“อะไรนะ! นี่มึงอยู่คอนโดเดียวกับมันเหรอมาร์ค!” แจ็คสันตกใจกว่าใคร เมื่อมาร์คเล่าให้ฟังว่ากันต์พิมุกต์พักอยู่ที่เดียวกัน
“อืม หมอนั่นพักอยู่ชั้นสิบเจ็ด”
“มากกว่านายแค่ชั้นเดียวเองนะนั่น” จินยองเกิดอาการเป็นห่วงมาร์คขึ้นมาทันที
ไม่มีอะไรซวยไปกว่าการอยู่ใกล้ไอ้โรคจิตนั่นอีกแล้ว!
“ไม่เป็นไรหรอกน่า
ไม่ใช่ว่าจะมาทำอะไรกันได้ง่ายๆเสียที่ไหนล่ะ”
“มั่นใจได้เหรอมาร์ค
บางทีมันอาจจะรอเหยื่อระบายความโรคจิตของมันอยู่ก็ได้นะ”
“พอเลยแจ็คสัน ว่าแต่นายกลัวหรือเปล่ามาร์ค?” แจบอมหันไปถามเพื่อนที่นิ่งขรึม ไม่มีอาการจิตตกเหมือนคนอื่นๆ
“ไม่...ว่าแต่พวกยูคยอมจะพาหมอนั่นมาได้ไหม?”
“ไลน์มาบอกแล้วว่าได้
เห็นบอกว่ายองแจกลัวน่าดูเลย” จินยองตอบพลางนึกสงสารสองน้องเล็ก
โดยเฉพาะยองแจที่ดูท่าทางกลัวมากกว่าทุกคนในกลุ่มนี้
“ก๊อกๆ” ยังไม่ทันจะมีบทสนทนาเพิ่มเติมประตูห้องคณะกรรมการนักเรียนก็ถูกเคาะและเปิดเข้ามา
สองน้องเล็กประจำกลุ่ม และไอ้โรคจิตที่ไม่มีใครคบปรากฏตัวขึ้น
“มาแล้วครับพี่ๆ
ช่วยพวกเราด้วยนะครับ งานยากจริงๆ”
“จริงอย่างยูคบอก
ทำรายงานเรื่องสถานที่พวกเราซวยสุดๆดันจับได้โรงฆ่าสัตว์” ละครเล่นอย่างเนียนๆ อันที่จริงทุกคนรู้อยู่แล้วล่ะว่าเจ้าเด็กพวกนี้จะได้ทำรายงานเรื่องอะไร
ก็แน่ล่ะมันเป็นแผนที่วางเอาไว้นี่น่า!
“แล้วต้องทำไงบ้างล่ะ
หาข้อมูลจากที่ไหน?”
“ต้องเก็บข้อมูลจากสถานที่จริงครับพี่จินยอง
แต่ว่าผมกับแจ...เอ่อ...ดันไม่ว่างวันนี้อ่ะครับ”
“แต่งานก็ต้องรีบเริ่มเนอะ
ไหนจะถ่ายรูป ไหนจะสัมภาษณ์ กรองข้อมูล แปลภาษา รวมรูปเล่ม
เวลาก็แค่เดือนเดียวเอง” ยองแจพร่ำบ่นพลางนั่งที่โต๊ะประจำตำแหน่ง
ส่วนจินยองก็ผายมือให้แขกที่ไม่อยากจะรับเชิญนั่งโต๊ะของตน
“นายสองคนไม่ว่าง แต่กันต์พิมุกต์ว่างนี่น่า
ก็ให้ไปสิ”
“แต่กันต์พิมุกต์ไม่น่าจะคุ้นทางครับ
เพิ่งย้ายมาอาจจะสื่อสารอะไรกับคนเกาหลีไม่ถนัด ยังไงวานพี่แจบอมช่วยพาไปหน่อยได้ไหมครับ?” ยูคยอมโยนหน้าที่สำคัญให้ประธานนักเรียน ซึ่งอีกฝ่ายก็กำลังจะตอบรับ ถ้าไม่ติดว่ามีบางคนแทรกขึ้นมา!
“ฉันพาไปเอง
ฉันอยู่เกาหลีมาตั้งแต่จำความได้ชำนาญเหมือนคนเกาหลี ว่าไงนายไม่มีปัญหาใช่ไหม?” แจ็คสันถามพลางลากเก้าอี้มานั่งตรงข้ามกันต์พิมุกต์
“...” หากแต่คนถูกถามเงียบ ไม่ตอบอะไรออกมา
“เฮ้ย! กูเป็นรุ่นพี่มึงนะโว้ยถามทำไมไม่พูดวะ
กวนตีนเหรอ!? แม่ง! อย่าคิดว่ากูจะกลัวมึงนะโว้ย!” แจ็คสันเป็นคนโผงผาง พอไม่พอใจก็จะอาละวาดตรงๆ
ผลักไหล่คนที่นั่งเงียบอย่างไม่นึกกลัว!
หากแต่อีกคนไม่ได้ตอบโต้เป็นคำพูด แต่! ...
“ฉึก!”
ตอบโต้เป็นมีดคัตเตอร์!
“เฮ้ย!? ไอ้โรคจิตนี่มึง!” แจ็คสันถึงกับตกใจหน้าซีดเผือดเมื่อมีดคัตเตอร์ที่จินยองใช้ตัดกระดาษเมื่อครู่
ถูกไอ้โรคจิตใช้ปักเฉียดมือของเขาไปเพียงไม่กี่มิลลิเมตร!
“ครืดดดดด....ครืดดดดดด...” ตอนนี้ไม่ใช่แค่ปักเฉยๆ
ไอ้โรคจิตกรีดมีดกับโต๊ะผ่านเฉียดนิ้วมือของแจ็คสันไปมาด้วย!
“นิ้วไหนเกะกะบอกได้นะ...ผมจะช่วยเอาออกให้” เสียงแหบพร่าน่าขนลุกดังขึ้น ถึงจะแผ่วเบาแต่มันกลับน่าสยอง! ทำเอายองแจกับจินยองหลับตาปี๋กลัวว่ามันจะเอานิ้วของประธานชมรมฟันดาบไปกินเล่นเข้าให้!
“พอได้แล้วแจ็คสัน
นายอย่าทำตัวนักเลง มานี่เลย” แจบอมตั้งสติได้ก่อนใคร
จึงกระชากคอเสื้อแจ็คสันลากออกไปท่ามกลางความโล่งใจของทุกคน
“เอ่อ...วันนี้เราอาจไม่ได้เริ่มเนอะ”
“ถูกของแจ
เอาวันพรุ่งนี้ก็ได้เดี๋ยวเราไปกันสามคนก็ได้ เนอะกันต์พิมุกต์เนอะ” ยูคยอมพูดสนับสนุนยองแจ เพื่อให้สถานการณ์มันผ่อนคลายขึ้น!
“ครืดดดดด....ครืดดดดดด...” หากแต่ยังไม่มีเสียงตอบใดๆนอกจากเสียงกรีดมีดกับโต๊ะไปมา ทำเอายองแจกอดแขนยูคยอมแน่นด้วยความกลัว!
“พอได้แล้ว” เป็นมาร์คที่อาจหาญมาดึงมีดคัตเตอร์ออกจากมือของกันต์พิมุกต์
“...” คนถูกแย่งมีดไปไม่ได้ตอบโต้อะไรก็แค่มอง
แต่!
เล่นเอาคนอื่นๆขนลุกแทนมาร์ค! คิดดูว่าคนที่ผมยาวปิดหน้าปิดตา
ไม่ได้เงยหน้ามองแบบธรรมดา เจ้าตัวยังคงก้มอยู่แต่ค่อยๆเอียงคอมอง
แม้ไม่เห็นหน้าชัดๆก็รู้ได้ว่าเจ้าตัวกำลังเหลือกตาแอบมองมาร์ค แทนที่จะมองกันตรงๆ!
มันช่างเหมือนคนแอบจิตขนาดแท้!
“เลิกกรีดโต๊ะได้แล้ว มันเสียของ
ส่วนงานของพวกนายเริ่มตั้งแต่วันนี้แหละ ฉันจะพาไปเอง” มาร์คพูดเสียงเรียบ
ไม่ได้มีท่าทีกลัวกันต์พิมุกต์เหมือนคนอื่นๆ
ความคิดเห็น