ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    What a beautiful heart [HanTeuk]

    ลำดับตอนที่ #6 : เข้าใจผิด

    • อัปเดตล่าสุด 4 เม.ย. 53


    ตอนที่5::เข้าใจผิด

     

                    สามวันมาแล้วที่ฮีชอลไม่ได้ติดต่อจองซู แต่แล้วเช้าวันนี้ก็ต้องวุ่นวายอีกครั้งเพราะว่าฮีชอลมาหาจองซูถึงบ้านแต่เช้าตรู่ จองซูที่เพิ่งจะถูกปลุกคลานอย่างงัวเงียลงจากเตียง แล้วเดินเซไปเซมาลงบันไดตรงไปที่ห้องอาหารชั้นล่าง ซีวอนกำลังพูดคุยอยู่กับฮีชอลหันมาทางจองซูที่เดินตาปรือมาถึง

    ทำไมนอนตื่นสายแบบนี้จองซูฮีชอลพอเจอหน้าก็ดุเอาๆ

    นั่นมันเป็นเรื่องปกติไม่ใช่เหรอ ฮ่าๆๆซีวอนหัวเราะจองซูที่พยายามดึงเก้าอี้ออกมานั่งแต่หงายหลังล้มแหมะลงไปกองอยู่กับพื้น ฮีชอลมองซีวอนตาถลึง

    แทนที่จะช่วยกลับมาหัวเราอย่างนี้เนี่ยนะฮีชอลดึงเก้าอี้ออกมาให้จองซูนั่งลงข้างๆ

    พี่จะไปรู้อะไร...ผมช่วยจองซูมาตลอดแหละซีวอนพูดพลางจิบกาแฟ รู้สึกฉุนฮีชอลนิดๆ

    ชักจะเอาใหญ่แล้วนะไอ้เด็กนี่! ทำไมเรียกจองซูว่าจองซูเฉยๆล่ะ เขาแก่กว่านายนะฮีชอลทวงสิทธิ์แทนทั้งๆที่จองซูไม่เคยคิดจะทำเลยด้วยซ้ำ

    ทำไมล่ะ ในเมื่อจองซูเองก็ยอมและผมเองก็พอใจแบบนั้น

    อย่าเถียงกันเลยน่าจองซูที่เพิ่งจะหายง่วงห้ามศึกที่กำลังจะเกิดขึ้น

     “..แล้วนี่วันๆกะจะหมกตัวอยู่แต่ในบ้านรึไงฮีชอลพูดพลางส่งกระดาษทิชชู่ให้จองซูที่กินอะไรซักอย่างเลอะกปากไปหมด

    อื้ม...ทำไมต้องออกไปตะลอนๆข้างนอกแบบฮีชอลด้วยล่ะ

    จริงด้วย พี่น่ะวันๆจะไม่อยู่บ้านเลยรึไงซีวอนพยักหน้าเห็นด้วยกับจองซู

    ก็มันน่าเบื่อนี่นา แล้วทีนายล่ะ วันๆก็เอาแต่ทำงาน ไม่ดูแลจองซูให้ดีคำพูดของฮีชอลทำให้ซีวอนฉุนอีกแล้ว

    ใครว่าไม่ดูแล ทุกวันหยุดเราไปปิกนิกกันนะ แล้วถ้าวันไหนผมกลับเร็ว ผมก็พาจองซูไปดินเนอร์นอกบ้านด้วยซีวอนไม่เคยรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นเด็กๆเลย แต่เพราะฮีชอลนั่นแหละชอบทำให้เขารู้สึกแบบนั้น ทำไมต้องมาเถียงคอเป็นเอ็นเหมือนเวลาที่โดนแม่ว่าด้วยก็ไม่รู้

    เอาอีกแล้ว...ทำไมฮีชอลพูดมากอย่างนี้เนี่ย ซีวอนก็ด้วย หัดเป็นเด็กดีกับฮีชอลบ้างสิจองซูเหมือนเป็นผู้พิพากษาต้องคอยตัดสินความผิดของสองคนนี้ ซีวอนรู้สึกหงุดหงิดมากที่ต้องโดนจองซูเอ็ด

    ได้ยินไหมซีวอนฮีชอลเยาะ

    พี่ก็เหมือนกันนั่นแหละซีวอนหัวเราะใส่หน้าฮีชอล

    เด็กนี่!”ฮีชอลขึ้นแล้ว...จองซูกระดกน้ำเข้าปากแล้วเดินออกจากห้องไป ทิ้งให้สองคนนั้นกัดกัน

    พี่ก็...เห็นไหม จองซูหนีออกไปเลยซีวอนส่ายหน้าอย่างระอา แต่อยู่ดีๆฮีชอลก็เปลี่ยนเรื่องขึ้นมาเฉย

    ซีวอน...”ฮีชอลส่งซองเอกสารให้ซีวอนแล้วพูดต่อ เคยเห็นหน้าเพื่อนเก่าของจองซูไหม รู้จักเขารึเปล่า

    ไม่แน่ใจ...”ซีวอนเปิดซองที่ฮีชอลส่งมาให้ ข้างในซองมีกระดาษสามสี่แผ่น มีรูปและประวัติของเจ้าของรูป ซีวอนเงยหน้าขึ้นมองฮีชอลอย่างสงสัย

    มีใครในนั้นที่จองซูรู้จักบ้างไหม?”ฮีชอลถามเสียงเครียด

    “...”ซีวอนส่งเอกสารทั้งหมดกลับคืนฮีชอลแล้วส่ายหน้าช้าๆ พี่มีอะไรรึเปล่า

    ไม่มีอะไรหรอกน่า...แล้วคนที่ชื่อฮันกยองล่ะ รู้จักไหม

    อ๋อ คนนั้นเหรอ ใช่ๆรู้จัก ดูเหมือนว่าจะรู้จักกันมาก่อนนะ เห็นจองซูไปหาเขาชอบไปหาเขาบ่อยๆซีวอนรู้สึกแปลกๆเวลาที่ต้องพูดถึงเรื่องของจองซูกับฮันกยอง

    ไอ้ฮันกยอง!!!!!”ฮีชอลพูดเสียงลอดไรฟันออกมาอย่างเคียดแค้น

     

                    อยากจะบ้าตาย ไม่เคยรู้สึกโกรธขนาดนี้มาก่อน โกรธที่ตัวเองโง่แสนโง่โดนคนอย่างฮันกยองหลอกเอาเต็มๆ และอีกความรู้สึกหนึ่งที่สำคัญคือรู้สึกผิดหวังเป็นอย่างมาก เพราะทุกอย่างเป็นอย่างที่คาดไว้จริงๆ ตลอดสามวันที่หายไป ฮีชอลได้รับอีเมลล์จากแผนบุคลากรของโรงพยาบาลและนั่งคัดผู้ต้องสงสัยหนึ่งวันเต็มๆ ปรากฎว่ามีอยู่สี่คนที่มาจากประเทศจีนนอกเหนือจากฮันกยอง คนแรกเป็นหมอแก่ๆ แบบนี้จะไปเป็นเพื่อนสมัยเด็กของจองซูได้ยังไงกัน(=_=) คนที่สองเป็นผู้ช่วยพยาบาล คนที่สามก็เป็นบุรุษพยาบาล และคนสุดท้ายเป็นคนทำความสะอาดที่หน้าตาอย่างกับอพยพมาจากจีนจองซูคงไม่น่าจะชอบเขาหรอก(=_=) ความเป็นไปได้น่าจะมีแค่สามคนถ้ารวมฮันกยอง ฮีชอลไม่กล้าถามจองซูตรงๆ เพราะถ้าเป็นฮันกยองจริงๆคงไม่รู้จะอธิบายจองซูยังไงดีแล้วก็กลัวว่าจองซูจะไม่สบายใจด้วยถ้าเกิดรู้ว่าตัวเองก็ชอบฮันกยองเหมือนกัน ความลำบากใจ...มาอีกแล้ว...ไม่อยากผิดหวังแต่ก็ไม่อยากทำให้เพื่อนเสียใจ

                    ฮีชอลเดินตามหาจองซูไปทั่วบ้านก่อนจะพบจองซูนั่งอยู่บนเตียง และมองออกไปนอกหน้าต่างบานใหญ่ที่ห้องนอนของตัวเอง ฮีชอลเลือกที่จะไม่เดินเข้าไปหาแต่มองจองซูอยู่ห่างๆ จองซูยิ้มออกมาเมื่อได้เห็นหิมะสีขาวสวยตกลงมาจากท้องฟ้า จองซูรำพึงเบาๆว่า หิมะตกแล้วภาพตรงหน้าดูงดงาม หิมะสีขาวบริสุทธิ์และคนที่บริสุทธิ์อย่างน่าเหลือเชื่อ ฮีชอลมองภาพตรงหน้าอย่างอ่อนใจ เวลาที่ได้เห็นจองซูมีความสุขทำให้ฮีชอลรู้สึกมีความสุขตามไปด้วยแล้วอย่างนี้ใครจะไปทำร้ายจองซูได้กันล่ะ ท่าทางว่าคนที่เสียใจคงจะต้องเป็นตัวเองแล้วจริงๆ... ฮีชอลเรียกจองซูเสียงเบา

    จองซู...มานั่งอยู่ตรงนี้เอง หาตั้งนาน

    อ้าว ฮีชอล นึกว่ายังเถียงกับซีวอนไม่เลิกอีก

    ไอ้เด็กนั่นมันออกไปทำงานแล้วฮีชอลนั่งลงข้างๆจองซู

    ไปทำงานอีกแล้ว...”จองซูขมวดคิ้ว “...แต่ไม่เป็นไร วันนี้ฮีชอลจะอยู่เป็นเพื่อนฉันใช่ไหม ?”

    เอ่อ...คงไม่ได้หรอก ฉันมีเรื่องนิดหน่อยต้องไปจัดการ นี่ก็กะจะมาบ๊ายบายจองซูอยู่

    เอาอีกแล้ว...เหมือนวันนั้นเลย ทำไมพักนี้มีเรื่องเยอะนักนะฮีชอล ปกติจะอยู่เป็นเพื่อนฉันทั้งวันเลยไม่ใช่เหรอจองซูประท้วง

    ขอโทษด้วยนะฮีชอลกอดจองซู พยายามกลั้นน้ำตาไม่ให้ไหลออกมา

    ไม่เป็นไร  วันนี้หิมะตก ฉันไม่เหงาหรอก!”จองซูชี้ออกไปที่นอกหน้าต่าง ฮีชอลมองตาม

    หิมะตกไม่เห็นจะดีเลย อากาศหนาวจะตายไป อย่าลืมใส่เสื้อหนาๆนะเดี๋ยวจะไม่สบายเอา...ฉันไปก่อนนะจองซูเมื่อรู้สึกเหมือนจะกลั้นน้ำตาไม่ไหว ฮีชอลเลยต้องตัดบทและเดินหนีออกไป

     

     

     

                    หลังจากหนีจองซูออกมาฮีชอลก็ขับรถมาหาฮันกยอง ทันทีที่จอดรถเรียบร้อยก็เอาแต่ก้มหน้าก้มตาร้องไห้ ฮีชอลไม่รู้ว่าตัวเองร้องไห้มานานแค่ไหนแล้ว รู้สึกอึดอัดและหนาวเหลือเกินถึงแม้ว่าจะอยู่ในรถ เมื่อมองนาฬิกาอีกทีก็เที่ยงพอดี ฮีชอลโทรศัพท์หาฮันกยอง

    ฉันอยู่ที่โรงพยาบาลแล้ว ออกไปหาอะไรกินข้างนอกกันนะ

    -ก็ได้.. แต่แค่ชั่วโมงเดียวนะ-

    มารอที่หน้าโรงพยาบาลนะ เดี๋ยววนรถไปรับเสียงของฮีชอลดูเศร้าผิดปกติจนฮันกยองสังเกตได้

    -เป็นอะไรไปน่ะ ทำไมเสียงเป็นแบบนั้น-

    ฉันเป็นหวัดเสียงเลยเป็นแบบนั้น ไม่ต้องทำมาเป็นห่วงฉัน เอาตัวเองให้รอดก่อนเถอะ ถ้าฉันวนรถไปแล้วไม่เห็นนายมายืนรอนะ ตายแน่!!”ฮีชอลตวาดลงมือถือเครื่องใหม่ที่เพิ่งจะไปซื้อมาเนื่องจากเครื่องเก่าเละไปแล้ว

                   

                    ฮีชอลคว้ากระดาษทิชชู่ขึ้นมาเช็ดคราบน้ำตา ใส่แว่นกันแดดเพื่อปกปิดรอยช้ำที่เกิดจากการร้องไห้อย่าง

    หนัก ก่อนจะออกรถไป เมื่อมาถึงที่หน้าโรงพยาบาล ฮันกยองก็กุลีกุจอขึ้นรถมา ฮันกยองสังเกตเห็นฮีชอลใส่แว่นกันแดดจึงหัวเราะออกมาเบาๆ

    บ้ารึเปล่า ใส่แว่นกันแดดในวันที่หิมะตกเนี่ยนะ

    เรื่องของฉันน่า...”ฮีชอลหันมาพูดเสียงเขียว

    ฉันรู้ว่านายมันเป็นพวกเรื่องมาก แล้วก็ชอบทำเป็นดูดีตลอดเวลา แต่นี่มันตลกไปหน่อยนะที่จะมาใส่แว่นกันแดดในวันที่หมอกหนาขนาดนี้

    “...”ฮีชอลไม่ตอบ เพราะไม่รู้จะหาทางแก้ตัวยังไงอีก

    ทำไมวันนี้แปลกๆ ปกติต้องด่าฉันกลับไม่ใช่เหรอแม้แต่ฮันกยองก็ยังสังเกตได้ถึงความผิดปกติ

    หุบปาก! ยังมีคดีอีกหนึ่งคดีของนายที่ฉันยังไม่ได้สะสางรอให้ไปถึงที่ร้านอาหารก่อนเถอะ โดนดีแน่ฮีชอลคาดโทษฮันกยอง พยายามปรับน้ำเสียงให้เป็นปกติ

     

     

     

                ระหว่างนั่งรออาหารมาเสิร์ฟ ฮีชอลก็เรียกฮันกยองเสียงเขียว

    ไอ้ฮันกยอง...จำได้รึเปล่า เรื่องที่ฉันถามนายวันนั้น

    เฮอะ! เอาอีกแล้ว เลอะเทอะอีกแล้วนะ...ฉันเบื่อจะพูดเรื่องเดิมๆแล้วนะ ถ้านายอยากพูดเรื่องนี้นักก็ไปถอดแว่นกันแดดออกก่อนไป๊! ฉันอายคนที่เค้ามองมา เค้าคงคิดว่าฉันกับนายเป็นคนบ้าฮันกยองแค่นหัวเราะ

    ฉันจะพอใจจะใส่มัน นายก็เหมือนกันนั่นแหละ พูดแต่เรื่องเดิมๆ นายพูดเรื่องแว่นนี่มาตั้งแต่ในรถแล้วนะ

    ก็มันพิลึก...คนใส่แว่นกันแดดในร้านอาหารฮันกยองยกแก้วน้ำขึ้นมาดื่ม

    หยุดยุ่งเรื่องของฉันซะที ไอ้คนโกหก ฉันรู้แล้วนะว่านายโกหก!ไอ้ทึ่ม คิดว่าจะหลอกฉันได้เรอะฮีชอลชี้หน้าฮันกยอง ฮันกยองสำลักน้ำ

    โกหกอะไรแต่ก็ยังไม่วายทำเป็นไม่รู้เรื่อง

    จองซู รู้จักจองซูใช่ไหมฮีชอลแสยะยิ้มอย่างผู้ที่อยู่เหนือกว่า

    เออ รู้จักก็ได้!”ฮันกยองหมดหนทางที่จะโกหก

    แล้วทำไมต้องทำเป็นไม่รู้เรื่องด้วย วันนั้นฉันถามทำไมไม่บอกมาดีๆว่านายมีเพื่อนสมัยเด็กซึ่งก็คือจองซู คิดจะทำอะไรของนายกันแน่

    ใครจะไปรู้ว่าคนอย่างคิมฮีชอลรู้เรื่องนั้นได้ยังไง ไปรู้มาจากไหน แล้วอีกอย่างนายมันชอบเล่นอะไรแผลงๆด้วย ฉันไม่จำเป็นจะต้องบอกเรื่องทุกอย่างของฉันให้นายรู้ฮันกยองพูดออกมาอย่างไม่ได้ใส่ใจอะไร แต่ฮีชอลรู้สึก...สะอึก ก็จริงที่ฮันกยองไม่จำเป็นต้องบอกทุกอย่างให้รู้เพราะว่าคิมฮีชอลคนนี้ไม่ได้เป็นคนสำคัญของเขานี่นา

    บอกไว้ให้รู้นะ ว่าฉันเป็นเพื่อนที่รักกันมากๆๆๆ ของจองซู  ฉันไม่เคยคิดจะเล่นอะไรแผลงๆกับเพื่อนรักของฉันหรอก ไอ้งี่เง่าฮันกยองทำท่าจะเถียงอะไรบางอย่าง แต่อาหารมาเสิร์ฟซะก่อนเลยต้องหยุด

     

                    หลังจากกินเสร็จ ฮีชอลก็พาฮันกยองไปส่งที่โรงพยาบาล ฮีชอลกับฮันกยองเถียงกันมาตลอดทาง แต่ก่อนที่จะลงจากรถ ฮันกยองก็ทิ้งระเบิดลูกใหญ่เอาไว้ให้ฮีชอลเป็นพิเศษโดยไม่นึกถึงผลที่จะตามมา

    เซ้าซี้จริงๆเลยนะฮีชอล ปากนายมันนอกจากจะเที่ยวกัดแขวะคนอื่นไปทั่วแล้วยังจะซอกแซกไร้เหตุผลอีก

    ก็นั่นมันเพื่อนฉันนี่นา ฉันก็อยากรู้ว่าเค้ารู้จักกับคนแบบนายได้ยังไง ที่ไหน ตั้งแต่เมื่อไหร่ ผิดเหรอ?”ฮีชอลหันมาถลึงตาใส่ฮันกยอง ถึงแม้ว่าฮันกยองจะมองไม่เห็นเพราะว่าฮีชอลใส่แว่นกันแดดไว้อยู่ ฮีชอลจอดรถที่หน้าโรงพยาบาล เปิดล็อกประตูแล้วโบกมือไล่ฮันกยองให้ลงไป แต่ก่อนลงจากรถ...

    ไม่ผิดหรอกที่นายจะถามเรื่องจองซู แต่ไอ้ท่าทีของนายแบบเนี่ยมันทำให้ฉันรู้สึกเหมือนว่านายชอบจองซูและกำลังหึงหวงเหมือนพวกเด็กหวงของงี่เง่าพูดจบก็ลงจากรถไป ฮีชอลนั่งนิ่งอยู่ในรถรู้สึกของขึ้นแบบสุดๆ ฮันกยองเดาผิดหมดทุกอย่างแล้วยังจะทำเป็นรู้ดีอีก ฮีชอลพยายามสงบสติอารมณ์แต่ว่าในที่สุดก็ทนไม่ได้ ไอ้...ไอ้...ไอ้คนจีน!!! ฮีชอลลงจากรถ วิ่งตามฮันกยองเข้าไปแต่พวกยามหน้าโรงพยาบาลมาขวางเอาไว้เพราะรถของฮีชอลจอดขวางทางไว้อยู่

    หยุด! อย่าเข้ามาใกล้ฉันนะ ฉันจะจอดตรงนี้มีปัญหาอะไรรึเปล่า? หรือว่าถ้ามันขวางทางนัก...”ฮีชอลโยนกุญแจรถให้ยาม “...ก็เอาไปเก็บให้ทีฮีชอลจ้ำพรวดๆตามฮันกยองไป ทิ้งให้บรรดาผู้พบเห็นเหตุการณ์มองอย่างงงงวย

     

                    ที่ซักไซ้ถามฮันกยองเรื่องของจองซูเมื่อกี้ไม่ได้ต้องการอะไรเลยนอกจากอยากรู้เรื่องของเพื่อน แล้วก็ถ้าหากว่าเป็นไปได้ก็อยากจะช่วยให้ทั้งสองคนสมหวังกัน ฮีชอลไม่ได้หึงหวงจองซูอย่างที่ฮันกยองคิด แล้วอีกอย่างที่ว่าชอบน่ะ ไม่ได้ชอบจองซู แต่ชอบไอ้คนพูดต่างหาก! ฮันกยองมองฮีชอลในแง่ร้ายมากเกินไปแล้ว ถึงแม้ว่าจะสนิทกัน แต่ไม่ได้หมายความว่าการที่โดนมองในแง่ร้ายซ้ำแล้วซ้ำเล่าจะกลายเป็นเรื่องปกติสำหรับฮีชอล เป็นใครใครก็ต้องทนไม่ไหว ทั้งๆที่อุตส่าห์หวังดีอยากจะช่วยแท้ๆ ไอ้ฮันกยองมันทำเกินไปแล้วนะ!!!

                ฮันกยองเดินเข้าห้องตรวจอย่างสบายใจโดยไม่รู้ตัวว่าฮีชอลที่เดือดปุดๆ กำลังจะตามมาด่ากราดตัวเองยู่ ฮีชอลเดินตามฮันกยองเข้ามาก่อนตวาดแหวใส่

    มากเกินไปแล้วนะไอ้คนจีน!!!!!!”ฮันกยองหันมามองฮีชอลด้วยความตกใจ

    อย่าเสียงดังสิ มีอะไรค่อยๆพูดก็ได้ฮันกยองทำท่าเลิกลัก ถึงแม้ว่าจะตวาดกันแบบนี้บ่อยครั้ง แต่ว่าการตวาดกันต่อหน้าคนเป็นฝูงคงไม่ใช่เรื่องที่ดีเท่าไหร่

    ไอ้บ้าคิดอกุศล ฉันรักจองซูมากกว่าที่รักนายก็จริง แต่ว่าฉันรักในแบบของเพื่อนนะฮีชอลลดระดับเสียงลงมาหน่อยเมื่อมองออกไปนอกห้องเห็นว่าผู้คนแตกตื่นกันใหญ่

    รู้แล้วน่า ก็แค่อยากทำให้นายขึ้นเฉยๆ ไม่ได้จริงจังอะไร...หรือว่านายจริงจัง?”ฮันกยองมองฮีชอลด้วยความสงสัย

    ทำไม หึงล่ะสิ ฉันว่าคนที่หึงน่าจะเป็นนายมากกว่านะ ไอ้เซ่อ!”ฮีชอลเน้นคำว่าเซ่อให้ดังๆ เอาให้ทุกคนที่แอบฟังมันรู้กันไปเลยว่าไอ้บ้าเนี่ยมันเซ่อ

    บอกแล้วไงว่าอย่าเสียงดังฮันกยองทำท่าจุ๊ปากแต่ฮีชอลไม่สน

    หึงรึเปล่าล่ะ?”ฮีชอลกอดอก เชิดหน้าอย่างผู้ที่ได้เปรียบ

    ไม่! ฉันไม่มีวันหึงเพราะคนอย่างนายหรอกฮันกยองชี้หน้าฮีชอล

    อ๋อเหรอ? พูดอย่างนี้ก็ยอมรับแล้วใช่ไหมล่ะว่าเคยหึงจองซูน่ะ ไม่ได้หึงเพราะฉันแต่ก็เป็นไปได้ว่าจะหึงเพราะคนอื่น

    หยุดพูดเรื่องนี้แล้วกลับไปซะฮันกยองถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย

    รักใช่ไหมล่ะฮีชอลถามด้วยเสียงแผ่วเบา ฮันกยองรู้สึกอยากจะหายไปเลยทีเดียว

    ไม่รัก!”ฮันกยองตอบกลับแบบทันควัน ฮีชอลเบะปากแล้วพูดต่อ

    ฉันรู้จักนายดี ถ้าบอกว่าไม่...แสดงว่าใช่

    “...”ไม่รู้จะเถียงยังไง

    ฉันถามอีกที รักใช่รึเปล่า?”

    รัก!!!!!!!... พอรึยัง?”ฮันกยองเลิกคิ้ว แล้วตอบฮีชอลเสียงดังก่อนจะเดินเข้าไปดึงแขนของฮีชอลเพื่อที่จะลากออกไปนอกห้อง แต่ว่า...

     

    ฮีชอล...กับฮันกยอง รักกัน?”จองซูมองทั้งสองคนด้วยดวงตาที่เอ่อล้นไปด้วยน้ำตาแสดงความสงสัยถึงความสัมพันธ์ของฮันกยองกับฮีชอลชัดเจน แล้วทำไมต้องปิดบังว่ารู้จักกันด้วย? ก่อนเลื่อนสายตาไปที่มือของฮันกยองที่จับแขนของฮีชอลไว้แน่น

     

     

     

     

     _____________________________________________________________________________
    วันนี้อารมณ์ดีจริงๆนะ
    อุตส่าห์อัพให้ตั้งสองตอนเเน่ะ!
    เดี๋ยวอาทิตย์หน้ามาอัพต่อให้อีก...เย่ๆๆๆ>< (มีใครเค้าดีใจไปกับเธอกันบ้าง? = =)

    เอ่อ...ไรต์เตอร์ชักรู้สึกไม่ค่อยดีกับฟิคเรื่องนี้เเล้วค่ะ...
    อยากรู้ว่าชอบกันบ้างรึเปล่า เพราะว่าดูเงียบเหงาเหลือเกิน= = 
    เหมือนมันรกร้าง เเละไม่ค่อยมีใครสนใจ น่าสงสารจังTT (เพ้อเจ้ออีกเเล้ว..)

    ไม่เคยขอให้ใครกดเป็นเเฟนคลับเรื่องนี้ ไม่เคยขอให้add favorites 
    เเต่ว่าขอเม้นท์ได้รึเปล่าคะ?
    มันเป็นกำลังใจอย่างดีเลยนะ>< 
    ไม่ได้บังคับนะคะ อยากให้ทุกคนมองว่ามันเป็นคำขอร้องมากกว่า^^

    ขอบคุณทุกคนมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆค่ะ 
    รัก<3


    :)

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×