อินติฮวนตานา หรือ นาฬิกาแดดของชาวอินคา
นอกจากใช้บอกเวลาแล้วยังสามารถใช้เป็นปฏิทินได้อีกด้วย ซึ่งอินติฮวนตานาสามารถบอก
วิษุวัต
ครีษมายัน
และเหมายัน
ส่วนคำว่า อินติ นั้นมีความหมายว่าพระอาทิตย์ ฮวนตา หมายถึง การผูกเข้าไว้ด้วยกัน
ดังนั้นจึงหมายถึงการผูกเข้าไว้กับดวงอาทิตย์นั่นเอง
ยาบารีดูนาฬิกาข้อมือ อีก 3
นาทีก็จะเที่ยงตรง
หญิงสาวแหงนหน้าขึ้นแล้วหยีตามองพระอาทิตย์ที่แผดแสงแรงจ้าอยู่เหนือศีรษะ
แล้วก้มลงมองแสงอาทิตย์ที่ตกลงบนอินติฮวนตานาด้วยใจจดจ่อ
ในขณะที่กำลังจดจ่ออยู่กับเงาของอินติฮวนตานา หางตาก็เหลือบไปเห็นซอกหินเล็กๆ
ข้างอินติฮวนตานา หญิงสาวจึงย่อตัวลงไปดู ปรากฏว่ามันคือรูปพระอาทิตย์เล็กๆ
ที่เหมือนถูกสลักเอาไว้
“เหมือนจี้พระอาทิตย์ของเราเลย”
หญิงสาวพึมพำ เหมือนมีอะไรบางอย่างดลใจให้หญิงสาวถอดสร้อยคอออกแล้วลองทาบจี้ลงบนรูปสลักนั่น
ซึ่งตรงกับเวลาเที่ยงวัน พระอาทิตย์ตั้งตรงเหนืออินติฮวนตานาพอดี
เพราะแดดแรงหรือเพราะอะไรไม่ทราบได้
หญิงสาวรู้สึกปวดศีรษะเหมือนมันกำลังจะระเบิดออกเป็นเสี่ยงๆ เธอส่ายหน้าไปมา
พยายามจะลุกขึ้นยืนโดยดึงจี้พระอาทิตย์กลับมา
ทว่าจี้พระอาทิตย์กลับตรึงแน่นอยู่กับหินสลักก่อนจะแผดแสงสีทองเจิดจ้าจนหญิงสาวแสบตา
“นี่มันเรื่องอะไรกัน” หญิงสาวยกมือขึ้นบังแสงสีทองที่ทำให้เธอตาพร่าแทบมองอะไรไม่เห็น
เธอพยายามมองไปรอบๆ ด้วยความประหลาดใจ
ทว่าพระอาทิตย์กลับโน้มตัวลงมาใกล้เสียจนเธอรู้สึกแสบร้อนผิวไปหมด
“อาจารย์ช่วยรีด้วยค่ะ”
หญิงสาวเปล่งเสียงสุดท้ายออกมาได้เพียงเท่านั้นก่อนที่สติจะดับวูบไป...
“คุณรี!
คุณรีครับ”
โซลาน่าปราดเข้าไปประคองหญิงสาวที่จู่ๆ
ก็ก้มลงไปตรงฐานอินติฮวนตานา เพียงครู่เดียวหญิงสาวก็ล้มฟุบสลบลงไป
ดวงหน้าซีดเผือดไม่ว่าจะเรียกอย่างไรหญิงสาวก็ไม่ได้สติ
เขาจึงตัดสินใจอุ้มหญิงสาวลงมาจากมาชูปิกชู
แล้วตะโกนเรียกเจ้าหน้าที่ที่อยู่บริเวณนั้นให้ช่วยมาปฐมพยาบาลยาบารี
“ทำไมยังไม่ฟื้นอีก”
ชายหนุ่มร้อนใจ คิดว่าการล้มฟุบไปเสียดื้อๆ ของหญิงสาวคงไม่ใช่การเป็นลมทั่วไปแน่ๆ
อาจารย์หนุ่มรีบประสานกับเจ้าหน้าที่
เพื่อพายาบารีส่งโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุดทันที
“คุณรี คุณต้องไม่เป็นอะไรนะ”
ชายหนุ่มจับมือหญิงสาวเอาไว้แน่นราวกับสัญญาว่าเขาจะพาเธอไปส่งถึงมือหมอให้เร็วที่สุด
แม้เธอจะไม่รู้สึกตัวแล้วก็ตาม…
ทันทีที่นายแพทย์เดินออกมาจากห้องฉุกเฉิน
โซลาโน่ก็ปราดเข้าไปสอบถามอาการของยาบารีด้วยความเป็นห่วง
“คุณหมอครับยาบารีเป็นอย่างไรบ้างครับ เธอปลอดภัยดีใช่มั้ย”
แพทย์และพยาบาลเดินเข้าออกห้องฉุกเฉินกว่าสองชั่วโมง
โดยไม่มีวี่แววว่าการรักษาจะสิ้นสุดลง ทำให้ชายหนุ่มอดที่จะหวั่นใจไม่ได้
“ผมเองก็บอกไม่ถูกเหมือนกันครับ
จากที่ตรวจดูอย่างละเอียด คนไข้ไม่ได้บาดเจ็บหรือกระทบกระเทือนตรงไหนเลย
คิดว่าน่าจะเป็นโรคแพ้ความสูง
แต่คนที่เป็นโรคนี้ก็ไม่เห็นมีใครมีอาการแบบคนไข้รายนี้เลยสักคน”
นายแพทย์สูงวัยขมวดคิ้วอย่างครุ่นคิด
เขาตรวจรักษาคนไข้ชาวต่างชาติที่ป่วยระหว่างมาท่องเที่ยวที่มาชูปิกชูมาหลายราย
ส่วนใหญ่ผู้มีอาการแพ้ความสูงนั้น
เกิดจากร่างกายไม่สามารถปรับตัวให้อยู่ในภาวะที่มีออกซิเจนน้อยได้
ซึ่งส่วนใหญ่จะมีอาการเวียนศีรษะ คลื่นไส้ นอนไม่หลับ อ่อนเพลียและเหนื่อยง่าย
บางรายหากยังฝืนเดินขึ้นที่สูงก็อาจเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิต ทว่ากรณีนี้...
“อาการแบบไหนหรือครับคุณหมอ”
“สภาพร่างกายของผู้ป่วยเป็นปกติ
เธอดูเหมือนแค่กำลังนอนหลับอยู่แค่นั้นเองครับ ซึ่งแปลกมาก
แปลก...ผมไม่เคยพบกรณีแบบนี้มาก่อน คงต้องขอดูอาการอย่างใกล้ชิด
และได้ใส่เครื่องช่วยหายใจเอาไว้ เพราะไม่รู้ว่าคนไข้ซึ่งมีอาการเหมือนหลับจะหยุดหายใจไปเมื่อไหร่”
โซลาโน่รู้สึกเหมือนโดนทุบจนแทบสลบเหมือด
เป็นแบบนี้ไปได้อย่างไร! ทำไมจู่ๆ ยาบารีถึงกลายเป็นเจ้าหญิงนิทราไปได้...
วิษุวัต
(อังกฤษ : equinox) เป็นคำศัพท์ทางดาราศาสตร์ หมายถึงช่วงในขณะที่ดวงอาทิตย์อยู่ในตำแหน่งตรงได้ฉากกับเส้นศูนย์สูตรของโลกพอดี ซึ่งจะเกิดขึ้นปีละ 2 ครั้ง
หรือในหนึ่งรอบที่โลกโคจรรอบดวงอาทิตย์ แกนหมุนของโลกที่เอียง (Earth's axial tilt) จะเลื่อนมาอยู่ในระนาบที่ได้ฉากกับตำแหน่งดวงอาทิตย์
เหตุการณ์นี้เรียกอีกอย่างว่า "วันราตรีเสมอภาค"
หมายถึงเวลาตอนกลางคืนเท่ากับเวลากลางวันพอดี
ครีษมายัน
(อังกฤษ : summer solstice) เป็นการที่ดวงอาทิตย์โคจรไปถึงจุดหยุด
(solstice) คือ จุดสุดทางเหนือในราววันที่ 21 มิถุนายน เป็นจุดในหน้าร้อน
มีกลางวันนานกว่ากลางคืน ตรงข้ามกับ เหมายัน (winter solstice) (สันสกฤต : คฺรีษฺม + อายนฺ)
เหมายัน
(เห-มา-ยัน) หรือ ทักษิณายัน (อังกฤษ : winter solstice) เป็นการที่ดวงอาทิตย์โคจรไปถึงจุดหยุด
(solstice) คือ จุดสุดทางใต้ในราววันที่ 22 ธันวาคม เป็นจุดในฤดูหนาว
มีกลางคืนนานกว่ากลางวัน ตรงข้ามกับ ครีษมายัน (summer solstice)
| เสน่หาอินคา | เพียงฤทัย | www.mebmarket.com | ยาบารี ยาบารี ที่รักของข้า? เสียงเรียกอันแสนคุ้นเคยของใครบางคนที่ ยาบารี หญิงสาวลูกครึ่งไทย-เปรู ฝันถึงตั้งแต่ครั้งแรกที่เดินทางมายังเปรูดินแดนต้นกำเนิดอาณาจักรอินคาที่เธอหลงใหล เสียงปริศนาดังชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ ทั้งในยามหลับและยามตื่นราวกับกำลังเรียกเธอให้ไปหา... แล้วปาฏิหาริย์ก็ชักนำให้เธอหลงกาลเวลาไปยังอาณาจักรอินคา ดินแดนแห่งทองคำเมื่อสี่ร้อยกว่าปีก่อน ด้วยสร้อยพระอาทิตย์ของสำคัญที่บิดาทิ้งไว้ให้ก่อนจะเสียชีวิต ณ ที่แห่งนี้ เธอได้พบและผูกพันหัวใจไว้กับเจ้าชายทูปัก วีรา เจ้าชายหมอผู้สูงศักดิ์ ท่ามกลางสงครามและยุคสมัยแห่งการล่มสลายของอาณาจักรที่รุ่งเรือง หญิงสาวผู้มาจากอนาคตและเจ้าชายหนุ่มจะร่วมกันแก้ไขหน้าประวัติศาสตร์ได้หรือไม่ แล้วเธอจะหาทางกลับมายังปัจจุบันได้อย่างไร เมื่อยังมีสายสัมพันธ์รักอันยิ่งใหญ่กับชายสูงศักดิ์เกี่ยวกระหวัดให้หัวใจมิอาจลืมเลือน ***ปาฏิหาริย์ที่เกิดขึ้นจากหัวใจรัก นำพาให้คนทั้งสองได้พบเพื่อจาก และพรากเพื่อเจอ ตราบใดที่หัวใจทั้งสองดวงยังคงร้อยรัดด้วยสายใยแห่งรักและผูกพัน ปาฏิหาริย์จะชักพาหัวใจทั้งสองดวงให้กลับมาเคียงคู่กันในสักวัน | |
|
| ซากุระผลิที่กลางใจ | เพียงฤทัย | www.mebmarket.com | หลิวหลุดเข้าไปใน 'ยุคสมัยเฮอัน' ซึ่งย้อนอดีตไปถึงพันปีเหตุการณ์กลับตาลปัตรเมื่อเธอกลายเป็นคุณหนูของคฤหาสน์อาจิไซ บุตรีขององคมนตรีชั้นเอกผู้เป็นข้ารองบาทขององจักรพรรดิในขณะเรื่องราวผิดฝาผิดตัวสร้างความโกลาหลวุ่นวายหัวใจของหญิงสาวก็เบ่งบานไม่ต่างจากดอกซากุระ | |
|
| ดวงใจปฏิพัทธ์ | สะมะเรีย | www.mebmarket.com | เลือดต้องล้างด้วยเลือด จักต้องแผดเผาศัตรูให้พินาศย่อยยับแต่เหตุใดเล่า... เมื่อเห็นนางเจ็บ เขากลับเจ็บยิ่งกว่า! องครักษ์หนุ่มนัยน์ตาสีน้ำเงิน ผู้ที่เข้ามาทำให้โลกของเจ้าหญิงครีษมาสดใส นางหลงรักเขาอย่างหมดหัวใจ ทว่าการที่องครักษ์หนุ่มเข้ามาใกล้ชิดนางนั้นกลับเต็มไปด้วยเงื่อนงำ... เมื่อองครักษ์หนุ่มคืนสู่ศักดิ์อันแท้จริง เขาคือเจ้าชายภานรินทร์ที่หายสาบสูญ เขากลับมาอีกครั้งเพื่อขจัดความอยุติธรรม พร่าเกียรติและศักดิ์ศรีเจ้าหญิงผู้สง่างามให้พลิกผันเป็นเพียงนางบำเรอชั้นต่ำ!นาง...เจ็บเจียนตายแต่หัวใจกลับรักเขาเขา…แค้นฝังใจแต่มิอาจปล่อยมือจากนางบทสรุปความรักจะเป็นเช่นไร...รักฤาชัง | |
|
| มายามรณะ | รางนาก | www.mebmarket.com | ภาพหลอน! ความกลัว! ความตาย! และความสิ้นหวัง! ประดังเข้าสาดซัดนางเอกสาวดาวรุ่งราวกับห่าฝนในคืนเดือนมืด เมื่อมือที่มองไม่เห็นยื่นมากระชากชีวิตของหญิงสาวให้เปลี่ยนไปตลอดกาล... | |
|
| มะนาวซ่อนหวาน | สะมะเรีย | www.mebmarket.com | ใครๆ ต่างพากันตั้งฉายาให้ มะนาว ว่า...ไฮโซขาวีน และ ไฮโซมือตบแต่...อย่าได้แคร์สื่อ เธอยังคงสวย เริด เชิด หยิ่งจนกระทั่งผู้เป็นบิดาต้องงัดไม้เด็ดมาปราบลูกสาวหัวดื้อทางด้าน เตชธรรม ถึงกับกุมขมับเมื่อได้รับมอบหมายให้ดัดนิสัยยายตัวร้ายที่เขาให้คำจัดความว่าตั้งแต่แรกเห็นว่า‘ชอบเที่ยวกลางคืน ยั่วยวนผู้ชาย ไม่รู้จักรักนวลสงวนตัว’ชายหนุ่มจึงงัดสารพัดวิธีที่มั่นใจว่าได้ผลร้อยเปอร์เซ็นต์ออกมาจัดการทว่า...ผิดคาด เมื่อมะนาวลูกนี้ไม่ได้มีดีแค่ความเปรี้ยวซ่าอย่างที่คิดและกว่าจะรู้ตัวว่า...ผิดแผน หัวใจก็ลิ้มรสหวานจนถอนตัวถอนใจไม่ขึ้นเสียแล้ว | |
|
| มนตราสีกุหลาบ | สะมะเรีย | www.mebmarket.com | มนตราแห่งเพตรา ดลบันดาลให้หัวใจสองดวงผูกพัน ก่อเกิดเป็นความรักร้อนแรงจนแม้แต่แสงจากดวงอาทิตย์ก็มิอาจเทียบ หลังจากผิดหวังในความรัก ยี่สุ่น...หญิงสาววัยเบญจเพสจึงตัดสินใจเดินทางมายังจอร์แดนตามคำชักชวนของมารดา พร้อมความเชื่อมั่นว่าสักวันหนึ่งเธอจะได้พบรักแท้ และเมื่อเธอมาถึงนครเพตรา?นครศิลาสีชมพู เธอก็ได้พบรัฟฟาน หนุ่มจอร์แดนมาดเข้ม เธอหลงคิดว่าเขาเป็นไกด์พื้นเมืองจึงใช้งานเขาสารพัด รัฟฟาน... ตำรวจสากลผู้ได้รับมอบหมายให้มาสืบหาแหล่งผลิตยาเสพติดที่นครเพตรา ยินยอมเป็นไกด์ให้ยี่สุ่นเพราะต้องการปลอมตัวให้แนบเนียน ไม่เป็นที่สงสัยของคนร้าย แต่นักท่องเที่ยวสาวกลับทำให้เขาต้องคิดทบทวนว่าเขาคิดผิดหรือไม่ที่ยอมเป็นไกด์ให้เธอ เพราะเธอเปิ่นและบ้าดีเดือดชนิดไม่มีใครเหมือน ซ้ำยังทำให้หัวใจเขาหวั่นไหว ท่ามกลางทะเลทรายอันร้อนระอุ ความรักได้ก่อเกิดขึ้นจากความใกล้ชิด พร้อมกับอันตรายที่คืบคลานเข้ามาให้เขากับเธอร่วมกันฟันฝ่า เพื่อพิสูจน์ว่ารักแท้มีอยู่จริง +++++++++++++“ผมต้องทำยังไงคุณถึงจะเชื่อว่าผมไม่ได้ตั้งใจลวนลามคุณ ผมแค่เข้ามาปลุกคุณไปกินอาหารเย็น” รัฟฟานหัวเสียไม่น้อย นี่ล่ะเขาถึงไม่อยากมีแฟนเพราะรำคาญผู้หญิงที่ชอบพูดไม่รู้เรื่อง เอะอะก็โวยวายเอาไว้ก่อนไม่เคยฟังเหตุผลอะไรเลยสักอย่างเดียว“ฉันไม่เชื่อ”“ถ้าอย่างนั้นผมจะทำให้ดู”“คุณ...”รัฟฟานไม่เปิดโอกาสให้หญิงสาวโวยวายไปมากกว่านี้ เขาปิดปากอิ่มได้รูปด้วยริมฝีปากเรียวอย่างรวดเร็ว ยี่สุ่นพยายามโวยวายแต่กลับเป็นการเปิดเรียวปากให้ชายหนุ่มแทรกลิ้นร้อนเข้าไปตวัดเร้าควานหาความหอมหวานจากปากนุ่มสีกุหลาบ ยี่สุ่นสั่นไปหมดทั้งตัว หัวสมองหนักอึ้ง รู้สึกเหมือนกำลังจะขาดอากาศหายใจ แต่แล้วเขาก็เติมเต็มลมหายใจให้เธอพร้อมๆ กับฉกฉวยมันไป สลับไปมาจนเธอชาวาบจนถึงปลายเท้า แข้งขาอ่อนแรงจนแทบยืนไม่ติดพื้น เมื่อเขาบดจูบเร่าร้อนยาวนานจนเธอเผลอกอดตอบเขาและเผลอ...จูบตอบเขาอย่างไร้เดียงสารัฟฟานผละออกจากริมฝีปากอิ่มอย่างเสียดาย ยี่สุ่นทรุดฮวบลงไปกองที่พื้นอย่างไร้เรี่ยวแรง คิดหาคำพูดหรือคำด่าทอไกด์หนุ่มไม่ถูก นั่งบื้อใบ้หัวสมองมึนงงด้วยความสับสน“คราวนี้เชื่อหรือยังว่าผมมาปลุกคุณให้ตื่นไปรับประทานอาหารเย็น ไม่ได้ตั้งใจเข้ามาลวนลาม เพราะถ้าผมตั้งใจจะทำ...ผมจะทำแบบเมื่อครู่นี้ เอาละ...อีกสิบห้านาทีผมจะกลับเข้ามารับ อย่าช้าล่ะเพราะที่นี่จัดอาหารเย็นแบบบุฟเฟต์หากเกินเวลาไปมากกว่านี้อาจไม่เหลืออะไรให้คุณกิน” พูดจบเขาก็เดินออกไปทิ้งให้หญิงสาวนั่งหน้าแดงก่ำจูบแรกของฉัน... | |
|
ความคิดเห็น