ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เสน่หาอินคา

    ลำดับตอนที่ #48 : บทที่ 9 พลทหารยาปา-2 [3] // อาบน้ำให้เจ้าชาย

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 580
      7
      24 ม.ค. 61









     

     “หา!” ยาบารีร้องเสียงหลงเล็กแหลมราวกับเสียงผู้หญิง เมื่อเห็นทุกคนทำท่าทางเลิ่กลั่กเธอก็รีบดัดเสียงเข้มทันที “เจ้าพูดว่าอะไรนะ ข้าฟังไม่ถนัด”

     

    “ข้าอยากเป็นเพื่อนกับเจ้า ตอนนี้ข้าเป็นทหารสังกัดของท่านนายพลคีมา ท่านเล็งเห็นว่าข้าฝีมือดี จึงเลือกข้ากับคนอื่นๆ ไป”

     

    “งั้นเหรอ ข้าดีใจด้วยนะ” ยาบารียิ้มแหย หน้าซีดเมื่อโทฮุยตบลงบนไหล่หญิงสาวอีกหลายที สงสัยไหล่คงจะต้องช้ำแน่ๆ มือหนักอย่างกับใบพาย ฟาดลงมาแต่ละครั้ง เจ็บจนแทบน้ำตาร่วง

     

             “เจ้าเอาชนะข้าได้ ข้านับถือฝีมือของเจ้า จึงอยากขอเป็นเพื่อน คนอื่นๆ ก็อยากเป็นเพื่อนกับเจ้าเช่นกัน” โทฮุยยิ้มเห็นฟันขาวเรียงกันเป็นระเบียบตัดกับสีผิวเข้มกร้านแดด ยาบารียิ้มตอบดีใจที่มีเพื่อน แม้ว่าเพื่อนของเธอแต่ละคนจะตัวโตเป็นยักษ์ปักหลั่นก็ตามที

     

             โทฮุยและเพื่อนๆ อาสาสอนพลทหารยาปาใช้อาวุธต่างๆ ด้วยตนเอง องครักษ์วาคัคจึงแทบไม่ต้องทำอะไร เขานั่งอยู่ใต้ร่มไม้แล้วแอบงีบด้วยความง่วง นั่นเพราะเมื่อคืนร่ำสุราดึกจนแทบไม่ได้นอน เห็นทีว่าเขาจะทำตัวเช่นนี้ต่อไปไม่ได้แล้ว ไม่เช่นนั้นหากเรื่องนี้ถึงพระกรรณของเจ้าชายทูปัก วีรา เขาจะโดนตำหนิเอาได้

     

             “ข้าไม่ไหวแล้ว ขอพักหน่อยเถอะ” ยาบารีโบกมือไปมาก่อนจะทรุดตัวลงนั่งด้วยความเหนื่อยหอบ ในขณะที่พลทหารคนอื่นๆ มีเหงื่อเกาะที่ปลายจมูกและหน้าผากเพราะความร้อน แต่ไม่มีท่าทีเหน็ดเหนื่อยเลยแม้แต่น้อย

     

             “อะไรกันยาปา แค่นี้เจ้าเหนื่อยแล้วหรือ” โทฮุยเดินมานั่งข้าง
    ยาบารีอย่างสนิทสนม

     

             “เอ่อ...แค่นี้ข้าไม่เหนื่อยหรอก แต่เพราะข้าเพิ่งหายไข้ เลยโหมหนักๆ ไม่ไหว” พลทหารจำเป็นจำต้องโกหก เพราะหากเธอแสดงท่าทีอ่อนแอ โทฮุยและเพื่อนๆ คงคิดว่าเธอเป็นพวกเหยาะแหยะไม่ได้ความ

     

             “อ้าว! งั้นหรือ ข้าขอโทษด้วย ไม่รู้ว่าเจ้าป่วยอยู่”

     

             “นั่นสิโทฮุย เพราะป่วยนี่เองเมื่อวานถึงได้ไม่ประลองต่อ แต่ยอมแพ้ให้กับคนต่อไปเสียดื้อๆ ข้าละเสียดายเหลือเกิน ว่าแต่การต่อสู้ของเจ้าเรียกว่าอะไรหรือ ท่าทางและวิธีการสู้แปลกมาก ข้าไม่เคยเห็นแบบนี้ที่ไหนมาก่อน” ชายร่างยักษ์อีกคนเดินเข้ามาถาม คนอื่นๆ จึงเดินมาล้อมพลทหารยาปาคนดังเอาไว้อย่างอยากรู้

     

             “เรียกว่าคาราเต้ เอ่อ... เป็นวิธีการป้องกันตัวน่ะ” หญิงสาวไม่รู้จะอธิบายอย่างไร เพราะถ้าบอกว่าคาราเต้เป็นศิลปะการต่อสู้ที่ถือกำเนิดจากโอกินาวะประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นการผสมผสานระหว่างการต่อสู้ของชาวโอกินาวะและการต่อสู้ของชาวจีนจึงกลายมาเป็นคาราเต้ บอกไปเช่นนี้เห็นทีเธอจะถูกมองว่าเป็นตัวประหลาด เพราะชาวอินคาไม่รู้จักจีนและญี่ปุ่นแน่ๆ แต่ถ้าบอกว่าชนเผ่าชันคา หรือชนเผ่ามันตา พวกเขาคงคุ้นเคยมากกว่า

     

             “เจ้าสอนข้าหน่อยได้หรือไม่ ข้าอยากเก่งแบบเจ้า” โทฮุยพูดขึ้น คนอื่นๆ ก็พากันพยักหน้าเห็นด้วย ต่างขอให้หญิงสาวช่วยสอนวิธีการต่อสู้ด้วยท่าทางประหลาดของเธอ

     

             “เอ่อ...ได้สิ แต่ต้องเป็นวันอื่นนะ ช่วงนี้ข้ายังป่วยอยู่” หญิงสาวจำต้องรับปากอย่างเสียไม่ได้ อีกไม่กี่วันก็จะต้องออกรบแล้ว เดี๋ยวพวกเขาเหล่านี้ก็คงลืมกันไปเอง หรือไม่เธอก็เอาชีวิตไปทิ้งไว้กลางสนามรบไม่ได้กลับมาสอนคาราเต้ให้พวกเขาอีก

     

             “ยาปา เจ้าชายให้คนมาตามเจ้ากลับไป” องครักษ์หนุ่มเดินเข้ามาตามอย่างได้จังหวะพอดิบพอดี หญิงสาวหายใจโล่ง เพราะถ้าถูกซักไซ้มากกว่านี้ เธอก็ไม่รู้ว่าจะเอาตัวรอดด้วยการโกหกไปได้อีกนานแค่ไหน

     

             “ขอรับท่านวาคัค” ยาบารีรีบยืนขึ้นทันที ก่อนจะหันไปกล่าวลาเพื่อนพลทหารด้วยกันแล้วรีบวิ่งตามองครักษ์หนุ่มไปทันที


    มาแล้วค่ะ เรื่องนี้อัพจนจบนะคะ แต่ถ้าอัพถึงเนื้อหา 60-70% จะทยอยลบและติดเหรียญ ตามอ่านกันให้ทันน๊าาาาาาาาาา

    ขอบคุณที่ยังติดตาม เก๊าจะไม่หายไปไหนนานๆ อีกกกกกกกกก ม๊วพพพพ

     









    ฝากแฟนเพจด้วยนะคะ 
    กดที่รูปการ์ตูนสะมะเรียได้เลยค่ะ



    เสน่หาอินคา
    เพียงฤทัย
    www.mebmarket.com
    ยาบารี ยาบารี ที่รักของข้า? เสียงเรียกอันแสนคุ้นเคยของใครบางคนที่ ยาบารี หญิงสาวลูกครึ่งไทย-เปรู ฝันถึงตั้งแต่ครั้งแรกที่เดินทางมายังเปรูดินแดนต้นกำเนิดอาณาจักรอินคาที่เธอหลงใหล เสียงปริศนาดังชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ ทั้งในยามหลับและยามตื่นราวกับกำลังเรียกเธอให้ไปหา... แล้วปาฏิหาริย์ก็ชักนำให้เธอหลงกาลเวลาไปยังอาณาจักรอินคา ดินแดนแห่งทองคำเมื่อสี่ร้อยกว่าปีก่อน ด้วยสร้อยพระอาทิตย์ของสำคัญที่บิดาทิ้งไว้ให้ก่อนจะเสียชีวิต ณ ที่แห่งนี้ เธอได้พบและผูกพันหัวใจไว้กับเจ้าชายทูปัก วีรา เจ้าชายหมอผู้สูงศักดิ์ ท่ามกลางสงครามและยุคสมัยแห่งการล่มสลายของอาณาจักรที่รุ่งเรือง หญิงสาวผู้มาจากอนาคตและเจ้าชายหนุ่มจะร่วมกันแก้ไขหน้าประวัติศาสตร์ได้หรือไม่ แล้วเธอจะหาทางกลับมายังปัจจุบันได้อย่างไร เมื่อยังมีสายสัมพันธ์รักอันยิ่งใหญ่กับชายสูงศักดิ์เกี่ยวกระหวัดให้หัวใจมิอาจลืมเลือน ***ปาฏิหาริย์ที่เกิดขึ้นจากหัวใจรัก นำพาให้คนทั้งสองได้พบเพื่อจาก และพรากเพื่อเจอ ตราบใดที่หัวใจทั้งสองดวงยังคงร้อยรัดด้วยสายใยแห่งรักและผูกพัน ปาฏิหาริย์จะชักพาหัวใจทั้งสองดวงให้กลับมาเคียงคู่กันในสักวัน

    ซากุระผลิที่กลางใจ
    เพียงฤทัย
    www.mebmarket.com
    หลิวหลุดเข้าไปใน 'ยุคสมัยเฮอัน' ซึ่งย้อนอดีตไปถึงพันปีเหตุการณ์กลับตาลปัตรเมื่อเธอกลายเป็นคุณหนูของคฤหาสน์อาจิไซ บุตรีขององคมนตรีชั้นเอกผู้เป็นข้ารองบาทขององจักรพรรดิในขณะเรื่องราวผิดฝาผิดตัวสร้างความโกลาหลวุ่นวายหัวใจของหญิงสาวก็เบ่งบานไม่ต่างจากดอกซากุระ

    ดวงใจปฏิพัทธ์
    สะมะเรีย
    www.mebmarket.com
    เลือดต้องล้างด้วยเลือด จักต้องแผดเผาศัตรูให้พินาศย่อยยับแต่เหตุใดเล่า... เมื่อเห็นนางเจ็บ เขากลับเจ็บยิ่งกว่า! องครักษ์หนุ่มนัยน์ตาสีน้ำเงิน ผู้ที่เข้ามาทำให้โลกของเจ้าหญิงครีษมาสดใส นางหลงรักเขาอย่างหมดหัวใจ ทว่าการที่องครักษ์หนุ่มเข้ามาใกล้ชิดนางนั้นกลับเต็มไปด้วยเงื่อนงำ... เมื่อองครักษ์หนุ่มคืนสู่ศักดิ์อันแท้จริง เขาคือเจ้าชายภานรินทร์ที่หายสาบสูญ เขากลับมาอีกครั้งเพื่อขจัดความอยุติธรรม พร่าเกียรติและศักดิ์ศรีเจ้าหญิงผู้สง่างามให้พลิกผันเป็นเพียงนางบำเรอชั้นต่ำ!นาง...เจ็บเจียนตายแต่หัวใจกลับรักเขาเขา…แค้นฝังใจแต่มิอาจปล่อยมือจากนางบทสรุปความรักจะเป็นเช่นไร...รักฤาชัง

    มายามรณะ
    รางนาก
    www.mebmarket.com
    ภาพหลอน! ความกลัว! ความตาย! และความสิ้นหวัง! ประดังเข้าสาดซัดนางเอกสาวดาวรุ่งราวกับห่าฝนในคืนเดือนมืด เมื่อมือที่มองไม่เห็นยื่นมากระชากชีวิตของหญิงสาวให้เปลี่ยนไปตลอดกาล...

    มะนาวซ่อนหวาน
    สะมะเรีย
    www.mebmarket.com
    ใครๆ ต่างพากันตั้งฉายาให้ มะนาว ว่า...ไฮโซขาวีน และ ไฮโซมือตบแต่...อย่าได้แคร์สื่อ เธอยังคงสวย เริด เชิด หยิ่งจนกระทั่งผู้เป็นบิดาต้องงัดไม้เด็ดมาปราบลูกสาวหัวดื้อทางด้าน เตชธรรม ถึงกับกุมขมับเมื่อได้รับมอบหมายให้ดัดนิสัยยายตัวร้ายที่เขาให้คำจัดความว่าตั้งแต่แรกเห็นว่า‘ชอบเที่ยวกลางคืน ยั่วยวนผู้ชาย ไม่รู้จักรักนวลสงวนตัว’ชายหนุ่มจึงงัดสารพัดวิธีที่มั่นใจว่าได้ผลร้อยเปอร์เซ็นต์ออกมาจัดการทว่า...ผิดคาด เมื่อมะนาวลูกนี้ไม่ได้มีดีแค่ความเปรี้ยวซ่าอย่างที่คิดและกว่าจะรู้ตัวว่า...ผิดแผน หัวใจก็ลิ้มรสหวานจนถอนตัวถอนใจไม่ขึ้นเสียแล้ว

    มนตราสีกุหลาบ
    สะมะเรีย
    www.mebmarket.com
    มนตราแห่งเพตรา ดลบันดาลให้หัวใจสองดวงผูกพัน ก่อเกิดเป็นความรักร้อนแรงจนแม้แต่แสงจากดวงอาทิตย์ก็มิอาจเทียบ หลังจากผิดหวังในความรัก ยี่สุ่น...หญิงสาววัยเบญจเพสจึงตัดสินใจเดินทางมายังจอร์แดนตามคำชักชวนของมารดา พร้อมความเชื่อมั่นว่าสักวันหนึ่งเธอจะได้พบรักแท้ และเมื่อเธอมาถึงนครเพตรา?นครศิลาสีชมพู เธอก็ได้พบรัฟฟาน หนุ่มจอร์แดนมาดเข้ม เธอหลงคิดว่าเขาเป็นไกด์พื้นเมืองจึงใช้งานเขาสารพัด รัฟฟาน... ตำรวจสากลผู้ได้รับมอบหมายให้มาสืบหาแหล่งผลิตยาเสพติดที่นครเพตรา ยินยอมเป็นไกด์ให้ยี่สุ่นเพราะต้องการปลอมตัวให้แนบเนียน ไม่เป็นที่สงสัยของคนร้าย แต่นักท่องเที่ยวสาวกลับทำให้เขาต้องคิดทบทวนว่าเขาคิดผิดหรือไม่ที่ยอมเป็นไกด์ให้เธอ เพราะเธอเปิ่นและบ้าดีเดือดชนิดไม่มีใครเหมือน ซ้ำยังทำให้หัวใจเขาหวั่นไหว ท่ามกลางทะเลทรายอันร้อนระอุ ความรักได้ก่อเกิดขึ้นจากความใกล้ชิด พร้อมกับอันตรายที่คืบคลานเข้ามาให้เขากับเธอร่วมกันฟันฝ่า เพื่อพิสูจน์ว่ารักแท้มีอยู่จริง +++++++++++++“ผมต้องทำยังไงคุณถึงจะเชื่อว่าผมไม่ได้ตั้งใจลวนลามคุณ ผมแค่เข้ามาปลุกคุณไปกินอาหารเย็น” รัฟฟานหัวเสียไม่น้อย นี่ล่ะเขาถึงไม่อยากมีแฟนเพราะรำคาญผู้หญิงที่ชอบพูดไม่รู้เรื่อง เอะอะก็โวยวายเอาไว้ก่อนไม่เคยฟังเหตุผลอะไรเลยสักอย่างเดียว“ฉันไม่เชื่อ”“ถ้าอย่างนั้นผมจะทำให้ดู”“คุณ...”รัฟฟานไม่เปิดโอกาสให้หญิงสาวโวยวายไปมากกว่านี้ เขาปิดปากอิ่มได้รูปด้วยริมฝีปากเรียวอย่างรวดเร็ว ยี่สุ่นพยายามโวยวายแต่กลับเป็นการเปิดเรียวปากให้ชายหนุ่มแทรกลิ้นร้อนเข้าไปตวัดเร้าควานหาความหอมหวานจากปากนุ่มสีกุหลาบ ยี่สุ่นสั่นไปหมดทั้งตัว หัวสมองหนักอึ้ง รู้สึกเหมือนกำลังจะขาดอากาศหายใจ แต่แล้วเขาก็เติมเต็มลมหายใจให้เธอพร้อมๆ กับฉกฉวยมันไป สลับไปมาจนเธอชาวาบจนถึงปลายเท้า แข้งขาอ่อนแรงจนแทบยืนไม่ติดพื้น เมื่อเขาบดจูบเร่าร้อนยาวนานจนเธอเผลอกอดตอบเขาและเผลอ...จูบตอบเขาอย่างไร้เดียงสารัฟฟานผละออกจากริมฝีปากอิ่มอย่างเสียดาย ยี่สุ่นทรุดฮวบลงไปกองที่พื้นอย่างไร้เรี่ยวแรง คิดหาคำพูดหรือคำด่าทอไกด์หนุ่มไม่ถูก นั่งบื้อใบ้หัวสมองมึนงงด้วยความสับสน“คราวนี้เชื่อหรือยังว่าผมมาปลุกคุณให้ตื่นไปรับประทานอาหารเย็น ไม่ได้ตั้งใจเข้ามาลวนลาม เพราะถ้าผมตั้งใจจะทำ...ผมจะทำแบบเมื่อครู่นี้ เอาละ...อีกสิบห้านาทีผมจะกลับเข้ามารับ อย่าช้าล่ะเพราะที่นี่จัดอาหารเย็นแบบบุฟเฟต์หากเกินเวลาไปมากกว่านี้อาจไม่เหลืออะไรให้คุณกิน” พูดจบเขาก็เดินออกไปทิ้งให้หญิงสาวนั่งหน้าแดงก่ำจูบแรกของฉัน...

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×