คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #48 : บทที่ 9 พลทหารยาปา-2 [3] // อาบน้ำให้เจ้าชาย
“หา!”
ยาบารีร้องเสียงหลงเล็กแหลมราวกับเสียงผู้หญิง เมื่อเห็นทุกคนทำท่าทางเลิ่กลั่กเธอก็รีบดัดเสียงเข้มทันที
“เจ้าพูดว่าอะไรนะ ข้าฟังไม่ถนัด”
“ข้าอยากเป็นเพื่อนกับเจ้า
ตอนนี้ข้าเป็นทหารสังกัดของท่านนายพลคีมา ท่านเล็งเห็นว่าข้าฝีมือดี
จึงเลือกข้ากับคนอื่นๆ ไป”
“งั้นเหรอ ข้าดีใจด้วยนะ”
ยาบารียิ้มแหย หน้าซีดเมื่อโทฮุยตบลงบนไหล่หญิงสาวอีกหลายที
สงสัยไหล่คงจะต้องช้ำแน่ๆ มือหนักอย่างกับใบพาย ฟาดลงมาแต่ละครั้ง
เจ็บจนแทบน้ำตาร่วง
“เจ้าเอาชนะข้าได้ ข้านับถือฝีมือของเจ้า
จึงอยากขอเป็นเพื่อน คนอื่นๆ ก็อยากเป็นเพื่อนกับเจ้าเช่นกัน”
โทฮุยยิ้มเห็นฟันขาวเรียงกันเป็นระเบียบตัดกับสีผิวเข้มกร้านแดด
ยาบารียิ้มตอบดีใจที่มีเพื่อน แม้ว่าเพื่อนของเธอแต่ละคนจะตัวโตเป็นยักษ์ปักหลั่นก็ตามที
โทฮุยและเพื่อนๆ อาสาสอนพลทหารยาปาใช้อาวุธต่างๆ
ด้วยตนเอง องครักษ์วาคัคจึงแทบไม่ต้องทำอะไร
เขานั่งอยู่ใต้ร่มไม้แล้วแอบงีบด้วยความง่วง
นั่นเพราะเมื่อคืนร่ำสุราดึกจนแทบไม่ได้นอน
เห็นทีว่าเขาจะทำตัวเช่นนี้ต่อไปไม่ได้แล้ว ไม่เช่นนั้นหากเรื่องนี้ถึงพระกรรณของเจ้าชายทูปัก
วีรา เขาจะโดนตำหนิเอาได้
“ข้าไม่ไหวแล้ว ขอพักหน่อยเถอะ”
ยาบารีโบกมือไปมาก่อนจะทรุดตัวลงนั่งด้วยความเหนื่อยหอบ ในขณะที่พลทหารคนอื่นๆ
มีเหงื่อเกาะที่ปลายจมูกและหน้าผากเพราะความร้อน
แต่ไม่มีท่าทีเหน็ดเหนื่อยเลยแม้แต่น้อย
“อะไรกันยาปา แค่นี้เจ้าเหนื่อยแล้วหรือ”
โทฮุยเดินมานั่งข้าง
ยาบารีอย่างสนิทสนม
“เอ่อ...แค่นี้ข้าไม่เหนื่อยหรอก
แต่เพราะข้าเพิ่งหายไข้ เลยโหมหนักๆ ไม่ไหว” พลทหารจำเป็นจำต้องโกหก
เพราะหากเธอแสดงท่าทีอ่อนแอ โทฮุยและเพื่อนๆ
คงคิดว่าเธอเป็นพวกเหยาะแหยะไม่ได้ความ
“อ้าว! งั้นหรือ
ข้าขอโทษด้วย ไม่รู้ว่าเจ้าป่วยอยู่”
“นั่นสิโทฮุย
เพราะป่วยนี่เองเมื่อวานถึงได้ไม่ประลองต่อ แต่ยอมแพ้ให้กับคนต่อไปเสียดื้อๆ ข้าละเสียดายเหลือเกิน
ว่าแต่การต่อสู้ของเจ้าเรียกว่าอะไรหรือ ท่าทางและวิธีการสู้แปลกมาก
ข้าไม่เคยเห็นแบบนี้ที่ไหนมาก่อน” ชายร่างยักษ์อีกคนเดินเข้ามาถาม คนอื่นๆ
จึงเดินมาล้อมพลทหารยาปาคนดังเอาไว้อย่างอยากรู้
“เรียกว่าคาราเต้ เอ่อ...
เป็นวิธีการป้องกันตัวน่ะ” หญิงสาวไม่รู้จะอธิบายอย่างไร เพราะถ้าบอกว่าคาราเต้เป็นศิลปะการต่อสู้ที่ถือกำเนิดจากโอกินาวะประเทศญี่ปุ่น
ซึ่งเป็นการผสมผสานระหว่างการต่อสู้ของชาวโอกินาวะและการต่อสู้ของชาวจีนจึงกลายมาเป็นคาราเต้
บอกไปเช่นนี้เห็นทีเธอจะถูกมองว่าเป็นตัวประหลาด เพราะชาวอินคาไม่รู้จักจีนและญี่ปุ่นแน่ๆ
แต่ถ้าบอกว่าชนเผ่าชันคา หรือชนเผ่ามันตา พวกเขาคงคุ้นเคยมากกว่า
“เจ้าสอนข้าหน่อยได้หรือไม่ ข้าอยากเก่งแบบเจ้า”
โทฮุยพูดขึ้น คนอื่นๆ ก็พากันพยักหน้าเห็นด้วย
ต่างขอให้หญิงสาวช่วยสอนวิธีการต่อสู้ด้วยท่าทางประหลาดของเธอ
“เอ่อ...ได้สิ แต่ต้องเป็นวันอื่นนะ
ช่วงนี้ข้ายังป่วยอยู่” หญิงสาวจำต้องรับปากอย่างเสียไม่ได้
อีกไม่กี่วันก็จะต้องออกรบแล้ว เดี๋ยวพวกเขาเหล่านี้ก็คงลืมกันไปเอง
หรือไม่เธอก็เอาชีวิตไปทิ้งไว้กลางสนามรบไม่ได้กลับมาสอนคาราเต้ให้พวกเขาอีก
“ยาปา เจ้าชายให้คนมาตามเจ้ากลับไป” องครักษ์หนุ่มเดินเข้ามาตามอย่างได้จังหวะพอดิบพอดี
หญิงสาวหายใจโล่ง เพราะถ้าถูกซักไซ้มากกว่านี้ เธอก็ไม่รู้ว่าจะเอาตัวรอดด้วยการโกหกไปได้อีกนานแค่ไหน
“ขอรับท่านวาคัค” ยาบารีรีบยืนขึ้นทันที
ก่อนจะหันไปกล่าวลาเพื่อนพลทหารด้วยกันแล้วรีบวิ่งตามองครักษ์หนุ่มไปทันที
|
|
|
|
|
|
ความคิดเห็น