ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เสน่หาอินคา

    ลำดับตอนที่ #31 : บทที่ 6 เฝ้ามอง [6]

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 656
      9
      13 ธ.ค. 60







     

     

     

    เสียงคมขวานดังกระทบไม้เป็นจังหวะหนักหน่วง โรปากำลังผ่าฟืนไว้ใช้สุมไฟในตอนกลางคืน โดยมียาบารีคอยเก็บเศษฟืนใส่กระสอบเอาไว้ หญิงสาวขยันทำงาน หนักเอาเบาสู้ แม้โรปาจะไม่เคยใช้งานเธอหนัก เพราะเห็นว่าเธอเป็นผู้หญิง แต่เธอก็พยายามแบ่งเบางานจากโรปาให้มากที่สุดเท่าที่เธอจะทำไหว นั่นเพราะสำนึกบุญคุณของโรปา หากไม่มีโรปาเธอก็ไม่รู้ว่าจะเป็นตายร้ายดีอย่างไร

     

    “โรปา...”

     

    เสียงยานคางของหญิงสาวทำให้โรปาชะงักไปเพียงครู่ ก่อนจะเงื้อขวานขึ้นผ่าฟืนต่อไป ลองได้ลากเสียงเช่นนี้คงมีอะไรอยากรู้อยากเห็นอีกละสิท่า...

     

    “ว่ายังไง สาวน้อยช่างสงสัย เจ้ามีอะไรจะถามข้าอย่างงั้นหรือ” โรปาวางขวานลงแล้วเดินมาทรุดตัวลงนั่งบนท่อนไม้ ยาบารีรีบวิ่งเข้าไปในบ้านก่อนจะนำน้ำสะอาดมาส่งให้โรปาดื่มอย่างเอาใจ

     

    “ดื่มน้ำก่อนสิคะโรปา จะได้ชุ่มคอ”

     

    “แน่สิ เพราะข้าคงต้องปากเปียกปากแฉะเล่านู่นนี่ให้เจ้าฟังจนเสียงแหบ” ชายวัยกลางคนดักคออย่างรู้ทัน ยาบารีไม่ได้ปฏิเสธแต่กลับหัวเราะคิกอย่างอารมณ์ดี

     

    “สมแล้วที่เป็นโรปา”

     

    “สมแล้วที่เป็นเจ้าเช่นกัน” โรปายิ้ม ส่ายหน้าน้อยๆ กับท่าทางทะเล้นแสนซนของหญิงสาว “ว่าแต่วันนี้เจ้าอยากรู้เรื่องอะไร”

     

    “ข้าอยากรู้ว่าข้าจะไปมาชูปิกชูได้อย่างไร ข้าหมายถึง...แท่นหินอินติฮวนตานาบนมาชูปิกชู” โรคคิดถึงบ้าน คิดถึงทุกคนทำให้หญิงสาวจะใช้ชีวิตแบบนี้ไม่ได้อีกต่อไป เธอรักคนที่นี่ก็จริง แต่แม่ของเธอ ย่าโรมีนา อาจารย์โซลาโน่ และเพื่อนๆ ที่เรียนหนังสือมาด้วยกัน ทุกคนคอยเธออยู่ เธอต้องกลับไป...

     

    “เจ้าถามข้าหลายครั้งแล้ว เด็กดื้อ...” โรปาส่ายหน้าอย่างเห็นขัน การจะเข้าไปถึงแท่นหินอินติฮวนตานาที่มาชูปิกชูนั้นย่อมแสดงว่าต้องเข้าไปในวัง ซึ่งชาวบ้านอย่างไรก็ไม่มีทางเข้าไปได้

     

    “ไม่มีหนทางอื่นเลยหรือคะโรปา”

     

    “แล้วทำไมเจ้าถึงอยากไปที่นั่นนัก” ชายวัยกลางคนย้อนถามด้วยความแปลกใจ เขาสังเกตว่าหญิงสาวพูดถึงมาชูปิกชูบ่อยมาก และทุกครั้งที่พูดถึงหญิงสาวมักทำหน้าละห้อยดูน่าสงสาร

     

    “ไม่มีอะไรหรอกค่ะ ข้าแค่อยากขึ้นไปเห็นก็เท่านั้นเอง เห็นใครต่างลือกันว่าพระราชวังที่นั่นงดงามมาก อ้อ...โรปาคะ ช่วยอธิบายเรื่องชนชั้นของชาวอินคาให้ข้าฟังหน่อยได้มั้ย ข้าอยากรู้เรื่องนี้มากทีเดียว” หญิงสาวบังคับเสียงให้เป็นปกติที่สุด ก่อนจะยิ้มกว้างแล้วชวนคุยเรื่องอื่นอย่างรวดเร็ว

     

    โรปาเห็นว่าหญิงสาวไม่อยากเล่า เขาก็มิได้คาดคั้น “ชาวอินคาแบ่งชนชั้นออกเป็น 6 กลุ่มด้วยกัน” เมื่อเขาเริ่มเล่า หญิงสาวก็จะขยับเข้ามาใกล้ๆ นั่งชันเข่าโดยใช้สองแขนกอดเข่าเอาไว้ แล้วเกยคางลงบนหัวเข่า ดวงตากลมโตจับจ้องมาที่เขาอย่างตั้งใจฟัง

     

    “ลำดับล่างสุด คือข้ากับเจ้า กลุ่มประชาชนทั่วไป ซึ่งก็คือ ชาวไร่ ชาวนา ชาวประมง คนเลี้ยงสัตว์ พ่อค้าแม่ค้า กลุ่มหัตถกรรมพื้นเมือง พลทหารและทหารเกณฑ์ ซึ่งกลุ่มนี้จะมีการศึกษาน้อย หากเป็นหญิงพรหมจรรย์หน้าตาดีก็จะได้รับคัดเลือกเข้าไปศึกษาเล่าเรียนเพื่อเป็นข้ารับใช้องค์สุริยเทพ ส่วนเด็กชายก็ต้องเข้ารับคัดเลือกเกณฑ์ทหาร”

     

    “รับใช้องค์สุริยเทพ!” ยาบารีทวนคำด้วยท่าทางตื่นเต้น “เช่นนี้ก็ต้องทำงานในวังใช่มั้ยคะโรปา”

     

    “ใช่ แต่ถ้าเจ้าหมายถึงวังที่มาชูปิกชูละก็ ข้ายืนยันไม่ได้ เพราะนางห้ามมีอยู่ทุกวัง แล้วแต่จะจัดสรรให้ใครไปอยู่ที่ไหน อีกอย่างนางห้ามต้องถือพรหมจรรย์เพื่อรับใช้องค์สุริยเทพ แต่หากองค์จักรพรรดิทรงพอพระทัย เจ้าก็อาจเลื่อนจากนางห้ามไปเป็นนางสนมแทน” โรปาดักคอหญิงสาวอย่างรู้ทัน

     

    “ข้า...ไม่ได้อยากเป็นนางห้ามเสียหน่อย” ความหวังดับวูบ หากต้องใช้เรือนกายเข้าแลกเพื่อที่จะได้กลับไปยังยุคของเธอ ไม่สิ! จะกลับได้จริงหรือเปล่าก็ไม่รู้ต่างหาก ดูท่าแล้วมันจะไม่ค่อยคุ้มเท่าใดนัก ไม่เป็นไร เป็นนางห้ามไม่ได้ เป็นอย่างอื่นคงได้ หญิงสาวปลุกปลอบใจตัวเองไม่ให้ท้อแท้ไปเสียก่อน

     

    “ลำดับที่ 5 คือกลุ่มช่างเฉพาะทาง เช่น ช่างไม้ ช่างโลหะ ช่างหิน นักดนตรี หรือนายทหารระดับหัวหน้าหมวดหมู่ สูงขึ้นไปอีกคือลำดับที่ 4 กลุ่มบริหารชั้นพิเศษ ได้แก่ คณะลูกขุน ผู้พิพากษา นายพล สถาปนิก นักบวชและข้าราชการ ชนกลุ่มนี้จะมีชีวิตสุขสบายขึ้นมาอีกหน่อย”

     

    “ในหมู่บ้านเราข้าไม่เห็นมีคนกลุ่มนี้เลยนี่คะโรปา”

     

    “ส่วนใหญ่อยู่ในเมืองหลวง ชาวนาอย่างเราต้องขยับออกมาชานเมือง อยู่ติดกับเรือกสวนไร่นาเพื่อดูแลผลผลิตของเรา”

     

    ยาบารีพยักหน้าช้าๆ จดจำสิ่งที่โรปาบอกอย่างครุ่นคิด

     

    “ลำดับที่ 3 คือผู้บริหารระดับสูงทั้งสี่ หรือเรียกว่าเอปัซ มักเป็นพระโอรสอดีตจักรพรรดิที่เสด็จสวรรคตแล้ว และจะแต่งตั้งคนใดคนหนึ่งจากสี่คนเป็นผู้บริหารชั้นสูง อย่างเจ้าชายทูปัก วีรา ที่เสด็จมาหมู่บ้านเราบ่อยๆ พระองค์ก็เป็นหนึ่งในผู้บริหารระดับสูงเอปัซเช่นกัน เพราะเป็นพระโอรสของอดีตจักรพรรดิวา นาคาแพ็ค”

     

    ยาบารีพยักหน้าน้อยๆ ทว่าเมื่อคิดถึงพระพักตร์คมคล้ามของเจ้าชายหนุ่ม หัวใจของหญิงสาวก็เต้นแรงขึ้นมาเสียดื้อๆ บ้าจริง! แค่ชื่อก็มีอิทธิพลต่อเธอถึงเพียงนี้เชียวหรือ

     

    “ลำดับที่ 2 คือนักบวชชั้นสูงและผู้บัญชาการกองทัพ มีความสำคัญรองจากลำดับที่ 1 ซึ่งก็คือ จักรพรรดิ และ พระนางโคยา นั่นเอง”

     

    พอได้ฟังครบทั้งหมดยาบารีก็รู้ว่า หนทางที่จะขึ้นไปยังแท่นหินอินติฮวนตานาบนมาชูปิกชูนั้นกลายเป็นศูนย์ แล้วเธอจะกลับบ้านยังไงดี ดวงตาคู่สวยกลอกไปมาอย่างครุ่นคิดก่อนจะถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่

     

    “เจ้าอยากรู้อะไรอีกมั้ยยาบารี”

     

    “ไม่...เอ่อ โรปาสอนข้าพูดราชาศัพท์หน่อยได้มั้ย ข้า เอ่อ...” หญิงสาวอึกอัก จะบอกโรปาได้อย่างไรว่าเธออยากพูดราชาศัพท์ได้เพราะจะได้คุยกับเจ้าชายทูปัก วีรา ได้อย่างถูกต้อง เพราะขืนใช้คำสามัญกับพระองค์บ่อยเข้า ใครมาได้ยินคงไม่ดีแน่

     

    “ได้สิ เจ้าควรรู้เอาไว้ประดับตัว” อะไรที่เป็นความรู้โรปาไม่หวง แม้จะบอกกับใครต่อใครว่ายาบารีเป็นหลาน แต่เขารักดั่งลูก การได้ยาบารีมาอยู่ด้วยทำให้เขารู้สึกเหมือนได้ลูกชายและลูกสาวมาในคราวเดียวกัน

     

    “ขอบคุณค่ะ โรปาดีกับข้าเหลือเกิน”

     

    “ข้าดีกับเจ้า นั่นก็เพราะเจ้าเป็นเด็กดี” เขาลูบผมดำสนิทของหญิงสาวอย่างเอ็นดู




    มีใครตามอ่านนิยายเรื่องนี้อยู่มั้ยน๊าาาาาาาาาาาาาา





    เสน่หาอินคา
    เพียงฤทัย
    www.mebmarket.com
    ยาบารี ยาบารี ที่รักของข้า? เสียงเรียกอันแสนคุ้นเคยของใครบางคนที่ ยาบารี หญิงสาวลูกครึ่งไทย-เปรู ฝันถึงตั้งแต่ครั้งแรกที่เดินทางมายังเปรูดินแดนต้นกำเนิดอาณาจักรอินคาที่เธอหลงใหล เสียงปริศนาดังชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ ทั้งในยามหลับและยามตื่นราวกับกำลังเรียกเธอให้ไปหา... แล้วปาฏิหาริย์ก็ชักนำให้เธอหลงกาลเวลาไปยังอาณาจักรอินคา ดินแดนแห่งทองคำเมื่อสี่ร้อยกว่าปีก่อน ด้วยสร้อยพระอาทิตย์ของสำคัญที่บิดาทิ้งไว้ให้ก่อนจะเสียชีวิต ณ ที่แห่งนี้ เธอได้พบและผูกพันหัวใจไว้กับเจ้าชายทูปัก วีรา เจ้าชายหมอผู้สูงศักดิ์ ท่ามกลางสงครามและยุคสมัยแห่งการล่มสลายของอาณาจักรที่รุ่งเรือง หญิงสาวผู้มาจากอนาคตและเจ้าชายหนุ่มจะร่วมกันแก้ไขหน้าประวัติศาสตร์ได้หรือไม่ แล้วเธอจะหาทางกลับมายังปัจจุบันได้อย่างไร เมื่อยังมีสายสัมพันธ์รักอันยิ่งใหญ่กับชายสูงศักดิ์เกี่ยวกระหวัดให้หัวใจมิอาจลืมเลือน ***ปาฏิหาริย์ที่เกิดขึ้นจากหัวใจรัก นำพาให้คนทั้งสองได้พบเพื่อจาก และพรากเพื่อเจอ ตราบใดที่หัวใจทั้งสองดวงยังคงร้อยรัดด้วยสายใยแห่งรักและผูกพัน ปาฏิหาริย์จะชักพาหัวใจทั้งสองดวงให้กลับมาเคียงคู่กันในสักวัน

    ซากุระผลิที่กลางใจ
    เพียงฤทัย
    www.mebmarket.com
    หลิวหลุดเข้าไปใน 'ยุคสมัยเฮอัน' ซึ่งย้อนอดีตไปถึงพันปีเหตุการณ์กลับตาลปัตรเมื่อเธอกลายเป็นคุณหนูของคฤหาสน์อาจิไซ บุตรีขององคมนตรีชั้นเอกผู้เป็นข้ารองบาทขององจักรพรรดิในขณะเรื่องราวผิดฝาผิดตัวสร้างความโกลาหลวุ่นวายหัวใจของหญิงสาวก็เบ่งบานไม่ต่างจากดอกซากุระ

    ดวงใจปฏิพัทธ์
    สะมะเรีย
    www.mebmarket.com
    เลือดต้องล้างด้วยเลือด จักต้องแผดเผาศัตรูให้พินาศย่อยยับแต่เหตุใดเล่า... เมื่อเห็นนางเจ็บ เขากลับเจ็บยิ่งกว่า! องครักษ์หนุ่มนัยน์ตาสีน้ำเงิน ผู้ที่เข้ามาทำให้โลกของเจ้าหญิงครีษมาสดใส นางหลงรักเขาอย่างหมดหัวใจ ทว่าการที่องครักษ์หนุ่มเข้ามาใกล้ชิดนางนั้นกลับเต็มไปด้วยเงื่อนงำ... เมื่อองครักษ์หนุ่มคืนสู่ศักดิ์อันแท้จริง เขาคือเจ้าชายภานรินทร์ที่หายสาบสูญ เขากลับมาอีกครั้งเพื่อขจัดความอยุติธรรม พร่าเกียรติและศักดิ์ศรีเจ้าหญิงผู้สง่างามให้พลิกผันเป็นเพียงนางบำเรอชั้นต่ำ!นาง...เจ็บเจียนตายแต่หัวใจกลับรักเขาเขา…แค้นฝังใจแต่มิอาจปล่อยมือจากนางบทสรุปความรักจะเป็นเช่นไร...รักฤาชัง

    มายามรณะ
    รางนาก
    www.mebmarket.com
    ภาพหลอน! ความกลัว! ความตาย! และความสิ้นหวัง! ประดังเข้าสาดซัดนางเอกสาวดาวรุ่งราวกับห่าฝนในคืนเดือนมืด เมื่อมือที่มองไม่เห็นยื่นมากระชากชีวิตของหญิงสาวให้เปลี่ยนไปตลอดกาล...

    มะนาวซ่อนหวาน
    สะมะเรีย
    www.mebmarket.com
    ใครๆ ต่างพากันตั้งฉายาให้ มะนาว ว่า...ไฮโซขาวีน และ ไฮโซมือตบแต่...อย่าได้แคร์สื่อ เธอยังคงสวย เริด เชิด หยิ่งจนกระทั่งผู้เป็นบิดาต้องงัดไม้เด็ดมาปราบลูกสาวหัวดื้อทางด้าน เตชธรรม ถึงกับกุมขมับเมื่อได้รับมอบหมายให้ดัดนิสัยยายตัวร้ายที่เขาให้คำจัดความว่าตั้งแต่แรกเห็นว่า‘ชอบเที่ยวกลางคืน ยั่วยวนผู้ชาย ไม่รู้จักรักนวลสงวนตัว’ชายหนุ่มจึงงัดสารพัดวิธีที่มั่นใจว่าได้ผลร้อยเปอร์เซ็นต์ออกมาจัดการทว่า...ผิดคาด เมื่อมะนาวลูกนี้ไม่ได้มีดีแค่ความเปรี้ยวซ่าอย่างที่คิดและกว่าจะรู้ตัวว่า...ผิดแผน หัวใจก็ลิ้มรสหวานจนถอนตัวถอนใจไม่ขึ้นเสียแล้ว

    มนตราสีกุหลาบ
    สะมะเรีย
    www.mebmarket.com
    มนตราแห่งเพตรา ดลบันดาลให้หัวใจสองดวงผูกพัน ก่อเกิดเป็นความรักร้อนแรงจนแม้แต่แสงจากดวงอาทิตย์ก็มิอาจเทียบ หลังจากผิดหวังในความรัก ยี่สุ่น...หญิงสาววัยเบญจเพสจึงตัดสินใจเดินทางมายังจอร์แดนตามคำชักชวนของมารดา พร้อมความเชื่อมั่นว่าสักวันหนึ่งเธอจะได้พบรักแท้ และเมื่อเธอมาถึงนครเพตรา?นครศิลาสีชมพู เธอก็ได้พบรัฟฟาน หนุ่มจอร์แดนมาดเข้ม เธอหลงคิดว่าเขาเป็นไกด์พื้นเมืองจึงใช้งานเขาสารพัด รัฟฟาน... ตำรวจสากลผู้ได้รับมอบหมายให้มาสืบหาแหล่งผลิตยาเสพติดที่นครเพตรา ยินยอมเป็นไกด์ให้ยี่สุ่นเพราะต้องการปลอมตัวให้แนบเนียน ไม่เป็นที่สงสัยของคนร้าย แต่นักท่องเที่ยวสาวกลับทำให้เขาต้องคิดทบทวนว่าเขาคิดผิดหรือไม่ที่ยอมเป็นไกด์ให้เธอ เพราะเธอเปิ่นและบ้าดีเดือดชนิดไม่มีใครเหมือน ซ้ำยังทำให้หัวใจเขาหวั่นไหว ท่ามกลางทะเลทรายอันร้อนระอุ ความรักได้ก่อเกิดขึ้นจากความใกล้ชิด พร้อมกับอันตรายที่คืบคลานเข้ามาให้เขากับเธอร่วมกันฟันฝ่า เพื่อพิสูจน์ว่ารักแท้มีอยู่จริง +++++++++++++“ผมต้องทำยังไงคุณถึงจะเชื่อว่าผมไม่ได้ตั้งใจลวนลามคุณ ผมแค่เข้ามาปลุกคุณไปกินอาหารเย็น” รัฟฟานหัวเสียไม่น้อย นี่ล่ะเขาถึงไม่อยากมีแฟนเพราะรำคาญผู้หญิงที่ชอบพูดไม่รู้เรื่อง เอะอะก็โวยวายเอาไว้ก่อนไม่เคยฟังเหตุผลอะไรเลยสักอย่างเดียว“ฉันไม่เชื่อ”“ถ้าอย่างนั้นผมจะทำให้ดู”“คุณ...”รัฟฟานไม่เปิดโอกาสให้หญิงสาวโวยวายไปมากกว่านี้ เขาปิดปากอิ่มได้รูปด้วยริมฝีปากเรียวอย่างรวดเร็ว ยี่สุ่นพยายามโวยวายแต่กลับเป็นการเปิดเรียวปากให้ชายหนุ่มแทรกลิ้นร้อนเข้าไปตวัดเร้าควานหาความหอมหวานจากปากนุ่มสีกุหลาบ ยี่สุ่นสั่นไปหมดทั้งตัว หัวสมองหนักอึ้ง รู้สึกเหมือนกำลังจะขาดอากาศหายใจ แต่แล้วเขาก็เติมเต็มลมหายใจให้เธอพร้อมๆ กับฉกฉวยมันไป สลับไปมาจนเธอชาวาบจนถึงปลายเท้า แข้งขาอ่อนแรงจนแทบยืนไม่ติดพื้น เมื่อเขาบดจูบเร่าร้อนยาวนานจนเธอเผลอกอดตอบเขาและเผลอ...จูบตอบเขาอย่างไร้เดียงสารัฟฟานผละออกจากริมฝีปากอิ่มอย่างเสียดาย ยี่สุ่นทรุดฮวบลงไปกองที่พื้นอย่างไร้เรี่ยวแรง คิดหาคำพูดหรือคำด่าทอไกด์หนุ่มไม่ถูก นั่งบื้อใบ้หัวสมองมึนงงด้วยความสับสน“คราวนี้เชื่อหรือยังว่าผมมาปลุกคุณให้ตื่นไปรับประทานอาหารเย็น ไม่ได้ตั้งใจเข้ามาลวนลาม เพราะถ้าผมตั้งใจจะทำ...ผมจะทำแบบเมื่อครู่นี้ เอาละ...อีกสิบห้านาทีผมจะกลับเข้ามารับ อย่าช้าล่ะเพราะที่นี่จัดอาหารเย็นแบบบุฟเฟต์หากเกินเวลาไปมากกว่านี้อาจไม่เหลืออะไรให้คุณกิน” พูดจบเขาก็เดินออกไปทิ้งให้หญิงสาวนั่งหน้าแดงก่ำจูบแรกของฉัน...

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×