คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #31 : บทที่ 6 เฝ้ามอง [6]
เสียงคมขวานดังกระทบไม้เป็นจังหวะหนักหน่วง
โรปากำลังผ่าฟืนไว้ใช้สุมไฟในตอนกลางคืน โดยมียาบารีคอยเก็บเศษฟืนใส่กระสอบเอาไว้
หญิงสาวขยันทำงาน หนักเอาเบาสู้ แม้โรปาจะไม่เคยใช้งานเธอหนัก
เพราะเห็นว่าเธอเป็นผู้หญิง
แต่เธอก็พยายามแบ่งเบางานจากโรปาให้มากที่สุดเท่าที่เธอจะทำไหว นั่นเพราะสำนึกบุญคุณของโรปา
หากไม่มีโรปาเธอก็ไม่รู้ว่าจะเป็นตายร้ายดีอย่างไร
“โรปา...”
เสียงยานคางของหญิงสาวทำให้โรปาชะงักไปเพียงครู่
ก่อนจะเงื้อขวานขึ้นผ่าฟืนต่อไป ลองได้ลากเสียงเช่นนี้คงมีอะไรอยากรู้อยากเห็นอีกละสิท่า...
“ว่ายังไง สาวน้อยช่างสงสัย
เจ้ามีอะไรจะถามข้าอย่างงั้นหรือ” โรปาวางขวานลงแล้วเดินมาทรุดตัวลงนั่งบนท่อนไม้
ยาบารีรีบวิ่งเข้าไปในบ้านก่อนจะนำน้ำสะอาดมาส่งให้โรปาดื่มอย่างเอาใจ
“ดื่มน้ำก่อนสิคะโรปา จะได้ชุ่มคอ”
“แน่สิ เพราะข้าคงต้องปากเปียกปากแฉะเล่านู่นนี่ให้เจ้าฟังจนเสียงแหบ”
ชายวัยกลางคนดักคออย่างรู้ทัน ยาบารีไม่ได้ปฏิเสธแต่กลับหัวเราะคิกอย่างอารมณ์ดี
“สมแล้วที่เป็นโรปา”
“สมแล้วที่เป็นเจ้าเช่นกัน”
โรปายิ้ม ส่ายหน้าน้อยๆ กับท่าทางทะเล้นแสนซนของหญิงสาว “ว่าแต่วันนี้เจ้าอยากรู้เรื่องอะไร”
“ข้าอยากรู้ว่าข้าจะไปมาชูปิกชูได้อย่างไร
ข้าหมายถึง...แท่นหินอินติฮวนตานาบนมาชูปิกชู” โรคคิดถึงบ้าน
คิดถึงทุกคนทำให้หญิงสาวจะใช้ชีวิตแบบนี้ไม่ได้อีกต่อไป เธอรักคนที่นี่ก็จริง
แต่แม่ของเธอ ย่าโรมีนา อาจารย์โซลาโน่ และเพื่อนๆ ที่เรียนหนังสือมาด้วยกัน
ทุกคนคอยเธออยู่ เธอต้องกลับไป...
“เจ้าถามข้าหลายครั้งแล้ว เด็กดื้อ...”
โรปาส่ายหน้าอย่างเห็นขัน
การจะเข้าไปถึงแท่นหินอินติฮวนตานาที่มาชูปิกชูนั้นย่อมแสดงว่าต้องเข้าไปในวัง
ซึ่งชาวบ้านอย่างไรก็ไม่มีทางเข้าไปได้
“ไม่มีหนทางอื่นเลยหรือคะโรปา”
“แล้วทำไมเจ้าถึงอยากไปที่นั่นนัก”
ชายวัยกลางคนย้อนถามด้วยความแปลกใจ เขาสังเกตว่าหญิงสาวพูดถึงมาชูปิกชูบ่อยมาก
และทุกครั้งที่พูดถึงหญิงสาวมักทำหน้าละห้อยดูน่าสงสาร
“ไม่มีอะไรหรอกค่ะ
ข้าแค่อยากขึ้นไปเห็นก็เท่านั้นเอง เห็นใครต่างลือกันว่าพระราชวังที่นั่นงดงามมาก
อ้อ...โรปาคะ ช่วยอธิบายเรื่องชนชั้นของชาวอินคาให้ข้าฟังหน่อยได้มั้ย ข้าอยากรู้เรื่องนี้มากทีเดียว”
หญิงสาวบังคับเสียงให้เป็นปกติที่สุด
ก่อนจะยิ้มกว้างแล้วชวนคุยเรื่องอื่นอย่างรวดเร็ว
โรปาเห็นว่าหญิงสาวไม่อยากเล่า
เขาก็มิได้คาดคั้น “ชาวอินคาแบ่งชนชั้นออกเป็น 6 กลุ่มด้วยกัน” เมื่อเขาเริ่มเล่า
หญิงสาวก็จะขยับเข้ามาใกล้ๆ นั่งชันเข่าโดยใช้สองแขนกอดเข่าเอาไว้
แล้วเกยคางลงบนหัวเข่า ดวงตากลมโตจับจ้องมาที่เขาอย่างตั้งใจฟัง
“ลำดับล่างสุด คือข้ากับเจ้า
กลุ่มประชาชนทั่วไป ซึ่งก็คือ ชาวไร่ ชาวนา ชาวประมง คนเลี้ยงสัตว์ พ่อค้าแม่ค้า
กลุ่มหัตถกรรมพื้นเมือง พลทหารและทหารเกณฑ์ ซึ่งกลุ่มนี้จะมีการศึกษาน้อย
หากเป็นหญิงพรหมจรรย์หน้าตาดีก็จะได้รับคัดเลือกเข้าไปศึกษาเล่าเรียนเพื่อเป็นข้ารับใช้องค์สุริยเทพ
ส่วนเด็กชายก็ต้องเข้ารับคัดเลือกเกณฑ์ทหาร”
“รับใช้องค์สุริยเทพ!”
ยาบารีทวนคำด้วยท่าทางตื่นเต้น “เช่นนี้ก็ต้องทำงานในวังใช่มั้ยคะโรปา”
“ใช่ แต่ถ้าเจ้าหมายถึงวังที่มาชูปิกชูละก็
ข้ายืนยันไม่ได้ เพราะนางห้ามมีอยู่ทุกวัง แล้วแต่จะจัดสรรให้ใครไปอยู่ที่ไหน
อีกอย่างนางห้ามต้องถือพรหมจรรย์เพื่อรับใช้องค์สุริยเทพ
แต่หากองค์จักรพรรดิทรงพอพระทัย เจ้าก็อาจเลื่อนจากนางห้ามไปเป็นนางสนมแทน”
โรปาดักคอหญิงสาวอย่างรู้ทัน
“ข้า...ไม่ได้อยากเป็นนางห้ามเสียหน่อย”
ความหวังดับวูบ หากต้องใช้เรือนกายเข้าแลกเพื่อที่จะได้กลับไปยังยุคของเธอ ไม่สิ!
จะกลับได้จริงหรือเปล่าก็ไม่รู้ต่างหาก ดูท่าแล้วมันจะไม่ค่อยคุ้มเท่าใดนัก
ไม่เป็นไร เป็นนางห้ามไม่ได้ เป็นอย่างอื่นคงได้ หญิงสาวปลุกปลอบใจตัวเองไม่ให้ท้อแท้ไปเสียก่อน
“ลำดับที่ 5 คือกลุ่มช่างเฉพาะทาง
เช่น ช่างไม้ ช่างโลหะ ช่างหิน นักดนตรี หรือนายทหารระดับหัวหน้าหมวดหมู่
สูงขึ้นไปอีกคือลำดับที่ 4 กลุ่มบริหารชั้นพิเศษ ได้แก่ คณะลูกขุน ผู้พิพากษา
นายพล สถาปนิก นักบวชและข้าราชการ ชนกลุ่มนี้จะมีชีวิตสุขสบายขึ้นมาอีกหน่อย”
“ในหมู่บ้านเราข้าไม่เห็นมีคนกลุ่มนี้เลยนี่คะโรปา”
“ส่วนใหญ่อยู่ในเมืองหลวง
ชาวนาอย่างเราต้องขยับออกมาชานเมือง
อยู่ติดกับเรือกสวนไร่นาเพื่อดูแลผลผลิตของเรา”
ยาบารีพยักหน้าช้าๆ จดจำสิ่งที่โรปาบอกอย่างครุ่นคิด
“ลำดับที่ 3 คือผู้บริหารระดับสูงทั้งสี่
หรือเรียกว่าเอปัซ มักเป็นพระโอรสอดีตจักรพรรดิที่เสด็จสวรรคตแล้ว
และจะแต่งตั้งคนใดคนหนึ่งจากสี่คนเป็นผู้บริหารชั้นสูง อย่างเจ้าชายทูปัก วีรา ที่เสด็จมาหมู่บ้านเราบ่อยๆ
พระองค์ก็เป็นหนึ่งในผู้บริหารระดับสูงเอปัซเช่นกัน เพราะเป็นพระโอรสของอดีตจักรพรรดิวา
นาคาแพ็ค”
ยาบารีพยักหน้าน้อยๆ ทว่าเมื่อคิดถึงพระพักตร์คมคล้ามของเจ้าชายหนุ่ม
หัวใจของหญิงสาวก็เต้นแรงขึ้นมาเสียดื้อๆ บ้าจริง!
แค่ชื่อก็มีอิทธิพลต่อเธอถึงเพียงนี้เชียวหรือ
“ลำดับที่ 2
คือนักบวชชั้นสูงและผู้บัญชาการกองทัพ มีความสำคัญรองจากลำดับที่ 1 ซึ่งก็คือ
จักรพรรดิ และ พระนางโคยา นั่นเอง”
พอได้ฟังครบทั้งหมดยาบารีก็รู้ว่า
หนทางที่จะขึ้นไปยังแท่นหินอินติฮวนตานาบนมาชูปิกชูนั้นกลายเป็นศูนย์
แล้วเธอจะกลับบ้านยังไงดี
ดวงตาคู่สวยกลอกไปมาอย่างครุ่นคิดก่อนจะถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่
“เจ้าอยากรู้อะไรอีกมั้ยยาบารี”
“ไม่...เอ่อ
โรปาสอนข้าพูดราชาศัพท์หน่อยได้มั้ย ข้า เอ่อ...” หญิงสาวอึกอัก
จะบอกโรปาได้อย่างไรว่าเธออยากพูดราชาศัพท์ได้เพราะจะได้คุยกับเจ้าชายทูปัก วีรา ได้อย่างถูกต้อง
เพราะขืนใช้คำสามัญกับพระองค์บ่อยเข้า ใครมาได้ยินคงไม่ดีแน่
“ได้สิ เจ้าควรรู้เอาไว้ประดับตัว”
อะไรที่เป็นความรู้โรปาไม่หวง แม้จะบอกกับใครต่อใครว่ายาบารีเป็นหลาน
แต่เขารักดั่งลูก การได้ยาบารีมาอยู่ด้วยทำให้เขารู้สึกเหมือนได้ลูกชายและลูกสาวมาในคราวเดียวกัน
“ขอบคุณค่ะ โรปาดีกับข้าเหลือเกิน”
“ข้าดีกับเจ้า
นั่นก็เพราะเจ้าเป็นเด็กดี” เขาลูบผมดำสนิทของหญิงสาวอย่างเอ็นดู
|
|
|
|
|
|
ความคิดเห็น