ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เสน่หาอินคา

    ลำดับตอนที่ #18 : บทที่ 4 หลงกาลเวลา [3]

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 698
      6
      22 พ.ย. 60









     

     

    โรปากลับมาพร้อมสตูข้าวโพดและมันเผา เขาวางลงบนพื้นแล้วทรุดตัวลงนั่ง “มาสิยาบารี มากินอาหาร” เขากวักมือเรียกหญิงสาว ยาบารีเดินมานั่งตรงข้ามโรปาแล้วมองมันเผากลิ่นหอมน่ารับประทาน สตูในถ้วยดินเผาขนาดเล็กสองถ้วย โรปาจัดการกินมันเผาด้วยมือ แล้วยกถ้วยสตูซดด้วยท่าทางเอร็ดอร่อย ยาบารีอยากได้ช้อนแต่คิดว่าคงไม่มีแน่ๆ เธอจึงหยิบมันเผาขึ้นมากินบ้าง ไม่อยากเรื่องมากร้องหานู้นนี้จนเจ้าของบ้านต้องลำบากใจ

     

    เมื่อรับประทานอาหารเสร็จเรียบร้อยโรปาก็ปูเสื่อให้หญิงสาว และส่งผ้าห่มขนสัตว์ให้ โดยเขาปูเสื่อในส่วนของตนเองอีกมุมหนึ่ง

     

    “ขอบคุณค่ะโรปา”

     

    ชายวัยกลางคนไม่รู้หรอกว่าหญิงสาวพูดอะไร เขายิ้มอวดฟันขาวตัดกับผิวสีแทนไหม้ ก่อนจะล้มตัวลงนอนไม่นานก็ได้ยินเสียงกรนบ่งบอกว่าโรปาหลับแล้ว ทว่ายาบารีนอนไม่หลับ อาจเพราะแปลกที่ และเสื่อนอนที่สานจากกกหรือจากพืชชนิดไหนหญิงสาวก็ไม่แน่ใจนัก มันแข็งจนเธอรู้สึกไม่สบายตัว เมื่อนอนไม่หลับเธอจึงค่อยๆ ย่องออกจากบ้าน

     

    “โห...ดาวสวยมาก”

     

    หญิงสาวแหงนหน้ามองท้องฟ้าด้วยความตื่นตาตื่นใจ เมื่อท้องฟ้ามืดสนิท มีดวงดาวทอแสงระยิบระยับเต็มผืนฟ้าจนตาพร่า ลมเย็นพัดหวีดหวิวหอบไอหนาวมาปะทะร่างบางจนเธอต้องห่อไหล่เข้าหากัน ตอนกลางวันร้อนจนแสบผิว ทว่าตกกลางคืนกลับหนาวยะเยือก เธอออกเดินดูบ้านเรือนที่มีหน้าตาเหมือนกันหมดได้เพียงไม่นานก็ต้องล่าถอยกลับเข้าไปในบ้าน เพราะอากาศหนาวจนทำให้เธอแทบก้าวขาเดินไม่ไหว

     

    คนที่หมู่บ้านนี้แปลกมาก พอตกดึกพระอาทิตย์ลาลับก็พากันเข้านอนดับไฟเงียบ

     

    แปลก...แปลกมากจริงๆ แปลกชนิดที่ว่าไม่มีแม้กระทั่งไฟฟ้าและน้ำประปา ต่อให้เป็นหมู่บ้านอนุรักษ์ยังไงก็ไม่น่าจะต้องจำลองให้เหมือนถึงขนาดนี้เลย...

     

     

     

    “ถ้าไม่อยากตาย เจ้าต้องหุบปาก ห้ามพูดแม้แต่คำเดียว เข้าใจหรือไม่”

     

    ชายวัยกลางคนมองหญิงสาวใส่เสื้อผ้าของชาวอินคาอย่างพอใจ ชุดยาวเลยเข่าสีน้ำตาลแก่ไม่มีลวดลาย ผ้าคาดเอวสีดำ และเสื้อคลุมสีเลือดหมู ศีรษะคลุมด้วยผ้าพับแล้วพาดไปทางด้านหลังอย่างสตรีชาวอินคาทั่วไป กอปรกับหน้าตาคมขำผิวเนียนละเอียดสีน้ำผึ้งส่งให้หญิงสาวสวยหมดจดจนชายวัยกลางคนนึกเอ็นดู หากบุตรสาวของเขายังมีชีวิตอยู่ก็คงรุ่นราวคราวเดียวกับแม่หนูคนนี้

     

    โรปาหยิบถ่านมาถูที่ฝ่ามือก่อนจะเดินไปหาหญิงสาว ที่ยังยืนหมุนตัวไปมาก้มมองชุดตัวเองด้วยท่าทางประดักประเดิด เพราะไม่เคยใส่ชุดชาวอินคามาก่อน ยาบารีเงยหน้าขึ้นเมื่อโรปาเดินมาหยุดยืนอยู่ตรงหน้า ทันทีที่หญิงสาวเงยหน้าชายวัยกลางคนก็ลูบมือลงบนแก้มทั้งสองข้างของหญิงสาวอย่างรวดเร็ว

     

    “โรปา คุณจะทำอะไรน่ะ”

     

    หญิงสาวผงะแล้วถอยกรูด แม้จะไว้ใจชายวัยกลางคนตรงหน้า เพราะเมื่อคืนเขาก็ไม่ได้มีท่าทางลวนลามเธอแม้แต่น้อย แต่การที่จู่ๆ เขายื่นมือมาลูบแก้มเธอเช่นนี้ก็ทำให้หญิงสาวตกใจไม่น้อย แต่เมื่อยกมือขึ้นลูบหน้าตัวเองก็ต้องตกใจเมื่อมีคราบดำของถ่านติดมือออกมา หญิงสาวทำท่าจะลบออกแต่โรปากลับดึงมือเธอไว้ แล้วส่ายหน้าเป็นเชิงห้าม แม้ยาบารีจะไม่เข้าใจการกระทำหลายๆ อย่างของโรปาแต่เธอก็ไม่ได้ขัดขืน เพราะโรปาช่วยเหลือเธอหลายอย่าง เธอควรทำตามที่โรปาบอก

     

    โรปาหัวเราะร่วนเมื่อเห็นหน้าตาตื่นตระหนกของหญิงสาว ใบหน้าดำจากถ่านทำให้โรปาพยักหน้าน้อยๆ

     

    “ห้ามพูด” ชายวัยกลางคนเอามือปิดปากแล้วยกมือส่ายเป็นเชิงห้าม เมื่อเห็นหญิงสาวทำหน้าสงสัย เขาจึงทำมือเชือดคอตนเอง

     

    “ไม่ให้ฉันพูดหรือคะ” หญิงสาวยกมือขึ้นปิดปากตัวเอง เมื่อเห็นโรปาพยักหน้าแรงๆ หลายครั้งเธอก็พยักหน้าบ้าง

     

    “แบบนี้เจ้าก็สามารถเดินทางร่วมกับข้าได้โดยไม่มีภัย”

     

    หากไม่เปล่งเสียงภาษาประหลาดออกมาก็คงไม่มีใครรู้ว่าหญิงสาวเป็นชาวชันคา แค่นี้การเดินทางก็คงดำเนินไปด้วยดี แม้โรปาจะแปลกใจเพราะเขาพอจะฟังภาษาของชาวชันคาออกบ้างบางคำ แต่กลับไม่เข้าใจในสิ่งที่หญิงสาวพูดเลยสักคำ ไม่รู้ว่าหญิงสาวมาจากส่วนไหนของชันคา ภาษาถึงได้แตกต่างกันถึงเพียงนี้

     

    โรปามีบ้านอยู่กุสโก สองสามเดือนเขาจึงจะเดินทางมาหาน้องชายที่มาชูปิกชูเสียที ชายวัยกลางคนเตรียมอาหารและเสบียงพร้อมสรรพสำหรับสองชีวิตที่ต้องเดินทางด้วยเท้าเพื่อเข้าตัวเมืองกุสโก ซึ่งอาจต้องใช้เวลาร่วมอาทิตย์ หรือไม่ก็อาจทั้งชีวิต หากเป็นไข้ป่าเสียชีวิตเสียก่อน

     

    “เราต้องเดินไปขึ้นรถอีกไกลมั้ยคะโรปา” หญิงสาวเอ่ยถาม เมื่อรู้สึกว่าตนเดินมาเป็นระยะเวลาหลายชั่วโมงแล้ว แต่หญิงสาวกลับไม่เห็นถนนคอนกรีตหรือรถมินิบัสวิ่งสวนไปมาสักคัน แล้วอย่างนี้เธอจะต้องเดินอีกนานแค่ไหนจึงจะถึงสถานีรถไฟ เพราะเธอจำได้ว่าตอนที่เธอเดินทางมาที่นี่เธอต้องนั่งรถมินิบัส ต่อรถไฟ และลงท้ายด้วยมินิบัสอีกครั้งเพื่อไต่ขึ้นเขาไปเยือนมาชูปิกชู

     

    โรปาไม่ตอบ แต่นานๆ ครั้งเขาจะชี้ต้นไม้หรือสิ่งของข้างทางให้หญิงสาวดู แล้วสอนหญิงสาวพูดภาษาของเขา ยาบารีเห็นว่ามันไม่ได้เสียหายอะไรหากเธอจะเรียนรู้ภาษาท้องถิ่นเอาไว้บ้าง แต่ที่เธอกังวลใจก็คือ ทำไมเธอจึงไม่เห็นนักท่องเที่ยวเลยสักคน ผู้คนที่หญิงสาวเดินผ่านล้วนเป็นคนพื้นเมือง ทักทายกันด้วยภาษาที่เธอไม่เข้าใจ

     

     








    เสน่หาอินคา
    เพียงฤทัย
    www.mebmarket.com
    ยาบารี ยาบารี ที่รักของข้า? เสียงเรียกอันแสนคุ้นเคยของใครบางคนที่ ยาบารี หญิงสาวลูกครึ่งไทย-เปรู ฝันถึงตั้งแต่ครั้งแรกที่เดินทางมายังเปรูดินแดนต้นกำเนิดอาณาจักรอินคาที่เธอหลงใหล เสียงปริศนาดังชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ ทั้งในยามหลับและยามตื่นราวกับกำลังเรียกเธอให้ไปหา... แล้วปาฏิหาริย์ก็ชักนำให้เธอหลงกาลเวลาไปยังอาณาจักรอินคา ดินแดนแห่งทองคำเมื่อสี่ร้อยกว่าปีก่อน ด้วยสร้อยพระอาทิตย์ของสำคัญที่บิดาทิ้งไว้ให้ก่อนจะเสียชีวิต ณ ที่แห่งนี้ เธอได้พบและผูกพันหัวใจไว้กับเจ้าชายทูปัก วีรา เจ้าชายหมอผู้สูงศักดิ์ ท่ามกลางสงครามและยุคสมัยแห่งการล่มสลายของอาณาจักรที่รุ่งเรือง หญิงสาวผู้มาจากอนาคตและเจ้าชายหนุ่มจะร่วมกันแก้ไขหน้าประวัติศาสตร์ได้หรือไม่ แล้วเธอจะหาทางกลับมายังปัจจุบันได้อย่างไร เมื่อยังมีสายสัมพันธ์รักอันยิ่งใหญ่กับชายสูงศักดิ์เกี่ยวกระหวัดให้หัวใจมิอาจลืมเลือน ***ปาฏิหาริย์ที่เกิดขึ้นจากหัวใจรัก นำพาให้คนทั้งสองได้พบเพื่อจาก และพรากเพื่อเจอ ตราบใดที่หัวใจทั้งสองดวงยังคงร้อยรัดด้วยสายใยแห่งรักและผูกพัน ปาฏิหาริย์จะชักพาหัวใจทั้งสองดวงให้กลับมาเคียงคู่กันในสักวัน

    ซากุระผลิที่กลางใจ
    เพียงฤทัย
    www.mebmarket.com
    หลิวหลุดเข้าไปใน 'ยุคสมัยเฮอัน' ซึ่งย้อนอดีตไปถึงพันปีเหตุการณ์กลับตาลปัตรเมื่อเธอกลายเป็นคุณหนูของคฤหาสน์อาจิไซ บุตรีขององคมนตรีชั้นเอกผู้เป็นข้ารองบาทขององจักรพรรดิในขณะเรื่องราวผิดฝาผิดตัวสร้างความโกลาหลวุ่นวายหัวใจของหญิงสาวก็เบ่งบานไม่ต่างจากดอกซากุระ

    ดวงใจปฏิพัทธ์
    สะมะเรีย
    www.mebmarket.com
    เลือดต้องล้างด้วยเลือด จักต้องแผดเผาศัตรูให้พินาศย่อยยับแต่เหตุใดเล่า... เมื่อเห็นนางเจ็บ เขากลับเจ็บยิ่งกว่า! องครักษ์หนุ่มนัยน์ตาสีน้ำเงิน ผู้ที่เข้ามาทำให้โลกของเจ้าหญิงครีษมาสดใส นางหลงรักเขาอย่างหมดหัวใจ ทว่าการที่องครักษ์หนุ่มเข้ามาใกล้ชิดนางนั้นกลับเต็มไปด้วยเงื่อนงำ... เมื่อองครักษ์หนุ่มคืนสู่ศักดิ์อันแท้จริง เขาคือเจ้าชายภานรินทร์ที่หายสาบสูญ เขากลับมาอีกครั้งเพื่อขจัดความอยุติธรรม พร่าเกียรติและศักดิ์ศรีเจ้าหญิงผู้สง่างามให้พลิกผันเป็นเพียงนางบำเรอชั้นต่ำ!นาง...เจ็บเจียนตายแต่หัวใจกลับรักเขาเขา…แค้นฝังใจแต่มิอาจปล่อยมือจากนางบทสรุปความรักจะเป็นเช่นไร...รักฤาชัง

    มายามรณะ
    รางนาก
    www.mebmarket.com
    ภาพหลอน! ความกลัว! ความตาย! และความสิ้นหวัง! ประดังเข้าสาดซัดนางเอกสาวดาวรุ่งราวกับห่าฝนในคืนเดือนมืด เมื่อมือที่มองไม่เห็นยื่นมากระชากชีวิตของหญิงสาวให้เปลี่ยนไปตลอดกาล...

    มะนาวซ่อนหวาน
    สะมะเรีย
    www.mebmarket.com
    ใครๆ ต่างพากันตั้งฉายาให้ มะนาว ว่า...ไฮโซขาวีน และ ไฮโซมือตบแต่...อย่าได้แคร์สื่อ เธอยังคงสวย เริด เชิด หยิ่งจนกระทั่งผู้เป็นบิดาต้องงัดไม้เด็ดมาปราบลูกสาวหัวดื้อทางด้าน เตชธรรม ถึงกับกุมขมับเมื่อได้รับมอบหมายให้ดัดนิสัยยายตัวร้ายที่เขาให้คำจัดความว่าตั้งแต่แรกเห็นว่า‘ชอบเที่ยวกลางคืน ยั่วยวนผู้ชาย ไม่รู้จักรักนวลสงวนตัว’ชายหนุ่มจึงงัดสารพัดวิธีที่มั่นใจว่าได้ผลร้อยเปอร์เซ็นต์ออกมาจัดการทว่า...ผิดคาด เมื่อมะนาวลูกนี้ไม่ได้มีดีแค่ความเปรี้ยวซ่าอย่างที่คิดและกว่าจะรู้ตัวว่า...ผิดแผน หัวใจก็ลิ้มรสหวานจนถอนตัวถอนใจไม่ขึ้นเสียแล้ว

    มนตราสีกุหลาบ
    สะมะเรีย
    www.mebmarket.com
    มนตราแห่งเพตรา ดลบันดาลให้หัวใจสองดวงผูกพัน ก่อเกิดเป็นความรักร้อนแรงจนแม้แต่แสงจากดวงอาทิตย์ก็มิอาจเทียบ หลังจากผิดหวังในความรัก ยี่สุ่น...หญิงสาววัยเบญจเพสจึงตัดสินใจเดินทางมายังจอร์แดนตามคำชักชวนของมารดา พร้อมความเชื่อมั่นว่าสักวันหนึ่งเธอจะได้พบรักแท้ และเมื่อเธอมาถึงนครเพตรา?นครศิลาสีชมพู เธอก็ได้พบรัฟฟาน หนุ่มจอร์แดนมาดเข้ม เธอหลงคิดว่าเขาเป็นไกด์พื้นเมืองจึงใช้งานเขาสารพัด รัฟฟาน... ตำรวจสากลผู้ได้รับมอบหมายให้มาสืบหาแหล่งผลิตยาเสพติดที่นครเพตรา ยินยอมเป็นไกด์ให้ยี่สุ่นเพราะต้องการปลอมตัวให้แนบเนียน ไม่เป็นที่สงสัยของคนร้าย แต่นักท่องเที่ยวสาวกลับทำให้เขาต้องคิดทบทวนว่าเขาคิดผิดหรือไม่ที่ยอมเป็นไกด์ให้เธอ เพราะเธอเปิ่นและบ้าดีเดือดชนิดไม่มีใครเหมือน ซ้ำยังทำให้หัวใจเขาหวั่นไหว ท่ามกลางทะเลทรายอันร้อนระอุ ความรักได้ก่อเกิดขึ้นจากความใกล้ชิด พร้อมกับอันตรายที่คืบคลานเข้ามาให้เขากับเธอร่วมกันฟันฝ่า เพื่อพิสูจน์ว่ารักแท้มีอยู่จริง +++++++++++++“ผมต้องทำยังไงคุณถึงจะเชื่อว่าผมไม่ได้ตั้งใจลวนลามคุณ ผมแค่เข้ามาปลุกคุณไปกินอาหารเย็น” รัฟฟานหัวเสียไม่น้อย นี่ล่ะเขาถึงไม่อยากมีแฟนเพราะรำคาญผู้หญิงที่ชอบพูดไม่รู้เรื่อง เอะอะก็โวยวายเอาไว้ก่อนไม่เคยฟังเหตุผลอะไรเลยสักอย่างเดียว“ฉันไม่เชื่อ”“ถ้าอย่างนั้นผมจะทำให้ดู”“คุณ...”รัฟฟานไม่เปิดโอกาสให้หญิงสาวโวยวายไปมากกว่านี้ เขาปิดปากอิ่มได้รูปด้วยริมฝีปากเรียวอย่างรวดเร็ว ยี่สุ่นพยายามโวยวายแต่กลับเป็นการเปิดเรียวปากให้ชายหนุ่มแทรกลิ้นร้อนเข้าไปตวัดเร้าควานหาความหอมหวานจากปากนุ่มสีกุหลาบ ยี่สุ่นสั่นไปหมดทั้งตัว หัวสมองหนักอึ้ง รู้สึกเหมือนกำลังจะขาดอากาศหายใจ แต่แล้วเขาก็เติมเต็มลมหายใจให้เธอพร้อมๆ กับฉกฉวยมันไป สลับไปมาจนเธอชาวาบจนถึงปลายเท้า แข้งขาอ่อนแรงจนแทบยืนไม่ติดพื้น เมื่อเขาบดจูบเร่าร้อนยาวนานจนเธอเผลอกอดตอบเขาและเผลอ...จูบตอบเขาอย่างไร้เดียงสารัฟฟานผละออกจากริมฝีปากอิ่มอย่างเสียดาย ยี่สุ่นทรุดฮวบลงไปกองที่พื้นอย่างไร้เรี่ยวแรง คิดหาคำพูดหรือคำด่าทอไกด์หนุ่มไม่ถูก นั่งบื้อใบ้หัวสมองมึนงงด้วยความสับสน“คราวนี้เชื่อหรือยังว่าผมมาปลุกคุณให้ตื่นไปรับประทานอาหารเย็น ไม่ได้ตั้งใจเข้ามาลวนลาม เพราะถ้าผมตั้งใจจะทำ...ผมจะทำแบบเมื่อครู่นี้ เอาละ...อีกสิบห้านาทีผมจะกลับเข้ามารับ อย่าช้าล่ะเพราะที่นี่จัดอาหารเย็นแบบบุฟเฟต์หากเกินเวลาไปมากกว่านี้อาจไม่เหลืออะไรให้คุณกิน” พูดจบเขาก็เดินออกไปทิ้งให้หญิงสาวนั่งหน้าแดงก่ำจูบแรกของฉัน...

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×