โซลาโน่นั่งมองสองสาวต่างวัยพูดคุยกันอย่างไม่รู้เบื่อ
จนกระทั่งพระอาทิตย์ซ่อนกายหนีหายไปตามยอดเขา
ทั้งสองจึงช่วยกันเก็บอัลบั้มรูปกองโตที่คุณย่าโรมีนาทยอยหอบออกมาให้หลานสาวดูเข้าตู้
“เผลอแป๊บเดียวเย็นเสียแล้ว
โซลาโน่ขับรถพาน้องไปหาอะไรทานสิลูก” ย่าโรมีนาเสนอ หลังจากที่นั่งพูดคุยกับหลานสาวจนอิ่มใจแล้ว
“ไปด้วยกันนะคะคุณย่า”
ยาบารีเกาะแขนเหี่ยวย่นของหญิงชราเอาไว้อย่างออดอ้อน
“ไม่ไหวหรอกย่าแก่แล้ว
เดี๋ยวย่าจะแวะไปบ้านเพื่อนอยู่ตรงกันข้ามนี่เอง
ไปช่วยกันทำอาหารพลางคุยกันไปตามประสาคนแก่” หญิงสูงวัยไม่เหงาเพราะละแวกบ้านนั้นมีแต่เพื่อนรุ่นราวคราวเดียวกัน
ซึ่งยังคงรวมตัวกันอย่างแน่นแฟ้น หากิจกรรมมาทำร่วมกันเพื่อคลายเหงาเสมอๆ
แม้ว่าแต่ละปีจะมีคนล้มหายตายจากไปบ้าง แต่นั่นก็ทำให้พวกนางเริ่มปลงกับชีวิตที่ไม่จีรังมากขึ้น
“ถ้าอย่างนั้นให้หนูไปด้วยนะคะ
หนูอยากทานอาหารกับคุณย่า” หญิงสาวเกาะแขนผู้เป็นย่าไว้แน่นไม่ยอมปล่อยโดยง่าย
ย่าโรมีนามองชายหนุ่มแว่บนึงก่อนจะหันมามองหลานสาวด้วยความเอ็นดู
“อย่าเลยเดี๋ยวหนูจะเบื่อเสียเปล่าๆ
ไปกับพี่เขาเถอะนะลูก จะได้ออกไปเปิดหูเปิดตา ดูอะไรใหม่ๆ ด้วย ย่าเชื่อว่าหนูจะต้องชอบอย่างแน่นอน”
เมื่อย่าโรมีนาพูดมาเช่นนี้หญิงสาวก็ไม่รบเร้า
เธอรับคำอย่างว่าง่าย ก่อนจะเดินไปส่งคุณย่าที่บ้านเพื่อนหลังตรงกันข้าม
แล้วจึงหันไปหาคนตัวโตที่เอาแต่นิ่งเงียบมาตลอด
“เราจะไปไหนกันดีคะคุณโซลาโน่”
“ผมมีร้านอาหารพื้นเมืองจะแนะนำ
คิดว่าคุณน่าจะชอบ”
ชายหนุ่มเสนอพลางจ้องมองใบหน้าคมหวานล้ำอย่างไม่รู้เบื่อ
ยาบารีเป็นผู้หญิงที่สวยแปลก ความสวยของเธอนั้นเหมือนรสชาติของช็อกโกแลต
มีความหวานนุ่มนวลอย่างอิสตรี แต่ก็มีความขมติดลิ้นที่ทำให้ยากจะลืมเลือน
“แล้วแต่เจ้าบ้านเลยค่ะ ฉันเป็นคนทานง่าย”
โซลาโน่ค้อมศีรษะลงเล็กน้อย
“ถ้าอย่างนั้นเราไปกันเลยดีกว่าครับ”
ชายหนุ่มประจักษ์แก่สายตาตัวเองตั้งแต่ครั้งแรกที่พบเธอแล้วว่า หญิงสาวเป็นคนกินง่าย
ดูอย่างตอนกินแฮมเบอร์เกอร์นั่นอย่างไรล่ะ
รับประทานง่ายและไวกว่าเขาซึ่งเป็นผู้ชายเสียอีก
อากาศเริ่มเย็นลงอย่างรวดเร็วแตกต่างจากตอนกลางวันจนแทบปรับตัวไม่ทัน
ยาบารีจึงหยิบผ้าคลุมไหล่ออกมาจากกระเป๋าถือ แล้วคลุมไหล่เพื่อเพิ่มความอบอุ่น
ทั้งสองเดินเข้าไปในร้านอาหารเล็กๆ ทว่ามีลูกค้าเข้าออกไม่ขาดสาย
“ฉันไม่รู้จะสั่งอะไร
คุณโซลาโน่มีเมนูอะไรแนะนำมั้ยคะ” เธอเท้าแขนทั้งสองลงบนโต๊ะ
ก่อนจะจ้องมองชายหนุ่มเบื้องหน้าเพื่อรอคำตอบ ชายหนุ่มไม่ได้หลบตา
แต่กลับผสานสายตากับเธอเนิ่นนาน ในที่สุดคนที่เป็นฝ่ายแพ้ก็คือยาบารี
เธอเบือนหน้าหนีเสียดื้อๆ เมื่อดวงตาคมของเขาทำให้เธอเขินอายได้อย่างน่าประหลาด
“กาวิชเชสองที่
แล้วก็เซบีเช เครื่องดื่มรับเป็นปิสโกซาวร์ ส่วนคุณผู้หญิงรับชีชาโมราดา” เมื่อสั่งเสร็จก็หันมายิ้มให้กับหญิงสาวที่กำลังมองเขาอยู่ก่อนแล้ว
ยาบารีตั้งหน้าตั้งตารออาหารที่โซลาโน่เป็นคนเลือกให้
“อาหารมาแล้วค่ะ” พนักงานเสิร์ฟวางอาหารจนครบก่อนจะถอยกลับไป
ทิ้งให้หนุ่มสาวนั่งอยู่ด้วยกันเพียงลำพัง
“ทานเลยนะคะ” เธอลองรับประทานกาวิชเช ซึ่งมองเผินๆ มันก็เหมือนปลาทอดดีๆ นี่เอง
รับประทานคู่กับหอมหัวใหญ่ที่ปรุงรสเปรี้ยวตัดด้วยความหวานมันของมันเทศ ทำให้รสชาติกลมกล่อมอย่างน่าประหลาด
เมื่อเห็นหญิงสาวรับประทานด้วยท่าทางเอร็ดอร่อย
หนุ่มเปรูจึงเอ่ยขึ้น “ผมเห็นว่าเป็นมื้อเย็นเลยสั่งปลามาให้ ไม่รู้ว่าคุณไดเอตอยู่หรือเปล่า”
คำอธิบายถึงการเลือกอาหารของชายหนุ่มทำให้ยาบารีเงยหน้าขึ้นมองชายหนุ่มอีกครั้งอย่างเต็มตา
ท่าทางภายนอกดูดิบเถื่อน แต่นั่นไม่สามารถชี้วัดคนคนหนึ่งได้เลย
เมื่อเขาช่างละเอียดอ่อนและใส่ใจคนรอบข้างจนดูเป็นคนอ่อนโยน ซึ่งดูขัดกับหน้าตาเขาเสียเหลือเกิน
“ฉันเป็นผู้หญิงชอบเล่นกีฬาค่ะ
เลยไม่ค่อยกังวลเรื่องความอ้วน”
ยาบารีสังเกตเห็นว่าโซลาโน่ลอบถอนหายใจ
จึงอดถามออกไปไม่ได้
“ทำไมหรือคะ”
“คุณแม่กับน้องสาวผมค่อนข้างซีเรียสเรื่องพวกนี้มาก”
“อืม...อย่างนี้นี่เอง” หญิงสาวลากเสียงยาว แล้วแอบนึกขัน
ผู้ชายตัวโตเป็นยักษ์ปักหลั่นเช่นนี้แต่มีแม่และน้องสาวที่ห่วงเรื่องความสวยความงาม
คงทำให้เขาอึดอัดน่าดู “ครอบครัวคุณโซลาโน่ดูน่าอบอุ่นจังนะคะ”
หญิงสาวยิ้มกริ่มมองชายหนุ่มอย่างใช้ความคิด
“เรียกว่าวุ่นวายเห็นจะถูกกว่าครับคุณยาบารี
คุณแม่ผมท่านเป็นราชินีประจำบ้าน คำสั่งคือประกาศิต
ส่วนน้องสาวตัวยุ่งจัดอยู่ในชนชั้นอภิสิทธิ์ มีสิทธิ์ขาดรองจากคุณแม่ของผม...”
ชายหนุ่มส่ายหน้าน้อยๆ เมื่อพูดถึงครอบครัวของเขา
“แล้วคุณกับคุณพ่อล่ะคะ
มีตำแหน่งอะไรในบ้าน หรือว่าเป็นแค่ประชาชนธรรมดาเท่านั้น”
หญิงสาวซักถามชายหนุ่มด้วยท่าทางสนใจ โซลาโน่ดูเป็นคนคุยสนุกกว่าที่คิดไว้
แม้เขาจะพูดน้อยแต่ทุกครั้งที่เขาพูดมักดึงดูดความสนใจจากเธอได้เสมอ
“ถ้าได้เป็นแบบนั้นคงดีน่ะสิครับคุณยาบารี
ผมกับคุณพ่อเราเป็นชนชั้นแรงงานครับ ไม่ต่างจากทาสสักเท่าไหร่”
| เสน่หาอินคา | เพียงฤทัย | www.mebmarket.com | ยาบารี ยาบารี ที่รักของข้า? เสียงเรียกอันแสนคุ้นเคยของใครบางคนที่ ยาบารี หญิงสาวลูกครึ่งไทย-เปรู ฝันถึงตั้งแต่ครั้งแรกที่เดินทางมายังเปรูดินแดนต้นกำเนิดอาณาจักรอินคาที่เธอหลงใหล เสียงปริศนาดังชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ ทั้งในยามหลับและยามตื่นราวกับกำลังเรียกเธอให้ไปหา... แล้วปาฏิหาริย์ก็ชักนำให้เธอหลงกาลเวลาไปยังอาณาจักรอินคา ดินแดนแห่งทองคำเมื่อสี่ร้อยกว่าปีก่อน ด้วยสร้อยพระอาทิตย์ของสำคัญที่บิดาทิ้งไว้ให้ก่อนจะเสียชีวิต ณ ที่แห่งนี้ เธอได้พบและผูกพันหัวใจไว้กับเจ้าชายทูปัก วีรา เจ้าชายหมอผู้สูงศักดิ์ ท่ามกลางสงครามและยุคสมัยแห่งการล่มสลายของอาณาจักรที่รุ่งเรือง หญิงสาวผู้มาจากอนาคตและเจ้าชายหนุ่มจะร่วมกันแก้ไขหน้าประวัติศาสตร์ได้หรือไม่ แล้วเธอจะหาทางกลับมายังปัจจุบันได้อย่างไร เมื่อยังมีสายสัมพันธ์รักอันยิ่งใหญ่กับชายสูงศักดิ์เกี่ยวกระหวัดให้หัวใจมิอาจลืมเลือน ***ปาฏิหาริย์ที่เกิดขึ้นจากหัวใจรัก นำพาให้คนทั้งสองได้พบเพื่อจาก และพรากเพื่อเจอ ตราบใดที่หัวใจทั้งสองดวงยังคงร้อยรัดด้วยสายใยแห่งรักและผูกพัน ปาฏิหาริย์จะชักพาหัวใจทั้งสองดวงให้กลับมาเคียงคู่กันในสักวัน | |
|
| ซากุระผลิที่กลางใจ | เพียงฤทัย | www.mebmarket.com | หลิวหลุดเข้าไปใน 'ยุคสมัยเฮอัน' ซึ่งย้อนอดีตไปถึงพันปีเหตุการณ์กลับตาลปัตรเมื่อเธอกลายเป็นคุณหนูของคฤหาสน์อาจิไซ บุตรีขององคมนตรีชั้นเอกผู้เป็นข้ารองบาทขององจักรพรรดิในขณะเรื่องราวผิดฝาผิดตัวสร้างความโกลาหลวุ่นวายหัวใจของหญิงสาวก็เบ่งบานไม่ต่างจากดอกซากุระ | |
|
| ดวงใจปฏิพัทธ์ | สะมะเรีย | www.mebmarket.com | เลือดต้องล้างด้วยเลือด จักต้องแผดเผาศัตรูให้พินาศย่อยยับแต่เหตุใดเล่า... เมื่อเห็นนางเจ็บ เขากลับเจ็บยิ่งกว่า! องครักษ์หนุ่มนัยน์ตาสีน้ำเงิน ผู้ที่เข้ามาทำให้โลกของเจ้าหญิงครีษมาสดใส นางหลงรักเขาอย่างหมดหัวใจ ทว่าการที่องครักษ์หนุ่มเข้ามาใกล้ชิดนางนั้นกลับเต็มไปด้วยเงื่อนงำ... เมื่อองครักษ์หนุ่มคืนสู่ศักดิ์อันแท้จริง เขาคือเจ้าชายภานรินทร์ที่หายสาบสูญ เขากลับมาอีกครั้งเพื่อขจัดความอยุติธรรม พร่าเกียรติและศักดิ์ศรีเจ้าหญิงผู้สง่างามให้พลิกผันเป็นเพียงนางบำเรอชั้นต่ำ!นาง...เจ็บเจียนตายแต่หัวใจกลับรักเขาเขา…แค้นฝังใจแต่มิอาจปล่อยมือจากนางบทสรุปความรักจะเป็นเช่นไร...รักฤาชัง | |
|
| มายามรณะ | รางนาก | www.mebmarket.com | ภาพหลอน! ความกลัว! ความตาย! และความสิ้นหวัง! ประดังเข้าสาดซัดนางเอกสาวดาวรุ่งราวกับห่าฝนในคืนเดือนมืด เมื่อมือที่มองไม่เห็นยื่นมากระชากชีวิตของหญิงสาวให้เปลี่ยนไปตลอดกาล... | |
|
| มะนาวซ่อนหวาน | สะมะเรีย | www.mebmarket.com | ใครๆ ต่างพากันตั้งฉายาให้ มะนาว ว่า...ไฮโซขาวีน และ ไฮโซมือตบแต่...อย่าได้แคร์สื่อ เธอยังคงสวย เริด เชิด หยิ่งจนกระทั่งผู้เป็นบิดาต้องงัดไม้เด็ดมาปราบลูกสาวหัวดื้อทางด้าน เตชธรรม ถึงกับกุมขมับเมื่อได้รับมอบหมายให้ดัดนิสัยยายตัวร้ายที่เขาให้คำจัดความว่าตั้งแต่แรกเห็นว่า‘ชอบเที่ยวกลางคืน ยั่วยวนผู้ชาย ไม่รู้จักรักนวลสงวนตัว’ชายหนุ่มจึงงัดสารพัดวิธีที่มั่นใจว่าได้ผลร้อยเปอร์เซ็นต์ออกมาจัดการทว่า...ผิดคาด เมื่อมะนาวลูกนี้ไม่ได้มีดีแค่ความเปรี้ยวซ่าอย่างที่คิดและกว่าจะรู้ตัวว่า...ผิดแผน หัวใจก็ลิ้มรสหวานจนถอนตัวถอนใจไม่ขึ้นเสียแล้ว | |
|
| มนตราสีกุหลาบ | สะมะเรีย | www.mebmarket.com | มนตราแห่งเพตรา ดลบันดาลให้หัวใจสองดวงผูกพัน ก่อเกิดเป็นความรักร้อนแรงจนแม้แต่แสงจากดวงอาทิตย์ก็มิอาจเทียบ หลังจากผิดหวังในความรัก ยี่สุ่น...หญิงสาววัยเบญจเพสจึงตัดสินใจเดินทางมายังจอร์แดนตามคำชักชวนของมารดา พร้อมความเชื่อมั่นว่าสักวันหนึ่งเธอจะได้พบรักแท้ และเมื่อเธอมาถึงนครเพตรา?นครศิลาสีชมพู เธอก็ได้พบรัฟฟาน หนุ่มจอร์แดนมาดเข้ม เธอหลงคิดว่าเขาเป็นไกด์พื้นเมืองจึงใช้งานเขาสารพัด รัฟฟาน... ตำรวจสากลผู้ได้รับมอบหมายให้มาสืบหาแหล่งผลิตยาเสพติดที่นครเพตรา ยินยอมเป็นไกด์ให้ยี่สุ่นเพราะต้องการปลอมตัวให้แนบเนียน ไม่เป็นที่สงสัยของคนร้าย แต่นักท่องเที่ยวสาวกลับทำให้เขาต้องคิดทบทวนว่าเขาคิดผิดหรือไม่ที่ยอมเป็นไกด์ให้เธอ เพราะเธอเปิ่นและบ้าดีเดือดชนิดไม่มีใครเหมือน ซ้ำยังทำให้หัวใจเขาหวั่นไหว ท่ามกลางทะเลทรายอันร้อนระอุ ความรักได้ก่อเกิดขึ้นจากความใกล้ชิด พร้อมกับอันตรายที่คืบคลานเข้ามาให้เขากับเธอร่วมกันฟันฝ่า เพื่อพิสูจน์ว่ารักแท้มีอยู่จริง +++++++++++++“ผมต้องทำยังไงคุณถึงจะเชื่อว่าผมไม่ได้ตั้งใจลวนลามคุณ ผมแค่เข้ามาปลุกคุณไปกินอาหารเย็น” รัฟฟานหัวเสียไม่น้อย นี่ล่ะเขาถึงไม่อยากมีแฟนเพราะรำคาญผู้หญิงที่ชอบพูดไม่รู้เรื่อง เอะอะก็โวยวายเอาไว้ก่อนไม่เคยฟังเหตุผลอะไรเลยสักอย่างเดียว“ฉันไม่เชื่อ”“ถ้าอย่างนั้นผมจะทำให้ดู”“คุณ...”รัฟฟานไม่เปิดโอกาสให้หญิงสาวโวยวายไปมากกว่านี้ เขาปิดปากอิ่มได้รูปด้วยริมฝีปากเรียวอย่างรวดเร็ว ยี่สุ่นพยายามโวยวายแต่กลับเป็นการเปิดเรียวปากให้ชายหนุ่มแทรกลิ้นร้อนเข้าไปตวัดเร้าควานหาความหอมหวานจากปากนุ่มสีกุหลาบ ยี่สุ่นสั่นไปหมดทั้งตัว หัวสมองหนักอึ้ง รู้สึกเหมือนกำลังจะขาดอากาศหายใจ แต่แล้วเขาก็เติมเต็มลมหายใจให้เธอพร้อมๆ กับฉกฉวยมันไป สลับไปมาจนเธอชาวาบจนถึงปลายเท้า แข้งขาอ่อนแรงจนแทบยืนไม่ติดพื้น เมื่อเขาบดจูบเร่าร้อนยาวนานจนเธอเผลอกอดตอบเขาและเผลอ...จูบตอบเขาอย่างไร้เดียงสารัฟฟานผละออกจากริมฝีปากอิ่มอย่างเสียดาย ยี่สุ่นทรุดฮวบลงไปกองที่พื้นอย่างไร้เรี่ยวแรง คิดหาคำพูดหรือคำด่าทอไกด์หนุ่มไม่ถูก นั่งบื้อใบ้หัวสมองมึนงงด้วยความสับสน“คราวนี้เชื่อหรือยังว่าผมมาปลุกคุณให้ตื่นไปรับประทานอาหารเย็น ไม่ได้ตั้งใจเข้ามาลวนลาม เพราะถ้าผมตั้งใจจะทำ...ผมจะทำแบบเมื่อครู่นี้ เอาละ...อีกสิบห้านาทีผมจะกลับเข้ามารับ อย่าช้าล่ะเพราะที่นี่จัดอาหารเย็นแบบบุฟเฟต์หากเกินเวลาไปมากกว่านี้อาจไม่เหลืออะไรให้คุณกิน” พูดจบเขาก็เดินออกไปทิ้งให้หญิงสาวนั่งหน้าแดงก่ำจูบแรกของฉัน... | |
|
ความคิดเห็น