คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : ชานฟานทูเอเอ็ม - you are my playground
너의 마음 속에서 어릴 적 잃어버린 그 꿈을 찾을까
นอเอ มาอึม ซกเกซอ ออริน จอก อิลรอบอริน คือ กุมมึล ชาจึลกา
ผมจะตามหาความฝันวัยเด็กของผมที่หายไปจากหัวใจของคุณ
You are my playground playground playground
내 환상 속에서 보았던 더 좋았던 사랑을 찾아
แน ฮวานซาง ซกเกซอ โบอาซตอน ทอ โชวาซตอน ซารางงึล ชาจา
ผมตามหาความรักอย่างที่เคยเห็นในเทพนิยาย
You are my playground
2.30 am
“อี้ฟานนนนนนน” เสียงทุ้มต่ำของชานยอลลอยมาแต่ไกลก่อนที่ตัวของเขาจะมาถึงเสียอีก
“...” เมื่อผมมองเห็นรอยยิ้มของชานยอลก็หวนกลับไปคิดเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อเช้าทันที รอยยิ้มที่ชานยอลมอบให้กับแบคฮยอน
“เอ่อ...อี้ฟานครับ” ชานยอลแบกกองหนังสือที่ผมเห็นแวบๆว่าเป็นวิชาภาษาจีนมาด้วยท่าทางจะหนักเอาการ
“ทำไมไม่หลับไม่นอน นี่มันตีสองแล้วนะ” ชานยอลบู่ปากเล็กน้อย
“ผมกลับไปนอนตั้งแต่เลิกเรียนเพิ่งตื่นมาทำการบ้านนี่เอง แล้วจะไปโรงเรียน เห็นมั้ยผมแต่งตัวเรียบร้อยเลย” ถึงแม้ชานยอลจะสวมฮู้ดแต่ก็ดูออกอยู่ดีว่าเขาใส่ชุดนักเรียนเรียบร้อยแล้ว เพราะอากาศหนาวเขาจึงไม่จำเป็นต้องถอดเสื้อสูทของชุดนักเรียนออก
“อี้ฟาน...”
“หืม?” ผมขานรับในลำคอเบาๆขณะกำลังชงชาเขียวให้ชานยอลหลังจากที่ถามเขาว่าเอาแบบเดิมหรือเปล่า
“ผมมีเรื่องรบกวนแบบม้ากมากเลย” ผมเลิกคิ้วเป็นคำถามว่าเราเรื่องอะไรที่จะให้ผมช่วย หนังสือภาษาจีนเล่มหนึ่งถูกยื่นเข้ามาในกรอบสายตาของผม
“ผมต้องเขียนเรียงความเรื่อง ความหมายของความรัก เป็นภาษาจีนแต่ผมพยายามด้วยตัวเองแล้วแต่มันไม่มีท่าทีว่าจะสำเร็จเลย อี้ฟานช่วยผมหน่อยเถอะนะครับ” ชานยอลส่งสายตาอ้อนวอนมาให้ผม จนผมใจอ่อนพยักหน้ารับไป
“เดี๋ยวจะตามไป เดินไปหาที่นั่งก่อนเลย” ชานยอลยิ้มกว้างตะเบ๊ะมือใส่ผมก่อนจะวิ่งหายไปที่โซนที่นั่ง
ผมเดินเข้าไปหลังร้านเพื่อหยิบไม้ถูพื้นที่เซฮุนกำลังจะเอาออกไปเช็ดด้านนอก
“เดี๋ยวเฮียเอาไปเช็ดให้ก็ได้ จะแวะไปคุยกับลูกค้าซะหน่อย” เซฮุนแทบจะเข้ามากระโดดกอดผมแต่ผมไหวตัวทัน ผมมองหาชานยอลพร้อมๆกับลากผ้าถูพื้นไปด้วย
ชานยอลนั่งอยู่ตรงโซฟาที่มีโต๊ะติดกับกระจก ท่าทางเคร่งเครียดก้มหน้าก้มตาเขียนอย่างเดียว
“ชานยอล” ชานยอลเงยหน้าขึ้นส่งรอยยิ้มให้ผม หน้าหล่อวิ้งค์แบบที่เจอกันครั้งแรกก็ยังหล่อเหมือนเดิมในความคิดผม ชานยอลเป็นผู้ชายที่น่ารัก ขนาดผู้ชายเหมือนกันอย่างผมยังว่าเขาหล่อเลย ไม่แปลกใจถ้าสาวๆจะหลงใหลได้ปลื้มเขารวมถึงผู้ชายด้วย
“เยส อี้ฟานมาแล้ว ผมเรียนเป็นเกาหลีไว้แล้วแต่ไม่สามารถเขียนเป็นจีนได้ได้จริงๆ ผมต้องตายแน่ถ้าทำไม่เสร็จ” ทั้งปากกาสี ไฮไลท์ ดินสอ กระดาษ ดิกจีน กระจายไปทั่วโต๊ะ
ผมนิ่งไปนิดหน่อยเพราะดูเหมือนชานยอลจะเขียนจีนไม่ได้ดังนั้นผมจึงไม่สามารถบอกให้เขาเขียนได้ แต่ผมก็ต้องถูพื้นเหมือนกันถ้าทำไม่เสร็จเดี๋ยวเซฮุนจะโดนด่าเอา
“อ๊ะ” ผมตกใจเล็กน้อยเพราะมัวแต่คิดจนไม่ได้มองว่าชานยอลยื่นฝ่ามือใหญ่ๆของเขามากำรอบไม้ถูพื้นไว้เรียบร้อยแล้ว
“เดี๋ยวผมถูให้แทน วางใจได้ สะอาดเหมือนใหม่”
“เอางั้นหรอ” ผมถามเขาให้แน่ใจ ชานยอลส่งยิ้มกว้างแล้วก็ชูนิ้วโป้งให้ผมก่อนที่เขาจะเริ่มถูพื้น
ผมหย่อนตัวลงนั่งที่เก้าอี้ก่อนจะเริ่มอ่านเรียงความของเขาที่เขียนเป็นภาษาเกาหลี ว่าด้วยเรื่องความหมายของความรัก ชานยอลบอกว่าความรักเป็นสิ่งที่ไม่สามารถมองเห็นได้และเป็นเรื่องยากที่จะเข้าใจแต่มนุษย์ก็แปลกที่มองไม่เห็นมันแต่ก็รู้ได้ว่าคือความรัก ครอบครัวคือความรักของเขาในความคิดชานยอลนอกจากนั้น ถ้าความรักคือการห่วงใย การอยากดูแลเอาใจใส่ การขาดไม่ได้ เขาก็คงกำลังมีความรัก
“หืม?” ผมชะงักไปกับคำว่ากำลังมีความรักของชานยอล แบคฮยอนเป็นผู้ที่โชคดีจริงๆ ชานยอลเป็นคนที่น่ารักและน่าอยู่ด้วยเท่าที่ผมดูมาเพื่อนฝูงก็ห้อมล้อม ถ้าเขาจะมอบความรักให้ใครสักคนเขาจะมอบให้จนหมดใจแน่
ทำไมผมกลายเป็นคนขี้อิจฉาแบบนี้
ไม่ดีเลยแฮะ
7.00 am
ผมรีบวิ่งเอาดอกไม้มาวางเมื่อมองผ่านกระจกนอกร้านที่เมื่อกี้ผมเพิ่งเดินออกไปเอาดอกไม้แล้วเห็นชานยอลยังนอนเหยียดขาคากองการบ้านของเขา
“ชานยอล...ชานยอล ตื่นได้แล้วไม่ไปโรงเรียนหรือไง” ผมเขย่าตัวชานยอลที่ใส่หมวกฮู้ดแล้วนอนยาวอยู่ที่โซฟา ชานยอลขยับลุกขึ้นตาปรือผมเผ้ายุ่งเหยิง ผมค่อยๆยื่นมือออกมาสัมผัสผมของชานยอลมันนุ่มมือมากผมสอดมือเข้าไปในเส้นผมเพื่อจัดให้มันเข้าทรง
เมื่อผมเลื่อนสายตาออกมาก็ต้องชะงักลง ดวงตากลมโตของชานยอลส่องวิบวับ ริมฝีปากยิ้ม แต่แก้มกับหูแดงเรื่อ รู้ตัวอีกทีมือของผมก็ถูกกุมเอาไว้โดยปาร์คชานยอลเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
“กลิ่นเหมือนดอกไม้เลย หอมจัง”
ผมรู้สึกวาบไปหมด ร่างผมแข็งทื่อจนเหมือนกลายเป็นน้ำแข็ง ชานยอลยกมือของผมข้างที่อยู่ในมือของเขายกขึ้นมาจรดจมูกโด่งๆ เพราะผมเพิ่งไปรับดอกไม้มาแล้วก็รีบมาปลุกชานยอลทั้งที่ยังไม่ได้ล้างมือกลิ่นดอกไม้จึงติดมาด้วย
“เอ่อ...เพิ่งไปรับดอกไม้จากหน้าร้านมาหน่ะ” ชานยอลพยักหน้าเข้าใจ
“แต่กลิ่นปกติของอี้ฟาน หอมกว่าดอกไม้เป็นร้อยเท่าเลย” ความร้อนแล่นไปทั่วหน้าของผม
อากาศร้อนนะ คิดว่างั้นมั้ย
6.00pm
Real_pcy
อี้ฟานนนนนนนนน
Real_pcy
ออกไปกินข้าวกันมั้ย
ผมมองโทรศัพท์มือถือที่แจ้งเตือนว่ามีแชทเข้าโดยชานยอล ผมปิดเตาแก็สที่กำลังรอให้น้ำมันเดือดเพื่อผัดข้าวผัด ตัดสินใจล้มเลิกโครงการข้าวผัดประทังชีวิต หลังจากที่เขาชมว่ากลิ่นผมหอมยิ่งกว่าดอกไม้ก็เล่นเอาผมแทบจะล้มทั้งยืน แต่ดีที่จื่อเทาเรียกไปจัดดอกไม้ซะก่อน ส่วนชานยอลก็ต้องไปโรงเรียน ผมก็เลยรอดพ้นวิกฤตมาได้
Galaxy_fanfan
อืม ไปสิ่
ขึ้นว่าชานยอลอ่านได้ไม่กี่วินาที ก็มีข้อความส่งกลับมาแทบจะในทันที
Real_pcy
กินไส้ย่างกันมั้ย อี้ฟานชอบไม่ใช่หรอ
ผมเก็บเนื้อหมูกับผักเข้าตู้เหมือนเดิม ชานยอลจำได้ด้วยว่าผมชอบกินไส้ย่าง ผมยิ้มออกมาเมื่อนึกถึงตอนที่ไปกินไส้ย่างกับชานยอลครั้งแรก ตลกดี
Galaxy_fanfan
โอเค งั้นชานยอลไปถึงแล้วเข้าไปรอในร้านเลยก็ได้นะ
Real_pcy
ครับผม
[ park chanyeol’s side]
“อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก”
ตุ้บ!
ปั๊ก!
“โอ้ยยยยยย ฮ่าๆๆๆๆๆ” ผมกลิ้งตกเตียงก็ยังรู้สึกมีความสุขอยู่ โว้ยยยยยยมีความสุขขขขข
“ชานยอล อย่าส่งเสียงดังได้มั้ย” เสียงยูราพี่สาวผมดังขึ้นมาจากชั้นล่างทำให้ผมเงียบเสียงลงแต่หยุดดีดดิ้นไม่ได้ อี้ฟานตอบแชทผมแบบเร็วมากแล้วยังตกลงว่าจะไปกินข้าวเย็นด้วย โอ้ยยยยยยย มันใช่ๆ
เมื่อผมนึกขึ้นได้ก็วิ่งลงมาชั้นล่างเพื่ออกไปตามนัดทันที ผมไม่อยากอี้ฟานต้องรอนานแล้วอีกอย่างผมก็อยากเจอเขาเร็วๆแล้วอยู่ด้วยกันนานๆด้วย
“ยูรา วันนี้ชานยอลไม่กินข้าวด้วยนะ” ยูราส่งเสียงขานรับทั้งที่หน้ายังมีมาร์กติดอยู่
ผมหยิบผ้าพันคอที่ห้อยอยู่ที่ไม้แขวนข้างประตูขึ้นมาพันพร้อมกับใส่รองเท้าแล้วสตาร์ทตัวออกวิ่งทันที เวลาไม่รอใคร อี้ฟานก็อาจจะไม่รอผมเหมือนกันถ้าผมไปช้า
ผมหอบฮักๆเมื่อมองเห็นร้านลิบๆมันไม่ไกลจากบ้านผมเลยก็เลยวิ่งมาแทนถ้ารอรถเมล์อาจจะช้ากว่านี้ ผมยืนพิงกำแพงร้านเพื่อบรรเทาอาการเหนื่อย
“เฮ้ ชานยอล” เสียงนุ่มทุ้มๆที่ผมชอบดังใกล้หู ผมรู้ได้ทันทีว่าคืออี้ฟาน
ตึกตักๆ
ผมหัวใจเต้นแรงเมื่อได้กลิ่นและอยู่ใกล้อี้ฟาน ใบหน้าเรียวใส จมูก ปาก ดวงตา คิ้ว ทำให้ผมสั่นไปหมดยิ่งในระยะประชิดแบบนี้ ผมไม่รู้ว่ามันคือการตกหลุมรักหรือเปล่า ผมแค่อยากอยู่ใกล้อี้ฟานมากกว่านี้ มากกว่านี้อีก
“เขาไปกันเลยมั้ย” ผมพยักหน้าให้อี้ฟาน เดินนำไปในร้านเลือกที่นั่งแบบเป็นส่วนตัวสุดๆ จัดการสั่งอาหารไปเรียบร้อย
“...” อี้ฟานมองหน้าผมอย่างงงๆเมื่อผมฉวยหยิบกระป่องน้ำอัดลมที่เขากำลังจะเปิดมาอยู่ในมือ ผมหบิยกระดาษทิชชู่มาเช็ดรอบปากกระป๋อง มันอาจจะสกปรกก็ได้ใครจะไปรู้
“เอ่อ...ขอบใจนะ” อี้ฟานรับกระป๋องจากมือผมไปแล้วเปิดดื่ม ผมแค่ยิ้มยิงฟันไปให้เขา
“อี้ฟาน ขอบคุณมากนะ เรียงความผมได้คะแนนเต็มเลยมันเจ๋งสุดๆ” อี้ฟานยิ้มโชว์ฟันขาวเรียงเป็นระเบียบเรียบร้อย เล่นเอาผมใจเต้นไม่เป็นส่ำเลย ดวงตาของเขาฉายแววอ่อนโยนที่ผมเพิ่งเคยเห็นเป็นครั้งแรก
“ไม่เป็นไรหรอก ก็ไม่ได้ลำบากอะไรเรื่องง่ายๆ ได้ทำอะไรให้ชานยอลบ้างก็ดีนะ” ผมต้องบ้าไปแล้วแน่ๆแค่ได้ยินเขาออกเสียงเรียกชื่อของผม ผมก็รู้สึกอยากตะโกนดังๆระบายความเขิน
บทสนทนาเรายุติลงเมื่อไส้ที่พร้อมลงไปอยู่ในเตาของเรามาเสิร์ฟโดยพนักงานของร้าน ผมรับหน้าที่ย่างให้อี้ฟานอย่างสมบูรณ์ถึงเขาจะดูขัดใจนิดหน่อยแต่ก็ยอมให้ผมเป็นคนย่างให้
“เอ้า สุกแล้วครับ” ผมคีบไส้ย่างสุกๆที่ถูกกรรไกรตัดเป็นชิ้นๆขึ้นมาอี้ฟานแต่แทนที่อี้ฟานจะหยิบจานของเขาขึ้นมากลับหยิบจานของผมมารองไส้ย่างแทน
“ชานยอลก็กินบ้างสิ่ ผมปิ้งเองได้ ผมออกจะมากินบ่อยเรื่องแค่นี้ แทบจะเซียน” ผมหัวเราะเบาๆกับคำพูดของอี้ฟาน ผมยอมรับไส้จากเขาเราสองคนกินอิ่มจนพุงแทบกาง
“เดี๋ยวไปส่งกับบ้านก็ได้” อี้ฟานเอ่ยทำให้ผมชะงัก สะ...ส่งบ้าน
“เอ่อ...อี้ฟานจะไปส่งผมหรอ” ใบหน้าหล่อเหลาของเขาพยักหน้ารับ ผมก็เลยหมุนตัวเดินนำไป ผมบอกอี้ฟานตอนที่รอพนักงานมาคิดเงินว่าบ้านผมเดินไปแปปเดียวก็ถึงแล้ว
“หนาวเหมือนกันแฮะ” ผมเมื่อเห็นอี้ฟานหนาวก็เลยถอดผ้าพันคอให้ มือของผมส่งไปโอบไหล่อี้ฟานเบาๆ ผมไม่ได้หนาวแต่มือสั่นเพราะอาการเขินแล้วก็ประหม่า บางทีเขาอาจจะปัดมือของผมทิ้งก็เป็นได้นะ แต่...
“อุ่นดี”
อ๊ากกกกกกกก
เขินโว๊ยยยยยยยยยย
[ park chanyeol’s side end]
_____________________________________
ห้าสิบเปอร์ก่อนเด้ออออ
เนื้อเรื่องไม่รู้ว่าดำเนินเร็วไปหรือเปล่า
หรืออาจจะขัดๆไม่ต่อเนื่อง
ต้องขอโทษมากๆเย เพราะแต่งสดทุดครั้ง
มันก็ออกมาได้ประมาณเท่านี้จริงๆ
ขอบคุณที่ติดตามกันมาตลอดนะคะ เข้าตอนที่แปดแล้ว
-3-
100เปอร์แล้วค่าาาาาาาาา
ขอบคุณทุกคอมเมนต์ค่ะ
อย่าลืมไปพูดคุยกันได้ใน แท็ก #ฟิคตีสอง ใน
ทวิตนะคะ
ความคิดเห็น